ลำดับตอนที่ #4
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #4 : คำเตือนจากเพื่อนเก่า
อากาศบนนี้เย็นดีแฮะ
ฟาโรห์ชะโงกมองผ่านม่านเมฆสีขาวลงไปข้างล่าง บ้านเรือนราษฎรมากมายตั้งเรียงรายเป็นสัดส่วนอย่างงดงาม ส่วนใหญ่เป็นคฤหาสน์อันโอ่อ่าตามประสาชนชั้นสูงที่อาศัยอยู่ในเมืองหลวง
วูบ ..
ฟาโรห์รีบยกแขนบังตาทันทีเพราะแสงสะท้อนบางอย่างจากพื้นดิน เขาค่อยๆมองลงไปอีกครั้ง
พระเจ้า!
(โค-ต-ร)เพชรเม็ดใหญ่ประดับรอบๆด้วยพลอยแดงส่องประกายวูบวาบอยู่ตรงยอดปราสาทใหญ่ที่ฝูงมังกรของชาวคาโนวาลกำลังจะร่อนลงจอด ฟาโรห์รู้สึกทึ่งนึกถึงเรื่องที่ท่านแม่ขุดมาเผาคิงแห่งแอเรียสคนนี้
ขี้อวดหลงตัวเองแถมยังอ้วนลงพุง เห็นผู้หญิงเป็นไม่ได้ ถึงฝีมือมันจะพอใช้ก็เหอะ
“เฟริน”เสียงตวาดของท่านพ่อดังขึ้นจากที่ประทับของท่านที่ดูคล้ายเรือไวกิ้งมีหลังคาปิดและม่านขาวห้อยระย้าบังแดดลากโดยมังกรศึกหมายเลขหนึ่งแห่งราชสำนัก 
ฟาโรห์หันไปมองก็เห็นท่านแม่ทำท่าเหมือนจะตกลงไปข้างล่าง
“คาโล”ท่านแม่ตะโกนกลับบ้าง ท่านพ่อหน้านิ้วคิ้วขมวดเพราะไม่อยากจะมีเรื่องต่อหน้าขุนนางคนสนิทที่ตามเสด็จมาด้วย ถึงแม้ขุนนางที่ว่าจะมีแค่6คนและแต่ละคนก็ต่างรู้ฤทธิ์ท่านแม่ดีอยู่แล้ว
“เธอไม่ใช่เด็กแล้ว”ท่านพ่อพยายามใช้คำสุภาพ ท่านแม่ยิ้มอย่างพอใจยอมนั่งลงดีๆ
“ระวังเถอะ ลงไปถึงข้างล่างแล้วอาจจะมีคนทักว่านายควงลูกสาวมางานก็ได้ หรือบางทีอาจจะคิดว่านายรับสนมใหม่วัยสิบเก้า”เฟรินหัวเราะสบตากับคาโลอย่างไม่ยอมแพ้ให้
    ฟาโรห์อมยิ้ม ก็ไม่เห็นจะแปลกตรงไหน เมื่อท่านแม่ของเขายังสาวยังสวยและงดงามราวเด็กสาววัย19ปลายๆ ท่านแม่มีสายเลือดของปีศาจในตัวเลยทำให้ร่างกายของท่านไม่ได้ร่วงโรยไปตามกาลเวลาเหมือนมนุษย์ทั่วๆไป
“สนม?”ท่านพ่อขมวดคิ้วแล้วยิ้มให้ท่านแม่อย่างเป็นต่อ
”หมายความว่าพระราชินีจะใจกว้างยอมให้คาโนวาลได้มีสนมประดับวังสักคนใช่รึเปล่า”
“ฝันไปเถอะ”ท่านแม่สวนกลับทันที
“ก็เธอพูดเองว่า ”ท่านพ่อยังแกล้งพูดต่อ แต่ท่านแม่ทำหน้าประมาณว่าถ้าพูดถึงเรื่องแบบนี้อีกแกตาย
เมื่อท่านพ่อเห็นว่าตัวเองเป็นฝ่ายชนะแล้วท่านก็เลยนั่งลงข้างๆท่านแม่ที่ยังกระฟัดกระเฟียดเพราะเรื่องที่ท่านพ่อเถียงชนะท่านเป็นครั้งที่2ในรอบห้าปีที่ผ่านมา
แตน แต แด แดน แตน แต๊น ..
    เสียงเป่าแตรรับเสด็จชาวคาโนวาลดังขึ้นเมื่อมังกรดิ่งลงพื้นรวดเร็วดุจพายุแล้วค่อยๆร่อนลงอย่างนุ่มนวลเหมือนปุยนุ่นด้วยความพร้อมเพรียง
    ลานศิลา-หินอ่อนของแอเรียสเต็มไปด้วยดอกไม้หลากพันธุ์จนแทบจะกลายเป็นทุ่งดอกไม้ กลิ่นน้ำหอมฟุ้งไปทั่วบริเวณ
มีซุ้มประตูแบบโรมันจัดตามจุดต่างๆ แต่แทนที่จะประดับซุ้มด้วยดอกไม้กลับใช้พลอยแดงร้อยเป็นสายพันรอบเสาทั้งต้นให้คนที่มาร่วมงานกลืนน้ำลายเล่น
กลางประตูทางเข้าวังตั้งรูปสลักคิงริชาร์ดขนาดเท่าตัวจริงทำจากหินแกรนิตเนื้อดี ตาของรูปสลักทำจากทองคำแท้ให้เป็นสีเดียวกับตาเจ้าของรูป
    ท่านปู่บาโรเดินมาหาพวกเขาพร้อมคิงริชาร์ด ท่านปู่ไปพักตากอากาศที่กิลดิเลกและท่านไม่ชอบทรงมังกรเลยเดินทางแยกมาต่างหาก(คิงบาโรถอนตัวจากการเมืองตอนฟาโรห์อายุประมาณ5ปี)
“ไงคาโล พวกเจ้าสองคนสบายดีใช่ไหม”คิงริชาร์ดหัวเราะต้อนรับ
”ยังสวยเช้งเลยนะฝ่าบาท”คิงริชาร์ดมองเฟรินด้วยความแปลกใจเล็กน้อยในตอนแรก”มิน่าล่ะ พ่อหลานคาโลถึงไม่คิดจะหาผู้หญิงไว้สักคนสองคน”
“คนเดียวก็เกินพอ”คิงเฮลด้าพูดมาแต่ไกล
ฟาโรห์หันไปมองแล้วยิ้มให้เพราะคิดว่าอาจจะเป็นราชินีแห่งแอเรียส แต่ดูดูแล้วก็ไม่น่าจะใช่เพราะท่านแม่เล่าว่าคิงริชาร์ดไม่มีราชินีที่มีก็แค่มเหสีเท่านั้น
ท่านย่าผู้นี้ดูมีอำนาจเกินไปไม่ได้เจี๋ยมเจี้ยมตามแบบฉบับผู้ตามเลยสักนิด
เขาไม่ค่อยรู้จักเชื้อพระวงศ์ของเมืองอื่นเลยไม่สามารถเดาได้ว่าเป็นราชินีของใคร ไม่เหมือนคิงริชาร์ดที่เดาได้ไม่ยากเนื่องจากเป็นเจ้าของงาน
“รับมือกับธิดาแห่งความมืดคนเดียวก็หัวปั่นแล้ว”ท่านย่าคนนั้นมองท่านแม่อย่างคนไม่ชอบหน้ากันและดูเหมือนจะอิจฉาในความสาวของท่านแม่ของเขาด้วย
ท่านแม่ยังทำเป็นเรียบร้อยได้อย่างแนบเนียนไม่โต้กลับ แต่เขาสังเกตว่าท่านแม่พยายามดึงตัวท่านพ่อมาบังไว้ยังไงก็ไม่รู้
“นี่ฟาโรห์หลานชายคนเดียวของท่านล่ะสิ” คิงริชาร์ดหันไปถามท่านปู่
“ถวายพระพรฝ่าบาท”ฟาโรห์โค้งหัวคำนับ คิงริชาร์ดพิจารณาอย่างละเอียด
