ลำดับตอนที่ #6
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #6 : แจ้งเกิด
อ่ะค่ะ เราคงไม่ให้ฟาโรห์แจ้งเกิดแบบเฟรินหรอกนะ ที่จริงรู้สึกว่าบรรยายการแจ้งเกิดน้อยไปหน่อยแต่คงไม่เป็นไรมั้ง(ยังไงก็ได้เกิด55) มีแนะนำอาจารย์ประจำป้อมด้วยล่ะ เป็นอาจารย์ที่เราว่าโดนสุดๆแล้วนะคนเนี่ยะ
เอ่อที่ลูธิเอนมาเมนท์อ่ะ คือเราพิมพ์ผิดนั่นแหละตั้งใจจะพิมพ์\'เก็ง\'อ่ะค่ะ ตอนนี้เรากลับไปแก้แล้วนะ^_^
                                ...................................................................................................................
ประตูค่อยๆแง้มเข้าไปช้าๆ ภาพบรรยากาศในห้องนั่งเล่นเด็กปีหนึ่งของป้อมอัศวินคึกคักเหมือนตลาดสดที่เขาเคยเดินผ่านบ่อยๆ (ช่างเป็นเจ้าชายที่มีชีวิตอนาจยังไงก็ไม่รู้แฮะ -_-)
“รุ่นพี่บอกว่าเดี๋ยวอาจารย์ที่ปรึกษาของป้อมจะมาทำความรู้จักกับพวกเรา”
“อาจารย์ชื่ออะไรเหรอ”
“เฮ้ยๆนั่นไง ใช่คนนั้นเปล่า”เด็กคนหนึ่งชี้มือไปที่กลุ่มรุ่นพี่และมีชายวัยกลางคนยืนอยู่ตรงกลาง
    ผู้ชายคนนั้นใส่แว่นหนา ท่าทางเป็นคนใจดีมีอารมณ์ขันเพราะใบหน้ายิ้มแย้มตลอดเวลา ผมของเขาปลิวเล็กน้อยตามแรงลมที่เกิดจากบานประตูปิดลง เสียงจอแจเมื่อครู่ก็หายไปทันที ทุกคนต่างนั่งกันอย่างสงบเสงี่ยมตีหน้าใสซื่อ
“เงียบทำไมล่ะคุยกันต่อเถอะ ฉันเองก็อยากฟังเรื่องสนุกของเด็กๆเหมือนกันนะ”อาจารย์เดินมานั่งลงข้างๆเขาที่อยู่ริมสุดของโซฟาอย่างไม่ถือตัว
“หือม์”อาจารย์ขยับแว่นเล็กน้อย
“หือม์”ฟาโรห์ทำหน้างงๆ
“นาย .”อาจารย์ขยับแว่นอีกรอบแล้วจ้องเขาชัดๆอีกที
”ล้างหน้าไม่สะอาดนะ”
เสียงหัวเราะกระหึ่มขึ้นมาจนเขาหน้าแดงเพราะความอาย รีบลูบหน้าตัวเองแล้วหันไปสะกิดรานดอฟให้ช่วยดูอีกที รานดอฟเพ่งแล้วก็ส่ายหน้าไม่เห็นว่ามีอะไรติดอยู่
“ฉันล้อเล่นน่ะ โจ๊กยามเช้า”อาจารย์ยิ้มอย่างมีความสุข
“นายใช่ฟาโรห์ วาเนบลีรึเปล่า”อาจารย์รอฟังคำตอบอย่างใจเย็นแต่แววตาดูจะสนใจเขาอยู่ไม่น้อย
“ครับ”ฟาโรห์ตอบไปทั้งๆที่ยังสงสัยว่าอาจารย์รู้ได้ยังไง
ป้าบ!
อาจารย์ตอบเข้าที่หลังของเขาเต็มๆจนเขายืดตัวด้วยความเจ็บทำหน้าไม่ถูก
นี่เขาทำอะไรผิดรึไง หรือว่า เจ้าชายเฟรเดอริคไปใส่ร้ายเขาให้อาจารย์ฟัง
“ดีใจจริงๆที่นายมาอยู่ป้อมอัศวิน”แววตาอาจารย์วาววาบขึ้นมาทันที
นี่คือวิธีแสดงความดีใจของอาจารย์เหรอฮะ ถ้าเป็นงั้นจริงๆผมคงไม่ดีใจด้วยหรอกนะTT_TT
“รู้รึเปล่าว่าแม่นายเป็นรุ่นน้องคนโปรดของฉันเลยนะ ฉันล่ะรักแม่นายที่สุดในป้อมทีเดียว(รองจากโรเวน55)”
แต่แม่ผมคงไม่ชอบอาจารย์หรอกใช่ไหมฮะ แม่บอกว่าคบกับพ่อตั้งแต่ปีสองแล้วนี่นา ระ หรือว่า ไม่นะอาจารย์คงไม่ใช่แฟนเก่าแม่ตอนปีหนึ่งใช่ไหม ก็ปีหนึ่งแม่ยังเป็นผู้ชายอยู่นี่ฮะ!
