ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [FIC:YG WIN] WIN IN HOGWARTS (JunHyuk,BJIN)

    ลำดับตอนที่ #15 : - ตอนที่ 14 - หอพัก

    • อัปเดตล่าสุด 3 ม.ค. 58



     



     

    ตกลงดงฮยอกอนุมัติให้พี่จีบพี่ชายเราไหมครับ ^^” พี่มาร์คถามพลางส่งยิ้มอบอุ่นมาให้

    ยิ้มหล่อ ใจดี สุภาพบุรุษขนาดนี้..

    ผมยินดีให้พี่เป็นพี่เขยเลยครับ >_<

    “ได้สิครับพี่มาร์ค”

    “แล้ว...”

    “แล้วอะไรเหรอครับ”

    “แล้วฮันบินละครับ?”

    “พี่ฮันบิน? พี่ฮันบินทำไมเหรอครับพี่มาร์ค” พี่มาร์คไม่ตอบอะไรแต่กลับส่งยิ้มให้ผม..

     

    ว่าแต่พี่ฮันบินทำไมหว่า.. หรือจะกังวลเรื่องที่พี่ฮันบินบอกว่าไม่ได้เมื่อเช้า..

     

    “อ๋อ ผมรู้ละ พี่มาร์คไม่ต้องห่วงเรื่องพี่ฮันบินนะครับ”

    “จริงเหรอ?”

    “จริงสิครับ ^^ เพราะตอนนี้ผมกำลังช่วยพี่ฮันบินจีบแบมแบมอยู่ไงล่า ~ ว่าเสร็จก็ชี้ไปที่เพื่อนตัวเองที่นั่งยิ้มน้อยยิ้มใหญ่อยู่ที่โต๊ะ

    “อ๋อ น้องน่ารักคนนั้นน่ะเอง.. เหมาะกับฮันบินดีเหมือนกันเนอะ ^^

    “เนอะ !! > < คิกๆ”

    “แล้วเราอยากให้พี่ช่วยอะไรไหมครับ? ^^

    ช่วย..อืม... ถ้าเป็นไปได้.. ก็อยากจะให้ไปตบกะโหลกพวกเพื่อนของจุนฮเวให้หน่อยเหมือนกันนะครับ.. แต่ไว้ก่อนดีกว่า

    “แฮ่ๆ ไม่เป็นไรครับ ผมหิวข้าวแล้ว ขอกลับไปที่โต๊ะก่อนน้า”

    “ครับ .. มีอะไรบอกพี่ได้นะ เห็นอย่างงี้ พี่เป็นพรีเฟคของบ้านสลิธีรินนะครับ เด็กบ้านพี่ทำอะไรเรา บอกพี่เลยนะ”

    หว่าว.. เสร็จโก๋ *-* ... ได้ตีซี้กับประธานของบ้านสลิธีรินด้วยล่ะ ..

    ทีนี้น้า.. พวกแก๊งเวรของจุนฮเวมาทำให้ผมรำคาญแบบวันนี้อีกละก็ ตายยยยยยยย ฮี่ๆๆ ผมมีพี่มาร์คคุ้มครองแล้วครับ แล้วอนาคตเราก็จะเป็นครอบครัวเดียวกันด้วยอิอิ *-* (เดี๋ยวจ้ะลูกดง คือหนูไม่ควรรีบ)

     

    อ้อ.. ถามว่าวันนี้แก๊งเวรของกูจุนฮเวทำอะไรผมงั้นเหรอ.. อันที่จริงมันไม่ใช่แค่วันนี้หรอกครับคือมันก็เหมือนทุกๆวันที่เวลาผมเข้าไปทักทายจุนฮเว แล้วก็ชอบว่าผมว่า ไอ้ลูกมักเกิ้ลบ้าง เลือดสีโคลนบ้าง เหม็นบ้าง อันที่จริงผมก็ไม่ได้โกรธนะครับแต่มันน่ารำคาญอ่ะ!!! น่ารำคาญมาก !!!

    ถ้ายังจำตอนที่ผมไปเอาหนังสือถึงหน้าหอของสลิธีรินได้.. บอกเลยครับว่านั่นไม่ใช่ครั้งแรกที่โดนพวกเด็กบ้านนั้นจิกกัดหรอกนะครับ..

    แล้วยิ่งวันไหนเรียนพวกวิชาที่ต้องเรียนนอกห้องเรียน ซึ่งผมไม่ถนัดสุดๆแบบวิชาการขี่ไม้กวาดเนี่ยผมโดนแกล้งตลอดคาบเลย.. เด็กพวกนั้นชอบบินมาเฉี่ยวบ้าง เล่นขี่ไม้กวาดปาลูกบอลซึ่งพวกนี้มโนกันเองว่าเล่นควิดดิชแล้วปาบอลกันข้ามหัวผมบ้าง วันดีคืนดีก็ขี่ไม้กวาดมาชนผมจนเกือบตกไม้กวาด T^T !! แต่ยังดีที่ผมยังพอจะมีสัมพันธไมตรีที่ดีกับคนที่ดูเหมือนจะเป็นหัวหน้าแก๊งอย่างจุนฮเว (- -);; พวกนั้นก็เลยโดนจุนฮเวด่าบ้าง ตบหัวบ้าง เป็นคนที่ชอบใช้ความรุนแรงแต่เด็กเลยแหะ.. หวังว่าโตขึ้นจะไม่ยุ่งกับพวกพ่อมดฝ่ายมืดนะ..อืม..แต่คงไม่ยุ่งหรอก เพราะจุนฮเวกลัวความมืดไงล่ะ คิกๆๆ ^O^ (เดี๋ยวๆ มันคนละอย่างกันรูกกก)

     

    “ดงฮยอก”

    .. เสียงจุนฮเวนี่นา..

