ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    fic : หัวขโมยแห่งบารามอส

    ลำดับตอนที่ #8 : กามเทพ

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 108
      0
      22 พ.ค. 48

    “เดี๋ยวทายาซะด้วยสิ”ไอริสพูดขณะที่เดินมาด้วยกัน ฟาโรห์หันมามองด้วยความแปลกใจนิดๆ



    “มองอะไร”



    “เปล่า”ฟาโรห์ยิ้ม”ขอบใจนะ”



    “ไม่เห็นจะต้องขอบใจเลยนี่นาก็แค่เตือนให้ทายา”



    “ก็เธอเคยบอกว่าไม่ชอบผู้ชายเจ้าสำอาง ฉันเห็นเธออุตส่าห์เตือนก็เลยขอบใจ”



    “เอาเถอะ บางทีนายอาจจะแค่สำออยนิดๆเพราะฉันเห็นนายก็ช่วยงานดี”



    “เริ่มจะเห็นความดีของฉันแล้วใช่ไหมล่ะ”



    “แหวะ”ไอริสทำหน้าเลี่ยน แต่เธอก็ปฏิเสธไม่ได้จริงๆว่าผู้ชายคนนี้มีดีกว่าที่เธอเคยสบประมาท



    สามสัปดาห์ที่เรียนด้วยกันมาก็ไม่เห็นว่าเขาจะเกเรตรงไหน หมอนี่ออกจะตั้งใจเรียนถึงแม้เวลาเล่นจะเฮฮาไม่เหลือมาดเด็กเคร่ง แล้วที่สำคัญเขาเป็นเจ้าชายที่ดูติดดินมากๆถึงมากที่สุด เธอเห็นเขาชอบลุยเองทุกงานไม่น่าจะเป็นคนเจ้าสำอางไปได้เลย



    ไอริสหันมองด้านข้างของเจ้าชายหนุ่มที่ฮัมเพลงชมธรรมชาติ แต่กระเป๋าใบใหญ่แบบนั้นจะไม่ให้เธอคิดก็แปลกแล้ว ข้างในคงมีแต่เครื่องประทินโฉมล่ะสิหน้าตาถึงได้หล่อดูดีขนาดนี้



    “นี่เธอ ตารางสอนที่รานดอฟฝากให้เธอช่วยหาได้มารึยังเหรอ”



    “อ้อ วันนี้จะไปขออยู่พอดี รานดอฟจะเอาไปทำไมเหรอ”



    “ไม่รู้สิ เขาคงอยากมีเส้นมีสายอย่างที่บอกเธอมั้ง”ฟาโรห์ทำไก๋ปัดความผิดให้เพื่อนเฉย



    “อย่างรานดอฟน่ะเหรอ”ไอริสหัวเราะเบาๆ



    “เธอรู้จักรานดอฟนานรึยัง”ฟาโรห์เริ่มคำถาม



    “ประมาณเกือบสองปีแล้วมั้งเจอกันที่อเมซอน แล้วนายล่ะ”



    “ฉันน่ะเหรอ”ฟาโรห์ทำหน้าครุ่นคิดเล็กน้อย”ฉันเจอมันครั้งแรกตอนขวบกว่าๆมั้ง แต่ฉันจำมันไม่ได้หรอกนะ”ฟาโรห์หัวเราะ



    “แล้วใครจะไปจำได้ล่ะ”ไอริสค้อน



    “แต่ก็ไม่น่าแปลกเท่าไหร่ที่จะซี้กัน ฉันพอรู้มาว่าพ่อแม่นายสนิทกันไม่ใช่เหรอ”



    “ใช่ แต่ฉันเองเคยเจอท่านอาคิลไม่กี่ครั้งแล้วรานดอฟก็ไม่ได้ตามพ่อของเขามาด้วยหรอกนะ”



    “งั้น…”ไอริสฉงนเอียงหน้ามาเล็กน้อย



    “ฉันกับมันเจอกันอีกทีตอนอายุประมาณ8ปี แต่เป็นการพบกันโดยบังเอิญที่เอเธนส์”



    “โดยบังเอิญ? นายไปเที่ยวกับครอบครัวเหรอ”



    “ก็ไม่เชิง ฉันแอบหนีไปเที่ยวในตลาดคนเดียวแล้วก็ไปเจอกับมันเข้า ตอนนั้นไม่รู้ด้วยซ้ำว่าเราเคยพบกันมาก่อน”



    “แต่ตอนนี้รู้แล้วล่ะสิ”ไอริสยิ้ม



    “อืม รู้ตั้งแต่วันนั้นเลยหลังจากที่นั่งคุยกันนั่นแหละ”



    “พอรู้แล้วพวกนายรู้สึกยังไง”ไอริสเริ่มรู้สึกสนใจ



    “ก็เหลือเชื่อน่ะสิ ไม่คิดว่าโลกจะกลมขนาดนี้”ฟาโรห์หัวเราะ



    “หือม์ แต่พวกนายดูสนิทกันมากนะ”