“ดีแล้วที่เหมือนพ่อ”เฟรินฟังแล้วสะอึกเล็กน้อยเพราะรู้ดีว่าโดนกัดซะแล้ว
“ฝ่าบาทยังทรงมีพระพลานามัยแข็งแรงนะเพคะ ท่าทาง(ปาก)กระฉับกระแฉงนัก”เฟรินยิ้มให้
“555”คิงริชาร์ดมองหน้าท่านแม่ก่อนหัวเราะกลบเกลื่อนความไม่พอใจในดวงตายามที่มองท่าน
“อืม ช่างเป็นบุญตาของข้าซะจริง ได้ข่าวว่าเจ้าชายแห่งคาโนวาลเป็นคนลึกลับยากที่จะได้พบหน้า แต่วันนี้กลับมาปรากฏตัวในวังของข้าได้”ริชาร์ดหัวเราะจนพุงกระเพื่อม
“ฝ่าบาทเป็นคนสำคัญของเอเดน กระหม่อมเห็นควรอย่างยิ่งที่จะมาชื่นชมพระบารมี”
คิงริชาร์ดหัวเราะลั่นลานศิลาอย่างถูกใจคำยอ
แตน แต แด แดน แตน แต๊น
“เจมิไนกับเวนอล”
“ปลงๆซะบ้างเถอะท่านริชาร์ด”บาโรหัวเราะพอเป็นพิธี
“ถวายพระพรฝ่าบาท”ครอบครัวฮาเวิร์ดถวายพระพรพร้อมกัน
“ขอบใจๆ เชิญตามสบายนะท่านโรเวน ท่านวิเวียนนานีย่า”
ริชาร์ดมองไปยังเจ้าชายนิโคลัส(ชัยชนะของประชาชน)เจ้าชายองค์โตของคิงโรเวน และเริ่มยิ้มออกเมื่อเห็นเจ้าหญิงเวเนซซ่า(ผีเสื้อ)เจ้าหญิงผู้เลอโฉมแห่งเจมิไน แววตากรุ้มกริ่มของท่านก็เริ่มออกฤทธิ์ให้เห็น
“เจ้าหญิงโตเร็วนัก ไม่ทราบปีนี้พระชนมายุเท่าไหร่แล้ว”
“สิบเอ็ดปีเพคะ”วิเวียนพูดดักคออย่างไม่พอใจโดยเน้นเสียงหนักที่สิบเอ็ด
“อ้อ แหมเด็กสมัยนี้โตเร็วทันใจดีนะ”ริชาร์ดยังหัวเราะต่อ
“พี่หญิงสบายดีหรือคะ”วิเวียนทักเฟรินเมื่อเหล่าคิงเดินไปนั่งที่พลับพลาต้อนรับ ตอนนี้เหลือเพียงเธอกับลูกสาวและเฟรินกับฟาโรห์
“อืม ท่านเองก็ดูสบายดีนะยังสวยเหมือนเดิม”เฟรินยิ้มให้
“คงไม่เหมือนพี่หญิงหรอกค่ะทั้งสวยแล้วยังสาวเสมอ หญิงล่ะอิจฉาจัง”วิเวียนแซว
”แถมพระสวามีพี่หญิงก็ยังรักเดียวใจเดียวไม่หาเรื่องให้ต้องเสียใจ”
“วิเวียน”เฟรินเอ่ยอย่างเห็นใจก็รู้รู้กันอยู่ว่าโรเวนน่ะเจ้าชู้แค่ไหน โธ่เอ๊ยน้องหญิงที่น่าสงสารอุตส่าห์ได้สมหวังแล้วก็ยังต้องมานั่งปวดหัว
“นี่เจ้าชายฟาโรห์ใช่ไหมคะ เหมือนท่านคาโลราวกับคนเดียวกันแหนะ”วิเวียนหันมายิ้มให้ฟาโรห์ที่คำนับให้แล้วเธอก็หันไปคุยกับเฟรินต่อพลางชวนกันเดินไปที่พลับพลา
    ฟาโรห์รู้สึกว่าตัวเองถูกมองจึงหันมาที่เด็กสาวข้างๆตัว เห็นแววตาใสแจ๋วสีเขียวมองเขาอยู่
เค้าหน้าของเจ้าหญิงออกจะเหมือนคิงโรเวนแต่ก็ดูน่ารักดี ผมสีทองของเจ้าหญิงเป็นลอนยาวเหมือนผมตุ๊กตาและถักเปียยาวมาข้างหน้าสองเปีย ประดับด้วยกิ๊บรูปผีเสื้อตัวเล็กๆสีสันสวยงาม
“เจ้าหญิงชื่ออะไรเหรอ”
“เวเนซซ่าเพคะ เจ้าชายเรียกหญิงว่าหญิงเฉยๆก็ได้”
“งั้นถ้าไม่รังเกียจจะเรียกเราว่าพี่ชายก็ได้ เราเป็นลูกคนเดียวไม่มีน้องสาวกับเค้า”
“พี่ชายรูปงามออกอย่างงี้แสดงว่ามีแฟนแล้วใช่มั๊ยคะ”เจ้าหญิงกระซิบถาม ฟาโรห์หน้าแดงขึ้นมาทันทีทำไมน้องหญิงถึงได้แก่แดดแบบนี้
“ว่าไงคะ”เจ้าหญิงถามซ้ำ มองเขาอย่างสนใจ
“พี่ยังไม่คิดเรื่องนี้”ฟาโรห์ตอบไปอีกทาง
“งั้นเจ้าพี่มีคนที่ชอบรึยังคะ”ฟาโรห์ส่ายหน้าแทนคำตอบ
“โกหกเด็กบาปนะคะ”เจ้าหญิงยิ้มนิดๆ ฟาโรห์มองหน้าเจ้าหญิงอย่างอึ้งๆ
“ถ้าเจ้าพี่ยังไม่มีคนที่ชอบงั้นก็เป็นแฟนกับหญิงได้ใช่ไหมค่ะ”
“ห๊ะ!”ฟาโรห์สะดุ้ง
“หญิงล้อเล่นคะ หญิงมีคนที่ชอบอยู่แล้วถึงจะไม่หล่อเท่าเจ้าพี่แต่เป็นผู้ชายที่เท่ห์มากๆ”
“จริงเหรอ”ฟาโรห์ถามเบาๆ
“จริงสิคะ ก็ท่านพ่อของหญิงไงล่ะ”เจ้าหญิงยิ้มอย่างร่าเริงส่วนฟาโรห์ก็ลอบถอนใจ
    เฟรินกับวิเวียนเดินมาถึงพลับพลา เหล่าคิงจากเมืองต่างๆกำลังคุยกันออกรส อาเธอร์นั่งคุยอยู่กับโรเวน ส่วนคาโลก็ยืนอยู่กับมาทิลด้าและพระสวามี(ไม่ได้เจี๋ยมเจี้ยมเหมือนพ่อของเธอ) อาเธอร์มองมาที่ฟาโรห์ทันทีที่ก้าวเข้ามาใกล้
“นั่นน่ะเหรอเจ้าชายแห่งคาโนวาล”คำพูดเบาๆแค่พอได้ยินกันสองคนกับโรเวน
“หน้าตาเขาก็บอกยี่ห้ออยู่แล้ว”
“หึหึ แต่มาดไม่ออกนะ”อาเธอร์หันไปมองฝ่ายพ่อที่ตอนนี้นั่งคุยกับเพื่อนร่วมป้อมพร้อมหน้ากับราชินีแห่งคาโนวาล
“ท่าทางจะไม่เท่าไหร่”รอยยิ้มดูถูกปรากฏที่มุมปากของคิงใจสิงห์
“คนเราดูแต่ภายนอกไม่ได้หรอกท่านอาเธอร์”โรเวนยิ้ม
“จริงสินะ ใครจะรู้ว่าลูกแกะใสซื่อแท้จริงคือสมิงร้าย”อาเธอร์เหน็บแนม
“เป็นลูกแกะแล้วไม่ดีตรงไหน ขนาดพยัคฆ์ร้ายยังนึกเอ็นดู”โรเวนหัวเราะเบาๆ
“เสียดายที่ฉันแก่เกินไปแล้วสำหรับชุดลูกแกะนั่น”อาเธอร์ยิ้ม
“ท่านไม่เหมาะกับบทลูกแกะใสซื่อหรอกอาเธอร์”
“อาจะใช่ ซาเรสไม่มีโรงละครชั้นเยี่ยมอย่างเจมิไนจะได้ตีบทแตก”
                                      ..
