ลำดับตอนที่ #102
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #102 : เราขาคณิต
เรขาคณิตแห่งมหาพีระมิด
มหาพีระมิดแห่งกีเซห์ นั้นมีโครงสร้างทางคณิตศาสตร์ตรงกับค่าสัดส่วนของไฟ (PHI : ) และ ไพ (PI : ) แต่เพราะว่าค่าไพนั้นมีอยู่เป็นส่วนหนี่งของค่าตัวไฟด้วย เราจึงให้ค่าตัวไพเป็นพื้นฐานคณิตศาสตร์ในเรื่องนี้ และเป็นสิ่งที่เรียกกันว่า "มาตรทองคำ" (Golden Section) หรือเส้นตัดศักดิ์สิทธิ์ ( The Sacred Cut) ค่าของไฟเป็น สัดส่วนที่ไม่รู้จบเหมือนกับค่าของไพ และมีค่าเก่าแก่พอ ๆ กับประวัติศาสตร์เลยทีเดียว สิ่งที่รู้จักกันโดยทั่วไปว่าเป็นไฟโลแทกซิส (Phylotaxis) หรือการจัดเรียงใบไม้ในพืชต่าง ๆ เป็น ระบบตัวเลขที่น่าสนใจอย่างหนึ่ง ที่เราเรียกว่า "อนุกรมผลบวก" หรือ "อนุกรมฟีโบนักชี (Fibonucci Series) " ตัวเลข ที่มีค่าน้อยสุดตัวแรกจะให้ผลค่าตัวเลขต่อไปได้ด้วยการบวกสองตัวเลขเข้าด้วยกัน คือ 1 , 2 , 3 , 5 , 8 ,13 , 21 , 34 ,55 , 89 ,144... เป็นต้น ทำให้เกิดสัดส่วนของไฟ( ) ว่าเท่ากับ1.618033989... ที่มาจากการหารตัวเลขหลังด้วยตัวเลชชุดหน้า ของมัน ยิ่งเป็นชุดตัวเลขที่มีจำนวนมากเท่าไร จะยิ่งใกล้เคียงกับค่าไฟ มากขึ้นเท่านั้น ตัวอย่างเช่น 1 2/1 =2.0000000 2 3/2 =1.5000000 3 5/3 =1.6666666 5 8/5 =1.6000000 13 13/8 =1.6250000 21 21/13 =1.6153846 34 34/21 =1.6190476 55 55/34 =1.6176470 89 89/55 =1.6181818 144 144/89 =1.6179775 233 233/144 =1.6180555 377 377/233 =1.6180257 610 ...... =...... อนุกรมนี้ต่อเนื่องไปได้ไม่มีที่สิ้นสุด การแสดงว่าค่าไฟเป็นเส้นตัดศักดิ์สิทธิ์ก็คือ มันเป็นสัดส่วนเดียว กับที่เราสามารถจะหารเส้น กค ได้ด้วย กข ในลักษณะที่ว่า กค/กข = = 1.618... มันเป็นสัดส่วนมหัศจรรย์ที่นักปราชญ์หลายคน ใช้ในยุคสมัยเรอเนสซองต์ ( renaissance) และจัดว่าเป็นสัดส่วนการแบ่งที่งดงามที่สุด (ดูภาพประกอบที่ 12) (รูป และ ยกกำลัง) จากการวัดสัดส่วนของมหาพีระมิด ยังได้ตัวเลขที่น่าสนใจอีกหลายอย่าง ซึ่งตรงกับข้อมูลทางวิทยา- ศาสตร์หลายแขนง เช่น พีระมิดจะเกี่ยวกับเลขห้าเสมอ เช่น มีห้าด้าน , ห้ามุม และอุฒหภูมิในห้องโถงพระราชาเท่ากับ 68 องศาฟาเรนไฮต์ ที่เป็นระดับของการทำให้ปรอทในหลอดแก้วเยือกแข็งและการทำให้น้ำเดือดที่ระดับน้ำทะเลพอดี และเป็น ระดับอุณหภูมิที่เหมาะสมที่สุดในการเจริญเติบโต ทำให้สิ่งมีชึวิตแข็งแรงและมีอายุยืน ต่อไปนี้เป็นตัวอย่างสัดส่วนของขนาดและปริมาตรมหาพีระมิด