ลำดับตอนที่ #8
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #8 : กามเทพ
“เดี๋ยวทายาซะด้วยสิ”ไอริสพูดขณะที่เดินมาด้วยกัน ฟาโรห์หันมามองด้วยความแปลกใจนิดๆ
“มองอะไร”
“เปล่า”ฟาโรห์ยิ้ม”ขอบใจนะ”
“ไม่เห็นจะต้องขอบใจเลยนี่นาก็แค่เตือนให้ทายา”
“ก็เธอเคยบอกว่าไม่ชอบผู้ชายเจ้าสำอาง ฉันเห็นเธออุตส่าห์เตือนก็เลยขอบใจ”
“เอาเถอะ บางทีนายอาจจะแค่สำออยนิดๆเพราะฉันเห็นนายก็ช่วยงานดี”
“เริ่มจะเห็นความดีของฉันแล้วใช่ไหมล่ะ”
“แหวะ”ไอริสทำหน้าเลี่ยน แต่เธอก็ปฏิเสธไม่ได้จริงๆว่าผู้ชายคนนี้มีดีกว่าที่เธอเคยสบประมาท
สามสัปดาห์ที่เรียนด้วยกันมาก็ไม่เห็นว่าเขาจะเกเรตรงไหน หมอนี่ออกจะตั้งใจเรียนถึงแม้เวลาเล่นจะเฮฮาไม่เหลือมาดเด็กเคร่ง แล้วที่สำคัญเขาเป็นเจ้าชายที่ดูติดดินมากๆถึงมากที่สุด เธอเห็นเขาชอบลุยเองทุกงานไม่น่าจะเป็นคนเจ้าสำอางไปได้เลย
ไอริสหันมองด้านข้างของเจ้าชายหนุ่มที่ฮัมเพลงชมธรรมชาติ แต่กระเป๋าใบใหญ่แบบนั้นจะไม่ให้เธอคิดก็แปลกแล้ว ข้างในคงมีแต่เครื่องประทินโฉมล่ะสิหน้าตาถึงได้หล่อดูดีขนาดนี้
“นี่เธอ ตารางสอนที่รานดอฟฝากให้เธอช่วยหาได้มารึยังเหรอ”
“อ้อ วันนี้จะไปขออยู่พอดี รานดอฟจะเอาไปทำไมเหรอ”
“ไม่รู้สิ เขาคงอยากมีเส้นมีสายอย่างที่บอกเธอมั้ง”ฟาโรห์ทำไก๋ปัดความผิดให้เพื่อนเฉย
“อย่างรานดอฟน่ะเหรอ”ไอริสหัวเราะเบาๆ
“เธอรู้จักรานดอฟนานรึยัง”ฟาโรห์เริ่มคำถาม
“ประมาณเกือบสองปีแล้วมั้งเจอกันที่อเมซอน แล้วนายล่ะ”
“ฉันน่ะเหรอ”ฟาโรห์ทำหน้าครุ่นคิดเล็กน้อย”ฉันเจอมันครั้งแรกตอนขวบกว่าๆมั้ง แต่ฉันจำมันไม่ได้หรอกนะ”ฟาโรห์หัวเราะ
“แล้วใครจะไปจำได้ล่ะ”ไอริสค้อน
“แต่ก็ไม่น่าแปลกเท่าไหร่ที่จะซี้กัน ฉันพอรู้มาว่าพ่อแม่นายสนิทกันไม่ใช่เหรอ”
“ใช่ แต่ฉันเองเคยเจอท่านอาคิลไม่กี่ครั้งแล้วรานดอฟก็ไม่ได้ตามพ่อของเขามาด้วยหรอกนะ”
“งั้น ”ไอริสฉงนเอียงหน้ามาเล็กน้อย
“ฉันกับมันเจอกันอีกทีตอนอายุประมาณ8ปี แต่เป็นการพบกันโดยบังเอิญที่เอเธนส์”
“โดยบังเอิญ? นายไปเที่ยวกับครอบครัวเหรอ”
“ก็ไม่เชิง ฉันแอบหนีไปเที่ยวในตลาดคนเดียวแล้วก็ไปเจอกับมันเข้า ตอนนั้นไม่รู้ด้วยซ้ำว่าเราเคยพบกันมาก่อน”
