ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [FIC:YG WIN] WIN IN HOGWARTS (JunHyuk,BJIN)

    ลำดับตอนที่ #18 : - ตอนที่ 17 - ต้องเปลี่ยนแล้วนะ

    • อัปเดตล่าสุด 2 ม.ค. 59


    หลังจากที่รอแบมแบมไปล้างหน้าเสร็จ พวกเราต่างก็เคลื่อนย้ายตัวเองออกจากหอเพื่อไปทานอาหารเย็นที่ห้องโถงใหญ่

    ในขณะที่ผมกำลังมองหาที่นั่ง สายตาก็คอยสอดส่องหาตัวเล็ก ไอ้บ๊อบบี้และน่าจะมียุนฮยองด้วยที่หายไปติวหนังสือที่ไหนกันก็ไม่รู้ จนได้เวลาอาหารเย็นแล้วก็ยังไม่มากันเลย

     

    แบมแบมพาผมมานั่งที่โต๊ะประจำบ้านกริฟฟินดอร์ก่อนจะจัดแจงหยิบส้อมและมีดมาจัดวางให้ผมและของตัวเอง พร้อมกับส่งยิ้มมาให้อย่างร่าเริง

    ร่าเริงอะไรกันล่ะ ทำเป็นร่าเริงต่างหาก เมื่อกี้เพิ่งร้องไห้มาหยกๆ ดูออกน่าว่าฝืนน่ะ..

    แต่ผมก็ไม่อยากจะพูดะไรออกไป ก็เจ้าตัวอุตส่าห์พยายามยิ้มออกมาเพราะไม่อยากให้ใครเป็นห่วงขนาดนี้ ผมก็ไม่กล้าพูดอะไรหรอกครับ เดี๋ยวจะมีโฮอีกรอบ..

     

    “อ้าว นั่น พวกพี่บ๊อบบี้มาแล้ว” ผมรีบหันขวับไปดูที่ประตูบานใหญ่สีน้ำตาลซึ่งเป็นทางเข้าห้องห้องโถงนี้ ก็พบกับบ๊อบบี้ที่เดินนำหน้ามาพร้อมกับยุนฮยอง แต่หน้าตาดูไม่ค่อยร่าเริงเท่าไหร่นัก ออกจะดูลำบากใจด้วยซ้ำ แล้วยิ่งมันเงยหน้าขึ้นมาเจอผม.. ไม่รู้ว่ารู้สึกไปเองรึเปล่านะครับว่ามันแอบหน้ากระตุกไปแว้บนึง นั่นทำให้ยุนฮยองที่เดินมาข้างๆทำหน้าตาสงสัยและปนลำบากใจไปด้วย

    ในขณะที่บ๊อบบี้เดินเลยไปส่งยุนฮยองที่โต๊ะของบ้านฮัฟเฟิลพัฟ นั่นทำให้ผมเห็นคนตัวเล็กคนหนึ่ง คนนั้นก็คือจินฮวานนั่นแหละที่เดินตามหลังบ๊อบบี้มา

     

    และมาพร้อมกับใครอีกคน =_= คนที่ผมโคตรเหม็นหน้าเลย ให้ตายเถอะ ไอ้พี่มาร์คพระโขนง!!

     

     

    จินฮวานและพี่มาร์คเดินตรงมาที่โต๊ะของบ้านกริฟฟินดอร์ซึ่งก็คือโต๊ะประจำบ้านของพวกผมนี่แหละและแน่นอนว่าเพื่อมาส่งจินฮวาน

     

    เมื่อตัวเล็กสังเกตเห็นผมที่นั่งอยู่กับแบมแบมจึงสะกิดพี่มาร์ค แล้วทั้งสองก็โบกมือลากัน โดยที่ก่อนไอ้พี่มาร์คจะเดินไปนั่งที่โต๊ะของบ้านมัน มันก็ไม่วายยกมือขึ้นมายีหัวจินฮวานเบาๆก่อนจะส่งยิ้มหล่อๆนั่นมาทางผม ชิ!!!

     

    “พี่ฮันบินใจเย็น ส้อมงอแล้วพี่!!!” แบมแบมทำตาเหลือกพร้อมกับสะกิดไหล่ผมรัวๆเพื่อเรียกสติ

    ผมคลายมือออก มองมือของตัวเองที่เผลองอส้อมไปตั้งแต่เมื่อไหร่ก้ไม่รู้ โดยที่ผมไม่รู้สึกตัวสักนิด แต่ก็นึกขอบคุณตัวเองที่ไม่วิ่งเข้าใส่จินฮวานแล้วลากไปไหนมาไหน แค่นึกว่าที่ผ่านมาตัวเองทำข้อมือของคนตัวเล็กช้ำไปกี่รอบต่อกี่รอบก็รู้สึกอยากเอาส้อมที่งอนี้ทิ่มมือตัวเองให้เป็นรูให้รู้แล้วรู้รอดไปซะเลย

    เฮ้อผมถอนหายใจออกมา พร้อมกับที่จินฮวานหย่อนก้นลงนั่งที่เก้าอี้ตรงข้ามผมกับแบมแบม

    “แค่เห็นหน้าฉันนี่ถึงกับต้องถอนหายใจเลยเหรอ”

    “ก็เออสิ” ผมตอบไปนั่นทำให้คนตัวเล็กตรงหน้าลอบถอนหายใจเบาๆแล้วก้มหน้าก้มตาจัดแจงกับอุปกรณ์การรับประทานอาหารของตัวเอง 

     

    แม่งเอ้ย เห็นแล้วอยากตบปากตัวเองชะมัด ทำอะไรไม่คิดอีกแล้วนะคิมฮันบิน..

     

    บริเวณที่พวกเรานั่งตกอยู่ในบรรยากาศสุดมาคุ ที่โคตรจะเงียบและมืดมน จนกระทั่งเพื่อนฟันเหยินของผมเดินเข้ามา สีหน้าเมื่อตอนเห็นผมไม่ต่างจากเดิมเท่าไหร่ ออกจะดูแย่กว่าเดิมด้วยซ้ำเมื่อเดินมาหาผมแล้วพบกับบรรยากาศแบบนี้

    เฮ้ยไอ้ฮันบิน มาด้วยกันหน่อย มีเรื่องร้ายแรงจะคุยด้วยว่ะ” 

    “มีอะไรร้ายแรงวะ?”