ความสูง(ระดับดั้งเดิม) 5,813 นิ้ว ขนาดของฐานหนึ่งด้าน 9,131 นิ้ว ความยาวจากขอบ , ด้านข้างและมุมไปถึงจุดยอด 7,387 นิ้ว มุมที่ฐานวัดจากด้านข้างไปถึงพื้น 51 องศา 17 ลิปดา 14 ฟิลิปดา มุมยอดวัดจากระหว่างด้านข้าง 76 องศา 17 ลิปดา 32 ฟิลิปดา มุมจากขอบลงสู่ระดับฐาน 41 องศา 59 ลิปดา 50 ฟิลิปดา มุมระหว่างด้าน 106 องศา 54 ลิปดา มุมยอดจากขอบหนึ่งกับอีกขอบหนึ่ง 96 องศา วงรอบฐาน 36,524.24 นิ้ว ภาพประกอบที่ 15 แสดงให้เห็นว่า มหาพีระมิดที่กีเซห์นี้ตั้งอยู่บนแนวฉากพอดีกับทิศเหนือแท้ โดยมีความเบี่ยงเบนออกมาเพียง 4 ฟุต 32 นิ้ว ซึ่งน้อยกว่า 1 องศาเสียอีก ตัวสิ่งก่อสร้างนั้นกินอาณาบริเวณ 32.5 ไร่ และมีการปรับระดับไว้อย่างเรียบที่สุด คือ มีความลาดเอียงแค่ครึ่งนิ้ว และสิ่งที่ประกอบขึ้นมาเป็นมหาพีระมิดก็ทำให้มันเป็น ภาพต่อที่ใหญ่ที่สุดในโลกอันหนึ่ง เพราะทำขึ้นจากหินแกรนิตและหินปูน 2,600,000 ก้อน โดยแต่ละก้อนถูกตัดมาให้เหมาะ กับตำแหน่งของมันพอดี ในห้องโถงพระราชานั้นมีก้อนหินแกรนิตที่หนักเท่ากับ 600 ตัน และถูกขัดเรียบเสียจนมีตำหนิระ นาบเพียงแค่ 0.001 นิ้วต่อพื้นที่ 20 ตารางฟุต ทั้ง ๆ ที่เนื้อหินมีความแกร่งมหาศาลจนต้องใช้หัวสว่านเพชรที่มีแรงดันถึง 2 ตัน เพื่อจะสกัดผิวแกรนิตได้ ส่วนพื้นผิวด้านนอกของมหาพีระมิดมีพื้นที่ถึงประมาณ 52.5 ไร่ ก่อจากหินปูนอลาบาสเตอร์ สีขาวบริสุทธิ์ที่ถูกขัดจนเป็นเงา และมีความหนา 7 ฟุต มหาพีระมิดแห่งกีเซห์ ยังเป็นพีระมิดที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว เพราะมีปล่องระบายอากาศเข้าไปใน ห้องโถงภายในอยู่ 4 ปล่อง 2 ปล่องเชื่อมกับห้องโถงราชินี และอีก 2 ปล่องเชื่อมกับห้องโถงพระราชา ปล่องอากาศทั้ง หมดนี้หันออกไปทางทิศเหนือและทิศใต้ของพีระมิด ส่วนโลงพระศพฟาโรห์นั้นมีขนาดเท่ากับ "หีบศักดิ์สิทธิ์" ที่กล่าวถึงในคัมภีร์ไบเบิลที่เรียกว่า "หีบพันธสัญญา" คือ ยาว 89.90568 นิ้ว กว้าง 38.69843 นิ้ว และสูง 41.21319 นิ้วเมื่อวัดจากด้านนอก เมื่อนำตัวเลข ทั้ง 3 ชุดนี้มารวมกันก็เท่ากับ 1 ใน 5 ของผลบวกความกว้าง ยาว และสูงของห้องโถงพระราชาด้วย ตัวโลงพระศพนั้น หนา 6 นิ้วฟุตโดยรอบ ในขณะที่ส่วนฐานนั้นหนา 7 นิ้ว เห็นได้ชัดว่าผู้สร้างมหาพีระมิดมีความรู้ถึงปริมาตรและมิติทางตัวเลขของโลกนี้มากกว่าคนอื่น แม้ ในยุควิทยาศาสตร์ก็ไม่ทราบถึงความจริงนี้ จนถึงช่วงปี พ.