“เหรอฮะ”ฟาโรห์ตอบอย่างสับสนในใจ
“ใช่สิ”
“แต่อาจารย์ฮะ ผมไม่ได้หน้าเหมือนแม่ซะหน่อยทำไมถึงรู้ล่ะฮะ”
“ก็หน้านายเหมือนพ่อยังกับแกะ อย่าบอกนะว่านายไม่รู้ว่าพ่อแม่นายเรียนมาด้วยกัน”
เออ นั่นสิ เขานี่โง่ชะมัดดันถามไปได้
    อาจารย์ลุกขึ้นยืนแล้วบิดขี้เกียจต่อหน้าเด็กๆ(อ่ะนะ อาจารย์ไม่รักษาหน้าตัวเองเลยอ่ะ)แล้วก็เดินไปนั่งบนพนักพิงของโซฟาที่อยู่อีกฟาก รุ่นพี่คนหนึ่งเดินเข้ามาใกล้ๆแล้วยืนกระดาษสีขาวให้อาจารย์แผ่นหนึ่ง
“อืม เก่งเหมือนพ่อเลยนะเรา เมื่อก่อนพ่อนายก็สอบเข้าได้เป็นที่หนึ่งของป้อม”
อาจารย์อ่านต่อสักพักจนจบก็เงยหน้าขึ้นมาแล้วมองไปที่ไอริสอย่างสนใจ
“ไอริส เจนโดรลิน เธอคือหนึ่งในผู้ที่ประวัติศาสตร์ป้อมอัศวินต้องจารึกไว้ ห้องหัวหน้าป้อมของเราไม่ใช่ว่าผู้หญิงจะชิงมากอดกันได้ง่ายๆ”
“ส่วนคนอื่นๆฉันต้องขอชมเชยด้วยใจจริงที่สามารถฝ่าฟันอุปสรรคจนได้เข้ามาเรียนที่โรงเรียนพระราชาเอดินเบิร์ก โดยเฉพาะที่ป้อมอัศวินแห่งนี้”อาจารย์ปรบมือให้ แล้วทุกคนก็ร่วมกันปรบมือแสดงความยินดีกับตัวเองและเพื่อนๆ
“อาจารย์ฮะ”เด็กคนหนึ่งยกมือขึ้นถาม
“ว่าไง”อาจารย์ตอบอย่างกันเอง
“ผมยังไม่ทราบชื่ออาจารย์เลยฮะ”อาจารย์ฟังคำถามแล้วก็ยิ้มพร้อมกับขยับแว่นเล็กน้อย
“ลูคัส ซาโดเรีย”
                                         
“ไอริส”รานดอฟเรียกไว้ ไอริสหันมามองรานดอฟที่กวักมือเรียกเธออยู่ริมระเบียงสวนหย่อม
ไอริสเดินเข้าไปใกล้ๆก็เห็นฟาโรห์นั่งอยู่ที่ราวจับของระเบียง ส่วนรานดอฟยืนอยู่กับยูริค
“มีอะไรรึเปล่ารานดอฟถึงต้องเรียกฉันเดินมานี่  อ้อ หรือว่าบางคนอยู่สุขสบายจนลืมว่าการเดินน่ะเค้าทำกันยังไง”ไอริสแกล้งมองไปที่ฟาโรห์
“ไม่ใช่ยังงั้น เธออย่าไปหาเรื่องฟาโรห์เลยน่า”รานดอฟเดินมากระซิบข้างตัวไอริส
”ถ้าเธอรู้จักหมอนี่มากกว่านี้แล้วจะรู้ว่ามันน่าคบขนาดไหน”
“ไม่รู้สิ ฉันไม่ค่อยถูกกับผู้ชายเจ้าสำอาง”เธอลอยหน้าลอยตาพูด
“พวกผู้หญิงก็มักจะมองโลกในแง่ร้าย โดยเฉพาะคนจากอเมซอนอย่างเธอคงแทบไม่เคยเห็นหัวผู้ชายอยู่ในสายตา”ฟาโรห์พูดลอยๆ
“ปากร้าย”
“เธอว่าฉันก่อนนะแม่คุณ”ฟาโรห์ยิ้มทะเล้น
หล่อแฮะ .ไอริสเผลอไปนิด เอ๊ยไม่ใช่ กวนต่างหากล่ะ
“คืองี้นะ ฉันอยากรู้เรื่องตารางเรียนของรุ่นพี่ปีสาม เธอพอจะหาให้ได้รึเปล่า”รานดอฟเข้าประเด็น
“นายจะเอาไปทำอะไร”ไอริสงง
“แหม ฉันก็อยากมีเส้นมีสายกับเขาบ้างไม่ได้เหรอ”
“งั้นนายสนใจตารางสอนของอาจารย์ลูคัสด้วยไหมล่ะ”
“ฉันไม่เล่นของสูงขนาดนั้นหรอก”รานดอฟหัวเราะฟาโรห์ที่ทำหน้าขยาดตอนไอริสเสนอตารางสอน
“เดี๋ยวเดินไปด้วยกันไหมฮะ”ยูริคเสนอ ภาคบ่ายเป็นวิชาทักษะการยิงธนูที่จะเรียนกลางลานฝึกนอกโรงเรียน
“เจ้าชายยูริค ไอริสน่ะเขารังเกียจคนเจ้าสำอางอย่างนายนะรู้รึเปล่า”
“คำว่าเจ้าสำอางไม่ได้ขึ้นอยู่กับยศศักดิ์หรอกนะ มันอยู่ที่การกระทำของคนคนนั้นต่างหากล่ะ”
“แล้วตรงไหนของฉันที่มันเจ้าสำอางไม่ทราบ”
“ดูเอาเองสิ”
“เธอ”
ฟาโรห์ลุกพรวดส่วนไอริสวิ่งออกไปข้างนอกแล้วแต่เธอยังยักคิ้วยั่วเขาอยู่
                                ..
