ลำดับตอนที่ #5
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #5 : ก้าวแรก
หวัดดีค่ะ^O^  ช่วงนี้เรามาลงบ่อยเพราะเดี๋ยวจะไม่ว่างเป็นอาทิตย์เลย -_-\" กำลังปวดหัวนิดๆเพราะบางอย่างมันผิดจากพอตที่วางไว้แต่แรก(ประมาณว่าเพิ่งมาเปลี่ยนใจตอนพิมพ์)ต้องพยายามโยงกลับ55
                          ....................................................................
เสียงรุ่นพี่ทิ้งห่างออกไปเรื่อยๆ ข้างตัวเขาในตอนนี้มีเพียงหญิงสาวกลุ่มหนึ่งที่เดินหัวเราะกันคิกคักเหมือนจะชมปราสาทเล่น
“หนักชะมัด” ฟาโรห์กัดฟันพร้อมยกกระเป๋ายักษ์ขึ้นบันไดทีละสองขั้น
ก็แม่พวกนางกำนัลทั้งหลายไม่รู้จะห่วงอะไรเขานักหนาถึงได้จัดของมาให้ซะใหญ่โต ขนาดท่านแม่เองยังแซวว่ากระเป๋าเสื้อผ้าของเจ้าชายคาโลในสมัยนั้นยังไม่ใหญ่เท่าของเขาเลย
“ช่วยไหม”เสียงชายคนหนึ่งดังขึ้นจากด้านหลัง
ฟาโรห์หันไปดูก็เห็นผู้ชายร่างผอมเพรียว ผิวไม่ขาวมาก ผมสีม่วงอ่อนประกายเงินซอยในทรงกำลังดี(ประมาณพี่วิกF4 โฮะๆ) ตาเป็นสีเงินดูแปลกจากคนอื่น
เขาเดินคู่มากับผู้หญิงคนหนึ่งที่ดูแล้วคงรุ่นเดียวกัน เธอคนนั้นมีผมสีน้ำตาลเข้มประกายแดงถักเป็นเปียยาวถึงกลางหลัง ตาสีอิฐจ้องอยู่ที่กระเป๋าเขา
“เจ้าสำอาง”ผู้หญิงคนนั้นมองเขาด้วยความรู้สึกแบบเดียวกับที่เธอพูดออกมา
เสียงก็เพราะดีหรอกแต่มารยาทแย่ชะมัด ฟาโรห์ทำเป็นไม่เห็นสายตาของเธอแล้วยกกระเป๋าต่อ
“ไม่เอาน่าไอริส”ผู้ชายที่มาด้วยกันทำหน้าเชิงขอโทษเขา เขารู้สึกว่าคุ้นๆหน้าเหมือนเคยเจอที่ไหนมาก่อน
ฟั่บ!
แขนของผู้ชายคนนั้นรัดคอเขาทันทีที่กลุ่มสาวๆเดินผ่านขึ้นไปชั้นบนแล้ว เสียงหัวเราะดังขึ้นจากเจ้าของมือที่เกือบจะทำเขาตกบันไดถ้าเขาคว้าราวจับไว้ไม่ทัน
“รานดอฟ”ฟาโรห์หัวเราะอย่างลำบาก เพราะกระเป๋าเสื้อผ้ามันอาจจะตลบลงมาทับเขาได้ทันทีถ้าเขาเบี่ยงขาที่ยันมันไว้อยู่ในขณะนี้
“บ้าเอ๊ยปล่อยก่อน ฉันกำลังจะถูกกระเป๋านี่ทับอยู่แล้ว”
ผู้ชายที่ชื่อรานดอฟเอามือออกจากคอเขาแล้วจับกระเป๋าขึ้นมาตั้ง ฟาโรห์หย่อนตัวนั่งที่ขั้นบันได เงยหน้าขึ้นมามองอีกฝ่ายงงๆ
“ทำไมตานายถึง ..”
“อ๋อ”รานดอฟถอดแก้วเปลี่ยนสีออก(คอนแทคเลนส์)
”ของเล่นใหม่ของฉัน ตอนนี้มันกำลังฮิตเป็นเทรนใหม่มาแรง แต่อย่างนายคงไม่รู้จักล่ะสิ วันๆหมกตัวอยู่แต่ในป่าในดง”ตอนนี้ตาของรานดอฟกลับมาเป็นสีม่วงอ่อนแล้ว
“นายทันสมัยขนาดนั้นเชียว”ฟาโรห์พูดอย่างรู้ทัน
“แกนี่ฉลาดสมเป็นเจ้าชาย ตอนที่ฉันไปทำงานฉันแอบได้ยินพวกคุณหนูชาวเวนอลพูดกัน ขากลับซาเรสก็เลยแวะซื้อในตลาด นายสนใจไหมล่ะ”รานดอฟหยิบกล่องยาวๆกล่องหนึ่งออกมา
ภายในกล่องมีแก้วเปลี่ยนสีมหัศจรรย์(มั่วให้เป็นชื่อเรียกเต็มๆของคอนแทคเลนส์55)อยู่ถึง12สีด้วยกัน ฟาโรห์หยิบมาดูอย่างสนใจและดูเหมือนเขาจะถูกใจกับเลนส์สีส้มแปร๊ดบาดตา
“รสนิยมนายห่วยแตกชะมัด”รานดอฟทำหน้าเห่ยเมื่อเพื่อนของเขายิ้มให้เขาด้วยตาที่เป็นสีส้มสะท้อนแสงจนแสบตา แต่เหมือนเจ้าตัวจะไม่รู้เลยว่าตัวเองมีสภาพที่น่าเกลียดจนเพื่อนรับไม่ได้
“เฮ้ยไอ้น้อง ขึ้นมาเร็วๆเด้”เสียงดังจากรุ่นพี่ที่เดินลงมาตาม
                                          .............
