ลำดับตอนที่ #7
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #7 : ในความทรงจำ
  หวัดดีค่ะ โดนร้องเรียนเรื่องพิมพ์ผิดอีกแล้วจะแก้ให้ค่ะ แบบว่าพิมพ์ไม่คล่องอ่ะบางทีก็กดตัวนั้นก่อนตัวนี้(ตาลายค่ะ)
ส่วนเรื่องคิลกับเรนอนเราไม่ได้แต่งให้คู่กันอ่ะTTOTT เดี๋ยวค่ะเดี๋ยววางมีดก่อน^_^\" คือเราว่านักฆ่ากับเจ้าหญิงออกจะสวนทางกันเกินไป ถ้าเรนอนแต่งกับคิลจริงคงโดนขัดขวางจากหลายฝ่ายแล้วเรนอนเองก็ต้องเปลี่ยนจากเจ้าหญิงเป็นนักฆ่าซึ่งดูแล้วไม่น่าจะลงเอยกันได้เลย เราก็เลยคิดว่าแม่ของคิลน่าจะเป็นนักฆ่าเหมือนกันคงจะดีกว่า ส่วนเรนอน(ตามฟิกเรา)ก็อยู่คาโนวาลอ่ะค่ะไม่ได้ไปไหนหรอก ก็อย่าว่าเราโหดเลยนะคะเพราะชีวิตมันไม่ได้มีแต่เรื่องสมหวังอ่ะ ให้คิลเก็บเรนอนไว้เป็นความทรงจำที่น่าประทับใจดีกว่าค่ะ
                          .......................................................................................................................
  เบื้องหน้าของเขาคือทุ่งโล่งกว้างที่มีดอกไม้บานสะพรั่ง ผีเสื้อสองสามตัวเพิ่งบินผ่านหน้าเขาไป แล้วเขาก็ได้ยินเสียงเด็กผู้หญิงคนหนึ่งหัวเราะอย่างสนุกสนาน เขาพยายามเดินหาที่มาของเสียงก็เห็นเด็กผู้หญิงสวมมงกุฎดอกไม้สีขาวนั่งหันหลังนั่งเล่นอยู่กับกระต่ายป่าสีน้ำตาล ผมของเธอเป็นลอนยาวทิ้งตัวถึงกลางหลังแต่เขาไม่สามารถบอกได้ว่ามันเป็นสีอะไร จะว่าเป็นสีดำก็เหมือนจะไม่ใช่ทีเดียวเพราะมันอมน้ำตาลเข้มอยู่เหมือนกัน เด็กคนนั้นคงรู้สึกตัวว่าถูกมองจึงหันมาทางเขา
“เธอ ..”เขาเอ่ยขึ้น
“โอ๊ย .”ฟาโรห์ลืมตาสะดุ้งตื่นขึ้นมาทันที
ภาพพร่ามัวที่อยู่ข้างหน้าคือด้านข้างของเจ้าชายยูริคที่ทำท่ากลัวอะไรสักอย่างแล้วกระโดดมานั่งบนเตียงเขา รานดอฟยืนก้มๆเงยๆอยู่กลางห้องแล้วก็อุ้มบางอย่างขึ้นมา
“อย่าๆๆ”ยูริคยกมือที่กำลังสั่นขึ้นมาห้าม
“แกกลัวอะไรเล่า”รานดอฟหัวเราะพลางลูบสิ่งที่เขาอุ้มไว้ มันดูยาวๆอ้วนๆอย่างบอกไม่ถูก