    ผมหันไปตามเสียงก็เห็นจุนฮเวนั่งอยู่กับแก๊งเลือดบริสุทธิ์เวรๆนั่น เห้อม - - เบื่อหน้าพวกแม่ง ขอโทษนะจุนฮเว ไว้ค่อยคุยกันคราวหลังนะกัน ตอนที่นายไม่ได้อยู่กับพวกนี้อะ..

     

    ผมหันไปเลิกคิ้วใส่ แล้วก็มองตรงเดินต่อไป

    แต่เดินไปได้เพียง4-5ก้าว จุนฮเวก็วิ่งตามมาสะกิดๆ หลัง .. งือ อะไรง่ะ คนกำลังจะไปกินข้าวเช้านะ

    “คุยกันก่อนแปปดิ”

    “เฮ้อ ก็ฉันเบื่อเพื่อนนายอ่ะ = =

    “อ่ะ.. ป่ะๆ ไปคุยที่อื่นก็ได้”

    “งือ.. ฉันหิวข้าวง่า..”

    “งั้นไปคุยกันที่โต๊ะนายก็ได้” จุนฮเวว่า และเดินนำไปที่โต๊ะของบ้านกริฟฟินดอร์ จุนฮเวทักทายแบมแบม นั่งลงที่ฝั่งตรงข้ามที่ตอนแรกเป็นที่ของพี่บ๊อบบี้และพี่ฮันบิน ซึ่งตอนนี้หายไปแล้ว  นั่นทำให้เพื่อนปีหนึ่งบ้านกริฟฟินดอร์คนหนึ่งของผมที่ชื่อ ยูคยอม หันมองมองหน้าจุนฮเวเหมือนจะถามว่า ไอ้เด็กสลิธีรินนี่มาไง

     

    “มองอะไร หน้าฉันเหมือนพ่อนายรึไง?” .. เอาแล้ว จุนฮเวววว นี่นายเดินมาถึงถิ่นเขาเองนะเว้ย..

    “เฮ้ย พูดให้มันดีดีหน่อยสิครับ นี่โต๊ะบ้านผมนะครับ^^” ยูคยอมก็ไม่ยอมเช่นกัน.. กวนตีนจุนฮเวกลับ ตายละ..

    “หยุดเถอะ.. ขอโทษนะยูค เพื่อนฉันมันนิสัยไม่ดีเท่าไหร่อ่ะ” ผมรีบเดินเข้าไปนั่งแทรกกลางระหว่างยูคคยอมกับจุนฮเวที่ตอนนี้จ้องหน้าเหมือนจะต่อยกันและรีบหันไปบอกให้ยูคยอมใจเย็นก่อน

     

    “เป็นเพื่อนกับเด็กสลิธีรินเนี่ยนะ?”

    “มึงพูดให้ดีๆ เด็กสลิธีรินละทำไม?” จุนฮเวชะเง้อหน้าออกมาคุยต่อ พวกนายเพิ่งจะ 13 นะ T^T  แถมอยู่ปี1ด้วย จะรีบมีเรื่องกันไปไหนเนี่ย ไอ้เด็กยักพวกงี้ แงๆๆๆ T^T

    “โอ๊ยยย พ๊อออออออออออ ขอเวลาฉันแปปนึงนะยูค”  

    “ก็ได้.. เห็นว่านายขอร้องเลยนะ..” ยูคยอมหันมาบอกกับผม และลุกไปนั่งที่อื่น

     

    “ชิ.. ก็ได้ เห็นว่านายขอร้องเลยนะ.. เลี่ยนว่ะ” จุนฮเวบ่นอุบอิบตามหลัง

    “นี่ จุนเน่ พอได้แล้วน่า ว่าแต่นายมีอะไรหะ?”

    “อ้อ  คือว่าเรื่องติวน่ะ”

    “อ่าหะ”

    “วันนี้อย่าลืมไปติวให้ฉันเหมือนเดิมนะ”

    “เมื่อวานก็ติวกันเกือบหมดแล้วนี่.. อ่านเองสิ” เมื่อผมพูดจบจุนฮเวก็ถอนหายใจเฮือกหนึ่ง .. อะระ ฉันต่างหากที่ควรจะถอนหายใจ ไม่ใช่นาย -3-

    แต่พรุ่งนี้ฉันมีสอบวิชาปรุงยาตอนบ่าย และนายก็รู้ว่าฉันโคตรไม่ถนัด

    งือ.. แต่ว่าฉันไม่อยากกลับดึกแล้วก็ไม่อยากส่งนายที่หน้าหอแล้วนะมันไกลง่ะ

    ฉันสัญญาว่าจะไม่เหมือนวันนั้นอีกแล้ว ฉันจะตั้งใจเรียน ขอร้องล่ะ เพื่อนฉันมันโง่ทุกคนอะ มีนายเป็นที่พึ่งคนเดียวเนี่ย..

    โถ่.. ฟังดูน่าสงสาร (สงสารเพื่อนหมอนี่อ่ะ)

    “อือ...... ก็ได้.. งั้นเจอกันที่ห้องสมุดหลังอาหารเย็นนะ อย่าลืมเตรียมหนังสือมาด้วย!!

    เมื่อผมตอบไปแบบนั้น จุนฮเวก็ยิ้มกว้างออกมา แล้วจึงเดินอย่างร่าอย่างร่าเริงกลับไปที่โต๊ะ..

     

    แต่เอ๊ะ ..

    ปกติหมอนี่ชอบใช้เรื่องหนังสือมาขู่นี่นา ..นี่ขอร้องเป็นกะเขาด้วยเหรอเนี่ย ~

    แต่ว่าดีแล้ว เพราะแบบนี้ค่อยน่าสอนขึ้นเยอะเลย ^O^

    .

