ลำดับตอนที่ #14
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #14 : การสู้ที่ไม่คาดคิด
มาอัพช้าอีกแล้ว ขอโทษค่า.........-_-\"
                 
                                                      ...............................................................
“ทริซเซียเธอเล่นอะไรของเธอ”ฟาโรห์ทำหน้านิ่วมองคู่ต่อสู้เบื้องหน้าที่เขาไม่เคยคิดจะสู้ด้วย
“ฉันไม่ได้เล่นแต่เอาจริง”พาทริซเซียยังคงยิ้มให้เขา ทั้งที่เป็นรอยยิ้มที่ดูไม่จริงจังอะไรแต่เจ้าของกลับถืออาวุธอย่างเตรียมพร้อม
เฮ่อ...ผู้หญิงนี่เดาใจยากจริงๆ
“ฉันไม่อยากสู้กับเธอ”
“แต่ฉันอยากรู้ว่าใครจะเหนือกว่ากัน คราวก่อนไม่มีโอกาสได้สู้กับนายคราวนี้เราจะได้รู้แพ้รู้ชนะ”
“เธออยู่ปีสามยังไงก็ชนะอยู่แล้วไม่ต้องสู้หรอก”
“อย่าถ่อมตัวเลย ฉันรู้ว่านายอาจจะมีฝีมือมากกว่าถ้าฉันบาดเจ็บก็ถือว่าเป็นเรื่องธรรมดานายอย่าคิดมาก”พาทริซเซียเริ่มขยับดาบ
“เดี๋ยว..”
เคร้ง!ฟาโรห์พูดไม่ทันจบพาทริซเซียก็ตวัดดาบเข้าใส่ทำให้เขาต้องเรียกดาบมากันไว้
“ทริซเซีย!ฉันไม่เข้าใจเลยนะ”ฟาโรห์เวี่ยงดาบของเธอไปอีกทาง
“สิ่งสำคัญคือรับมือ ตอนนี้นายไม่จำเป็นต้องเข้าใจหรอกแค่สู้ให้เต็มที่ก็พอ”
“แต่”
“ฉันไม่ออมมือให้นะอยากเจ็บตัวก็ตามใจ”
ดาบสีรุ้งของเจ้าหญิงแห่งซาเรสฟาดเข้าใส่ไม่หยุดส่วนอีกฝ่ายก็ได้แต่ตั้งรับแม้คนดูจะเชียร์ให้รุกกลับด้วยเสียงดังแค่ไหนก็ตาม
ฟาโรห์ถอยจนเกือบตกเวทีแต่พาทริซเซียกลับไม่ออมมืออย่างที่เธอว่าจริงๆ
“ถ้าเธอไม่มีเหตุผลแบบนี้ล่ะก็ฉันจะโต้กลับแล้วนะ”ฟาโรห์เริ่มไม่พอใจ
เขาต้องคอยหลบไปมาเหมือนคนขี้ขลาด แดดก็ร้อนจนแทบจะสุก แถมยังบวกด้วยความเหนื่อยที่เขาได้รับโดยที่ไม่รู้เรื่องอะไรเลย
“ฉันรอคำนี้มานานแล้ว”พาทริซเซียฟันดาบลงที่ช่วงขาของเขาด้วยความเร็วแบบที่ๆไม่คิดจะเบรก
ฟาโรห์มองพื้นที่แตกกระจุยด้วยความตกใจ นี่ถ้าเขาหลบไม่ทันมีหวังขาขาดอยู่ตรงนั้นแน่
“เธออิจฉาที่ฉันสูงกว่ารึไง”ฟาโรห์หัวเราะนิดๆ เขาไม่เคยคิดมาก่อนว่าคนที่เขาให้ความสนใจจะสามารถปลุกเลือดนักสู้จากตัวเขาได้ด้วยความกระหายเลือดของเธอ
“ถ้าไม่อยากเตี้ยลงก็ควรสู้กันให้สมศักดิ์ศรี อย่าเอาแต่หนีเป็นเต่าหดหัวแบบนั้น”
“เต่าเหรอ ฉันไม่เคยรู้มาก่อนเลยว่าญาติข้างไหนของฉันเป็นเต่ามาก่อน”
“คาโนวาลได้ชื่อว่าเป็นเมืองนักรบเห็นทีจะไม่จริงล่ะมั้ง ขนาดคนที่เป็นถึงเจ้าชายยังไม่ได้เรื่องสักนิด”
ฟาโรห์มองผู้หญิงที่อยู่ข้างหน้าเขาอย่างไม่อยากเชื่อว่าเธอจะปากร้ายได้ขนาดนี้ พาทริซเซียที่เขารู้จักไม่ใช่คนแบบนี้เธอไม่มีทางโหดร้ายได้เท่าผู้หญิงคนนี้...
