ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    fic : หัวขโมยแห่งบารามอส

    ลำดับตอนที่ #1 : เจ้าชายแห่งคาโนวาล

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 341
      0
      7 พ.ค. 48

    \"ถวายบังคมฝ่าบาท ขอทรงพระเจริญหมื่นปีหมื่นหมื่นปี\"



    \"เฮ้ ร้อยปีก็พอแล้วหมื่นหมื่นปีเห็นทีจะอยู่ไม่ไหว\"



    เสียงตอบรับจากเด็กหนุ่มเรียกเสียงหัวเราะเบาๆจากข้าราชบริพารที่มาออกันอยู่หน้าลานทางเข้าท้องพระโรงเพื่อประชุมเช้า



    \"เชิญทุกท่านเข้าสู่ท้องพระโรง\"เสียงเล็กๆของโคมุสคนสนิทท่านจ้าวดังขึ้นมาแต่ไกล เมื่อมองมาเห็นคนตรงหน้าแววตาก็เป็นประกาย



    \"ฝ่าบาท! โอ้ฝ่าบาทเสด็จมาตั้งแต่เมื่อไหร่กัน\"โกโดมวิ่งเข้ามาอย่างดีใจ



    \"เมื่อกี้นี้\"ตอบสั้นๆขณะที่เดินนำเหล่าอำมาตย์เข้าสู่ท้องพระโรงแล้วก็ดึงห่อผ้าที่สะพายบ่ามาคุ้ยๆ สักครู่ก็หยิบห่อสีน้ำตาลขนาดเท่าฝ่ามือสองห่อออกมายื่นให้โกโดม



    \"ของฝากจากคาโนวาล ทางซ้ายหรือทางขวาดี\"คนยื่นข้อเสนอยิ้มถูกใจที่ได้แกล้ง โกโดมกลืนน้ำลายเลือกไม่ถูกว่าจะเอาห่อไหน ไม่ว่าอะไรที่ชายผู้นี้เอามาฝากก็มักอร่อยโดนใจเสมอ อีกฝ่ายมองท่าทางของโกโดมแล้วจึงยิ้มอย่างรู้ทัน



    \"ล้อเล่นน่า ฉันให้นายหมดเลย\"ว่าจบก็วางของลงบนมือที่ยื่นมารับจนร่างนั้นโงนเงนซ้ายขวาแทบรับน้ำหนักไม่ไหว



    \"ขอบพระทัยฝ่าบาท\"โกโดมยิ้มร่าขณะที่มองผู้ที่เมตตาต่อเขาเสมอด้วยความชื่นชมเป็นปลื้ม



    \"ท่านจ้าวเสด็จ\"



    ทันทีที่สิ้นเสียงประกาศทุกคนก็คุกเข่าแสดงความเคารพผู้ที่เดินมานั่งบนบัลลังก์



    \"ลุกขึ้น\"ท่านจ้าวกล่าวอย่างอารมณ์ดี สายตาจับจ้องอยู่ที่มนุษย์คนเดียวกลางท้องพระโรงที่ยืนยิ้มให้ท่าน



       ชายหนุ่มอายุราว15ปีเศษ ผิวขาว ผมสีฟ้าอ่อนประกายเงินซอยตรงอย่างเท่ห์ตามกระแสของพวกวัยรุ่น ใบหน้าดูดีคล้ายบางคนที่ทรงรู้จักส่วนแววตาขี้เล่นนั่นเหมือนสตรีอันเป็นที่รักของพระองค์



       ท่านจ้าวมองเสื้อผ้าของคนตรงหน้าอดยิ้มแล้วส่ายหัวไม่ได้ เสื้อผ้าก็แสนจะธรรมดาสามัญแถมยังมีรอยขาดเป็นทางเต็มไปหมด ก่อนจะเอ่ยแซวทั้งที่คาดคำตอบไว้ในใจแล้ว



    “ป่านนี้คาโนวาลคงวุ่นวายน่าดู”



                                   .........................................................................................................



       วุ่นวาย?



       ใช่….วุ่นวาย!



       เสียงถอนหายใจอย่างเหนื่อยอ่อนดังขึ้นเบาๆหลังจากที่ทนฟังเสียงบ่นของราชินีคู่ใจจนแทบนับรอบไม่ได้



    “เฮ่อ เฮ่อ เฮ่อ เอะอะก็เอาแต่ถอนใจลูกเดียวเมื่อไหร่จะจัดการสักทีล่ะ”ตาสีน้ำตาลปรายมามองผู้ที่ยังนั่งใจเย็นอ่านฎีกาบนโต๊ะ



    “ยังต้องจัดการอะไรอีกก็เธอส่งคนไปแล้ว…เป็นรอบที่4” เสียงเอ่ยเรียบๆราวกับไม่ใช่เรื่องสำคัญ สายตาทอดมองฎีกาฉบับใหม่ที่กำลังจะเอื้อมมือไปหยิบ



       ปับ!