    .

    .

    .

    “วันนี้จะกลับดึกรึเปล่าดงฮยอก..” แบมแบมที่ตอนแรกนั่งแทะขนมปังอยู่เงยหน้าขึ้นมาถามผมด้วยความเป็นห่วงหลังจากที่จุนฮเวเดินกลับไปที่โต๊ะของบ้านสลิธีรินแล้ว

    “ไม่หรอกมั้ง..แล้ว.. กับพี่ฮันบินเป็นไงมั่ง^O^” ผมถามจบอีกฝ่ายก็ดูเหมือนว่าขนมปังจะติดคอทันที ..

    “แอะ แค่กๆ ; - ; ดงฮยอกถามอะไรเนี่ย”

    “แหน่ ~~~ แบมแบม.. ” ผมแกล้งหรี่ตามองแบมแบมที่ตอนนี้ทั้งหน้าแดงคงเพราะโดนผมแซวทั้งขนมปังติดคอ คิกๆ ~

    “ไม่เอาน่า.. พี่เขาเดินมานู่นแล้ว” แบมแบมชี้ไปทางที่พีฮันบินและพี่บ๊อบบี้เดินตรงมา

    “จินฮวานยังไม่มาอีกเหรอ?” พี่บ๊อบบี้ถามขึ้นเมื่อเดินถึงโต๊ะ

    “ครับ.. ยังไม่มา อ้าวนี่พี่จะไปไหนอ่ะ ไม่กินข้าวเหรอ” พี่บ๊อบบี้และพี่ฮันบินไม่ตอบอะไรแต่ แต่ถือขนมปังไปคนละแผ่นกับนมแมวน้ำทะเลใต้รสช็อคโกแลตไปอีกคนละกล่องเดินออกไป .. แต่แล้วพี่ฮันบินก็ฝากของทั้งหมดไว้ที่พี่บ๊อบบี้ แล้วก็เดินกลับมาที่โต๊ะ

     

    พี่ฮันบินหยิบถุงพลาสติกเก่าๆขึ้นมาหนึ่งใบ จากนั้นจึงหยิบไม้กายสิทธิ์และเสกให้ถุงนั้นกลายเป็นกล่องพาสติกใสใบเล็กๆหนึ่งใบ จากนั้นก็เอาขนมครัวซอง2ชิ้นและนมแมวน้ำทะเลใต้รสจืด1กล่องใส่ลงไปในกล่องใสใบนั้น แล้วจึงยื่นให้แบมแบม

    “แบมแบม พี่ฝากของของหน่อยนะครับ”

    “ครับ?”

    “เผื่อว่าพี่ชายของดงฮยอกมันจะมากินข้าวเช้าไม่ทัน ฝากเอาไปให้ทีนะ”

    “อ๋อ.. ได้สิครับ ^^ แล้วพี่ฮันบินจะไปไหนเหรอ..”

    “วันนี้พี่กับไอ้บ๊อบจะโดดเรียน.. ส่วนเรา !! ” พี่ฮันบินชี้มาที่ผม

    “ห้ามบอกพี่ชายเราเด็ดขาดว่าพวกพี่โดด เข้าใจมะ?” พี่ฮันบินหันมาพูดกับผมด้วยสีหน้าจริงจัง

    “ง่ะ.. ครับ”

    เมื่อสั่งเสีย(?)เสร็จพี่ฮันบินก็วิ่งไปหาพี่บ๊อบบี้ และเดินออกจากห้องโถงหายไปเลย..

     

    แหน่.. แล้วทำไมพี่ฮันบินต้องฝากแบมแบมละครับ ผมน้องชายของพี่จินฮวานแท้ๆเลยนะ >_<  ทำไมไม่ฝากผมล่ะ แบบนี้นี่มัน.. ~~~~~

     

    “ฮี่ๆ >_< แบมแบม !!

    “หะ.. อะไร”

    “ฉันเป็นน้องชายแท้ๆของพี่จินเลยน้า..”

    “อื้อ.. ฉันรู้น่า..”

    “แล้วทำไมพี่ฮันบินต้องฝากของที่จะให้พี่จินไว้กับนายกันน้า >___<

    “ฉ.. ฉันจะไปรู้มั้ยเล่า -//- ” แบมแบมว่าพลางก้มหน้ามองกล่อง และพลิกมันไปมาเพื่อแก้เขิน.. คิกๆ อะไรกัน จั๊กจี้อ่ะ !! >3< พี่ฮันบินนี่ง่อววววววววววววววววว ร้ายจุงเลอออออ ผมนั่งหัวโด่อยู่นี่แท้ๆแต่ดันฝากแบมแบมอ่ะ คือไรอ่ะ !!

     

    กริ๊ว ๆ ~~~~~

    .

    .

    .

    ~ long time no see 그동안 어떻게 지냈너무 오랫동안 기다렸지이제 어디   baby don’t  worry ~

    ( ~ long time no see ~  จนตอนนี้คุณเป็นยังไงบ้าง ผมทิ้งให้คุณต้องรอนานเลย ผมจะไม่ไปไหนแล้วนะ baby don’t  worry ~  )

     

    “ใช่เลยฉันรอนานมาก - -

    ผมเดินฮัมเพลง Long time no see ของวง iKON ที่เพิ่งออกมาใหม่มาระหว่างทางอย่างอารมณ์ดีขณะที่เดินหาจุนฮเวตามหลืบต่างๆในห้องสมุด

    ที่ผมอารมณ์ดีเพราะวันนี้ผมสอบวิชาสมุนไพรศาสตร์ได้เต็มไงล่า ~~~ ศาสตราจารย์สเปราท์ชมด้วยแหละว่าเก่งเหมือนพี่จินเปี๊ยบ ไม่แปลกที่จะเป็นพี่น้องกัน คิกๆ >_< มีความสุข ~~~

