คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #14 : เจ้าหญิง
14
เจ้าหญิง
“เฮ้อ..ยังปวดตัวไม่หายเลยอ่ะ ทั้งๆ ที่ไม่ค่อยได้ทำอะไร นายเป็นป่ะ -O- “
โรมิโอส่ายหน้าแทนคำตอบขณะที่ฉันก็เอาแต่นวดๆ บีบๆ ไหล่ของตัวเองเพื่อหวังว่ามันจะช่วยบรรเทาอาการเจ็บปวดเมื่อยล้านี้ไปได้บ้าง ให้ตายเถอะ หลังจากกลับจากค่ายสานสัมพันธ์นั่นฉันก็ยังไม่ได้พักเลย TOT ด้วยความที่กลัวว่าจะเรียนไม่ทันเพื่อน (ฉันสามารถพูดคุยภาษาอังกฤษได้ฉลุย แต่ถ้าเป็นเรื่องเรียน สมองต้องแปลภาษาไปด้วย ทำความเข้าใจไปด้วย เลยค่อนข้างหนักหน่อยน่ะค่ะ) หลังจากกลับมาจากค่าย วันต่อมาฉันก็ไปเรียนเลย T_T
ไม่ต้องถามถึงพวกคนอื่นๆ เลย เพราะเขาหยุดค่ะ มีแค่ทีกับไทตินในกลุ่มเท่านั้นที่ไปเรียน -_-
“อย่างงี้แหละ พวกไม่ชอบออกกำลังกาย สมน้ำหน้า” คนข้างๆ บอกทั้งๆ ที่ตายังมองถนนอยู่ แต่ฉันไม่เถียงหรอกนะที่เขาพูดน่ะ เพราะฉันไม่ชอบออกกำลังกายจริงๆ T^T
อ้อ! ตอนนี้ฉันอยู่กับโรมิโอบนรถค่ะ จำได้มั้ยที่เขาบอกว่าพ่อแม่ของเขาจะมาที่นี่ และฉันก็ต้องมาเป็นเพื่อนเขาด้วยน่ะนะ เพราะอย่างที่บอก..พวกท่านค่อนข้างตื่นเต้นที่มีชาวต่างชาติมาอยู่ด้วย (มิล่าแอบบอกฉันมาว่าทั้งสองท่านปลื้มคนไทยเป็นพิเศษ วันหยุดที่นานๆ ทีจะมีพวกท่านก็เลือกไปเที่ยวที่เมืองไทย ฉันฟังแล้วยิ้มไม่หยุดเลย ภูมิใจแทนคนไทยทั้งประเทศ -//- )
“ปวดมากนักหรือไง -_- “ โรมิโอละมือข้างหนึ่งจากพวงมาลัยรถแล้วบีบๆ นวดๆ ลงบนไหล่ฉันทั้งๆ ที่สายตายังจับจ้องอยู่ข้างหน้า
“เฮ้ยๆๆๆ นายขับรถไปสิ ไม่ต้องมานวด ฉันยอมปวดกล้ามเนื้อดีกว่ารถแหกโค้งตายนะ -_-^ “ ฉันปัดมือเขาทิ้งเขาจึงยักไหล่อย่างไม่ใส่ใจเท่าไหร่นัก จากนั้นจึงขับรถต่อ
อืม...จะว่าไปหมอนี่มองมุมนี้ก็..ก็ดูดีไม่หยอกเลยนะเนี่ย!
อะไร! ก็แค่มุมๆ เท่านั้นแหละน่า!!
“โรมิโอ๊!!” เสียงหวีดแหลมกรีดร้องขึ้นทันทีที่เปิดประตูรถลงไป ผู้หญิงวัยกลางคนดูมีภูมิฐานวิ่งเข้าไปกอดโรมิโออย่างคลั่งไคล้ ส่วนผู้ชายวัยกลางคนแต่งกายสุภาพดูดีไม่แพ้กันก็ลากกระเป๋าเดินทางสองสามใบตามมา
ฉันเผลอยกมือไหว้สวัสดีแบบไทยทั้งๆ ที่พูดทักทายเป็นภาษาอังกฤษ เขาคลี่ยิ้มจางๆ เมื่อเห็นท่าทีเก้ๆ กังๆ ของฉัน โห..นี่คุณพ่อของโรมิโอเหรอเนี่ย หล่อบรมเลยแฮะ O_O
“อ้าวนี่ โรมิโอทำไมไม่บอกแม่ล่ะว่าหนูเคทเธอรีนจะมาด้วย”
หือ -?-
“หนูเคทของน้า กลับมาอเมริกาเมื่อไหร่จ๊ะลูก” ผู้หญิงที่กอดโรมิโออยู่เมื่อกี้หันหน้ามาหาฉันแทน แต่ฉันว่าฉันฟังไม่ผิดนะ เธอเรียกฉันว่า ‘หนูเคท’ =_=
“เอ่อ..”