    มือหนึ่งวางทับมือที่กำลังจะคว้าฎีกาอ่าน เจ้าของมือจึงส่งสายตาปรามเธอ แต่คนที่กำลังหงุดหงิดไม่มีอาการเกรงใจแม้แต่น้อยแถมจ้องกลับอย่างไม่พอใจ



    “ก็นายนั่นแหละ ดีแต่ให้ท้ายลูกจนเสียคน”กล่าวโทษซะยังงั้น



    “หือม์”คนถูกว่าเลิกคิ้วขึ้นอย่างไม่ค่อยจะยอมรับ เขาน่ะเหรอให้ท้ายลูก เจ้าชายองค์เดียวของเขาที่ขี้เล่นชอบหาประสบการณ์ตรงตามคำบอกเล่าของผู้เป็นแม่ที่จริงบ้างโม้บ้าง ก็แล้วยังงี้จะมาโทษเขาได้ยังไง



    “ยังจะเถียงอีก”เฟรินตวาดแว๊ด ทำสีหน้าขึงขังใส่จำเลยที่ยังไม่ทันจะอ้าปากพูดอะไรซักคำ



    ‘เถียง’ บทสรุปของการที่เขาเงยหน้ามองเธอ คำที่ทำให้ผู้ถูกว่ายิ้มนิดๆ เขายังไม่ได้พูดอะไรนี่นา



    “ยังจะยิ้มอีก น่าเบื่อจริงพ่อลูกคู่นี้ ดีแต่สร้างความวุ่นวาย”



    เพียงแค่นั้นคาโลก็ถึงกับหัวเราะเบาๆในความเอาแต่ใจตัวเองของราชินีแห่งคาโนวาลแล้ววางงานในมือลง ใครกันแน่ที่วุ่นวาย



    “ไม่ใช่ครั้งแรกที่ฟาโรห์ไปท่องเที่ยว”คาโลเอ่ย



    “ท่องเที่ยว! นายก็รู้ว่ามันอันตรายแค่ไหนที่จะให้เด็กคนหนึ่งไปไหนต่อไหนตามลำพังทั่วเอเดน”



      เด็ก? คาโลเปรยในใจ ถ้าคนที่จัดการกับมังกรได้ด้วยมือเปล่าเรียกว่าเด็กเห็นทีเหล่านักรบของคาโนวาลคงเป็นเพียงแค่ทารก



    “ประสบการณ์นำมาซึ่งความรู้”



    “ห๊ะ…”



    “จริงอยู่ฉันอาจจะไม่พอใจที่เธอเที่ยวเอาอะไรไร้สาระมาใส่หัวลูก แต่ที่ผ่านมาฟาโรห์ทำให้ฉันเห็นว่านี่เป็นวิธีเรียนรู้ที่ไม่เลวเลยทีเดียว ในฐานะพ่อฉันก็ควรส่งเสริมถึงแม้คาโนวาลจะไม่มีธรรมเนียมส่งเจ้าชายไปเร่ร่อนนอกวังก็ตามที”



    “แต่นี่มันเกินไป ฟาโรห์เคยอยู่ติดวังซะที่ไหน”



    “แต่ลูกไม่ได้ไปเที่ยวเล่นเฟริน เขาไปเพื่อพัฒนาฝีมือของตัวเอง”



    “นายนี่ก็แปลกคน เมื่อก่อนยังคัดค้านลูกยังกับอะไรดี”



    “นักรบที่ดีต้องหมั่นฝึกฝน คาโนวาลเป็นเมืองนักรบแล้วฟาโรห์ก็แข็งแกร่งสมเป็นนักรบ”



      ‘ให้ตายเถอะ’ เฟรินถอนใจกับความคิดของกษัตริย์แห่งคาโนวาล หมอนี่ชักจะเพี้ยนหนักขึ้นทุกวัน หรือบางทีอาจจะจริงอย่างที่คิลเคยว่าเธอในงานเลี้ยงเมื่อ3ปีก่อน



    “เดี๋ยวนี้นายขี้บ่นเป็นคุณป้าเข้าไปทุกทีแล้วเฟริน”



    “ก็ฉันเซ็งนี่นา วันๆเจอแต่พวกหน้าหงิก น่าเบื่อชะมัด”เฟรินบ่นเบาๆอย่างไม่คิดจะให้ใครได้ยิน



    “เธอเหงายังงั้นเหรอ” คาโลยิ้มอย่างอ่อนโยน อีกฝ่ายสะดุ้งนิดหน่อย…ได้ยินด้วยแฮะ



    “เปล่า”



    คาโลวางงานลง ก่อนจะลุกเดินมาโอบคนขี้น้อยใจจากทางด้านหลัง



    \"ถ้าอย่างนั้นจะลองพิจารณาข้อเสนอของฟาโรห์หน่อยดีไหม\"คำแซวที่ทำเอาคนปากไวหน้าแดงนิดๆแล้วเงียบเสียงลงทันที



                                             .......................................................................



