คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #15 : - ตอนที่ 14 - หอพัก
“ตกลงดงฮยอกอนุมัติให้พี่จีบพี่ชายเราไหมครับ ^^” พี่มาร์คถามพลางส่งยิ้มอบอุ่นมาให้
ยิ้มหล่อ ใจดี สุภาพบุรุษขนาดนี้..
ผมยินดีให้พี่เป็นพี่เขยเลยครับ >_<
“ได้สิครับพี่มาร์ค”
“แล้ว...”
“แล้วอะไรเหรอครับ”
“แล้ว’ฮันบิน’ละครับ?”
“พี่ฮันบิน? พี่ฮันบินทำไมเหรอครับพี่มาร์ค” พี่มาร์คไม่ตอบอะไรแต่กลับส่งยิ้มให้ผม..
ว่าแต่พี่ฮันบินทำไมหว่า.. หรือจะกังวลเรื่องที่พี่ฮันบินบอกว่าไม่ได้เมื่อเช้า..
“อ๋อ ผมรู้ละ พี่มาร์คไม่ต้องห่วงเรื่องพี่ฮันบินนะครับ”
“จริงเหรอ?”
“จริงสิครับ ^^ เพราะตอนนี้ผมกำลังช่วยพี่ฮันบินจีบแบมแบมอยู่ไงล่า ~” ว่าเสร็จก็ชี้ไปที่เพื่อนตัวเองที่นั่งยิ้มน้อยยิ้มใหญ่อยู่ที่โต๊ะ
“อ๋อ น้องน่ารักคนนั้นน่ะเอง.. เหมาะกับฮันบินดีเหมือนกันเนอะ ^^ ”
“เนอะ !! > < คิกๆ”
“แล้วเราอยากให้พี่ช่วยอะไรไหมครับ? ^^”
ช่วย..อืม... ถ้าเป็นไปได้.. ก็อยากจะให้ไปตบกะโหลกพวกเพื่อนของจุนฮเวให้หน่อยเหมือนกันนะครับ.. แต่ไว้ก่อนดีกว่า
“แฮ่ๆ ไม่เป็นไรครับ ผมหิวข้าวแล้ว ขอกลับไปที่โต๊ะก่อนน้า”
“ครับ .. มีอะไรบอกพี่ได้นะ เห็นอย่างงี้ พี่เป็นพรีเฟคของบ้านสลิธีรินนะครับ เด็กบ้านพี่ทำอะไรเรา บอกพี่เลยนะ”
หว่าว.. เสร็จโก๋ *-* ... ได้ตีซี้กับประธานของบ้านสลิธีรินด้วยล่ะ ..
ทีนี้น้า.. พวกแก๊งเวรของจุนฮเวมาทำให้ผมรำคาญแบบวันนี้อีกละก็ ตายยยยยยยย ฮี่ๆๆ ผมมีพี่มาร์คคุ้มครองแล้วครับ แล้วอนาคตเราก็จะเป็นครอบครัวเดียวกันด้วยอิอิ *-* (เดี๋ยวจ้ะลูกดง คือหนูไม่ควรรีบ)
อ้อ.. ถามว่าวันนี้แก๊งเวรของกูจุนฮเวทำอะไรผมงั้นเหรอ.. อันที่จริงมันไม่ใช่แค่วันนี้หรอกครับคือมันก็เหมือนทุกๆวันที่เวลาผมเข้าไปทักทายจุนฮเว แล้วก็ชอบว่าผมว่า ไอ้ลูกมักเกิ้ลบ้าง เลือดสีโคลนบ้าง เหม็นบ้าง อันที่จริงผมก็ไม่ได้โกรธนะครับแต่มันน่ารำคาญอ่ะ!!! น่ารำคาญมาก !!!
ถ้ายังจำตอนที่ผมไปเอาหนังสือถึงหน้าหอของสลิธีรินได้.. บอกเลยครับว่านั่นไม่ใช่ครั้งแรกที่โดนพวกเด็กบ้านนั้นจิกกัดหรอกนะครับ..
แล้วยิ่งวันไหนเรียนพวกวิชาที่ต้องเรียนนอกห้องเรียน ซึ่งผมไม่ถนัดสุดๆแบบวิชาการขี่ไม้กวาดเนี่ยผมโดนแกล้งตลอดคาบเลย.. เด็กพวกนั้นชอบบินมาเฉี่ยวบ้าง เล่นขี่ไม้กวาดปาลูกบอลซึ่งพวกนี้มโนกันเองว่าเล่นควิดดิชแล้วปาบอลกันข้ามหัวผมบ้าง วันดีคืนดีก็ขี่ไม้กวาดมาชนผมจนเกือบตกไม้กวาด T^T !! แต่ยังดีที่ผมยังพอจะมีสัมพันธไมตรีที่ดีกับคนที่ดูเหมือนจะเป็นหัวหน้าแก๊งอย่างจุนฮเว (- -);; พวกนั้นก็เลยโดนจุนฮเวด่าบ้าง ตบหัวบ้าง เป็นคนที่ชอบใช้ความรุนแรงแต่เด็กเลยแหะ.. หวังว่าโตขึ้นจะไม่ยุ่งกับพวกพ่อมดฝ่ายมืดนะ..อืม..แต่คงไม่ยุ่งหรอก เพราะจุนฮเวกลัวความมืดไงล่ะ คิกๆๆ ^O^ (เดี๋ยวๆ มันคนละอย่างกันรูกกก)
“ดงฮยอก”
.. เสียงจุนฮเวนี่นา..