“แม่ฮะ นี่ไม่ใช่เคทสักหน่อย ยัยนี่เป็นนักเรียนแลกเปลี่ยนที่แม่อยากเจอนักหนาไงล่ะ -_- “
“แหะๆ”
“อ้าว..เหรอ ไม่อยากจะเชื่อเลย ยังมีคนที่เหมือนกันขนาดนี้อยู่บนโลกอยู่อีกเหรอเนี่ย!”
“คะ..คะ -O- “
“แม่ นี่ไม่ใช่เคท ผมบอกแล้วไง -_- “
“ชิ ตามโรมล่ะก็ แม่รู้แล้วน่าว่าไม่ใช่ เอ้อ..หนูชื่ออะไรล่ะ ฉันต้องขอโทษจริงๆ นะที่ไม่ได้อยู่ต้อนรับวันที่หนูมา คืองานมันฉุกละหุกมากจริงๆ น่ะ T^T “
“ไม่เป็นไรค่ะ แหะๆ หนูชื่อซอลค่ะ แต่มิล่าแนะนำว่าให้เปลี่ยนชื่อเป็นไอรีนดีกว่า เพราะชื่อภาษาไทยของหนูออกเสียงยากเกินไป”
“อ้อ มิล่าตัวน้อยของแม่นั่นเอง”
ตัวน้อย -_-?
ฉันยิ้มแห้งๆ อย่างไม่รู้จะพูดอะไรต่อ จริงๆ น่ะ ฉันเข้าหาผู้ใหญ่ไม่ค่อยเก่งเลยแถมยังเกร็งมากๆ ด้วย แต่แม่ของโรมิโอก็สร้างบรรยากาศในรถได้ดีตลอดทาง ฉันจึงคลายความกังวลไปได้บ้าง สัมผัสได้เลยว่ามิล่าถอดแบบมาจากแม่ของเธออย่างเป๊ะๆ -..- และท่าทางครอบครัวนี้จะเป็นครอบครัวที่อบอุ่นมากเลยทีเดียวถึงแม้ว่าพ่อกับแม่ของพวกเขาจะต้องบินไปมาระหว่างประเทศบ่อยๆ แต่ช่องว่างระหว่างครอบครัวก็ไม่เกิดขึ้นเลย น่ารักจัง ^-^
ว่าแต่..หนูเคท นี่ใครกันนะ?
หลายวันต่อมา
“โอ๊ย ทำไมมันยากอย่างนี้นะ T^T “
ไม่รู้ว่าฉันคิดยังไงถึงได้ลงเรียนเต้นรำ แถมชั่วโมงที่แล้วมิสเซรีน่าบอกว่าจะสอบเก็บคะแนนก่อนเรียนด้วย ฉันก็เลยต้องมานั่งเปิดยูทูปดูเป็นตัวอย่างเอาเอง ให้ตายเถอะ คู่ซ้อมก็ไม่มา เห็นบอกว่าป่วยเป็นโรคอะไรสักอย่างที่หายยากเหมือนกัน จากที่ได้ยินเพื่อนเขาบอกมาน่ะนะ
“ทำอะไรอยู่”
“แล้วคิดว่าอะไรล่ะ” ฉันบอกคนมาใหม่ด้วยสีหน้าไม่สบอารมณ์สักเท่าไหร่ ตอนนี้ฉันอยากอยู่คนเดียวนี่นา อาทิตย์หน้าฉันก็ต้องสอบแล้ว และเพื่อเกรดที่ดีต้องเต็มที่กับทุกงานค่ะ บลิ๊งๆ
“ไล่ตบยุงเหรอ” เขายืนกอดอกพิงกรอบประตูมองอย่างยิ้มๆ
“หาเรื่องเรอะ! - []-“
“ล้อเล่นน่า ซ้อมเต้นรำอยู่ล่ะสิ :p “
“ใช่ ฉันต้องสอบก่อนเรียนด้วย T^T “
“ศูนย์ชัวร์เลย -_- b “ ว่าแล้วก็ยกนิ้วให้ =_=
“อย่ามาย้ำได้มั้ยยะ! ไป ออกไปเลยนะ ฉันจะซ้อมแล้ว อุตส่าห์ยืมห้องมาไม่ได้เพื่อให้นายมายืนถากถางนะโว้ย!!”