    “ไม่เอาน่า ยี่สิบนาทีเอง ฉันกลับไปเอาปากกาไฮไลต์ที่หอมาแปปเดียวเอง ~ ” จุนฮเวเบะปากนิดหน่อยแต่ก็ชวนให้ผมนั่งลงตรงเก้าอี้ว่างข้างๆ .. ตอนนี้บนโต๊ะ มีหนังสือเรียนปากกาลูกลื่น(ของผมที่โดนหมอนี่จิ๊กไปเมื่อไหร่ก็ไม่รู้)กระดาษที่จดเมื่อวานของจุนฮเวและปากกาไฮไลต์สีเขียวที่ผมให้ไป

    “วันนี้อุปกรณ์ครบนี่นา ^^ ” ผมว่างพลางเอื้อมมือไปหยิบปากกาลูกลื่นของตัวเองเนียนๆ แต่จุนฮเวดันตาไวเห็นซะก่อนแล้วก็มาตีมือผมก่อนที่ผมจะทันได้แตะต้องปากกาของตัวเอง = =

    งือ.. นั่นปากกาฉันนะ T^T”

    ไม่รู้ไม่ชี้

    ได้ไงอ่ะ... อันนั้นแท่งเกือบโปรดเลยนะ

    เกือบโปรดอะไรของนาย.. จุนฮเวว่าพลางขมวดคิ้ว

    “ไม่รู้แหละ เอาปากกาฉันคืนมา~~~~

    “รู้ได้ไงว่าของนายอ่ะ”

    “ก็ฉันซื้อมาเองกับมือ.. แล้วฉันก็เชื่อว่าพ่อมดตั้งแต่กำเนิดอย่างนายไม่มีทางเคยใช้ปากกาลูกลื่นแบบพวกมักเกิ้ลเด็ดขาด *^*

    ...

    จุนฮเวมองหน้าผมนิ่ง..

    “ถ้านายยังไม่ลืม..” จุนฮเวว่าพลางเอื้อมมือมาหยิบหนังสือวิชาปรุงยาของผมที่ผมเอาติดตัวมาด้วยเพื่อที่เอาไว้ใช้สอนควบคู่กับของหมอนี่

    จุนฮเวเปิดหนังสือวิชาปรุงยาของผมไปที่หน้าแรก ซึ่งเป็นหน้าสำหรับเอาไว้เขียนชื่อของคนที่เป็นเจ้าของหนังสือ.. ซึ่งตอนแรกนั้นมันมีคำว่า ของ กูจุนฮเวเขียนไว้ แต่ผมได้เอาพลาสเตอร์ยามาปิดไว้หลังจากที่แบมแบมได้แกล้งผมโดยการเขียนชื่อผมลงไปข้างบนนั้น

    จุนฮเวแปะพลาสเตอร์ยาออก..

    “นี่ไง”

    คิมดงฮยอก ของ กูจุนฮเว..

    ให้ตาย.. นี่ขนาดอ่านในใจ ผมยังรู้สึกอยากเอาหน้าทิ่มเข้าไปในกองหนังสือแล้ว T^T

    “ทะ...ทำไมล่ะ”

    “แล้วมันเขียนว่าอะไรล่ะ?” จุนฮเวยิ้มมุมปากและเลิกคิ้วถาม

    ถามทำไมฟะ !! ฉันต้องอ่านให้ฟังรึไงเล่า !!!

    “....เขียนว่าอะไรแล้วจะทำไมอะ”

    “ก็อ่านแล้วแปลดิ หรือจะให้ฉีก?” หน็อยยย หมอนี่ คนอุสส่าห์อารมณ์ดีมานะ T^T .. เพิ่งคิดอยู่หยกๆว่าช่วงนี้ไม่บังคับเอะอะเผาหนังสือ เอะอะจิ๊กหนังสือ ไปแหม่บๆ นี่เอาอีกแล้วอะ !!

    ง่ะ..

    เร็วๆ .. หนึ่ง

    เห้ย เดี๋ยวดิ อย่านะ ทำไมฉันต้องอ่านเนี่ยยยยยยยย

    สอง

    โอ้ยยยยยยย นายจะบ้ารึไง อย่ามา..

    สา..

    คิมดงฮยอกของกุจุนฮเว!!”

    T^T ……………โถ อยากจะตบปากตัวเอง...... โอ้ยยยยยยยยยยยยย แงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงง ไอ้บ้า ไอ้โรคจิต ฮือๆๆๆๆๆๆ แม่งเอ้ย ทำไมต้องหนังสือวิชาปรุงยานี่อีกแล้ว ทำไมศจ.เนปต้องสอนวิชานี้ ทำไมศจ.สเปนต้องตรวจหนังสือ ทำไมเนื้อหามันต้องยากจนผมต้องพกติดตัว ทำไม ทำไม เว๊ !! อยากจะโทษทุกอย่างที่ทำให้ผมต้องคอยรักคอยหวงหนังสือบ้านี้ละเกิน !!

     

    ดี.. งั้นหมายความว่า ของของนาย ก็เหมือนของของฉันจุนฮเวยิ้มพอใจ ก่อนจะลดมือที่จะฉีกหนังสือของผมลง

    “มันหมายความว่างั้นเหรอ?”

    “หรือนายจะหมายถึงอย่างอื่นล่ะ”

    “.........................”

    ไอ้อย่างอื่นที่ว่ามันคืออะไรก็ไม่รู้หรอก แต่ไม่เอาดีกว่า

     

    เดี๋ยวต้องไปคอยเป็นทาสให้ขึ้นมาจะว่าไง..