ผมหันไปตามเสียงก็เห็นจุนฮเวนั่งอยู่กับแก๊งเลือดบริสุทธิ์เวรๆนั่น เห้อม - - เบื่อหน้าพวกแม่ง ขอโทษนะจุนฮเว ไว้ค่อยคุยกันคราวหลังนะกัน ตอนที่นายไม่ได้อยู่กับพวกนี้อะ..
ผมหันไปเลิกคิ้วใส่ แล้วก็มองตรงเดินต่อไป
แต่เดินไปได้เพียง4-5ก้าว จุนฮเวก็วิ่งตามมาสะกิดๆ หลัง .. งือ อะไรง่ะ คนกำลังจะไปกินข้าวเช้านะ
“คุยกันก่อนแปปดิ”
“เฮ้อ ก็ฉันเบื่อเพื่อนนายอ่ะ = =”
“อ่ะ.. ป่ะๆ ไปคุยที่อื่นก็ได้”
“งือ.. ฉันหิวข้าวง่า..”
“งั้นไปคุยกันที่โต๊ะนายก็ได้” จุนฮเวว่า และเดินนำไปที่โต๊ะของบ้านกริฟฟินดอร์ จุนฮเวทักทายแบมแบม นั่งลงที่ฝั่งตรงข้ามที่ตอนแรกเป็นที่ของพี่บ๊อบบี้และพี่ฮันบิน ซึ่งตอนนี้หายไปแล้ว นั่นทำให้เพื่อนปีหนึ่งบ้านกริฟฟินดอร์คนหนึ่งของผมที่ชื่อ ยูคยอม หันมองมองหน้าจุนฮเวเหมือนจะถามว่า ‘ไอ้เด็กสลิธีรินนี่มาไง’
“มองอะไร หน้าฉันเหมือนพ่อนายรึไง?” .. เอาแล้ว จุนฮเวววว นี่นายเดินมาถึงถิ่นเขาเองนะเว้ย..
“เฮ้ย พูดให้มันดีดีหน่อยสิครับ นี่โต๊ะบ้านผมนะครับ^^” ยูคยอมก็ไม่ยอมเช่นกัน.. กวนตีนจุนฮเวกลับ ตายละ..
“หยุดเถอะ.. ขอโทษนะยูค เพื่อนฉันมันนิสัยไม่ดีเท่าไหร่อ่ะ” ผมรีบเดินเข้าไปนั่งแทรกกลางระหว่างยูคคยอมกับจุนฮเวที่ตอนนี้จ้องหน้าเหมือนจะต่อยกันและรีบหันไปบอกให้ยูคยอมใจเย็นก่อน
“เป็นเพื่อนกับเด็กสลิธีรินเนี่ยนะ?”
“มึงพูดให้ดีๆ เด็กสลิธีรินละทำไม?” จุนฮเวชะเง้อหน้าออกมาคุยต่อ พวกนายเพิ่งจะ 13 นะ T^T แถมอยู่ปี1ด้วย จะรีบมีเรื่องกันไปไหนเนี่ย ไอ้เด็กยักพวกงี้ แงๆๆๆ T^T
“โอ๊ยยย พ๊อออออออออออ ขอเวลาฉันแปปนึงนะยูค”
“ก็ได้.. เห็นว่านายขอร้องเลยนะ..” ยูคยอมหันมาบอกกับผม และลุกไปนั่งที่อื่น
“ชิ.. ก็ได้ เห็นว่านายขอร้องเลยนะ.. เลี่ยนว่ะ” จุนฮเวบ่นอุบอิบตามหลัง
“นี่ จุนเน่ พอได้แล้วน่า ว่าแต่นายมีอะไรหะ?”
“อ้อ คือว่าเรื่องติวน่ะ”
“อ่าหะ”
“วันนี้อย่าลืมไปติวให้ฉันเหมือนเดิมนะ”
“เมื่อวานก็ติวกันเกือบหมดแล้วนี่.. อ่านเองสิ” เมื่อผมพูดจบจุนฮเวก็ถอนหายใจเฮือกหนึ่ง .. อะระ ฉันต่างหากที่ควรจะถอนหายใจ ไม่ใช่นาย -3-
“แต่พรุ่งนี้ฉันมีสอบวิชาปรุงยาตอนบ่าย และนายก็รู้ว่าฉันโคตรไม่ถนัด”
“งือ.. แต่ว่าฉันไม่อยากกลับดึกแล้วก็ไม่อยากส่งนายที่หน้าหอแล้วนะมันไกลง่ะ”
“ฉันสัญญาว่าจะไม่เหมือนวันนั้นอีกแล้ว ฉันจะตั้งใจเรียน ขอร้องล่ะ เพื่อนฉันมันโง่ทุกคนอะ มีนายเป็นที่พึ่งคนเดียวเนี่ย..”
…
โถ่.. ฟังดูน่าสงสาร (สงสารเพื่อนหมอนี่อ่ะ)
“อือ...... ก็ได้.. งั้นเจอกันที่ห้องสมุดหลังอาหารเย็นนะ อย่าลืมเตรียมหนังสือมาด้วย!!”
เมื่อผมตอบไปแบบนั้น จุนฮเวก็ยิ้มกว้างออกมา แล้วจึงเดินอย่างร่าอย่างร่าเริงกลับไปที่โต๊ะ..
แต่เอ๊ะ ..
ปกติหมอนี่ชอบใช้เรื่องหนังสือมาขู่นี่นา ..นี่ขอร้องเป็นกะเขาด้วยเหรอเนี่ย ~
แต่ว่าดีแล้ว เพราะแบบนี้ค่อยน่าสอนขึ้นเยอะเลย ^O^
.
.
.
.