“ไม่กินข้าวเที่ยงหรือไง”
“ไม่ล่ะ ฉันไม่หิว” ฉันเลิกสนใจเขาจากนั้นจึงหันมาจดจ่อกับคลิปในโทรศัพท์ตัวเองต่อ โชคดีนะเนี่ยที่ wifi ที่นี่แรงจริงอะไรจริง -..-
ฉันพยายามทำเป็นไม่สนใจคนที่มองอยู่และจดจ่อกับสิ่งที่กำลังทำตรงหน้า แต่โอ้ยยย! สมาธิหายไปไหนหมดนะ ทำไมในคลิปดูง่ายจัง แต่พอลองเต้น ทำไมมันยากอย่างนี้ล่ะ TT
“นึกยังไงถึงลงเรียนเต้นรำ -_- “
“มันก็เหมือนที่นายลงเรียนบาสนั่นแหละ”
“ไม่เหมือนดิ ฉันลงเรียนเพราะฉันชอบ แต่เธอ..ดูยังไงก็ไปไม่รุ่งทางเต้น ไม่เห็นเหมือนคนชอบเต้นรำเลยสักนิด-_-;; “
“ใช่ฉันไม่ชอบ ไม่ชอบเลยอ่ะ TOT “ ฉันบอกปัดๆ ขณะที่เต้นรำอยู่กับอากาศ เต้นปกติก็ว่ายากแล้วนะ เต้นกับอากาศได้นี่สุดยอดเลยล่ะสำหรับฉัน T^T
“แล้วทำไมถึงเรียน”
“นายถามมากเกินไปแล้วนะ”
“ก็เธอไม่อยากตอบเองนี่”
“โว้ะ นี่นายจะรู้ให้ได้เลยใช่มั้ยเนี่ย หา!” ฉันเดินไปปิดเพลงและจ้องหน้าเขาอย่างเหลืออด โรมิโอไม่สนใจสายตาขวางๆ ของฉันเลยแม้แต่น้อย เขาเพียงแค่พยักหน้าเท่านั้น หมอนี่! ทำไมมันหน้ามึนอย่างนี้นะ!
“ฉันลงเรียนเต้นรำเพราะฉันชอบเจ้าชายอีริค”
“แล้ว?”
“ก็เจ้าชายอีริคเต้นรำเก่งมากๆ .. “
“อ้อ! เพราะงั้นเธอเลยอยากเป็นแอเรียลสินะ -.- “
“งะ..เงียบน่า! รู้แล้วก็ออกไปสักทีฉันจะซ้อม”
“เต้นกับลมแบบนั้นมันจะไปได้เรื่องอะไร มานี่มา” โรมิโอเดินไปหยิบโทรศัพท์มือถือของฉันจากนั้นจึงกดอะไรยุกยิกอยู่สักพัก ซึ่งฉันไม่รู้ว่ามันคืออะไร (ไม่กล้าเข้าใกล้หมอนี่อีกแล้ว ฮือ) แต่เดาว่าน่าจะทำการโหลดเพลง -O-
“ฉันว่าเธอควรจะเริ่มจากเพลงช้าๆ สบายๆ ที่เอาไว้เปิดคลอในงานมากกว่านะ จะเต้นรำไม่ใช่หรือไง เซรีน่าไม่ได้บอกเหรอวะ -__- “
ฉันส่ายหน้าแทนคำตอบ พลางมองผู้ชายที่เดินมาหยุดประจันหน้า ฉันยืนมองเขาตาปริบๆ หมอนี่จะมาไม้ไหนเนี่ย
“นายมองหน้าฉันทำไม”
“ยังเต้นไม่เป็นไม่ใช่หรือไง”
“ก็..”
“เดี๋ยวเป็นอีริคให้วันนึงก็ได้”
“หือ -?- “
“ยังจะต้องให้พูดซ้ำอีก ยัยบ้า บ้าแล้วยังทึ่มอีก ยัยเตี้ยนี่มีไรดีบ้างวะเนี่ย” โรมิโอแยกเขี้ยวใส่ฉันแล้วเขกหัวฉันเบาๆ แต่แรงผู้ชายนะ ต่อให้เบายังไงมันก็เจ็บอยู่ดีแหละ T.T
“ทำไม นายชอบทำร้ายร่างกายคนอื่นอยู่เรื่อยเลย”
โรมิโอไม่ฟังเสียงโอดครวญของฉัน เขาเดินไปเปิดเพลงแล้วก็เดินกลับมาหยุดอยู่ตรงหน้าฉันอีกครั้ง จัดการวางทรวดทรงโดยใช้แขนขวาโอบเอวฉันไว้ จับแขนซ้ายของฉันจับที่สะบักขวาของเขา
เอ๊ะๆๆ ทำไม..มันใกล้อย่างนี้ล่ะ.. ( . . // )
“เธอลองเดินตามฉันก่อน ถ้าฉันก้าวเท้าขวาไปข้างหน้า เธอต้องก้าวเท้าซ้ายไปข้างหลัง ..”
