ตอนที่ 37 : Calorie ที่ 37 เพราะว่ามันคือรักแท้
ผมกลับมานอนที่เตียงหลังจากที่แน่ใจว่าพี่โรลนั้นหลับไปแล้ว ผมนอนลงกินยาของผมที่คุณหมอจัดไว้ให้และค่อยๆ หลับตาลง
ผมเดินอยู่บนระเบียงที่ดูคุ้นตา มองไปยังท้องฟ้าด้านนอกที่มืดครึ้มและดูน่ากลัว ผมมองเท้าที่เปลือยเปล่าของผมกำลังก้าวเดินไปตามทาง ขึ้นไปยังบันไดที่ทอดตัวขึ้นไปสู่ด้านบน ทีละก้าว ทีละก้าว
ผมไม่รู้ว่าผมกำลังไปที่ไหน รู้แต่เพียงว่า มีใครสักคนกำลังเรียกผมอยู่ ผมเดินขึ้นมาเรื่อยๆ มาจนถึงชั้นบนสุด ผมมองไปรอบๆ ที่มีแต่พื้นที่ว่างเปล่า ท้องฟ้าที่ไร้แสง และลมที่โหมกระหน่ำราวกับกำลังก่อพายุ
ผมมองไปรอบๆ อีกครั้ง และสะดุดเข้ากับร่างของคนคนหนึ่งที่ยืนอยู่ตรงนั้น บนริมขอบความชัน หันหน้าแหงนมองไปบนท้องฟ้าที่มืดมนนั้น
ผมค่อยๆ เดินไปข้างหน้าด้วยหัวใจสั่นสะท้านด้วยความกลัว พี่ครับ พี่ใช่ไหม ทำไมพี่ถึงอยู่ตรงนั้น
ผมที่ค่อยๆ เดิน ก็ก้าวท้าวเร็วขึ้น จนกลายเป็นวิ่งด้วยแรงทั้งหมดที่ตัวเองมี เพื่อไขว่คว้าหาคนคนนั้น
" พี่ขอโทษ พี่รักลี่ " คนคนนั้นหันมามองผมและยิ้มน้อยๆ ก่อนจะหันหลังและทิ้งร่างของตัวเองลงไปสู่ความมืดมนเบื้องล่าง
" พี่โรล!!! " ผมตะโกนและสะดุ้งตื่นขึ้นอย่างตื่นตกใจ พลางหันไปมองรอบๆ ผมหัวใจเต้นแรง ตัวสั่นและเหงื่อไหลซึม
" ลี่!! " ผมหันไปมองประตูที่เปิดออกมาอย่างแรง และไอ้เมี่ยงที่หน้าตาตื่นเข้ามา
" ลี่ ลี่ ไปกับกูเดี๋ยวนี้ " ไอ้เมี่ยงไม่พูดเปล่าแต่กำลังอุ้มผมขึ้นจากเตียงและวิ่งอย่างรวดเร็วขึ้นบันได
ผมตกใจกำเสื้อของมันไว้ มันกำลังทำหน้าตาตื่น กำลังทำท่าเหมือนจะร้องไห้ และผมก็เริ่มที่จะรู้แล้วว่า เป็นเพราะอะไร
มันพาผมมาถึงหน้าห้องของพี่โรลและปล่อยผมลง ผมค่อยๆ เปิดประตูเข้าไปพลางมองกลุ่มคนที่กำลังร้องไห้ และกลุ่มคนในชุดสีขาวที่กำลังลุมล้อมรอบตัวพี่โรลอยู่ ทุกคนดูสีหน้าเคร่งเครียดและเหนื่อยอ่อน ผมมองร่างกายที่โรลที่ถูกเหล็กแนบที่หัวใจ และช็อตไฟฟ้าเข้าไป แต่ก็ยังคงนิ่งอยู่
นี่ผมคงยังไม่ตื่นสินะ ผมเดินช้าๆ ตัวสั่นเทาไปด้วยความกลัว สมองมึนงงยังคงไม่รับรู้ถึงสิ่งที่กำลังเกิดขึ้น ผมน้ำตาไหลยืนมองความชุลมุนด้านหน้าด้วยหัวใจที่ว่างเปล่า เสียงกรีดร้องและเสียงร้องไห้นั้นไม่ได้เข้ามาในโสดประสาทผมเลยสักนิด