“รุ่นพี่ชื่ออะไรเหรอฮะ”
“รุ่นพี่ร้อนเปล่าฮะ หิวน้ำไหม”
“รุ่นพี่จะอยู่ช่วยอาจารย์จนจบเทอมรึเปล่าครับ”
พาทริซเซียได้แต่ยิ้มให้รุ่นน้อง นี่ถ้าไม่กลัวจะถูกมองว่าเป็นยัยโหดเธอคงจับพวกนี้โยนออกไปนานแล้ว ร้อนก็ร้อนยังจะมายืนบังลมอยู่ได้
“พาทริซเซีย”เสียงของฟาโรห์เรียกความสนใจของหนุ่มๆไปหมด
ไอ้นี่มันบังอาจเรียกชื่อรุ่นพี่กันตรงๆเลยเรอะ สายตาทั้งสามคู่มองไปที่ต้นเสียงอย่างไม่พอใจ
    ฟาโรห์ชะงักนิดหน่อย นี่เขาทำอะไรผิดอีกแล้วใช่ไหม-_-“ เขามองเพื่อนร่วมห้องทั้งสามคนอย่างแปลกใจ แล้วเดินแหวกไปหาพาทริซเซียที่นั่งอยู่บนแคร่ใต้ต้นไม้ ข้างแคร่มีแผงแขวนคันธนูและกระบอกใส่ลูกธนูอีกมากมายซ้อนกันในตระกร้าทรงสูง
“ไม่มีเรียนเหรอ”
“อืม วันนี้ฉันจะมาเป็นครูพิเศษร่วมกับอาจารย์เจมาร์ค”
“จริงน่ะเหรอ งั้นฝากตัวด้วยนะครับคุณครู”ฟาโรห์อมยิ้ม
“ฝากตัวอะไรกันฝีมือของนายดีกว่าฉันซะอีกนะฟาโรห์”
อึ้งกิมกี่หมีแพนด้า
ผู้ชายสามคนเมื่อกี้รู้สึกอิจฉาฟาโรห์ขึ้นมาตะหงิดๆ เมื่อเช้ามันดูซี้กับอาจารย์ลูคัส พอตอนบ่ายก็ชิงตัดหน้าคุยกับรุ่นพี่คนสวยซะอีกแหนะแถมยังคุยเป็นกันเองไม่ต้องเรียกว่ารุ่นพี่ด้วย
“อาจารย์สวัสดีค่ะ”พาทริซเซียยืนขึ้นหลังจากที่คุยกันจนเสียงออดดังไปแล้ว
ฟาโรห์หันไปเห็นผู้ชายอ้วนๆวัยประมาณสี่สิบกว่าใส่หมวกบานๆเดินมาใต้ต้นไม้ ชุดที่เขาใส่ดูยังไงก็เหมือนนายพรานมากกว่าอาจารย์ของโรงเรียนอันดับหนึ่งของเอเดน
“ของเรียบร้อยใช่มั๊ยแม่หนู”อาจารย์จับเครายาวๆของตัวเอง สายตาก็สำรวจของไปด้วย
“ค่ะ”
“ดีมาก เอ้าทุกคนฟังทางนี้หน่อย”นักเรียนทยอยกันเดินเข้ามาใต้ต้นไม้เพื่อฟังคำสั่งอาจารย์
“วิชานี้เราจะเรียนเกี่ยวกับพื้นฐานการยิงธนูกัน ฉันชื่อเจมาร์ค เดี๋ยวทุกคนมาหยิบคันธนูและกระบอกลูกธนูตรงนี้นะ”
    พออาจารย์พูดจบต่างคนก็ต่างไปยืนเลือกคันธนูกันใหญ่ ภายในเวลาไม่ถึงหนึ่งนาทีบางคนก็เปลี่ยนแล้วเปลี่ยนอีกจนถูกเพื่อนว่าเอา บางคนขี้เกียจเข้าไปมุงก็ยืนเกาหัวทำใจอยู่นอกวง เสียงเอะอะแย่งธนูสภาพดีก็มีบ้างเหมือนกัน รานดอฟดึงตัวเขาไว้เมื่อเขากำลังจะก้าวขา
“ไม่ต้อง ทางนู้นเลย”รานดอฟชี้ไปที่เจ้าชายยูริค
“เฮ้ย”ฟาโรห์เพ่งมองไปกลางแดดเปรี้ยง ตาเขาอาจจะพร่ามัว
เจ้าชายยูริคชูคันธนูสามคันกับกระบอกลูกธนูอีกสามกระบอก ทำท่าทำทางให้เขาสองคนเดินไปสมทบ
“บ้าน่า หมอนั่นมันไวเกินไปรึเปล่าวะรานดอฟ”
