ลำดับตอนที่ #15
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #15 : สมาชิกใหม่
“ยินดีด้วยนะ”เจ้าแพททริคยื่นมือให้เขา”แพ้ชนะเป็นเรื่องธรรมดาไม่ต้องทำหน้าแบบนั้นก็ได้”
เปล่าซะหน่อย....ที่เขาทำหน้าจ๋อยก็เพราะสายตาของเฟรเดอริคต่างหาก
พาทริทเซียยืนชิดกับเจ้าชายแพททริคเขาสังเกตเห็นว่าพี่ชายเธอจับมือของเธอไว้เป็นการให้กำลังใจ เขาไม่เคยเห็นเธอให้สภาพที่อ่อนแอมาก่อน....
บางที...การสูญเสียผมสำหรับเธอแล้วอาจจะเป็นเรื่องที่ค่อนข้างทำใจยาก...
“วันนี้นายประกาศศักดิ์ดาของป้อมอัศวินให้รู้กันทั่วต้องขอบใจจริงๆ อ้อ..ยินดีด้วยก็แล้วกัน”เจ้าชายเฟรเดอริคจับมือกับเขา
ถ้าเป็นคนอื่นอาจคิดว่าเป็นภาพที่น่าประทับใจทีเดียวที่หัวหน้าป้อมดูเป็นกันเองกับรุ่นน้องขนาดนี้แถมเป็นรุ่นน้องที่เพิ่งทำร้ายจิตใจน้องสาวของท่านไปสดๆร้อนๆ
“การประลองจะเริ่มขึ้นแล้วไม่รีบไปนั่งเดี๋ยวจะอดดู ฉันกับทริซเซียขอตัวก่อนก็แล้วกัน”เจ้าชายแพททริคว่าเสร็จก็โอบไหล่น้องสาวเดินออกไป
“นายจะอยู่ดูอีกรึเปล่า”เฟรเดอริคทำหน้าเรียบเฉยแต่เขาจับใจความได้ว่าคำพูดนั้นหมายถึง’ยังมีหน้าดูต่ออีกหรือ’
“ผมว่าจะกลับก่อนฮะ”
...................................................................
“โชคดีที่เจ้าชายเฟรเดอริคไม่ว่าอะไร ดูไปแล้วเขาก็มีน้ำใจนะครับ”ยูริคปิดประตูห้องเบาๆ
“มีน้ำใจ?”ฟาโรห์นั่งลงกลางห้อง”เฮอะ!นายจะไปรู้อะไรล่ะ หมอนั่นบีบมือฉันแทบหัก”
“อ้าว”ยูริคทำหน้าเห่ย
“นายนี่ใสซื่อชะมัด มองโลกในแง่ดีอย่างนี้ระวังจะโดนหลอกเอาง่ายๆ”รานดอฟแซว
“นายก็ชอบหลอกใช้ฉันเป็นประจำอยู่แล้วไม่ใช่รึไง”ยูริคพูดทำเอารานดอฟสะอึก
“นายมีจดหมายอยู่บนโต๊ะแหนะยูริค”ฟาโรห์เตือนขณะเดินผ่านจะไปนอนเล่นบนเตียง
“เออ! จดหมายของนายแหละส่งมาตั้งแต่อาทิตย์ก่อนแล้วฉันลืมไปเลย”
ฟาโรห์ยืดตัวขึ้นมานั่งมองก่อนจะลุกไปหยิบด้วยอาการเอื่อยเฉื่อย
จดหมายซองยาวสีขาวสะอาดประทับด้วยตราราชการที่แสดงความหมายถึงราชสำนัก
จดหมายจากคาโนวาล?
..
..
“จริงเหรอเนี่ยะ!”ฟาโรห์ตะโกนลั่นห้องพร้อมกระโดดขึ้นด้วยความตื่นเต้นดีใจ เขาไม่เคยคิดอยากกลับบ้านเท่านี้มาก่อน ถ้าทำได้ก็อยากแจ้นกลับไปตอนนี้ด้วยซ้ำ
“มีอะไร”รานดอฟขำท่าทางของเพื่อน”มีใครเชิญนายไปร่วมการผจญภัยที่ไหนรึไง”เขาแซว
“ฉันกำลังจะมีน้อง”
“ห๊า!!!???”รานดอฟกระเด้งตัวขึ้นมาทันที”นายจะมีน้อง!”
