ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    FIC CHANBAEK Don't Tell Anyone อย่าบอกให้ใครรู้

    ลำดับตอนที่ #3 : Don't Tell Anyone 3

    • อัปเดตล่าสุด 8 พ.ค. 57


    Don't Tell Anyone 3


     

    แสงแดดที่ส่องผ่านกรอบหน้าต่างมาทำให้ผมแสบตาจนต้องลืมตาทำให้ผมต้องปะทะกับความปวดหัวขึ้นมาในทันที แต่แล้วก็สัมพัสได้ถึงท่อนอะไรหนักๆที่ว่างอยู่ตรงหน้าท้องผม

    อื้อ อะไรอ่ะ และสิ่งที่ปรากฏต่อหน้าผมก็คือสิ่งมีชีวิตที่ทำให้ผมหลงใหลเขามาตลอด ชานยอล?”

    อืมม ตื่นแล้วหรอ ไอ้หมาเน่า  หน้าของชานยอลตอนเพิ่งตื่นน่ารักจัง ฮิฮิ

    “ ……”  น่าหลงไหล

    ไอ้หมา!!!”

    “ ……” 

    บยอน แบคฮยอน

    “  …...”

    แบคฮยอน นายเป็นอะไรรึเปล่า? ยังไม่สางเมาอีกหรอ?”

    ห้ะ เออ เปล่าหรอกๆ แค่มึนๆนิดหน่อยน่ะ บ้านนายนี่สวยเนอะ ฮาฮา ลืมไปเลยนายเป็นลูกประธานบริษัท ปาร์ค กรุ๊ป นี่เนอะ555”

    อืม นี่ ฉันถามอะไรหน่อยสิ

    อืม วันนี่นายแปลกๆเนอะ เป็นอะไรรึเปล่า? ติดเชื้อบ้าจากใครมาป่ะเนี่ย?”

    เมื่อคืนน่ะ นายไปกับใครหรอ

    เออ….เฮียคริสน่ะถาม ทำไมหรอ

    เปล่า กลัวนายไปแพร่เชื้อมหาบ้าใส่ใครเขา กลัวคนอื่นเขาเป็นอันตรายเข้า

    อ่อ หรอ”  ผิดหวังนิดๆแหะ

    แล้วทำไมนายมาบ้านฉันถูกล่ะ  โอ๊ยยยย หยุดถามซะทีเถอะ หัวสมองจะระเบิดหมดแล้ววววววว

    เออ…”

    ทำไมไม่ตอบล่ะ”  จะให้ตอบยังไงล่ะ ให้บอกว่า เมื่อตอนที่เจอกันครั้งแรกๆ เคยแอบเดินตามมาน่ะหรอ ไม่มีทางอ่ะ บอกไปชานยอลก็สงสัยมากกว่าเดิมน่ะสิ แล้วสุดท้ายก็จะนำพาไปสู่คำว่า ….ชอบ….

    เออไม่รู้เหมือนกันอ่ะ จำอะไรไม่ได้เลย แหะๆ

    เห้ยย นายเนี่ยนะ จริงๆเลย

    ขอทานะที่มากรบกวนอ่ะ

         “เห็นทีฉันคงต้องเป็นฝ่ายถามนายมากกว่านะ นายไปทำอะไรมาเนี่ย ทำไมถึงไม่กวนประสาทฉันแล้วล่ะ

          “ อาจเป็นเพราะอาการปวดหัวละมั้ง ปวดหัวจี๊ดเลย

           “ ……”

              “ งั้น ฉันขอตัวกลับบ้านก่อนละกันนะ ขอบคุณนะที่ช่วยดูแล

               “ ใครดูแลนาย ฉันไม่ได้ดูแลนายซะหน่อย

               อ่า งั้นหรอ แต่ยังไงก็ต้องขอบคุณน่ะนะ

                อืม

                 งั้นกลับก่อนนะ ผมไม่รอคำบอกลาของอีกคนก็เดินออกจากห้องของชานยอลไปเลย ก็นะคนมันเสียใจนี่ ฮึกๆ