เมื่อตะวันลับขอบฟ้างานเลี้ยงก็เริ่มขึ้นกลางห้องโถงใหญ่ที่หรูหราจนเจ้าชายอย่างเขายังต้องทึ่ง
ฟาโรห์มองคิงริชาร์ดที่ขึ้นไปยืนกล่าวคำขอบคุณแขกบนเวที การขอบคุณที่ใช้เวลานานมากเพราะเจ้าตัวมัวแต่โม้เรื่องของตัวเอง แถมเรื่องของท่านก็มีให้โม้ได้ไม่หยุดหย่อน
“อะแฮ่ม ได้ข่าวว่าคาโนวาลคิดเปิดตัวเจ้าชายในงานเลี้ยงคืนนี้รึ”
“โธ่ท่านอาเธอร์พูดเป็นเล่นไปได้”เฟรินยิ้มให้ก่อนส่วนคาโลเหลียวมองเล็กน้อยแล้วหันไปทางเวทีอย่างไม่ใส่ใจ
“ว่าแต่ท่านอาเธอร์เถอะไม่ค่อยจะขนลูกมาออกงานเท่าไหร่เลย”อาเธอร์ถลึงตาใส่เมื่อได้ฟังคำกริยาที่เฟรินเอามาใช้กับลูกๆของท่าน
“คนนะเฟลิโอน่า ไม่ใช่นึกอยากจะ\'ขน\'ก็\'ขน\'ได้ตามใจชอบ”
“โทษทีท่าน ต้องใช้คำว่าเสด็จสินะ”เฟรินยิ้มกวน อาเธอร์ได้แต่ข่มอารมณ์ไว้จนตัวเกร็ง
ฟาโรห์ยืนฟังบทสนทนาอยู่เงียบๆ คนนี้สินะคิงอาเธอร์ บริสตั้น ท่านพ่อของพาทริซเซียคนนั้น
ฟาโรห์ยิ้มกับตัวเองเมื่อภาพหน้ายามโกรธของพาทริซเซียในครั้งแรกที่พบกันลอยเข้ามา
เขาพยายามมองหาเพื่อนคนที่เขากำลังนึกอยากจะเจอหน้า มองไปมองมาก็สบตาเข้ากับอาเธอร์ที่มองเขาด้วยความแปลกใจ
“หาอะไรเหรอเจ้าชาย”อาเธอร์ถามขึ้น
ฟาโรห์ยิ้มรับหน้าแต่ในใจกลับตอบว่า ’ก็ธิดาของท่านไงล่ะ’
“กระหม่อมกำลังคิดว่าน่าจะมีเจ้าชายหรือเจ้าหญิงรุ่นเดียวกันอยู่ในงานบ้างเผื่อจะได้หาเพื่อนคุย”ฟาโรห์ตอบอย่างสุภาพ
“เจ้าชายไม่เคยออกงานที่ไหน ได้มางานเลี้ยงกับเขาสักทีก็ควรจะหาเพื่อนไว้น่ะดีแล้ว”อาเธอร์พินิจฟาโรห์เหมือนจะมองให้เห็นตัวตนที่แท้จริงของเด็กตรงหน้า
คิดจะจับผิดลูกชายของเธอน่ะเหรอ ฝันไปเถอะ!
เฟรินมองอาเธอร์สลับกับลูกชายสุดที่รักของเธอ ถึงฟาโรห์จะดูซื่อไปนิด(เมื่อเทียบกับเธอ)แต่ก็ฉลาดไม่แพ้ใคร อย่าหวังเลยว่าจะได้เห็นลูกเธอปล่อยไก่ให้เห็นกันโต้งๆ
อย่างที่เฟรินคิดฟาโรห์ยังสวมมาดเจ้าชายผู้สูงศักดิ์ได้อย่างเนียนเนียน ไม่เห็นว่าจะยากตรงไหนก็แค่พูดน้อยๆยิ้มบ่อยๆ โดยเฉพาะเมื่อมีคนทำให้เห็นเป็นตัวอย่างอยู่ใกล้ๆเขากับท่านแม่
ฟาโรห์ยังคงยิ้มให้อาเธอร์ที่ยังคงพุ่งความสนใจมาที่เขาไม่วางตา
                                ..
“เจ้าชายฟาโรห์”เสียงเรียกจากเจ้าชายนิโคลัส ฉากอลังการที่ทำให้เขาแทบสำลักไวน์จนแทบหายใจไม่ออก
สามพี่น้องบริสตั้นยืนอยู่ข้างๆเจ้าชายแห่งเจมิไน(ที่พ่วงด้วยน้องสาวจอมแก่แดด)มองมาทางเขาด้วยความงุนงงเหมือนเห็นตัวประหลาด
“เจ้าชาย?”เจ้าชายแพททริคแห่งซาเรสมองมาที่เขา
“ท่านคงไม่เคยพบเจ้าชายฟาโรห์มาก่อน ปกติเจ้าชายไม่ค่อยออกงานก็อย่างที่พวกเรารู้กันอยู่”
ฟาโรห์ยิ้มเจื่อนเดินเข้ามาใกล้ตามมารยาท บางทีการเจอหน้ากันตรงๆก็ไม่ใช่เรื่องดีโดยเฉพาะมีเรื่องฐานะเจ้าชายที่เขาอุบเงียบไว้
“เจ้าชายฟาโรห์แห่งคาโนวาล”เฟรเดอริคตกใจเล็กน้อยกับรายการเซอร์ไพสจังๆ
เขาจ้องเจ้าชายที่ทรงชุดเต็มยศสมศักดิ์ศรีโอรสองค์เดียวของคิงคาโลแห่งคาโนวาล
เจ้าชายที่ครั้งหนึ่งเขาเคยพบด้วยในชุดเสื้อผ้าปอนๆเหมือนพวกชาวบ้านที่หาเช้ากินค่ำ
เจ้าชายที่ร่ำลือกันว่าคงไม่มีใครเคยเห็นโฉมหน้าที่แท้จริงของพระองค์ยกเว้นคนในพระราชวังหลวงของคาโนวาล
“เจ้าชายนิโคลัส”ฟาโรห์ทักทายก่อนหันไปแก้ตัวกับชาวซาเรส
“ต้องขออภัยที่กระหม่อมเคยเสียมารยาท”
“รู้จักกันแล้วหรอกเหรอ”เจ้าชายนิโคลัสกล่าวเรียบๆ ฟาโรห์พยักหน้าตอบ
เจ้าชายแพททริคยิ้มอย่างเอ็นดู ขณะที่น้องชายและน้องสาวของพระองค์ยังอยู่ในอาการอึ้ง
“ไม่เป็นไรหรอกฝ่าบาทไม่ใช่เรื่องเสียหายอะไร”
“ท่านชอบทำอะไรแผลงๆนะเจ้าชาย”เฟรเดอริคว่า
“เฟรเดอริคอย่าเสียมารยาท”
“หม่อมฉันต้องขอโทษฝ่าบาทด้วยที่เคยว่าพระองค์ เอ่อ สารรูปดูไม่ได้”พาทริซเซียทำหน้าไม่ถูก
“ทริซเซีย”เจ้าชายแพททริคกล่าวอย่างตกใจ
“เห็นรึเปล่า คนโปรดของเจ้าพี่ร้ายกว่ากระหม่อมซะอีก”เฟรเดอริคแซว
“เจ้าพี่คะ”เวเนซซ่าเดินมากระตุกชายเสื้อเบาๆ”เจ้าพี่รู้จักกับพี่หญิงพาทริซเซียเหรอคะ”
จะมาไม้ไหนอีกล่ะ!  ฟาโรห์คิดในใจแล้วเขาก็พยักหน้านิดๆ
“เจ้าพี่สนใจเธอรึเปล่าคะ”ฟาโรห์ตกใจเล็กน้อยเกิดใครได้ยินเข้าอาจจะคิดว่าเขามีเจตนาแอบแฝง
“หือ”เจ้าหญิงน้อยยังไม่เลิก ฟาโรห์ส่ายหน้า
“เจ้าพี่เป็นผู้ชายแบบที่ชอบผู้ชายด้วยกันเองหรือคะ”
แค่ก แค่ก
ฟาโรห์สำลักไวน์อย่างไม่ทันตั้งตัว ยัยเด็กคนนี้มันน่านัก เขาเริ่มจะหน้าแดงขึ้นมาทั้งจากคำถามที่ฟังและสายตาของผู้ร่วมวงที่จ้องเขา ฟาโรห์ลากเวเนซซ่าออกมาคุยกัน
“พูดอะไรน่ะหึ เรายังเด็กอยู่เลยนะแถมยังเป็นผู้หญิงด้วย พูดจาแบบนี้ได้ยังไง”
“ท่านแม่บอกว่าถ้าหญิงรู้มากกว่าคนอื่นก็จะฉลาดกว่าเก่งกว่าคนอื่น”
“แต่ไม่ใช่เรื่องแบบนี้นะรู้รึเปล่า”
“พี่หญิงพาทริซเซียเป็นคนที่เจ้าพี่นิโคลัสหมายปอง”
“เขาเป็นแฟนกันเหรอ”ฟาโรห์ชักอยากรู้
“ไม่รู้สิคะ หญิงเป็นผู้หญิงแล้วก็ยังเด็กอยู่ไม่ควรจะไปยุ่งกับเรื่องแบบนี้”เจ้าหญิงทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้
ฟาโรห์สะอึกก่อนจะยิ้มเอาใจเด็ก(ยัยเด็กบ้า!)