ผมเดินเข้าไปช้าๆ พยายามจะเอื้อมมือเข้าไปหาพี่โรล แต่ก็ถูกคนในชุดสีขาวกันออกมา ผมยังคงไม่สนใจและพยายามจะเดินเข้าไปใหม่ พี่ครับ ผมอยู่นี่แล้ว มองผมสิ
ผมที่เริ่มรู้สึกตัวก็เริ่มร้องไห้ออกมา แบบนี้ไม่ได้ พี่จะทิ้งผมไปไม่ได้ ผมนึกถึงวันข้างหน้า วันที่ไม่มีพี่อยู่นั้น ผมนึกมันไม่ออกอีกแล้ว
" คุณหมอ ต้องการอะไรหรือเปล่าครับ " ผมพยายามเดินเข้าไปเกาะแขนคนนั้นคนนี้เพื่อขอความช่วยเหลือ
" ผมมีเลือดนะ ผมมีทุกอย่าง เอาของผมไปก็ได้ ช่วยด้วยครับ ช่วยพี่โรลด้วยครับคุณหมอ " ผมโดนชนจนหกล้ม แต่ก็ยังคงพยายามจะลุกขึ้นใหม่ทุกครั้ง
ผมได้ยินเสียงคุณแม่พี่โรลที่กำลังร้องไห้ราวจะขาดใจ ผมมองหนิงที่ตัวสั่นน้อยๆ และคุณพ่อของพี่โรลที่โอบคุณแม่ไว้
" คุณหมอครับ ฮึก..ฮ ผม ผมมีหัวใจ เอาของผมไปก็ได้ ฮืออ " ผมรู้สึกว่าผมถูกกอดเอาไว้ไม่ให้เดินไปข้างหน้าได้อีก ผมพยายามแกะมือเพื่อนออกและพยายามจะเดินเข้าไปหาพี่โรล ขอแค่เพียงนิดเดียว ผมอยากจับมือพี่ไว้ ผมอยากให้พี่รู้ว่าผมอยู่ข้างๆ พี่เสมอ
" คนไข้อาการทรุดลงมาก ต้องผ่าตัดใหญ่อีกรอบ ต้องใช้เลือดเพิ่มด่วนที่สุด "
" ฮืออ หนิง หนิงช่วยพี่เขานะลูก พี่เขาเลือดกรุ๊ปพิเศษนะ จะทำยังไงดี ของแม่คงไม่ได้แน่ๆ " คุณแม่ของพี่โรลกำลังร้องไห้และหันไปหาคนที่คิดว่ารักลูกตัวเองที่สุด
" ไม่ค่ะ ห.นิงกลัว ถ้าหนิงตายไปอีกคนล่ะ " หนิงนั้นร้องไห้และส่ายหน้าไปมา
คุณแม่ของพี่โรลนั่นนิ่งค้างสงบลง และกำลังจ้องมองเด็กหนุ่มที่กำลังตะเกียกตะกายเกาะแขนคุณหมอไว้สุดกำลัง
" ผมครับ เอาของผมไป ผมเลือดกรุ๊ปหายากครับ เอาไปหมดเลยก็ได้ ช่วยพี่โรลด้วย ต้องช่วยพี่ให้ได้ " ผมเหมือนคนเสียสติพูดไม่รู้เรื่อง ผมไม่รู้ว่าผมกำลังทำอะไร กำลังพูดอะไร ผมรู้อย่างเดียวว่าทุกสิ่งทุกอย่างที่ผมมี ผมให้พี่ได้ ขอเพียงแค่ให้พี่ฟื้นขึ้นมาอีกครั้ง พี่ไม่ต้องจำผมได้ก็ได้ พี่จะลืมผมไปชั่วนิรันดร์เลยก็ได้ แต่ผมขอเพียงแค่ ให้พี่กลับมา ลืมตาขึ้นมา มีชีวิตอยู่ แค่นี่ผมก็เพียงพอแล้ว
" คุณยังเห็นต่างเรื่องนี้อยู่หรือเปล่า " คุณพ่อพี่โรลพูดและบีบมือภรรยาตัวเองด้วยน้ำตาเช่นกัน คุณแม่พี่โรลส่ายหน้าน้อยๆ และร้องไห้ออกมาเบาๆ แทนคำตอบนั้น
