ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [FIC:YG WIN] WIN IN HOGWARTS (JunHyuk,BJIN)

    ลำดับตอนที่ #16 : - ตอนที่ 15 - ยอมรับ(สักที)

    • อัปเดตล่าสุด 16 ม.ค. 58





    -------------------
    ยอมรับ(สักที)
    --------------------


    เปลี่ยนแท็กเป็น #วินฮอกวอตส์








    มาคุยกันให้รู้เรื่องดีกว่าไอ้เสือ”  วันนี้ปี3มีเรียนแค่วิชาเลือกพวกเราสองคนผมกับฮันบินจึงตัดสินใจโดด อันที่จริงผมเป็นคนชวนแกมบังคับหมอนี่ซะมากกว่า..

    อย่าหาว่าบ๊อบบี้เสือกเลยนะครับ .. อยู่ด้วยกันมาตั้งหล๊ายปี เรื่องแค่นี้ก็นิดๆหน่อยเอ๊ง..

     

    ผมไม่อยากจะทนเห็นตัวเล็กของพวกเราเจ็บตัวเจ็บใจและทำหน้ามึนไปมากกว่านี้อีแล้วครับ รู้สึกสงสารเหมือนผมใช่มั้ยล่ะ.. ดังนั้นผมก็เลยตัดสินใจพาฮันบินขึ้นมาคุยกันที่ห้องพักของพวกเราที่หอให้รู้เรื่องและรับปากว่าจะเก็บทุกอย่างเป็นความลับอย่างแมนๆ ซึ่งผมสาบานด้วยเกียรติแห่งฟันหน้าของกริฟฟินดอร์

     

    “เออ.. ก็ได้”

    “ก็ได้คือยอมรับ?”

    “ยอมรับว่า?”

    “ว่ามึงชอบตัวเล็กของเราไง ไอ้ห่า” แหมทำโง่ (อันนี้พูดไม่ได้ครับเดี๋ยวโดนเอาไม้กายสิทธิ์แทงจมูก)

     

    “………กู………” ฮันบินหลุบตาต่ำลง เดินไปที่เตียงนอนของตัวเองแล้วทิ้งตัวนั่งลงไปแรงๆ

    “มึง..............”

    “กู...........”

    “มึง.....................”

    “คือแบบ กู............”

    “มึง.......... โว้ย !!! ” นี่จะ กูแล้วจุดจุดจุดอีกนานไหมครับ คำถามง่ายๆแค่ชอบหรือไม่ชอบแค่เนี้ย ไม่เห็นจะตอบยาก ลองถามกูมั่งสิครับว่าชอบยุนฮยองมั้ย ตอบได้เลยว่าชอบ!! ถึงวันนี้จะโดนเด็กเวรหลอกมากูก็ยังชอบครับ!!

     

    “กล้าพูดหน่อยดิวะ ให้เหมือนกับที่มึงกล้าลากเค้าไปไหนมาไหนอ่ะ”

    “มึงรู้?” แน่ะ ยังจะมาเลิกคิ้วถาม เดี๋ยวถอนขนคิ้วหลุดเลยไอ้นี่

    “รู้สิครับ มีมึงคนเดียวอ่ะที่แตะตัวเล็กมันบ่อยสุดอันที่จริงมึงแทบไม่ให้ใครแตะ แต่มึงอ่ะแตะจนช้ำเลย”

    เมื่อผมพูดจบ อีกฝ่ายทำหน้าเครียดเลยครับ.. ดูเหมือนจะรู้สึกผิดอยู่ไม่น้อยเลยทีเดียว
     

    “เฮ้อ.. ตัวเล็กแม่ง เผลออ่อยแบบไม่รู้ตัวว่ะ แล้วคนแม่งก็ชอบมองมัน”

     

    แหม่เพื่อน.........

     
     

    ประโยคนั้นมันหมายความว่ามึงมันหวงมันเว้ย..

     
     

    “มึงก็รู้ว่าตัวเล็กมันไม่รู้ตัวห่าอะไรเลย ทั้งวันมันมีแค่หนังสือกับน้องมัน”

    “เออ ก็จริง อันนี้กูรู้”

    “แล้วก็อีกเรื่องที่กูเพิ่งบอกว่าไอ้พี่มาร์คหน้าหล่อจีบมันอ่ะ” 

    โห่ ชัดเป๊ะ ..

     

    ไอ้ห่านี่มันหลงตัวเล็กจนหัวทิ่มหมดละเนี่ย รีบๆ ยอมรับเถอะครับ

     

    จะได้ไม่เป็นภาระของข้อมือจินฮวาน

     

    “ก็บอกแล้วไง มึงไม่รีบยอมรับอ่ะ มึงทำร้ายตัวเล็กมันแม้ว่ามึงจะรู้ตัวหรือไม่ก็ตาม”

    “...เออ”

    “แต่ไอ้พี่มาร์คมันยอมรับว่ามันชอบจินฮวานมานาน ไม่เหมือนมึง”

    “.....”