“โธ่น้องหญิงบอกหน่อยน่า นะนะ”
“เจ้าพี่ไม่ควรไปยุ่งเรื่องของคนอื่นนะคะ มันไม่ดี”
แล้วที่เธอทำอยู่นี่ล่ะ ยัยจุ้น!
                                                      ..
“ให้ตายเถอะ นายไปชวนแม่นั่นมาเที่ยววังทำไมกันนะ”เฟรินเริ่มทันทีเมื่อเดินห่างออกมาจากวงสนทนาของคนแก่รุ่นสามทหารเสือแห่งเอเดน
แม่นั่น คิงเฮลด้าแห่งอเมซอน ไม่เจอกันนานแต่หล่อนก็ยังชอบมองเธอด้วยสายตาโหดร้ายจนเธอรู้สึกเหมือนพวกนักโทษที่หวาดระแวงพัศดี
“รู้ทั้งรู้ว่าฉันไม่ถูกชะตาด้วย ลืมแล้วเหรอว่าแม่นั่นเคยคิดร้ายกับราชินีสุดที่รักของนายเชียวนะ”
แค่ก!
คาโลสำลักทันที มองหน้าราชินีสุดที่รักอย่างรับไม่ได้
“พูดอะไรไม่อายปาก”คาโลหน้าแดงนิดๆ ค่อยๆมองซ้ายขวากลัวว่าจะมีใครมาได้ยินเข้า
“ซักแก้วไหมคาโล”เฟรินหยิบแก้วไวน์ที่บริกรคนหนึ่งถือถาดผ่านมาราวกับรู้ใจ คาโลเอื้อมมือมาบ้าง
ชะงัก
เฟรินปรายตามองกับท่าทางของคาโลที่ยืนอึ้งไม่ทันจะหยิบแก้ว ด้วยสัญชาตญาณจึงหันไปที่ต้นเหตุทันที
ชะงัก
คิล ฟีลมัส?
ใช่! คิล!
คิล ฟีลมัส เพื่อนซี้แกนั่นแหละไม่ต้องทำงง
“จะกินก็หยิบไปสิวะ  เมื่อย”
    เฟรินปิดปากกลั้นเสียงหัวเราะอย่างดีใจปนขำ ส่วนคนที่ถูกว่าแววตาเย็นชาขึ้นมาฉับพลันแล้วคว้าแก้วไวน์ที่ออกจะดูเหมือนกระชากซะมากกว่า
“ถ้านายตกต่ำขนาดนี้ล่ะก็ มาทำงานกับฉันที่คาโนวาลจะดีกว่า” เสียงห้วนเรียบและเบาดังขึ้นจากคนที่หงุดหงิดง่าย
“หือม์”คิลแกล้งยักคิ้วทำตาโต”จะดีเร้อ นักฆ่าน่ะเลี้ยงไม่เชื่องนะฝ่าบาท”คิลว่าแล้วเดินนำไปที่มุมหนึ่งของงานติดริมระเบียงที่ยื่นไปทางสวนดอกไม้
แกร๊ง ..ถาดถูกวางบนโต๊ะแล้วคิลก็เดินนำมาข้างนอก
“นายมาที่นี่คงไม่ใช่แค่มาพบเพื่อนเก่า เป้าหมายนายคือใคร”คาโลไม่อ้อมค้อม
“อย่าเพิ่งเครียดสิ ไม่เจอกันนานคุยเรื่องสบายๆกันดีกว่า”เฟรินยิ้ม
“ฟาโรห์ วาเนบลี เดอะปรินซ์ ออฟคาโนวาล”
พรวด
“ไอ้คิล”เฟรินจ้องอย่างเอาเรื่อง ความตกใจของเธอไม่ได้น้อยกว่าผู้ชายอีกคนเท่าไหร่ เพียงแต่เธอเก็บอารมณ์ไม่เก่งเท่ามัน
“ไหนว่าไม่เครียดไง”คิลแหย่
“แกก็อย่าหยอกแรงๆสิ”
“ค่าหัวลูกชายพวกนายสูงดีนะ นึกๆแล้วฉันยังเสียดาย”
“หมายความว่าแกไม่ได้รับงาน”เฟรินโล่งอก
“ไม่”คิลหัวเราะเบาๆสบตากับคาโลนิดหนึ่งแล้วหันมาทางเฟริน
”พี่ชายฉันต่างหากที่รับงานนี้”
พรวด
เฟรินกระชากเสื้อคิลทันที ถ้าตาของเธอมันถลนออกมานอกเป้าได้มันคงถลนออกมานานแล้ว
“คิล ฟีลมัส”คาโลคำรามเบาๆพยายามข่มสติ”เล่นสนุกพอรึยัง”
“เข้าเรื่องกันเลยดีกว่า ที่ฉันพูดสาบานได้ว่าเป็นเรื่องจริง แต่นายวางใจได้เพราะคนจ้างตายไปแล้วพี่ฉันเลยหยุดงานอัตโนมัติ”
“พวกแกชอบให้ฉันทำงานฟรีอยู่เรื่อยแถมต้องควักเนื้อตัวเองอีก”รอยยิ้มของคิลเริ่มมีเลศนัย
“แกจะเอาเท่าไหร่ล่ะเดี๋ยวฉันจ่ายให้”เฟรินแกล้งแซวยิ้มๆ
“ไม่ต้องมาทำเป็นอวดรวย ฉันรู้น่าว่าเดี๋ยวนี้แกมีเงินทองท่วมหัวเหลือกินเหลือใช้”คิลหัวเราะ
“แล้วยังไงต่อ”
“ฉันก็แค่อยากเตือนเอาไว้เพราะกลัวเรื่องมันจะไม่จบ”
“ใคร”คาโลรอฟังคำตอบ
“ไม่รู้ฉันไม่สามารถระบุอะไรได้ นายก็หาเส้นสายเอาคนคาโนวาลเข้าไปในโรงเรียนพระราชาสักคนสิ สวัสดิภาพของลูกชายนายจะได้ขยับสูงขึ้นมาอีกหน่อย”
คิลมองเข้าไปในงานเลี้ยงเห็นหลายคนกำลังเต้นรำกันอยู่
“พวกนายเข้าไปเถอะงานกำลังสนุก ส่วนฉันคงต้องขอลาพวกนายตรงนี้เลยแล้วกัน”
“คิล”เฟรินรั้งไว้ก่อน
“เก็บคำขอบใจของนายไว้เถอะ ลูกชายพวกนายก็เหมือนลูกชายฉันเพราะฉะนั้นไม่ต้องมาทำซึ้ง”
คิลสบตากับคาโลก่อนจะโบกมือลาแล้วกระโดดลงที่ต้นไม้ข้างระเบียงหายลับไปกับความมืด
วูบ ..
