ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [FIC] What is LOVE

    ลำดับตอนที่ #3 : What is LOVE [CH.2]

    • อัปเดตล่าสุด 14 เม.ย. 57


    [Fic]  What is LOVE? CH.2

    Pairing   :  Channuneo   :  Okkay   :  Khundong

    Author   :  JHLGK & A[o]mity

    Rate   :  PG13

    ____________________

     

     

    “ได้! ตกลง! แล้วเราจะได้เห็นดีกันฮวางชานซอง!


     

     

    ผมได้แต่ยืนอึ้งในคำตอบของคนตัวเล็ก  ไม่ใช่เพราะว่าผมคิดสบประหม่าเขานะครับ เพียงแต่ผมไม่คิดว่าเขาจะตอบตกลง แต่สำหรับผมนั้นมันไม่ได้เสียหายอะไรด้วยซ้ำไป ก็ในเมื่อผมสนิทกับพี่ว๊ากร่างสูงดำคล้ำนามว่าอ๊คแทคยอนน่ะสิ

     

     

    ผมไล่มองคนตัวเล็กตั้งแต่หัวจรดเท้าอีกครั้ง   จะว่าไปเขาก็น่ารัก.. น่ารักมากเสียด้วย เพียงแต่นิสัยของที่ค่อนข้างจะขี้โวยวายทำให้ภายนอกของเขานั้นดูเป็นคนที่ไม่ค่อยเป็นมิตร  ดวงตาเรียวเล็กนั้น รับกับจมูกโด่งรั้นได้ดี  ริมฝีปากอวบอิ่มที่ค่อยแต่จะพ่นคำพูดที่เจ็บแสบออกมา แต่ถ้าหากผมได้ลองปราบพยศเขาดูล่ะ..อืม..คงจะดีไม่น้อยเลย..

     

     

    “จุนโฮ!  ไปกันเถอะ อย่ามายืนเสียเวลาอยู่ตรงนี้เลย!”  อูยองเอ่ยขึ้นก่อนจะกระชากแขนของจุนโฮออกไปจากบริเวณนั้น ทิ้งไว้เพียงผมที่ยืนยิ้มอยู่คนเดียวราวกับคนบ้า  สะบัดหัวสองสามทีเพื่อไล่ความคิดที่เกี่ยวกับคนตัวเล็กนั้นออกไป  ก่อนจะมุ่งหน้าเดินไปที่ตึกคณะของตน

     

     

     
     

     

     

    “จุนโฮทำไมนายถึงตกลง! นายไม่เห็นหรือไงว่าหมอนั่นมันหน้าตาไว้ใจได้ที่ไหน!

     

     

    ทันทีที่อูยองลากผมออกมาจากหมอนั่นได้ ก็มาลงระเบิดใส่ผมทันที ผมไม่ตอบอะไรได้เพียงแต่มองหน้าอูยองแล้วถอนหายใจเบาๆ   เพื่อนตัวเล็กที่เห็นผมไม่ตอบอะไรก็ได้แต่ส่ายหน้าเบาๆก่อนจะทิ้งตัวลงนั่งข้างๆผม

     

     

    “เอาเถอะ.. ยังไงฉันก็ต้องช่วยนายอยู่แล้วจุนโฮ ไม่ต้องคิดมากหรอกเนอะ..”  พูดจบอูยองก็เอื้อมมือมาเขย่าหัวผมสองสามที  ผมจึงหันไปยิ้มบางๆให้เป็นการตอบรับ  

     

     

    “อูยอง ไปกินข้าวกันเถอะ ฉันเริ่มหิวแล้วแหละ”   ผมพูดขึ้นเพื่อทำลายความเงียบลง

     

     

    “อืม ป่ะ  นายเลี้ยงน้าาา นะนะนะ”

     

     

    “ได้เลย ร้านไหนจัดไป เดี๋ยวป๋าเลี้ยงเอง” 

     

     

    ผมพูดติดตลกพลางเลื่อนมือไปโอบไหล่ของอูยองไว้  เจ้าตัวดูจะสะดุ้งเล็กน้อยแต่หากก็หันกลับมายิ้มให้ผมเสียจนตาปิด   

     

     

    เราสองคนเดินไปเรื่อยๆ จนกระทั่งถึงร้านอาหารที่เจ้าอูยองบอกว่าอร่อยนักหนา  ชั่งใจอยู่ซักพักเมื่อเหลือบไปเห็นคู่อริที่พึ่งจะได้เป็นศัตรูเมื่อเช้า กำลังนั่งคุยกันอย่างออกรสชาติกับพวกรุ่นพี่ปีสอง!!  