    “เออนั่นสิ มีอะไรร้ายแรงรึเปล่าคิมบับ” ตัวเล็กเงยหน้าขึ้นมาทำหน้าสงสัยและเป็นกังวลหลังจากที่ก้มหน้างุดอยู่กับจารข้าวของตัวเองอยู่สักพัก

    “เอ่อ... ”ไอ้เหยินหันไปมองหน้าจินฮวานสลับกับมองหน้าผมอย่างลุกลี้ลุกลน

    “มึงมาเถอะ มาหน่อย”

    “เออๆ ไปๆ”  ผมลุกขึ้นตามแรงดึงจากเพื่อนฟันเหยินแล้วเดินตามมันออกไปนอกห้องโถง

    “คืองี้เว้ยฮันบิน พี่มาร์คกับไอ้ตัวเล็กของมึงอ่ะ..”

    “... ทำไม ? เป็นแฟนกันแล้วเหรอวะ!?

    “เดี่ยวๆๆ มึงใจเย็นๆก่อน ยังไม่ถึงขั้นเป็นแฟนเว้ย คือเขากำลังคุยกันอยู่ แบบศึกษาดูใจกัน”

    “....”

     

    ผมยืนค้างนิ่งหลังจากที่ได้ฟัง.. รู้สึกไม่ต่างอะไรจากตอนที่เห็นตัวเล็กโดนไอ้หล่อนั่นลูบหัว

    “แล้วมึงจะเอาไงต่อวะเพื่อน”

    “... กูควรทำไงวะ มันแปลว่าตัวเล็กชอบไอ้พี่มาร์คนั่นงี้ดิ? แม่งเอ้ย ”

    “... ไม่รู้วะ แต่ดูแล้วก็ไม่ใช่ไม่ชอบมั้ง.. ไม่งั้นคงไม่ตกลงคุยหรอก”

    “... แล้วกูอะเหยิน มันจะรู้สึกกับกูแบบไม่ใช่ว่าไม่ชอบด้วยมั้ยวะ”

     

    อ้าวพี่ คุยไรกันเสียงที่ผมคุ้นเคยดีดังมาจากด้านหลังไม่ใกล้ไม่ไกลนัก จุนฮเวเดินตรงมาพร้อมกับทำหน้าง่วงๆที่ดูเหมือนจะโดนเพื่อนมันปลุกให้มากินข้าวเย็น

    “พี่มึงงะ อกหักแล้วไอ้เน่”

    “อย่าเรียกเน่เหมือนไอ้เตี้ยดงดิวะพี่ ว่าแต่อกหักจากใครอ่ะ.. หรือว่า...”

    “จากพี่ชายดงงี่ของแกนั่นแหละ”

    “เช้ด ว่าแล้ว” ไอ้เด็กฮเวว่าพลางทำหน้าไม่แปลกใจนัก... ใช่สิ ใครๆก็ดูออก ยกเว้นเจ้าตัวนั่นแหละที่ยังโง่อยู่ =_=

    “เด็กมึงงะ ทำฉันเสียแต้มไปเป็นล้านแล้วมั้ง เฮ้อ” ผมหันไปมองจุนฮเวพร้อมกับถอนหายใจออกมา

    “อ้าว เด็กผมทำไร เดี๋ยวจัดการให้ป่ะ”

    “เออ จัดการเลย เอ๊ะเดี๋ยว สรุปว่าดงงี่เป็นเด็กแกเรอะ?”

    “ว่าแต่มันทำอะไรพี่อ่ะ” ดูเหมือนน้องชายผมจะเบลอคำถามหลังไปนะครับ .. แหม่ เออไว้ก่อนก็ได้ ตอนนี้หัวใจผมก็สำคัญ..

    “เออนั่นสิมันทำอะไร”

    “คืองี้..”

    ผมเล่าเรื่องทุกอย่างทั้งเรื่องของผมที่ผม(ยอบรับสักทีว่า)ชอบจินฮวาน เรื่องของแบมแบมกับไอ้พี่มาร์ค เรื่องที่ดงฮยอกเข้าใจพวกผมผิดมาตลอด แล้วก็เรื่องที่ไอ้พี่มาร์กมันได้มีโอกาสศึกษาดูใจกับตัวเล็กด้วย !!

    นี่กูก็เพิ่งรู้ว่าน้องแบมมันชอบพี่มาร์ค..บ๊อบบี้ทำหน้าอึ้งๆ

    “โห่ ไรเนี่ย พี่ฮันบินไม่ต้องห่วงนะ ดงฮยอกอ่ะเดี๋ยวผมจัดการให้ คันไม้คันมืออยู่พอดี... หึ”จุนฮเวบอกพลางยิ้มมุมปากน้อยๆ หน้าตาดูเหมือนว่าจะคิดแผนอะไร(ชั่วๆ)ออก

    แต่จะว่าไป ช่วงนี้กูคงติดยุนฮยองมากไปว่ะ ไม่ค่อยมีเวลาให้มึงเลย ขอโทษด้วยนะเว้ย.. ไม่งั้นอาจจะมีอะไรที่ดีกว่านี้เกิดขึ้น... รึเปล่า

    เออๆ ไม่ต้องมาทำหน้าหงอย มันเกิดขึ้นไปแล้ว... เอาเป็นว่าวันนี้มึงไปเดินเล่นรอบปราสาทกับกูสักหน่อยมั้ย กูไม่อยากกลับหอเท่าไหร่ว่ะ

    ได้เลยเพื่อน เชิญมึงมาระบาย ร้องไห้ซบอกคิมบับเพื่อนรักของมึงคนนี้ได้เต็มที่เลยไอ้เหยินฟันกระต่ายยิ้มร่า พลางตบอกตัวเองสามที และพวกเราสามคนก็เดินเข้าห้องโถงใหญ่เพื่อที่จะไปกินอาหารเย็นที่เหลือน้อยนิดกันเพราะพวกเราคุยกันนานไปหน่อย นั่นทำให้จุนฮเวโดนเพื่อนเด็กแสบของมันทิ้งไว้กลางทางกลับหอกันหมดแล้ว และด้วยความที่ในห้องโถงใหญ่ไม่ค่อยเหลือคนมากนักมันจึงถือวิสาสะมานั่งร่วมโต๊ะกับบ้านกริฟฟินดอร์ด้วย