     

    “ไม่เถียงแหละดีแล้วครับ เป็นเด็กดีแล้วเริ่มสอนหนังสือผมซะนะครับ”

    “อย่ามาพูดเหมือนฉันเป็นเด็กได้ป่ะล่ะ”

    “นี่.. เริ่มสอนสักทีสิ ตัวแค่นี้อย่าซ่าให้มากได้ป่ะล่ะ” จุนฮเวถลึงตาใส่ผมทีนึง แง่ !! คิดว่ากลัวรึไง เหอะ!!

     

    ผมแอบเบะปากใส่ทีนึง เหมือนจุนฮเวจะเห็นแต่ก็ไม่ได้สนใจอะไร .. ผมจึงหยิบหนังสือวิชาปรุงยาของจุนฮเวมาตรวจดูบ้าง

    .

    .

    โห ใช้ได้นี่...

     

     

    “ว้าว นายใช้ปากกาเน้นคำด้วยนี่  งั้นเมื่อคืนก็นอนดึกเลยล่ะสิ >_<

    “ก็มันจะสอบเก็บคะแนนแล้วอ่ะ ละได้ของใหม่มาเลยใช้สักหน่อย..ปรากฏว่ายาวถึงตี1เลยกว่าจะได้นอน”

    “โถ่เอ้ย เห่อของใหม่นี่เอง ฮ่าๆๆ >_<

    “พูดมากน่า.. อยากเรียนแล้ว”

    “อะๆ โอเคคค ป่ะเริ่ม..”

     

    .

    .

    .

    ฮ๊าวววว จุนฮเว.. นายรู้ไหมว่าบิซัวร์หาได้จากที่อื่นอีกนะนอกจากกระเพาะแพะ..งืม.. ไปๆมา ตอนนี้หนังตาผมเริ่มหนักขึ้นเรื่อยๆ อาจจะเป็นผลมาจากอาหารเย็นที่กินซะอิ่ม.. หนังท้องตึง หนังตาก็ยานเลยครับ นี่เราติวกันมานานรึยังง่ะ..เริ่มง่วงหนักแล้วสิ..

    “....” ไร้เสียงตอบรับใดๆจากจุนฮเว

    “จุนเน่..” ผมหันไปมองข้างๆ ก็เห็นคนตัวใหญ่ฟุบหลับลงไปพร้อมกับปากกาเน้นคำสีชมพูแสบตา(ของผมอีกแล้ว)ที่ยังคงคาอยู่ในมือ..

     

    เมื่อคืนนายคงจะเพลิดเพลินกับการติวมากสินะจุนเน่..

    ว่าแต่นี่มันกี่โมงแล้วหว่า..

     

    ผมลุกจากโต๊ะแล้วเดินออกไปเพื่อดูนาฬิกาเรือนใหญ่ที่ตั้งไว้บริเวณกลางห้องสมุด

    ..

    หืม.. เข็มสั้นชี้เลข 11 เข็มยาวชี้เลข 4 ..

     

    ตายห่า !!! นี่มันห้าทุ่มเกือบจะครึ่งแล้วนี่หว่า !!! O_O ..

     

    ฉิบหายและ ผมถึงกับสร่างง่วง ตาสว่างทันที นี่ผมติวหนังสือมาราธอนให้คนอื่นนานขนาดนี้เลยเหรอเนี่ย..

    แถมนี้ก็มืดมากแล้วด้วย.. ไฟตรงทางเดินก็คงจะมืดมาก T^T .. วันนี้ผมต้องไปส่งจุนฮเวอีกแล้วใช่มั้ยเนี่ย..

    แล้วขากลับล่ะ TT^TT ขากลับจะทำยังไง .. วันนี้คงไม่ได้ฟลุ้คเจอพี่มิโนแบบเมื่อวานอีกแล้วแน่เลย แง่ง T^T !!!!

     

    ผมเดินกลับไปที่โต๊ะที่พวกเราใช้ติวหนังสือ และปลุกจุนฮเวที่กำลังหลับสนิทให้ตื่น..

    “จุนเนนนนนนนนน่ ตื่นเดี๋ยวนี้นะ !! T^T

    “อือ.........”

    “ตื่นเดี๋ยวนี้ กูจุนฮเว !! นี่มัน5ทุ่มครึ่งแล้ว !!” ผมตะโกนเสียงดังใส่จุนฮเว นั่นทำให้จุนฮเวลืมตาผลุบและเด้งตัวขึ้นมานั่งทันที

    “นายว่าไงนะ !!

    “นี่มันห้าทุ่มครึ่งแล้ว !! T^T

     

    .

    .

    .

    “แน่ใจใช่มั้ยว่ากลับหอเองได้อ่ะจุนเน่..”

    “............................ อืม”

    ดูเหมือนจุนฮเวจะสนใจความมืดข้างหน้ามากกว่าจะสนใจสรรพนามที่ผมใช้แทนเจ้าตัวว่าจุนเน่ซะแล้วล่ะ..

    “งั้นแยกกันตรงนี้นะ...”

    ผมกำลังจะหันหลังเดิน แต่จุนฮเวก็เรียกให้ผมกลับไปหา

    “เดี๋ยววว ดงฮยอกกกกก!!”

    .... อะไรอ่า.. ไหนว่าแน่ใจไง

    เออ ก็แน่ใจแหละ.

    ….

    “แน่ใจว่าไปไม่ได้ไงโว้ย!!!!!” จุนฮเวพูดสียงดังและรีบก้าวฉับๆเดินตามผมมาติดๆ

    “ฉันไม่อยากไปส่ง..”

    “ก็ไม่ได้บอกให้ไปส่งไง แต่ขอไปด้วย ”

    “จะบ้าเหรอ..”

    ไม่บ้าแหละ ดูดิวะว่ามันมืดขนาดไหนอ่ะ

    แต่...

