ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    fic : หัวขโมยแห่งบารามอส

    ลำดับตอนที่ #14 : การสู้ที่ไม่คาดคิด

    • อัปเดตล่าสุด 11 ก.ค. 48




    มาอัพช้าอีกแล้ว ขอโทษค่า.........-_-\"

                      

                                                          ...............................................................



    “ทริซเซียเธอเล่นอะไรของเธอ”ฟาโรห์ทำหน้านิ่วมองคู่ต่อสู้เบื้องหน้าที่เขาไม่เคยคิดจะสู้ด้วย



    “ฉันไม่ได้เล่นแต่เอาจริง”พาทริซเซียยังคงยิ้มให้เขา ทั้งที่เป็นรอยยิ้มที่ดูไม่จริงจังอะไรแต่เจ้าของกลับถืออาวุธอย่างเตรียมพร้อม



    เฮ่อ...ผู้หญิงนี่เดาใจยากจริงๆ



    “ฉันไม่อยากสู้กับเธอ”



    “แต่ฉันอยากรู้ว่าใครจะเหนือกว่ากัน คราวก่อนไม่มีโอกาสได้สู้กับนายคราวนี้เราจะได้รู้แพ้รู้ชนะ”



    “เธออยู่ปีสามยังไงก็ชนะอยู่แล้วไม่ต้องสู้หรอก”



    “อย่าถ่อมตัวเลย ฉันรู้ว่านายอาจจะมีฝีมือมากกว่าถ้าฉันบาดเจ็บก็ถือว่าเป็นเรื่องธรรมดานายอย่าคิดมาก”พาทริซเซียเริ่มขยับดาบ



    “เดี๋ยว..”



    เคร้ง!ฟาโรห์พูดไม่ทันจบพาทริซเซียก็ตวัดดาบเข้าใส่ทำให้เขาต้องเรียกดาบมากันไว้



    “ทริซเซีย!ฉันไม่เข้าใจเลยนะ”ฟาโรห์เวี่ยงดาบของเธอไปอีกทาง



    “สิ่งสำคัญคือรับมือ ตอนนี้นายไม่จำเป็นต้องเข้าใจหรอกแค่สู้ให้เต็มที่ก็พอ”



    “แต่”



    “ฉันไม่ออมมือให้นะอยากเจ็บตัวก็ตามใจ”



    ดาบสีรุ้งของเจ้าหญิงแห่งซาเรสฟาดเข้าใส่ไม่หยุดส่วนอีกฝ่ายก็ได้แต่ตั้งรับแม้คนดูจะเชียร์ให้รุกกลับด้วยเสียงดังแค่ไหนก็ตาม



    ฟาโรห์ถอยจนเกือบตกเวทีแต่พาทริซเซียกลับไม่ออมมืออย่างที่เธอว่าจริงๆ



    “ถ้าเธอไม่มีเหตุผลแบบนี้ล่ะก็ฉันจะโต้กลับแล้วนะ”ฟาโรห์เริ่มไม่พอใจ



    เขาต้องคอยหลบไปมาเหมือนคนขี้ขลาด แดดก็ร้อนจนแทบจะสุก แถมยังบวกด้วยความเหนื่อยที่เขาได้รับโดยที่ไม่รู้เรื่องอะไรเลย



    “ฉันรอคำนี้มานานแล้ว”พาทริซเซียฟันดาบลงที่ช่วงขาของเขาด้วยความเร็วแบบที่ๆไม่คิดจะเบรก



    ฟาโรห์มองพื้นที่แตกกระจุยด้วยความตกใจ นี่ถ้าเขาหลบไม่ทันมีหวังขาขาดอยู่ตรงนั้นแน่



    “เธออิจฉาที่ฉันสูงกว่ารึไง”ฟาโรห์หัวเราะนิดๆ เขาไม่เคยคิดมาก่อนว่าคนที่เขาให้ความสนใจจะสามารถปลุกเลือดนักสู้จากตัวเขาได้ด้วยความกระหายเลือดของเธอ



    “ถ้าไม่อยากเตี้ยลงก็ควรสู้กันให้สมศักดิ์ศรี อย่าเอาแต่หนีเป็นเต่าหดหัวแบบนั้น”



    “เต่าเหรอ ฉันไม่เคยรู้มาก่อนเลยว่าญาติข้างไหนของฉันเป็นเต่ามาก่อน”



    “คาโนวาลได้ชื่อว่าเป็นเมืองนักรบเห็นทีจะไม่จริงล่ะมั้ง ขนาดคนที่เป็นถึงเจ้าชายยังไม่ได้เรื่องสักนิด”



    ฟาโรห์มองผู้หญิงที่อยู่ข้างหน้าเขาอย่างไม่อยากเชื่อว่าเธอจะปากร้ายได้ขนาดนี้ พาทริซเซียที่เขารู้จักไม่ใช่คนแบบนี้เธอไม่มีทางโหดร้ายได้เท่าผู้หญิงคนนี้...