    “อ้าว เตี้ยดงอ่ะ”

    “อือ.. ไม่รู้สิ อยู่บนหอมั้ง ถ้ารู้ว่าวันนี้มีอาหารไทยนะดงดงต้องร้องไห้แน่เลยฮ่าๆๆ ^O^ ”จุนฮเวหันไปถามแบมแบมที่กำลังกินขนมทองหยิบที่เป็นอาหารหวาน ซึ่งวันนี้เมนูอาหารเย็นของโรงเรียนเราเป็นอาหารไทย ทั้งของคาวของและหวานดูน่ากินมากเลย แต่ผมนี่สิ.. ทั้งๆที่เห็นว่าของตรงหน้าน่ารับประทานขนาดไหนก็กินแทบจะไม่ลง ในหัวผมมันนึกไปถึงเรื่องของไอ้พี่มาร์คกับคนตัวเล็กที่นั่งตรงหน้านี่ตลอดเลย แล้วดูเหมือนเจ้าตัวจะสังเกตว่าผมไม่ค่อยจะเจริญอาหารเท่าไหร่ นั่งเขี่ยกุ้งตัวใหญ่ที่ตักมาจากหม้อต้มยำกุ้งไปๆมาๆ จนต้องเอ่ยปากมาให้ความช่วยเหลือ

    “ฮันบิน.. นายไม่อยากกินเหรอ” เจ้าตัวถามผมตะกุกตะกัก อย่างไม่ค่อยมั่นใจนัก อาจจะกลัวผมตวาดแบบเมื่อตอนที่เข้ามานั่งอีก.. โอยย นึกแล้วก็อยากจะตบปากตัวเองอีกที บ้าเอ้ย

    “อ้อ..  ตัวเล็กอยากกินเหรอ?”

    เปล่า ก็เห็นนายไม่เจริญอาหารเท่าไหร่ ดูบูดๆกว่าทุกวัน

    “’งั้นแกะกุ้งให้ฉันสิผมตักกุ้งจากจานตัวเองไปวางไว้ที่จานของจินฮวาน เจ้าตัวทำหน้างงแต่ก็ไม่ได้ว่าอะไร พร้อมกับค่อยๆแกะเปลือกของกุ้งออก

    “อะ” เจ้าตัวส่งกุ้งที่แกะแล้วกลับคืนมาให้ที่จานของผม หึหึ นึกว่าจะให้ทำแค่นี้รึไง

    “ป้อนด้วยดิ”

    “-0-... หา“

    “หูหนวกรึไง” ผมว่าพลางเอื้อมมือไปดึงหูของอีกฝ่าย นั่นทำให้ตัวเล็กเบิกตาโพลง แล้วลุกลี้ลุกลนหยิบช้อนมาตักกุ้งและข้าวสวยที่จานของผม  หึหึ~ หน้าแดงแล้วนะคิมจินฮวาน ^^

    อะ.. อ้าปากสิคนตัวเล็กขมวดคิ้วเข้าหากันเป็นปมพร้อมกับแก้มที่ขึ้นสีแดงเรื่อๆ เพียงแค่นั้นกลับทำให้ผมรู้สึกอารมณ์ดีขึ้นมาและอ้าปากรับอย่างว่าง่าย

     

    ผมรีบเคี้ยวข้าวในปากอย่างรวดเร็วก่อนจะอ้าปากรับคำที่สอง

    “อ้า~

    “ยังจะเอาอีกเหรอ!!

    “ก็ยังไม่อิ่มอ่ะ ป้อนฉันเรื่อยๆจนกว่าฉันจะอิ่มสิ”

    “แต่ฉันยังไม่ได้กินกล้วยบวดชีเลยนะ -0- ”

    “ป้อนก่อนดิเดี๋ยวให้กิน ป้อนไปกินไปก็ได้หนิ”

     

    “โอ๊ย ไม่มีมือเหรอครับพี่” จุนฮเวที่ตอนแรกกำลังโซ้ยแหลกอยู่กับอาหารตรงหน้า หยุดกินแล้วเงยหน้าขึ้นมาแซวผม

    “หุบปากน่าไอ้จุนฮเว ครอบครัวเขากำลังมีความสุข ฮ่าๆๆๆ ^O^ ” ไอ้บ๊อบบี้นี่ก็ด้วย แซวใหญ่เลยนะสาด ดูดิว่าตัวเล็กจะหดเข้าไปอยู่ในชุดคลุมได้แล้วนะโว้ย

    “ยุ่งว่ะ ดูดิ แม่งกลายเป็นก้อนแล้วเนี่ย”

    คิกๆ อารมณ์ดีก็ดีแล้วเนอะครับพี่ฮันบิน ^-^ เดี๋ยวผมขอตัวขึ้นหอก่อนนะ แล้วก็ขอเก็บขนมหวานไปฝากดงดงด้วยแบมแบมหันมาร่วมหัวเราะด้วย พร้อมกับแอบชี้ส้อมที่ผมเผลองอไว้ตอนที่อารมณ์ขึ้น ก่อนจะขอตัวลุกไปตักขนมใส่ทัพเพอร์แวร์เก็บไปให้ดงฮยอกที่หอ

    “เฮ้ยๆ จะไปหอเหรอ ไปด้วยดิ” จุนฮเวรีบบอกเมื่อเห็นแบมแบมกำลังจะลุกขึ้น

    “อื้อ มาด้วยกันสิ จะไปหาดงฮยอกเหรอ?”

    “ช่ายยย~ พอดีว่ามีเรื่องต้องเคลียน่ะ” ไอ้น้องตัวแสบว่าพลางเหล่ตามามองหน้าผมพร้อมกับยักคิ้วข้างหนึ่งอย่างกวนๆ

     

    “ดงดง~ มีคนมารออยู่หน้าหอแหน่ะ” แบมแบมสะกิดผม ในขณะที่ผมกำลังนอนกลิ้งไปกลิ้งมาอยู่บนเตียง อ่า.. นี่เข้ามาตั้งแต่เมื่อไหร่กันนะ

    “อะ.. เอ๋... ? ”

    “ทำไมทำหน้าตกใจอย่างงั้นล่ะ?”