แต่ถ้านี่คือตัวตนที่แท้จริงของเธอล่ะ?
เขาโง่จนถึงขนาดมองคนไม่ออกเลยเหรอ....
  ไม่มีเวลาจะคิดอีกต่อไปเมื่อคู่ประลองแทงดาบเฉียวหน้าเขาไป เลือดจากแก้มซ้ายซึมออกมาตามรอยแผลเป็นทางยาว เขาได้รับรู้ถึงความแสบเมื่อสายลมพัดผ่านใบหน้าที่เย็นเฉียบของเขา
มันไม่ได้เย็นเพราะความกลัวหรือเพราะความเจ็บแต่เป็นเพราะความตกใจที่เธอกล้าพุ่งดาบเฉียดเนื้อคนที่เธอคิดว่าเป็นเพื่อน คนที่เคยร่วมเป็นร่วมตายกับเธอ
“รับ!”คำเดียวที่ออกจากปากของเขาขณะที่จู่โจมไปข้างหน้าเหมือนคนที่กำลังจะบ้าคลั่งหรือบางที่เขาอาจจะบ้าไปแล้วจริงๆก็ได้ถึงได้กล้าขนาดสวนดาบกลับไปอย่างนี้
ฟ้าว .......
ท่ามกลางความเงียบของผู้คน
ท่ามกลางเสียงสายลมพัดใบไม้ให้พลิ้วไหว
เส้นด้ายสีดำเส้นเล็กๆกำลังลอยผ่านหน้าเขาไปอย่างอ่อนโยน แต่มันกลับทำให้เขารู้สึกตกใจและตามมาด้วยความอึ้งเมื่อสติกลับคืนสู่เขาอีกครั้ง
    ผมหางม้าของพาทริซเซียที่เคยยาวถึงกลางหลังขาดวิ่นไม่เป็นรูปทรงและสั้นลงถึงแค่บ่าของเธอ แววตาเธอดูตื่นตระหนกแม้จะไม่เบิกกว้างอย่างที่ใครหลายคนคาดภาพไว้ เธอคงนึกไม่ถึงเช่นเดียวกับเขาผู้ที่ลงมือตัดผมที่เธอรักนักหนาด้วยดาบเล่มนี้
    เขาหยุดการเคลื่อนไหวทั้งหมดไม่กล้าแม้แต่จะเดินเข้าไปปลอบใจ เขาได้แต่ยืนมองเธอด้วยแววตาสำนึกผิดในขณะที่น้ำตาเริ่มคลออยู่ที่ขอบของดวงตาสีดำขลับคู่นั้นและเธอพยายามกลั้นมันไว้
“การต่อสู้ยังไม่จบ”เธอยิ้มให้เขาเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น”รอบนี้ฉันหวังว่านายจะเต็มที่เหมือนที่ฉันทุ่มเท เริ่มได้”
    ฟาโรห์มองเธอด้วยสายตาชื่นชมแล้วก็อดที่จะยิ้มออกมาไม่ได้ สถานการณ์ที่น่าสะเทือนใจสำหรับเธอกลับไม่สามารถบั่นทอนความเข้มแข็งลงแม้แต่น้อย
เธอคงจะมีเหตุผลที่ทำแบบนี้ถึงแม้เธอจะไม่บอกเขา แต่ตอนนี้เขาก็สบายใจแล้วว่าเขาไม่ใช่พวกงี่เง่าที่ดูคนไม่เป็น
“ถ้าเธออยากเล่นฟันดาบบอกกันตรงๆก็ได้ไม่เห็นต้องสู้เป็นพิธีจริงจังแบบนี้”
“รับ”ดาบเหนือเมฆถูกดึงมาใช้แทนดาบเล่มเดิม พาทริซเซียวาดดาบมาทางด้านซ้ายฟาโรห์กระโดดขึ้นสูงเหนือศีรษะของเธอแล้ววางปลายเท้าทั้งสองบนดาบเหนือเมฆอย่างสวยงาม คนดูต่างพากันฮือฮาบางคนก็ตบมือตะโกนด้วยความชอบใจ
“ฉันเคยบอกเธอรึเปล่าว่าสายเลือดปีศาจในตัวฉันมันทำให้ฉันมีความสามารถไม่เหมือนคนมนุษย์ทั่วไป”ฟาโรห์ยักคิ้วให้พาทริซเซียที่ทำหน้างง แต่มันก็เป็นความงงเพียงชั่วขณะเมื่อพาทริซเซียลดดาบลงอย่างรวดเร็วจนเหมือนจงใจทิ้งลงพื้น
“แล้วมันไม่สอนเหรอว่าความประมาทเป็นทางแห่งความตาย”พาทริซเซียพาดดาบบนไหล่ฟาโรห์ที่หล่นจากดาบนั่งทรุดอยู่บนพื้นด้วยความตะลึง
“นายแพ้แล้....”