  ตอนที่ขึ้นไปถึงระเบียงหน้าห้องพักพวกเขาก็ต้องตัวลีบกับสายตาทุกคู่ที่มองมา รุ่นพี่ตักเตือนเขานิดหน่อยก่อนจะเริ่มบอกห้องพักของแต่ละคน
“เจ้าชายฟาโรห์ วาเนบลีแห่งคาโนวาล”รุ่นพี่เอ่ยชื่อเขาเป็นคนแรก เพื่อนๆหันมามองเขาแล้วบางคนก็เริ่มซุบซิบ
“นั่นไงเจ้าชายนินจา”
กำ +_+
“หล่อจังเนอะเธอ”
อยู่แล้ว^_^
“แม่ของเขาคือธิดาแห่งความมืดในตำนานไง”
นี่เธอ! -_-“
“เส้นรึเปล่าวะ”
เฮ้ย! O_O
“เจ้าชายยูริค ฮิวทิสแห่งโรมัน”
“ไอริส เจนโดรลิน เดอะไนท์ ออฟอเมซอน”
แล้วเสียงฮือฮาก็ดังขึ้นเมื่อไอริสเป็นผู้หญิงคนเดียวที่ติดตำแหน่งหัวหน้าป้อมอัศวิน รุ่นพี่ที่อ่านประกาศหันไปคุยกับเพื่อนก่อนจะประกาศออกมา
“เธอได้เป็นหนึ่งในว่าที่หัวหน้าป้อมนะไอริสแต่คงต้องไปพักอยู่ห้องอื่น ส่วนที่ว่างในห้องหัวหน้าป้อมจะเลื่อนอันดับสี่มาแทน”รุ่นพี่บอกไอริสที่รับคำอย่างเข้าใจ
“รานดอฟ ฟีลมัส เดอะคิลเล่อร์ ออฟซาเรส”
ฟาโรห์หันมายิ้มกับรานดอฟแล้วก็คุยกันตามประสาเพื่อนที่ไม่ได้เจอกันนาน จนกระทั่งถึงเวลาเอาของไปเก็บ
ฟาโรห์กับรานดอฟเดินนำเข้ามาให้ห้องก่อนเจ้าชายยูริค ฟาโรห์เลือกเตียงขวา รานดอฟนอนเตียงกลาง เจ้าชายยูริคเข้ามาเป็นคนสุดท้ายเลยต้องอยู่เตียงซ้าย
ยูริคเป็นคนสุภาพไม่เรื่องมากแต่ออกจะเคร่งไปสักนิดเพราะทันทีที่เข้าห้องก็หยิบคัมภีร์ศาสนาขึ้นมาวางบนโต๊ะแล้วสวดบูชา แต่ถึงอย่างนั้นพวกเขาสามคนก็เข้ากันได้ดี
                                    ...........
“ยูริค ทำไมเขาไม่ตักเนื้อให้นายสักชิ้นล่ะ”รุ่นพี่ผู้ชายที่พามากินข้าวถามอย่างห่วงแทน
“ผมเป็นมังสวิรัติฮะ”เจ้าชายยูริคขยับแว่นเล็กน้อยแล้วค่อยๆตักอาหารทาน
“อ๋อ”รุ่นพี่หัวเราะไม่ค่อยออก มันน่าจะเป็นนักบวชมากกว่าเจ้าชายแฮะ
“เฮ้ นายดูนั่นสิ”ฟาโรห์มองตามเสียงรุ่นพี่ที่พากันมองไปทางด้านหนึ่งของห้องอาหารดรากอน
เจ้าชายเฟรเดอริคควงสาวมากินอาหารเย็น!
เอ๊ะแต่ ดูคุ้นๆนะ
เคร้ง!