    “อ๋อ.. เปล่า สงสัยฉันจะเหม่อไปหน่อยน่ะ”

    “อ๋อ.. แต่ถ้าดงเป้นอะไรบอกแบมได้เลยนะ แล้วก็รับไปหาเค้าสิ เดี๋ยวเค้าจะรอนานนะ” แบมแบมย้ำกับผม.. เค้านี่ใครหว่า ใครกันนะจะมาหาผมเอาป่านนี้ ดูเหมือนจะไม่ใช่เด็กกิรฟฟินดอร์สินะถึงได้รออยู่ที่หน้าหอเนี่ย

     

    ผมเดินอออกมาจากหอ ผ่านประตูรูปภาพสุภาพสตรีอ้วน เดินออกไปอีกนิดหน่อย.. หันซ้ายหันขวาก็พบเข้ากับคนคนหนึ่งกำลังเขี่ยเท้าตัวเองเล่นไปมา คนคนนี้เป็นคนที่ผมคิดว่า.. เขาน่าจะมาหาผม

    รึเปล่า?

     

    เอ๊ะ น่าจะมาหาผมมั้ง ลองทักดูละกัน

     

    “จุนเน่ ?” เจ้าตัวเงยหน้ามา ในมือถือกล่องทัพเพิลแวร์ที่ใส่ขนมไทยเอาไว้เต็มเลย !! ทองหยิบ ทองหยอด ฝอยทอง ลูกชุบ !! อ๊า อยากกินนนนน

    “กว่าจะเสด็จมาได้นะ =_= ” คำตอบที่มาพร้อมกับหน้าตายๆตามแบบฉบับของเจ้าตัวนั่น ทำให้ผมมั่นใจว่าจุนเน่คงจะมาหาผมจริงๆ ว่าแต่มีเรื่องอะไรนะ ถึงมาหาเอาป่านนี้ เรื่องด่วนรึเปล่าหว่า? แต่ถ้าโดนลากไปติวตอนนี้ก็ไม่ไปนะ!! วันนี้ยิ่งเหนื่อยๆ เนือยๆ อยู่ด้วย เฮ้อ ~

    “งือ ว่าแต่นายเถอะ มีอะไรถึงมาหาฉันถึงหอล่ะ” ผมถามพลางมองขนมในกล่องไปด้วย

    “ก็มีอะไรนิดหน่อย.. อันที่จริงก็ไม่หน่อยหรอกนะ =_= ... เฮ้ นายอยากกินขนมเหรอ”

    “อยากสิ อยากๆๆ ^O^ ” ผมรีบตอบกลับไป โอกาสมาแล้วฮี่ๆๆ อ๊ะๆ แต่ถ้าชวนผมไปติวแล้วมีขนมเหล่านี้แลกก็น่าสนใจอยู่นะ

    จริงๆมันของแบมแบมน่ะ แต่ถ้านายอยากกินละก็..

    อ้าวของแบมแบมเหรอ แต่ก้ยังอยากกินอยู่นะ.. ก็ขนมไทยน่ะ ไม่ได้มีมาที่ฮอกวอตส์บ่อยสักหน่อย ต้องอยากกินสิ จิ๊กกินสักชิ้นสองชิ้นแบมคงไม่ว่าอะไรหรอก

    “ใช่ แต่ถ้านายอยากกิน เราคงต้องคุยกันหน่อย แล้วฉันจะไม่บอกแบมแบมด้วยว่านายแอบกิน”

    “… บอกก่อนว่าไม่ใช่เรื่องร้ายแรงใช่มั้ย

    ร้ายแรงที่ว่ามันแบบไหนล่ะ=_=” ดูเหมือนคนตรงหน้าเริ่มจะขมวดคิ้วด้วยความเยอะของผม ไม่ได้หรอก เกิดมันเกี่ยวข้องกับผลการเรียนของผม ทำให้ผมต้องติด0วิชาปรุงยา หรือหมดสิทธิ์สอบกลางภาค ผมจะขอไม่ยุ่งเด็ดขาด!! *^*

    ก็อย่างเช่น.. ฉันจะติด0 ติด ร ติด..

    โอ๊ยย ไม่ใช่ เขารู้กันทั่วโลกแหละว่านายมันรักเรียน ใครจะไปกล้าทำแบบนั้นล่ะ

    “งั้นก็แล้วไป =w= ไหนว่ามาสิ ~ เราไปคุยกันที่อื่นไหม เผื่อจะยาว รู้สึกโล่งอหที่ไม่ใช่เรื่องที่เกี่ยวกับการเรียนของผม เพราะว่าถ้าเกิดผิดพลาดขึ้นมา จะทำให้พี่จินเสียใจน่ะสิ !!

    “ก็ได้ ที่ไหนดีล่ะ ฉันเริ่มเมื่อยขาแล้วเนี่ย นายก็ลงมาช้าชะมัด” จุนเน่บ่นไปขมวดคิ้วไป

    “ห้องสมุดละกัน ^-^

    จุนฮเวพยักหน้ารับก่อนจะเดินนำผมไปที่ห้องสมุด พวกเราหาเดินมุมที่จะสามารถนั่งคุยกันได้สะดวกอยู่สักพัก ก่อนจะหย่อนก้นลงนั่งกับเก้าอี้ที่อยู่ติดกับริมหน้าต่างบานใหญ่ ทำให้มีแสงสว่างของดวงจันทร์สาดเข้ามา

    ...

    นั่นทำให้ผมรู้สึกว่า จุนเน่ดูดีมากกว่าปกติ

     

    รึเปล่า?

     

    หรือปกติเจ้าเด็กยักนี่มันดูดีอยู่แล้วรึเปล่านะ..?

     

    ผมพยายามสะบัดหัวตัวเองแล้วก็เงยหน้าขึ้นมามองหน้าของจุนฮเวเพื่อที่จะรับฟังคำขอแล้วก็ว่าจะขอกินขนมสักหน่อย

    แต่กลับเห็นอีกฝ่ายมองจ้องผมกลับมานิ่งๆ ..

    ...

    ..

     

    “เอ่อ...............จุนเน่ ขอกินขนมหน่อย”

    คนตรงหน้าเหมือนจะหลุดจากห้วงความคิดอะไรสักอย่าง ก่อนจะลอบหยิกเนื้อตัวเองไปหนึ่งที่

    “เดี๋ยวดิ คุยกันก่อน”

    “.. อ่าก็ได้” ผมมองกล่องขนมที่โดนจุนเน่เด็กยักวางไว้บนตักแล้วใช้มือโอบรัดแน่นกว่าเมื่อกี้อย่างละห้อย .. งือ อยากกินจังเลย..

