ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    fic : หัวขโมยแห่งบารามอส

    ลำดับตอนที่ #9 : ถึงเจ้าชายซาตาน

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 130
      0
      25 พ.ค. 48

    “โทษทีนะที่รบกวน”



    “ไม่รบกวนเลย ฉันเองก็อยากพายเรือเล่นอยู่เหมือนกัน”ฟาโรห์ยิ้ม



        สายลมเย็นพัดผ่านเบาๆ กลิ่นหอมของดอกไม้ใบหญ้าที่มาพร้อมกับความเย็นสบายยิ่งทำให้รู้สึกสดชื่นเหมือนอยู่กลางทุ่งโล่งริมชายป่าสถานที่โปรดของเขา ตะวันคล้อยต่ำเต็มที่จนเกือบลับหายไปกับหมู่เมฆทำให้ท้องฟ้าในขณะนี้เป็นสีส้มอ่อนแดงจางดูงดงามไม่เศร้าสร้อยแม้เงาสลัวแห่งความมืดจะค่อยๆคลืบคลานเข้ามาแล้ว



    “พายแป๊บเดียวก็พอ นี่ก็ใกล้เวลาอาหารแล้วฉันเกรงใจ”



    “เธอหิวเหรอ”



    “ไม่หรอก วันนี้คงไม่กินมื้อเย็นแล้วเพราะเมื่อกี้กินขนมจนอิ่มเลย”



    “เหมือนกันนะ วันนี้ฉันคงไม่กินอาหารเย็นหรอกอิ่มน่ะ”ฟาโรห์นึกถึงภาพที่เห็นรุ่นพี่กินสปาเกตตี้ก็รู้สึกอิ่มขึ้นมา



    ใช่!อิ่มตาจนกินไม่ลงเลยล่ะ!



    ฟาโรห์เกิดอาการขนลุกนิดหน่อยเลยเผลอทำท่าสยองออกมา พาทริซเซียมองอย่างไม่ค่อยเข้าใจเท่าไหร่กับท่าทีในการแสดงออกว่าอิ่มของรุ่นน้อง



    “นายดูแปลกๆตั้งแต่เมื่อกี้แล้วนะ ไม่เป็นไรแน่รึเปล่า”



    “ฉันสบายดี”ฟาโรห์ยิ้มตอบ



    จะให้พูดตรงๆไหมล่ะว่าเห็นหน้าเธอก็เลยสบายดี ฟาโรห์ขำเบาๆซึ่งทำให้พาทริซเซียงงอีกรอบแต่เธอคิดว่าถามไปก็คงได้คำตอบเดิมก็เลยปล่อยผ่านไป(รู้สึกเราจะอิ่มไปนิดนะเลยอยากอ้วก^0^)



        ฟาโรห์ขยับมือไปข้างหน้าบังคับไม้พายทั้งสองข้างให้ราน้ำเอื่อยๆ เรือลำเล็กของเขาพายมาไกลจากสระรวมพอสมควร รอบๆสระรวมจะขุดเป็นคลองสายเล็กๆเชื่อมต่อกันหลายเส้นทาง ตรงที่เขาอยู่เป็นบริเวณที่อยู่ใกล้น้ำตกจำลองซึ่งเหลือคนนั่งอยู่บนสนามหญ้าแค่ไม่กี่คน



    “เปิดเทอมนานแล้วนะรู้สึกยังไงบ้าง ปรับตัวได้แล้วใช่ไหม”



    “อืม ก็รู้สึกเข้าที่แล้วล่ะแต่บางทีก็เรียนหนักไปหน่อยนะ คนอย่างฉันไม่ค่อยถูกกับหนังสือซะด้วย”



    พาทริซเซียยิ้ม ขนาดไม่ถูกกันยังได้ตั้งที่หนึ่งถ้าถูกกันขึ้นมาเธอกำลังสงสัยอยู่ว่าจะเป็นยังไง



    ฟาโรห์มองไปที่น้ำตกข้างหน้า เฮ่อ!ไม่อยากถูกกันก็ต้องถูกล่ะ ขืนไม่ตั้งใจเรียนสิเขาคงถูกท่านพ่อเชือดเอาแน่ๆ