     

     

     

    “อูยอง..นั่นพวกพี่ว๊ากใช่มั้ยอะ?”  ผมหันไปถามอูยองเพื่อความแน่ใจ เพราะผมก็ไม่อยากเข้าใจหมอนั่นผิดซักเท่าไหร่หรอกนะ

     

     

    “ไหน.. อ่อ..เออเฮ้ย! นั่นมันพวกพี่ว๊ากกับไอ้บ้าหน้าหมีเมื่อเช้าหนิ! หนอย รู้จักกันอยู่แล้วสินะถึงกล้ามาท้าพนันแบบนี้!” 

     

     

    อูยองทำท่าจะพุ่งเข้าไปในร้านทันที โชคดีที่ผมคว้าคอเสื้อเขาเอาไว้ทันเสียก่อน 

     

     

    “ใจเย็นหน่อยเด้จางอูยอง!  เรามากินข้าวนะไม่ได้มาหาเรื่องเพิ่ม”  ผมหันไปเตือนอูยองที่กัดฟันกรอดด้วยความเจ็บใจ  ค่อยๆจูงมือเพื่อนเข้าไปในร้าน 

     

    ____________________

     

    Wooyoung’s  PART

     

     

     

    ทันทีที่ผมและจุนโฮเข้ามาในร้าน  ทางด้านกลุ่มของไอ้บ้านั่นก็มองมาทางผมและจุนโฮทันที รุ่นพี่หน้าสวยที่ได้ยินชื่อมาแว่วๆว่า มินจุน  หันมามองผมตั้งแต่หัวจรดเท้าก่อนจะหันไปซุบซิบๆกับรุ่นพี่ตาโตจอมโหดที่บังอาจลงโทษพวกผมเมื่อเช้า 

     

     

    “โอ้ย เจ็บนะโฮจังหยิกทำไมเนี่ย” 

     

     

    ผมหันไปเอ็ดเพื่อนตัวเล็กเบาๆอย่าไม่จริงจังนัก  เค้าตวัดสายตามองไปที่โต๊ะว่างที่มุมร้าน สื่อเป็นนัยๆว่าให้ผมเดินไปเสียที  ผมเดินนำจุนโฮไปและไม่ลืมที่จะจูงมือเขาไปด้วย เมื่อชานซองยังมองจุนโฮของผมไม่วางตา

     

     

    ผมและจุนโฮนั่งอยู่ที่มุมร้าน  ถ้าหากมองจากข้างนอกนั้นคงสังเกตเห็นพวกเราได้ยาก แต่การที่มองเห็นได้ยากจากข้างนอกก็ไม่ใช่ประเด็น.. ประเด็นมันอยู่ที่.. โต๊ะถัดไปสองโต๊ะมันคือไอ้พวกบ้านั่น!! โอ่ย อยากจะอังอังตายไปซะตอนนี้!!

     

     

    แต่ดูเหมือนจุนโฮจะไม่ได้สนใจผมที่ได้แต่กรีดร้องอยู่ในใจเลยแม้แต่น้อย  ก้มหน้าก้มตาดูเมนูพลางหันมาถามผมว่า อยากกินอะไร เอานั่นมั้ย เอานี่มั้ย  แต่สุดท้าย..เค้าก็ตัดสินใจแทนผมอยู่ดี =_=

     

     

    “งั้นเอาบุลโกกิ กับบิบิมบับนะครับ” 

     

     

    จุนโฮหันไปสั่งกับพนักงานพร้อมกับส่งยิ้มหวานไปให้หนึ่งที เอากับเค้าสิ.. เพื่อนกันนี่ตวาดแว้ดๆ ทีกับคนอื่นนี่เป็นมิตรเชียว

     

     

    ระหว่างรออาหารนั้นจุนโฮก็บอกว่าเขาจะไปเข้าห้องน้ำ  ผมบอกว่าผมจะไปเป็นเพื่อนรายนั้นก็ไม่ยอม บอกให้ผมนั่งเฝ้าโต๊ะไป.. ระหว่างรอจุนโฮกลับมาจากห้องน้ำ ผมก็นั่งมองนู่นมองนี่ไปเรื่อย จนสายตาของผมไปบรรจบกับร่างสูงของรุ่นพี่หน้าหล่อคนเดิม เขานั่งไขว่ห้างมือกอดอกกระดิกเท้าด้วยท่าทีสบายๆ  นั่งพิจารณารูปลักษณ์ของรุ่นพี่หน้าสวย  และสงสัยผมจะเผลอมองพี่เขานานไปหน่อย พอเงยหน้าขึ้นมาอีกที สายของผมและพี่เขาก็สบกันพอดี 