“แต่ตอนนี้รู้แล้วล่ะสิ”ไอริสยิ้ม
“อืม รู้ตั้งแต่วันนั้นเลยหลังจากที่นั่งคุยกันนั่นแหละ”
“พอรู้แล้วพวกนายรู้สึกยังไง”ไอริสเริ่มรู้สึกสนใจ
“ก็เหลือเชื่อน่ะสิ ไม่คิดว่าโลกจะกลมขนาดนี้”ฟาโรห์หัวเราะ
“หือม์ แต่พวกนายดูสนิทกันมากนะ”
“นั่นเพราะเรามักจะแอบไปเที่ยวด้วยกันหลายครั้ง เธอรู้ใช่มั๊ยว่ามันเป็นนักฆ่ามันเลยรับงานเล็กๆน้อยๆมาตั้งแต่อายุ13แล้ว ส่วนฉันมักจะได้ยินท่านแม่พูดถึงโลกภายนอกที่ฟังแล้วน่าสนุกกว่าในวังร้อยเท่าพันเท่าฉันก็เลยชอบที่จะไปผจญภัยตามที่ต่างๆ”
“พวกนายนัดเจอกันเหรอ”
“ประมาณนั้น ที่จริงก็แค่ส่งจดหมายบอกอีกฝ่ายว่าจะไปทำอะไรที่ไหนซะมากกว่าเพราะเราต่างก็เข้าใจว่าคงไม่สามารถกำหนดเวลาที่ตายตัวได้”
“แล้วยังไงต่อล่ะ”ไอริสเร่ง เธอกำลังลุ้นจนเผลอยิ้ม
“สรุปคือบางทีก็เจอบางทีก็ไม่ได้เจอ แต่ทุกครั้งที่เจอกันเราจะมีเรื่องสนุกให้ทำมากมายจนสนิทกันอย่างรวดเร็วถึงแม้จะเป็นเวลาช่วงสั้นๆก็ตาม”
“ความสัมพันธ์ของพวกนายนี่ประหลาดจัง แต่น่าประทับใจดีนะ”
“เธอไม่เคยมีเพื่อนสมัยเด็กที่ทำให้รู้สึกประทับใจบ้างเลยเหรอ”
“มีสิ ”ไอริสชะงักนิดหน่อยก่อนจะอมยิ้มแล้วก้มหน้าลงไป
“เล่าได้ไหม”ฟาโรห์ถามแต่ไอริสไม่ตอบอะไร เขาคิดว่าเธอคงอยากจะเก็บไว้นึกถึงคนเดียวมากกว่าเลยไม่เซ้าซี้ต่อ เขายิ้มขึ้นมาบ้างเมื่อนึกถึงฝันดีเมื่อเช้า
นั่นสินะเรื่องบางเรื่องก็ควรจะเก็บไว้เป็นความลับ
                                      ..
“ว้าว สวนที่นี่ไม่เลวเลยแฮะ”รานดอฟชูมือขึ้น
ตอนนี้พวกเขาเดินย่อยอาหารเย็น(ขอข้ามเวลา55)อยู่ในสวนของโรงเรียนซึ่งมีลักษณะคล้ายสวนสาธารณะ ตามทางตั้งโคมไฟแบบญี่ปุ่นไว้เป็นระยะ มีน้ำพุกลางลาน มีน้ำตกจำลองที่มุมหนึ่งริมกำแพงปราสาท มีแม้แต่สระน้ำขนาดเล็กให้เด็กพายเรือเล่น(รู้สึกจะไฮโซขึ้นทุกวันแล้วนะ เพิ่มแคมป์ด้วยท่าจะดี^0^)
“ยูริค นายเป็นอะไรไป”รานดอฟหันมามอง
“มะ ม่ายมี”ยูริคทำหน้าพะอืดพะอมแล้วอยู่ๆเขาก็ทำท่าจะอาเจียนวิ่งแจ้นไปอีกทาง
“555”เสียงหัวเราะของผู้ชายกลุ่มหนึ่งดังขึ้น รานดอฟหันไปมอง
เฮือก ..