    “ดงฮยอก นี่นายรู้ป่ะว่านายกำลังเข้าใจผิดเรื่องพี่ชายของฉันกับเพื่อนนาย”

    “เข้าใจผิด?”

    เอ๋.. อะไรหว่า เข้าใจผิดอะไรกันนะ ผมก็เห็นว่าทั้งสองคนสนิทสนมดี ออกจะมากเป็นพิเศษด้วยในช่วงนี้ ~ ฮิฮะ ^O^

    ช่าย และนั่นทำให้พี่ชายของนายกำลังสับสนนะรู้มั้ยพี่ชายของผม? หมายถึงพี่จินน่ะเหรอ

    “พี่จินน่ะเหรอ”

    “ก็ใช่ไง หรือนายมีพี่ชายอีกคนล่ะ =_=

    “เออน่า แล้วสรุปนายหมายความว่ายังไงเล่า !! ฉันไม่เข้าใจเฟ้ย”

    “โอ้ย โง่จริง=__= ” งะ..โง่ !! โง่เหรอ นี่นายรู้มั้ยว่ากำลังคุยอยู่กับใครน่ะกูจุนฮเว!! ฉันน่ะที่1มาตลอดตอนอยู่ประถมนะเฟ้ย และฮอกวอตส์ปีการศึกษานี้ก็ต้องเป็นฉันแน่นอน!!

     

    “เฮ้ ปากสั่นหมดแล้ว โดนว่าแค่นี้หงุดหงิดรึไง”

    “ก็นายว่าฉันโง่!! ฉันไม่ได้โง่นะ ฉันยังสอนหนังสือนายอยู่เลย”

    ไม่ได้หมายถึงเรื่องนั้นโว้ย เรื่องมากเดี่ยวไม่ให้กินหนมหรอก!!”

    ชิ!! =3= เออ มีอะไรก็เล่ามาเลยนะ

    เออ เอาแบบตรงๆไม่อ้อมค้อมเลยนะ คือพี่ฮันบินมันชอบพี่จินของแก ส่วนไอ้แบมเพื่อนรักแกก็ชอบไอ้พี่มาร์คสุดที่รักของพี่จินไงวะ

    ว่าไงนะ!!! O_O”

     

    ผมรู้สึกได้ว่าตัวเองนั่งทำตาค้างอยู่กับที่ เป็นเวลานานเท่าไหร่ก็ไม่รู้ จนจุนเน่ต้องเอามือมาโบกๆผ่านมาไปมาเพื่อเรียกสติกลับคืน

    “ก็บอกแล้วไง มีนายคนเดียวนั่นแหละที่ดูไม่ออก ดูอะไรไม่ออกเลยจริงๆ ให้ตาย อ้อ พี่จินของนายด้วย=_=” จุนเน่เน้นย้ำคำว่าดูไม่ออกให้หนักขึ้น งือ ทำไมต้องเน้นขนาดนั้นด้วยแล้ว โอเค ยอมวันหนึ่งก็ได้ .. แล้วมันเรื่องจริงเหรอเนี่ย .. ที่พี่ฮันบิน กับพี่จิน แล้วก็ยังแบมแบมอีก.. โอ้ว ตายแล้ว T_T  ถ้ามันเป็นเรื่องจริงนี่ผมไปสลับคู่ให้เขาสินะ !!

    นะ นี่ฉันทำอะไรลงไปมั่งเนี่ย

    นายสลับคู่ให้หมดเลยไงละ=_= เฮ้อ

    นี่!! ไม่ต้องย้ำจะได้มั้ย !! T_T ” ผมแว้ดจุนฮเวไปทีหนึ่ง ฮืออ รู้สึกผิดขึ้นมาเต็มอก

     

    ณ จุดนี้ผมทำอะไรไม่ถูกเลยครับ เรื่องพี่ฮันบินนี่จะว่าแปลกใจมั้ยก็ไม่ถึงกลับแปลกมาก (แต่ก็แปลกใจอยู่ดี) แต่ที่ผมแปลกใจที่สุดก็คือแบมแบมนี่แหละ !! อะไรกัน ทำไมไม่มีใครบอกแม้กระทั่งเจ้าตัวก็ไม่ยอมบอกผมเลย T_T ว่าแบมแบมชอบพี่มาร์ค.. แล้วนี่ ผมไปสนับสนุนให้พี่ชายตัวเองเต็มที่เลยนี่นา .. แล้วก็ยัดแบมแบมไปให้พี่ฮันบินเต็มเหนี่ยวด้วย แง้

    “ฉะ.. ฉันจะทำยังไงดีล่ะจุนเน่ T_T

    “....ไม่รู้สิ อีกอย่างพี่ชายของนายก็เพิ่งจะตกลงคุยกันกับพี่มาร์คแล้วด้วย”

    แล้ว.. ใครรู้เรื่องนี้บ้าง พี่ฮันบินรู้รึยัง แบมแบมล่ะ แบมแบมรู้มั้ย !!”

    พี่ฮันบินน่ะรู้แล้ว แต่แบมแบมน่ะยัง

    ..

    ...

    ฮึก .. ถ้าหาก.. ถ้าหากว่าผมดูออกแต่แรกแล้ว คงไม่เกิดเรื่องแบบนี้ขึ้นใช่มั้ยนะ

    เรื่องที่สลับคู่กันไปหมดเลย ผมเป็นคทำให้เพื่อนสนิทของผมต้องเสียใจทางอ้อม

    ผมคงต้องยอมรับแล้วล่ะ ว่าผมคงจะโง่ในเรื่องนี้จริงๆด้วย.. อา นั่นทำให้ผมนึกถึงเรื่องของยูคยอมนะ .. บ้าจริง

    ทำไมผมถึงดูใครไม่ออกเลย รู้สึกเสียเซลฟ์ชะมัด อุตส่าห์เรียนเก่งทั้งทีแต่ดันมองในเรื่องความรักไม่ออก บ้าจริง คิมดงฮยอก!! T_T

    “ดงฮยอก...?”