     

     

    ร่างสูงยกยิ้มมุมปากเมื่อเห็นว่าคนตัวเล็กนิ่งไป  หันไปกระซิบกับเพื่อนของตนก่อนที่จะลุกมายังโต๊ะของผม... อืม.. เฮ้ย!! โต๊ะผม

     

     

    ยังไม่ทันที่ผมจะได้คิดอะไรร่างสูงโปร่งของรุ่นพี่หน้าสวยก็มาปรากฏอยู่ตรงหน้าเสียแล้ว..
    และยังไม่ทันที่ผมจะได้ปริปากพูดอะไรออกไปเขาก็พูดสวนขึ้นมา

     

     

    “ผมนั่งตรงนี้ได้ใช่มั้ย?”

     

     

    “ไม่!”  ผมตอบแทนจะทันทีที่รุ่นพี่หน้าสวยเอ่ยถาม

     

     

    “ทำไมล่ะ? เพื่อนคุณก็ไม่อยู่นี่ งั้นผมขอนั่งนะ” 

     

     

    คนตัวสูงถือวิสาสะนั่งทันทีที่พูดผมได้แต่อ้าปากพะงาบๆและก่นด่าอยู่ในใจ

     

     

    “นี่! ถึงเพื่อนผมจะไม่อยู่แต่คุณก็ไม่มีสิทธิ์ทำแบบนี้นะ คุณรุ่นพี่!!”  กระแนะกระแหนไปซักทีสะใจ!

     

     

    “หึ ปากดีจริงเลยนะครับคุณ.. ที่ผมมานี่ผมก็ไม่ได้พิศวาสคุณหรอกนะ ผมมาคุยเรื่องพี่รหัสต่างหาก”

     

     

    ผมหูผึ่งแทบจะทันทีที่รุ่นพี่หน้าสวยพูดจบ  แต่ก็ยังคงต้องวางฟอร์มนิ่งต่อไป

     

     

    “อืม..ผมนึกว่าคุณอยากจะช่วยเพื่อนคุณซะอีก แต่คุณคงไม่สนใจหรอกใช่มั้ย? งั้นผะ..”

     

     

    “มีอะไรก็รีบๆว่ามา!”  ผมพูดขึ้นทันทีที่รุ่นพี่ตรงหน้าเอ่ยชื่อของเพื่อนผมออกมา ฮึ่ย

     

     

    “คุณก็แค่...” 

     

     

    หมอนั่น [เปลี่ยนสรรพนามแล้ว -*-] เว้นวรรคช่วงหนึ่งก่อนจะก้มหน้าลงมาเพื่อกระซิบอะไรบางอย่าง.. ซึ่งมันกระชากวิญญาณผมได้เป็นอย่างดี

     

     

    “หึหึ...แล้วเจอกันนะจางอูยอง..ชีวิตในรั้วมหาลัยของเพื่อนคุณอยู่ในมือของคุณน้า คิดดีๆ พรุ่งนี้ผมจะมาเอาคำตอบ” 

     

     

    นิชคุณพูดทิ้งท้ายไว้แค่นั้นก่อนจะเดินกลับไปที่โต๊ะของตนเหลือทิ้งไว้เพียงร่างไร้สติของรุ่นน้องตัวเล็ก

     

     

    ก็แค่..มาเป็นเบ๊ผมซักสองสามอาทิตย์ คุณคงไม่เดือดร้อนอะไรมากมายหรอกเนอะ

     

     

    ฮึ่ย! คนอย่างจางอูยองไม่ยอมไปเป็นเบ๊คอยรับใช้ใครงกๆหรอกโว้ย  หึ จะเล่นแบบนี้ใช่มั้ย    ได้..รู้จักจางอูยองน้อยไปซะแล้ว รุ่นพี่นิชคุณ!!!

     

    ____________________

     

     

    คนตัวสูงที่นั่งก้มหน้าก้มตากินข้าวอยู่โดยไม่สนใจสิ่งรอบข้างเลยนั้น    เมื่อเงยหน้าขึ้นมาก็พบว่าพี่ชายหน้าสวยไม่ได้นั่งอยู่ที่โต๊ะเสียแล้ว   เลยหันไปถามพี่รหัสที่นั่งอยู่ข้างๆ

     

     

    “พี่แทค พี่คุณไปไหนอ่ะ?”