อ้วก! 
แหวะ! 
อ้วก+++    แหวะ+++    อ้วก .
ฟาโรห์ยืนงงกับภาพดูไม่ได้ของรานดอฟกับยูริค ไอ้สองคนนี้มันเป็นอะไรนะ เหตุการณ์สุดงงนี่เกิดขึ้นขณะที่เขาก้มหน้าก้มตาอ่านตารางเรียนของรุ่นพี่ปีสามอย่างมีความสุข
“ว่าไง เล่าได้รึยัง”ฟาโรห์ยืนมองเพื่อนสองคนที่หมดแรงนั่งทรุดบนเก้าอี้ยาว
“แกอย่าถาม ฉันจะอ้วก”รานดอฟทำท่าจะออกอาการอีกรอบ
“ชาตินี้ผมจะไม่กินสปาเกตตี้อีกแล้วฮะ”ยูริคนั่งตาลอย
“ตกลงพวกแกเป็นอะไรไปเนี่ยะ”ฟาโรห์ทำหน้างงหนักขึ้นแถมด้วยความอยากรู้อยากเห็น
“อยากรู้ใช่ป่ะ ทางนู้นเลยไปเลย”รานดอฟชี้ไปที่กลุ่มนักเรียน(คาดว่าอยู่ปี4)ที่กำลังหัวเราะคิกคักตบไม้ตบมืออย่างสนุกสนาน แล้วไม่ห่างกันก็มีคนหนึ่งนั่งในสภาพเดียวกับเพื่อนของเขา ยืนยันด้วยการที่ชายหนุ่มร่างอ้วนอีกคนคลานออกนอกวงแล้วก็หัวทิ่มพื้นไม่เงยขึ้นมาอีก
ฟาโรห์เดินมาแอบอยู่หลังพุ่มไม้มองเข้าไปในกลุ่มว่าจะเกิดอะไรขึ้น ทั้งกลุ่มทำท่าเหมือนกำลังจับไม้สั้นไม้ยาวกันอยู่ สักพักเสียงเฮก็ดังขึ้นแล้วพี่คนหนึ่งก็หยิบเส้นสปาเกตตี้ที่ลวกแล้วขึ้นมา
“ฮือ”ฟาโรห์ตาโต
สปาเกตตี้เมื่อกี้กลายเป็นไส้เดือนยักษ์ที่มีชีวิตแล้วก็กำลังดิ้นอย่างเมามันอยู่ระหว่างนิ้วโป้งกับนิ้วชี้ของพี่คนนั้น แล้ว .
“ซวบ~~~”รุ่นพี่ดูดไส้เดือนเข้าปากอย่างไม่สะทกสะท้านแถมดูดเสร็จก็เลียนิ้วตัวเองอีกรอบ
“อะ..อุ๊บ”ฟาโรห์วิ่งออกมาที่ต้นไม้ใหญ่ต้นหนึ่งขืนอยู่ต่อเขาคงต้องอ้วกแน่ มิน่ารานดอฟกับยูริคถึงอ้วกอย่างเอาเป็นเอาตายแบบนั้น มันคงไม่รู้ว่าไอ้ที่เขากินกันเป็นของปลอม สงสัยจะเห็นแค่ตอนที่สปาเกตตี้เป็นไส้เดือนไปแล้วและกำลังลงคอรุ่นพี่
“ฟาโรห์”
“เฮ้ย”ฟาโรห์สะดุ้งกับเสียงที่เรียก ทำไมต้องเป็นสภาพนี้ด้วยฟะ ถึงจะไม่ได้ดูกระจกแต่เขาก็เดาได้ว่าสีหน้าเขาคงดูไม่ดีเท่าไหร่ ผมเผ้าก็คงจะยุ่งเพราะเพิ่งมุดพุ่มไม้มาหยกๆ
“เป็นอะไรรึเปล่าเจ้าชาย”
“เอ๋”ฟาโรห์หันไปดูเจ้าของเสียงคนที่สอง ดวงตาสีเขียวน้ำทะเลมองเขาอย่างคนใจดีเหมือนเคย
เจ้าชายแพททริค .