ช้อนของเจ้าชายยูริคหล่นลงจานทันทีที่เห็นหน้าผู้หญิงที่มาด้วย
“ฟาโรห์แกเป็นอะไรวะ”รานดอฟมองฟาโรห์ด้วยท่าทางแปลกๆ “อยู่ๆก็ทำช้อนหล่น”
อ้าวO_O  ไอ้ช้อนที่ว่านั่นมันไม่ใช่ช้อนของเจ้าชายยูริคหรอกเหรอ
ฟาโรห์มองช้อนของเขาที่หล่นบนจานแล้วมองไปที่จานเจ้าชายยูริค เจ้าชายยูริครวบช้อนส้อมไว้อย่างเรียบร้อยอาหารในจานก็หมดเกลี้ยง
คนอะไรจะกินเร็วปานนั้น!
ตกลงว่าเจ้าชายยูริครวบช้อนเลยทำให้เขาเข้าใจผิด จริงๆแล้วเสียงดังที่ว่าเป็นของเขาเอง
“เอ่อ คือ ..”เสียงตะกุกตะกักของรุ่นพี่ทำให้เขาหันไปมอง นิ้วชี้สองนิ้วเบนมาทางเขาโดยไม่ได้นัดหมาย
“นายอีกแล้วเหรอ”เจ้าชายเฟรเดอริคทักทายเขาอย่างกันเอ๊งกันเอง
“สวัสดีฮะ เอ๊ย มีอะไรเหรอฝ่าบาท”ฟาโรห์ทำหน้าเห่ย
“มีน่ะมีแน่ แต่ก่อนอื่นนายควรจะรู้ว่าป้อมอัศวินเราไม่แบ่งชนชั้น ถึงนายจะเป็นเจ้าชายก็ไม่ได้หมายความว่าจะทำเบ่งอวดชาวบ้านเขาได้”
“ฮะ”ฟาโรห์รับผิดอย่างว่าง่าย ท่าทางเจ้าชายเฟรเดอริคคงมีตำแหน่งใหญ่ไม่เบา รุ่นพี่สองคนนั้นถึงได้กลัวจนหัวหด
“เวลากินข้าวก็หัดมีมารยาทซะบ้าง กรุณาอย่าทำเสียงโครมครามกลางห้องอาหารแบบนี้”
“เจ้าพี่คะ ฟาโรห์คงไม่ได้ตั้งใจหรอก”พาทริซเซียช่วยพูดให้ ฟาโรห์พยักหน้าตามทันที
น้องสาวท่านต่างหากล่ะที่ทำให้ผมตกใจ ฟาโรห์มองพาทริซเซียที่แต่งชุดไม่เหมือนเด็กปีหนึ่งทั่วไป
“หือ”เฟรเดอริคมองน้องสาวเหมือนจะบอกว่าอย่าแก้ตัวแทนหมอนี่ก่อนจะเดินกลับไป
“ฟาโรห์ ทีหลังก็ระวังหน่อยนะ”พาทริซเซียเตือน
“เดี๋ยวสิพาทริซเซีย ทำไมเสื้อเธอไม่เหมือนคนอื่นล่ะ”
รุ่นพี่ที่นั่งอยู่ทำตาโตเมื่อได้ยินเขาเรียกพาทริซเซียเหมือนสนิทกัน
“ก็ฉันเป็นผู้คุมกฎนี่นา”พาทริซเซียยิ้มให้เขา
“แต่เราเพิ่งเข้ามาวันแรกไม่ใช่เหรอ”ฟาโรห์ขมวดคิ้ว
“เรา!”พาทริซเซียตกใจเล็กน้อยก่อนจะหัวเราะออกมา”ไม่ใช่’เรา’หรอกฟาโรห์ นายคนเดียวต่างหาก”
“หมายความว่าไง”ฟาโรห์งงกว่าเดิม
พาทริซเซียกำลังจะตอบแต่เฟรเดอริคก็เดินกลับมาอีกรอบเธอเลยต้องเดินไปหาพี่ชาย
“นายถามรุ่นพี่ของนายดูก็แล้วกัน”พาทริซเซียทำท่าบ๊ายบายเล็กน้อย
“ฟาโรห์ นายสนิทกับรุ่นพี่ขนาดนั้นเชียวเหรอ”
“ห๊า รุ่นพี่!”ฟาโรห์ตาค้างมองหน้ารุ่นพี่สองคนนี้สลับกับหลังของพาทริซเซียที่เดินไป
“ก็ใช่ไงรุ่นพี่พาทริซเซียอยู่ปีสามแล้วก็เป็นผู้คุมกฎของป้อมด้วย”
“งั้นเจ้าชายเฟรเดอริค”
“หัวหน้าป้อม”สองเสียงของรุ่นพี่ประสานกันเหมือนจะย้ำให้เข้าใจ
                                  ..