     

     

    Chanyeol’s Part

                 สวัสดีคับรีดเดอร์ที่น่ารักขอผมทุกคน ผม ปาร์ค ชานยอล นะคับ ผมไม่เข้าใจนะคับว่าทำไมผมถึงพูดออกไปแบบนั้น ทั้งๆที่ผมก็ดูแลแบคฮยอนทั้งคืน ผมก็ไม่รู้นะว่าทำไม่พอผมพูดออกไปแบบนั้นแล้วแบคฮยอนต้องทำหน้าหงอยเหมือนโดนเจ้านายทิ้งขนาดนั้น แต่อย่าเข้าใจผิดนะคับ ว่าผมเป็นห่วงเจ้าหมานั้น คุณคิดผิดแล้ว แล้วถ้าคิดว่าผมปากแข็งก็ไม่ใช่อีกเหมือนกันน่ะแหละ

      

     

                โครม!!!!!!

     

     

         หื้ม? อะไรกัน ฝนกำลังจะตกหรอ ดีจังผมรอคอยมันมานานแล้ว ผมเป็นคนชอบฝนน่ะคับ เพราะฝนทำให้ผมได้เจอกับคนๆหนึ่งเข้า

          เอ๊ะ!แต่เดี๋ยวนะ แบคฮยอนไม่มีรถ แบคฮยอนกลัวเสียงฟ้าผ่า แบคฮยอนเดินกลับคนเดียว  คิดได้อย่างนั้น ผมก็รีบวิ่งออกจะห้องในทันที นี่ผมไม่ได้เป็นห่วงนะ แค่กลัวหมาตาย ข่าวยิ่งออกเยอะอยู่

             อยู่ไหนกันนะ ผมขับรถแล้วก็มองซ้ายที ขวาที แต่ก็ไม่เจอคนตัวเล็กเลย ผมเริ่มเกลียดฝนที่ทำให้รถติดในยามเช้าซะแล้วสิ ร้านกาแฟขาประจำที่ผมกับแบคฮยอนได้เจอกันครั้งแรก นึกแล้วก็ทำให้ผมต้องระบายยิ้มออกมาในทันที นึกถึงท่าทางเขินอายแบบนั้นแล้วก็อดที่จะยิ้มไม่ได้ ต่างจากตอนนี้เลย 

              ผมเลี้ยวรถจอดใต้ตึกที่อยู่ใกล้ๆกับร้ายกาแฟขาประจำ ผมลงจากรถแล้วเดินเลี้ยวเพื่อจะเดินไปที่ประตูร้าน ที่ผมมาที่นี้ก็เพราะ แบคฮยอนเป็นคนขี้หนาว เลยกะจะซื้อช็อคโกแล็ตร้อนของโปรดเจ้าตัวไปให้แต่ก่อนที่ผมจะเดินเข้าไปในร้านก็ต้องเจอกับคนตัวเล็กที่นั่งยองๆกอดเข่าตัวเองอยู่กับพื้น

              แบคฮยอน?”  คนตัวเล็กเงยหน้าขึ้นมาพร้อมกับจมูกแดงๆ เป็นสิ่งที่บอกว่าคนตรงหน้ากำลังจะโดนหวัดกินเข้าแล้ว

              ชานยอล?”

               “ ทำไมไม่เข้าไปข้างในร้านล่ะ?”