“แกรู้จักคำว่าคมในฝักรึเปล่า”รานดอฟยิ้มนิดๆ
“รุ่นพี่ครับ เอ่อ ผมยังยิงไม่ได้เลยฮะ”
ชายคนหนึ่งส่งสายตาออดอ้อนพาทริซเซียที่ต้องทำงานหนักเพราะอาจารย์เจมาร์คไปนอนแอ้งแม้งหลับกลางวันอยู่บนแคร่
“เอ่อ ง้างยังงี้นะ”พาทริซเซียจับมือเด็กคนนั้นง้างธนู เขาเห็นนะว่าหมอนั่นมันแอบยิ้มด้วย
“ฉันช่วยสอนไหม”คำพูดของฟาโรห์ทำให้เพื่อนๆที่ยืนเรียงกันเป็นหน้ากระดานเพื่อยิงเป้าที่ตั้งอยู่ไม่ไกลหันมากันเป็นแถว
“นายคิดว่าตัวเองแน่ขนาดนั้นเลยเหรอ”หนึ่งในสามของผู้ชายกลุ่มที่คุยกับพาทริซเซียพูดขึ้น
“จะเป็นครูก็ต้องเจ๋งสิใช่ม๊ะ”อีกคนเสริม
“ถ้านายทำให้พวกฉันทึ่งในฝีมือได้มันค่อยเหมาะสมกับการข้ามขั้นหน่อย”คนสุดท้ายท้า
“งั้นเตรียมตัวทึ่งได้เลย”ฟาโรห์รู้สึกเสียหน้าที่โดนดูถูก เขาทำท่าจะคว้าลูกธนูจากด้านหลังเตรียมพร้อมไว้
“อย่าดีแต่โม้ล่ะ เจ้าชายแห่งคาโนวาล”
“แล้วนายจะรู้ว่าเจ้าชายแห่งคาโนวาลไม่ได้มีดีแค่ฐานะ”ฟาโรห์ง้างธนูขึ้น
“ฟาโรห์”พาทริซเซียห้าม แววตาเธอเหมือนจะตำหนิเขาว่าไม่ควรใจร้อน
แต่เขาเอ่ยปากไปแล้วดังนั้นจึงถอยไม่ได้ ยิ่งเมื่อมีศักดิ์ศรีของคาโนวาลรวมอยู่ในพนันครั้งนี้ ศักดิ์ศรีที่ท่านพ่อรักยิ่งกว่าชีวิต
ฟ้าว!
ลูกธนูพุ่งไปยังเป้าหมายอย่างรวดเร็วทันทีที่ถูกปล่อยจากคันศร คนอื่นๆพากันยืนเงียบจ้องลูกธนูอย่างใจจดใจจ่อรอลุ้นผลที่จะออกมา
ปึ้ก! ปึ้ก! ปึ้ก! ปึ้ก! ปึ้ก!
ธนูทั้งห้าดอกปักเรียงกันบนแป้นรับทั้งห้าแป้น  ตรงจุดสีแดงกลางเป้าเป๊ะๆ
โอ้โห ..
เสียงอุทานด้วยความตะลึงของเพื่อนร่วมชั้นดังมาจากทั่วทิศรอบตัวเขา ฟาโรห์รู้สึกว่าตัวเองหายใจไม่คล่องเท่าไหร่ อาจเป็นเพราะความตื่นเต้นจากการยิงธนูเมื่อครู่ก็เป็นได้ ปกติเขาจะแม่นการยิงธนูทีละสามดอกคราวนี้ถือว่าโชคเข้าข้างด้วยถึงทำให้การยิงธนูห้าดอกแม่นราวมืออาชีพ
“อ๊าย .”สาวๆกลุ่มหนึ่งกรี๊ดให้กำลังใจ
“เจ้าชายฟาโรห์ เท่ห์มากค่ะ”
“สุดยอดเลย”เสียงผู้ชายคนหนึ่งตะโกน
“ยินดีด้วยฟาโรห์”พาทริซเซียยิ้มให้เมื่อเห็นว่าเขานำความสำเร็จมาสู่ตัวเองด้วยความสง่าภาคภูมิ
“เฮ้ ฉันเพิ่งรู้นะเนี่ยะว่าแกแม่นธนูมากกว่าดาบซะอีก”รานดอฟกระโดดกอดคอฟาโรห์อย่างปลื้มสุดๆ เสียงหัวเราะของสองหนุ่มดังลั่น
ส่วนไอ้เจ้าสามคนที่เอ่ยปากท้านั่นอึ้งซะยิ่งกว่าอึ้ง แล้วหันมามองกันเองประมาณว่าจะไม่เข้าใกล้เจ้าชายคนนี้อีกถ้าไม่จำเป็น!