    “แต่ที่พี่มันไม่กล้าจีบ แล้วใครๆก็ไม่กล้าจีบ เพราะทุกคนเขาเห็นว่ามีมึงคอยทำหน้าโหดใส่พวกแม่งตลอด”

    “.....” ฮันบินนั่งเงียบ ก้มมองเท้าตัวเองที่เขี่ยฝุ่นไปมา

    .

    .

    .

    มึง..พวกเราเงียบกันมาสักพัก ในที่สุดฮันบินก็เงยหน้าขึ้นมาจากตีนที่เขี่ยฝุ่น(?)มามองหน้าคุยกับผมตรงๆ

    “ไง”

    “กูยอมรับก็ได้”

    “ยอมรับว่าอะไรครับเพื่อน ยอมรับว่าชอบจินฮวานใช่มั้ยครับ ถ้าไม่ใช่ไม่ต้องมาพูดกับกูเลยนะ” ผมว่าพลางเอาเท้าตัวเองเขี่ยๆไปที่ขาของฮันบิน  นั่นทำให้มันส่งเสียงจิ๊นิดหน่อย

    .

    .

    “จิ๊ เออ”

    “..^___^”

    กูชอบมัน

     

    เหมือนเสียงระฆังจากสวรรค์ดังแหวกเมฆออกมาพร้อมกับแสงออโรร่าในวันที่ฝนพรำเลยครับแหม่..

    .

     

    ในที่สุด............

     

    คิมฮันบินก็ยอมรับสักทีครับว่ามันชอบคิมจินฮวาน

     

    ฮริ๊ววววววววววว เอ้า ไปโรงนกฮูก ส่งจดหมายบอกให้พ่อมันยกขันหมากมาเลยดีกว่า !!!

    .

    .

    “แต่ตัวเล็กมันไม่ได้ชอบกูอ่ะ..”

    “มึงรู้ได้ไง” ฮันบินทำหน้านิ่ง เหมือนกับว่ากำลังนึกย้อนไปหาเหตุการณ์หลายๆอย่างระหว่างตัวเองกับจินฮวาน

     

    “ก็เวลากูลากมันไปไหนมาไหน ก็ทำแต่หน้ามึน เป็นห่วงมัน มันก็มึน บอกคิดถึงมัน มันก็ยังมึน.. กูดูแม่งไม่ออกแล้วอ่ะ”

    ..

    .

    .

    นี่มึงไปบอกคิดถึงมันตั้งแต่เมื่อไหร่..

     

    มึงเป็นเพื่อนกับกูมากี่ปี..

     

    มึงยังไม่เคยบอกกูเลยนะ T^T!! ไอ้ห่านนนนนน

    .

    .

     

    แต่ตอนนี้ไม่ใช่เวลามานอยด์เพื่อนครับ.. แหม่

     

    “มึงไม่ชัดเจนไง มึงต้องชัดเจนดิ พูดไปเลย แบบพี่มาร์ค”

    ดูเหมือนว่าผมจะย้ำชื่อพี่มาร์คบ่อยไปหน่อย จนตอนนี้ไอ้นี้เริ่มจะขมวดคิ้วใส่ผมแล้วยังเริ่มส่งเสียงจิ๊จ๊ะไม่พอใจออกมาอีก ครับขอโทษครับเพื่อน

     

    แต่กูกลัวว่า ถ้ากูชัดเจน กูอาจจะทำร้ายมันมากขึ้นว่ะ กูว่ากูยังไม่พร้อมจะดูแลมัน

     

    เออว่ะ ก็จริงของเพื่อนเนอะ..

    เกิดวิ่งไปบอกรักตัวเล็กขึ้นมา ต่อให้จินฮวานมันตกลงหรือไม่ตกลง ไอ้ฮันบินมันต้องกันท่าคนอื่นเพิ่มอีกล้านแปดแสนสิบหกท่าห้านาทีแน่นอน ..

     

    โอ้ยย คนไรวะ น่ามคานจัดเลย

     

    แต่ว่าเพื่อนตัดสินใจถูกแล้วครับ.. เพราะกูสงสารตัวเล็ก =..=

     

    แล้วมึงจะเอาไงต่อวะ

    “ขอเวลากูก่อน อยากทำใจร่มๆเป็นกับเขาบ้าง” แหม่.. เพื่อนผมจะเป็นคนดีแล้วครับ ^O^ ฮิ๊วว (หืม)

     

    “เออก็ได้.. แต่มึงระวังพี่มาร์คไว้ละกัน..”