“ก็ใช่น่ะสิ ท่านแม่มีน้องมาสี่เดือนกว่าแล้ว ท่านพ่อฉันเขียนมาด้วยลายมือตัวเองเลยนะ”เขายิ้มอย่างภูมิใจและเตรียมตัวเขียนจดหมายตอบกลับสองฉบับให้ท่านพ่อกับท่านแม่
เขากำลังคิดอยู่ว่าส่วนของท่านแม่เขาจะเขียนแซวว่าอย่างไรดี ยิ่งนึกก็ยิ่งยิ้มกว้างขึ้นจนรานดอฟทำลายบรรยากาศดีๆให้เริ่มจางลง
“จริงเหรอ?”รานดอฟยังนึกว่าตัวเองโดนอำ”งั้นทำไมเพิ่งบอกให้นายรู้ล่ะ หรือจะเป็นแผนเรียกตัวกลับของวังพ่อนาย”ฟาโรห์ชะงักเล็กน้อย
”คงไม่มั้ง”เขาปฏิเสธเพราะคิดว่าท่านพ่อคงไม่สิ้นคิดขนาดใช้วิธีนี้แต่อีกใจก็ยังลังเล
“ลองถามเจ้าปัญญาดูสิฮะ”ยูริคเสนอ
“ถามเจ้านั่นมันจะไปได้เรื่องเร้อ เขาว่ากันว่าสิบปากว่าไม่เท่าตาเห็นนะฟาโรห์”
“นายหมายถึง...”
รานดอฟยักคิ้วเป็นอันรู้กัน
แก้วหยกมรกต...
..........................................................
ภาพบรรยากาศในห้องส่วนพระองค์ของราชินีแห่งคาโนวาลเริ่มปรากฏให้เห็นรางๆ ม่านสีชมพูอ่อนพลิ้วเบาๆตามสายลมที่พัดผ่าน
ดอกกุหลาบสีแดงสดในแจกันศิลปะแบบคาโนวาลวางตั้งบนโต๊ะข้างริมเก้าอี้สีทองตัวใหญ่ ฟาโรห์แปลกใจเล็กน้อยกับภาพที่ไม่ค่อยคุ้นเคยเท่าไหร่
ก็ปกติท่านแม่อยู่ที่ห้องท่านพ่อ...?
“ไม่เห็นต้องเว่อร์ขนาดนั้นเลย ทำเป็นไม่เคยมีลูกไปได้”ท่านแม่นอนขำอยู่บนเตียงที่รอบตัวรายล้อมไปด้วยผ้านวมหลากหลายสีสัน
“อากาศเริ่มเย็นลงแล้วเดี๋ยวไม่สบาย”ท่านพ่อนั่งคุยอยู่ตรงขอบเตียงข้างตัวท่านแม่
“เดี๋ยวจะร้อนจนชักซะก่อนหรอก”ท่านแม่เถียงกลับท่านพ่อเลยแกล้งดึงผ้านวมปิดถึงต้นคอ
“เล่นเป็นเด็กไปได้”ท่านแม่ค้อนขณะยื้อผ้านวมกับท่านพ่อแต่เหมือนท่านพ่อจะอารมณ์ดีถึงแกล้งแหย่ต่ออีก
มันเป็นภาพที่ทำให้เขาประทับใจอย่างบอกไม่ถูก แม้เขาจะเคยเห็นท่านพ่อขี้เล่นบ้างแต่นั่นก็นานมาแล้วเป็นเรื่องสมัยที่เขายังเด็กและเอาแต่ใจตัวเองที่สุด...
    เขาเผลอนึกถึงเรื่องที่ท่านแม่ชอบประชดว่าท่านพ่อต่างๆนานาหลังจากใส่ความจนพอใจแล้ว ท่านแม่ก็มักจะเล่าเรื่องสมัยเรียนอยู่ที่โรงเรียนพระราชากับท่านพ่อนานถึง7ปี
    เรื่องที่ท่านพ่อชอบวางมาดหยิ่งยโสเป็นเจ้าชายขี้เก็กมั่งหล่ะ บางเรื่องท่านพ่อก็เหมือนอัศวิน บางเรื่องก็ใจดีราวกับนักบุญและด้วยความสามารถในการถ่ายทอดของท่านแม่หลายครั้งที่ท่านพ่อกลายเป็นปีศาจ
    ทั้งๆที่ท่านแม่ชอบว่าท่านพ่อแบบนั้นแต่แววตาเวลาที่พูดถึงท่านพ่อกลับแสดงออกถึงความชื่นชมที่ปิดยังไงก็ปิดไม่มิดราวกับท่านพ่อเป็นวีรบุรุษยังไงยังงั้น...