    ไม่ !!... พี่แทฮยอนยังทำบ่อยเลยไม่ใช่เหรอไง?

    .... ก็จริงนะแต่ฉันกลัว..

    แล้วนายจะทิ้งให้ฉันอยู่กับความมืด ทั้งๆที่รู้ว่าฉันกลัวว่างั้น?

     

    .. อึก ..

    จะไปทิ้งได้ไงเล่า T^T ฮือ..

    เออก็ได้

     

    เออ!!!

    พาไปด้วยกันก็ได้ !!

     

    ไปหอกริฟฟินดอร์กัน TT^TT ..

    .

    .

    “ใส่เสื้อคลุมฉันไว้ ถอดเสื้อคลุมกับเนคไทนายออกด้วย..” ผมบอกจุนฮเวก่อนที่บันไดเวทย์มนตร์จะพาเราไปสู่ชั้นที่เป็นหอพักของบ้านกริฟฟินดอร์

    นี่นายจำทางเข้าหอพักตัวเองไม่ได้รึไง.. จะเที่ยงคืนอยู่แล้วเพิ่งถึงหอ

    ก็จำไม่ได้อ่ะดิ อย่าบ่นมากได้ป่ะ

    หมอนี่เงียบไปคงเพราะรู้ว่า ถ้าเถียงผมต่อไปผมอาจจะทิ้งหมอนี่ไว้กลางทางกับความมืดแล้วเดินเข้าหอตัวเองไปได้อย่างสบายๆ

    สัญญากันก่อนว่าถ้ารู้รหัสแล้วจะไม่บอกใคร

    เห็นฉันเป็นคนยังไงเนี่ย

    สัญญาสิ!” ผมยื่นมือไปให้จุนฮเวเกี่ยวก้อยเพื่อทำการสัญญากัน แม้จะเป็นวิธีที่เด็กๆเขาใช้ทำกัน แต่มันก็สบายใจกว่าพูดกันปากเปล่า

    .. เออๆ” จุนฮเวยื่นมือตัวองมาเกี่ยวก้อยกับมือของผม

     

    “โอเค..ป่ะ”

    .

    .

    “สุภาพสตรีอ้วนครับ..” ผมพูดกับรูปภาพของสุภาพสตรีอ้วนซึ่งเป็นประตูทางเข้าสู่หอของกริฟฟินดอร์โดยมีจุนฮเวที่นำเสื้อคลุมของผมไปสวมและดึงส่วนหมวก(ฮู้ด)ขึ้นมาคลุมหัว

    “หนู ทำไมถึงกลับดึกขนาดนี้.. ”

    “อ่อแหะๆ คือพวกเราหลงทางกันนานมากไปหน่อยระหว่างทางกลับจากห้องสมุดครับ ขอพวกเราเข้าไปหน่อยนะครับ”

    “อ๋อ รีบเข้านะ ก่อนที่ฟิลช์จะตามมาจนเจอ.. เอ้า ..รหัสผ่าน”

    จมูกหมู

     

    สุภาพสตรีอ้วนเปิดทางให้พวกเราเข้าไปที่หอของกริฟฟินดอร์ ผมจึงเดินนำจุนฮเวขึ้นไปทางห้องพัก..

     

    “เฮ้ย นี่มันดึกแล้ว เดี๋ยวฉันไปเอง”

    “ได้ไง!! ดงฮยอกเป็นน้องฉันนะ นายนั่นแหละอยู่นี่เลยฮันบิน”

     

    มีเสียงคนคุยกัน(หรือทะเลาะกัน..)ดังออกมาจากประตูห้องของผม

     

    ก๊อก ก๊อก ก๊อก

    ผมเคาะประตูห้องตัวเองสามที.. เสียงในห้องเงียบลง

    “ผมเองครับพี่”

    ไม่นานนัก ประตูก็เปิดออกโดยพี่บ๊อบบี้ ภายในห้องมีพี่จินฮวานยืนทำหน้าบึ้งอยู่ข้างๆพี่ฮันบิน ส่วนแบมแบมก็นั่งทำหน้าเป็นกังวลอยู่ที่เตียงของตัวเอง

     

    “ดงฮยอก!! ทำไมเพิ่งกลับเอาป่านนี้” พี่จินเดินพุ่งเข้ามาหาผมทันทีหลังจากที่ประตูถูกเปิดออก

    “ขอโทษครับพี่จินฮวาน.. ที่ดงฮยอกต้องกลับดึกเป็นเพราะผมเอง”

    ..

    จุนฮเว เมื่อเห็นว่าท่าจะไม่ดี หมอนี่จึงรีบมายืนบังผมไว้หน้าประตู แล้วก้มหัวน้อยๆเพื่อขอโทษทุกคนที่ทำให้ทุกคนเป็นห่วง

     

    “... จุนฮเว?” พี่ฮันบินที่ดูเหมือนจะได้สติเป็นคนแรกของห้องพูดขึ้น

    “จุนฮเว !! O_O ” พี่บ๊อบบี้พูดเสียงดังแล้วจึงรีบใช้มืออุดปากตัวเองเพราะรู้ตัวว่าเสียงดังเกินไป แล้วจากนั้นจึงโผล่หน้ามามองซ้ายมองขวาตามทางเดินแล้วรีบลากผมกับจุนฮเวเข้าห้องพักโดยไว

     

    ..............

    ดงฮยอกพาจุนฮเวมาที่นี่ได้ไง?พี่จินเปิดประเด็นถามขึ้น

    “เอ่อ.. คือว่ามันดึกแล้ว..แล้ว..”