    “เฮ้ย มึงนี่.. อย่างน้อยดงฮยอกก็บอกจะช่วยกูนะ ช่วยกูคนเดียวด้วย ไม่ช่วยไอ้พี่มาร์ค”

    “งั้นก็แปลว่ามึงบอกดงฮยอกอ่ะดิว่ามึงชอบจินฮวาน”

     

    หลังจากที่ผมพูดจบฮันบินมองหน้าผมนิ่งค้างไป2-3นาที แถมยังทำหน้าเหมือนคิดอะไรอยู่..

    สุดท้ายก็เลิกคิ้วขึ้นแล้วตอบกลับผมมาว่า

     

    “เออ..คงงั้นมั้ง”

     

      

    ไม่รู้ว่าช่วงนี้ผมรู้สึกไปเองรึเปล่าว่าช่วงนี้พวกเรา3คน ผม บ๊อบบี้ และฮันบินอยู่กันไม่ค่อยครบองค์ก็ไม่รู้.. ส่วนนึงอาจจะเพราะช่วงนี้ดงฮยอกชอบลากฮันบินไปไหนมากไหนด้วยกันสามคนกับแบมแบมอยู่เรื่อยๆส่วน ผมก็พาบ๊อบบี้ไปเต๊าะยุนฮยองอยู่บ่อยๆ ถึงแม้ 8 ใน 10 ครั้งจะมีชานอูที่เป็นเด็กข้างบ้านของยุนฮยองอยู่ด้วย แต่บ๊อบบี้ก็ไม่ย่อท้อ ถึงบ๊อบบี้จะมีเวลาเจอกับ(ไปจีบ)ยุนฮยองน้อย แต่บ๊อบบี้ก็พยายามหาเวลาไปแอบมอง พูดคุย ทักทาย เพื่อไม่ยอมให้ชานอูทำคะแนนแซงหน้าตัวเองไปไกลมากนัก

     

    แต่การที่ไม่ได้อยู่ด้วยกันครบสามคนเหมือนเดิมเท่าไหร่เนี่ย ไม่รู้ว่าคิดไปเองรึเปล่านะครับว่าช่วงนี้ผมเจ็บตัวน้อยลง โดยเฉพาะส่วนข้อมือ *-*

     

    วันนี้ก็เช่นเคย

    ฮันบินไปกับพวกดงฮยอก ส่วนผมกับบ๊อบบี้ก็นัดยุนฮยองมาอ่านหนังสือด้วยกันที่ริมทะเลสาบ ซึ่งวันนี้พนันได้เลยว่าตอนนี้บ๊อบบี้คงแฮปปี้มาก สังเกตจากวิธีการยิ้มของเจ้าตัวที่ดูมีความสุขเหลือล้นจนฟันกระต่ายคู่หน้าโผล่ออกมาจะแทงหน้ายุนฮยองและเหตุผลที่คิมบับผู้นี้ยิ้มอย่างอารมณ์ดีได้ขนาดนี้นั้น มีไม่กี่เหตุผลหรอกครับ.. คือ หนึ่ง เจอหน้าซงยุนฮยอง สอง สอบไม่ตก และสุดท้าย เพราะชานอูไม่มา -..-

     

    “นี้ยุนฮยอง.. น้ำยาแก้ฝีที่เรียนวิชาปรุงยาช่วงนี้อ่า..” บ๊อบบี้ทักยุนฮยองที่นั่งอยู่ตรงข้ามตัวเองและกำลังก้มหน้าก้มตาทำโจทย์ตัวเลขมหัศจรรย์อย่างขยันขันแข็งอยู่

    “อือ... แปปน้า.. .... ทำไมเหรอบ๊อบบี้? *-* ” ยุนฮยองขีดๆเขียนๆลงในกระดาษทดอยู่สองสามทีก่อนจะเงยหน้าขึ้นมาคุยกับบ๊อบบี้

    “คือ ฉันลืมว่ามันต้องต้มกี่องศาน่ะสิ.. สเนปหักคะแนนฉันไปตั้ง15คะแนน”

    “อ๋อ .. ไม่เป็นไรนะบ๊อบบี้  ทีนี้นายก็แค่จำไว้ว่าต้องต้มที่ 250 องศา”

    “อ๊ะ ! จริงด้วย ฉันลืมไปได้ไงนะ ^-^ ~~ ยุนฮยองพึ่งพาได้จริงๆด้วย ~

    “แหะๆ ไม่ขนาดนั้นหรอก^-^

    ....

    แหม มีความสุขเหลือเกินนะคิมบับ..

     

    เรื่องนี้นายถามฉันก็ได้นี่.. ถ้านายยังจำได้ ฉันเป็นคนเดียวที่ปรุงเสร็จในคาบนะ.. แค่หลังจบคาบหรือในคาบนายถามฉันที่นั่งโต๊ะข้างๆนายว่ามันต้องต้มที่น้ำเดือดกี่องศาแค่นั้นเองไม่เห็นต้องเก็บมาถามยุนฮยองเลยนี่น่า ~ -3-

     

    ผมขี้เกียจนั่งมองบ๊อบบี้ที่กำลังมุ่งมั่นจีบยุนฮยองยิ่งกว่าการอ่านหนังสือในมือ ผมจึงขอตัวออกมาเดินเล่นพักสายตาอยู่ริมชายฝั่ง กำลังสูดอากาศสดชื่นอยู่ดีๆ จู่ๆก็มีมาปิดที่ตาของผมทั้งสองข้าง

    ..