เอ่อที่ลูธิเอนมาเมนท์อ่ะ คือเราพิมพ์ผิดนั่นแหละตั้งใจจะพิมพ์\'เก็ง\'อ่ะค่ะ ตอนนี้เรากลับไปแก้แล้วนะ^_^
                                ...................................................................................................................
ประตูค่อยๆแง้มเข้าไปช้าๆ ภาพบรรยากาศในห้องนั่งเล่นเด็กปีหนึ่งของป้อมอัศวินคึกคักเหมือนตลาดสดที่เขาเคยเดินผ่านบ่อยๆ (ช่างเป็นเจ้าชายที่มีชีวิตอนาจยังไงก็ไม่รู้แฮะ -_-)
“รุ่นพี่บอกว่าเดี๋ยวอาจารย์ที่ปรึกษาของป้อมจะมาทำความรู้จักกับพวกเรา”
“อาจารย์ชื่ออะไรเหรอ”
“เฮ้ยๆนั่นไง ใช่คนนั้นเปล่า”เด็กคนหนึ่งชี้มือไปที่กลุ่มรุ่นพี่และมีชายวัยกลางคนยืนอยู่ตรงกลาง
    ผู้ชายคนนั้นใส่แว่นหนา ท่าทางเป็นคนใจดีมีอารมณ์ขันเพราะใบหน้ายิ้มแย้มตลอดเวลา ผมของเขาปลิวเล็กน้อยตามแรงลมที่เกิดจากบานประตูปิดลง เสียงจอแจเมื่อครู่ก็หายไปทันที ทุกคนต่างนั่งกันอย่างสงบเสงี่ยมตีหน้าใสซื่อ
“เงียบทำไมล่ะคุยกันต่อเถอะ ฉันเองก็อยากฟังเรื่องสนุกของเด็กๆเหมือนกันนะ”อาจารย์เดินมานั่งลงข้างๆเขาที่อยู่ริมสุดของโซฟาอย่างไม่ถือตัว
“หือม์”อาจารย์ขยับแว่นเล็กน้อย
“หือม์”ฟาโรห์ทำหน้างงๆ
“นาย .”อาจารย์ขยับแว่นอีกรอบแล้วจ้องเขาชัดๆอีกที
”ล้างหน้าไม่สะอาดนะ”
เสียงหัวเราะกระหึ่มขึ้นมาจนเขาหน้าแดงเพราะความอาย รีบลูบหน้าตัวเองแล้วหันไปสะกิดรานดอฟให้ช่วยดูอีกที รานดอฟเพ่งแล้วก็ส่ายหน้าไม่เห็นว่ามีอะไรติดอยู่
“ฉันล้อเล่นน่ะ โจ๊กยามเช้า”อาจารย์ยิ้มอย่างมีความสุข
“นายใช่ฟาโรห์ วาเนบลีรึเปล่า”อาจารย์รอฟังคำตอบอย่างใจเย็นแต่แววตาดูจะสนใจเขาอยู่ไม่น้อย
“ครับ”ฟาโรห์ตอบไปทั้งๆที่ยังสงสัยว่าอาจารย์รู้ได้ยังไง
ป้าบ!
อาจารย์ตอบเข้าที่หลังของเขาเต็มๆจนเขายืดตัวด้วยความเจ็บทำหน้าไม่ถูก
นี่เขาทำอะไรผิดรึไง หรือว่า เจ้าชายเฟรเดอริคไปใส่ร้ายเขาให้อาจารย์ฟัง
“ดีใจจริงๆที่นายมาอยู่ป้อมอัศวิน”แววตาอาจารย์วาววาบขึ้นมาทันที
นี่คือวิธีแสดงความดีใจของอาจารย์เหรอฮะ ถ้าเป็นงั้นจริงๆผมคงไม่ดีใจด้วยหรอกนะTT_TT
“รู้รึเปล่าว่าแม่นายเป็นรุ่นน้องคนโปรดของฉันเลยนะ ฉันล่ะรักแม่นายที่สุดในป้อมทีเดียว(รองจากโรเวน55)”
แต่แม่ผมคงไม่ชอบอาจารย์หรอกใช่ไหมฮะ แม่บอกว่าคบกับพ่อตั้งแต่ปีสองแล้วนี่นา ระ หรือว่า ไม่นะอาจารย์คงไม่ใช่แฟนเก่าแม่ตอนปีหนึ่งใช่ไหม ก็ปีหนึ่งแม่ยังเป็นผู้ชายอยู่นี่ฮะ!