    “นั่นเพราะเรามักจะแอบไปเที่ยวด้วยกันหลายครั้ง เธอรู้ใช่มั๊ยว่ามันเป็นนักฆ่ามันเลยรับงานเล็กๆน้อยๆมาตั้งแต่อายุ13แล้ว ส่วนฉันมักจะได้ยินท่านแม่พูดถึงโลกภายนอกที่ฟังแล้วน่าสนุกกว่าในวังร้อยเท่าพันเท่าฉันก็เลยชอบที่จะไปผจญภัยตามที่ต่างๆ”



    “พวกนายนัดเจอกันเหรอ”



    “ประมาณนั้น ที่จริงก็แค่ส่งจดหมายบอกอีกฝ่ายว่าจะไปทำอะไรที่ไหนซะมากกว่าเพราะเราต่างก็เข้าใจว่าคงไม่สามารถกำหนดเวลาที่ตายตัวได้”



    “แล้วยังไงต่อล่ะ”ไอริสเร่ง เธอกำลังลุ้นจนเผลอยิ้ม



    “สรุปคือบางทีก็เจอบางทีก็ไม่ได้เจอ แต่ทุกครั้งที่เจอกันเราจะมีเรื่องสนุกให้ทำมากมายจนสนิทกันอย่างรวดเร็วถึงแม้จะเป็นเวลาช่วงสั้นๆก็ตาม”



    “ความสัมพันธ์ของพวกนายนี่ประหลาดจัง แต่น่าประทับใจดีนะ”



    “เธอไม่เคยมีเพื่อนสมัยเด็กที่ทำให้รู้สึกประทับใจบ้างเลยเหรอ”



    “มีสิ…”ไอริสชะงักนิดหน่อยก่อนจะอมยิ้มแล้วก้มหน้าลงไป



    “เล่าได้ไหม”ฟาโรห์ถามแต่ไอริสไม่ตอบอะไร เขาคิดว่าเธอคงอยากจะเก็บไว้นึกถึงคนเดียวมากกว่าเลยไม่เซ้าซี้ต่อ เขายิ้มขึ้นมาบ้างเมื่อนึกถึงฝันดีเมื่อเช้า



    นั่นสินะเรื่องบางเรื่องก็ควรจะเก็บไว้เป็นความลับ



                                           …………………………………………………..



    “ว้าว สวนที่นี่ไม่เลวเลยแฮะ”รานดอฟชูมือขึ้น



    ตอนนี้พวกเขาเดินย่อยอาหารเย็น(ขอข้ามเวลา55)อยู่ในสวนของโรงเรียนซึ่งมีลักษณะคล้ายสวนสาธารณะ ตามทางตั้งโคมไฟแบบญี่ปุ่นไว้เป็นระยะ มีน้ำพุกลางลาน มีน้ำตกจำลองที่มุมหนึ่งริมกำแพงปราสาท มีแม้แต่สระน้ำขนาดเล็กให้เด็กพายเรือเล่น(รู้สึกจะไฮโซขึ้นทุกวันแล้วนะ เพิ่มแคมป์ด้วยท่าจะดี^0^)



    “ยูริค นายเป็นอะไรไป”รานดอฟหันมามอง



    “มะ…ม่ายมี”ยูริคทำหน้าพะอืดพะอมแล้วอยู่ๆเขาก็ทำท่าจะอาเจียนวิ่งแจ้นไปอีกทาง



    “555”เสียงหัวเราะของผู้ชายกลุ่มหนึ่งดังขึ้น รานดอฟหันไปมอง



    เฮือก…..



    อ้วก!  



    แหวะ!  



    อ้วก+++    แหวะ+++    อ้วก…….



    ฟาโรห์ยืนงงกับภาพดูไม่ได้ของรานดอฟกับยูริค ไอ้สองคนนี้มันเป็นอะไรนะ เหตุการณ์สุดงงนี่เกิดขึ้นขณะที่เขาก้มหน้าก้มตาอ่านตารางเรียนของรุ่นพี่ปีสามอย่างมีความสุข



    “ว่าไง เล่าได้รึยัง”ฟาโรห์ยืนมองเพื่อนสองคนที่หมดแรงนั่งทรุดบนเก้าอี้ยาว



    “แกอย่าถาม ฉันจะอ้วก”รานดอฟทำท่าจะออกอาการอีกรอบ



    “ชาตินี้ผมจะไม่กินสปาเกตตี้อีกแล้วฮะ”ยูริคนั่งตาลอย



    “ตกลงพวกแกเป็นอะไรไปเนี่ยะ”ฟาโรห์ทำหน้างงหนักขึ้นแถมด้วยความอยากรู้อยากเห็น



    “อยากรู้ใช่ป่ะ ทางนู้นเลยไปเลย”รานดอฟชี้ไปที่กลุ่มนักเรียน(คาดว่าอยู่ปี4)ที่กำลังหัวเราะคิกคักตบไม้ตบมืออย่างสนุกสนาน แล้วไม่ห่างกันก็มีคนหนึ่งนั่งในสภาพเดียวกับเพื่อนของเขา ยืนยันด้วยการที่ชายหนุ่มร่างอ้วนอีกคนคลานออกนอกวงแล้วก็หัวทิ่มพื้นไม่เงยขึ้นมาอีก