    ง่ะ มืดอ่ะ

    .

    ว่าแต่สัมผัสนี้..

    .

    .

    ไม่คุ้นเลยแหะ

    “ใครอ่ะ” ผมถามออกไป มือจับที่ไม้กายสิทธิ์ เตรียมจะชักออกมาเผื่อว่าจะเป็นพวกแอนตี้ลูกมีกเกิ้ล หรือพวกคลั่งเลือดบริสุทธิ์อะไรทำนองนั้นที่ชอบหาเรื่องแกล้งชาวบ้านชาวช่องไปทั่ว

     

    “ลองเดาดูสิครับ” เสียงทุ้มๆ ที่รู้สึกเหมือนเคยได้ยินมาก่อนกระซิบขึ้นจากด้านหลัง คำถามจากเจ้าของมือปริศนาบ่งบอกให้รู้ว่าคนคนนี้คงไม่ใช่คนที่อันตราย

     

    “.....เอ่อ...”

    โอเคครับ ไม่แกล้งแล้วนะอีกฝ่ายบอกและปล่อยมือออก

    ผมจึงรีบหันไปดูเจ้าของมือและเสียงทุ้มนั้น และปรากฏว่าเป็นพี่มาร์ค..

    คนที่อยู่ปี 5 บ้านสลิธีริน

    คนที่ผมเคยครั้งแรกที่ห้องสมุด

    คนที่เคยบอกว่ามองผมมานาน.. ?

    และคนที่เคยบอกว่า.. จะจีบ..ผม ?

     

    (-//-)a ?

     

    “พี่มาร์ค..”

    “สวัสดีครับ ^-^ ” เจ้าตัวทักทาย พร้อมกับส่งรอยยิ้ม (ที่ดูดี)...(มาก) มาให้ด้วย

    “ครับ สวัสดีครับพี่มาร์ค^-^” ผมยิ้มทักทายตอบ

     

    “นายมาเดินเล่นเหรอ”

    “อ๋อครับ.. พอดีผมพักสายตาจากอ่านหนังสือมาน่ะ ตอนแรกก็นั่งอ่านกับพวกบ๊อบบี้อยู่ตรงนู้น~” ผมเอื้อมมือชี้ตรงสุดแขนไปทางที่ผมเดินออกมา

    “โห.. นายนี้ขยันจังเลยนะ ^-^ อยากได้หนังสือปี4มั้ยล่ะ เอาไว้อ่านล่วงหน้า เดี๋ยวฉันจะได้ให้แม่ช่วยส่งมาให้”

    “ว้าว *O* จริงเหรอครับ อยากได้มากเลยล่ะ.. แต่ว่า จะรบกวนแม่พี่มาร์ครึเปล่าอ่า..”

    “ไม่รบกวนหรอก แม่พี่ใจดีจะตาย ^-^

    “แฮ่ๆ ขอบคุณมากนะพี่ ~~

    “ไม่เป็นไรเลยครับ สบายมาก”

     

    ผมและพี่มาร์ค พวกเราเดินเล่นกันไปตามชายฝั่งทะเลสาบ เราพูดคุยกันอย่างสนุกสนาน ทั้งเรื่องทั่วไป เรื่องเรียน หรือเรื่องสอบ ว.พ.ร.ส.  (วิชาพ่อมดระดับสามัญ) ที่นักเรียนปี5จะต้องสอบ ได้ยินมาว่าเครียดมากๆ พอๆกับการสอบเข้ามหาลัยของมักเกิ้ลเลยล่ะ

    และพวกเราเล่นขว้างหินให้กระเด้งบนผิวน้ำกัน(เขาเรียกอย่างนี้รึเปล่านะ..) และแน่นอนว่าพี่มาร์คชนะ ผมนี่สิ ปาทีไรก็จมน้ำจ๋อมทุกทีเลย =_=;;  ให้ตาย .. ผมหงุดหงิดก็เลยทำแค่ยืนดูพี่มาร์คขว้างหินไปอย่างเดียว สบายใจกว่า

    “จินฮวาน ไม่เล่นแล้วเหรอ”

    “อื้อ.. ทำไม่ได้อ่ะ 5555”

    “ฮ่าๆ >_< พี่ก็สอนอันนี้ไม่เป็นด้วยดิ ขอโทษนะครับ”

    “ค้าบ ~ ไม่ต้องซีเรียสนะ เรื่องแค่นี้เอง” ผมบอกพี่มาร์คที่ยืนทำหน้ารู้สึกผิดนิดๆ แต่ปากก็ยังระบายรอยยิ้มที่สดใสออกมา มันทำให้ผมรู้สึกเหมือนกับว่าพี่มาร์คไม่อยากให้ผมรู้สึกไม่สบายใจมากนัก