“เฮ้ย”ฟาโรห์ร่วมกันส่งเสียงกับยูริคเมื่อเห็นของในมือเพื่อนรักเต็มๆตา “แกเอามันมาเลี้ยงเหรอ”
“ใช้คำสุภาพหน่อย หมอนี่ชื่อฟีซเป็นเพื่อนรักของฉัน ฉันรู้จักฟีซก่อนแกด้วยซ้ำนะฟาโรห์”
“ไอ้นี่อายุสิบกว่าปีเลยเหรอ”ยูริคกลืนน้ำลาย
“ใช่เลย”รานดอฟลูบฟีซที่แลบลิ้นฟ่อๆขู่ยูริคอย่างสบายอารมณ์ แววตาสีเหลืองของฟีซวาววาบเวลาที่มองยูริคจนฟาโรห์ยังนึกกลัวแทน เขาหันไปมองเจ้าชายแห่งโรมันอย่างสังเวชใจ
โธ่ยูริค! ชีวิตแกต้องมาจบลงในปากไอ้ฟีซหรือนี่
“รานดอฟนายคงเอากรงมาด้วยใช่มั๊ย”ยูริคถาม
“เอามาทำไมล่ะ ฟีซไม่ชอบอยู่ในช่องเหลี่ยมๆแบบนั้นหรอกเนอะ”รานดอฟพยักหน้ากับฟีซที่ชูหัวขึ้นเห็นด้วยกับเจ้านายก่อนจะหันมาสบตากับยูริคให้เสียวสันหลังเล่น
“เฮ่อ ฉันจะไปอาบน้ำก่อนล่ะนะ”ฟาโรห์มองยูริคแล้วก็ปลอบใจ
”ไม่ต้องกลัวน่ารานดอฟมันล้อเล่น ฉันเห็นกรงอยู่ในกล่องใต้โต๊ะเขียนหนังสือของมัน นายเตรียมหยิบมาใส่ไอ้ฟีซได้เลย”
ยูริครีบมองไปที่กล่องช่วยชีวิตทันที ส่วนเจ้าฟีซมองมาที่เขาอย่างไม่พอใจเหมือนจะพูดว่าอย่าสู่รู้
“เออ วันนี้แกตื่นสายนะฟาโรห์”รานดอฟทัก
“ฉันกำลังฝันดีเลยแต่พวกแกปลุกนายจนตื่น”ฟาโรห์หน้าบูดนิดหน่อย
“ฝันอะไร? อ้อ อย่างแกคงฝันว่าได้สู้กับสัตว์ป่าสักตัวสองตัวล่ะสิ”รานดอฟทำท่ารู้ทันแต่ฟาโรห์ไม่ตอบอะไร เขาอมยิ้มแล้วก็เดินออกไปจากห้อง
                                        ..................
“มีคนอยากพบเธอเจ้าชายฟาโรห์”เพื่อนผู้หญิงคนหนึ่งในป้อมบอกฟาโรห์(ทำไมปีนี้มีผู้หญิงในป้อมเยอะจัง -_-“)
“ใครเหรอ”
“ฉันเอง”เสียงของคนคุ้นเคยดังขึ้น
“เจ้า เอ๊ย รุ่นพี่มีอะไรเหรอฮะ”ฟาโรห์งงที่อยู่ๆก็มีแขกมาเยี่ยมตั้งแต่วันที่สามของการเปิดเรียน
“ไปข้างนอกหน่อยได้รึเปล่า”ฟาโรห์เดินตามเจ้าชายเฟรเดอริคออกมาที่ระเบียงรับลม
“ฉันได้ข่าวมาว่านายสอบเข้าได้เป็นที่หนึ่งของปีนี้”
“เอ่อ คงงั้นมั้งฮะ”
“ฉันรู้มาว่าเมื่อวานนายอาสาเป็นครูฝึกให้เพื่อนๆในวิชาทักษะการยิงธนูด้วยจริงรึเปล่า”
“เอ่อ .”