ฟาโรห์รีบยกแขนบังตาทันทีเพราะแสงสะท้อนบางอย่างจากพื้นดิน เขาค่อยๆมองลงไปอีกครั้ง
พระเจ้า!
(โค-ต-ร)เพชรเม็ดใหญ่ประดับรอบๆด้วยพลอยแดงส่องประกายวูบวาบอยู่ตรงยอดปราสาทใหญ่ที่ฝูงมังกรของชาวคาโนวาลกำลังจะร่อนลงจอด ฟาโรห์รู้สึกทึ่งนึกถึงเรื่องที่ท่านแม่ขุดมาเผาคิงแห่งแอเรียสคนนี้
ขี้อวดหลงตัวเองแถมยังอ้วนลงพุง เห็นผู้หญิงเป็นไม่ได้ ถึงฝีมือมันจะพอใช้ก็เหอะ
“เฟริน”เสียงตวาดของท่านพ่อดังขึ้นจากที่ประทับของท่านที่ดูคล้ายเรือไวกิ้งมีหลังคาปิดและม่านขาวห้อยระย้าบังแดดลากโดยมังกรศึกหมายเลขหนึ่งแห่งราชสำนัก 
ฟาโรห์หันไปมองก็เห็นท่านแม่ทำท่าเหมือนจะตกลงไปข้างล่าง
“คาโล”ท่านแม่ตะโกนกลับบ้าง ท่านพ่อหน้านิ้วคิ้วขมวดเพราะไม่อยากจะมีเรื่องต่อหน้าขุนนางคนสนิทที่ตามเสด็จมาด้วย ถึงแม้ขุนนางที่ว่าจะมีแค่6คนและแต่ละคนก็ต่างรู้ฤทธิ์ท่านแม่ดีอยู่แล้ว
“เธอไม่ใช่เด็กแล้ว”ท่านพ่อพยายามใช้คำสุภาพ ท่านแม่ยิ้มอย่างพอใจยอมนั่งลงดีๆ
“ระวังเถอะ ลงไปถึงข้างล่างแล้วอาจจะมีคนทักว่านายควงลูกสาวมางานก็ได้ หรือบางทีอาจจะคิดว่านายรับสนมใหม่วัยสิบเก้า”เฟรินหัวเราะสบตากับคาโลอย่างไม่ยอมแพ้ให้
    ฟาโรห์อมยิ้ม ก็ไม่เห็นจะแปลกตรงไหน เมื่อท่านแม่ของเขายังสาวยังสวยและงดงามราวเด็กสาววัย19ปลายๆ ท่านแม่มีสายเลือดของปีศาจในตัวเลยทำให้ร่างกายของท่านไม่ได้ร่วงโรยไปตามกาลเวลาเหมือนมนุษย์ทั่วๆไป
“สนม?”ท่านพ่อขมวดคิ้วแล้วยิ้มให้ท่านแม่อย่างเป็นต่อ
”หมายความว่าพระราชินีจะใจกว้างยอมให้คาโนวาลได้มีสนมประดับวังสักคนใช่รึเปล่า”
“ฝันไปเถอะ”ท่านแม่สวนกลับทันที
“ก็เธอพูดเองว่า ”ท่านพ่อยังแกล้งพูดต่อ แต่ท่านแม่ทำหน้าประมาณว่าถ้าพูดถึงเรื่องแบบนี้อีกแกตาย
เมื่อท่านพ่อเห็นว่าตัวเองเป็นฝ่ายชนะแล้วท่านก็เลยนั่งลงข้างๆท่านแม่ที่ยังกระฟัดกระเฟียดเพราะเรื่องที่ท่านพ่อเถียงชนะท่านเป็นครั้งที่2ในรอบห้าปีที่ผ่านมา
แตน แต แด แดน แตน แต๊น ..
    เสียงเป่าแตรรับเสด็จชาวคาโนวาลดังขึ้นเมื่อมังกรดิ่งลงพื้นรวดเร็วดุจพายุแล้วค่อยๆร่อนลงอย่างนุ่มนวลเหมือนปุยนุ่นด้วยความพร้อมเพรียง
    ลานศิลา-หินอ่อนของแอเรียสเต็มไปด้วยดอกไม้หลากพันธุ์จนแทบจะกลายเป็นทุ่งดอกไม้ กลิ่นน้ำหอมฟุ้งไปทั่วบริเวณ
มีซุ้มประตูแบบโรมันจัดตามจุดต่างๆ แต่แทนที่จะประดับซุ้มด้วยดอกไม้กลับใช้พลอยแดงร้อยเป็นสายพันรอบเสาทั้งต้นให้คนที่มาร่วมงานกลืนน้ำลายเล่น
กลางประตูทางเข้าวังตั้งรูปสลักคิงริชาร์ดขนาดเท่าตัวจริงทำจากหินแกรนิตเนื้อดี ตาของรูปสลักทำจากทองคำแท้ให้เป็นสีเดียวกับตาเจ้าของรูป
    ท่านปู่บาโรเดินมาหาพวกเขาพร้อมคิงริชาร์ด ท่านปู่ไปพักตากอากาศที่กิลดิเลกและท่านไม่ชอบทรงมังกรเลยเดินทางแยกมาต่างหาก(คิงบาโรถอนตัวจากการเมืองตอนฟาโรห์อายุประมาณ5ปี)
“ไงคาโล พวกเจ้าสองคนสบายดีใช่ไหม”คิงริชาร์ดหัวเราะต้อนรับ
”ยังสวยเช้งเลยนะฝ่าบาท”คิงริชาร์ดมองเฟรินด้วยความแปลกใจเล็กน้อยในตอนแรก”มิน่าล่ะ พ่อหลานคาโลถึงไม่คิดจะหาผู้หญิงไว้สักคนสองคน”
“คนเดียวก็เกินพอ”คิงเฮลด้าพูดมาแต่ไกล
ฟาโรห์หันไปมองแล้วยิ้มให้เพราะคิดว่าอาจจะเป็นราชินีแห่งแอเรียส แต่ดูดูแล้วก็ไม่น่าจะใช่เพราะท่านแม่เล่าว่าคิงริชาร์ดไม่มีราชินีที่มีก็แค่มเหสีเท่านั้น
ท่านย่าผู้นี้ดูมีอำนาจเกินไปไม่ได้เจี๋ยมเจี้ยมตามแบบฉบับผู้ตามเลยสักนิด
เขาไม่ค่อยรู้จักเชื้อพระวงศ์ของเมืองอื่นเลยไม่สามารถเดาได้ว่าเป็นราชินีของใคร ไม่เหมือนคิงริชาร์ดที่เดาได้ไม่ยากเนื่องจากเป็นเจ้าของงาน
“รับมือกับธิดาแห่งความมืดคนเดียวก็หัวปั่นแล้ว”ท่านย่าคนนั้นมองท่านแม่อย่างคนไม่ชอบหน้ากันและดูเหมือนจะอิจฉาในความสาวของท่านแม่ของเขาด้วย
ท่านแม่ยังทำเป็นเรียบร้อยได้อย่างแนบเนียนไม่โต้กลับ แต่เขาสังเกตว่าท่านแม่พยายามดึงตัวท่านพ่อมาบังไว้ยังไงก็ไม่รู้
“นี่ฟาโรห์หลานชายคนเดียวของท่านล่ะสิ” คิงริชาร์ดหันไปถามท่านปู่
“ถวายพระพรฝ่าบาท”ฟาโรห์โค้งหัวคำนับ คิงริชาร์ดพิจารณาอย่างละเอียด
“ดีแล้วที่เหมือนพ่อ”เฟรินฟังแล้วสะอึกเล็กน้อยเพราะรู้ดีว่าโดนกัดซะแล้ว
“ฝ่าบาทยังทรงมีพระพลานามัยแข็งแรงนะเพคะ ท่าทาง(ปาก)กระฉับกระแฉงนัก”เฟรินยิ้มให้