    แต่ถ้าเขาเรียนเก่งมันก็ดีเหมือนกันแฮะอย่างน้อยถ้าคะแนนรวมของชั้นปีสูงที่สุดในสี่ป้อมโดยมีเขาเป็นตัวฉุดหลักๆอาจเป็นการช่วยให้เขาทำคะแนนเอาใจเจ้าชายเฟรเดอริคได้อีกทาง



    ฟาโรห์กำลังนึกภาพเจ้าชายเฟรเดอริคยิ้มแป้นรับคำชมจากอาจารย์และหัวหน้าป้อมคนอื่นเรื่องคุณภาพเด็กใหม่ปีนี้



    “ฟาโรห์เบื่อรึยังจะขึ้นก่อนก็ได้นะ”



    “ไม่เบื่อ”ฟาโรห์ส่ายหัวรีบตอบทันที โธ่!โอกาสดีๆอย่างงี้เธอคิดว่ามันหาง่ายรึไง



    “กินไหม”พาทริซเซียหยิบคุกกี้ออกมาจากกระเป๋าสะพายเล็กๆของเธอ



    “เอ่อ…”ฟาโรห์ทำเป็นรักษามาดทั้งที่แอบจ้องอย่างสนใจอยู่เหมือนกัน



    “อ่ะ”พาทริซเซียหยิบคุกกี้ชิ้นหนึ่งยื่นเข้ามาใกล้รัศมีที่ปากเขาจะงับถึง กลิ่นหอมด้วยTToTT







    “อร่อยมากเร้ย…..”ฟาโรห์พูดหลังจากที่ฟาดคุ๊กกี้หมดถุง”เอ่อ ฉันขอโทษนะกินเพลินเลยอ่ะ”



    “ไม่เป็นไร”พาทริซเซียหัวเราะเบาๆเธอกำลังเล่นกับปลาที่ว่ายเข้ามาใกล้เรือดูเธอไม่หิวเลยสักนิดบางทีพาทริซเซียอาจจะรู้ว่าเขาเริ่มหิวก็เลยแกล้งทำเป็นหยิบขนมขึ้นมากิน



    “เธอเนี่ยะใจดีเหมือนเจ้าชายแพททริคเลยนะ”ฟาโรห์ยิ้มให้พาทริซเซียที่เงยหน้าจากฝูงปลามามองเล็กน้อย



    “เจ้าพี่เป็นคนใจดีมากฉันเทียบไม่ติดหรอก”พาทริซเซียหัวเราะเบาๆ”แต่บางทีฉันอาจจะทำให้เจ้าพี่ต้องวุ่นวาย”



        นี่เขาตาฝาดไปรึเปล่าที่รู้สึกเหมือนเธอจะไม่ค่อยร่าเริงเท่าไหร่ บางทีคงเป็นเพราะตอนนี้ท้องฟ้ามืดแล้วแสงไฟจากโคมญี่ปุ่นอาจจะหลอกตาเขาก็ได้ ฟาโรห์คิดว่าพาทริซเซียคงกังวลว่าเธอทำให้พี่ชายต้องเสียสละเวลาให้เธอมากไป



    “พี่ชายก็ต้องรักน้องสาวเป็นธรรมดาอยู่แล้ว ถึงพี่เธอดูอ่อนโยนและทะนุถนอมเธอมากเป็นพิเศษ ไปหน่อยแต่ถ้าเป็นฉันมีน้องสาวอยู่แค่คนเดียวก็ต้องรักมากห่วงมาก เธออย่ากังวลไปเลยฉันเห็นเขาก็ท่าทางมีความสุขจะตายที่ได้อยู่กับเธอ”ฟาโรห์บอกพาทริซเซียที่ยิ้มให้เขา



    “เธอว่าเจ้าพี่เอ็นดูฉันเหมือนน้องสาวคนหนึ่งเลยใช่ไหม”



    ฟาโรห์ขมวดคิ้วทำหน้าประหลาดใจเหมือนเป็นคำถามที่พิสดารมาก ก็เป็นพี่น้องกันแท้ๆจะให้ไม่เอ็นดูได้ยังไง พี่ชายแสนดีแบบนั้นไม่มีทางรำคาญน้องสาวได้ลงคอหรอก



    “อืม ทำไมถึงถามแบบนั้นล่ะ”



    ถ้าเธอเอาคำถามนี้มาถามว่าเธอกับเจ้าชายเฟรเดอริคเหมือนที่น้องกันจริงๆรึเปล่าฉันจะไม่แปลกใจเลย แล้วฉันมั่นใจเลยนะว่าฉันจะตอบว่า’ไม่’