“วันนี้จะกลับดึกรึเปล่าดงฮยอก..” แบมแบมที่ตอนแรกนั่งแทะขนมปังอยู่เงยหน้าขึ้นมาถามผมด้วยความเป็นห่วงหลังจากที่จุนฮเวเดินกลับไปที่โต๊ะของบ้านสลิธีรินแล้ว
“ไม่หรอกมั้ง..แล้ว.. กับพี่ฮันบินเป็นไงมั่ง^O^” ผมถามจบอีกฝ่ายก็ดูเหมือนว่าขนมปังจะติดคอทันที ..
“แอะ แค่กๆ ; - ; ดงฮยอกถามอะไรเนี่ย”
“แหน่ ~~~ แบมแบม.. ” ผมแกล้งหรี่ตามองแบมแบมที่ตอนนี้ทั้งหน้าแดงคงเพราะโดนผมแซวทั้งขนมปังติดคอ คิกๆ ~
“ไม่เอาน่า.. พี่เขาเดินมานู่นแล้ว” แบมแบมชี้ไปทางที่พีฮันบินและพี่บ๊อบบี้เดินตรงมา
“จินฮวานยังไม่มาอีกเหรอ?” พี่บ๊อบบี้ถามขึ้นเมื่อเดินถึงโต๊ะ
“ครับ.. ยังไม่มา อ้าวนี่พี่จะไปไหนอ่ะ ไม่กินข้าวเหรอ” พี่บ๊อบบี้และพี่ฮันบินไม่ตอบอะไรแต่ แต่ถือขนมปังไปคนละแผ่นกับนมแมวน้ำทะเลใต้รสช็อคโกแลตไปอีกคนละกล่องเดินออกไป .. แต่แล้วพี่ฮันบินก็ฝากของทั้งหมดไว้ที่พี่บ๊อบบี้ แล้วก็เดินกลับมาที่โต๊ะ
พี่ฮันบินหยิบถุงพลาสติกเก่าๆขึ้นมาหนึ่งใบ จากนั้นจึงหยิบไม้กายสิทธิ์และเสกให้ถุงนั้นกลายเป็นกล่องพาสติกใสใบเล็กๆหนึ่งใบ จากนั้นก็เอาขนมครัวซอง2ชิ้นและนมแมวน้ำทะเลใต้รสจืด1กล่องใส่ลงไปในกล่องใสใบนั้น แล้วจึงยื่นให้แบมแบม
“แบมแบม พี่ฝากของของหน่อยนะครับ”
“ครับ?”
“เผื่อว่าพี่ชายของดงฮยอกมันจะมากินข้าวเช้าไม่ทัน ฝากเอาไปให้ทีนะ”
“อ๋อ.. ได้สิครับ ^^ แล้วพี่ฮันบินจะไปไหนเหรอ..”
“วันนี้พี่กับไอ้บ๊อบจะโดดเรียน.. ส่วนเรา !! ” พี่ฮันบินชี้มาที่ผม
“ห้ามบอกพี่ชายเราเด็ดขาดว่าพวกพี่โดด เข้าใจมะ?” พี่ฮันบินหันมาพูดกับผมด้วยสีหน้าจริงจัง
“ง่ะ.. ครับ”
เมื่อสั่งเสีย(?)เสร็จพี่ฮันบินก็วิ่งไปหาพี่บ๊อบบี้ และเดินออกจากห้องโถงหายไปเลย..
แหน่.. แล้วทำไมพี่ฮันบินต้องฝากแบมแบมละครับ ผมน้องชายของพี่จินฮวานแท้ๆเลยนะ >_< ทำไมไม่ฝากผมล่ะ แบบนี้นี่มัน.. ~~~~~
“ฮี่ๆ >_< แบมแบม !!”
“หะ.. อะไร”
“ฉันเป็นน้องชายแท้ๆของพี่จินเลยน้า..”
“อื้อ.. ฉันรู้น่า..”
“แล้วทำไมพี่ฮันบินต้องฝากของที่จะให้พี่จินไว้กับนายกันน้า >___<”
“ฉ.. ฉันจะไปรู้มั้ยเล่า -//- ” แบมแบมว่าพลางก้มหน้ามองกล่อง และพลิกมันไปมาเพื่อแก้เขิน.. คิกๆ อะไรกัน จั๊กจี้อ่ะ !! >3< พี่ฮันบินนี่ง่อววววววววววววววววว ร้ายจุงเลอออออ ผมนั่งหัวโด่อยู่นี่แท้ๆแต่ดันฝากแบมแบมอ่ะ คือไรอ่ะ !!
กริ๊ว ๆ ~~~~~
.
.
.