" ลี่ มึงกำลังป่วยนะ " ผมยังคงขอร้องคุณหมอให้เอาเลือดผมไป แต่ก็ถูกเพื่อนดึงเอาไว้
" กูไหว กูไม่เป็นไร จริงๆ " ผมไม่ได้บาดเจ็บอะไรมาก เลือดของพวกเรานั้นเป็นชนิดหายากเหมือนกัน ผมอยากช่วย และต้องช่วยพี่โรลให้ได้
สุดท้ายแล้ว ผมก็ได้บริจาคเลือดตามที่ตั้งใจ จะใช้ได้หรือไม่นั้น ผมก็ยังไม่รู้ แต่จะให้ผมอยู่เฉยๆ โดยที่ไม่ได้ทำอะไรเลย ผมทำไมได้ ส่วนไอ้เมี่ยงและพี่นายก็พยายามหาเลือดกรุ๊ปพิเศษนี้จากที่ต่างๆ เท่าที่จะทำได้ เพื่อช่วยโรงพยาบาลอีกทาง คุณแม่ของพี่โรลนั้นมีกรุ๊ปเลือดพิเศษนี้เช่นกัน แต่ก็ไม่สามารถบริจาคได้ เพราะร่างกายและโรคประจำตัวของท่าน
ผมนอนบนเตียงเพื่อบริจาคเลือด ผมภาวนาให้พี่ตื่นขึ้นมา กลับคืนสู่โลกใบนี้อีกครั้ง โลกที่พวกเรานั้นต้องใช้ชีวิตอยู่ร่วมกันไปอีกนานแสนนาน แต่ถ้าหากว่าไม่เป็นอย่างนั้น ถ้าหากว่าพี่ไม่ได้ตื่นขึ้นมาอีก ผมแทบไม่กล้าคิดถึงมัน ผมคงหัวใจแหลกสลาย และเหมือนตายทั้งเป็น
ผมค่อยๆ หลับตาลงช้าๆ อย่างอ่อนแรง ผมขอภาวนาอีกเป็นครั้งสุดท้าย ขอให้เมื่อผมลืมตาตื่นขึ้นอีกครั้ง ขอให้ผม ได้พบพี่ ขอให้พี่ ยังอยู่กับผม หายใจไปพร้อมๆ กับผมด้วยเถิด
การหลับไหลที่ดูเหมือนจะยาวนาน ผมรู้สึกเหมือนตัวเองกำลังล่องลอยอยู่ในห้วงความฝัน ความอบอุ่น ผ่อนคลาย ตัวเบาเหมือนกำลังร่องลอยไป ผมค่อยๆ ลืมตาขึ้นช้าๆ ในแสงที่สว่างจ้าจนแสบตา นี่ผมตายไปแล้วงั้นเหรอ ผมอยู่บนสวรรค์แล้วใช่ไหม ผมขมวดคิ้วน้อยๆ เพ่งมองสิ่งที่อยู่ตรงหน้าดูดีๆ ก็รู้สึกว่า ผมอยากตบไอ้ตัวที่ทำให้ผมเห็นแสงสว่างคาตาแบบนี้ ใครเขาใช้ให้มึงเอาไฟฉายส่องตากูฟะ
" สนุกไหม เดี๋ยวเถอะมึง " ผมส่งเสียงขู่ฟ่อทันที
" ลี่!! ลี่ลืมตาแล้ว " ผมมองทุกๆ คนรอบเตียง มีไอ้เมี่ยง ป๊าม๊า อาเฟย พี่นาย
" ทำอะไรของมึง กูน้ำตาไหลพรากเลยเห็นไหม " ผมขยับตัวและขยี้ตาน้อยๆ
" กูกลัวมึงไม่ตื่น กูกลัวมึงหลงทางไปยมโลก โอ้ยย " ทุกคนร่วมใจกันโบกกบาลไอ้ตัวปากพล่อยนี่ กูแค่บริจาคเลือดไม่ได้บริจาคหัวใจซะหน่อย แต่เอ๊ะ หัวใจผมก็อยู่ที่พี่โรลอยู่แล้วนี่นา ถรุยย เวลาแบบนี้ยังจะคิดเรื่องน้ำเน่าอีกเรา
" พี่โรล! แล้วพี่โรลล่ะ " ผมที่เพิ่งนึกขึ้นได้ก็รีบส่งเสียงดังถามพลางเด้งลุกขึ้นอย่างรวดเร็ว ไอ้เรื่องที่ควรคิดเจือกไม่คิด