         ...เมื่อ7เดือนก่อนหลังจากที่ฟาโรห์กลับมาจากเอเธนส์...



    \"..ใจคอเจ้าจะให้แม่อกแตกตายรึไงไปไหนมาไหนไม่ส่งข่าวบอกกันบ้าง นี่ถ้าเป็นอะไรขึ้นมาจะทำยังไง แม่มีลูกอยู่แค่คนเดียวนะ!...\"



    คำเทศนาเป็นชุดที่เจ้าชายได้แต่นั่งอุดหูสองข้าง ทำหน้าเห่ยหลับตาปี๋ ในใจก็ภาวนาขอให้ท่านแม่เมตตาหยุดพักหายใจสักเฮือกก็ยังดี



    \"...เข้าใจรึเปล่า\"คำทิ้งท้ายที่ทำให้เจ้าชายรู้ว่าตนเองกำลังจะรอดพ้นจากวิกฤตแค่เพียงพยักหน้าพร้อมสายตาเสียใจนิดๆให้ท่านแม่ทอดพระเนตร



    \"โธ่ท่านแม่ อีกไม่นานลูกก็ต้องเข้าเรียนที่เอดินเบิร์กแล้ว ให้ลูกได้ศึกษากับเอเดนอีกสักนิดเถอะกระหม่อม\"



    \"ฟาโรห์ ลูกอย่าว่าแม่เรียกร้องเอาแต่ใจเลยนะแต่ลูกก็ควรจะอยู่ติดวังบ้าง สักวันหนึ่งเถอะแม่คงจะลืมว่าเจ้าหน้าตาเป็นยังไง\"



    \"ท่านแม่ก็ดูหน้าท่านพ่อไปพลางๆก่อนสิรับรองว่าไม่ลืมหน้าลูกแน่\"ฟาโรห์ยิ้มให้ท่านแม่แล้วหันมามองท่านพ่อที่เหลือบตามาดูเขาก่อนจะก้มหน้าอ่านหนังสือต่อ

    \"แต่ท่านแม่อาจจะตกใจนิดหน่อยว่าทำไมลูกถึงหล่อน้อยลง\"ฟาโรห์ลอบยิ้มเมื่อท่านพ่อชะงักแล้วเงยหน้าขึ้นมาเต็มๆ



    \"เจ้านี่น้า\"เฟรินหัวเราะอย่างถูกใจ ยิ่งเห็นหน้าดุดุที่เหมือนจะงอ(น)เล็กน้อยก็ยิ่งชอบ



    \"กระหม่อมว่าจะอยู่ที่นี่สักครึ่งปีให้ท่านแม่คลายความคิดถึง\"ฟาโรห์โอบเอวท่านแม่ของเขาที่กำลังลูบผมลูกชายอย่างเอ็นดู



    \"เจ้าจะไปไหนอีกล่ะคราวนี้\"เฟรินรู้ทัน



    \"ก็ว่าจะไปเยี่ยมท่านตาสักหน่อย ป่านนี้คงคิดถึงหลานชายสุดที่รักแย่แล้ว\"



    ฟาโรห์กล่าวด้วยรอยยิ้ม ที่ที่เขาชอบไปที่สุดก็คงไม่พ้นเดมอส ดินแดนปีศาจที่มีแต่คนขยาดเพราะที่นั้นมีสิ่งแปลกๆพิลึกพิลั่นมามายที่ไม่สามารถหาได้ในเอเดน การผจญภัยแต่ละครั้งจึงสนุกตื่นเต้น



    \"เดมอสอันตรายเกินไปที่ลูกจะไปเที่ยวเล่นคนเดียว\"เฟรินรีบค้าน



    \"แต่ลูกเคยไปคนเดียวมาแล้วสองครั้งนะท่านแม่\"คำแย้งทำเอาท่านแม่สะอึก



    \"ขืนเจ้ายังชอบหาเรื่องเสี่ยงตายอยู่แบบนี้แม่กลัวว่..\"