~ long time no see 그동안 어떻게 지냈니너무 오랫동안 기다렸지이제 어디 안 가 baby don’t worry ~
( ~ long time no see ~ จนตอนนี้คุณเป็นยังไงบ้าง ผมทิ้งให้คุณต้องรอนานเลย ผมจะไม่ไปไหนแล้วนะ baby don’t worry ~ )
“ใช่เลยฉันรอนานมาก - -”
ผมเดินฮัมเพลง Long time no see ของวง iKON ที่เพิ่งออกมาใหม่มาระหว่างทางอย่างอารมณ์ดีขณะที่เดินหาจุนฮเวตามหลืบต่างๆในห้องสมุด
ที่ผมอารมณ์ดีเพราะวันนี้ผมสอบวิชาสมุนไพรศาสตร์ได้เต็มไงล่า ~~~ ศาสตราจารย์สเปราท์ชมด้วยแหละว่าเก่งเหมือนพี่จินเปี๊ยบ ไม่แปลกที่จะเป็นพี่น้องกัน คิกๆ >_< มีความสุข ~~~
“ไม่เอาน่า ยี่สิบนาทีเอง ฉันกลับไปเอาปากกาไฮไลต์ที่หอมาแปปเดียวเอง ~ ” จุนฮเวเบะปากนิดหน่อยแต่ก็ชวนให้ผมนั่งลงตรงเก้าอี้ว่างข้างๆ .. ตอนนี้บนโต๊ะ มีหนังสือเรียนปากกาลูกลื่น(ของผมที่โดนหมอนี่จิ๊กไปเมื่อไหร่ก็ไม่รู้)กระดาษที่จดเมื่อวานของจุนฮเวและปากกาไฮไลต์สีเขียวที่ผมให้ไป
“วันนี้อุปกรณ์ครบนี่นา ^^ ” ผมว่างพลางเอื้อมมือไปหยิบปากกาลูกลื่นของตัวเองเนียนๆ แต่จุนฮเวดันตาไวเห็นซะก่อนแล้วก็มาตีมือผมก่อนที่ผมจะทันได้แตะต้องปากกาของตัวเอง = =
“งือ.. นั่นปากกาฉันนะ T^T”
“ไม่รู้ไม่ชี้”
“ได้ไงอ่ะ... อันนั้นแท่งเกือบโปรดเลยนะ”
“เกือบโปรดอะไรของนาย.. ” จุนฮเวว่าพลางขมวดคิ้ว
“ไม่รู้แหละ เอาปากกาฉันคืนมา~~~~”
“รู้ได้ไงว่าของนายอ่ะ”
“ก็ฉันซื้อมาเองกับมือ.. แล้วฉันก็เชื่อว่าพ่อมดตั้งแต่กำเนิดอย่างนายไม่มีทางเคยใช้ปากกาลูกลื่นแบบพวกมักเกิ้ลเด็ดขาด *^* ”
...
จุนฮเวมองหน้าผมนิ่ง..
“ถ้านายยังไม่ลืม..” จุนฮเวว่าพลางเอื้อมมือมาหยิบหนังสือวิชาปรุงยาของผมที่ผมเอาติดตัวมาด้วยเพื่อที่เอาไว้ใช้สอนควบคู่กับของหมอนี่
จุนฮเวเปิดหนังสือวิชาปรุงยาของผมไปที่หน้าแรก ซึ่งเป็นหน้าสำหรับเอาไว้เขียนชื่อของคนที่เป็นเจ้าของหนังสือ.. ซึ่งตอนแรกนั้นมันมีคำว่า ‘ของ กูจุนฮเว’ เขียนไว้ แต่ผมได้เอาพลาสเตอร์ยามาปิดไว้หลังจากที่แบมแบมได้แกล้งผมโดยการเขียนชื่อผมลงไปข้างบนนั้น
จุนฮเวแปะพลาสเตอร์ยาออก..
“นี่ไง”
คิมดงฮยอก ของ กูจุนฮเว..
ให้ตาย.. นี่ขนาดอ่านในใจ ผมยังรู้สึกอยากเอาหน้าทิ่มเข้าไปในกองหนังสือแล้ว T^T
“ทะ...ทำไมล่ะ”
“แล้วมันเขียนว่าอะไรล่ะ?” จุนฮเวยิ้มมุมปากและเลิกคิ้วถาม
ถามทำไมฟะ !! ฉันต้องอ่านให้ฟังรึไงเล่า !!!
“....เขียนว่าอะไรแล้วจะทำไมอะ”
“ก็อ่านแล้วแปลดิ หรือจะให้ฉีก?” หน็อยยย หมอนี่ คนอุสส่าห์อารมณ์ดีมานะ T^T .. เพิ่งคิดอยู่หยกๆว่าช่วงนี้ไม่บังคับเอะอะเผาหนังสือ เอะอะจิ๊กหนังสือ ไปแหม่บๆ นี่เอาอีกแล้วอะ !!
“ง่ะ.. ”
“เร็วๆ .. หนึ่ง”
“เห้ย เดี๋ยวดิ อย่านะ ทำไมฉันต้องอ่านเนี่ยยยยยยยย”
“สอง”
“โอ้ยยยยยยย นายจะบ้ารึไง อย่ามา..”
“สา..”
“คิมดงฮยอกของกุจุนฮเว!!”
T^T ……………โถ อยากจะตบปากตัวเอง...... โอ้ยยยยยยยยยยยยย แงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงง ไอ้บ้า ไอ้โรคจิต ฮือๆๆๆๆๆๆ แม่งเอ้ย ทำไมต้องหนังสือวิชาปรุงยานี่อีกแล้ว ทำไมศจ.เนปต้องสอนวิชานี้ ทำไมศจ.สเปนต้องตรวจหนังสือ ทำไมเนื้อหามันต้องยากจนผมต้องพกติดตัว ทำไม ทำไม เว๊ !! อยากจะโทษทุกอย่างที่ทำให้ผมต้องคอยรักคอยหวงหนังสือบ้านี้ละเกิน !!
“ดี.. งั้นหมายความว่า ของของนาย ก็เหมือนของของฉัน” จุนฮเวยิ้มพอใจ ก่อนจะลดมือที่จะฉีกหนังสือของผมลง
“มันหมายความว่างั้นเหรอ?”
“หรือนายจะหมายถึงอย่างอื่นล่ะ”
“.........................”
ไอ้อย่างอื่นที่ว่ามันคืออะไรก็ไม่รู้หรอก แต่ไม่เอาดีกว่า
เดี๋ยวต้องไปคอยเป็นทาสให้ขึ้นมาจะว่าไง..