" ไม่ต้องรีบลุกหรอก นอนพักซะ " ผมถูกกดตัวให้นอนลงไปเหมือนเดิม
" ร่างกายก็ไม่ใช่จะแข็งแรง ทำอะไรไม่คิดหน้าคิดหลังเลย " ผมมองม๊าที่กำลังทำหน้าเศร้า ผมรู้สึกผิดขึ้นมาทันที
" ขอโทษครับ " ผมพูดเบาๆ อย่างรู้สึกผิดจริงๆ
" ทีหลังมีอะไรก็ถามป๊าม๊าก่อนนะ พวกเราก็อยากช่วยอยู่แล้ว " ผมยิ้มน้อยๆ ให้ป๊า
" ความรักทำให้คนตาบอด โอ้ยย " ผมขยับมือไปหยิกไอ้ตัวปากมากทันที
ผมมองไอ้เมี่ยงที่กำลังยิ้มและชี้ให้ดูด้านหลังที่มันยืน ผมมองผ่านช่องข้างตัวมันและก็ต้องยิ้มกว้าง เพราะว่าเตียงของพี่โรลนั้นก็อยู่ข้างๆ ผมไม่ได้ห่างมากนัก และพี่โรลนั้นก็กำลังหันมามองผมเหมือนกัน
ผมน้ำตาไหลออกมาอย่างดีใจ ผมไม่ได้เสียพี่ไป พี่ดูสีหน้าดีขึ้น และกำลังจ้องมองผมอยู่จริงๆ แต่ผมที่กำลังยิ้มดีใจนั้นก็ต้องหุบยิ้มและขมวดคิ้วสงสัย เพราะว่าอยู่ดีๆ พี่โรลก็รีบหันหน้าไปอีกทางทันทีที่รู้ว่าผมมองอยู่ ทำไมละครับ พี่เป็นอะไรไป
ผมรู้สึกเศร้าในหัวใจ โดยไม่รู้เลยว่าเหตุผลที่คนอีกคนรีบหันหน้าหนีไปนั้น ก็เพราะว่า
คนคนนั้นแค่ต้องการซ่อนใบหน้าสีแดงของตัวเองเท่านั้นเอง
386 ความคิดเห็น
-
#296 Xialyu (@Xialyu) (จากตอนที่ 37)วันที่ 22 พฤษภาคม 2561 / 22:14เขินนนนน้องอะดิ#2960
-
#171 tan~tan (@bootan2526) (จากตอนที่ 37)วันที่ 15 ธันวาคม 2560 / 22:13เขินละสิ#1710
-
#170 Bibblegum (@Bibblegum) (จากตอนที่ 37)วันที่ 15 ธันวาคม 2560 / 21:33ทำไมพี่โรลต้องหันหน้า หรือยังจำไม่ได้#1700
-
#168 น.ส.แม่มด ใจดี (@ning11434) (จากตอนที่ 37)วันที่ 15 ธันวาคม 2560 / 16:09นี้ไงลูกสะใภ้ที่แม่อยากได้#1680
-
#167 KiRaNa42 (@nongmen42) (จากตอนที่ 37)วันที่ 15 ธันวาคม 2560 / 15:05หนิงดูรักพี่โรลมากเลยอะ#1670
-
#166 FahSida (@himeji) (จากตอนที่ 37)วันที่ 15 ธันวาคม 2560 / 13:45เป็นไงล่ะคุณแม่ ถ้าไม่มีลี่นะโรลตายแล้ว เกือบได้เห็นลูกตายคาตาแล้วไหมล่ะ หนิงรักโรลม๊ากมากเลยเนอะคุณแม่#1660
-
#165 --M=o=D-- (@poonbabor) (จากตอนที่ 37)วันที่ 15 ธันวาคม 2560 / 13:28งื้อออ อาลี่ของเจ้ หนูทำเพื่อพี่โรลทุกอย่างจริงๆ มันเจ็บปวดจังที่พี่โรลเป็นแบบนี้อาลี่ก็คอยแต่โทษตัวเอง คุณแม่พี่โรลนั่นแหละ รักจังเลยนะยัยหนิงเนี่ยยย เป็นไงล่ะ เจอทาสแท้นางเข้าไป หึ!#1650