    “.....” ผมก้มหน้างุด ไม่กล้าเงยหน้าตอบหรือเถียงอะไรกับจุนฮเวแล้วทั้งนั้น ต่อให้โดนหมอนี่ด่าว่าโง่ก็จะนั่งยอมรับจนกว่าอีกฝ่ายจะพอใจเลยล่ะ

    “เฮ้ =_=

    “ฉันมันโง่สินะจุนเน่ T_T

    “อะ.. เอ่อ นี่อย่าทำหน้าเหมือนจะร้องไห้ดิ =_=; มีอะไรในใจก็พูดมา”

    “ฉันมันโง่อ่ะจุนเน่ ฉันมันโง่ไง T__T

    “....อ่าๆ ระบายมาสิ”

    “งือ ฉัน ฉัน ฉัน... ทำให้พี่ๆทุกคนไม่สมหวังในเรื่องความรัก อ่า ก็อาจจะยกเว้นพี่มาร์คไว้คนหนึ่ง แต่นั้นก็ทำให้พี่ฮันบินกับแบมแบมต้องเสียใจ TT_TT  ฉันมันดูใครไม่ออก.. ดูไม่ออกจริงๆ.. รวมถึงยูคด้วย ฮึก แง TOT

    เดี๋ยวๆ เกี่ยวอะไรกับยูคฟะ =_= ”

    ฮึก วันนี้ .. วันนี้ ยูคบอกว่า ยูคชอบฉัน T_T ฉันดูไม่ออกเลยอะจุนเน่

    อะไรนะ ไอ้ยักนั่นมันบอกชอบนายแล้วเรอะ !! ”  จุนฮเวที่ตอนแรกเหมือนจะนั่งฟังผมเงียบๆ จู่ๆก็โพล่ง แว้ดขึ้นมาเสียงดัง ทำเอาผมลืมนึกไปเลยว่าจะพูดอะไรต่อ

    อะ.. ชะ ใช่ นายจะเสียงดังทำไมน่ะ

    “…” จุนเน่ไม่ตอบอะไร แต่เอาแต่มองหน้าผมด้วยสายตาและใบหน้านิ่งๆพร้อมกับมองอ่อน

    “ว่าแต่ ทำไมนายพูดเหมือนว่ารู้อยู่แล้วว่ายูคชอบฉันล่ะ”

    “ก็รู้อยู่แล้วไง” จุนฮเวตอบกลับนิ่งๆ

    “อ้าว”

    “มีแต่นายนั่นแหละ ที่ดูใครเค้าไม่ออกเลย เฮ้อ แล้วนายตอบกลับไปว่าไงอ่ะ ปฏิเสธ หรือตกลง... ชิ”

    “ก็.. ฉันคิดว่าหมอนั่นล้อเล่นอ่ะ คือที่สำคัญฉันไม่ได้คิอะไรด้วย.. แถมหมอนั่นบอกว่า..”

    “ว่าอะไร”

    “ก็ ถ้าฉันรำคาญนายเมื่อไหร่ ยูคจะช่วยฉัน........ไง”

    คำตอบนั่นยิ่งทำให้ที่นั่งตรงหน้าผมยิ่งทำหน้านิ่งเข้าไปใหญ่ พร้อมกับถอนหายใจออกมาหนึ่งเฮือก

    “เฮ้อ งั้นนั่นแปลว่านายรำคาญฉัน? ใช่มั้ย?”

    “.....ฉัน”

     

    รำคาญเหรอ ..

     

    หรือลำบากใจมั้ย ที่มานั่งคุยกับหมอนี่แบบนี้

    ก็ไม่หนิ ไม่ได้ทั้งรำคาญและลำบากใจด้วยซะหน่อย

    ..

     

    “โอเค เงียบแบบนี้เข้าใจแล้วว่ารำคาญ งั้นฝากขนมให้แบมแบมด้วยละกัน กลับหอละ ถ้ามืดกว่านี้เดี๋ยวจะลำบากต้องให้นายไปส่งอีก” จุนเน่ลุกขึ้นยืนด้วยใบหน้านิ่งๆ ตามแบบฉบับของเจ้าตัว แต่ดูเหมือนเมื่อกี้จะนิ่งมากกว่าปกตินิดหน่อย อ่านี่นายโกรธฉันเหรอ? หรือมันคือน้อยใจนะ หรือจริงๆแล้วเราก็สนิทกันรึเปล่า...

     “จุนเน่ ! ฉันไม่ได้บอกสักหน่อยว่ารำคาญนาย”

    “....”

    “บอกว่าไม่รำคาญไง นั่งลงดิ แล้วก็แกะขนมให้กินด้วย เอาลูกชุบ-3-”

    ผมรีบบอกก่อนที่เจ้าเด็กยักนี่จะเดินกลับหอคนเดียว ชิ มืดแบบนี้เนี่ยนะอย่ามาอวดเก่งหน่อยเลย สุดท้ายนายก็ต้องไปยืนร้องไห้หน้าหอรอให้คนพาเข้าไปในคุกใต้ดินที่เป็นทางเข้าของหอพักสลิธีรินอยู่ดีนั่นแหละ =3=!!

    “ก็ได้ หึหึ”

    จุนเน่ยอมนั่งลมแต่โดยดีก่อนที่จะหยิบกล่องขนมขึ้นมาวางไว้บนตักตามเดิมจากนั้นก็ค่อยๆเปิดฝากล่องออกช้าๆ งืออ จะช้าทำไมน่ะ เร็วๆสิฉันอยากกินนะ !!

    ก่อนจะกิน นายต้องสัญญากับฉันก่อนข้อหนึ่ง

    จุนเน่พูดขึ้นในขณะที่มือของจุนเน่กำลังจะเอื้อมนิ้วมือ(?)ลงไปหยิบลูกชุบให้ผม

    “อืออออ ลูกชุบบบบบบบ มีอะไรก็ว่ามา”

    “นายจะต้องไม่มีใครจนกว่าจะอายุ16นะ ^-^” จุนเน่พูดพร้อมกับยกยิ้มขึ้น.... มันหมายความว่าผมต้องห้ามมีแฟนจนถึงอายุ16เลยเหรอ =0=; ปี4สินะ เอ่ สัญญาบ้าบออะไรนะ ใครจะไปรีบมีกันตอนนี้ฉันเพิ่งจะ13เองนะ แล้วก้ยังอยากเรียนเยอะๆด้วย ยังไม่รีบมีหรอกน่า

    “นายหมายถึงห้ามฉันมีแฟนจนปี4ใช่มั้ย”

    “ใช่”

    “ทำไมอ่ะ”

    “เพราะนายยังเด็กอยู่ นายต้องตั้งใจเรียน แล้วก็มาติวหนังสือให้ฉันไง” แล้วนายไม่เด็กรึไงกัน =3= มาห้ามคนอื่นนี่ห้ามตัวเองบ้างมั้ยล่า แล้วถ้านายมีแฟนก่อนฉันละ !! ถ้านายมีก่อน.. เอ่อแล้วจะทำไมนะ = =;; ช่างเถอะ!!