“สวัสดีฮะ แล้วนี่เจ้าชายเฟรเดอริคไม่มาด้วยเหรอฮะ”
“เฟรดบ่นปวดหัวก็เลยขอตัวไปนอนแล้วล่ะ ว่าแต่เราเถอะหน้าซีดๆนะ”
“ไม่หรอกฮะ รุ่นพี่มาเดินเล่นเหมือนกันเหรอฮะ วิวดีนะครับเนี่ยะ”
“อืม ฉันไม่เจอทริซเซียหลายวันแล้วก็เลยมาหาหน่อยน่ะ”เจ้าชายแพททริคลูบผมพาทริซเซียเบาๆ แววตาเขาที่มองน้องสาวช่างอ่อนโยนนัก
ช่างเป็นพี่ที่ประเสริฐอะไรยังงี้ .
“เจ้าพี่คิดมากอีกแล้ว พูดแบบนี้คนอื่นจะคิดว่าหญิงเป็นเด็กไม่รู้จักโตนะคะ”
“จริงสิฟาโรห์ นายพอจะมีเวลาว่างรึเปล่า”ฟาโรห์หันไปมองรานดอฟกับยูริคซึ่งพบว่าสองคนนั้นมองมาทางเขาอยู่ก่อนแล้ว รานดอฟทำท่าโบกมือไล่เขาเขาเลยยิ้มขอบใจไปให้
“ว่างฮะ พี่มีอะไรจะให้ผมช่วยเหรอ”
“เอ่อ ไม่มีหรอก”พาทริซเซียออกตัวอย่างรู้ทันพี่ชาย
“ทริซเซียอยากพายเรือเล่นแต่ฉันมีงานต้องไปสะสางก็เลยอยู่ด้วยไม่ได้ ฉันไม่อยากให้ทริซเซียอยู่คนเดียว”
พูดได้โดนใจมาก!
พี่ครับ! TT^TT
พี่คือกามเทพของผม ^0^
“มองอะไร”
“เปล่า”ฟาโรห์ยิ้ม”ขอบใจนะ”
“ไม่เห็นจะต้องขอบใจเลยนี่นาก็แค่เตือนให้ทายา”
“ก็เธอเคยบอกว่าไม่ชอบผู้ชายเจ้าสำอาง ฉันเห็นเธออุตส่าห์เตือนก็เลยขอบใจ”
“เอาเถอะ บางทีนายอาจจะแค่สำออยนิดๆเพราะฉันเห็นนายก็ช่วยงานดี”
“เริ่มจะเห็นความดีของฉันแล้วใช่ไหมล่ะ”
“แหวะ”ไอริสทำหน้าเลี่ยน แต่เธอก็ปฏิเสธไม่ได้จริงๆว่าผู้ชายคนนี้มีดีกว่าที่เธอเคยสบประมาท
สามสัปดาห์ที่เรียนด้วยกันมาก็ไม่เห็นว่าเขาจะเกเรตรงไหน หมอนี่ออกจะตั้งใจเรียนถึงแม้เวลาเล่นจะเฮฮาไม่เหลือมาดเด็กเคร่ง แล้วที่สำคัญเขาเป็นเจ้าชายที่ดูติดดินมากๆถึงมากที่สุด เธอเห็นเขาชอบลุยเองทุกงานไม่น่าจะเป็นคนเจ้าสำอางไปได้เลย
ไอริสหันมองด้านข้างของเจ้าชายหนุ่มที่ฮัมเพลงชมธรรมชาติ แต่กระเป๋าใบใหญ่แบบนั้นจะไม่ให้เธอคิดก็แปลกแล้ว ข้างในคงมีแต่เครื่องประทินโฉมล่ะสิหน้าตาถึงได้หล่อดูดีขนาดนี้
“นี่เธอ ตารางสอนที่รานดอฟฝากให้เธอช่วยหาได้มารึยังเหรอ”
“อ้อ วันนี้จะไปขออยู่พอดี รานดอฟจะเอาไปทำไมเหรอ”
“ไม่รู้สิ เขาคงอยากมีเส้นมีสายอย่างที่บอกเธอมั้ง”ฟาโรห์ทำไก๋ปัดความผิดให้เพื่อนเฉย
“อย่างรานดอฟน่ะเหรอ”ไอริสหัวเราะเบาๆ
“เธอรู้จักรานดอฟนานรึยัง”ฟาโรห์เริ่มคำถาม