    “ไม่มีอะไร เจ้าพี่เป็นพี่ชายที่ดีมากเลยฉันเองก็อยากทำตัวเป็นน้องสาวที่ดี”



    “ฉันว่าเธอก็เป็นน้องสาวที่น่ารักแล้วล่ะเจ้าชายแพททริคถึงได้รักขนาดนั้น ส่วนเจ้าชายเฟรเดอริคเขาเป็นผู้ชายแถมอยู่ตั้งปี6แล้วไม่เห็นจะต้องห่วงเลยนี่นาจริงไหม”



    “จริงเหรอ นายว่าเจ้าพี่ไม่ได้ลำบากใจใช่รึเปล่า”พาทริซเซียถามเอื่อยๆ



    “ฉันตอบแทนพี่ชายเธอได้เลยนะว่า’ไม่เลย’ \"



    แล้วเขาก็นั่งคุยกับเธอถึงเรื่องสัพเพเหระต่างๆจนไม่รู้ว่าเวลาผ่านไปนานแค่ไหน ตลอดบทสนทนามีแต่เสียงหัวเราะสนุกสนานที่ได้ฟังประสบการณ์ของอีกฝ่าย ฟาโรห์มองพาทริซเซียอย่างสบายใจ บ่อยครั้งที่เธอจะแหงนดูดวงดาวที่พร่างพราวอยู่เต็มท้องฟ้าแล้วถามเขาว่ามันชื่ออะไรบ้าง



    “ทริซเซีย”



    “หือม์”พาทริซเซียหันมามอง”นายเรียกฉันว่าอะไรนะ”



    “เอ่อ….พาทริซเซีย”ฟาโรห์ยิ้มกลบเกลื่อน หน้าแตกเลยไหมล่ะไม่น่าเผลอเลย



    “พาทริซเซียฟังแล้วยาวจัง เรียกว่าทริซเซียเฉยๆก็ได้ที่บ้านก็เรียกฉันอย่างนี้”



    คนที่บ้าน! ว้าวเธอวางใจฉันถึงขนาดนั้นเลยเหรอ ฟาโรห์ยิ้มกว้างตาเป็นประกาย กระดิกหางอย่างดีใจ(อันนี้ไม่เกี่ยวแฮะ-_-“)



    “แต่เจ้าชายเฟรเดอริคไม่พอใจที่ฉันไม่เรียกเธอว่ารุ่นพี่ แล้วถ้าเกิดเขาได้ยินฉันเรียกเธอแบบนี้ล่ะก็…”ฟาโรห์ได้ทีฟ้อง



    เหอะๆ เดี๋ยวเหอะเจ้าชายเฟรเดอริค รู้ฤทธิว่าที่น้องเขยน้อยไปซะแล้ว^v^



    “งั้นต่อหน้าคนเยอะๆก็เรียกฉันว่ารุ่นพี่สิ”



    อ้าวเฮ้ย! ผิดแผน



    “อ่ะ….อืม”ฟาโรห์ทำหน้าไม่ถูก



    “มืดแล้วนะเรากลับป้อมเถอะสองทุ่มรึยังก็ไม่รู้”



    “ได้ เออทริซเซียฉันมีของจะให้นะ”ฟาโรห์ยิ้ม”แต่ช่วยหลับตาก่อนจนกว่าจะนับถึงสาม”



    พาทริซเซียทำตามอย่างว่าง่าย



    “หนึ่ง……..สอง…….สาม……”



    พาทริซเซียรู้สึกเหมือนกับว่ามีแสงสว่างเป็นจุดเล็กๆอยู่รอบๆตัวเต็มไปหมด เธอค่อยๆลืมตาขึ้นมาทีละนิดทีละนิดแล้วภาพหน้าของเจ้าชายแห่งคาโนวาลก็ค่อยๆชัดขึ้นตามลำดับ



    ดวงดาวเหรอ…



    หิ่งห้อยนับร้อยตัวบินวนเวียนส่งแสงวิบวับไปทั่วจนลานตา พาทริซเซียรู้สึกตื่นตาตื่นใจที่ได้เห็นหิ่งห้อยเยอะขนาดนี้ เธอเอื้อมมือแตะหิ่งห้อยตัวหนึ่งเบาๆซึ่งมันก็ยอมเกาะอยู่ที่นิ้วเธอโดยดี ฟาโรห์กอดอกยิ้มให้เธอราวจะถามว่าเจ๋งไหม