“555”คิงริชาร์ดมองหน้าท่านแม่ก่อนหัวเราะกลบเกลื่อนความไม่พอใจในดวงตายามที่มองท่าน
“อืม ช่างเป็นบุญตาของข้าซะจริง ได้ข่าวว่าเจ้าชายแห่งคาโนวาลเป็นคนลึกลับยากที่จะได้พบหน้า แต่วันนี้กลับมาปรากฏตัวในวังของข้าได้”ริชาร์ดหัวเราะจนพุงกระเพื่อม
“ฝ่าบาทเป็นคนสำคัญของเอเดน กระหม่อมเห็นควรอย่างยิ่งที่จะมาชื่นชมพระบารมี”
คิงริชาร์ดหัวเราะลั่นลานศิลาอย่างถูกใจคำยอ
แตน แต แด แดน แตน แต๊น
“เจมิไนกับเวนอล”
“ปลงๆซะบ้างเถอะท่านริชาร์ด”บาโรหัวเราะพอเป็นพิธี
“ถวายพระพรฝ่าบาท”ครอบครัวฮาเวิร์ดถวายพระพรพร้อมกัน
“ขอบใจๆ เชิญตามสบายนะท่านโรเวน ท่านวิเวียนนานีย่า”
ริชาร์ดมองไปยังเจ้าชายนิโคลัส(ชัยชนะของประชาชน)เจ้าชายองค์โตของคิงโรเวน และเริ่มยิ้มออกเมื่อเห็นเจ้าหญิงเวเนซซ่า(ผีเสื้อ)เจ้าหญิงผู้เลอโฉมแห่งเจมิไน แววตากรุ้มกริ่มของท่านก็เริ่มออกฤทธิ์ให้เห็น
“เจ้าหญิงโตเร็วนัก ไม่ทราบปีนี้พระชนมายุเท่าไหร่แล้ว”
“สิบเอ็ดปีเพคะ”วิเวียนพูดดักคออย่างไม่พอใจโดยเน้นเสียงหนักที่สิบเอ็ด
“อ้อ แหมเด็กสมัยนี้โตเร็วทันใจดีนะ”ริชาร์ดยังหัวเราะต่อ
“พี่หญิงสบายดีหรือคะ”วิเวียนทักเฟรินเมื่อเหล่าคิงเดินไปนั่งที่พลับพลาต้อนรับ ตอนนี้เหลือเพียงเธอกับลูกสาวและเฟรินกับฟาโรห์
“อืม ท่านเองก็ดูสบายดีนะยังสวยเหมือนเดิม”เฟรินยิ้มให้
“คงไม่เหมือนพี่หญิงหรอกค่ะทั้งสวยแล้วยังสาวเสมอ หญิงล่ะอิจฉาจัง”วิเวียนแซว
”แถมพระสวามีพี่หญิงก็ยังรักเดียวใจเดียวไม่หาเรื่องให้ต้องเสียใจ”
“วิเวียน”เฟรินเอ่ยอย่างเห็นใจก็รู้รู้กันอยู่ว่าโรเวนน่ะเจ้าชู้แค่ไหน โธ่เอ๊ยน้องหญิงที่น่าสงสารอุตส่าห์ได้สมหวังแล้วก็ยังต้องมานั่งปวดหัว
“นี่เจ้าชายฟาโรห์ใช่ไหมคะ เหมือนท่านคาโลราวกับคนเดียวกันแหนะ”วิเวียนหันมายิ้มให้ฟาโรห์ที่คำนับให้แล้วเธอก็หันไปคุยกับเฟรินต่อพลางชวนกันเดินไปที่พลับพลา
    ฟาโรห์รู้สึกว่าตัวเองถูกมองจึงหันมาที่เด็กสาวข้างๆตัว เห็นแววตาใสแจ๋วสีเขียวมองเขาอยู่
เค้าหน้าของเจ้าหญิงออกจะเหมือนคิงโรเวนแต่ก็ดูน่ารักดี ผมสีทองของเจ้าหญิงเป็นลอนยาวเหมือนผมตุ๊กตาและถักเปียยาวมาข้างหน้าสองเปีย ประดับด้วยกิ๊บรูปผีเสื้อตัวเล็กๆสีสันสวยงาม
“เจ้าหญิงชื่ออะไรเหรอ”
“เวเนซซ่าเพคะ เจ้าชายเรียกหญิงว่าหญิงเฉยๆก็ได้”
“งั้นถ้าไม่รังเกียจจะเรียกเราว่าพี่ชายก็ได้ เราเป็นลูกคนเดียวไม่มีน้องสาวกับเค้า”
“พี่ชายรูปงามออกอย่างงี้แสดงว่ามีแฟนแล้วใช่มั๊ยคะ”เจ้าหญิงกระซิบถาม ฟาโรห์หน้าแดงขึ้นมาทันทีทำไมน้องหญิงถึงได้แก่แดดแบบนี้
“ว่าไงคะ”เจ้าหญิงถามซ้ำ มองเขาอย่างสนใจ
“พี่ยังไม่คิดเรื่องนี้”ฟาโรห์ตอบไปอีกทาง
“งั้นเจ้าพี่มีคนที่ชอบรึยังคะ”ฟาโรห์ส่ายหน้าแทนคำตอบ
“โกหกเด็กบาปนะคะ”เจ้าหญิงยิ้มนิดๆ ฟาโรห์มองหน้าเจ้าหญิงอย่างอึ้งๆ
“ถ้าเจ้าพี่ยังไม่มีคนที่ชอบงั้นก็เป็นแฟนกับหญิงได้ใช่ไหมค่ะ”
“ห๊ะ!”ฟาโรห์สะดุ้ง
“หญิงล้อเล่นคะ หญิงมีคนที่ชอบอยู่แล้วถึงจะไม่หล่อเท่าเจ้าพี่แต่เป็นผู้ชายที่เท่ห์มากๆ”
“จริงเหรอ”ฟาโรห์ถามเบาๆ
“จริงสิคะ ก็ท่านพ่อของหญิงไงล่ะ”เจ้าหญิงยิ้มอย่างร่าเริงส่วนฟาโรห์ก็ลอบถอนใจ
    เฟรินกับวิเวียนเดินมาถึงพลับพลา เหล่าคิงจากเมืองต่างๆกำลังคุยกันออกรส อาเธอร์นั่งคุยอยู่กับโรเวน ส่วนคาโลก็ยืนอยู่กับมาทิลด้าและพระสวามี(ไม่ได้เจี๋ยมเจี้ยมเหมือนพ่อของเธอ) อาเธอร์มองมาที่ฟาโรห์ทันทีที่ก้าวเข้ามาใกล้
“นั่นน่ะเหรอเจ้าชายแห่งคาโนวาล”คำพูดเบาๆแค่พอได้ยินกันสองคนกับโรเวน
“หน้าตาเขาก็บอกยี่ห้ออยู่แล้ว”
“หึหึ แต่มาดไม่ออกนะ”อาเธอร์หันไปมองฝ่ายพ่อที่ตอนนี้นั่งคุยกับเพื่อนร่วมป้อมพร้อมหน้ากับราชินีแห่งคาโนวาล
“ท่าทางจะไม่เท่าไหร่”รอยยิ้มดูถูกปรากฏที่มุมปากของคิงใจสิงห์
“คนเราดูแต่ภายนอกไม่ได้หรอกท่านอาเธอร์”โรเวนยิ้ม
“จริงสินะ ใครจะรู้ว่าลูกแกะใสซื่อแท้จริงคือสมิงร้าย”อาเธอร์เหน็บแนม
“เป็นลูกแกะแล้วไม่ดีตรงไหน ขนาดพยัคฆ์ร้ายยังนึกเอ็นดู”โรเวนหัวเราะเบาๆ
“เสียดายที่ฉันแก่เกินไปแล้วสำหรับชุดลูกแกะนั่น”อาเธอร์ยิ้ม
“ท่านไม่เหมาะกับบทลูกแกะใสซื่อหรอกอาเธอร์”
“อาจะใช่ ซาเรสไม่มีโรงละครชั้นเยี่ยมอย่างเจมิไนจะได้ตีบทแตก”
                                      ..