“ประมาณเกือบสองปีแล้วมั้งเจอกันที่อเมซอน แล้วนายล่ะ”
“ฉันน่ะเหรอ”ฟาโรห์ทำหน้าครุ่นคิดเล็กน้อย”ฉันเจอมันครั้งแรกตอนขวบกว่าๆมั้ง แต่ฉันจำมันไม่ได้หรอกนะ”ฟาโรห์หัวเราะ
“แล้วใครจะไปจำได้ล่ะ”ไอริสค้อน
“แต่ก็ไม่น่าแปลกเท่าไหร่ที่จะซี้กัน ฉันพอรู้มาว่าพ่อแม่นายสนิทกันไม่ใช่เหรอ”
“ใช่ แต่ฉันเองเคยเจอท่านอาคิลไม่กี่ครั้งแล้วรานดอฟก็ไม่ได้ตามพ่อของเขามาด้วยหรอกนะ”
“งั้น ”ไอริสฉงนเอียงหน้ามาเล็กน้อย
“ฉันกับมันเจอกันอีกทีตอนอายุประมาณ8ปี แต่เป็นการพบกันโดยบังเอิญที่เอเธนส์”
“โดยบังเอิญ? นายไปเที่ยวกับครอบครัวเหรอ”
“ก็ไม่เชิง ฉันแอบหนีไปเที่ยวในตลาดคนเดียวแล้วก็ไปเจอกับมันเข้า ตอนนั้นไม่รู้ด้วยซ้ำว่าเราเคยพบกันมาก่อน”
“แต่ตอนนี้รู้แล้วล่ะสิ”ไอริสยิ้ม
“อืม รู้ตั้งแต่วันนั้นเลยหลังจากที่นั่งคุยกันนั่นแหละ”
“พอรู้แล้วพวกนายรู้สึกยังไง”ไอริสเริ่มรู้สึกสนใจ
“ก็เหลือเชื่อน่ะสิ ไม่คิดว่าโลกจะกลมขนาดนี้”ฟาโรห์หัวเราะ
“หือม์ แต่พวกนายดูสนิทกันมากนะ”
“นั่นเพราะเรามักจะแอบไปเที่ยวด้วยกันหลายครั้ง เธอรู้ใช่มั๊ยว่ามันเป็นนักฆ่ามันเลยรับงานเล็กๆน้อยๆมาตั้งแต่อายุ13แล้ว ส่วนฉันมักจะได้ยินท่านแม่พูดถึงโลกภายนอกที่ฟังแล้วน่าสนุกกว่าในวังร้อยเท่าพันเท่าฉันก็เลยชอบที่จะไปผจญภัยตามที่ต่างๆ”
“พวกนายนัดเจอกันเหรอ”
“ประมาณนั้น ที่จริงก็แค่ส่งจดหมายบอกอีกฝ่ายว่าจะไปทำอะไรที่ไหนซะมากกว่าเพราะเราต่างก็เข้าใจว่าคงไม่สามารถกำหนดเวลาที่ตายตัวได้”
“แล้วยังไงต่อล่ะ”ไอริสเร่ง เธอกำลังลุ้นจนเผลอยิ้ม
“สรุปคือบางทีก็เจอบางทีก็ไม่ได้เจอ แต่ทุกครั้งที่เจอกันเราจะมีเรื่องสนุกให้ทำมากมายจนสนิทกันอย่างรวดเร็วถึงแม้จะเป็นเวลาช่วงสั้นๆก็ตาม”
“ความสัมพันธ์ของพวกนายนี่ประหลาดจัง แต่น่าประทับใจดีนะ”
“เธอไม่เคยมีเพื่อนสมัยเด็กที่ทำให้รู้สึกประทับใจบ้างเลยเหรอ”
“มีสิ ”ไอริสชะงักนิดหน่อยก่อนจะอมยิ้มแล้วก้มหน้าลงไป
“เล่าได้ไหม”ฟาโรห์ถามแต่ไอริสไม่ตอบอะไร เขาคิดว่าเธอคงอยากจะเก็บไว้นึกถึงคนเดียวมากกว่าเลยไม่เซ้าซี้ต่อ เขายิ้มขึ้นมาบ้างเมื่อนึกถึงฝันดีเมื่อเช้า
นั่นสินะเรื่องบางเรื่องก็ควรจะเก็บไว้เป็นความลับ
                                      ..