     

    พี่มาร์คเดินมาหยุดยืนอยู่ที่ข้างๆผม ไม่ใกล้ไม่ไกลมากนัก

     

    “พี่ว่าเราคุยด้วยแล้วสบายใจดีนะ” พี่มาร์คพูดขึ้น ตามองตรงไปทางทะเลสาบ

    “อื้อ ผมก็คุยกับพี่แล้วสบายใจเหมือนกันนะ” ผมพูดบ้าง.. ก็คุยกับพี่มาร์คแล้วสบายใจดีจริงๆนี่นา ~ ขนาดเราเดินคุยกับแค่แปปเดียว ผมยังรู้สึกได้ว่าพี่มาร์คเป็นคนที่ผมจะสามารถปรึกษาอะไรได้ในหลายๆอย่างเลยล่ะ

     

    ผมหันไปมองหน้าพี่มาร์คที่ตอนนี้ยิ้มกว้างมากๆออกมา จากตอนแรกที่พี่เขามองที่ทะเลสาบ ตอนนี้ได้เปลี่ยนมามองที่หน้าของผอมแทน

     

    “สรุปนะครับ .. พี่จีบเรานะจินฮวาน”

     

    อึก.. คำถามนี้อีกแล้ว..

    “เอ่อ.. คือ”

    “นะครับ ^-^ ดงฮยอกก็อนุญาตแล้วนะ”

    เดี่ยวนะ.. ดงฮยอก .. น้องชายผมนี่นา -*- ไปรู้จักกันตั้งแต่เมื่อไหร่ แล้วที่สำคัญ.. ไปอนุญาตเรื่องนี้ได้ไง ตั้งแต่เมื่อไหร่กันห๊า

    “หะ.. นี่พี่ไปคุยกับน้องผมตอนไหน”

    “อนุญาตพี่ก่อนสิครับแล้วพี่จะบอก”

    “ง่ะ.. แต่ผมไม่เคยถูกจีบ.. ผมไม่รู้ง่า..”

    “งั้นจินฮวานลองให้พี่จีบดูสิครับ จะได้รู้นะ ^^

     

    งือ..

     

    จีบนี่ .. เป็นยังไง อันนี้ผมก็ไม่รู้เท่าไหร่หรอก ..

    รู้แค่ว่าเป็นการที่ฝ่ายหนึ่ง ทำสิ่งดีๆ ให้อีกฝ่ายหนึ่ง เพื่อให้ทั้งสองฝ่ายมีความรู้สึกที่ตรงกัน นั่นคือความ ชอบ.. หรือรัก .. รึเปล่านะ? ..

     

    งั้นถ้าผมอนุญาตไปจริงๆ ผมจะต้องทำตัวยังไงล่ะ..

     

    “แต่ผมไม่รู้นี่ครับว่าผมต้องทำยังไงบ้าง”

    “ก็ทำตัวปกติไงล่ะ”

    “ปกติที่ว่าคือ.. อ่านหนังสือ ทบทวนบทเรียน  เข้าเรียน นอนที่หอ กินข้าวเช้า กลางวัน เย็น อาบน้ำแปรงฟัน อย่างงี้เหรอครับ”

    “ก็ใช่นะ แต่..”

    “....”

    “แต่ก็แค่มีพี่เป็นส่วนหนึ่งในชีวิตประจำวันของจินฮวานบ้างไงล่ะ ^^

    .

    หืม..

     

    ไม่ค่อยเข้าใจแหะ .. ชีวิตที่ทำทุกอย่างตามปกติของผม แต่มีพี่มาร์คเข้ามาเกี่ยวด้วยเนี่ย..

     

    ยังไงเหรอครับ..

    ลองดูสิครับ นะ?

    “เอ่อ..”

    ^-^

    .

    .

     

    “ก็ได้ครับ..”

     

     

     

     

    พี่ฮันบินนนนนน ฝากแบมแบมหน่อยนะ ดงต้องไปติวหนังสือให้จุนเน่ ~ ”  เมื่อแบมแบมบอกกับผมว่าอยากไปส่งจดหมายหาคุณแม่.. ผมจึงจัดการวางแผนลากพี่ฮันบินมาด้วยแล้วก็ชิ่งหนีกลางทางซะ จุนน่งจุนเน่นี่ไม่ได้นัดหรอกครับอิอิ *-* ..