ฉันไม่พูดอะไรแต่ก็ทำตามที่เขาบอกอย่างเงียบๆ พยายามซ่อนสีหน้าสุดชีวิตเพื่อไม่ให้เขาเห็นว่า..ตอนนี้ใบหน้ามันแดงจัดขนาดไหน
ปล.อย่าหาว่าฉันงั้นงี้เลยนะ ถ้าเป็นผู้หญิงคนอื่นสลบคาอกหมอนี่ไปแล้ว ผู้ชายอะไร ตัวหอมชะมัด!!
“เออนี่ นายเต้นรำเป็นด้วยเหรอ”
“อือ แม่ให้เรียนตั้งแต่เด็กๆ แล้ว ไม่รู้จะให้เรียนไปทำไมเหมือนกัน - - “
“แม่นายคงอยากให้นายเป็นเจ้าชายล่ะมั้ง ชื่อนายก็เหมื๊อนเหมือน” ฉันว่ายิ้มๆ
“งั้นตอนนี้เธอก็เป็นเจ้าหญิงน่ะสิ”
“=O=”
“เจ้าหญิงของโรมิโอไง J “
“อะ..” ฉันสะดุดกึกกับคำพูดของเขาและเผลอเงยหน้ามองร่างสูงอย่างลืมตัว โรมิโอเองก็มองฉันอยู่ก่อนแล้ว ทำให้สายตาของทั้งฉันและเขาบรรจบกันพอดี..
เราต่างคนต่างเงียบกันอยู่อย่างนั้นโดยไม่ทันได้สังเกตเลยว่าเพลงที่ใช้เต้นรำจบไปแล้ว..
‘วันที่ไม่เข้าใจ ต่างก็คิดไปว่าฉันและเธอช่างต่างกัน แต่แล้วเมื่อได้ใกล้กัน จู่ๆในใจนั้นก็เริ่มผูกพันไม่รู้ตัว’
โรมิโอจ้องหน้าฉันนิ่งทั้งๆ ที่ยังอยู่ในท่าเต้นรำนั้นอยู่ อา..ฉันเพิ่งสังเกตเห็นนะเนี่ยว่านัยน์ตาสีน้ำตาลของเขาสวยขนาดนี้น่ะ
อุ่นไปทั้งหัวใจ กว่าใครที่พบมา ชีวิตช่างมีคุณค่าและมีความหมาย
คนตัวสูงหลุบตาต่ำลงมองริมฝีปากของฉันที่มีเพียงแค่เขาคนเดียวเคยได้สัมผัส ริมฝีปากที่เขาฉวยโอกาสกับมันตั้งไม่รู้กี่หนต่อกี่หน
คงเป็นวันที่ฉันรักเธอ คงเป็นวันที่ฉันมั่นใจ คงเป็นวันที่ฉันรู้ ว่าเธอคือคนสำคัญแค่ไหน
ฉันรู้สึกว่าใบหน้าของเขาเลื่อนต่ำลงมาเรื่อยๆ จนหน้าผากสัมผัสกันเช่นเดียวกับจมูกโด่งนั่น ลมหายใจร้อนๆ ของโรมิโอเป่ารดแก้มฉันซ้ำแล้วซ้ำเล่า เขาค่อยๆ จรดริมฝีปากของตัวเองลงบนริมฝีปากของฉันเบาๆ แต่น่าแปลกที่ทำให้ฉันรู้สึกวาบหวิวกว่าทุกครั้งที่ผ่านมา อาจเป็นเพราะว่าครั้งนี้ฉันไม่ได้ขัดขืนหรือต่อต้านล่ะมั้ง
คงจะดีถ้าได้รักกัน คงจะดีถ้าเรานั้นเคียงข้างกันไป
โรมิโอขยับริมฝีปากอย่างชำนาญ เขาละมือข้างหนึ่งจากเอวของฉันขึ้นมาประคองใบหน้าขึ้นเพื่อให้รับสัมผัสจากคนตัวสูง
และน่าแปลก ที่ฉันไม่รู้สึกรังเกียจสัมผัสของเขาเลยสักนิดเดียว
ถ้าหากว่า..ถ้าหากว่าฉันบอกว่าฉันเริ่มชอบเขาเข้าแล้ว จะดูใจง่ายไปไหมนะ?
ฉันรักเธออยู่ วันนี้ฉันรู้คำตอบของหัวใจ
_____________________________________________________________________________________________________
มาแล้ววววววว แหะๆ ขนความฟินมาจัดจำหน่ายโดยเฉพาะ >< ฮริ้ง
ขอบคุณธีมสวยๆ จาก SHALUNLA ค่าา
ความคิดเห็น