“ไม่ดิ้นเลย”ท่านพ่อเอาหูไปแนบกับท้องของท่านแม่
“โง่จริงๆ นายเอาผ้าคลุมจนหนาขนาดนั้นจะไปได้ยินอะไรล่ะ”ท่านแม่ย้อน
ท่านพ่อเงยหน้ามองเอียงหัวเล็กน้อยเหมือนนึกอะไรได้ก่อนจะยิ้มๆแล้วเอาผ้านวมที่ตัวเองแกล้งโปะไว้ออกจากตัวท่านแม่
ท่านพ่อฟังเสียงไปก็ยิ้มไปพลางเอามือลูบหน้าท้องท่านแม่เบาๆ
.................................................
“นายดูสิ ท่านพ่อกำลังเล่นกับน้องอยู่เห็นเปล่า อิจฉาท่านพ่อชะมัด”ฟาโรห์ทำท่าเหมือนเด็กถูกแย่งของเล่นก่อนจะเปลี่ยนมาทำตาละห้อยมองดูอยู่เงียบๆ
“น่ายินดีจังนะฮะ ยินดีด้วยนะฟาโรห์”
“โอ๊ย...อยากกลับบ้าน นายคิดดูสิกว่าจะถึงปิดเทอมน้องฉันคงใกล้คลอดแล้วแน่เลย ฉันก็อดเล่นกับน้องตอนอยู่ในท้องพอดี”
“ไม่เห็นเป็นไรเลย”รานดอฟแย้ง
“ไม่ได้ ฉันต้องมีประสบการณ์ไปเล่าให้น้องฉันฟังสิ”
“เอาน่าเดี๋ยวก็ได้กลับ นายกำลังจะเป็นหมาหัวเน่าแล้วนะฉันยินดีด้วยก็แล้วกัน”รานดอฟตบไหล่ฟาโรห์เบาๆ
“เออ...ฉันว่าจะเขียนจดหมายถึงพ่อหน่อยไม่รู้ว่าพ่อนายบอกพ่อฉันรึยัง”
.............................................
บันทึกจากคาโนวาล(ตอนพิเศษ)
ก๊อก ก๊อก
เสียงเคาะประตูดังขึ้นอย่างสุภาพเป็นช่วงจังหวะหลายคราตั้งแต่เมื่อครู่ เฟรินคิดในใจว่าคนเคาะมีมารยาทมากทีเดียวแต่เธออยากอยู่คนเดียวเงียบๆจึงทำเสียงดุไปเบาๆ
“ฉันไม่หิวเอากลับไปเถอะ”
ท้องฟ้าสีฟ้าถูกแต้มด้วยสีแดงอ่อนและสีส้มจางจนสีเดิมเกือบจะกลืนไปบรรยากาศยามตะวันคล้อยต่ำลับเหลี่ยมเขา เธอเดาได้ว่านางกำนัลคงจะยกอาหารมาให้เธอแล้ว
“บอกแล้วไงล่ะว่าถ้าไม่อนุญาตห้ามเข้ามา”เฟรินหงุดหงิดเล็กน้อยเมื่อเสียงประตูเปิดเข้ามาอย่างแผ่วเบา พร้อมเสียงฝีเท้าเหมือนแมวเดินที่ยังคงก้าวตรงมาที่เตียงโดยไม่กลัวพระราชอาญา
“ไม่เข้าใจเหรอเนี่ยะ”พอหันมาว่าก็ต้องแปลกใจเมื่อเห็นชัดๆว่าเป็นใคร
“กระหม่อมขออภัย ไม่ทราบฝ่าบาทหงุดหงิดอะไรนัก”
“ใครจะกล้าล่ะ แม้ไม่ขออภัยหม่อมฉันก็ไม่บังอาจเอาโทษกับฝ่าบาทหรอก”เธอประชดกลับ
อีกฝ่ายหัวเราะเบาๆก่อนจะนั่งลงตรงฝั่งที่เธอนอนเล่น แววตาของเขายังมีแววขบขันไม่คลาย