“เหรอฮะ”ฟาโรห์ตอบอย่างสับสนในใจ
“ใช่สิ”
“แต่อาจารย์ฮะ ผมไม่ได้หน้าเหมือนแม่ซะหน่อยทำไมถึงรู้ล่ะฮะ”
“ก็หน้านายเหมือนพ่อยังกับแกะ อย่าบอกนะว่านายไม่รู้ว่าพ่อแม่นายเรียนมาด้วยกัน”
เออ นั่นสิ เขานี่โง่ชะมัดดันถามไปได้
    อาจารย์ลุกขึ้นยืนแล้วบิดขี้เกียจต่อหน้าเด็กๆ(อ่ะนะ อาจารย์ไม่รักษาหน้าตัวเองเลยอ่ะ)แล้วก็เดินไปนั่งบนพนักพิงของโซฟาที่อยู่อีกฟาก รุ่นพี่คนหนึ่งเดินเข้ามาใกล้ๆแล้วยืนกระดาษสีขาวให้อาจารย์แผ่นหนึ่ง
“อืม เก่งเหมือนพ่อเลยนะเรา เมื่อก่อนพ่อนายก็สอบเข้าได้เป็นที่หนึ่งของป้อม”
อาจารย์อ่านต่อสักพักจนจบก็เงยหน้าขึ้นมาแล้วมองไปที่ไอริสอย่างสนใจ
“ไอริส เจนโดรลิน เธอคือหนึ่งในผู้ที่ประวัติศาสตร์ป้อมอัศวินต้องจารึกไว้ ห้องหัวหน้าป้อมของเราไม่ใช่ว่าผู้หญิงจะชิงมากอดกันได้ง่ายๆ”
“ส่วนคนอื่นๆฉันต้องขอชมเชยด้วยใจจริงที่สามารถฝ่าฟันอุปสรรคจนได้เข้ามาเรียนที่โรงเรียนพระราชาเอดินเบิร์ก โดยเฉพาะที่ป้อมอัศวินแห่งนี้”อาจารย์ปรบมือให้ แล้วทุกคนก็ร่วมกันปรบมือแสดงความยินดีกับตัวเองและเพื่อนๆ
“อาจารย์ฮะ”เด็กคนหนึ่งยกมือขึ้นถาม
“ว่าไง”อาจารย์ตอบอย่างกันเอง
“ผมยังไม่ทราบชื่ออาจารย์เลยฮะ”อาจารย์ฟังคำถามแล้วก็ยิ้มพร้อมกับขยับแว่นเล็กน้อย
“ลูคัส ซาโดเรีย”
                                         
“ไอริส”รานดอฟเรียกไว้ ไอริสหันมามองรานดอฟที่กวักมือเรียกเธออยู่ริมระเบียงสวนหย่อม
ไอริสเดินเข้าไปใกล้ๆก็เห็นฟาโรห์นั่งอยู่ที่ราวจับของระเบียง ส่วนรานดอฟยืนอยู่กับยูริค
“มีอะไรรึเปล่ารานดอฟถึงต้องเรียกฉันเดินมานี่  อ้อ หรือว่าบางคนอยู่สุขสบายจนลืมว่าการเดินน่ะเค้าทำกันยังไง”ไอริสแกล้งมองไปที่ฟาโรห์
“ไม่ใช่ยังงั้น เธออย่าไปหาเรื่องฟาโรห์เลยน่า”รานดอฟเดินมากระซิบข้างตัวไอริส
”ถ้าเธอรู้จักหมอนี่มากกว่านี้แล้วจะรู้ว่ามันน่าคบขนาดไหน”
“ไม่รู้สิ ฉันไม่ค่อยถูกกับผู้ชายเจ้าสำอาง”เธอลอยหน้าลอยตาพูด
“พวกผู้หญิงก็มักจะมองโลกในแง่ร้าย โดยเฉพาะคนจากอเมซอนอย่างเธอคงแทบไม่เคยเห็นหัวผู้ชายอยู่ในสายตา”ฟาโรห์พูดลอยๆ
“ปากร้าย”
“เธอว่าฉันก่อนนะแม่คุณ”ฟาโรห์ยิ้มทะเล้น
หล่อแฮะ .ไอริสเผลอไปนิด เอ๊ยไม่ใช่ กวนต่างหากล่ะ
“คืองี้นะ ฉันอยากรู้เรื่องตารางเรียนของรุ่นพี่ปีสาม เธอพอจะหาให้ได้รึเปล่า”รานดอฟเข้าประเด็น
“นายจะเอาไปทำอะไร”ไอริสงง
“แหม ฉันก็อยากมีเส้นมีสายกับเขาบ้างไม่ได้เหรอ”
“งั้นนายสนใจตารางสอนของอาจารย์ลูคัสด้วยไหมล่ะ”
“ฉันไม่เล่นของสูงขนาดนั้นหรอก”รานดอฟหัวเราะฟาโรห์ที่ทำหน้าขยาดตอนไอริสเสนอตารางสอน
“เดี๋ยวเดินไปด้วยกันไหมฮะ”ยูริคเสนอ ภาคบ่ายเป็นวิชาทักษะการยิงธนูที่จะเรียนกลางลานฝึกนอกโรงเรียน
“เจ้าชายยูริค ไอริสน่ะเขารังเกียจคนเจ้าสำอางอย่างนายนะรู้รึเปล่า”
“คำว่าเจ้าสำอางไม่ได้ขึ้นอยู่กับยศศักดิ์หรอกนะ มันอยู่ที่การกระทำของคนคนนั้นต่างหากล่ะ”
“แล้วตรงไหนของฉันที่มันเจ้าสำอางไม่ทราบ”
“ดูเอาเองสิ”
“เธอ”
ฟาโรห์ลุกพรวดส่วนไอริสวิ่งออกไปข้างนอกแล้วแต่เธอยังยักคิ้วยั่วเขาอยู่
                                ..