    “หิ่งห้อยมาได้ยังไง”รู้สึกว่าพาทริซเซียจะชอบของขวัญชิ้นนี้เป็นพิเศษ



    “เจ้าพวกนี้มาจากเวทย์มนต์ทั้งนั้นแหละ”ฟาโรห์ใช้มือกวักน้ำขึ้นมาแล้วสาดขึ้นไปบนท้องฟ้า หิ่งห้อยนับร้อยตัวก็ก่อกำเนิดจากหยาดน้ำที่แตกกระเซ็น



    “นายใช้เวทย์มนต์โดยไม่ท่องคาถา”



    “ก็ฉันมีสายเลือดของจ้าวแห่งปีศาจนี่นา”ฟาโรห์ยิ้มให้พาทริซเซีย



                                           .................................………………………………………



    “ยูริค!”ฟาโรห์ตกใจกับท่าทางของยูริค



    “ช่วยฉันด้วย มันจะกินฉันๆ”ยูริคเขย่ากรงเวทย์มนต์ที่ขังตัวเองไว้ ข้างๆกรงคือเจ้าฟีซที่แลบลิ้นจ้องหน้ายูริคกำลังเลื้อยไปรอบๆกรง ฟีซหันมามองเขาอย่างไม่พอใจ



    “รานดอฟล่ะ”ฟาโรห์ส่ายหัว ทำไมเพื่อนของเขาถึงมีสภาพอนาจอย่างนั้นนะต้องเสกกรงมาขังตัวเองเพื่อความอยู่รอดเชียวเหรอ



    “ไม่รู้ ฉันนอนเล่นอยู่ดีๆไอ้งูบ้ามันก็เลื้อยขึ้นมาบนเตียง ฉันกลัวงูฉันไม่กล้าจับมัน”ยูริคร้องไห้แหกปาก



    ให้ตายเถอะมันได้เป็นหนึ่งในหัวหน้าชั้นปีได้ยังไงนะถ้ามีใครรู้เข้าตำแหน่งคงกระเด็น โดยเฉพาะคำว่า’ใคร’ที่หมายถึงหัวหน้าป้อมคนปัจจุบัน’เฟรเดอริค บริสตั้น’



    ฟ่อ……..ฟีซทำท่าขู่ฟาโรห์ ฟาโรห์มองหน้ามันอย่างรำคาญสุดๆ



    ฟ่อ………..ฟีซขู่ให้น่ากลัวกว่าเดิมกะว่าคราวนี้เหยื่อคงตกใจชัวร์  แล้วก็ได้ผล!



    “ไปไกลๆเลยถ้าไม่อยากโดนผัด”ฟาโรห์สะบัดเสียง แล้วเหมือนฟีซจะฟังภาษาคนรู้เรื่องมันจ้องหน้าฟาโรห์อย่างตกใจแล้วรีบเลื้อยหนีเข้ากรงทันที



    “อ้าวฟาโรห์ กลับมาพอดีเลย”รานดอฟเปิดประตูเข้ามาพอดีกับที่ยูริคเสกกรงให้หายไป



    “นายหายไปไหนมารู้รึเปล่าเกือบเกิดโศกนาฏกรรมขึ้นในห้องแล้วนะ”ฟาโรห์ถอนใจ



    “ฉันไปห้องนั่งเล่น มีรุ่นพี่ฝากมาเรียกให้นายไปรับพัสดุฉันก็เลยขึ้นมาดูว่านายมารึยัง”



    “พัสดุอะไร คาโนวาลส่งมาเหรอ”



    “ไปดูก็รู้เองแหละ แต่รีบหน่อยนะเดี๋ยวพวกนั้นจะช็อกตายกันซะก่อน”รานดอฟหัวเราะอย่างมีเลศนัย



                                                                 ......................………………………………….