“ไม่เถียงแหละดีแล้วครับ เป็นเด็กดีแล้วเริ่มสอนหนังสือผมซะนะครับ”
“อย่ามาพูดเหมือนฉันเป็นเด็กได้ป่ะล่ะ”
“นี่.. เริ่มสอนสักทีสิ ตัวแค่นี้อย่าซ่าให้มากได้ป่ะล่ะ” จุนฮเวถลึงตาใส่ผมทีนึง แง่ !! คิดว่ากลัวรึไง เหอะ!!
ผมแอบเบะปากใส่ทีนึง เหมือนจุนฮเวจะเห็นแต่ก็ไม่ได้สนใจอะไร .. ผมจึงหยิบหนังสือวิชาปรุงยาของจุนฮเวมาตรวจดูบ้าง
.
.
โห ใช้ได้นี่...
“ว้าว นายใช้ปากกาเน้นคำด้วยนี่ งั้นเมื่อคืนก็นอนดึกเลยล่ะสิ >_<”
“ก็มันจะสอบเก็บคะแนนแล้วอ่ะ ละได้ของใหม่มาเลยใช้สักหน่อย..ปรากฏว่ายาวถึงตี1เลยกว่าจะได้นอน”
“โถ่เอ้ย เห่อของใหม่นี่เอง ฮ่าๆๆ >_<”
“พูดมากน่า.. อยากเรียนแล้ว”
“อะๆ โอเคคค ป่ะเริ่ม..”
.
.
.
“ฮ๊าวววว จุนฮเว.. นายรู้ไหมว่าบิซัวร์หาได้จากที่อื่นอีกนะนอกจากกระเพาะแพะ..” งืม.. ไปๆมา ตอนนี้หนังตาผมเริ่มหนักขึ้นเรื่อยๆ อาจจะเป็นผลมาจากอาหารเย็นที่กินซะอิ่ม.. หนังท้องตึง หนังตาก็ยานเลยครับ นี่เราติวกันมานานรึยังง่ะ..เริ่มง่วงหนักแล้วสิ..
“....” ไร้เสียงตอบรับใดๆจากจุนฮเว
“จุนเน่..” ผมหันไปมองข้างๆ ก็เห็นคนตัวใหญ่ฟุบหลับลงไปพร้อมกับปากกาเน้นคำสีชมพูแสบตา(ของผมอีกแล้ว)ที่ยังคงคาอยู่ในมือ..
เมื่อคืนนายคงจะเพลิดเพลินกับการติวมากสินะจุนเน่..
ว่าแต่นี่มันกี่โมงแล้วหว่า..
ผมลุกจากโต๊ะแล้วเดินออกไปเพื่อดูนาฬิกาเรือนใหญ่ที่ตั้งไว้บริเวณกลางห้องสมุด
..
หืม.. เข็มสั้นชี้เลข 11 เข็มยาวชี้เลข 4 ..
ตายห่า !!! นี่มันห้าทุ่มเกือบจะครึ่งแล้วนี่หว่า !!! O_O ..
ฉิบหายและ ผมถึงกับสร่างง่วง ตาสว่างทันที นี่ผมติวหนังสือมาราธอนให้คนอื่นนานขนาดนี้เลยเหรอเนี่ย..
แถมนี้ก็มืดมากแล้วด้วย.. ไฟตรงทางเดินก็คงจะมืดมาก T^T .. วันนี้ผมต้องไปส่งจุนฮเวอีกแล้วใช่มั้ยเนี่ย..
แล้วขากลับล่ะ TT^TT ขากลับจะทำยังไง .. วันนี้คงไม่ได้ฟลุ้คเจอพี่มิโนแบบเมื่อวานอีกแล้วแน่เลย แง่ง T^T !!!!
ผมเดินกลับไปที่โต๊ะที่พวกเราใช้ติวหนังสือ และปลุกจุนฮเวที่กำลังหลับสนิทให้ตื่น..
“จุนเนนนนนนนนน่ ตื่นเดี๋ยวนี้นะ !! T^T ”
“อือ.........”
“ตื่นเดี๋ยวนี้ กูจุนฮเว !! นี่มัน5ทุ่มครึ่งแล้ว !!” ผมตะโกนเสียงดังใส่จุนฮเว นั่นทำให้จุนฮเวลืมตาผลุบและเด้งตัวขึ้นมานั่งทันที
“นายว่าไงนะ !!”
“นี่มันห้าทุ่มครึ่งแล้ว !! T^T”
.
.
.
“แน่ใจใช่มั้ยว่ากลับหอเองได้อ่ะจุนเน่..”
“............................ อืม”
ดูเหมือนจุนฮเวจะสนใจความมืดข้างหน้ามากกว่าจะสนใจสรรพนามที่ผมใช้แทนเจ้าตัวว่าจุนเน่ซะแล้วล่ะ..
“งั้นแยกกันตรงนี้นะ...”
ผมกำลังจะหันหลังเดิน แต่จุนฮเวก็เรียกให้ผมกลับไปหา
“เดี๋ยววว ดงฮยอกกกกก!!”
“.... อะไรอ่า.. ไหนว่าแน่ใจไง”
“เออ ก็แน่ใจแหละ.”
“….”
“แน่ใจว่าไปไม่ได้ไงโว้ย!!!!!” จุนฮเวพูดสียงดังและรีบก้าวฉับๆเดินตามผมมาติดๆ
“ฉันไม่อยากไปส่ง..”
“ก็ไม่ได้บอกให้ไปส่งไง แต่ขอไปด้วย ”
“จะบ้าเหรอ..”
“ไม่บ้าแหละ ดูดิวะว่ามันมืดขนาดไหนอ่ะ”
“แต่...”