“ว้าว สวนที่นี่ไม่เลวเลยแฮะ”รานดอฟชูมือขึ้น
ตอนนี้พวกเขาเดินย่อยอาหารเย็น(ขอข้ามเวลา55)อยู่ในสวนของโรงเรียนซึ่งมีลักษณะคล้ายสวนสาธารณะ ตามทางตั้งโคมไฟแบบญี่ปุ่นไว้เป็นระยะ มีน้ำพุกลางลาน มีน้ำตกจำลองที่มุมหนึ่งริมกำแพงปราสาท มีแม้แต่สระน้ำขนาดเล็กให้เด็กพายเรือเล่น(รู้สึกจะไฮโซขึ้นทุกวันแล้วนะ เพิ่มแคมป์ด้วยท่าจะดี^0^)
“ยูริค นายเป็นอะไรไป”รานดอฟหันมามอง
“มะ ม่ายมี”ยูริคทำหน้าพะอืดพะอมแล้วอยู่ๆเขาก็ทำท่าจะอาเจียนวิ่งแจ้นไปอีกทาง
“555”เสียงหัวเราะของผู้ชายกลุ่มหนึ่งดังขึ้น รานดอฟหันไปมอง
เฮือก ..
อ้วก! 
แหวะ! 
อ้วก+++    แหวะ+++    อ้วก .
ฟาโรห์ยืนงงกับภาพดูไม่ได้ของรานดอฟกับยูริค ไอ้สองคนนี้มันเป็นอะไรนะ เหตุการณ์สุดงงนี่เกิดขึ้นขณะที่เขาก้มหน้าก้มตาอ่านตารางเรียนของรุ่นพี่ปีสามอย่างมีความสุข
“ว่าไง เล่าได้รึยัง”ฟาโรห์ยืนมองเพื่อนสองคนที่หมดแรงนั่งทรุดบนเก้าอี้ยาว
“แกอย่าถาม ฉันจะอ้วก”รานดอฟทำท่าจะออกอาการอีกรอบ
“ชาตินี้ผมจะไม่กินสปาเกตตี้อีกแล้วฮะ”ยูริคนั่งตาลอย
“ตกลงพวกแกเป็นอะไรไปเนี่ยะ”ฟาโรห์ทำหน้างงหนักขึ้นแถมด้วยความอยากรู้อยากเห็น
“อยากรู้ใช่ป่ะ ทางนู้นเลยไปเลย”รานดอฟชี้ไปที่กลุ่มนักเรียน(คาดว่าอยู่ปี4)ที่กำลังหัวเราะคิกคักตบไม้ตบมืออย่างสนุกสนาน แล้วไม่ห่างกันก็มีคนหนึ่งนั่งในสภาพเดียวกับเพื่อนของเขา ยืนยันด้วยการที่ชายหนุ่มร่างอ้วนอีกคนคลานออกนอกวงแล้วก็หัวทิ่มพื้นไม่เงยขึ้นมาอีก
ฟาโรห์เดินมาแอบอยู่หลังพุ่มไม้มองเข้าไปในกลุ่มว่าจะเกิดอะไรขึ้น ทั้งกลุ่มทำท่าเหมือนกำลังจับไม้สั้นไม้ยาวกันอยู่ สักพักเสียงเฮก็ดังขึ้นแล้วพี่คนหนึ่งก็หยิบเส้นสปาเกตตี้ที่ลวกแล้วขึ้นมา
“ฮือ”ฟาโรห์ตาโต
สปาเกตตี้เมื่อกี้กลายเป็นไส้เดือนยักษ์ที่มีชีวิตแล้วก็กำลังดิ้นอย่างเมามันอยู่ระหว่างนิ้วโป้งกับนิ้วชี้ของพี่คนนั้น แล้ว .