    ติวให้มันอีกละ? พี่ฮันบินเลิกคิ้วถามขึ้น

    “ช่ายยยย ~~ วันนี้กลับไม่ดึกหรอกครับ จริงๆนะ”

    “อื้อ อย่ากลับดึกมากละกัน เดี๋ยวพี่จินฮวานจะเป็นห่วงนะ ^-^” แบมแบมผู้น่ารักช่วยเสริม

    “คร้าบบ ไม่ดึกคร้าบบ ไปแล้วน้า ~~ ” ผมโบกมือลาทั้งสองคนแล้วจึงเดินออกมาอย่างอารมณ์ดีและตรงไปทางเข้าหอพักของบ้านสลิธีริน เพื่อดักรอพี่มาร์คและบอกให้พี่มาร์ครู้ว่าตอนนี้พี่จินอยู่ที่ไหน คริคริ ผมคือกามเทพน้อยผู้น่ารักใช่มั้ยล่ะ >_<

     

    ผมยืนอ่านโน้ตที่ผมย่อในชั่วโมงเรียนอยู่ที่ประตูทางเข้าคุกใต้ดินหรือทางเข้าบ้านสลิธีริน ครับ และเพราะมันคือทางเข้าบ้านสลิธีริน ย่อมมีเด็กบ้านนี้จำนวนมากที่เดินผ่านมาที่มักจะมองผมที่เป็นนักเรียนบ้านกริฟฟินดอร์ด้วยสายตาที่..แบบว่า ยังไงอ่ะ ...ยังเงี้ยะ > - -+

    ฮึ่ม จะมองอะไรนักหนานะ -3- ไม่ได้ไปยืนในห้องนักเล่นของพวกนายสักหน่อยนะเฟ้ย!!

     

    กำลังบ่นอยู่ในใจไม่นาน นัก พี่มาร์คซึ่งเป็นพรีเฟคของบ้านสลิธีริน(และอนาคตพี่เขยของผมเองอิอิ) ที่ผมกำลังยืนรออยู่นั้นก็เดินมาหยุดอยู่ข้างหน้าผมและยิ้มทักทายอย่างเป็นมิตรผิดกับเด็กสลิธีรินคนอื่นๆที่เอาแต่มองด้วยสายตาจิกกัด -..-

    “พี่มาร์ค หวัดดีครับ^^

    “ว่าไงเรา รอพี่อยู่เหรอ?”

    “ช่าย คือดงจะมาบอกว่า ตอนนี้พี่จินไปอ่านหนังสือกับพี่บ๊อบบี้ที่ทะเลสาบล่ะ”

    “แล้วฮันบินล่ะ? ไม่อยู่ด้วยเหรอ?” พี่มาร์คถาม พี่มาร์คอย่าลืมสิว่าดงช่วยพี่ฮันบินจีบแบมแบมอยู่ >,<

    “เรื่องนั้นไม่ต้องห่วงเลย ผมให้พี่ฮันบินไปกับแบมแบมที่โรงนกฮูกแล้วน่า” พูดจบ พี่มาร์คก็ยิ้มกว้างออกมา พร้อมกับค้นกระเป๋าและหยิบกบช็อคโกแลตยื่นมาให้ผมซึ่งมันเป็นหนึ่งในขนมที่ผมชอบที่สุด เพราะรสชาติของช็อคโกแลตทำให้ผมรู้สึกหายเครียดตอนใกล้จะสอบหรือเวลาทำความเข้าใจเนื้อหายากๆในวิชาปรุงยาของสเนปแล้วยังได้การ์ดอีกด้วย!! ยอดไปเลย >_< ผมรักพี่ชายคนนี้จังครับเป็นแฟนกับพี่จินของผมไวๆนะ ฮิๆ >O<

    “นี่แทนคำขอบคุณนะ ^^ พี่จะรีบไปครับ”

    “คร้าบ >_< สู้ๆนะพี่” ผมโบกมือลาพี่มาร์คที่ตอนนี้กำลังจะเดินออกไปหาพี่จินจนลับสายตาไป ขณะที่กำลังจะแกะกบช็อคโกแลตนั้น ก็บังเอิญหันหน้าไปเจอกับสายตาที่โคตรคุ้นเคยยืนจ้องผมอยู่ =_= ... กุจุนฮเว..

    “นี่นายสนิทกับประธานบ้านฉันเหรอ” ถามขึ้นโดยไม่มีคำทักทายสักแอะ ผมจึงบู้ปากเล็กน้อย และนั่นทำให้หมอนี่ใช้สองนิ้วของตัวเองผลักที่กลางหน้าผากของผมแรงๆ แงะ!! ไอ้บ้านี่!!  =____=

    “ให้ตอบคำถาม ไม่ได้ให้เบะปากใส่” รีบชิ่งพูดก่อนที่ผมจะเอ่ยปากพูดอะไรออกไป

    “เจ็บนะเฟ้ย =_= เบะปากแค่นี้ต้องใช้กำลังกันเลยเหรอหะ คิดว่าตัวเองแรงน้อยมากไง” ผมบอกพลางคลำที่หน้าปากตัวเองที่ยังคงมีความรู้สึกเจ็บๆอยู่ ฮึ้ย ตัวก็ควาย แรงก็ควาย แต่บ้ากลัวความมืด!! ไอ้บ้า!!