“ไม่ !!... พี่แทฮยอนยังทำบ่อยเลยไม่ใช่เหรอไง?”
“.... ก็จริงนะแต่ฉันกลัว..”
“แล้วนายจะทิ้งให้ฉันอยู่กับความมืด ทั้งๆที่รู้ว่าฉันกลัวว่างั้น?”
.. อึก ..
จะไปทิ้งได้ไงเล่า T^T ฮือ..
เออก็ได้
เออ!!!
พาไปด้วยกันก็ได้ !!
ไปหอกริฟฟินดอร์กัน TT^TT ..
.
.
“ใส่เสื้อคลุมฉันไว้ ถอดเสื้อคลุมกับเนคไทนายออกด้วย..” ผมบอกจุนฮเวก่อนที่บันไดเวทย์มนตร์จะพาเราไปสู่ชั้นที่เป็นหอพักของบ้านกริฟฟินดอร์
“นี่นายจำทางเข้าหอพักตัวเองไม่ได้รึไง.. จะเที่ยงคืนอยู่แล้วเพิ่งถึงหอ”
“ก็จำไม่ได้อ่ะดิ อย่าบ่นมากได้ป่ะ”
หมอนี่เงียบไปคงเพราะรู้ว่า ถ้าเถียงผมต่อไปผมอาจจะทิ้งหมอนี่ไว้กลางทางกับความมืดแล้วเดินเข้าหอตัวเองไปได้อย่างสบายๆ
“สัญญากันก่อนว่าถ้ารู้รหัสแล้วจะไม่บอกใคร”
“เห็นฉันเป็นคนยังไงเนี่ย”
“สัญญาสิ!” ผมยื่นมือไปให้จุนฮเวเกี่ยวก้อยเพื่อทำการสัญญากัน แม้จะเป็นวิธีที่เด็กๆเขาใช้ทำกัน แต่มันก็สบายใจกว่าพูดกันปากเปล่า
“.. เออๆ” จุนฮเวยื่นมือตัวองมาเกี่ยวก้อยกับมือของผม
“โอเค..ป่ะ”
.
.
“สุภาพสตรีอ้วนครับ..” ผมพูดกับรูปภาพของสุภาพสตรีอ้วนซึ่งเป็นประตูทางเข้าสู่หอของกริฟฟินดอร์โดยมีจุนฮเวที่นำเสื้อคลุมของผมไปสวมและดึงส่วนหมวก(ฮู้ด)ขึ้นมาคลุมหัว
“หนู ทำไมถึงกลับดึกขนาดนี้.. ”
“อ่อแหะๆ คือพวกเราหลงทางกันนานมากไปหน่อยระหว่างทางกลับจากห้องสมุดครับ ขอพวกเราเข้าไปหน่อยนะครับ”
“อ๋อ รีบเข้านะ ก่อนที่ฟิลช์จะตามมาจนเจอ.. เอ้า ..รหัสผ่าน”
“จมูกหมู”
สุภาพสตรีอ้วนเปิดทางให้พวกเราเข้าไปที่หอของกริฟฟินดอร์ ผมจึงเดินนำจุนฮเวขึ้นไปทางห้องพัก..
“เฮ้ย นี่มันดึกแล้ว เดี๋ยวฉันไปเอง”
“ได้ไง!! ดงฮยอกเป็นน้องฉันนะ นายนั่นแหละอยู่นี่เลยฮันบิน”
มีเสียงคนคุยกัน(หรือทะเลาะกัน..)ดังออกมาจากประตูห้องของผม
ก๊อก ก๊อก ก๊อก
ผมเคาะประตูห้องตัวเองสามที.. เสียงในห้องเงียบลง
“ผมเองครับพี่”
ไม่นานนัก ประตูก็เปิดออกโดยพี่บ๊อบบี้ ภายในห้องมีพี่จินฮวานยืนทำหน้าบึ้งอยู่ข้างๆพี่ฮันบิน ส่วนแบมแบมก็นั่งทำหน้าเป็นกังวลอยู่ที่เตียงของตัวเอง
“ดงฮยอก!! ทำไมเพิ่งกลับเอาป่านนี้” พี่จินเดินพุ่งเข้ามาหาผมทันทีหลังจากที่ประตูถูกเปิดออก
“ขอโทษครับพี่จินฮวาน.. ที่ดงฮยอกต้องกลับดึกเป็นเพราะผมเอง”
..
จุนฮเว เมื่อเห็นว่าท่าจะไม่ดี หมอนี่จึงรีบมายืนบังผมไว้หน้าประตู แล้วก้มหัวน้อยๆเพื่อขอโทษทุกคนที่ทำให้ทุกคนเป็นห่วง
“... จุนฮเว?” พี่ฮันบินที่ดูเหมือนจะได้สติเป็นคนแรกของห้องพูดขึ้น
“จุนฮเว !! O_O ” พี่บ๊อบบี้พูดเสียงดังแล้วจึงรีบใช้มืออุดปากตัวเองเพราะรู้ตัวว่าเสียงดังเกินไป แล้วจากนั้นจึงโผล่หน้ามามองซ้ายมองขวาตามทางเดินแล้วรีบลากผมกับจุนฮเวเข้าห้องพักโดยไว
“..............”
“ดงฮยอกพาจุนฮเวมาที่นี่ได้ไง?” พี่จินเปิดประเด็นถามขึ้น
“เอ่อ.. คือว่ามันดึกแล้ว..แล้ว..”