“เป็นอะไรของนาย นั่งบื้อตั้งแต่เมื่อกี้แล้ว”รานดอฟกับเจ้าชายยูริคกำลังนั่งกินขนมที่แอบซื้อขึ้นมา
ฟาโรห์มองเจ้าชายยูริคแล้วถอนใจ เขาคงต้องใช้เวลาอีกนานกว่าจะรู้จักเจ้าชายคนนี้อย่างถ่องแท้ ดูท่าทางเหมือนเด็กเรียบร้อยอยู่ในกฎระเบียบแต่กลับเป็นคนต้นคิดแอบเอาขนมมากินกัน
“นายว่าผู้หญิงที่เราเจอในห้องอาหารหน้าแก่ขนาดอยู่ปีสามได้เลยเหรอ”
“แบบรุ่นพี่คนนั้นเค้าเรียกว่าหน้าเด็กไม่ใช่เหรอฟาโรห์”ยูริคออกความเห็น
“ฉันประชดเว้ย”ฟาโรห์ทำตาดุใส่”พาทริซเซียหน้าเด็กจะตายดูยังไงก็อายุเท่าพวกเราเห็นๆ”
“แถมยังสวยบาดใจด้วย”
“ช่าย”
เอ๊ะ!
“เฮ้ย”ฟาโรห์ตะโกน หันมามองรานดอฟที่นั่งหัวเราะซุบซิบกับยูริค “แกอย่าคิดอะไรแบบนั้นสิ”
“ฮึอึ ฉันไม่ได้คิดเว้ยแต่แกอ่ะไม่แน่”รานดอฟปฏิเสธ
“ผมก็ไม่ได้คิดนะฮะ”ยูริคตีหน้าซื่อ มันหน้าจับมาเตะทั้งคู่
“เอ แต่ฉันยังไม่เห็นเจ้าชายแพททริคเลยแฮะ”
“รายนั้นเขาไม่ได้อยู่ป้อมอัศวิน”รานดอฟโยนถุงขนมให้”เขาไปจองตำแหน่งหัวหน้าปราสาทขุนนาง”
“จริงเหรอ”ฟาโรห์ถามซ้ำ
“อืม”รานดอฟพยักหน้าไปด้วยดื่มน้ำไปด้วย
“เมื่อก่อนคิงอาเธอร์ก็เคยเป็นหัวหน้าปราสาทขุนนางใช่รึเปล่า”ฟาโรห์มองรานดอฟที่เดินมานั่งใกล้เขา
“อืม พ่อฉันว่าเขาไม่ค่อยถูกกับป้อมอัศวินเท่าไหร่ แต่แม่นายสนิทกับคิงอาเธอร์ไม่ใช่รึไง”รานดอฟแซว
“หึย สนงสนิทอะไรล่ะ ท่านแม่บอกว่าครั้งหนึ่งเกือบจะโดนคิงอาเธอร์ฆ่าตายซะแล้ว”
“จริงเหรอ ไม่เห็นพ่อพูดถึงเลย”
“พ่อแกจะมารู้ทุกเรื่องได้ไงล่ะฟะ”
“ทำเป็นพูดไป พ่อฉันสนิทกับแม่นายมากกว่าที่พ่อนายสนิทซะอีกนะ เรื่องใหญ่แบบนี้ก็น่าจะเล่าให้กันฟัง”
“ทีพ่อนายแอบชอบท่านอาเรนอนไม่เห็นจะบอกพ่อแม่ฉันเลย”
“ใครกันเรนอน แฟนเก่าพ่อเหรอ”รานดอฟยื่นหน้ามาอย่างสนใจ
“ก็กลับไปถามพ่อนายสิ”
“ช่างเถอะ เรื่องที่พ่อเคยชอบใครก่อนแม่ฉันมันเป็นอดีตไปแล้ว”
“ท่านแม่บอกว่าป้อมอัศวินกับปราสาทขุนนางเป็นคู่แข่งตัวเก็งของโรงเรียน งั้นช่วงนี้ซาเรสก็รุ่งเลยสิฟาดไปหมดทั้งพี่ทั้งน้อง ดีนะที่พาทริซเซียไม่ไปชิงตำแหน่งที่ปราการปราชญ์อีกคน”
“ฉันว่านายไม่ควรเรียกรุ่นพี่ว่าพาทริซเซียเฉยๆนะ”ยูริคกำลังกวาดห่อขนมที่กินแล้วใส่ถุง
“ฉันเห็นด้วยกับยูริค คนอื่นอาจจะว่านายลามปามโดยเฉพาะพี่ชายของเธอท่าทางจะไม่ชอบนายเท่าไหร่”
“แต่พาทริซเซียไม่ได้ว่าอะไรฉันซะหน่อย”
“ทำเป็นอ้างนู่นอ้างนี่ ฉันว่านายไม่อยากเรียกเธอว่าพี่ให้เสียความรู้สึกมากกว่าม้าง”
อึก!
“บ้าน่า ฉันกับพาทริซเซียเป็นเพื่อนกัน”
“พวกที่แอบชอบเพื่อนตัวเองก็มีเยอะไป แกอาจจะไม่รู้ตัวก็ได้เพราะแกมันอยู่แต่ในดงเลยแยกความรู้สึกไม่เป็น”
“พอๆ ฉันจะนอนแล้ว“ฟาโรห์ดึงผ้าห่มมาคลุมตัว
“เฮ้ยๆลุกขึ้นมาก่อน”รานดอฟเขย่าตัว
“แกเลิกเซ้าซี้เถอะน่า”ฟาโรห์บิดตัวหนี
“แกยังไม่ได้อาบน้ำ!”