“พักนี้เธออยู่แต่ในห้องใช่รึเปล่า”เฟรินหันไปมองคนถาม นี่คงจะมีใครคาบข่าวไปบอกล่ะสิ
“เอาแต่กินกับนอนจนอ้วนขึ้นเยอะ”เขาวิจารณ์พลางกวาดมองรูปร่างที่ดูอ้วนขึ้นกว่าครั้งสุดท้ายที่เจอกันเมื่อเดือนก่อน เฟรินเลิกคิ้วให้ทำนองจะหาเรื่องลอยหน้าใส่เหมือนจะถามว่า’มีปัญหารึไง’
“มีธุระอะไรรึเปล่า”เฟรินสงสัยที่อยู่ๆคนบ้างานก็โผล่หน้ามาให้เห็น
“ทำไมย้ายมาอยู่ที่นี่”
“ก็นี่มันห้องของราชินีไม่ใช่รึไงถามแปลก ปล่อยทิ้งไว้ตั้งหลายปีเดี๋ยวฝุ่นจับเปล่าๆ”
“ทั้งที่มีคนทำความสะอาดทุกวัน?”
“จะให้ฉันไปมุดหัวอยู่ที่ห้องนายทำซากอะไรล่ะ ไหนๆเขาเอาไว้ให้ราชินีอยู่ก็ควรมาอยูบ้างพอเป็นพิธี”เธอเฉไฉไปเรื่อยแต่กลับเข้าล็อคของอีกฝ่าย
“พอเป็นพิธี...งั้นก็กลับได้แล้วงั้นสิ”
“ทำไมอย่าบอกนะว่าคิดถึงฉัน”เฟรินแกล้งแซวแล้วก็หัวเราะเอง
“ถ้าใช่ล่ะ”คาดลเอ่ยเรียบๆแทนที่จะอายสักเล็กน้อย”อยู่คนเดียวนอนไม่หลับ ไม่ชิน”
“ทำเป็นเด็กไปได้ บางวันนายไม่หลับไม่นอนด้วยซ้ำ ถ้านอนคนเดียวไม่ได้ก็ทำงานจนเช้าซะเลยสิ”
“เธอเอาแต่หมกตัวอยู่ในห้อง”เขาบังเอิญมองผ่านไปที่หน้าท้องก็ต้องขมวดคิ้วเล็กน้อย
“ฉันสบายดี”เฟรินหยิบหมอนมาบังทันที
ไม่ไหว...กินมากจนพุงออกเลยหรือนี่ เขานึกอยู่ในใจพลางนึกหาคำพูดจะเตือนเธอซะหน่อย
“ออกกำลังกายบ้างรึเปล่า พรุ่งนี้ไปขี่ม้าเล่นไหม”
“ไม่เอา ขี่ม้าก็สะเทือนแย่”เธอบ่น
“สะเทือน?”เขามองด้วยแววตาคาดคั้นนิดๆ”เธอไม่สบายรึเปล่า ให้หมอหลวงตรวจสุขภาพบ้างก็ดี”
“ไม่ต้องๆ ฉันกลัวหมอนายเองก็รู้”
“ให้หมอเทวดาโอเดลตรวจก็ได้ สนิทกันไม่ใช่รึไง”
“ไม่ดีกว่า นายเชื่อเถอะน่าฉันไม่เป็นอะไรหรอก อย่าหวังจะหาผู้หญิงใหม่ซะให้ยาก”เธอแหย่กลับ
“รู้ทันซะจริง”เขาแกล้งเอ่ยลอยๆให้อีกฝ่ายตาลุกเล่น
“หมายความว่าไง อย่าแม้แต่คิดนะไม่งั้นฉันเอาแกตายแน่”
“ย้ายกลับไปห้องฉันสิจะได้คุมได้ตลอดเวลา”
“ลูกไม้ตื้นๆ ฉันจะอยู่นี่แหละสบายดี อีกอย่างจะได้ไม่รบกวนเวลาทำงานของนายด้วย”
“ฉันชินแล้ว หรือว่า...เธอโกรธที่ฉันเอาแต่ทำงานจนไม่มีเวลาให้เธอบ้าง”
“เปล่า แต่ถ้านายจะมีเวลาให้กันบ้างก็จะดีนะ”