    ทำไมล่ะๆๆกวนตีนไม่พอ หมอนี่ยังยกสองนิ้วขึ้นมาดันหัวของผมไปรอบๆ ขมับซ้ายที ขมับขวาที เอามือไปปิดตรงไหนปุ้บ หมอนี่ก็เปลี่ยนต่ำแหน่งแกล้งปั๊บนี่ฉันต้องใช้หัวเยอะนะ ถ้าฉันโง่ขึ้นมาเพราะนาย ใครจะติวหนังสือให้นายฮะ =_= เจอหน้ากันก็หาเรื่องกันเลยเรอะ ก็ได้ คราวหลังฉันจะไม่ติวให้นายแล้ว เชอะ อย่าให้ถึงคราวบ้างละกัน จะผลักๆๆ ให้สมองไหลออกมาทางจมูกเลย

    “เฮ้ย หยุดผลักหัวดงฮยอกสักทีดิวะ”

    เอ๊ะ เสียงนี้.. ยูค!! O_O ยูคยอมนี่นา ยูคเดินขึ้นมาจากทางเข้าคุกใต้ดินว่าแต่ นายมาทำอะไรที่คุกใต้ดินน่ะ หรือว่าจะโดนสเนปสวดมาเรื่องที่นายไม่ยอมทำรายงาน=0=;;

    “ยุ่งไรวะ” จุนฮเวหันขวับไปถาม

    “ก็ดงฮยอกเป็นเพื่อนกูเห็นเพื่อนถูกเด็กบ้านสลิธีรินอย่างมึงรังแกก็ต้องถามดิวะ” ยูคที่ตัวสูงพอๆกับจุนฮเว มองจุนฮเวอย่างประเมิณจากหัวจรดเท้า เหมือนกับจุนฮเวที่มองยูคยอมจากเท้าจรดหัวเช่นเดียวกัน = =;;

    “อ้อ งั้นก็รู้ไว้ละกันว่าหมอนี่อ่ะ ของกู” จุนฮเวว่า พลางยืดประชันหน้ากับยูคยอม

    ...

    หืม

    เมื่อกี้หมอนี่ว่าไงนะ =[]=!!!

     

    “ของมึง?” ยูคยอมยืนขมวดคิ้ว และทำหน้าประหลาดใจเล็กน้อย

    ตายแล้ววววว ไปกันใหญ่ละครับบบ

    “โอยยยย พอเถอะ ยูค ไปกันดีเหอะ” ผมรีบเดินเข้าไปจับแขนยูคยอมที่ยืนทำหน้ามึนๆงงๆเล็กน้อยอยู่

    “ไม่เชื่อมึงก็ลองเปิดหนังสือปรุงยาของหมอนี่ดูละกันไปล่ะ” จุนฮเวเบ้ปาก และเดินไปทางเข้าหอของตัวเอง

     

    ผมลากแขนยูคคยอมออกมาก่อนที่ยูคยอมดูเหมือนว่าจะวิ่งตาจุนฮเวลงไปที่บ้านพักของสลิธีริน

     

    แต่ยังไม่ทันไปไหนไกล จุนฮเวก็วิ่งออกมาและตะโกนบอกยูคคยอมว่า

    “อย่าลืมแกะพลาสเตอร์ยาก่อนอ่านด้วยล่ะ ไอ้เด็กยักกกกกกกกกกก”

     

    แล้วก็วิ่งกลับเข้าไปที่หอพักของตัวเอง =_=

    นี่ด่าคนอื่นเขาได้ดูสภาพตัวเองไหม ว่ายักไม่แพ้กันอ่ะ

     

    “หมายความว่าไงอ่ะ”

    “เรื่องไร้สาระน่ะ ช่างมันเหอะ หมอนั่นมันบ้า” ผมตอบ

     

    ..

    อือ. .. ใช่ไร้สาระ..

    ..

    .

     

    คิมดงฮยอกของกูจุนฮเว ..

    ..

    “อ๊ากกกกกกก ม่ายยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยย T_T”  จู่ๆผมก็นึกถึงตอนที่จุนฮเวบังคับให้ผมพูดประโยคที่เขียนอยู่ในหน้าแรกของหนังสือ นั่นทำให้ผมรู้สึกประสาทหลอนเล็กน้อย... หรือไม่น้อยก็ไม่รู้ ฮือ T_T

    “เฮ้.. ดงฮยอกเป็นอะไร” ยูคที่ยืนอยู่ข้างๆถึงกับสะดุ้งที่จู่ๆผมก็ว้ากออกมา

    “เฮ้อ.. ช่างมันเถอะ ขอโทษนะ ฉันเกิดสติแตกกะทันหันอ่ะ =_=;;