ศ. 2500-2501 ซึ่งเป็นปีแห่งวิชาฟิสิกส์ เกี่ยวกับลูกโลกระดับนานา ชาติ (International Geophysical Year) ขนาดของโลกเป็นที่มาของหน่วยเมตรแบบฝรั่งเศส ซึ่งเป็นมาตราวัดมาตรฐาน ในยุโรป และได้มาจากการเอา 1 ในสิบล้านส่วนจากเศษ 1 ส่วน 4 ของเส้นรอบวงโลกมาคำนวณซึ่งเป็นเส้นที่วัดจากขั้วโลก เหนือมาถึงเส้นศูนย์สูตรวัดไปตามเส้นเที่ยงวันที่พาดผ่านเมืองดันเคิร์ก แต่เนื่องจากโลกนี้ไม่ได้เป็นทรงกลมที่สมบูรณ์ ระยะทางที่กล่าวถึงจึงไม่ใช่เศษ 1 ส่วน 4 ของเส้น รอบวงของโลกจริง ๆ จึงไม่ใช่หน่วยวัดที่ถูกต้องนัก แต่เมื่อเราแบ่งขอบเขตของวงรัศมีโลกด้วยการใช้หน่วยคิวบิทแบบอียิปต์ (Egyptian Sacred Cubit) จึงจะได้ตัวเลข 10,000,000 หน่วย ดังนั้นหน่วยนิ้วแบบพีระมิดจึงเท่ากับ 1/5 ของห้าร้อย ล้านของเส้นผ่าศูนย์กลางวงกลมที่ขั้วโลก ผู้ออกแบบมหาพีระมิดจึงก้าวหน้ามากกว่าคนสมัยใหม่มาก เพราะมีหน่วยวัดที่ได้ จากพื้นฐานของขนาดโลก และก็รู้มิติตัวเลขของโลกดีอย่างยิ่ง ส่วนตำแหน่งของมหาพีระมิดที่ตั้งอยู่บนเส้นเมอริเดียนที่ 31 องศา 9 ฟุตตะวันออกของเมืองกรีนวิช และเส้นละติจูดเหนือที่ 29 องศา 58 ฟุต 51 นิ้ว ก็มีความสำคัญเพราะมันเป็นแนว ระนาบที่แบ่งส่วนที่เป็นพื้นดินของโลกออกเป็น 2 ส่วนพอดี ตัวพีระมิดตั้งอยู่ในแนวเฉจากแนวแกนขั้วโลกหรือทิศเหนือที่แท้จริงของโลกไปประมาณ 4 ฟุตซึ่ง เป็นการวางตำแหน่งที่แม่นยำยิ่งกว่าที่วิทยาการสมัยใหม่ทำไว้ที่หอสังเกตการณ์ของปารีส ซึ่งเฉจากแนวแกนขั้วโลกออกมา 6 ฟุต โดยความเห็นส่วนตัวของเขานั้นเขาเชื่อว่าก่อนจะมีแผ่นดินไหวครั้งใหญ่ ในสมัยพุทธศตวรรษที่ 18 มหาพีระมิดต้อง ตั้งอยู่ในระนาบแกนขั้วโลกพอดีจริง ๆ แน่นอน การจัดวางหินของพีระมิดก็มีการตัดและเรียงอย่างแม่นยำจนกระทั่งจุดเชื่อมทั้งหมดในระยะเฉลี่ย 35 ตารางฟุตมีความหนาไม่ถึง 0.001 นิ้วและหินแต่ละก้อนถูกเชื่อมกันไว้ด้วยเยื่อซีเมนต์บาง ๆ ซึ่งนักเคมีสมัยใหม่ได้นำ มาวิเคราะห์แล้ว แต่ยังไม่สามารถจะผสมซีเมนต์ที่มีคุณภาพดีและมีแรงดึงสูงได้เหมือน จากข้อมูลเหล่านี้ทำให้เราได้เห็นว่ามหาพีระมิดแห่งกีเซห์ถูกสร้างจากความคิดของอัจฉริยะที่ยิ่งใหญ่ ด้วยวิธีการก่อสร้างที่เราไม่อาจเลียนแบบได้เลย มันคงจะไม่ได้เป็นเพียงสิ่งปลูกสร้างขนาดมโหฬารของชนเผ่าป่าเถื่อนเพื่อใช้ เก็บมัมมี่เท่านั้น ความรู้ทางคณิตศาสตร์ของผู้สร้างมหาพีระมิดนี้ มหาศาลเท่าเทียมกับความรู้ของปีทาโกรัสซึ่งเกิดในยุคหลัง ต่อมาอีกหลายพันปี
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น