     

     

    “นู่นไง เดินไปนู่นแล้ว”

     

     

    แทคยอนตอบพร้อมกับพยักเพยิดหน้าหันไปทางที่นิชคุณเดิน  ทางด้านชานซองก็หันไปมองตามที่แทคยอนชี้ไป   พอหันไปมองนั้นก็ไม่เห็นร่างเล็ก สายตาคมก็กวาดมองไปทั่วๆร้านจนกระทั่งสะดุดกับแผ่นหลังเล็กคุ้นตาที่กำลังจะเดินไปทางห้องน้ำ  เมื่อเห็นดังนั้นชานซองจึงวางช้อนส้อม พร้อมกับลุกขึ้นอย่างรวดเร็วจนรุ่นพี่ทั้งสองมองด้วยความสงสัย

     

     

    “เอ่อ.. ผมขอตัวไปเข้าห้องน้ำก่อนนะครับ”

     

     

    พูดจบขายาวๆของร่างสูงก็ก้าวจนตามหลังร่างเล็กได้ทัน  แขนของร่างสูงคว้าไปจับข้อมือบางออกแรงกระตุกเพียงเล็กน้อย ร่างเล็กๆของจุนโฮก็เซมาปะทะกับอกแกร่งของชานซองทันที

     

     

    นี่นาย! ทำอะไร ปล่อยนะ! ฉันจะไปห้องน้ำ

     

     

    ฉันก็กำลังจะไปพอดี ไหนๆแล้วก็ไปด้วยกันเลยเถอะ

     

     

    คนตัวสูงพูดอย่างอารมณ์ดีพลางดึงมือบางมาจับไว้แล้วออกเดินเหมือนเป็นการบังคับกลายๆโดยที่ไม่สนใจเลยว่าตอนนี้หน้าหวานๆนั่นหงิกแค่ไหน

     

     

    ทำไมฉันต้องไปกับนายด้วย!”

     

     

    เสียงหวานตะคอกใส่ชานซองแต่ชานซองก็หาได้สนใจ ขายาวๆก้าวไปข้างหน้าช้าๆไม่รีบร้อน ก็ไม่รู้เหมือนกันแค่รู้สึกอยากอยู่กับคนตัวเล็กนี่นานๆ

     

     

    ชานซอง ปล่อยเดี๋ยวนี้ ที่พนันกันไว้ฉันยังไม่แพ้นะ นายไม่มีสิทธิ์!”

     

     

    เดี๋ยวนายก็แพ้อยู่ดีจุนโฮ จะยอมแพ้เลยตอนนี้เลยก็ได้นะ

     

     

    คำพูดของคนตัวสูงเกือบทำร่างเล็กฟิวส์ขาด หนอย กล้ามาดูถูกเค้าเหรอ ฮวางชานซอง!

     

     

    มั่นใจจังเลยนะ ชานซอง นายรู้ได้ยังไงว่านายจะชนะ

     

     

    นายก็เห็นไม่ใช่หรอว่าฉันสนิทกับรุ่นพี่ขนาดไหน

     

     

    ชานซองตอบพร้อมส่งรอยยิ้มกวนมาให้ จุนโฮอยากจะเอารอยเท้าไปฝากไว้บนหน้าหล่อๆนั่นสักที แต่ก็เถียงเพราะเค้าเองก็เห็นกับตาว่าไอ้หมอนี่มันนั่งกินข้าวอยู่กับรุ่นพี่กลุ่มนั้น

     

     

    เหอะ ฉันยังมีเวลาอีกตั้ง6วันในการหา นายรีบรึไง สงครามยังไม่จบอย่าพึ่งนับศพทหารสิ

     

     

    คนตัวเล็กตอบพร้อมกับกรีดยิ้มหวานหยดส่งให้ มือเรียวบิดเบาๆก็หลุดจากมือใหญ่ที่กุมอยู่ จุนโฮโบกมือบ๊ายบายชานซองก่อนจะเดินเข้าห้องน้ำไป

     

     

    หึ เตรียมมาเป็นของๆฉันได้เลย อีจุนโฮ

     

     

    ____________________

     

    หลังจากที่นิชคุณและชานซองลุกออกจากโต๊ะ ทิ้งให้มินจุนกับแทคยอนอยู่เฝ้าโต๊ะกันตามลำพัง บรรยากาศบนโต๊ะก็เริ่มอึมครึมขึ้นมาทันที เพราะมินจุนยังคงเคืองแทคยอนอยู่นิดหน่อย แทคยอนเองก็รู้ถึงบรรยากาศที่น่าอึดอัดนี้ คนตัวสูงเลยลุกขึ้นยืนเต็มความสูง มินจุนเงยหน้าขึ้นมามองแทคยอนส่งสายตาถามประมาณว่า จะไปไหน? แทคยอนไม่ตอบแต่กลับเดินมานั่งข้างๆมินจุน มือใหญ่รวบเอวบางเข้ามากอดไว้หลวมๆ ซึ่งก็ทำให้มินจุนดิ้นทันที

     

     

    แทค! ปล่อยเดี๋ยวนี้!”

