ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    fic : หัวขโมยแห่งบารามอส

    ลำดับตอนที่ #12 : คู่หู?

    • อัปเดตล่าสุด 20 มิ.ย. 48




    อาจารย์ยิ้มเล็กน้อยหันไปหยิบแผ่นไม้สองแผ่นบนตอไม้ใหญ่ที่ใช้เป็นโต๊ะจำเป็นในวันออกสนาม



    “แต่ละสัญลักษณ์ฉันทำเป็นแผ่นป้ายคู่ ในเมื่อพวกเธอได้แผ่นเดียวกันต่อไปเธอสองคนจะต้องทำงานร่วมกัน”



    “ทำไมล่ะฮะ”



    “ฉันจะมอบการบ้านพิเศษให้ทำช่วงปิดเทอม ไม่สิอาจจะเริ่มตั้งแต่เดือนหน้าเลยมั้งที่เธอจะต้องเป็นคู่หูกัน”



    “คู่หู!”นอกจากเสียงดังจนอาจารย์ต้องอุดหูแล้ว ลูกตาของไอริสก็แทบจะกระเด็นออกมาอยู่ข้างนอกให้เพื่อนๆวิ่งหนีเล่น



    “ไม่ต้องห่วงเรื่องมังกรกับหงส์เทพเพราะฉันอธิบายให้สองฝ่ายเข้าใจกันเรียบร้อยแล้ว ทุกอย่างลงตัวไม่มีปัญหา”



    “หมายความว่าหนูกับหมอนี่”ไอริสกระชากแขนเสื้อเจ้าชายอย่างไม่เกรงใจ



    “ฉันทำไม กรุณาสุภาพด้วยคุณผู้หญิง”ฟาโรห์ดึงผมหางม้าของอีกฝ่ายไว้



    “อย่าทะเลาะกัน ทำงานด้วยกันนานๆก็สนิทกันเองแหละ”



    “หนู/ผม ขอไปแลกกันเองได้มั๊ย คะ/ครับ”ไอริสกับฟาโรห์ขอพร้อมกัน



    “คงไม่ได้ ถ้าพวกเธอขอเปลี่ยนคนอื่นก็ขอได้สิคราวนี้คงเปลี่ยนกันวุ่นไปหมด”อาจารย์ส่ายหน้าระอา



    “แต่…”ฟาโรห์ยังไม่ละความพยายาม



    “หือม์”อาจารย์แกล้งดักคอ”หวังว่าคำสั่งฉันจะมีความหมายกับท่านนะเจ้าชาย      

                                                

                                                       ..................................……………………………...



    “ไก”ฟาโรห์ถลาเข้าไปกอดมังกรที่อยู่ในร่างวัยเด็กทันทีที่มาถึง”นายบาดเจ็บตรงไหนรึเปล่า”



    “บาดแผลเล็กน้อยไม่เป็นไรมากหรอก”รานดอฟอมยิ้ม



    “ฝ่ายนั้นท่าจะหนักว่านะฮะ ปีกซ้ายโดนไฟจนขนไหม้เลย”



    “จริงเหรอ!”ฟาโรห์หันมาถามยูริค



    “โดนแบบเฉียวๆแค่นิดเดียวเองทำเว่อร์ไปได้”รานดอฟว่ายูริค



    “ก็แหมอาจารย์บอกว่าต้องปลูกขนใหม่เลยนี่ฮะ”



    “ขนาดนั้นเลยเหรอ งั้นฉันว่าคงไม่นิดหน่อยแล้วล่ะรานดอฟ”ฟาโรห์ทำหน้าเห่ย



    “ตามใจ ถ้านายคิดว่ามันหนักกว่ามังกรนายที่หัวแตกเพราะหม่งพื้น”



    “เฮ้ย!”ฟาโรห์รีบหันกลับมาดู ขมับของไกมีเลือดที่ซึมจากบาดแผลติดอยู่เป็นรอยยาว อาจารย์คงช่วยซับเลือดให้บ้างแล้วแต่ต้องไปทำแผลให้เรียบร้อยอีกรอบ



    “รานดอฟไหนนายบอกว่าเล็กน้อยไง”