    ฟาโรห์เดินมาแอบอยู่หลังพุ่มไม้มองเข้าไปในกลุ่มว่าจะเกิดอะไรขึ้น ทั้งกลุ่มทำท่าเหมือนกำลังจับไม้สั้นไม้ยาวกันอยู่ สักพักเสียงเฮก็ดังขึ้นแล้วพี่คนหนึ่งก็หยิบเส้นสปาเกตตี้ที่ลวกแล้วขึ้นมา



    “ฮือ”ฟาโรห์ตาโต



    สปาเกตตี้เมื่อกี้กลายเป็นไส้เดือนยักษ์ที่มีชีวิตแล้วก็กำลังดิ้นอย่างเมามันอยู่ระหว่างนิ้วโป้งกับนิ้วชี้ของพี่คนนั้น แล้ว…….



    “ซวบ~~~”รุ่นพี่ดูดไส้เดือนเข้าปากอย่างไม่สะทกสะท้านแถมดูดเสร็จก็เลียนิ้วตัวเองอีกรอบ



    “อะ..อุ๊บ”ฟาโรห์วิ่งออกมาที่ต้นไม้ใหญ่ต้นหนึ่งขืนอยู่ต่อเขาคงต้องอ้วกแน่ มิน่ารานดอฟกับยูริคถึงอ้วกอย่างเอาเป็นเอาตายแบบนั้น มันคงไม่รู้ว่าไอ้ที่เขากินกันเป็นของปลอม สงสัยจะเห็นแค่ตอนที่สปาเกตตี้เป็นไส้เดือนไปแล้วและกำลังลงคอรุ่นพี่



    “ฟาโรห์”



    “เฮ้ย”ฟาโรห์สะดุ้งกับเสียงที่เรียก ทำไมต้องเป็นสภาพนี้ด้วยฟะ ถึงจะไม่ได้ดูกระจกแต่เขาก็เดาได้ว่าสีหน้าเขาคงดูไม่ดีเท่าไหร่ ผมเผ้าก็คงจะยุ่งเพราะเพิ่งมุดพุ่มไม้มาหยกๆ



    “เป็นอะไรรึเปล่าเจ้าชาย”



    “เอ๋”ฟาโรห์หันไปดูเจ้าของเสียงคนที่สอง ดวงตาสีเขียวน้ำทะเลมองเขาอย่างคนใจดีเหมือนเคย



    เจ้าชายแพททริค….



    “สวัสดีฮะ แล้วนี่เจ้าชายเฟรเดอริคไม่มาด้วยเหรอฮะ”



    “เฟรดบ่นปวดหัวก็เลยขอตัวไปนอนแล้วล่ะ ว่าแต่เราเถอะหน้าซีดๆนะ”



    “ไม่หรอกฮะ รุ่นพี่มาเดินเล่นเหมือนกันเหรอฮะ วิวดีนะครับเนี่ยะ”



    “อืม ฉันไม่เจอทริซเซียหลายวันแล้วก็เลยมาหาหน่อยน่ะ”เจ้าชายแพททริคลูบผมพาทริซเซียเบาๆ แววตาเขาที่มองน้องสาวช่างอ่อนโยนนัก



    ช่างเป็นพี่ที่ประเสริฐอะไรยังงี้….



    “เจ้าพี่คิดมากอีกแล้ว พูดแบบนี้คนอื่นจะคิดว่าหญิงเป็นเด็กไม่รู้จักโตนะคะ”



    “จริงสิฟาโรห์ นายพอจะมีเวลาว่างรึเปล่า”ฟาโรห์หันไปมองรานดอฟกับยูริคซึ่งพบว่าสองคนนั้นมองมาทางเขาอยู่ก่อนแล้ว รานดอฟทำท่าโบกมือไล่เขาเขาเลยยิ้มขอบใจไปให้



    “ว่างฮะ พี่มีอะไรจะให้ผมช่วยเหรอ”



    “เอ่อ ไม่มีหรอก”พาทริซเซียออกตัวอย่างรู้ทันพี่ชาย



    “ทริซเซียอยากพายเรือเล่นแต่ฉันมีงานต้องไปสะสางก็เลยอยู่ด้วยไม่ได้ ฉันไม่อยากให้ทริซเซียอยู่คนเดียว”



    พูดได้โดนใจมาก!



    พี่ครับ! TT^TT



    พี่คือกามเทพของผม ^0^

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×