                “ งื้อ เราไม่มีเงิน เอาล่ะคนตัวเล็กโดนหวัดกินเข้าแล้วจริงๆ เสียงงื้อๆ อ้อนๆ แล้วเรียกแทนตัวเองว่าเรานี้ใช่เลย

                เข้ามาในร้านก่อน จะได้ทำให้ร่างกายอบอุ่นผมค่อยๆพยุงร่างเล็กที่ดูเหมือนจะล้มลงไปกองกับพื้นได้ตลอดเวลา  เดินเข้ามาในมุมๆหนึ่งที่ใม่ค่อยมีคนนั่งเพราะฝนที่ตกหนักแบบนี้ร้ายเลยเงียบผิดปกติ เพราะร้านกาแฟร้านนี้เป็นร้านน่ารักๆร้านหนึ่งเลยที่ปกติจะมีคนเขาเยอะพอตัว ก็เค้กกับกาแฟร้านเขาอร่อยนี่เนอะ

                 จะรับอะไรดีค่ะ?” บริกรสาวคนหนึ่งเดินมาที่โต๊ะเพื่อรับรายการอาหารเพื่อที่จะนำเอามาเสริฟ

                  ขอเป็นช็อคโกแล็ตร้อนกับลาเต้ ละกันคับ สิ้นคำของผมบริกรสาวก็เก็บเมนู ก้มหัวแล้วเดินเข้าไปในห้องครัว ผมตัดสินใจจับหัวของร่างเล็กให้ไปพิงกับกระจกก่อน แล้วผมก็เดินเข้าไปในห้องครัวที่บริกรสาวเพิ่งเดินเข้ามาเมื่อกี้

                   เออคุณค่ะ มีอะไรรึเปล่าคะ?” บริกรสาวคนเดิมที่กำลังวุ่นอยู่กับการทำลาเต้หันหน้ามาถามผม

                   กระดาษรองแก้วช็อคโกแล็ตร้อนอยู่ตรงไหนหรอคับ?”

                     “ เอออยู่ตรงทางด้านนู้นน่ะคะ เธอพูดพรางชี้ไปที่กล่องที่มีแต่กระดาษสีน้ำตาลอยู่ในนั้น

                     อ่า ขอบคุณคับ งั้นผมขอยืมปากกาหน่อยนะคับ

                     อ่า..นี่ค่ะ เธอยื่นปากกามาให้ผม

                     ขอบคุณคับ ผมกล่าวขอบคุณก่อนจะเดินไปที่กระดาษใบสีน้ำตาลหยิบออกมาแผ่นหนึ่ง ก่อนจะจรดปากกาเขียนประโยคที่อาจทำให้ความฝันของคนตัวเล็กเป็นจริงก็เป็นได้

            

     

    Baekhyun’s Part

     

                         อื้อ ทำไม่ถึงได้ปวดหัวแบบนี้นะ หนังตาของผมตอนนี้หนักอึ้งไปหมดเลย  สักพักก็มีคนเดินมาสกะกิดผมทำให้ผมต้องเงยหน้าไปมองใบหน้าของคนๆนั้น และนั้นก็ทำให้หัวสมองของผมทำการประมวณผลของภาพที่พรามัวว่าคือใคร แต่นั้นก็ทำให้ผมแทบไม่เอสายตาตัวเองเลยทีเดียว

                         แบคฮยอน?” เสียงทุ้มที่เอ่ยถาม เสียงฝนที่ตกลงมาจนคนหลายๆคนที่ยื่นอยู่ด้วยกันต้องออกเสียงให้ดังมากยิ่งขึ้น แต่เสียงคุ้นที่เรียกชื่อผมด้วยเสียงโทนธรรมดา ผมกลับได้ยินมันอย่างชัดเจน

                          “ ชานยอล?” ผมเอ่ยเรียกอีกคนปนกับความสงสันว่าเขามาอยู่ตรงนี้ได้ยังกัน ภาพที่ผมนั่งยองๆเงยหน้มองร่างสูงที่ยืนอยู่ เราทั้งสองคนอยู่ที่หน้าร้านกาแฟ ที่แห่งนี้ ภาพเหล่านี้ ทำให้ผมต้องนึกถึงความทรงจำที่ผมไม่มีวันลืม

     

                          “ ทำไมไม่เข้าไปข้างในร้านล่ะ?”