    “ผมขอจะมาเองครับ ดงฮยอกไม่ได้อนุญาต แต่ผมดื้อจะมาเอง เพราะผม...เอ่อ.. กลับหอเองไม่ได้”

     

    จุนฮเวสารภาพ.. ทำไมวันนี้นายแมนจัง T^T นายช่วยแก้ตัวให้ฉันสองรอบแล้วนะ

     

    “เฮ้อ.. ทำอะไรกันเนี้ยคิดให้ดีก่อนสิ.. ถ้าถูกจับได้ขึ้นมาจะยุ่งเอานะ”

     

    พี่จินดุ.. กรรม นี่รู้ไหม.. เกิดมาผมไม่เคยโดนพี่จินดุเกิน3ครั้งเลยนะ และนี่คือครั้งที่3ที่ผมโดนพีจินดุอย่างจริงจัง T_T

     

    ไงก็เหอะ.. ดึกแล้ว ยังไงจุนฮเวก็น้องฉันแหละน่าพี่ฮันบินที่เงียบมานานช่วยพูดขึ้น

    “อือ.. นี้เห็นว่าเป็นนายหรอกนะจุนฮเว” พี่จินทำหน้าบึ้งแล้วจึงเดินกลับไปที่เตียงพร้อมกับพี่บ๊อบบี้ที่ทำหน้ามึน+ง่วงจนเต็มแก่

     

    “ครับ.. ขอบคุณครับพี่ๆ ขอโทษที่ทำให้เป็นห่วงด้วยครับ” จุนฮเวว่าและก้มหัวบอกทุกคนในห้อง..

     

    ว่าแต่จะนอนยังไงล่ะเราพี่จินถามมาจากเตียงนอนของตัวเอง..

     

    หันไปมองพี่บ๊อบบี้ที่หัวถึงนอนปุ้บ.. ก็ไปเฝ้าพระอินทร์ปั๊บ=_=

     

    หันไปมองแบมแบม ... เฮ้ย.. ไม่ได้น่า.. พี่ฮันบินก็พี่ชายของจุนฮเว..

     

    “พี่ฮันบิน.. นอนด้วยคนดิ” จุนฮเวหันหน้าไปขอแบ่งที่นอนกับพี่ฮันบินที่ยืนอยู่ด้วยกัน

    “ไม่เอาโว้ย” ปฏิเสธทันควัน..

    “นอนกับพี่ก็ได้จุนฮเว” พี่จินเสนอ พร้อมกับตบที่นอนที่ยังพอมีที่เหลือข้างๆ..

    “ขอบคุณครั..”

    “ไม่ได้โว้ย !!” พี่ฮันบินรีบขัดขึ้นทันที แม้ว่าจุนฮเวจะยังพูดไม่จบ..

     

    “....”

    “ใครพามาก็ให้มันนอนด้วยละกัน” พี่ฮันบินหันมามองหน้าผมแล้วจึงเดินกลับไปที่เตียงของตัวเอง..

    แบมแบมก็หลับสนิทแล้ว..

    พี่จินก็ถือไม้กายสิทธิ์เตรียมร่ายคาถาปิดไฟ.

     

    ...

     

    นี่สรุปผมต้องให้จุนฮเวนอนด้วยใช่มั้ยครับ..

    ..

    .

    .

    T^T !!

    “ดงฮยอก?” พี่จินพูดขึ้น

    “..ครับ พี่จินนอนเลยก็ได้เดี๋ยวดงปิดไฟเอง ขอเปลี่ยนเสื้อก่อน”

    พูดจบพี่จินก็วางไม้กายสิทธิ์ลง และซุกตัวลงในที่นอน ..

     

    ทิ้งให้เหลือแค่ผมกับจุนฮเวที่ยังคงยืนนิ่งอยู่กลางห้องนอน..

    ..

    ..

    บนพื้นก็เจือกไม่มีที่อีก T^T สัมภาระ หนังสงหนังสือ เครื่องทำความร้อน ..

    เฮ้อ..

     

    ก็ได้วะ..

     

    “เปลี่ยนชุดก่อนสิ..”

    “อืม.. ” จุนฮเวพยักหน้ารับและถือวิสาสะเปิดกระเป๋าสัมภาระของพี่ฮันบินเพื่อหยิบชุดนอนขึ้นมาใส่.. ถ้าจุนฮเวใส่ของผมก็คงจะแปลกๆอยู่นะครับ.. เพราะด้วยขนาดตัวที่ต่างกันลิบนั้น.. คงคิดภาพออกใช่มั้ยครับ..

    .

    .

    “เอ่อ... จะปิดไฟแล้วนะ...”

    “อืม” 

     

    ตอนนี้ผมกับจุนฮเวนอนตัวเกือบติดกันอยู่บนเตียงของผม.. เพราะที่พื้นนั้นเต็มไปด้วยของมากมาย และเตียงของที่โรงเรียนจัดไว้ให้ก็ไม่ได้ใหญ่อะไรเลย.. นั่นทำให้คืนนี้ ผมอาจจะนอนได้ลำบากกว่าคืนอื่นๆ..

     

    ผมโบกไม้กายสิทธิ์พร้อมกับร่ายคาถา.. ไฟทั้งห้องก็ดับลง

    “น็อกซ์”

     

    .

    .

    ห้องทั้งห้องเงียบสงัด .. มีเพียงแค่เสียงกรนของพี่บ๊อบบี้ที่ยังพอช่วยทลายความเงียบที่น่าอึดอัดนี้อยู่บ้าง

    และเพราะเมื่อดับไฟ ความมืดก็ปรากฏ..

    นั่นทำให้คนที่นอนอยู่ข้างๆผมตอนนี้จึงเขถิบตัวเองเข้ามาชิดผมมากขึ้น อย่างที่เรารู้กันว่าคนข้างๆผมกลัวความมืด..

     

    แต่ไม่รู้ว่าหมอนี่รู้ตัวรึเปล่า ว่าเขยิบเข้มาใกล้ขนาดไหนน่ะ

    “....”