พรวด
ฟาโรห์ลุกขึ้นมาทันที
                          ....................................................................
เสียงรุ่นพี่ทิ้งห่างออกไปเรื่อยๆ ข้างตัวเขาในตอนนี้มีเพียงหญิงสาวกลุ่มหนึ่งที่เดินหัวเราะกันคิกคักเหมือนจะชมปราสาทเล่น
“หนักชะมัด” ฟาโรห์กัดฟันพร้อมยกกระเป๋ายักษ์ขึ้นบันไดทีละสองขั้น
ก็แม่พวกนางกำนัลทั้งหลายไม่รู้จะห่วงอะไรเขานักหนาถึงได้จัดของมาให้ซะใหญ่โต ขนาดท่านแม่เองยังแซวว่ากระเป๋าเสื้อผ้าของเจ้าชายคาโลในสมัยนั้นยังไม่ใหญ่เท่าของเขาเลย
“ช่วยไหม”เสียงชายคนหนึ่งดังขึ้นจากด้านหลัง
ฟาโรห์หันไปดูก็เห็นผู้ชายร่างผอมเพรียว ผิวไม่ขาวมาก ผมสีม่วงอ่อนประกายเงินซอยในทรงกำลังดี(ประมาณพี่วิกF4 โฮะๆ) ตาเป็นสีเงินดูแปลกจากคนอื่น
เขาเดินคู่มากับผู้หญิงคนหนึ่งที่ดูแล้วคงรุ่นเดียวกัน เธอคนนั้นมีผมสีน้ำตาลเข้มประกายแดงถักเป็นเปียยาวถึงกลางหลัง ตาสีอิฐจ้องอยู่ที่กระเป๋าเขา
“เจ้าสำอาง”ผู้หญิงคนนั้นมองเขาด้วยความรู้สึกแบบเดียวกับที่เธอพูดออกมา
เสียงก็เพราะดีหรอกแต่มารยาทแย่ชะมัด ฟาโรห์ทำเป็นไม่เห็นสายตาของเธอแล้วยกกระเป๋าต่อ
“ไม่เอาน่าไอริส”ผู้ชายที่มาด้วยกันทำหน้าเชิงขอโทษเขา เขารู้สึกว่าคุ้นๆหน้าเหมือนเคยเจอที่ไหนมาก่อน
ฟั่บ!
แขนของผู้ชายคนนั้นรัดคอเขาทันทีที่กลุ่มสาวๆเดินผ่านขึ้นไปชั้นบนแล้ว เสียงหัวเราะดังขึ้นจากเจ้าของมือที่เกือบจะทำเขาตกบันไดถ้าเขาคว้าราวจับไว้ไม่ทัน
“รานดอฟ”ฟาโรห์หัวเราะอย่างลำบาก เพราะกระเป๋าเสื้อผ้ามันอาจจะตลบลงมาทับเขาได้ทันทีถ้าเขาเบี่ยงขาที่ยันมันไว้อยู่ในขณะนี้
“บ้าเอ๊ยปล่อยก่อน ฉันกำลังจะถูกกระเป๋านี่ทับอยู่แล้ว”
ผู้ชายที่ชื่อรานดอฟเอามือออกจากคอเขาแล้วจับกระเป๋าขึ้นมาตั้ง ฟาโรห์หย่อนตัวนั่งที่ขั้นบันได เงยหน้าขึ้นมามองอีกฝ่ายงงๆ
“ทำไมตานายถึง ..”
“อ๋อ”รานดอฟถอดแก้วเปลี่ยนสีออก(คอนแทคเลนส์)
”ของเล่นใหม่ของฉัน ตอนนี้มันกำลังฮิตเป็นเทรนใหม่มาแรง แต่อย่างนายคงไม่รู้จักล่ะสิ วันๆหมกตัวอยู่แต่ในป่าในดง”ตอนนี้ตาของรานดอฟกลับมาเป็นสีม่วงอ่อนแล้ว
“นายทันสมัยขนาดนั้นเชียว”ฟาโรห์พูดอย่างรู้ทัน
“แกนี่ฉลาดสมเป็นเจ้าชาย ตอนที่ฉันไปทำงานฉันแอบได้ยินพวกคุณหนูชาวเวนอลพูดกัน ขากลับซาเรสก็เลยแวะซื้อในตลาด นายสนใจไหมล่ะ”รานดอฟหยิบกล่องยาวๆกล่องหนึ่งออกมา
ภายในกล่องมีแก้วเปลี่ยนสีมหัศจรรย์(มั่วให้เป็นชื่อเรียกเต็มๆของคอนแทคเลนส์55)อยู่ถึง12สีด้วยกัน ฟาโรห์หยิบมาดูอย่างสนใจและดูเหมือนเขาจะถูกใจกับเลนส์สีส้มแปร๊ดบาดตา
“รสนิยมนายห่วยแตกชะมัด”รานดอฟทำหน้าเห่ยเมื่อเพื่อนของเขายิ้มให้เขาด้วยตาที่เป็นสีส้มสะท้อนแสงจนแสบตา แต่เหมือนเจ้าตัวจะไม่รู้เลยว่าตัวเองมีสภาพที่น่าเกลียดจนเพื่อนรับไม่ได้
“เฮ้ยไอ้น้อง ขึ้นมาเร็วๆเด้”เสียงดังจากรุ่นพี่ที่เดินลงมาตาม
                                          .............