“รุ่นพี่ชื่ออะไรเหรอฮะ”
“รุ่นพี่ร้อนเปล่าฮะ หิวน้ำไหม”
“รุ่นพี่จะอยู่ช่วยอาจารย์จนจบเทอมรึเปล่าครับ”
พาทริซเซียได้แต่ยิ้มให้รุ่นน้อง นี่ถ้าไม่กลัวจะถูกมองว่าเป็นยัยโหดเธอคงจับพวกนี้โยนออกไปนานแล้ว ร้อนก็ร้อนยังจะมายืนบังลมอยู่ได้
“พาทริซเซีย”เสียงของฟาโรห์เรียกความสนใจของหนุ่มๆไปหมด
ไอ้นี่มันบังอาจเรียกชื่อรุ่นพี่กันตรงๆเลยเรอะ สายตาทั้งสามคู่มองไปที่ต้นเสียงอย่างไม่พอใจ
    ฟาโรห์ชะงักนิดหน่อย นี่เขาทำอะไรผิดอีกแล้วใช่ไหม-_-“ เขามองเพื่อนร่วมห้องทั้งสามคนอย่างแปลกใจ แล้วเดินแหวกไปหาพาทริซเซียที่นั่งอยู่บนแคร่ใต้ต้นไม้ ข้างแคร่มีแผงแขวนคันธนูและกระบอกใส่ลูกธนูอีกมากมายซ้อนกันในตระกร้าทรงสูง
“ไม่มีเรียนเหรอ”
“อืม วันนี้ฉันจะมาเป็นครูพิเศษร่วมกับอาจารย์เจมาร์ค”
“จริงน่ะเหรอ งั้นฝากตัวด้วยนะครับคุณครู”ฟาโรห์อมยิ้ม
“ฝากตัวอะไรกันฝีมือของนายดีกว่าฉันซะอีกนะฟาโรห์”
อึ้งกิมกี่หมีแพนด้า
ผู้ชายสามคนเมื่อกี้รู้สึกอิจฉาฟาโรห์ขึ้นมาตะหงิดๆ เมื่อเช้ามันดูซี้กับอาจารย์ลูคัส พอตอนบ่ายก็ชิงตัดหน้าคุยกับรุ่นพี่คนสวยซะอีกแหนะแถมยังคุยเป็นกันเองไม่ต้องเรียกว่ารุ่นพี่ด้วย
“อาจารย์สวัสดีค่ะ”พาทริซเซียยืนขึ้นหลังจากที่คุยกันจนเสียงออดดังไปแล้ว
ฟาโรห์หันไปเห็นผู้ชายอ้วนๆวัยประมาณสี่สิบกว่าใส่หมวกบานๆเดินมาใต้ต้นไม้ ชุดที่เขาใส่ดูยังไงก็เหมือนนายพรานมากกว่าอาจารย์ของโรงเรียนอันดับหนึ่งของเอเดน
“ของเรียบร้อยใช่มั๊ยแม่หนู”อาจารย์จับเครายาวๆของตัวเอง สายตาก็สำรวจของไปด้วย
“ค่ะ”
“ดีมาก เอ้าทุกคนฟังทางนี้หน่อย”นักเรียนทยอยกันเดินเข้ามาใต้ต้นไม้เพื่อฟังคำสั่งอาจารย์
“วิชานี้เราจะเรียนเกี่ยวกับพื้นฐานการยิงธนูกัน ฉันชื่อเจมาร์ค เดี๋ยวทุกคนมาหยิบคันธนูและกระบอกลูกธนูตรงนี้นะ”
    พออาจารย์พูดจบต่างคนก็ต่างไปยืนเลือกคันธนูกันใหญ่ ภายในเวลาไม่ถึงหนึ่งนาทีบางคนก็เปลี่ยนแล้วเปลี่ยนอีกจนถูกเพื่อนว่าเอา บางคนขี้เกียจเข้าไปมุงก็ยืนเกาหัวทำใจอยู่นอกวง เสียงเอะอะแย่งธนูสภาพดีก็มีบ้างเหมือนกัน รานดอฟดึงตัวเขาไว้เมื่อเขากำลังจะก้าวขา
“ไม่ต้อง ทางนู้นเลย”รานดอฟชี้ไปที่เจ้าชายยูริค
“เฮ้ย”ฟาโรห์เพ่งมองไปกลางแดดเปรี้ยง ตาเขาอาจจะพร่ามัว
เจ้าชายยูริคชูคันธนูสามคันกับกระบอกลูกธนูอีกสามกระบอก ทำท่าทำทางให้เขาสองคนเดินไปสมทบ
“บ้าน่า หมอนั่นมันไวเกินไปรึเปล่าวะรานดอฟ”