“ว่าไงล่ะ”
“คือผมเห็นว่าพาทริซเซีย ”เฟรเดอริคขมวดคิ้ว”เอ่อ รุ่นพี่พาทริซเซียจะเหนื่อยน่ะฮะ ทักษะง่ายๆในเบื้องต้นผมพอจะช่วยได้ก็เลยคิดว่าน่าจะช่วยแบ่งเบาภาระบ้าง”
เฟรเดอริคมองหัวตั้งแต่หัวจดเท้าก่อนจะเอ่ยขึ้นมา
“ทริซเซียบอกว่าฝีมือนายไม่เลวทีเดียว นายจะว่าไงถ้าฉันจะขอให้นายร่วมเป็นผู้สอนพิเศษให้กับเพื่อนๆในป้อม”
“ไม่มีปัญหาฮะ”ฟาโรห์ยิ้มอย่างโล่งอก
“แล้วก็อย่าเหลิงว่าตัวเองเก่งซะล่ะ ยังไงนายก็ถือว่าเป็นนักเรียนคนหนึ่งในชั้นเหมือนๆคนอื่น”
“ครับ”ฟาโรห์แอบทำหน้าล้อเลียนขณะที่ก้มหัวรับคำ
“อีกเรื่องหนึ่งนั่นคือน้องฉันอยู่ปีสามแล้ว นายไม่ควรเรียกเธอด้วยชื่อเฉยๆโดยไม่มีคำว่ารุ่นพี่แม้ว่านายจะเคยรู้จักกับทริซเซียมาก่อนหน้านี้ก็ตาม”เฟรเดอริคจ้องฟาโรห์
“แต่ ”
“หือม์”
“ผมคิดว่าเรื่องนี้ไม่ใช่ปัญหานะฮะในเมื่อพาทริซเซียเองก็ไม่ได้ว่าอะไร”
“ในฐานะที่เธอเป็นรุ่นน้อง”เฟรเดอริคเสียงแข็ง
“เรื่องไหนที่ไม่แน่ใจว่าจะทำได้ผมก็จะไม่สัญญากับใครเพราะผมคิดว่าการรักษาสัจจะเป็นสิ่งสำคัญ ดังนั้นผมคงรับปากรุ่นพี่ไม่ได้ฮะ”ฟาโรห์ตอบตรงๆ
เฟรเดอริคสบตากับฟาโรห์ เขาจ้องลึกลงไปในดวงตาที่แน่วแน่ของรุ่นน้องที่ในตอนนี้ไม่ได้มองเขาในฐานะรุ่นพี่คนหนึ่ง แต่สบตากลับด้วยแววตาที่เต็มเปี่ยมไปด้วยศักดิ์ศรีของความเป็นเจ้าชายที่ต่างฝ่ายต่างมีเท่าเทียมกัน
“พูดได้ดี เอาเถอะฉันจะไม่ก้าวก่ายเรื่องนี้ก็แล้วกัน”เฟรเดอริคทิ้งท้ายก่อนเดินจากไป
ฟาโรห์ วาเนบลี
หึน่าสนใจไม่เลว
                                          .......................
“มาดนายให้มากเจ้าชายฟาโรห์”รานดอฟแซวขึ้น
ไอริสเงยหน้าขึ้นมามองเจ้าชายแห่งคาโนวาลที่แบกจอบขึ้นบ่าแล้วถือถังใส่น้ำมาในมือขวา ตอนนี้ทุกคนอยู่ในชุดลำลองเหมาะสำหรับการออกกำลังกายยามเช้าในวิชาการเกษตรและปศุสัตว์ วิชานี้อาจารย์ให้แบ่งกลุ่มละเจ็ดคน รานดอฟเลยชวนไอริสมาอยู่ด้วยกัน
“ไหนอาจารย์บอกว่าวันนี้ให้ทำเรื่องง่ายๆงานไม่หนักไง”ฟาโรห์วางถังน้ำลง
โรงเรียนเปิดมาสามสัปดาห์แล้วแต่นี่เป็นครั้งที่สองที่ได้เรียนวิชานี้ คราวก่อนอาจารย์ก็บอกแบบนี้คือ‘วิชานี้สอนการดำรงชีวิตรอด เรียนไม่ยากงานสบาย ไม่มีบาดเจ็บ ไม่มีการบ้าน’ แต่แล้วก็ให้พวกเขาถอนหญ้าเพื่อเตรียมแปลงปลูกผักจนปวดหลังกันไปเป็นแถว
นี่คือผลพวงของสงครามเมื่อหลายปีก่อน คราวนั้นทั่วเอเดนประสบปัญหาความอดอยากเพราะฝนเลือดที่หลั่งมาสามวันสามคืนจนต้องแก้ปัญหากันด้วยการรบ หลังจากที่สงครามยุติทุกโรงเรียนต่างเห็นพ้องต้องกันว่านักเรียนควรจะรู้จักทักษะการเลี้ยงตัวเองอย่างง่ายๆได้
สงครามศักดิ์สิทธิ์ของเอเดนกับเดมอสที่โกโดมเล่าว่าทางฝ่ายเดมอสเค้าเรียกกันว่าศึกชิงราชบุตรเขย เห็นทีเรื่องสนุกของท่านพ่อท่านแม่คงยังมีอีกมากที่เขาไม่เคยรู้
“เดี๋ยวต้องไปให้อาหารไก่นะ เร่งมือหน่อยเถอะ”ยูริคเอามือปาดเหงื่อหลังจากที่เขาโกยดินกลบเมล็ดพืชที่นั่งหยอดกันทีละหลุม ฟาโรห์ก็เริ่มลงมือถางหญ้ารอบรอบแปลงที่มันโตได้โตดี
ก่ะก่ะก่ะกะต๊าก  ก่ะก่ะก่ะกะต๊าก
“เฮ้ย!”