        เสียงซุบซิบเมื่อครู่เงียบลงไปทันตาเมื่อเขาเปิดประตูเข้ามา สายตาทุกคู่พุ่งตรงมาที่เขาแบบเต็มๆจนรู้สึกเกร็งเหมือนกับตอนที่เข้ามาใหม่ๆ ลังไม้ขนาดใหญ่ที่เขาคาดว่าคือพัสดุที่เขาจะต้องมารับตั้งเด่นอยู่กลางห้อง รุ่นพี่คนหนึ่งเดินมาหาอย่างร้อนใจ



    “เจ้าชายฟาโรห์นายช่วยเซ็นรับของด้วยสิ”รุ่นพี่ยื่นกระดาษมาให้ พอเขาเซ็นเสร็จรุ่นพี่ก็รีบเดินออกไปทันที



    ฟาโรห์ยิ้มให้เพื่อนๆที่นั่งกันหน้าสลอนบอกได้ว่าครบทุกคนทีเดียว



    “ไม่ไหวเลยบังคับให้พวกเราอยู่ทีตัวเองจบธุระก็หนีทันที”เสียงบ่นดังขึ้น



    “รุ่นพี่คนนั้นกลัวคนที่ส่งของมาให้นายก็เลยบังคับให้พวกเราทุกคนอยู่เป็นเพื่อนเขาในห้องนี้”รานดอฟอธิบาย”รีบๆไปเอาสิ”



    ฟาโรห์ค่อยๆเดินไปที่ลังใหญ่ท่ามกลางความสนใจของชาวป้อมอัศวินชั้นปีที่หนึ่ง เขาเริ่มรู้สึกถึงไอมนต์จางๆที่เป็นของปีศาจกระจายอยู่รอบๆ มีโน้ตแผ่นหนึ่งปะอยู่บนฝาลัง



    “ถึงเจ้าชายซาตานน้อยแห่งเดมอส ฟาโรห์ วาเนบลี จากท่านจ้าวปีศาจเอวิเดส เกรเดเวล ผู้ยิ่งใหญ่เกียงไกรหามีผู้ใดเสมอเหมือนแห่งเดมอส”ฟาโรห์รู้สึกชาไปทั้งตัวป่านนี้พวกเพื่อนๆคงได้รับรู้ข้อความที่เด่นหรานี้กันจนทั่วแล้ว



    จากความอายก็เริ่มจะโกรธนิดๆ ไอ้โคมุสโง่ไร้สมอง!ตัวหนังสือประเภทเยินยอขนาดนี้คงมีแต่โกโดมคนเดียวเท่านั้นที่งี่เง่าเขียน



    “ว่าไงล่ะเจ้าชายซาตานน้อยแห่งเดมอส”รานดอฟหัวเราะพอๆกับคนอื่นที่พยายามปิดปากอย่างเกรงใจเพื่อน ฟาโรห์รีบดึงกระดาษมาแล้วเก็บใส่กระเป๋ากางเกง



    “ยังมีจดหมายอีกฉบับหนึ่งนะ”ยูริคยื่นให้”รุ่นพี่เขายัดใส่มือฉันก่อนออกไป”



    ฟาโรห์รีบคว้ามาอ่านทันที จดหมายจ่าหน้าซองว่าเจ้าชายฟาโรห์ วาเนบลีแห่งคาโนวาล



    เฮ่อ….ฟาโรห์ถอนใจโล่งอกเมื่อเห็นว่าจดหมายฉบับนี้เป็นลายมือท่านตาของเขา





        สบายดีรึเปล่าฟาโรห์ ตาเห็นว่าเจ้ามาเรียนนานแล้วคงไม่ค่อยได้ไปเที่ยวที่ไหนก็เลยส่งของเล็กๆน้อยๆมาให้ หวังว่าคงช่วยให้เจ้าคลายเครียดและเจ้าคงจะถูกใจกับของเหล่านี้ จริงสิ…เมื่อไม่กี่วันก่อนตาได้จดหมายจากแม่เจ้า นางว่าอยากหาเวลาไปเยี่ยมเจ้าที่เอดินเบิร์ก แต่ก็ไม่รู้เหมือนกันว่าจะไปกับท่านราชบุตรเขยหรือจะแอบหนีไปคนเดียว แค่นี้ก่อนแล้วกันตั้งใจเรียนมากๆล่ะ  เออ….ตาว่าจะทำแบบแม่เจ้าหาเวลาไปเยี่ยมเจ้าบ้างท่าจะดี

                                                                       เอวิเดส





    เวรกรรม! แค่ส่งของมาที่ป้อมก็ฮือฮากันจะแย่ ถ้าท่านตามาเองสงสัยเขาคงต้องช็อกตายก่อนเป็นคนแรก

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×