    “ลูกผู้ชายแค่นี้ไม่ตายหรอก จริงไหมไก”รานดอฟหาแนวร่วมซึ่งไกก็พยักหน้าเล็กน้อย



    “แต่เรื่องที่ไกกับหงส์เทพก่อไว้คงยังไม่จบหรอกฮะ พายุกินพื้นที่กว้างเหมือนกันดีไม่ดีจะทำให้ชาวบ้านเดือดร้อนไปด้วยทางเอดินเบิร์กอาจเรียกตัวไปสอบสวน”



    “ฉันว่าอาจารย์คงจะช่วยพูดให้เพราะเรื่องนี้เป็นความสะเพร่าของเขาเองด้วย”



    “เฮ่ย…..ขออย่าให้เรื่องมันลุกลามก็แล้วกัน”



    “ไอริสว่าไงบ้างล่ะ นายไปหลบภัยอยู่กับเธอไม่ใช่เหรอ”



    “ยัยนั่นน่ะเหรอดื้อชะมัด แถมยังหาเรื่องไกอีก”



    “ก็มังกรนายไปหาเรื่องหงส์เขาก่อนไม่ใช่เหรอเห็นว่าไปแย่งแผ่นป้ายกัน ไกยังไม่หายจากอาการขี้หงุดหงิดอีกรึไง”



    “ไม่รู้สิ ที่จริงก็ดูสดใสขึ้นมากแล้วนะไม่น่าใจร้อนอยากเอาชนะขนาดนี้เลย”



    “อย่าไปว่ามังกรเลยเจ้าชาย”เสียงอาจารย์ดังขึ้นจากด้านหลัง”มังกรของท่านไม่ได้ทำเพื่อตัวเองแต่ทำเพื่อท่านต่างหาก”



    “เพื่อผมเหรอครับ”ฟาโรห์หันมาสบตาไก



    “ใช่ เค้ากลัวว่าจะทำให้ท่านเสียหน้าก็เลยพยายามอย่างเต็มที่”อาจารย์ลูบหลังไกเบาๆถามด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน”เป็นไงบ้างยังปวดอยู่รึเปล่า”



    ไกคำรามเป็นคำตอบ ดูเหมือนอาจารย์จะข้าอกเข้าใจมันดีกว่าเจ้าของอย่างเขาเสียอีก



    “แผ่นป้ายของฉันเป็นสัญลักษณ์ง่ายๆ ถ้าเรื่องแค่นี้ยังทำไม่ได้คงไม่คู่ควรกับการเป็นสัตว์ทรงของว่าที่พระราชา แม้การค้นหาไม่ใช่เรื่องยากแต่ด้วยเวลาที่มีจำกัดเลยทำให้เกิดความกังวล ไกคงคิดว่าควรจะหาให้เจอโดยเร็วที่สุดจึงทำอะไรตามใจตัวเองเกินไปบ้าง”อาจารย์หันกลับมาสบตาเขา



    “สัตว์ก็เหมือนมนุษย์พวกเขามีจิตใจที่ละเอียดอ่อน ท่านยังเด็กประสบการณ์น้อยอาจจะไม่เข้าใจบางสิ่งบางอย่างแต่ความผูกพันธ์ของท่านกับมังกรตัวนี้ในฐานะเจ้านายหรือในฐานะเพื่อนก็ตามจะเป็นสิ่งที่ช่วยให้ท่านเข้าใจและรู้ใจเค้ามากขึ้น แม้เหตุผลจะแตกต่างแต่จุดประสงค์ที่ทำก็เพื่อท่าน”อาจารย์สบตาเขาเหมือนอยากจะสื่อความรู้สึกของไกให้เขาได้รับรู้



       เขาอาจจะยังเด็กอย่างที่อาจารย์ว่า ความรู้สึกนึกคิดก็อยู่ในวงแคบๆยึดตัวเองเป็นหลักมากไป เห็นทีเขากับไกคงต้องใช้เวลาศึกษากันอีกนานกว่าที่จะมีความคิดที่เป็นหนึ่งเดียวกันได้ทั้งๆที่เขานึกมาตลอดว่าเขากับไกเป็นเพื่อนรักเพื่อนซี้ที่รู้ใจกันทุกเรื่อง