    “หมายถึงห้ามคบเป็นแฟนกับยูคด้วยใช่มั้ย”

    “เด็ดขาด!!” จุนเน่รีบแว้ดขึ้นหลังจากที่มีชื่อของยูคยอมโปล่มา -3- โกรธอะไรเบอร์นั้นเนี่ยฮะ

    เป็นเจ้าของฉันรึไง พูดอะไรก็ไม่รู้ แต่ช่างเถอะ เรื่องแค่นี้ง่ายๆ ฉันทำได้อยู่แล้ว เอาลูกชุบมาสักที =O=”

    ก็ใช่ไง ถ้านายยังไม่ลืม ^-^ หึหึ เอ้านี่ลูกชุบ

     

    หะ..

     

    แว้ก!!! เกือบลืมไปเลย บ้าเอ้ยๆๆๆ จุนเน่เด็กบ้า TOT

     

    คำพูดของหมอนี่ทำให้ผมนีกถึงหน้าแรกของหนังสือวิชาปรุงยา

    หน้าที่เอาไว้เขียนชื่อระบุเจ้าของ

    ซึ่งตอนนี้หนังสือของจุนฮเว.. ที่กลายเป็นของผมนั้น มันถูกเขียนไว้ว่า

    คิมดงฮยอก ของ กูจุนฮเว

     

    ไม่รู้ว่าผมนั่งนิ่งค้างไปนานเท่าไหร่ แต่รู้ตัวอีกที ที่ริมฝีปากของผมก็สัมผัสได้รับรสชาติหวานๆของขนมลูกชุบ..

    ดูเหมือนจุนเน่จะเห็นว่าผมนั่งเอ๋อตาค้างอยู่กับที่ไม่ยอมมารับลูกชุบไปกินสักที

    เจ้าตัวก็เลยทำการป้อน โดนการเอามาดันๆที่ปากของผม นั่นทำให้ผมต้องอ้าปากรับมันเข้ามา

    ...

    “เอ๋ออีกและ”

    “เค็ม” ผมทำเป็นไม่สนใจคำด่าของจุนเน่ แล้วก็ตั้งใจเคี้ยวขนมลูกชุบที่ได้รับจากมือของหมอนี่ ผมรีบเคี้ยวให้หมดลูกก่อนจะเรียกสติตัวเองคืนมา แล้วหันไปสนใจขนมในกล่องที่อยู่บนตักของจุนเน่ แล้วก็คว้าหมับเข้ากับขนมฝอยทองชิ้นโตสีเหลืองน่ากิน ~~~~ *O* อู้ห์ !

     

    พวกเรานั่งกินขนมและพูดคุยเล่นกันจนเวลาล่วงเลยผ่านไป มองดูนาฬิกาอีกทีก็เห็นว่าเป็นสามทุ่มครึ่ง ผมจึงชวนจุนเน่กลับหอ เพราะตอนนี้มันก็มืดมากแล้ว แล้วก็ข้างมั่นใจด้วยว่าเจ้าเด็กยักนี่คงต้องบังคับขู่เข็ญให้ผมไปส่งถึงหน้าหอจนได้นั่นแหละ

     

    เป็นไปตามคาดว่าผมจะต้องไปส่งจุนเน่ถึงหน้าหอ แล้วเจ้าตัวก็ไม่ลืมที่จะย้ำสัญญาขนมหวานของเรา..ที่ผมรู้สึกว่าค่อนข้างไร้สาระ แต่ก็ไม่ใช่เรื่องที่ยากอะไรนักหรอก -3-

    “เฮ้ อย่าลืมนะว่านายต้องอายุ16ก่อน..”

    “รู้แล้ว รู้แล้ว..”

    “ดีมาก” จุนเน่ยิ้มก่อนจะหันหลังเพื่อที่จะเดินลงไปในคุกใต้ดินที่เป็นทางเข้าหอของสลิธีริน

    “นายก็เหมือนกันนะจุนเน่ ! ห้ามมีแฟนจนกว่าจะ16เหมือนกัน !

    ผมโพล่งออกไป ... ชิ -3- ใครจะไปยอมฝ่ายเดียวล่ะ ถึงจะค่อนข้างมั่นใจว่าคนตัวโตนี่จะปฏิเสธเอาก็ได้ง่ายๆก็เถอะ

    จุนเน่หยุดเดิน ก่อนจะหันหน้ากลับมาสบตาผมแล้วยิ้มกว้างออกมา

    “ได้ แล้วฉันจะรอให้16เหมือนกันกับนายนะ ไปละ เดินกลับหอดีๆด้วย”

    ผิดคาดแหะ ..

     

    ผิดคาดที่อีกฝ่ายหันมายิ้มตอบอย่างชื่นมื้น แทนที่จะตอบกลับมาว่า มันเรื่องของฉัน

    อ่า .. แต่นั่นทำให้ผมรู้สึกโล่งใจแบบแปลกๆแหะ คงเพราะรู้สึกว่าจะได้เท่าเทียมกันมั้ง ..

     

    เนอะ?

     

    งืมม รีบกลับหอดีกว่า .. เผลอกินขนมของแบมแบมจนเกือบหมดเลย

     

     

    กลับมาแล้วค้าบ ~” ผมพูดอย่างอารมณ์ดีเมื่อเดินมาถึงห้องพักของตัวเอง แต่ก็ไม่พบพี่ๆคนไหนเลย ไม่รู้ว่าไปไหนกันหมด เหลือก็แต่แบมแบมที่นั่งนิ่งๆอยู่ตรงริมหน้าต่าง ... เอ ทำไมดูเศร้าๆนะ .. จะเป็นเรื่องพี่มาร์ครึเปล่านะ .. เฮ้อ.. ขอโทษนะแบมแบม

    “อ้าว กลับมาแล้วเหรอดงฮยอก ^-^” แบมแบมหันกลับมาด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม .. เอ๊ะ ตาของนายดูบวมๆนะ T_T  ร้องไห้สินะ ..