“ว๊าย!”
เพื่อนกลุ่มแปลงผักที่อยู่ข้างหน้าลุกขึ้นกันพรึ่บพั่บ แล้วไก่โต้งตัวใหญ่ก็เหินฟ้าตรงมาที่เขา
“เฮ้ ย .”
“เอ้าเอาไป”รานดอฟทำหน้าทะเล้นเมื่อมองสภาพเพื่อนรัก
ขนไก่สี่ห้าอันเสียบแซมอยู่บนผมของฟาโรห์ ที่ดั้งมีรอยเท้าไก่อยู่หนึ่งรอยพร้อมแผลจากเล็บของมันที่จิกลงบนหน้าหล่อๆของเขา แต่ที่แย่กว่านั้นคือเขาหงายหลังล้มลงไปบนดินที่ถูกรดน้ำจนแฉะเป็นโคลน
เขามองห้องน้ำจำเป็นแล้วก็ถอนใจ’มันก็บึงน้ำเจ้าเดิมของเอดินเบิร์กนี่เอง’
รานดอฟยื่นเสื้อนอกของเพื่อนคนหนึ่งในกลุ่มให้ฟาโรห์แต่อีกฝ่ายพยักหน้าให้กองไว้ที่พื้น
“นี่ก็ใกล้เที่ยงแล้วกว่านายจะอาบน้ำเสร็จก็คงเที่ยงพอดี ฉันกับยูริคจะไปรอที่ห้องอาหารเลยก็แล้วกัน แต่ตอนนี้ฉันต้องกลับไปก่อนเดี๋ยวโดนหาว่าอู้”รานดอฟพูดจบก็เดินไป
“วันนี้ซวยแต่เช้าเลยเรา”ฟาโรห์ถอนใจเขาแช่น้ำอยู่ในมุมหนึ่งที่คิดว่ามิดชิดปลอดคน
ตรงนี้เป็นแอ่งที่เว้าเข้ามามีต้นไม้ใหญ่ล้อมอยู่รอบๆ ฟาโรห์ทอดสายตาไปเบื้องหน้ามองพลิ้วน้ำที่สะท้อนแสงวิววับ ถึงเขาจะรีบไปก็ไม่มีประโยชน์เพราะงานที่เหลือก็แค่ให้อาหารไก่ซึ่งใช้คนสองคนก็เสร็จ
หอมอะไรนะ?
หอมเหมือน .
ภาพด้านหลังของเด็กผู้หญิงคนหนึ่งยื่นมงกุฎดอกไม้ที่เพิ่งถักเสร็จให้กับเขา
“ดอกอะไรเหรอ”เขารับมาสวมอย่างยินดี
“ไม่รู้เหมือนกัน ชอบรึเปล่า”
“อืม”
ฟาโรห์ลืมตาขึ้นช้าๆหันตัวมองหาดอกไม้แบบนั้น บางทีมันอาจจะขึ้นอยู่แถวๆนี้บ้างก็ได้
“ว๊าย!นาย ”
“นี่เธอ”ฟาโรห์แหกปาก
“ทะลึ่ง”ไอริสหันหลังไปอีกทาง
“ฉันเป็นฝ่ายเสียหายนะ เธอมาทำอะไรแถวนี้”ฟาโรห์รีบใส่เสื้อแล้วเดินออกมาจากหลังต้นไม้
“ฉันคิดว่าทำของตกไว้แถวนี้ก็เลยมาหาดู”
“จะเที่ยงแล้วฉันช่วยหาไหม”
“ฉันเคยมาหารอบหนึ่งแล้ว ช่างเถอะไม่ใช่ของสำคัญอะไรมากมาย”
“อืม งั้นไปกันเถอะ”ฟาโรห์ก้าวขาแล้วชะงักเล็กน้อยหันกลับไปมองที่เดิมที่เขาแช่น้ำ
“มีอะไรรึเปล่า”