เมื่อตะวันลับขอบฟ้างานเลี้ยงก็เริ่มขึ้นกลางห้องโถงใหญ่ที่หรูหราจนเจ้าชายอย่างเขายังต้องทึ่ง
ฟาโรห์มองคิงริชาร์ดที่ขึ้นไปยืนกล่าวคำขอบคุณแขกบนเวที การขอบคุณที่ใช้เวลานานมากเพราะเจ้าตัวมัวแต่โม้เรื่องของตัวเอง แถมเรื่องของท่านก็มีให้โม้ได้ไม่หยุดหย่อน
“อะแฮ่ม ได้ข่าวว่าคาโนวาลคิดเปิดตัวเจ้าชายในงานเลี้ยงคืนนี้รึ”
“โธ่ท่านอาเธอร์พูดเป็นเล่นไปได้”เฟรินยิ้มให้ก่อนส่วนคาโลเหลียวมองเล็กน้อยแล้วหันไปทางเวทีอย่างไม่ใส่ใจ
“ว่าแต่ท่านอาเธอร์เถอะไม่ค่อยจะขนลูกมาออกงานเท่าไหร่เลย”อาเธอร์ถลึงตาใส่เมื่อได้ฟังคำกริยาที่เฟรินเอามาใช้กับลูกๆของท่าน
“คนนะเฟลิโอน่า ไม่ใช่นึกอยากจะ\'ขน\'ก็\'ขน\'ได้ตามใจชอบ”
“โทษทีท่าน ต้องใช้คำว่าเสด็จสินะ”เฟรินยิ้มกวน อาเธอร์ได้แต่ข่มอารมณ์ไว้จนตัวเกร็ง
ฟาโรห์ยืนฟังบทสนทนาอยู่เงียบๆ คนนี้สินะคิงอาเธอร์ บริสตั้น ท่านพ่อของพาทริซเซียคนนั้น
ฟาโรห์ยิ้มกับตัวเองเมื่อภาพหน้ายามโกรธของพาทริซเซียในครั้งแรกที่พบกันลอยเข้ามา
เขาพยายามมองหาเพื่อนคนที่เขากำลังนึกอยากจะเจอหน้า มองไปมองมาก็สบตาเข้ากับอาเธอร์ที่มองเขาด้วยความแปลกใจ
“หาอะไรเหรอเจ้าชาย”อาเธอร์ถามขึ้น
ฟาโรห์ยิ้มรับหน้าแต่ในใจกลับตอบว่า ’ก็ธิดาของท่านไงล่ะ’
“กระหม่อมกำลังคิดว่าน่าจะมีเจ้าชายหรือเจ้าหญิงรุ่นเดียวกันอยู่ในงานบ้างเผื่อจะได้หาเพื่อนคุย”ฟาโรห์ตอบอย่างสุภาพ
“เจ้าชายไม่เคยออกงานที่ไหน ได้มางานเลี้ยงกับเขาสักทีก็ควรจะหาเพื่อนไว้น่ะดีแล้ว”อาเธอร์พินิจฟาโรห์เหมือนจะมองให้เห็นตัวตนที่แท้จริงของเด็กตรงหน้า
คิดจะจับผิดลูกชายของเธอน่ะเหรอ ฝันไปเถอะ!
เฟรินมองอาเธอร์สลับกับลูกชายสุดที่รักของเธอ ถึงฟาโรห์จะดูซื่อไปนิด(เมื่อเทียบกับเธอ)แต่ก็ฉลาดไม่แพ้ใคร อย่าหวังเลยว่าจะได้เห็นลูกเธอปล่อยไก่ให้เห็นกันโต้งๆ
อย่างที่เฟรินคิดฟาโรห์ยังสวมมาดเจ้าชายผู้สูงศักดิ์ได้อย่างเนียนเนียน ไม่เห็นว่าจะยากตรงไหนก็แค่พูดน้อยๆยิ้มบ่อยๆ โดยเฉพาะเมื่อมีคนทำให้เห็นเป็นตัวอย่างอยู่ใกล้ๆเขากับท่านแม่
ฟาโรห์ยังคงยิ้มให้อาเธอร์ที่ยังคงพุ่งความสนใจมาที่เขาไม่วางตา
                                ..
“เจ้าชายฟาโรห์”เสียงเรียกจากเจ้าชายนิโคลัส ฉากอลังการที่ทำให้เขาแทบสำลักไวน์จนแทบหายใจไม่ออก
สามพี่น้องบริสตั้นยืนอยู่ข้างๆเจ้าชายแห่งเจมิไน(ที่พ่วงด้วยน้องสาวจอมแก่แดด)มองมาทางเขาด้วยความงุนงงเหมือนเห็นตัวประหลาด
“เจ้าชาย?”เจ้าชายแพททริคแห่งซาเรสมองมาที่เขา
“ท่านคงไม่เคยพบเจ้าชายฟาโรห์มาก่อน ปกติเจ้าชายไม่ค่อยออกงานก็อย่างที่พวกเรารู้กันอยู่”
ฟาโรห์ยิ้มเจื่อนเดินเข้ามาใกล้ตามมารยาท บางทีการเจอหน้ากันตรงๆก็ไม่ใช่เรื่องดีโดยเฉพาะมีเรื่องฐานะเจ้าชายที่เขาอุบเงียบไว้
“เจ้าชายฟาโรห์แห่งคาโนวาล”เฟรเดอริคตกใจเล็กน้อยกับรายการเซอร์ไพสจังๆ
เขาจ้องเจ้าชายที่ทรงชุดเต็มยศสมศักดิ์ศรีโอรสองค์เดียวของคิงคาโลแห่งคาโนวาล
เจ้าชายที่ครั้งหนึ่งเขาเคยพบด้วยในชุดเสื้อผ้าปอนๆเหมือนพวกชาวบ้านที่หาเช้ากินค่ำ
เจ้าชายที่ร่ำลือกันว่าคงไม่มีใครเคยเห็นโฉมหน้าที่แท้จริงของพระองค์ยกเว้นคนในพระราชวังหลวงของคาโนวาล
“เจ้าชายนิโคลัส”ฟาโรห์ทักทายก่อนหันไปแก้ตัวกับชาวซาเรส
“ต้องขออภัยที่กระหม่อมเคยเสียมารยาท”
“รู้จักกันแล้วหรอกเหรอ”เจ้าชายนิโคลัสกล่าวเรียบๆ ฟาโรห์พยักหน้าตอบ
เจ้าชายแพททริคยิ้มอย่างเอ็นดู ขณะที่น้องชายและน้องสาวของพระองค์ยังอยู่ในอาการอึ้ง
“ไม่เป็นไรหรอกฝ่าบาทไม่ใช่เรื่องเสียหายอะไร”
“ท่านชอบทำอะไรแผลงๆนะเจ้าชาย”เฟรเดอริคว่า
“เฟรเดอริคอย่าเสียมารยาท”
“หม่อมฉันต้องขอโทษฝ่าบาทด้วยที่เคยว่าพระองค์ เอ่อ สารรูปดูไม่ได้”พาทริซเซียทำหน้าไม่ถูก
“ทริซเซีย”เจ้าชายแพททริคกล่าวอย่างตกใจ
“เห็นรึเปล่า คนโปรดของเจ้าพี่ร้ายกว่ากระหม่อมซะอีก”เฟรเดอริคแซว
“เจ้าพี่คะ”เวเนซซ่าเดินมากระตุกชายเสื้อเบาๆ”เจ้าพี่รู้จักกับพี่หญิงพาทริซเซียเหรอคะ”
จะมาไม้ไหนอีกล่ะ!  ฟาโรห์คิดในใจแล้วเขาก็พยักหน้านิดๆ
“เจ้าพี่สนใจเธอรึเปล่าคะ”ฟาโรห์ตกใจเล็กน้อยเกิดใครได้ยินเข้าอาจจะคิดว่าเขามีเจตนาแอบแฝง
“หือ”เจ้าหญิงน้อยยังไม่เลิก ฟาโรห์ส่ายหน้า
“เจ้าพี่เป็นผู้ชายแบบที่ชอบผู้ชายด้วยกันเองหรือคะ”
แค่ก แค่ก
ฟาโรห์สำลักไวน์อย่างไม่ทันตั้งตัว ยัยเด็กคนนี้มันน่านัก เขาเริ่มจะหน้าแดงขึ้นมาทั้งจากคำถามที่ฟังและสายตาของผู้ร่วมวงที่จ้องเขา ฟาโรห์ลากเวเนซซ่าออกมาคุยกัน
“พูดอะไรน่ะหึ เรายังเด็กอยู่เลยนะแถมยังเป็นผู้หญิงด้วย พูดจาแบบนี้ได้ยังไง”
“ท่านแม่บอกว่าถ้าหญิงรู้มากกว่าคนอื่นก็จะฉลาดกว่าเก่งกว่าคนอื่น”
“แต่ไม่ใช่เรื่องแบบนี้นะรู้รึเปล่า”
“พี่หญิงพาทริซเซียเป็นคนที่เจ้าพี่นิโคลัสหมายปอง”
“เขาเป็นแฟนกันเหรอ”ฟาโรห์ชักอยากรู้
“ไม่รู้สิคะ หญิงเป็นผู้หญิงแล้วก็ยังเด็กอยู่ไม่ควรจะไปยุ่งกับเรื่องแบบนี้”เจ้าหญิงทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้
ฟาโรห์สะอึกก่อนจะยิ้มเอาใจเด็ก(ยัยเด็กบ้า!)