  ตอนที่ขึ้นไปถึงระเบียงหน้าห้องพักพวกเขาก็ต้องตัวลีบกับสายตาทุกคู่ที่มองมา รุ่นพี่ตักเตือนเขานิดหน่อยก่อนจะเริ่มบอกห้องพักของแต่ละคน
“เจ้าชายฟาโรห์ วาเนบลีแห่งคาโนวาล”รุ่นพี่เอ่ยชื่อเขาเป็นคนแรก เพื่อนๆหันมามองเขาแล้วบางคนก็เริ่มซุบซิบ
“นั่นไงเจ้าชายนินจา”
กำ +_+
“หล่อจังเนอะเธอ”
อยู่แล้ว^_^
“แม่ของเขาคือธิดาแห่งความมืดในตำนานไง”
นี่เธอ! -_-“
“เส้นรึเปล่าวะ”
เฮ้ย! O_O
“เจ้าชายยูริค ฮิวทิสแห่งโรมัน”
“ไอริส เจนโดรลิน เดอะไนท์ ออฟอเมซอน”
แล้วเสียงฮือฮาก็ดังขึ้นเมื่อไอริสเป็นผู้หญิงคนเดียวที่ติดตำแหน่งหัวหน้าป้อมอัศวิน รุ่นพี่ที่อ่านประกาศหันไปคุยกับเพื่อนก่อนจะประกาศออกมา
“เธอได้เป็นหนึ่งในว่าที่หัวหน้าป้อมนะไอริสแต่คงต้องไปพักอยู่ห้องอื่น ส่วนที่ว่างในห้องหัวหน้าป้อมจะเลื่อนอันดับสี่มาแทน”รุ่นพี่บอกไอริสที่รับคำอย่างเข้าใจ
“รานดอฟ ฟีลมัส เดอะคิลเล่อร์ ออฟซาเรส”
ฟาโรห์หันมายิ้มกับรานดอฟแล้วก็คุยกันตามประสาเพื่อนที่ไม่ได้เจอกันนาน จนกระทั่งถึงเวลาเอาของไปเก็บ
ฟาโรห์กับรานดอฟเดินนำเข้ามาให้ห้องก่อนเจ้าชายยูริค ฟาโรห์เลือกเตียงขวา รานดอฟนอนเตียงกลาง เจ้าชายยูริคเข้ามาเป็นคนสุดท้ายเลยต้องอยู่เตียงซ้าย
ยูริคเป็นคนสุภาพไม่เรื่องมากแต่ออกจะเคร่งไปสักนิดเพราะทันทีที่เข้าห้องก็หยิบคัมภีร์ศาสนาขึ้นมาวางบนโต๊ะแล้วสวดบูชา แต่ถึงอย่างนั้นพวกเขาสามคนก็เข้ากันได้ดี
                                    ...........
“ยูริค ทำไมเขาไม่ตักเนื้อให้นายสักชิ้นล่ะ”รุ่นพี่ผู้ชายที่พามากินข้าวถามอย่างห่วงแทน
“ผมเป็นมังสวิรัติฮะ”เจ้าชายยูริคขยับแว่นเล็กน้อยแล้วค่อยๆตักอาหารทาน
“อ๋อ”รุ่นพี่หัวเราะไม่ค่อยออก มันน่าจะเป็นนักบวชมากกว่าเจ้าชายแฮะ
“เฮ้ นายดูนั่นสิ”ฟาโรห์มองตามเสียงรุ่นพี่ที่พากันมองไปทางด้านหนึ่งของห้องอาหารดรากอน
เจ้าชายเฟรเดอริคควงสาวมากินอาหารเย็น!
เอ๊ะแต่ ดูคุ้นๆนะ
เคร้ง!
ช้อนของเจ้าชายยูริคหล่นลงจานทันทีที่เห็นหน้าผู้หญิงที่มาด้วย
“ฟาโรห์แกเป็นอะไรวะ”รานดอฟมองฟาโรห์ด้วยท่าทางแปลกๆ “อยู่ๆก็ทำช้อนหล่น”
อ้าวO_O  ไอ้ช้อนที่ว่านั่นมันไม่ใช่ช้อนของเจ้าชายยูริคหรอกเหรอ
ฟาโรห์มองช้อนของเขาที่หล่นบนจานแล้วมองไปที่จานเจ้าชายยูริค เจ้าชายยูริครวบช้อนส้อมไว้อย่างเรียบร้อยอาหารในจานก็หมดเกลี้ยง
คนอะไรจะกินเร็วปานนั้น!