“ใครว่าล่ะ”เสียงของฟาโรห์ดังขึ้นข้างหลังเธอพร้อมดาบดาบที่พาดอยู่บนต้นคอเธออีกที
พาทริซเซียหันมาดูด้วยความตกใจ เจ้าชายแห่งคาโนวาลยืนเด่นเป็นสง่าย้ำให้ชัดเจนด้วยรอยยิ้มที่กำลังแย้มกว้างขึ้น
“นาย”เธอหันกลับมามองเจ้าชายฟาโรห์คนที่นั่งรับปลายดาบของเธอบนพื้นเวทีประลอง ควันสีขาวลอยวนอยู่ตรงที่เดิมที่เจ้าชายเคยประทับอยู่แต่ตอนนี้ไม่มีเจ้าชายคนนั้นอีกแล้ว
“เธอแพ้แล้ว พาทริซเซีย บริสตั้น”
เสียงปรบมือดังก้องไปทั่วลานประลอง เพื่อนร่วมรุ่นป้อมอัศวินบางคนถึงกับกระโดดกอดคอกันซึ่งแน่นอนว่ารวมถึงรานดอฟกับยูริคด้วย
ฟาโรห์ทำได้เพียงพยักหน้าตอบก่อนจะหันกลับมาที่พาทริซเซีย เธอคงจะหายจากอาการช็อคแล้วเพราะเขาเห็นว่าเธอกำลังถอนใจเบาๆด้วยสีหน้าที่บอกถึงความตลกนิดๆกับเรื่องราวที่เกิดขึ้น
“นายทำให้ฉันอับอายต่อหน้าคนตั้งเยอะนะรู้ไหม”
“ขอโทษ”ฟาโรห์ยิ้มตอบ
“ช่างเถอะ ยินดีด้วย”
“เอ่อ ผมของเธอ...”ฟาโรห์เพิ่งนึกเรื่องสำคัญได้ เขาไม่รู้ว่าจะทำหน้ายังไงดี
“ได้ช่างตัดผมระดับเจ้าชายถือเป็นวาสนาแล้วล่ะ”เธอพยามยามพูดให้เป็นเรื่องตลกแต่เขารู้ดีว่าเธอคงเสียใจและเสียดายมาก เพราะครั้งหนึ่งเขาก็เคยถูกท่านแม่จับตัดผมที่เขาอุตส่าห์ไว้ยาวจนถึงไหล่ด้วยเหตุผลที่ไม่สมกับนิสัยของท่านแม่เลยสักนิด
‘ทำไมไว้ผมยาวแบบนั้น เป็นเจ้าชายลูกควรจะทำตัวให้เป็นแบบอย่างที่ดีจะได้ดูภูมิฐานนะ’
“วันนี้สนุกมาก”พาทริซเซียกล่าวก่อนจะเดินลงไปจากเวที ฟาโรห์มองตามเธอไปด้วยความรู้สึกแปลกๆอย่างบอกไม่ถูกเพราะเขาไม่สามารถอธิบายได้ว่ามันคือความรู้สึกผิด ความปลื้มใจ ความสงสัยหรือมันอาจเป็นความกังวลปนกับความสุขเมื่อเรื่องจบลงด้วยดีหลังจากผ่านเรื่องร้ายๆมา
เฮื้อก.....
แต่สายตาของหนึ่งในคนที่มายืนรอรับเธอคงจะทำให้เขาเกิดความรู้สึกที่สามารถบอกตัวเองได้ชัดเจนว่า’กลัว’
เจ้าชายเฟรดเดอริคแห่งป้อมอัศวิน!
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น