“ผมขอจะมาเองครับ ดงฮยอกไม่ได้อนุญาต แต่ผมดื้อจะมาเอง เพราะผม...เอ่อ.. กลับหอเองไม่ได้”
จุนฮเวสารภาพ.. ทำไมวันนี้นายแมนจัง T^T นายช่วยแก้ตัวให้ฉันสองรอบแล้วนะ
“เฮ้อ.. ทำอะไรกันเนี้ยคิดให้ดีก่อนสิ.. ถ้าถูกจับได้ขึ้นมาจะยุ่งเอานะ”
พี่จินดุ.. กรรม นี่รู้ไหม.. เกิดมาผมไม่เคยโดนพี่จินดุเกิน3ครั้งเลยนะ และนี่คือครั้งที่3ที่ผมโดนพีจินดุอย่างจริงจัง T_T
“ไงก็เหอะ.. ดึกแล้ว ยังไงจุนฮเวก็น้องฉันแหละน่า” พี่ฮันบินที่เงียบมานานช่วยพูดขึ้น
“อือ.. นี้เห็นว่าเป็นนายหรอกนะจุนฮเว” พี่จินทำหน้าบึ้งแล้วจึงเดินกลับไปที่เตียงพร้อมกับพี่บ๊อบบี้ที่ทำหน้ามึน+ง่วงจนเต็มแก่
“ครับ.. ขอบคุณครับพี่ๆ ขอโทษที่ทำให้เป็นห่วงด้วยครับ” จุนฮเวว่าและก้มหัวบอกทุกคนในห้อง..
“ว่าแต่จะนอนยังไงล่ะเรา” พี่จินถามมาจากเตียงนอนของตัวเอง..
หันไปมองพี่บ๊อบบี้ที่หัวถึงนอนปุ้บ.. ก็ไปเฝ้าพระอินทร์ปั๊บ=_=
หันไปมองแบมแบม ... เฮ้ย.. ไม่ได้น่า.. พี่ฮันบินก็พี่ชายของจุนฮเว..
“พี่ฮันบิน.. นอนด้วยคนดิ” จุนฮเวหันหน้าไปขอแบ่งที่นอนกับพี่ฮันบินที่ยืนอยู่ด้วยกัน
“ไม่เอาโว้ย” ปฏิเสธทันควัน..
“นอนกับพี่ก็ได้จุนฮเว” พี่จินเสนอ พร้อมกับตบที่นอนที่ยังพอมีที่เหลือข้างๆ..
“ขอบคุณครั..”
“ไม่ได้โว้ย !!” พี่ฮันบินรีบขัดขึ้นทันที แม้ว่าจุนฮเวจะยังพูดไม่จบ..
“....”
“ใครพามาก็ให้มันนอนด้วยละกัน” พี่ฮันบินหันมามองหน้าผมแล้วจึงเดินกลับไปที่เตียงของตัวเอง..
แบมแบมก็หลับสนิทแล้ว..
พี่จินก็ถือไม้กายสิทธิ์เตรียมร่ายคาถาปิดไฟ.
...
นี่สรุปผมต้องให้จุนฮเวนอนด้วยใช่มั้ยครับ..
..
.
.
T^T !!
“ดงฮยอก?” พี่จินพูดขึ้น
“..ครับ พี่จินนอนเลยก็ได้เดี๋ยวดงปิดไฟเอง ขอเปลี่ยนเสื้อก่อน”
พูดจบพี่จินก็วางไม้กายสิทธิ์ลง และซุกตัวลงในที่นอน ..
ทิ้งให้เหลือแค่ผมกับจุนฮเวที่ยังคงยืนนิ่งอยู่กลางห้องนอน..
..
..
บนพื้นก็เจือกไม่มีที่อีก T^T สัมภาระ หนังสงหนังสือ เครื่องทำความร้อน ..
เฮ้อ..
ก็ได้วะ..
“เปลี่ยนชุดก่อนสิ..”
“อืม.. ” จุนฮเวพยักหน้ารับและถือวิสาสะเปิดกระเป๋าสัมภาระของพี่ฮันบินเพื่อหยิบชุดนอนขึ้นมาใส่.. ถ้าจุนฮเวใส่ของผมก็คงจะแปลกๆอยู่นะครับ.. เพราะด้วยขนาดตัวที่ต่างกันลิบนั้น.. คงคิดภาพออกใช่มั้ยครับ..
.
.
“เอ่อ... จะปิดไฟแล้วนะ...”
“อืม”
ตอนนี้ผมกับจุนฮเวนอนตัวเกือบติดกันอยู่บนเตียงของผม.. เพราะที่พื้นนั้นเต็มไปด้วยของมากมาย และเตียงของที่โรงเรียนจัดไว้ให้ก็ไม่ได้ใหญ่อะไรเลย.. นั่นทำให้คืนนี้ ผมอาจจะนอนได้ลำบากกว่าคืนอื่นๆ..
ผมโบกไม้กายสิทธิ์พร้อมกับร่ายคาถา.. ไฟทั้งห้องก็ดับลง
“น็อกซ์”
.
.
ห้องทั้งห้องเงียบสงัด .. มีเพียงแค่เสียงกรนของพี่บ๊อบบี้ที่ยังพอช่วยทลายความเงียบที่น่าอึดอัดนี้อยู่บ้าง
และเพราะเมื่อดับไฟ ความมืดก็ปรากฏ..
นั่นทำให้คนที่นอนอยู่ข้างๆผมตอนนี้จึงเขถิบตัวเองเข้ามาชิดผมมากขึ้น อย่างที่เรารู้กันว่าคนข้างๆผมกลัวความมืด..
แต่ไม่รู้ว่าหมอนี่รู้ตัวรึเปล่า ว่าเขยิบเข้มาใกล้ขนาดไหนน่ะ
“....”