    แต่ถ้านี่คือตัวตนที่แท้จริงของเธอล่ะ?



    เขาโง่จนถึงขนาดมองคนไม่ออกเลยเหรอ....



       ไม่มีเวลาจะคิดอีกต่อไปเมื่อคู่ประลองแทงดาบเฉียวหน้าเขาไป เลือดจากแก้มซ้ายซึมออกมาตามรอยแผลเป็นทางยาว เขาได้รับรู้ถึงความแสบเมื่อสายลมพัดผ่านใบหน้าที่เย็นเฉียบของเขา



    มันไม่ได้เย็นเพราะความกลัวหรือเพราะความเจ็บแต่เป็นเพราะความตกใจที่เธอกล้าพุ่งดาบเฉียดเนื้อคนที่เธอคิดว่าเป็นเพื่อน คนที่เคยร่วมเป็นร่วมตายกับเธอ



    “รับ!”คำเดียวที่ออกจากปากของเขาขณะที่จู่โจมไปข้างหน้าเหมือนคนที่กำลังจะบ้าคลั่งหรือบางที่เขาอาจจะบ้าไปแล้วจริงๆก็ได้ถึงได้กล้าขนาดสวนดาบกลับไปอย่างนี้



    ฟ้าว….......



    ท่ามกลางความเงียบของผู้คน



    ท่ามกลางเสียงสายลมพัดใบไม้ให้พลิ้วไหว



    เส้นด้ายสีดำเส้นเล็กๆกำลังลอยผ่านหน้าเขาไปอย่างอ่อนโยน แต่มันกลับทำให้เขารู้สึกตกใจและตามมาด้วยความอึ้งเมื่อสติกลับคืนสู่เขาอีกครั้ง



        ผมหางม้าของพาทริซเซียที่เคยยาวถึงกลางหลังขาดวิ่นไม่เป็นรูปทรงและสั้นลงถึงแค่บ่าของเธอ แววตาเธอดูตื่นตระหนกแม้จะไม่เบิกกว้างอย่างที่ใครหลายคนคาดภาพไว้ เธอคงนึกไม่ถึงเช่นเดียวกับเขาผู้ที่ลงมือตัดผมที่เธอรักนักหนาด้วยดาบเล่มนี้



        เขาหยุดการเคลื่อนไหวทั้งหมดไม่กล้าแม้แต่จะเดินเข้าไปปลอบใจ เขาได้แต่ยืนมองเธอด้วยแววตาสำนึกผิดในขณะที่น้ำตาเริ่มคลออยู่ที่ขอบของดวงตาสีดำขลับคู่นั้นและเธอพยายามกลั้นมันไว้



    “การต่อสู้ยังไม่จบ”เธอยิ้มให้เขาเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น”รอบนี้ฉันหวังว่านายจะเต็มที่เหมือนที่ฉันทุ่มเท เริ่มได้”



        ฟาโรห์มองเธอด้วยสายตาชื่นชมแล้วก็อดที่จะยิ้มออกมาไม่ได้ สถานการณ์ที่น่าสะเทือนใจสำหรับเธอกลับไม่สามารถบั่นทอนความเข้มแข็งลงแม้แต่น้อย



    เธอคงจะมีเหตุผลที่ทำแบบนี้ถึงแม้เธอจะไม่บอกเขา แต่ตอนนี้เขาก็สบายใจแล้วว่าเขาไม่ใช่พวกงี่เง่าที่ดูคนไม่เป็น



    “ถ้าเธออยากเล่นฟันดาบบอกกันตรงๆก็ได้ไม่เห็นต้องสู้เป็นพิธีจริงจังแบบนี้”



    “รับ”ดาบเหนือเมฆถูกดึงมาใช้แทนดาบเล่มเดิม พาทริซเซียวาดดาบมาทางด้านซ้ายฟาโรห์กระโดดขึ้นสูงเหนือศีรษะของเธอแล้ววางปลายเท้าทั้งสองบนดาบเหนือเมฆอย่างสวยงาม คนดูต่างพากันฮือฮาบางคนก็ตบมือตะโกนด้วยความชอบใจ