     

     

    ร่างโปรงที่ดิ้นไปดิ้นมาหวังจะให้หลุดจากอ้อมกอดของอีกคนตวาดออกมาเสียงดัง แต่คนตัวโตก็แกล้งทำเป็นไม่ได้ยินแถมยังกอดแน่นขึ้นด้วย

     

     

    อ๊คแทคยอน ปล่อย!”

     

     

    ไม่ปล่อย

     

     

    เอ๊ะ! บอกให้ปล่อยก็ปล่อยสิ นี่มันที่สาธารณะนะ ฉันไม่อยากโดนคนอื่นเข้าใจผิด แค่เรื่องครั้งที่แล้วก็ไม่รู้จะแก้ตัวยังไงแล้ว!”

     

     

    ก็ไม่ต้องแก้ตัวสิ ไม่เห็นเป็นไรเลย

     

     

    พอได้ยินคำจากปากของคนตัวใหญ่มินจุนก็รู้สึกคันไม้คันมืออยากจะตบหน้าหล่อๆนั่นแรงๆสักทีคนบ้าอะไรชอบหาเรื่องมาให้เค้าแก้อยู่เรื่อย

     

     

    แทค เราไม่ได้เป็นอะไรกันนะ นายก็แค่เพื่อนสนิทของเพื่อน เราไม่ได้สนิทกันเป็นส่วนตัวเลยด้วยซ้ำ

     

     

    มินจุนหยุดดิ้นแล้วหันมาจ้องหน้าแทคยอนตรงๆ ปากบางเอ่ยคำพูดที่จี้ใจคนตรงหน้า แต่แทคยอนก็ไม่ได้เก็บเอาไปคิดอะไรมากแถมยังตอบกลับมาตรงๆอีก

     

     

    แต่ผมอยากให้เป็นนิ ผมรู้นะว่าคุณก็รู้ว่าผมรู้สึกยังไงกับคุณ

     

     

    คำตอบของแทคยอนทำเอามินจุนเงียบไปเหมือนกัน เพราะเค้าเองก็รู้ดีว่าแทคยอนรู้สึกยังไงกับเค้า แต่แค่ยังไม่อยากยอมรับเท่านั้นเอง ก็แค่...ยังไม่พร้อมจะมีสิ่งที่เรียกว่าความรัก

     

     

    ฉัน...

     

     

    ไม่ได้หรอมินจุน เปิดใจให้ผมสักนิดเลยไม่ได้หรอ

     

     

    ตาคมที่จ้องกันมาตรงๆทำเอาใจดวงเล็กสั่น แต่มินจุนก็เลือกที่จะไม่รับรู้ มือเรียวผลักคนตรงหน้าออกไปพร้อมกับลุกขึ้นยืน ทิ้งคำพูดที่แทบจะตัดความหวังทุกอย่างของแทคยอนลงเอาไว้

     

     

    ไม่ แทค นายเองก็รู้ไม่ใช่หรอว่าตอนนี้ฉันยังไม่ต้องการสิ่งที่เรียกว่าความรักแล้วก็ไม่อยากรู้จักมันด้วย พอเถอะ ทำไปมันจะเสียเวลาเปล่าๆนะ

     

     

    พูดจบร่างโปร่งก็เดินออกจากไป ตาเรียวปิดลงเพราะความรู้สึกผิด แต่ก็ไม่คิดจะหันไปมองคนตัวสูงที่นั่งคอตกเหมือนลูกอยู่

     

     

    ก็แค่ตอนนี้ใช่มั้ยล่ะ แต่อนาคตผมจะทำให้คุณรักผมเอง

     

     

    เสียงตะโกนที่ดังไล่หลังมาทำเอามินจุนหน้าขึ้นสี อยากจะหันกลับไปด่าใจแทบขาด พูดอะไรหน้าอายอย่างนั้นออกมาได้ แต่ก็เลือกที่จะเก็บคำด่าเอาไว้แล้วรีบเดินกลับตึกทันที

     

     

    คนบ้า

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×