คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #2 : Chapter 2 อู๋ ปี้ ฟาน
CHANYEOL : อู๋ ปี้ ฟานนนนนนนนนนนน!!
KRIS : กูปวดหัว -_-^
---------- ARE U SURE ? แน่ใจมั้ยว่าไม่บ้า ----------
“เอ้า! นั่นก็หน้าบูดเป็นตูดหมามาอีกคน คนหล่อเซ็ง อยู่ท่ามกลางกับตาแก่อารมณ์ไม่ดีตั้งสองคน” หนุ่มตี๋หน้าหวานเบ้ปากลง เมื่อเห็นพี่ชายร่วมก๊วนอีกคนเดินทำหน้าบอกบุญไม่รับมาแต่ไกล
“แล้วใครล่ะเป็นต้นเหตุ!” หนุ่มแพนด้าที่นั่งหน้าบูดอยู่ก่อนหน้าถึงกับหันไปยู่ปากใส่คนข้างๆ ทำเอารุ่นน้องตาตี่ยกมือขึ้นทาบอกตัวเอง
“โอ้ อกอีแบคจะแตกกระจายเป็นฝอย…คิดว่าทำแล้วมันดูดีเหรอพี่”
“เออ!!” มั่นหน้าซะจนแบคฮยอนต้องยกธงขาวยอมแพ้ นั่นทำเอาพี่เทายิ้มกริ่ม ก็แน่ล่ะ ไม่ว่าจะใครก็ต้องยอมสยบใต้ถุงตาพี่เทาเท่านั้น “แล้วนี่มึงเป็นไรวะคริส หน้าแม่งเหมือนคนขี้ไม่สุด”
คริสพ่นลมหายใจออกมาหนักๆ เมื่อไหร่ไอ้เพื่อนเวรนี่จะเลิกวกเข้าเรื่องขี้ๆ ตูดๆ ซะทีวะ
“ไม่ต้องย้ำหรอกเทา ใครๆ เค้าก็รู้กันหมดแล้วว่ามึงอ่ะ ตูดตันที่สุดในคณะ”
“เชี่ยยยย!! กูอุตส่าห์ทำใจลืมได้แล้วนะเนี้ย จะพูดขึ้นมาหาพระเจ้าตากเหรอไงวะ” พี่เทาโอดครวญ แล้วไถเสี้ยวหน้าด้านหนึ่งลงกับโต๊ะ นึกถึงเรื่องนี้แล้วมันจี๊ดดดดด! หัวใจดวงน้อยๆ ของพี่เทาบอบบางเกินกว่าจะทนฟังเรื่องโหดร้ายพรรค์นี้ได้!
“บ้า ตกข่าวแล้วพี่” น้องรองของกลุ่มเอื้อมมือไปตีแขนพี่ชายตัวสูงเบาๆ แล้วขยับเข้าไปกระซิบกระซาบ แต่มั่นใจเหรอว่านั่นมึงกระซิบแล้วไอ้แบค! เสียงแม่งดังกว่าป้าข้างบ้านกูทะเลาะกับผัวอีก!
“พี่เทาเค้าขี้ออกตั้งนานแล้ว คึๆ”
“ไอ้แบค! หยุดเลยนะมึง กูขอร้อง เชไพร! เชพรายยยยย!” พี่เทาดีดตัวขึ้นจากตะ เกาะแขนน้องแบคไว้แน่นราวกับเป็นต้นไผ่ที่คุ้นเคย(?) เด็กตาตี่หรี่มองพี่ชายหน้าโฉด ก่อนจะพยักหน้าน้อยๆ ให้
“ถือว่าเป็นพี่เป็นน้องกันหรอก แบคถึงไม่เล่าเรื่องที่ทุกคนเข้าใจผิดคิดว่าแบคเป็นผัวพี่อ่ะ”
“ไอ้แบคคคคค!! ไอ้เด็กตาตี่ กูจะฆ่าเมิงงง”
หมดแล้ว…จบกันทีกับศักดิ์ศรีของหนุ่มหล่อหน้าทะเล้น ที่มีอาวุธร้ายเป็นถุงใต้ตาที่พร้อมจะขยี้ใจสาวๆ ได้ทั้งม. ก็จะเรื่องอะไรซะอีกล่ะ นอกจากไอ้น้องเวรมันดันหวังดีผิดกาลเทศะ อยากจะช่วยเขาออกจากสถานการณ์อันเลวร้ายตรงหน้า ไม่อยากให้พี่ชายนอกไส้สุดเลิฟถูกรุมประณามจากสายตานับร้อย
มันก็เลยเป็นพระเอกขี่ม้าแคระเข้ามาช่วย ด้วยการประกาศกร้าวกับทุกคน…
‘พี่เทาเป็นเมียแบค! ตูดไม่ตันแน่นอน แบคคอนเฟิร์มมมมม!!’