    “ผมจะพยายามฮะ”ฟาโรห์ยิ้มให้อาจารย์”นายก็ด้วยนะไก”เขากอดคอมังกรผู้เป็นส่วนหนึ่งในชีวิตที่เขาจะขาดไม่ได้



    ไกคำรามเสียงดังเป็นการสัญญากับฟาโรห์ที่สำหรับมันแล้วเขาเป็นมากกว่าเจ้านายไม่เพียงแต่เป็นเพื่อนที่ดีที่สุด…แต่เป็นทุกสิ่งทุกอย่างในชีวิต



                                                                         .........................................................



    “เป็นไงบ้าง”ยูริคกับรานดอฟเข้ามาใกล้หลังจากที่เขาเดินออกมาจากห้องพักครู



    “อาจารย์ชี้แจงแทนแล้วล่ะ ทางเอดินเบิร์กเข้าใจทุกอย่างก็เลยไม่มีการลงโทษใคร”



    “เอดินเบิร์กเข้าใจแต่คนนั้น…ไม่แน่”รานดอฟบุ้ยไปที่ทางเดินนอกระเบียง



        ไม่เข้าใจเลยจริงๆว่าทำไมจะต้องมาทะเลาะกันในโรงอาหารดรากอน กะจะเทศน์กันจนถึงเวลาอาหารเย็นเลยรึไง สงสัยเจ้าชายเฟรเดอริคคงหาทางแกล้งเขามานานแล้วด่าเฉยๆก็พอว่าแต่การที่เอาสี่ผู้คุมกฏมาร่วมสวดเขานี่สิ



    “ทริซเซียน้องจะไม่พูดอะไรซักคำเหรอ”เจ้าชายเฟรดเดอริคทัก



    “เรื่องเข้าใจผิดไม่ใช่เหรอคะ ฟาโรห์ก็อธิบายให้เจ้าพี่ฟังแล้วนี่นา”



    เจ๋ง! ฟาโรห์แอบก้มหน้ายิ้ม



    “อย่างน้อยคนเป็นเจ้านายก็ควรมีความสามารถที่จะควบคุมมังกรให้อยู่ในโอวาทได้”



    “หงส์เทพของไอริสยังไม่ฟังคำสั่งเธอเลยนี่ฮะ”ฟาโรห์เถียงแต่จ๋อยทันทีที่เจอสายตาพิฆาตจากเจ้าชายแห่งซาเรส



    “ใครถาม”



    “ปกติจำเลยมีสิทธิแก้ต่างไม่ใช่เหรอครับ”ยูริคกล่าวแทน



    “นายเป็นทนายรึไง”



    “ถึงยูริคจะเป็นทนายก็คงจนมุมผู้พิพากษาอย่างนายอยู่ดีแหละน่า”ฟาโรห์กระซิบนินทากับรานดอฟ



    “หญิงว่าฟาโรห์คงสำนึกผิดแล้วล่ะค่ะ เจ้าพี่เองก็ตักเตือนเขาตั้งนานแล้วควรจะให้เขากลับไปพักผ่อนสักที”พาทริซเซียช่วยตัดบทให้



    “ผมก็เริ่มหิวข้าวแล้วครับ”หนึ่งในสี่ผู้คุมกฏเสียงอ่อย



    “เดี๋ยวฉันเลี้ยงก็ได้”เจ้าชายเฟรดเดอริคประชด”จะเพิ่มข้าวสักสิบจานเลยมั๊ย”



    “จะดีเหรอฮะเกรงใจแย่เลย กินขนาดนั้นป้อมอัศวินล่มจมกันพอดี”ฟาโรห์แกล้งแหย่



    “ผอมๆอย่างนายคงไม่กินจุจนป้อมล่มจมหรอก แต่ตัวนายจะทำให้ชื่อเสียงป้อมล่มจมรึเปล่าก็ยังไม่แน่”เฟรเดอริคกัดทันทีพร้อมส่งรอยยิ้มให้เขาประมาณว่าฝากไว้ก่อน

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×