    “อื้อ ไม่เป็นไร ฉันจะกลับหอเลยนะ จะรีบไปทำรายงานอ่ะ นายจะไปกินข้าวเย็นก่อนป่ะเดี๋ยวไปเป็นเพื่อน” ยูคยอมถามพลางส่งยิ้มบางๆมาให้กับผม .. อ่า นายเป็นคนดีจังเลยยูค T_T

    “อือ.. ไม่ล่ะ ถ้าไปกินเดี๋ยวก็เจอหน้าจุนฮเวอีก เบื่อหน้ามัน กลับหอเลยดีกว่า”

    “โอเค เฮ้ยๆอีกเรื่อง คืนนี้ว่างป่ะ มาห้องฉันหน่อยดิ ช่วยทำรายงานส่งสเนปที 55555”

    รายงานส่งสเนปเหรอ .. นายโดนสเนปเฉ่งมาจริงๆด้วยสินะ เห็นแก่ที่นายช่วยชีวิตฉันจากเด็กบ้าจุนเน่ ฉันจะช่วยนายก็ได้ ^-^

    “ได้เลย ไปตอนนี้เลยก็ได้นะ ฉันว่างมากอ่ะ พี่ๆก็อีกนานแหละกว่าจะกลับหอกัน”

    “ดีเลย ขอบใจมากนะดงฮยอก ^-^ กลับหอกัน ถ้าเสร็จเร็ว ฉันจะยกกบช็อคโกแลตให้10กล่องเลย”

    “จริงเหรอ!! ” ว้าว >_< ยูค ไม่ได้ให้ผมช่วยฟรีๆด้วยล่ะ มีกบช็อคโกแลตแถมด้วย ยอดไปเลย โคตรไม่เหมือนบางคนเลยอ่ะ คนอุสส่าห์ติวกันดึกดื่นไม่พอต้องพากลับหอด้วยอีก เรื่องเยอะอิ๊บอ๋ายเลย ขนมเล็กๆน้อยๆก็ไม่ไดกินสักแอะ -3- บ้าบอไก่กาอาราเร่มาก

     

    “จริงสิ ฉันเห็นนะว่านายชอบกินช็อคโกแลต ห้องฉันมีเยอะมากเลยล่ะ ขนมอย่างอื่นก็มี ทำไปกินไปก็ได้นะ ถ้านายต้องการ”

    “วู้ววว เจ๋งไปเลย เรารีบไปกันดีกว่า >_< ฮี่ๆๆๆ” ผมเดินกึ่งลากกึ่งจูงแขนของยูคยอมไปตามทางกลับหอของพวกเรา ฮี่ๆ คืนนี้ผมจะได้อิ่มหนำสำราญใจกับกองขนม(ของยูค)ด้วยล่ะ นี่คือผลตอบแทนจากการทำความดีเป็นพ่อสื่อให้พี่ชายและเพื่อนรักของผมใช่มั้ยน้า ~~~~

     

     
    -----------------------------------------

    เย หายไปนาน ปล่อยให้ค้างเป้นสิบวันเลยย แง ไรต์ผิดไปแล้วว T_T
    อันที่จริงแต่งไว้นานแล้วน้าแต่ขี้เกียจเองง T_T ฮืออย่าตีหนู ..

    ไม่รู้จะหายอีกมั้ย ไรต์กลัวว่าตอนนี้ไรต์ค่อนข้างเครียดเรื่องมหาลัย เพราะมหาลัยที่ไรต์อยากเรียนที่สุดจะประกาศผลในอีก 18 วัน ข้างหน้า อ๊ากกกกกกกกก กรี้ดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด 

    ค่ะ นั่นแหละ เครียดจนเป็นโรค นอนไม่พอ(55555555 มันคือโรคป่ะ คือไรต์นอนไม่หลับเลยง่ะ)

    ค่ะ ขอย้ำอีกทีน้าา ว่าเราเปลี่ยนแท็กจาก #วินอินฮอกวอตส์ เป็น #วินฮอกวอตส์แล้ว 
    โกรธทวิตเตอร์มาก แท็กเก่าไปหาแล้วเออเร่ออออ ดอกไม้ !! T_T ทำไหมมมทำกันแบบนี้ ฮือ เศร้าที่สุด 

    พูดคุยกับไรต์ได้ที่ @beforejunhoe2m นะจ้ะ ไม่ต้องฟอลก็มาเม้ามอยกันได้ตลอดน้าาาา 
    แล้วก็ขอบคุณรีดที่ติดตามกันน้าาา ร้ากกกกกกกก ขอบคุณที่ชมมากๆนะคะ ขอบคุณมาก T_T ฮืออออออออออออออ ตอนนั้นไรต์ตื่นมาเปิดเจอพอดีนี่แบบเขินกรี้ดจิกหมอน5555555555555555 ดีใจมากๆโลยยย ร้ากกกกกกกกกกกกกกกกกก

     

     

     

     

     

     

     

     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×