    \"งั้นท่านแม่ก็มีโอรสอีกสักองค์ถวายท่านพ่อสิ เกิดลูกเป็นอะไรไปจะได้ไม่เสียใจ\"ฟาโรห์แกล้งล้อ



    \"ฟาโรห์\"ท่านแม่ตวาดแว๊ด ฟาโรห์อุดหูทำหน้าเห่ยหันไปมองท่านพ่อที่ทำตาดุใส่แต่เขาก็มองออกว่ามีแววขำปะปนอยู่นิดหน่อยในตาสีฟ้านั่น



    \"หิวจัง ขอตัวไปหาอะไรกินก่อนนะฮะ\"ฟาโรห์รีบคว้าห่อผ้าวิ่งหนีออกไปจากห้องทรงงานของท่านพ่อทันที



                                            ..............................................................................



    \"รู้รึเปล่าว่าเจ้ากำลังจะทำให้พ่อต้องลำบาก\"เสียงเอ่ยเรียบๆหลังจากฟังคำลาจากผู้เป็นลูกที่กำลังยืนยิ้มอยู่หน้าโต๊ะ



       ตาสีฟ้าใสของเจ้าชายฟาโรห์ วาเนบลี สบกับเนตรของคิงคาโลผู้เป็นพ่ออย่างสบายใจท่านพ่อมักส่งเสริมในสิ่งที่เขาสนใจอยากทำ เวลาที่ปรึกษาอะไรด้วยจึงรู้สึกสบายใจอย่างบอกไม่ถูกแม้ว่าเรื่องนั้นจะดูเป็นไปไม่ได้ก็ตาม



       คาโลมองลูกชายแล้วถอนใจเบาๆ จากชุดทรงเจ้าชายก็กลับกลายมาเป็นเสื้อยืดสีเทาอ่อนที่ถกขึ้นมาเหนือศอกกับกางเกงสีน้ำตาลเข้มเกือบดำที่มีกระเป๋าเล็กกระเป๋าน้อยเต็มไปหมด รองเท้าบูทหนังสีน้ำตาลที่เพิ่งถอยมาใหม่เพราะคู่เก่าขาดไปแล้ว แถมยังสะพายห่อผ้าสีฟ้าซีดๆที่ไหล่ขวาบอกถึงความพร้อมในการเดินทาง แล้วเขาก็คงต้องทนฟังเสียงบ่นของใครบางคนที่มักจะมาอาละวาดในห้องทรงงานอย่างไม่เกรงใจใครหน้าไหนแม้แต่ตัวเขาที่เป็นเจ้าของห้องและถึงแม้เขาจะว่าหล่อนไปหลายรอบจนเอือมเต็มทนแล้วก็ตาม



    “หวังว่าเจ้าจะกลับมาคาโนวาลก่อนการสมัครสอบของโรงเรียนพระราชาเอเดนเบิร์ก”



    คาโลยอมยกธงขาวให้เจ้าชายที่ยิ้มกว้างจนแก้มแทบปริ



    “ไปคราวนี้ลูกจะพาไกไปด้วย”ฟาโรห์นั่งลงที่เก้าอี้หน้าโต๊ะทรงงาน คาโลเงยหน้าขึ้นจากหนังสือด้วยความประหลาดใจ



       ไก…มังกรเพลิงคู่ใจของเจ้าชายฟาโรห์



       ปกติลูกชายเขาจะขี่มันไปร่อนแก้เซ็งในยามที่ถูกเฟรินบังคับให้อยู่ในสายตาของเธอ...เป็นการกักบริเวณที่ค่อนข้างอิสระพอสมควร



    ”ถ้าท่านพ่อจะกรุณาลูกอีกนิด…”ฟาโรห์ลองพูดหยั่งเชิง คาโลเงยหน้าเป็นสัญญาณให้รู้ว่าอนุญาตให้พูดได้ ฟาโรห์ยิ้มบางๆ



    “ลูกจะขอไปสมัครเข้าเรียนด้วยตัวเอง เดินทางไปๆมาๆจะเสียเวลาเปล่าๆนะท่านพ่อ”



    “กลัวจะเสียเวลาสนุกของเจ้า”คาโลขัดอย่างไม่พอใจแต่อีกฝ่ายยังรักษาหน้ายิ้มแย้ม



    “ท่านพ่อจะว่าอะไรรึเปล่าถ้าลูกจะไม่เข้าเรียนในฐานะเจ้าชายแห่งคาโนวาล”



       คาโลชะงักกึก…ในขณะที่ลูกชายตัวแสบยิ้มราวกับมันเป็นเรื่องสนุก









    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×