เรื่องแบบนี้รู้ไปถึงไหนอายไปอีกร้อยกิโล แล้วยิ่งถ้าไอ้เพื่อนเสาไฟฟ้านี่รู้แล้วล่ะก็…ไม่พ้นต้องถูกหัวเราะเยาะ แล้วโดนมันล้อไปตลอดชีวิตแน่ๆ แค่คิดก็สยองเหี้ยๆ แล้ว…ในอนาคตเขาจะต้องแต่งงาน มีลูก มีภรรยาที่น่ารัก แต่เจ้าสาวอาจจะเอาปี๊บคลุมหัวในวันแต่งก็ได้ ถ้าเกิดไอ้สองตัวนี่โผล่ไปเล่าตำนานสุดประทับใจสมัยเรียนของพี่เทาน่ะ
“ฮ่าๆๆ แม่งอย่างจี้ว่ะ แบคมึงนี่สุดยอดจริงๆ”
นั่นไง…พี่เทาพูดผิดเสียทีไหน ไอ้คริสแม่งขำจนน้ำตาเล็ด ยังๆ แม่งยกมือข้างหนึ่งขึ้นมากุมท้องไว้ ส่วนอีกท้องทุบโต๊ะดังปังๆ บ่งบอกว่าไอ้เพื่อนเลวนี่มันหรรษาขนาดไหนกับเรื่องราวแสนอัปยศของเขา
ตอนนี้ ดูเหมือนส่วนสูงร้อยแปดสิบกว่านี่ไม่ได้ช่วยอะไรเลย เพราะเมื่ออยู่ต่อหน้าปีศาจทั้งสองตัว พี่เทาก็รู้สึกเหมือนตัวค่อยๆ หดเล็กลงจนเหลือสองนิ้ว หน้างี้ซีดจนเขียว(?)เชียว
“นี่ถ้าพวกพี่ไม่ใส่ชุดนักศึกษา ผมก็นึกว่ามาเดินตลาดสดอยู่ซะอีก” เสียงเรียบๆ ของน้องเล็กไม่ได้ทำให้พี่ๆ พวกนี้หยุดหัวเราะเลย หนำซ้ำยังกวักมือหยอยๆ เรียกเขามานั่งอีกต่างหาก
“ใหญ่ๆ มานั่งก่อน ฮ่าๆๆ กูมีอะไรจะเล่าให้ฟัง ฮ่ะ…ไม่ฮา…กูให้เตะไอ้แบคเลย ฮ่าๆๆ” เสียงทุ้มที่ติดขัดไปเพราะเจ้าตัวหัวเราะแทรกขึ้นมาจนคนฟังชักจะเอือม จะพูด หรือจะขำ เลือกมาซักอย่างสิวะไอ้พี่คริส!
“หยุดเลยมึงไอ้เงิงลิง!” เทาชี้หน้าเพื่อนรักอย่าอาฆาตแค้น
“เงิงอะไรของมึง อิจฉากูล่ะสิที่มี ‘เหงือกสุขภาพดี’ น่ะ” คริสเถียงกลับ
“โอ๊ยยยย!! พวกพี่จะฮากันไปไหน พอก่อนๆ แบคหายใจไม่ทัน” แบคฮยอนยกมือขึ้นห้ามทัพ ก่อนที่เขาจะได้ตายเพราะขาดอากาศหายใจ เขาเองก็ชักไม่มั่นใจแล้วว่า พี่สองคนนี้มันนักศึกษาปีสาม หรือตลกคาเฟ่มืออาชีพกันแน่!