“ไม่หรอก ไว้คราวหลังก็ได้”
ส่วนเรื่องคิลกับเรนอนเราไม่ได้แต่งให้คู่กันอ่ะTTOTT เดี๋ยวค่ะเดี๋ยววางมีดก่อน^_^\" คือเราว่านักฆ่ากับเจ้าหญิงออกจะสวนทางกันเกินไป ถ้าเรนอนแต่งกับคิลจริงคงโดนขัดขวางจากหลายฝ่ายแล้วเรนอนเองก็ต้องเปลี่ยนจากเจ้าหญิงเป็นนักฆ่าซึ่งดูแล้วไม่น่าจะลงเอยกันได้เลย เราก็เลยคิดว่าแม่ของคิลน่าจะเป็นนักฆ่าเหมือนกันคงจะดีกว่า ส่วนเรนอน(ตามฟิกเรา)ก็อยู่คาโนวาลอ่ะค่ะไม่ได้ไปไหนหรอก ก็อย่าว่าเราโหดเลยนะคะเพราะชีวิตมันไม่ได้มีแต่เรื่องสมหวังอ่ะ ให้คิลเก็บเรนอนไว้เป็นความทรงจำที่น่าประทับใจดีกว่าค่ะ
                          .......................................................................................................................
  เบื้องหน้าของเขาคือทุ่งโล่งกว้างที่มีดอกไม้บานสะพรั่ง ผีเสื้อสองสามตัวเพิ่งบินผ่านหน้าเขาไป แล้วเขาก็ได้ยินเสียงเด็กผู้หญิงคนหนึ่งหัวเราะอย่างสนุกสนาน เขาพยายามเดินหาที่มาของเสียงก็เห็นเด็กผู้หญิงสวมมงกุฎดอกไม้สีขาวนั่งหันหลังนั่งเล่นอยู่กับกระต่ายป่าสีน้ำตาล ผมของเธอเป็นลอนยาวทิ้งตัวถึงกลางหลังแต่เขาไม่สามารถบอกได้ว่ามันเป็นสีอะไร จะว่าเป็นสีดำก็เหมือนจะไม่ใช่ทีเดียวเพราะมันอมน้ำตาลเข้มอยู่เหมือนกัน เด็กคนนั้นคงรู้สึกตัวว่าถูกมองจึงหันมาทางเขา
“เธอ ..”เขาเอ่ยขึ้น
“โอ๊ย .”ฟาโรห์ลืมตาสะดุ้งตื่นขึ้นมาทันที
ภาพพร่ามัวที่อยู่ข้างหน้าคือด้านข้างของเจ้าชายยูริคที่ทำท่ากลัวอะไรสักอย่างแล้วกระโดดมานั่งบนเตียงเขา รานดอฟยืนก้มๆเงยๆอยู่กลางห้องแล้วก็อุ้มบางอย่างขึ้นมา
“อย่าๆๆ”ยูริคยกมือที่กำลังสั่นขึ้นมาห้าม
“แกกลัวอะไรเล่า”รานดอฟหัวเราะพลางลูบสิ่งที่เขาอุ้มไว้ มันดูยาวๆอ้วนๆอย่างบอกไม่ถูก
“เฮ้ย”ฟาโรห์ร่วมกันส่งเสียงกับยูริคเมื่อเห็นของในมือเพื่อนรักเต็มๆตา “แกเอามันมาเลี้ยงเหรอ”