    “อื้อ.. เอ้อ.. แบมแบม คือว่าขนมของนาย.. ฉันกินไปเกือบหมดแล้วล่ะ ขอโทษนะ T_T” ผมรีบสารภาพผิดเมื่อแบมแบมมองมาที่กล่องทัพเพิ้ลแวร์ใส่ขนมในมือของผม

    “หืม? ทำไมไม่กินให้หมดล่ะ .. ก็เห็นว่าจุนฮเวมีเรื่องจะคุยกับดงดงพอดีฉันเลยฝากให้จุนฮเวเอาไปให้นายกินน่ะ ก็แบบคิดว่านายจะต้องเสียใจมากแน่ๆเลยถ้าพลาดขนมไทยไป ^O^

    ..

    จึ้ก..

     

    ทำไมนายถึงดีกับฉันขนาดนี้ล่ะ แบมแบม TOT

     ทำแบบนี้ยิ่งรู้สึกผิดเลย ฮือออ

    ฉันขอโทษนะ .. นายเป็นเพื่อนสนิทของฉันแท้ๆ แต่ฉันกลับมองไม่เห็นความรู้สึกของนายที่มีต่อพี่มาร์ค

    หรือแม้แต่ความรู้สึกของพี่ฮันบินที่มีต่อพี่จิน..

     

    “อ้าว ดงฮยอก ทำไมทำหน้าเศร้าแบบนั้นล่ะ..” แบมแบมรีบลุกขึ้นมาเมื่อเห็นว่าผมมีสีหน้ายังไง

    “.. ฮึกแบม.. ฉัน .. ฉันรู้เรื่องหมดแล้วนะ เรื่องพี่มาร์ค เรื่องของนาย พี่ฮันบิน แล้วก็พี่จิน..”

    ผมพูดออกไป ในใจรู้สึกว่า อ่า.. ผมนี่มัน..ไม่น่าเลยแหะ

    “ดงฮยอก .. ” แบมแบมพูดเสียงเบา ก่อนจะพาผมเดินไปนั่งที่เตียงของแบมแบมเอง

    “ฮึกแบม.. ฉันขอโทษ.. ฉัน ฮึก ทำให้เรื่องมันวุ่นว่ายยิ่งขึ้น.. ฉันจับคู่เอง คิดเองเออเอง ฉันคงทำให้นายรู้สึกไม่ดีด้วยใช่มั้ย”

    “... ไม่เป็นไรนะ ไม่เป็นไรจริงๆ ดงฮยอก อันที่จริงฉันชินแล้ว มันไม่ใช่ความผิดของนายหรอก พี่มาร์คเขาชอบพี่จินไปแล้ว ต่อให้นายไม่ได้ทำอะไร ยังไงเขาก็ชอบพี่จินฮวานอยู่ดี”

    ผมเงยหน้าขึ้นมาสบตากับเพื่อนของตัวเอง แบมแบมส่งยิ้มน้อยๆมาให้ผมก่อนจะลูบหัวผมเบาๆ เพื่อเป็นการปลอบ

    “ฉันขอโทษนะ ขอโทษจริงๆ..”

    “ไม่เป็นไร ^-^ จริงๆนะ กินขนมอีกสิ ฉันเก็บมาให้นายโดยเฉพาะเลยนะ กินกันเถอะ”

    แบมแบมเอากล่องขนมจากมือผมไปแกะแล้วก็หยิบขนมขึ้นมาให้ผมหนึ่งชิ้น แล้วก็ของตัวเองอีกหนึ่งชิ้น ก่อนจะกิ้นชิ้นของตัวเองเข้าปากแล้วส่งอีกชิ้นหนึ่งมาให้ผม

    ผมเอื้อมมือไปรับขนมชิ้นนั้นก่อนจะส่งมันเข้าปากตัวเอง

    “เป็นไง ดีขึ้นมั้ยดงดง~

    อื้อ ^-^” ผมยิ้มตอบพลางเคี้ยวขนมในปากไปด้วย ..

     

    อือ.. เพื่อนของผมเข้มแข็งจริงๆเลยน้า .. ที่แบมแบมบอกว่าชินแล้วนี่ .. ไม่รู้เหมือนกันว่าเป็นผมจะชินลงรึเปล่า ..

    แต่การที่แบมแบมแสดงออกมาแบบนี้ ก็คงเพราะไม่อยากให้คนรอบข้างเป็นห่วงแล้วผมก็คงไม่กล้าที่จะถามซ้ำเพื่อที่จะทำให้เพื่อนของผมคนนี้ต้องเจ็บใจอะไรอีก..

     

    “ว่าแต่ พี่ฮันบิน พี่จินฮวาน พี่บ๊อบบี้ ทำไมถึงยังไม่กลับหอนะ?”  

     

    #วินอินฮอกวอตส์ฟิค

     ****************** 

    เย้ สวัสดีปีใหม่ค่ะรีด >O< ฮ่า ตอนนี้น่าจะยาวเนอะ ไรท์พยายามค่อยๆเขียน ค่อยๆเขียน ต่อจากนี้ไรท์ก็เปิดเทอมแล้วล่ะ ..(ม่ายน้าาา) แง ยังไม่พร้อมเรียนเลยอ่ะ 5555555555

    แล้วก็อาจจะอัพช้ากว่าเดิมด้วยเพราะคงไม่ได้เอาคอมไป ม.

    ................ แต่จะพยายามขโมยรูมเมทมาอัพให้ได้นะคะ ไม่อยากดองแล้วกลัวดองยาวอีก

    แล้วก็ ขอบคุณรีดที่ยังคอยการกลับมาของไรท์นะ TvT อยากจะร้องไห้ อ่านคอมเม้นทีไรรู้สึกหัวใจพองโตทุกทีเลยล่ะ แอร้ย

    ขอบคุณอีกครั้งนะคะ ปีใหม่น้ขอให้รีดทุกคนสุขภาพแข็งแรง และมีความสุขมากๆน้า >O< 

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×