คาโลหัวเราะในลำคอ ผู้หญิงเข้าใจยากจริงๆ เห็นทีเธอคงแกล้งย้ายห้องประชดเขาซะมากกว่า
“ห้องนอนฉันเชื่อมกับทรงทำงาน ถ้าเธออยากนอนทั้งวันก็ไม่มีใครว่าหรอก”
“ขออยู่นี่นะ”เธอถอนใจเบาๆส่งสายตาขอร้องนิดๆ
“จะลดความอ้วนก่อนรึไง”
“หาว่าฉันอ้วนเหรอ! บอกซะก่อนนะว่าถึงนายไม่ชอบฉันก็คงลดให้ไม่ได้”เฟรินเชิดหน้าใส่
“เป็นหมูไม่สวยหรอก เพิ่งอายุ19เองนะเราน่ะ”เขาล้อสนุกปากเพราะท่าทางของเธอมันชวนให้อยากแกล้งจนอดไม่อยู่
“อายุจริงไม่ใช่19ซะหน่อย”เฟรินเถียงกลับ ถึงเธอจะภูมิใจกับหน้าตาอันอ่อนวัยของตัวเองแต่เมื่อถูกหยิบมาแซวกันโต้งๆก็อดที่จะอายไม่ได้
คาโลสวมกอดเธอเบาๆหวังจะเอาใจแต่เมื่อมือสัมผัสกับหน้าท้อง สีหน้าก็ชักเปลี่ยนไป จากใบหน้าแต้มรอยยิ้มก็กลายเป็นคิ้วขมวดเล็กน้อยอย่างสงสัย
ตายล่ะ!
เฟรินทำหน้าเห่ยเมื่อนึกเรื่องสำคัญขึ้นได้ เธอควรระวังตัวไม่ให้อีกฝ่ายเข้าใกล้จนเกินไป
“เฟริน”สีหน้าเขาแสดงความแปลกใจอย่างเห็นได้ชัด”นี่เธอ...”
“เอ่อ...”
“หือม์”
“คือ.....เอ่อคือว่า....”
“ว่า?”
“ก้อ...ก็อย่างที่นายคิดนั่นแหละ”เฟรินหน้าแดงด้วยโลหิตที่ฉีดซ่านไปด้วยความอาย
คาโลยิ้มอย่างอ่อนโยน เขาพอใจกับคำตอบจนแทบจะกระโดดเต้นตอนนี้ได้ด้วยซ้ำถ้าไม่ติดว่าเขากำลังดีใจจัดจนอดกอดเธอแน่นๆไม่ได้
คาโลกอดแน่นขึ้นอีกนิดจนคนที่ถูกกอดต้องแกล้งทำเป็นต่อว่าแก้เขินแม้จะรู้ว่าเขาดีใจแค่ไหนที่ครอบครัวของเขาและเธอจะมีสมาชิกใหม่เพิ่มขึ้นอีกคน
“เธอควรจะอยู่ห้องฉันจะได้มีคนดูแล มาอยู่คนเดียวแบบนี้ยิ่งวางใจไม่ได้”
“มีนางกำนัลตั้งมากมายใครจะปล่อยให้ฉันเป็นอะไรไปล่ะ”
“แต่..”คาโลจะค้านแต่เมื่อเห็นสายตาของอีกฝ่ายก็ใจอ่อนขึ้นมานิดๆ”งั้นฉันจะมาหาบ่อยๆก็แล้วกันดีไหม หือม์”เขาลูบผมเธอเบาๆ
“อืม”เฟรินพยักหน้าอย่างว่าง่าย
“อึดอัดเหรอ”
“เปล่าหรอก”เธอยิ้มให้”ดีใจที่เห็นนายยิ้ม”
คาโลไม่ได้กล่าวอะไรอีก เขาตอบเธอด้วยรอยยิ้มที่ทำให้รู้สึกอบอุ่นทุกครั้งที่ได้รับ
.........................................................................................
มีเวลามาอัพซะที เฮ่อ...
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น