“ใช้คำสุภาพหน่อย หมอนี่ชื่อฟีซเป็นเพื่อนรักของฉัน ฉันรู้จักฟีซก่อนแกด้วยซ้ำนะฟาโรห์”
“ไอ้นี่อายุสิบกว่าปีเลยเหรอ”ยูริคกลืนน้ำลาย
“ใช่เลย”รานดอฟลูบฟีซที่แลบลิ้นฟ่อๆขู่ยูริคอย่างสบายอารมณ์ แววตาสีเหลืองของฟีซวาววาบเวลาที่มองยูริคจนฟาโรห์ยังนึกกลัวแทน เขาหันไปมองเจ้าชายแห่งโรมันอย่างสังเวชใจ
โธ่ยูริค! ชีวิตแกต้องมาจบลงในปากไอ้ฟีซหรือนี่
“รานดอฟนายคงเอากรงมาด้วยใช่มั๊ย”ยูริคถาม
“เอามาทำไมล่ะ ฟีซไม่ชอบอยู่ในช่องเหลี่ยมๆแบบนั้นหรอกเนอะ”รานดอฟพยักหน้ากับฟีซที่ชูหัวขึ้นเห็นด้วยกับเจ้านายก่อนจะหันมาสบตากับยูริคให้เสียวสันหลังเล่น
“เฮ่อ ฉันจะไปอาบน้ำก่อนล่ะนะ”ฟาโรห์มองยูริคแล้วก็ปลอบใจ
”ไม่ต้องกลัวน่ารานดอฟมันล้อเล่น ฉันเห็นกรงอยู่ในกล่องใต้โต๊ะเขียนหนังสือของมัน นายเตรียมหยิบมาใส่ไอ้ฟีซได้เลย”
ยูริครีบมองไปที่กล่องช่วยชีวิตทันที ส่วนเจ้าฟีซมองมาที่เขาอย่างไม่พอใจเหมือนจะพูดว่าอย่าสู่รู้
“เออ วันนี้แกตื่นสายนะฟาโรห์”รานดอฟทัก
“ฉันกำลังฝันดีเลยแต่พวกแกปลุกนายจนตื่น”ฟาโรห์หน้าบูดนิดหน่อย
“ฝันอะไร? อ้อ อย่างแกคงฝันว่าได้สู้กับสัตว์ป่าสักตัวสองตัวล่ะสิ”รานดอฟทำท่ารู้ทันแต่ฟาโรห์ไม่ตอบอะไร เขาอมยิ้มแล้วก็เดินออกไปจากห้อง
                                        ..................
“มีคนอยากพบเธอเจ้าชายฟาโรห์”เพื่อนผู้หญิงคนหนึ่งในป้อมบอกฟาโรห์(ทำไมปีนี้มีผู้หญิงในป้อมเยอะจัง -_-“)
“ใครเหรอ”
“ฉันเอง”เสียงของคนคุ้นเคยดังขึ้น
“เจ้า เอ๊ย รุ่นพี่มีอะไรเหรอฮะ”ฟาโรห์งงที่อยู่ๆก็มีแขกมาเยี่ยมตั้งแต่วันที่สามของการเปิดเรียน
“ไปข้างนอกหน่อยได้รึเปล่า”ฟาโรห์เดินตามเจ้าชายเฟรเดอริคออกมาที่ระเบียงรับลม
“ฉันได้ข่าวมาว่านายสอบเข้าได้เป็นที่หนึ่งของปีนี้”
“เอ่อ คงงั้นมั้งฮะ”
“ฉันรู้มาว่าเมื่อวานนายอาสาเป็นครูฝึกให้เพื่อนๆในวิชาทักษะการยิงธนูด้วยจริงรึเปล่า”
“เอ่อ .”