    “....”

    “....”

    “เปิดม่านไหม.. จะได้มีแสงลอดเข้ามาบ้าง” เมื่อสายตาของผมปรับรับกับความมืดให้พอมองเห็น ผมก็เห็นว่าจุนฮเวนอนแข็งทื่อ และดเหมือนว่าจะมีเหงื่อออกบ้าง.. บางที อาจจะหน้าซีดยู่ด้วยซ้ำ

    “อือ..... ”

    ผมลุกจากเตียง เดินไปเปิดม่านที่ใกล้ที่สุดให้แสงจันทร์สาดส่องเข้ามาภายในห้องนอน เพื่อทุเลาความมืดให้กับเด็กผู้ชายตัวใหญ่แต่ใจเล็กทุกครั้งที่อยู่ในความมืด

    การเปิดม่านทำให้จุนฮเวมีท่าทีผ่อนคลายลง..

    ผมจึงเดินกลับไปที่เตียง.. แต่ก็ต้องคิดหนักอีกครั้ง ว่าคืนนี้ผมจะต้องนอนใกล้ชิดกับหมอนี่ไปจนถึงเช้าจริงเหรอ = =

    เฮ้ย.. คิดอะไรเยอะแยะวะ เราก็ผู้ชายด้วยกันนี่นา เอาวะ! นอนก็นอน..

    ผมปีนขึ้นไปบนเตียงและนอนลง มีระยะห่างระหว่างผมกับจุนฮเวนิดหน่อย แค่พอให้รู้สึกว่าไม่อึดอัด..

     

    เหรอ..

     

    นอนไม่หลับง่ะ TT_TT

    “เฮ้อ” จุนฮเวถอนหายใจออกมา.. นี่นายก็ยังไม่หลับเหรอ

    “ยังไม่นอนเหรอ?” ผมหันหน้าไปทางจุนฮเว

    “อืม.. นอนไม่หลับอ่ะ” ทีตอนในห้องสมุด.. นายยังหลับไม่เมื่อไหร่ก็ไม่รู้เลยนะ -*-

    “แปลกสถานที่มั้ง”

    “คงงั้น ว่าแต่ทำไมนายยังไม่หลับ?” จุนฮเวถามผมกลับบ้าง.. เออ.. สถานที่ก็ไม่ได้แปลกสักหน่อย ก็นอนอยู่ทุกวัน..

    “ก็มันนอนไม่หลับอ่า..”

    “จริงๆฉันจะหลับคนแรกของห้องพักเลย วันที่มาที่ฮอกวอตส์วันแรก ฉันก็หลับคนแรก”

    “....ทำไมล่ะ?”

    “นายก็เห็นนี้.. ถ้าปิดไฟมันก็มืดฉันไม่ชอบ”

    อ้อ.. นี่ไปเปิดม่านให้แล้วไง นอนสิผมบอก

    “นี่ บางทีถ้าฉันนอนกับพี่ฮันบินหรือคนอื่นตั้งแต่แรก ฉันอาจจะหลับไปแล้วก็ได้” จุนฮเวตะแคงข้างหันหน้ามาทางผม..

    “.....”

    ภายในห้องนอนที่มืดสนิทนี้ มีแสงจากพระจันทร์ยามค่ำคืนส่องผ่านหน้าต่างมา..

    ทำให้ผมพอจะเห็นหน้าของคนที่นอนตะแคงหันมาทางผมและนอนสบตาอยู่ข้างๆได้บ้าง..

    .

    .

    .

    อือ.. บางที ถ้านายโตขึ้น นายคงเป็นคนที่ดูดีมากๆแน่เลย กูจุนฮเว..

     

    เอ้ยเดี๋ยว.. ทำไมบรรยากาศมันพาไป T^T หยุดคิดแบบนั้นนะคิมดงฮยอก

     

    “เฮ้อ แต่เพราะเป็นนาย ฉันเลยนอนไม่หลับ” ผมยังคงสบตากับจุนฮเว.. แม้ว่าจะมีเพียงแสงจันทร์ที่สาดส่องเข้ามาให้พอเห็นแววตาของอีกฝ่ายได้บ้างแม้เพียงเล็กน้อย..

    ฮื่อ .. นอนกับผมแล้วมันทำไมเหรอ..

    กลัวผมนอนดิ้นรึไงกัน..

     

    นายคงกำลังหมายถึงแบบนั้นอยู่ใช่มั้ยกูจุนฮเว

    “หมายความว่าไงอ่ะ ฉันนอนไม่ดิ้นหรอกนะเฟ้ย”

    “ก็ไม่ได้พูดว่านายนอนดิ้นหนิ”

    “งือ......อย่าดุสิ”

    “ช่างมันเถอะ นอนไป๊”  จุนฮเวขมวดคิ้วเล็กน้อย แล้วก็พลิกตัวกลับไปนอนหงายเหมือนเดิม ก่อนจะกระชับผ้าห่มขึ้นและหลับตาลงสนิท..

    เชอะอะไรกัน.. งอนเหรอไง-*-

     

    คนที่ควรงอนน่ะมันฉันต่างหากล่ะ..

    ผมพลิกตัวหันไปอีกทางและหลับตาลงบ้าง..

    ไม่ช้านักผมก็เริ่มรู้สึกง่วงขึ้นมาเสียจริงๆ งั้นผมนอนเลยดีกว่า ฮ๊าวว ..

     

    ZZ  Z zzz

    .

    .

     

    “ฝันดีนะดงฮยอก”

     

     

     

    ------------------------------------------------------------------------------------------------ +

     

     HAPPY DONGHYUK DAY !
    แล้วก็สวัสดีปีใหม่ด้วยน้าา ขอบคุณรีดทุกคนค่ะ <3

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×