“....”
“....”
“เปิดม่านไหม.. จะได้มีแสงลอดเข้ามาบ้าง” เมื่อสายตาของผมปรับรับกับความมืดให้พอมองเห็น ผมก็เห็นว่าจุนฮเวนอนแข็งทื่อ และดเหมือนว่าจะมีเหงื่อออกบ้าง.. บางที อาจจะหน้าซีดยู่ด้วยซ้ำ
“อือ..... ”
ผมลุกจากเตียง เดินไปเปิดม่านที่ใกล้ที่สุดให้แสงจันทร์สาดส่องเข้ามาภายในห้องนอน เพื่อทุเลาความมืดให้กับเด็กผู้ชายตัวใหญ่แต่ใจเล็กทุกครั้งที่อยู่ในความมืด
การเปิดม่านทำให้จุนฮเวมีท่าทีผ่อนคลายลง..
ผมจึงเดินกลับไปที่เตียง.. แต่ก็ต้องคิดหนักอีกครั้ง ว่าคืนนี้ผมจะต้องนอนใกล้ชิดกับหมอนี่ไปจนถึงเช้าจริงเหรอ = =
เฮ้ย.. คิดอะไรเยอะแยะวะ เราก็ผู้ชายด้วยกันนี่นา เอาวะ! นอนก็นอน..
ผมปีนขึ้นไปบนเตียงและนอนลง มีระยะห่างระหว่างผมกับจุนฮเวนิดหน่อย แค่พอให้รู้สึกว่าไม่อึดอัด..
เหรอ..
นอนไม่หลับง่ะ TT_TT
“เฮ้อ” จุนฮเวถอนหายใจออกมา.. นี่นายก็ยังไม่หลับเหรอ
“ยังไม่นอนเหรอ?” ผมหันหน้าไปทางจุนฮเว
“อืม.. นอนไม่หลับอ่ะ” ทีตอนในห้องสมุด.. นายยังหลับไม่เมื่อไหร่ก็ไม่รู้เลยนะ -*-
“แปลกสถานที่มั้ง”
“คงงั้น ว่าแต่ทำไมนายยังไม่หลับ?” จุนฮเวถามผมกลับบ้าง.. เออ.. สถานที่ก็ไม่ได้แปลกสักหน่อย ก็นอนอยู่ทุกวัน..
“ก็มันนอนไม่หลับอ่า..”
“จริงๆฉันจะหลับคนแรกของห้องพักเลย วันที่มาที่ฮอกวอตส์วันแรก ฉันก็หลับคนแรก”
“....ทำไมล่ะ?”
“นายก็เห็นนี้.. ถ้าปิดไฟมันก็มืดฉันไม่ชอบ”
“อ้อ.. นี่ไปเปิดม่านให้แล้วไง นอนสิ” ผมบอก
“นี่ บางทีถ้าฉันนอนกับพี่ฮันบินหรือคนอื่นตั้งแต่แรก ฉันอาจจะหลับไปแล้วก็ได้” จุนฮเวตะแคงข้างหันหน้ามาทางผม..
“.....”
ภายในห้องนอนที่มืดสนิทนี้ มีแสงจากพระจันทร์ยามค่ำคืนส่องผ่านหน้าต่างมา..
ทำให้ผมพอจะเห็นหน้าของคนที่นอนตะแคงหันมาทางผมและนอนสบตาอยู่ข้างๆได้บ้าง..
.
.
.
อือ.. บางที ถ้านายโตขึ้น นายคงเป็นคนที่ดูดีมากๆแน่เลย กูจุนฮเว..
เอ้ยเดี๋ยว.. ทำไมบรรยากาศมันพาไป T^T หยุดคิดแบบนั้นนะคิมดงฮยอก
“เฮ้อ แต่เพราะเป็นนาย ฉันเลยนอนไม่หลับ” ผมยังคงสบตากับจุนฮเว.. แม้ว่าจะมีเพียงแสงจันทร์ที่สาดส่องเข้ามาให้พอเห็นแววตาของอีกฝ่ายได้บ้างแม้เพียงเล็กน้อย..
ฮื่อ .. นอนกับผมแล้วมันทำไมเหรอ..
กลัวผมนอนดิ้นรึไงกัน..
นายคงกำลังหมายถึงแบบนั้นอยู่ใช่มั้ยกูจุนฮเว
“หมายความว่าไงอ่ะ ฉันนอนไม่ดิ้นหรอกนะเฟ้ย”
“ก็ไม่ได้พูดว่านายนอนดิ้นหนิ”
“งือ......อย่าดุสิ”
“ช่างมันเถอะ นอนไป๊” จุนฮเวขมวดคิ้วเล็กน้อย แล้วก็พลิกตัวกลับไปนอนหงายเหมือนเดิม ก่อนจะกระชับผ้าห่มขึ้นและหลับตาลงสนิท..
เชอะอะไรกัน.. งอนเหรอไง-*-
คนที่ควรงอนน่ะมันฉันต่างหากล่ะ..
ผมพลิกตัวหันไปอีกทางและหลับตาลงบ้าง..
ไม่ช้านักผมก็เริ่มรู้สึกง่วงขึ้นมาเสียจริงๆ งั้นผมนอนเลยดีกว่า ฮ๊าวว ..
ZZ Z zzz
.
.
“ฝันดีนะดงฮยอก”
------------------------------------------------------------------------------------------------ +
HAPPY DONGHYUK DAY !
แล้วก็สวัสดีปีใหม่ด้วยน้าา ขอบคุณรีดทุกคนค่ะ <3
ความคิดเห็น