“โธ่น้องหญิงบอกหน่อยน่า นะนะ”
“เจ้าพี่ไม่ควรไปยุ่งเรื่องของคนอื่นนะคะ มันไม่ดี”
แล้วที่เธอทำอยู่นี่ล่ะ ยัยจุ้น!
                                                      ..
“ให้ตายเถอะ นายไปชวนแม่นั่นมาเที่ยววังทำไมกันนะ”เฟรินเริ่มทันทีเมื่อเดินห่างออกมาจากวงสนทนาของคนแก่รุ่นสามทหารเสือแห่งเอเดน
แม่นั่น คิงเฮลด้าแห่งอเมซอน ไม่เจอกันนานแต่หล่อนก็ยังชอบมองเธอด้วยสายตาโหดร้ายจนเธอรู้สึกเหมือนพวกนักโทษที่หวาดระแวงพัศดี
“รู้ทั้งรู้ว่าฉันไม่ถูกชะตาด้วย ลืมแล้วเหรอว่าแม่นั่นเคยคิดร้ายกับราชินีสุดที่รักของนายเชียวนะ”
แค่ก!
คาโลสำลักทันที มองหน้าราชินีสุดที่รักอย่างรับไม่ได้
“พูดอะไรไม่อายปาก”คาโลหน้าแดงนิดๆ ค่อยๆมองซ้ายขวากลัวว่าจะมีใครมาได้ยินเข้า
“ซักแก้วไหมคาโล”เฟรินหยิบแก้วไวน์ที่บริกรคนหนึ่งถือถาดผ่านมาราวกับรู้ใจ คาโลเอื้อมมือมาบ้าง
ชะงัก
เฟรินปรายตามองกับท่าทางของคาโลที่ยืนอึ้งไม่ทันจะหยิบแก้ว ด้วยสัญชาตญาณจึงหันไปที่ต้นเหตุทันที
ชะงัก
คิล ฟีลมัส?
ใช่! คิล!
คิล ฟีลมัส เพื่อนซี้แกนั่นแหละไม่ต้องทำงง
“จะกินก็หยิบไปสิวะ  เมื่อย”
    เฟรินปิดปากกลั้นเสียงหัวเราะอย่างดีใจปนขำ ส่วนคนที่ถูกว่าแววตาเย็นชาขึ้นมาฉับพลันแล้วคว้าแก้วไวน์ที่ออกจะดูเหมือนกระชากซะมากกว่า
“ถ้านายตกต่ำขนาดนี้ล่ะก็ มาทำงานกับฉันที่คาโนวาลจะดีกว่า” เสียงห้วนเรียบและเบาดังขึ้นจากคนที่หงุดหงิดง่าย
“หือม์”คิลแกล้งยักคิ้วทำตาโต”จะดีเร้อ นักฆ่าน่ะเลี้ยงไม่เชื่องนะฝ่าบาท”คิลว่าแล้วเดินนำไปที่มุมหนึ่งของงานติดริมระเบียงที่ยื่นไปทางสวนดอกไม้
แกร๊ง ..ถาดถูกวางบนโต๊ะแล้วคิลก็เดินนำมาข้างนอก
“นายมาที่นี่คงไม่ใช่แค่มาพบเพื่อนเก่า เป้าหมายนายคือใคร”คาโลไม่อ้อมค้อม
“อย่าเพิ่งเครียดสิ ไม่เจอกันนานคุยเรื่องสบายๆกันดีกว่า”เฟรินยิ้ม
“ฟาโรห์ วาเนบลี เดอะปรินซ์ ออฟคาโนวาล”
พรวด
“ไอ้คิล”เฟรินจ้องอย่างเอาเรื่อง ความตกใจของเธอไม่ได้น้อยกว่าผู้ชายอีกคนเท่าไหร่ เพียงแต่เธอเก็บอารมณ์ไม่เก่งเท่ามัน
“ไหนว่าไม่เครียดไง”คิลแหย่
“แกก็อย่าหยอกแรงๆสิ”
“ค่าหัวลูกชายพวกนายสูงดีนะ นึกๆแล้วฉันยังเสียดาย”
“หมายความว่าแกไม่ได้รับงาน”เฟรินโล่งอก
“ไม่”คิลหัวเราะเบาๆสบตากับคาโลนิดหนึ่งแล้วหันมาทางเฟริน
”พี่ชายฉันต่างหากที่รับงานนี้”
พรวด
เฟรินกระชากเสื้อคิลทันที ถ้าตาของเธอมันถลนออกมานอกเป้าได้มันคงถลนออกมานานแล้ว
“คิล ฟีลมัส”คาโลคำรามเบาๆพยายามข่มสติ”เล่นสนุกพอรึยัง”
“เข้าเรื่องกันเลยดีกว่า ที่ฉันพูดสาบานได้ว่าเป็นเรื่องจริง แต่นายวางใจได้เพราะคนจ้างตายไปแล้วพี่ฉันเลยหยุดงานอัตโนมัติ”
“พวกแกชอบให้ฉันทำงานฟรีอยู่เรื่อยแถมต้องควักเนื้อตัวเองอีก”รอยยิ้มของคิลเริ่มมีเลศนัย
“แกจะเอาเท่าไหร่ล่ะเดี๋ยวฉันจ่ายให้”เฟรินแกล้งแซวยิ้มๆ
“ไม่ต้องมาทำเป็นอวดรวย ฉันรู้น่าว่าเดี๋ยวนี้แกมีเงินทองท่วมหัวเหลือกินเหลือใช้”คิลหัวเราะ
“แล้วยังไงต่อ”
“ฉันก็แค่อยากเตือนเอาไว้เพราะกลัวเรื่องมันจะไม่จบ”
“ใคร”คาโลรอฟังคำตอบ
“ไม่รู้ฉันไม่สามารถระบุอะไรได้ นายก็หาเส้นสายเอาคนคาโนวาลเข้าไปในโรงเรียนพระราชาสักคนสิ สวัสดิภาพของลูกชายนายจะได้ขยับสูงขึ้นมาอีกหน่อย”
คิลมองเข้าไปในงานเลี้ยงเห็นหลายคนกำลังเต้นรำกันอยู่
“พวกนายเข้าไปเถอะงานกำลังสนุก ส่วนฉันคงต้องขอลาพวกนายตรงนี้เลยแล้วกัน”
“คิล”เฟรินรั้งไว้ก่อน
“เก็บคำขอบใจของนายไว้เถอะ ลูกชายพวกนายก็เหมือนลูกชายฉันเพราะฉะนั้นไม่ต้องมาทำซึ้ง”
คิลสบตากับคาโลก่อนจะโบกมือลาแล้วกระโดดลงที่ต้นไม้ข้างระเบียงหายลับไปกับความมืด
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น