“ไม่ดีเหรอพี่ พอพี่ตายปุ๊บ พ่อแม่พี่จะได้โล่งอกว่า ลูกกูตายอย่างมีความสุขไง” เด็กหนุ่มพูดประโยคเรียบๆ ออกมาได้อย่างหน้าตาเฉย ผิดกับคนฟังทั้งสามที่แทบลงไปดิ้นกับพื้นแล้ว
‘โอ เซฮุน’ ถอนหายใจเอือมๆ กับภาพตรงหน้า นี่น่ะเหรอไอ้รุ่นพี่หน้าโหดที่ตะโกนว้ากๆ ใส่หน้าเขาตอนรับน้องเมื่อสองเดือนที่แล้ว ดูยังไงก็เป็นคนแก่สติออบซอกันทั้งนั้น
ให้พูดก็พูดเถอะ…ผมว่า ผมเนี้ยแหละปกติสุดๆ แล้ว
---------- ARE U SURE ? แน่ใจมั้ยว่าไม่บ้า ----------
“อ้าว”
ใบหน้าเหวอๆ ของหญิงอายุขึ้นหลักสี่ทำให้คริสอมยิ้ม ก่อนจะพูดด้วยน้ำเสียงอ้อนๆ
“หม้าอ่ะ เจอหน้าลูกแทนที่จะกอด จะหอม มาองมาอ้าวอะไรกันครับ”
“ไม่ต้องมาอ้อนหม้าเลย จะไม่ให้ตกใจได้ไง จู่ๆ ก็โผล่มาอย่างนี้ ฟ่านไม่กลับบ้านนานจนหม้าคลับคล้ายคลับคลาว่ามีลูกชาย แต่ไม่แน่ใจว่าหน้าตาเป็นยังไงแล้ว!” คุณนายอู๋เดินนำลูกชายเข้ามาในครัว ยกถ้วยแกงเขียวหวานไก่ร้อนๆ ที่เพิ่งทำเสร็จมาวางบนโต๊ะ
“เดี๋ยวนี้หม้าฝึกทำอาหารไทยเหรอ หน้าตาใช้ได้นะเนี้ย”
“อยู่เมืองไทย ก็ต้องกินของไทยสิ จะให้มานั่งนึ่งขนมจีบ ซาลาเปาเหรอไงจ๊ะ” หม้าตอบด้วยรอยยิ้ม ก่อนจะหันไปหั่นผัก จับตะหลิวต่อ
“งั้นเดี๋ยวผมอาบน้ำเสร็จ จะรีบลงมากินนะครับ”
“จ้า เอ้อ…ฟ่าน พอดีหม้าให้ช่างเค้ามาทาสีห้องฟ่านนะ ฟ่านไปอาบห้องหม้าก่อนก็ได้” คริสตอบตกลงก่อนจะเดินขึ้นไปตามบันไดเตี้ยๆ เพื่อไปยังชั้นสองของบ้าน
คริสเดินตรงไปยังห้องของตัวเอง เพื่อที่จะเอาเสื้อผ้าและผ้าเช็ดตัว เขาไม่แปลกใจเท่าไหร่ที่เห็นประตูห้องยังเปิดอ้าไว้ เพราะเข้าใจว่าช่างทาสีคงต้องการระบายอากาศในห้องบ้าง
คิดแล้วก็ตลกแม่ตัวเอง ด้วยความเหงาที่อยู่บ้านคนเดียวทั้งวัน เพราะป๊าเองก็เข้าบริษัท ส่วนลูกชายก็มีเรียนทุกวัน จะกลับบ้านบ้างก็เฉพาะวันหยุดยาวๆ หรือไม่ก็ช่วงปิดเทอมเท่านั้น คุณนายอู๋ถึงต้องสรรหาของเล่นใหม่ๆ มาแก้เหงา อย่างคราวนี้ก็คงเป็นการตกแต่งห้องเขาใหม่ทั้งหมดล่ะมั้ง
“เขียนงี้ป่ะวะ…เอาเหอะ เค้าเป็นคนจีนนี่น่า คงอ่านไม่ออกหรอกมั้ง” เสียงบ่นงึมงำกับตัวเอง ทำให้ต้องคริสชะเง้อคอเข้าไปมองในห้องนอนตัวเอง
ร่างสูงโปร่งพอๆ กับเขาในชุดนักศึกษาไม่เรียบร้อยตั้งแต่หัวจรดถุงเท้าสีบานเย็นคู่นั้น ขอย้ำ…สีบานเย็นจริงๆ ครับ แล้วยังไอ้ท่าเท้าเอวยียวนกับหูกางๆ ที่โผล่พ้นออกมาทั้งสองข้าง…ทำไมมัน ‘คุ้น’ จังวะ ไหนหม้าบอกเป็นช่างทาสีไง หรืออาจจะเป็นนักศึกษาที่หางานทำพิเศษระหว่างเรียน ?
อืม…ก็เป็นไปได้
คริสเกือบจะเลิกสนใจแล้วเชียว ถ้าสายตาไม่ไปสะดุดกับอักษรภาษาไทยตัวใหญ่ที่ถูกตวัดด้วยพู่กันในมือของช่างคนนั้น เหนือหัวเตียงเขาขึ้นมาเล็กน้อย…มีสามพยางค์เขียนไว้ที่กลางผนังห้อง…
‘อู๋ ปี้ ฟาน’
ปี้พ่อง!! เห็นแล้วอยากจะตะโกนตอกหน้าไอ้ช่างเวรนี่ว่า ถึงครอบครัวเขาจะเป็นคนจีนแท้ๆ แต่ก็อยู่กินที่ประเทศไทยมากว่าสามปีแล้วโว๊ย! นอกจากจะรู้ว่ามึงเขียนมั่ว กูยังรู้ความหมายมันอีกด้วย!
#บ้ารักคนสติออบซอ
ความคิดเห็น