“แกรู้จักคำว่าคมในฝักรึเปล่า”รานดอฟยิ้มนิดๆ
“รุ่นพี่ครับ เอ่อ ผมยังยิงไม่ได้เลยฮะ”
ชายคนหนึ่งส่งสายตาออดอ้อนพาทริซเซียที่ต้องทำงานหนักเพราะอาจารย์เจมาร์คไปนอนแอ้งแม้งหลับกลางวันอยู่บนแคร่
“เอ่อ ง้างยังงี้นะ”พาทริซเซียจับมือเด็กคนนั้นง้างธนู เขาเห็นนะว่าหมอนั่นมันแอบยิ้มด้วย
“ฉันช่วยสอนไหม”คำพูดของฟาโรห์ทำให้เพื่อนๆที่ยืนเรียงกันเป็นหน้ากระดานเพื่อยิงเป้าที่ตั้งอยู่ไม่ไกลหันมากันเป็นแถว
“นายคิดว่าตัวเองแน่ขนาดนั้นเลยเหรอ”หนึ่งในสามของผู้ชายกลุ่มที่คุยกับพาทริซเซียพูดขึ้น
“จะเป็นครูก็ต้องเจ๋งสิใช่ม๊ะ”อีกคนเสริม
“ถ้านายทำให้พวกฉันทึ่งในฝีมือได้มันค่อยเหมาะสมกับการข้ามขั้นหน่อย”คนสุดท้ายท้า
“งั้นเตรียมตัวทึ่งได้เลย”ฟาโรห์รู้สึกเสียหน้าที่โดนดูถูก เขาทำท่าจะคว้าลูกธนูจากด้านหลังเตรียมพร้อมไว้
“อย่าดีแต่โม้ล่ะ เจ้าชายแห่งคาโนวาล”
“แล้วนายจะรู้ว่าเจ้าชายแห่งคาโนวาลไม่ได้มีดีแค่ฐานะ”ฟาโรห์ง้างธนูขึ้น
“ฟาโรห์”พาทริซเซียห้าม แววตาเธอเหมือนจะตำหนิเขาว่าไม่ควรใจร้อน
แต่เขาเอ่ยปากไปแล้วดังนั้นจึงถอยไม่ได้ ยิ่งเมื่อมีศักดิ์ศรีของคาโนวาลรวมอยู่ในพนันครั้งนี้ ศักดิ์ศรีที่ท่านพ่อรักยิ่งกว่าชีวิต
ฟ้าว!
ลูกธนูพุ่งไปยังเป้าหมายอย่างรวดเร็วทันทีที่ถูกปล่อยจากคันศร คนอื่นๆพากันยืนเงียบจ้องลูกธนูอย่างใจจดใจจ่อรอลุ้นผลที่จะออกมา
ปึ้ก! ปึ้ก! ปึ้ก! ปึ้ก! ปึ้ก!
ธนูทั้งห้าดอกปักเรียงกันบนแป้นรับทั้งห้าแป้น  ตรงจุดสีแดงกลางเป้าเป๊ะๆ
โอ้โห ..
เสียงอุทานด้วยความตะลึงของเพื่อนร่วมชั้นดังมาจากทั่วทิศรอบตัวเขา ฟาโรห์รู้สึกว่าตัวเองหายใจไม่คล่องเท่าไหร่ อาจเป็นเพราะความตื่นเต้นจากการยิงธนูเมื่อครู่ก็เป็นได้ ปกติเขาจะแม่นการยิงธนูทีละสามดอกคราวนี้ถือว่าโชคเข้าข้างด้วยถึงทำให้การยิงธนูห้าดอกแม่นราวมืออาชีพ
“อ๊าย .”สาวๆกลุ่มหนึ่งกรี๊ดให้กำลังใจ
“เจ้าชายฟาโรห์ เท่ห์มากค่ะ”
“สุดยอดเลย”เสียงผู้ชายคนหนึ่งตะโกน
“ยินดีด้วยฟาโรห์”พาทริซเซียยิ้มให้เมื่อเห็นว่าเขานำความสำเร็จมาสู่ตัวเองด้วยความสง่าภาคภูมิ
“เฮ้ ฉันเพิ่งรู้นะเนี่ยะว่าแกแม่นธนูมากกว่าดาบซะอีก”รานดอฟกระโดดกอดคอฟาโรห์อย่างปลื้มสุดๆ เสียงหัวเราะของสองหนุ่มดังลั่น
ส่วนไอ้เจ้าสามคนที่เอ่ยปากท้านั่นอึ้งซะยิ่งกว่าอึ้ง แล้วหันมามองกันเองประมาณว่าจะไม่เข้าใกล้เจ้าชายคนนี้อีกถ้าไม่จำเป็น!
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น