ตกลงว่าเจ้าชายยูริครวบช้อนเลยทำให้เขาเข้าใจผิด จริงๆแล้วเสียงดังที่ว่าเป็นของเขาเอง
“เอ่อ คือ ..”เสียงตะกุกตะกักของรุ่นพี่ทำให้เขาหันไปมอง นิ้วชี้สองนิ้วเบนมาทางเขาโดยไม่ได้นัดหมาย
“นายอีกแล้วเหรอ”เจ้าชายเฟรเดอริคทักทายเขาอย่างกันเอ๊งกันเอง
“สวัสดีฮะ เอ๊ย มีอะไรเหรอฝ่าบาท”ฟาโรห์ทำหน้าเห่ย
“มีน่ะมีแน่ แต่ก่อนอื่นนายควรจะรู้ว่าป้อมอัศวินเราไม่แบ่งชนชั้น ถึงนายจะเป็นเจ้าชายก็ไม่ได้หมายความว่าจะทำเบ่งอวดชาวบ้านเขาได้”
“ฮะ”ฟาโรห์รับผิดอย่างว่าง่าย ท่าทางเจ้าชายเฟรเดอริคคงมีตำแหน่งใหญ่ไม่เบา รุ่นพี่สองคนนั้นถึงได้กลัวจนหัวหด
“เวลากินข้าวก็หัดมีมารยาทซะบ้าง กรุณาอย่าทำเสียงโครมครามกลางห้องอาหารแบบนี้”
“เจ้าพี่คะ ฟาโรห์คงไม่ได้ตั้งใจหรอก”พาทริซเซียช่วยพูดให้ ฟาโรห์พยักหน้าตามทันที
น้องสาวท่านต่างหากล่ะที่ทำให้ผมตกใจ ฟาโรห์มองพาทริซเซียที่แต่งชุดไม่เหมือนเด็กปีหนึ่งทั่วไป
“หือ”เฟรเดอริคมองน้องสาวเหมือนจะบอกว่าอย่าแก้ตัวแทนหมอนี่ก่อนจะเดินกลับไป
“ฟาโรห์ ทีหลังก็ระวังหน่อยนะ”พาทริซเซียเตือน
“เดี๋ยวสิพาทริซเซีย ทำไมเสื้อเธอไม่เหมือนคนอื่นล่ะ”
รุ่นพี่ที่นั่งอยู่ทำตาโตเมื่อได้ยินเขาเรียกพาทริซเซียเหมือนสนิทกัน
“ก็ฉันเป็นผู้คุมกฎนี่นา”พาทริซเซียยิ้มให้เขา
“แต่เราเพิ่งเข้ามาวันแรกไม่ใช่เหรอ”ฟาโรห์ขมวดคิ้ว
“เรา!”พาทริซเซียตกใจเล็กน้อยก่อนจะหัวเราะออกมา”ไม่ใช่’เรา’หรอกฟาโรห์ นายคนเดียวต่างหาก”
“หมายความว่าไง”ฟาโรห์งงกว่าเดิม
พาทริซเซียกำลังจะตอบแต่เฟรเดอริคก็เดินกลับมาอีกรอบเธอเลยต้องเดินไปหาพี่ชาย
“นายถามรุ่นพี่ของนายดูก็แล้วกัน”พาทริซเซียทำท่าบ๊ายบายเล็กน้อย
“ฟาโรห์ นายสนิทกับรุ่นพี่ขนาดนั้นเชียวเหรอ”
“ห๊า รุ่นพี่!”ฟาโรห์ตาค้างมองหน้ารุ่นพี่สองคนนี้สลับกับหลังของพาทริซเซียที่เดินไป
“ก็ใช่ไงรุ่นพี่พาทริซเซียอยู่ปีสามแล้วก็เป็นผู้คุมกฎของป้อมด้วย”
“งั้นเจ้าชายเฟรเดอริค”
“หัวหน้าป้อม”สองเสียงของรุ่นพี่ประสานกันเหมือนจะย้ำให้เข้าใจ
                                  ..
“เป็นอะไรของนาย นั่งบื้อตั้งแต่เมื่อกี้แล้ว”รานดอฟกับเจ้าชายยูริคกำลังนั่งกินขนมที่แอบซื้อขึ้นมา
ฟาโรห์มองเจ้าชายยูริคแล้วถอนใจ เขาคงต้องใช้เวลาอีกนานกว่าจะรู้จักเจ้าชายคนนี้อย่างถ่องแท้ ดูท่าทางเหมือนเด็กเรียบร้อยอยู่ในกฎระเบียบแต่กลับเป็นคนต้นคิดแอบเอาขนมมากินกัน
“นายว่าผู้หญิงที่เราเจอในห้องอาหารหน้าแก่ขนาดอยู่ปีสามได้เลยเหรอ”
“แบบรุ่นพี่คนนั้นเค้าเรียกว่าหน้าเด็กไม่ใช่เหรอฟาโรห์”ยูริคออกความเห็น
“ฉันประชดเว้ย”ฟาโรห์ทำตาดุใส่”พาทริซเซียหน้าเด็กจะตายดูยังไงก็อายุเท่าพวกเราเห็นๆ”
“แถมยังสวยบาดใจด้วย”
“ช่าย”
เอ๊ะ!