                           “ งื้อ เราไม่มีเงิน

                          เข้ามาข้างในร้านก่อน จะได้ทำให้ร่างกายอบอุ่น ร่างสูงพยุงผมให้เดินเข้าไปในร้าน เดินเข้าไปในมุมๆหนึ่งของร้านที่ตอนนี้คนน้อยมาก ชานยอลจับให้ผมนั่งลงกับโซฟา ก่อนที่ตัวเองจะนั่งตามลงมาข้างๆผมทันทีที่ก้นชานยอลแตะลงกับโซฟาหัวผมก็พิงเข้ากับไหล่ของเขาแทน อาการปวดหัวของผมเพิ่มมากขึ้นทุกทีๆ

                          หลังจากที่ชานยอลสั่งเครื่องดื่มเสร็จ สักพักเขาก็จับให้หัวขอผมไปพิงกับกระจกแทน เขารังเกียจผมขนาดนั้นเลยหรอ ผมพยายามไม่คิดอะไรมาก ไม่งั้นอาการปวดหัวของผมคงจะเพิ่มมากขึ้นกว่าเก่าแน่นอน ตอนนี้ผมรู้สึกว่าชานยอลจะกลับมานั่งที่เดิมแล้วล่ะ ผมค่อยๆลืมตาขึ้นมาเพราะกลิ่นของช็อคโกแล็ตร้อนที่ผมคุ้นกลิ่นของมันดี ชานยอลยื่นแก้วทรงสวยมาให้ผม ผมรีบรับก่อนที่เขาจะบ่นเมื่อยเอา

         

                          ให้เราหรอ?” อ๊ะ!!ทำไมผมถึงเรียกแทนตัวเองแบบนั้นนะ คำๆนี้ผมใช้กับคนที่ผมสนิทด้วยนะ เอ๊ะ!หรือเพราะพิษไข้กันนะ อ่า สงสัยเพราะความหนาวกับฝนที่ทำให้ผมต้องเป็นแบบนี้ ตอนนี้ฝนตก ผมเพิ่งจะเดินออกมาจากคอนโดที่ชานยอลอยู่ไม่ไกลมากนัก ผมก็เลยตัดสินใจวิ่งฝาฝนมาที่ร้านนี้ แต่ก็ดันหากระเป๋าตังค์ไม่เจอซะอีก แต่จู่ๆเสียงทุ้มก็ดึงผมออกจาภวังค์ที่ผมสร้างขึ้นมา

                          ไม่ให้นาย แล้วฉันจะซื้อให้หมาตัวไหนดื่มกันล่ะ ห้ะ!?”

                            “ อ่า นั้นสิเนอะ ขอบใจนะ

                           ฉันว่าวันนี้นายมาแปลกมากนะ

                            งั้นหรอ สงสัยเพราะพิษไข้ละมั้ง

                             ห้ะ!? หมาป่วยหรอ-0-

                              

                             ร่างสูงไม่พูดเปล่า เขาเอามือมาอังที่หน้าของผมเล็กน้อย เพื่อความแน่ใจ เขาเอาหน้าผากของเขามาแตะเข้ากับที่หน้าผากของผม จนผมรู้สึกว่าหน้าของผมร้อนยิ่งกว่าเดิม จนหน้าผมจะระเบิดอกมาเป็นชิ้นๆเลย

              

                             อืมมีไข้จริงๆด้วย

                              แหะๆ ไม่เป็นไร เดี๋ยวกลับไปกินยาที่บ้านก็ได้ ช่างเถอะ   ผมว่าพรางหยิบที่รองแก้วขึ้นมากลับหลังไปอีกด้านของกระดาษ แต่ก็ต้องชะงักในทันที เมื่อมันไม่ได้เป็นอย่างทุกครั้งที่ผมเห็นข้างหลังกระดาษแผ่นนี้มีตัวอักษรที่มีลายมือของใครบ้างคนเขียนอยู่ในนั้น ในกระดาษเขียนเอาไว้ว่า

     

            ช่วงนี้อาการหนาว ดูแล้วตัวเองด้วยนะ                                     


    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×