“ว่าไงล่ะ”
“คือผมเห็นว่าพาทริซเซีย ”เฟรเดอริคขมวดคิ้ว”เอ่อ รุ่นพี่พาทริซเซียจะเหนื่อยน่ะฮะ ทักษะง่ายๆในเบื้องต้นผมพอจะช่วยได้ก็เลยคิดว่าน่าจะช่วยแบ่งเบาภาระบ้าง”
เฟรเดอริคมองหัวตั้งแต่หัวจดเท้าก่อนจะเอ่ยขึ้นมา
“ทริซเซียบอกว่าฝีมือนายไม่เลวทีเดียว นายจะว่าไงถ้าฉันจะขอให้นายร่วมเป็นผู้สอนพิเศษให้กับเพื่อนๆในป้อม”
“ไม่มีปัญหาฮะ”ฟาโรห์ยิ้มอย่างโล่งอก
“แล้วก็อย่าเหลิงว่าตัวเองเก่งซะล่ะ ยังไงนายก็ถือว่าเป็นนักเรียนคนหนึ่งในชั้นเหมือนๆคนอื่น”
“ครับ”ฟาโรห์แอบทำหน้าล้อเลียนขณะที่ก้มหัวรับคำ
“อีกเรื่องหนึ่งนั่นคือน้องฉันอยู่ปีสามแล้ว นายไม่ควรเรียกเธอด้วยชื่อเฉยๆโดยไม่มีคำว่ารุ่นพี่แม้ว่านายจะเคยรู้จักกับทริซเซียมาก่อนหน้านี้ก็ตาม”เฟรเดอริคจ้องฟาโรห์
“แต่ ”
“หือม์”
“ผมคิดว่าเรื่องนี้ไม่ใช่ปัญหานะฮะในเมื่อพาทริซเซียเองก็ไม่ได้ว่าอะไร”
“ในฐานะที่เธอเป็นรุ่นน้อง”เฟรเดอริคเสียงแข็ง
“เรื่องไหนที่ไม่แน่ใจว่าจะทำได้ผมก็จะไม่สัญญากับใครเพราะผมคิดว่าการรักษาสัจจะเป็นสิ่งสำคัญ ดังนั้นผมคงรับปากรุ่นพี่ไม่ได้ฮะ”ฟาโรห์ตอบตรงๆ
เฟรเดอริคสบตากับฟาโรห์ เขาจ้องลึกลงไปในดวงตาที่แน่วแน่ของรุ่นน้องที่ในตอนนี้ไม่ได้มองเขาในฐานะรุ่นพี่คนหนึ่ง แต่สบตากลับด้วยแววตาที่เต็มเปี่ยมไปด้วยศักดิ์ศรีของความเป็นเจ้าชายที่ต่างฝ่ายต่างมีเท่าเทียมกัน
“พูดได้ดี เอาเถอะฉันจะไม่ก้าวก่ายเรื่องนี้ก็แล้วกัน”เฟรเดอริคทิ้งท้ายก่อนเดินจากไป
ฟาโรห์ วาเนบลี
หึน่าสนใจไม่เลว
                                          .......................
“มาดนายให้มากเจ้าชายฟาโรห์”รานดอฟแซวขึ้น
ไอริสเงยหน้าขึ้นมามองเจ้าชายแห่งคาโนวาลที่แบกจอบขึ้นบ่าแล้วถือถังใส่น้ำมาในมือขวา ตอนนี้ทุกคนอยู่ในชุดลำลองเหมาะสำหรับการออกกำลังกายยามเช้าในวิชาการเกษตรและปศุสัตว์ วิชานี้อาจารย์ให้แบ่งกลุ่มละเจ็ดคน รานดอฟเลยชวนไอริสมาอยู่ด้วยกัน
“ไหนอาจารย์บอกว่าวันนี้ให้ทำเรื่องง่ายๆงานไม่หนักไง”ฟาโรห์วางถังน้ำลง
โรงเรียนเปิดมาสามสัปดาห์แล้วแต่นี่เป็นครั้งที่สองที่ได้เรียนวิชานี้ คราวก่อนอาจารย์ก็บอกแบบนี้คือ‘วิชานี้สอนการดำรงชีวิตรอด เรียนไม่ยากงานสบาย ไม่มีบาดเจ็บ ไม่มีการบ้าน’ แต่แล้วก็ให้พวกเขาถอนหญ้าเพื่อเตรียมแปลงปลูกผักจนปวดหลังกันไปเป็นแถว
นี่คือผลพวงของสงครามเมื่อหลายปีก่อน คราวนั้นทั่วเอเดนประสบปัญหาความอดอยากเพราะฝนเลือดที่หลั่งมาสามวันสามคืนจนต้องแก้ปัญหากันด้วยการรบ หลังจากที่สงครามยุติทุกโรงเรียนต่างเห็นพ้องต้องกันว่านักเรียนควรจะรู้จักทักษะการเลี้ยงตัวเองอย่างง่ายๆได้
สงครามศักดิ์สิทธิ์ของเอเดนกับเดมอสที่โกโดมเล่าว่าทางฝ่ายเดมอสเค้าเรียกกันว่าศึกชิงราชบุตรเขย เห็นทีเรื่องสนุกของท่านพ่อท่านแม่คงยังมีอีกมากที่เขาไม่เคยรู้
“เดี๋ยวต้องไปให้อาหารไก่นะ เร่งมือหน่อยเถอะ”ยูริคเอามือปาดเหงื่อหลังจากที่เขาโกยดินกลบเมล็ดพืชที่นั่งหยอดกันทีละหลุม ฟาโรห์ก็เริ่มลงมือถางหญ้ารอบรอบแปลงที่มันโตได้โตดี
ก่ะก่ะก่ะกะต๊าก  ก่ะก่ะก่ะกะต๊าก
“เฮ้ย!”