“เฮ้ย”ฟาโรห์ตะโกน หันมามองรานดอฟที่นั่งหัวเราะซุบซิบกับยูริค “แกอย่าคิดอะไรแบบนั้นสิ”
“ฮึอึ ฉันไม่ได้คิดเว้ยแต่แกอ่ะไม่แน่”รานดอฟปฏิเสธ
“ผมก็ไม่ได้คิดนะฮะ”ยูริคตีหน้าซื่อ มันหน้าจับมาเตะทั้งคู่
“เอ แต่ฉันยังไม่เห็นเจ้าชายแพททริคเลยแฮะ”
“รายนั้นเขาไม่ได้อยู่ป้อมอัศวิน”รานดอฟโยนถุงขนมให้”เขาไปจองตำแหน่งหัวหน้าปราสาทขุนนาง”
“จริงเหรอ”ฟาโรห์ถามซ้ำ
“อืม”รานดอฟพยักหน้าไปด้วยดื่มน้ำไปด้วย
“เมื่อก่อนคิงอาเธอร์ก็เคยเป็นหัวหน้าปราสาทขุนนางใช่รึเปล่า”ฟาโรห์มองรานดอฟที่เดินมานั่งใกล้เขา
“อืม พ่อฉันว่าเขาไม่ค่อยถูกกับป้อมอัศวินเท่าไหร่ แต่แม่นายสนิทกับคิงอาเธอร์ไม่ใช่รึไง”รานดอฟแซว
“หึย สนงสนิทอะไรล่ะ ท่านแม่บอกว่าครั้งหนึ่งเกือบจะโดนคิงอาเธอร์ฆ่าตายซะแล้ว”
“จริงเหรอ ไม่เห็นพ่อพูดถึงเลย”
“พ่อแกจะมารู้ทุกเรื่องได้ไงล่ะฟะ”
“ทำเป็นพูดไป พ่อฉันสนิทกับแม่นายมากกว่าที่พ่อนายสนิทซะอีกนะ เรื่องใหญ่แบบนี้ก็น่าจะเล่าให้กันฟัง”
“ทีพ่อนายแอบชอบท่านอาเรนอนไม่เห็นจะบอกพ่อแม่ฉันเลย”
“ใครกันเรนอน แฟนเก่าพ่อเหรอ”รานดอฟยื่นหน้ามาอย่างสนใจ
“ก็กลับไปถามพ่อนายสิ”
“ช่างเถอะ เรื่องที่พ่อเคยชอบใครก่อนแม่ฉันมันเป็นอดีตไปแล้ว”
“ท่านแม่บอกว่าป้อมอัศวินกับปราสาทขุนนางเป็นคู่แข่งตัวเก็งของโรงเรียน งั้นช่วงนี้ซาเรสก็รุ่งเลยสิฟาดไปหมดทั้งพี่ทั้งน้อง ดีนะที่พาทริซเซียไม่ไปชิงตำแหน่งที่ปราการปราชญ์อีกคน”
“ฉันว่านายไม่ควรเรียกรุ่นพี่ว่าพาทริซเซียเฉยๆนะ”ยูริคกำลังกวาดห่อขนมที่กินแล้วใส่ถุง
“ฉันเห็นด้วยกับยูริค คนอื่นอาจจะว่านายลามปามโดยเฉพาะพี่ชายของเธอท่าทางจะไม่ชอบนายเท่าไหร่”
“แต่พาทริซเซียไม่ได้ว่าอะไรฉันซะหน่อย”
“ทำเป็นอ้างนู่นอ้างนี่ ฉันว่านายไม่อยากเรียกเธอว่าพี่ให้เสียความรู้สึกมากกว่าม้าง”
อึก!
“บ้าน่า ฉันกับพาทริซเซียเป็นเพื่อนกัน”
“พวกที่แอบชอบเพื่อนตัวเองก็มีเยอะไป แกอาจจะไม่รู้ตัวก็ได้เพราะแกมันอยู่แต่ในดงเลยแยกความรู้สึกไม่เป็น”
“พอๆ ฉันจะนอนแล้ว“ฟาโรห์ดึงผ้าห่มมาคลุมตัว
“เฮ้ยๆลุกขึ้นมาก่อน”รานดอฟเขย่าตัว
“แกเลิกเซ้าซี้เถอะน่า”ฟาโรห์บิดตัวหนี
“แกยังไม่ได้อาบน้ำ!”
พรวด
ฟาโรห์ลุกขึ้นมาทันที
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น