    “ฉันเคยบอกเธอรึเปล่าว่าสายเลือดปีศาจในตัวฉันมันทำให้ฉันมีความสามารถไม่เหมือนคนมนุษย์ทั่วไป”ฟาโรห์ยักคิ้วให้พาทริซเซียที่ทำหน้างง แต่มันก็เป็นความงงเพียงชั่วขณะเมื่อพาทริซเซียลดดาบลงอย่างรวดเร็วจนเหมือนจงใจทิ้งลงพื้น



    “แล้วมันไม่สอนเหรอว่าความประมาทเป็นทางแห่งความตาย”พาทริซเซียพาดดาบบนไหล่ฟาโรห์ที่หล่นจากดาบนั่งทรุดอยู่บนพื้นด้วยความตะลึง



    “นายแพ้แล้....”



    “ใครว่าล่ะ”เสียงของฟาโรห์ดังขึ้นข้างหลังเธอพร้อมดาบดาบที่พาดอยู่บนต้นคอเธออีกที



    พาทริซเซียหันมาดูด้วยความตกใจ เจ้าชายแห่งคาโนวาลยืนเด่นเป็นสง่าย้ำให้ชัดเจนด้วยรอยยิ้มที่กำลังแย้มกว้างขึ้น



    “นาย”เธอหันกลับมามองเจ้าชายฟาโรห์คนที่นั่งรับปลายดาบของเธอบนพื้นเวทีประลอง ควันสีขาวลอยวนอยู่ตรงที่เดิมที่เจ้าชายเคยประทับอยู่แต่ตอนนี้ไม่มีเจ้าชายคนนั้นอีกแล้ว



    “เธอแพ้แล้ว พาทริซเซีย บริสตั้น”



    เสียงปรบมือดังก้องไปทั่วลานประลอง เพื่อนร่วมรุ่นป้อมอัศวินบางคนถึงกับกระโดดกอดคอกันซึ่งแน่นอนว่ารวมถึงรานดอฟกับยูริคด้วย



    ฟาโรห์ทำได้เพียงพยักหน้าตอบก่อนจะหันกลับมาที่พาทริซเซีย เธอคงจะหายจากอาการช็อคแล้วเพราะเขาเห็นว่าเธอกำลังถอนใจเบาๆด้วยสีหน้าที่บอกถึงความตลกนิดๆกับเรื่องราวที่เกิดขึ้น



    “นายทำให้ฉันอับอายต่อหน้าคนตั้งเยอะนะรู้ไหม”



    “ขอโทษ”ฟาโรห์ยิ้มตอบ



    “ช่างเถอะ ยินดีด้วย”



    “เอ่อ ผมของเธอ...”ฟาโรห์เพิ่งนึกเรื่องสำคัญได้ เขาไม่รู้ว่าจะทำหน้ายังไงดี



    “ได้ช่างตัดผมระดับเจ้าชายถือเป็นวาสนาแล้วล่ะ”เธอพยามยามพูดให้เป็นเรื่องตลกแต่เขารู้ดีว่าเธอคงเสียใจและเสียดายมาก เพราะครั้งหนึ่งเขาก็เคยถูกท่านแม่จับตัดผมที่เขาอุตส่าห์ไว้ยาวจนถึงไหล่ด้วยเหตุผลที่ไม่สมกับนิสัยของท่านแม่เลยสักนิด



    ‘ทำไมไว้ผมยาวแบบนั้น เป็นเจ้าชายลูกควรจะทำตัวให้เป็นแบบอย่างที่ดีจะได้ดูภูมิฐานนะ’



    “วันนี้สนุกมาก”พาทริซเซียกล่าวก่อนจะเดินลงไปจากเวที ฟาโรห์มองตามเธอไปด้วยความรู้สึกแปลกๆอย่างบอกไม่ถูกเพราะเขาไม่สามารถอธิบายได้ว่ามันคือความรู้สึกผิด ความปลื้มใจ ความสงสัยหรือมันอาจเป็นความกังวลปนกับความสุขเมื่อเรื่องจบลงด้วยดีหลังจากผ่านเรื่องร้ายๆมา



    เฮื้อก.....



    แต่สายตาของหนึ่งในคนที่มายืนรอรับเธอคงจะทำให้เขาเกิดความรู้สึกที่สามารถบอกตัวเองได้ชัดเจนว่า’กลัว’



    เจ้าชายเฟรดเดอริคแห่งป้อมอัศวิน!

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×