“ว๊าย!”
เพื่อนกลุ่มแปลงผักที่อยู่ข้างหน้าลุกขึ้นกันพรึ่บพั่บ แล้วไก่โต้งตัวใหญ่ก็เหินฟ้าตรงมาที่เขา
“เฮ้ ย .”
“เอ้าเอาไป”รานดอฟทำหน้าทะเล้นเมื่อมองสภาพเพื่อนรัก
ขนไก่สี่ห้าอันเสียบแซมอยู่บนผมของฟาโรห์ ที่ดั้งมีรอยเท้าไก่อยู่หนึ่งรอยพร้อมแผลจากเล็บของมันที่จิกลงบนหน้าหล่อๆของเขา แต่ที่แย่กว่านั้นคือเขาหงายหลังล้มลงไปบนดินที่ถูกรดน้ำจนแฉะเป็นโคลน
เขามองห้องน้ำจำเป็นแล้วก็ถอนใจ’มันก็บึงน้ำเจ้าเดิมของเอดินเบิร์กนี่เอง’
รานดอฟยื่นเสื้อนอกของเพื่อนคนหนึ่งในกลุ่มให้ฟาโรห์แต่อีกฝ่ายพยักหน้าให้กองไว้ที่พื้น
“นี่ก็ใกล้เที่ยงแล้วกว่านายจะอาบน้ำเสร็จก็คงเที่ยงพอดี ฉันกับยูริคจะไปรอที่ห้องอาหารเลยก็แล้วกัน แต่ตอนนี้ฉันต้องกลับไปก่อนเดี๋ยวโดนหาว่าอู้”รานดอฟพูดจบก็เดินไป
“วันนี้ซวยแต่เช้าเลยเรา”ฟาโรห์ถอนใจเขาแช่น้ำอยู่ในมุมหนึ่งที่คิดว่ามิดชิดปลอดคน
ตรงนี้เป็นแอ่งที่เว้าเข้ามามีต้นไม้ใหญ่ล้อมอยู่รอบๆ ฟาโรห์ทอดสายตาไปเบื้องหน้ามองพลิ้วน้ำที่สะท้อนแสงวิววับ ถึงเขาจะรีบไปก็ไม่มีประโยชน์เพราะงานที่เหลือก็แค่ให้อาหารไก่ซึ่งใช้คนสองคนก็เสร็จ
หอมอะไรนะ?
หอมเหมือน .
ภาพด้านหลังของเด็กผู้หญิงคนหนึ่งยื่นมงกุฎดอกไม้ที่เพิ่งถักเสร็จให้กับเขา
“ดอกอะไรเหรอ”เขารับมาสวมอย่างยินดี
“ไม่รู้เหมือนกัน ชอบรึเปล่า”
“อืม”
ฟาโรห์ลืมตาขึ้นช้าๆหันตัวมองหาดอกไม้แบบนั้น บางทีมันอาจจะขึ้นอยู่แถวๆนี้บ้างก็ได้
“ว๊าย!นาย ”
“นี่เธอ”ฟาโรห์แหกปาก
“ทะลึ่ง”ไอริสหันหลังไปอีกทาง
“ฉันเป็นฝ่ายเสียหายนะ เธอมาทำอะไรแถวนี้”ฟาโรห์รีบใส่เสื้อแล้วเดินออกมาจากหลังต้นไม้
“ฉันคิดว่าทำของตกไว้แถวนี้ก็เลยมาหาดู”
“จะเที่ยงแล้วฉันช่วยหาไหม”
“ฉันเคยมาหารอบหนึ่งแล้ว ช่างเถอะไม่ใช่ของสำคัญอะไรมากมาย”
“อืม งั้นไปกันเถอะ”ฟาโรห์ก้าวขาแล้วชะงักเล็กน้อยหันกลับไปมองที่เดิมที่เขาแช่น้ำ
“มีอะไรรึเปล่า”
“ไม่หรอก ไว้คราวหลังก็ได้”
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น