“ซวบ~~~”รุ่นพี่ดูดไส้เดือนเข้าปากอย่างไม่สะทกสะท้านแถมดูดเสร็จก็เลียนิ้วตัวเองอีกรอบ
“อะ..อุ๊บ”ฟาโรห์วิ่งออกมาที่ต้นไม้ใหญ่ต้นหนึ่งขืนอยู่ต่อเขาคงต้องอ้วกแน่ มิน่ารานดอฟกับยูริคถึงอ้วกอย่างเอาเป็นเอาตายแบบนั้น มันคงไม่รู้ว่าไอ้ที่เขากินกันเป็นของปลอม สงสัยจะเห็นแค่ตอนที่สปาเกตตี้เป็นไส้เดือนไปแล้วและกำลังลงคอรุ่นพี่
“ฟาโรห์”
“เฮ้ย”ฟาโรห์สะดุ้งกับเสียงที่เรียก ทำไมต้องเป็นสภาพนี้ด้วยฟะ ถึงจะไม่ได้ดูกระจกแต่เขาก็เดาได้ว่าสีหน้าเขาคงดูไม่ดีเท่าไหร่ ผมเผ้าก็คงจะยุ่งเพราะเพิ่งมุดพุ่มไม้มาหยกๆ
“เป็นอะไรรึเปล่าเจ้าชาย”
“เอ๋”ฟาโรห์หันไปดูเจ้าของเสียงคนที่สอง ดวงตาสีเขียวน้ำทะเลมองเขาอย่างคนใจดีเหมือนเคย
เจ้าชายแพททริค .
“สวัสดีฮะ แล้วนี่เจ้าชายเฟรเดอริคไม่มาด้วยเหรอฮะ”
“เฟรดบ่นปวดหัวก็เลยขอตัวไปนอนแล้วล่ะ ว่าแต่เราเถอะหน้าซีดๆนะ”
“ไม่หรอกฮะ รุ่นพี่มาเดินเล่นเหมือนกันเหรอฮะ วิวดีนะครับเนี่ยะ”
“อืม ฉันไม่เจอทริซเซียหลายวันแล้วก็เลยมาหาหน่อยน่ะ”เจ้าชายแพททริคลูบผมพาทริซเซียเบาๆ แววตาเขาที่มองน้องสาวช่างอ่อนโยนนัก
ช่างเป็นพี่ที่ประเสริฐอะไรยังงี้ .
“เจ้าพี่คิดมากอีกแล้ว พูดแบบนี้คนอื่นจะคิดว่าหญิงเป็นเด็กไม่รู้จักโตนะคะ”
“จริงสิฟาโรห์ นายพอจะมีเวลาว่างรึเปล่า”ฟาโรห์หันไปมองรานดอฟกับยูริคซึ่งพบว่าสองคนนั้นมองมาทางเขาอยู่ก่อนแล้ว รานดอฟทำท่าโบกมือไล่เขาเขาเลยยิ้มขอบใจไปให้
“ว่างฮะ พี่มีอะไรจะให้ผมช่วยเหรอ”
“เอ่อ ไม่มีหรอก”พาทริซเซียออกตัวอย่างรู้ทันพี่ชาย
“ทริซเซียอยากพายเรือเล่นแต่ฉันมีงานต้องไปสะสางก็เลยอยู่ด้วยไม่ได้ ฉันไม่อยากให้ทริซเซียอยู่คนเดียว”
พูดได้โดนใจมาก!
พี่ครับ! TT^TT
พี่คือกามเทพของผม ^0^
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น