ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [FIC NCT] ' C R A Z Y ♡

    ลำดับตอนที่ #1 : one

    • อัปเดตล่าสุด 27 ก.ค. 62





    รูปภาพที่เกี่ยวข้อง







    C R A Z Y





    แทยง..เสียงแหบทุ้มเอ่ยเรียกคนตัวเล็กที่สวมเสื้อผ้าตัวโคร่งสีขาว ปักตรงอกอย่างชัดเจน นั่งชันเข่าตรงขอบหน้าต่างอยู่คนเดียวตรงพื้นที่เล็กๆนั้น ดวงตาเรียวกลมโตเหม่อลอย มองออกไปด้านนอกอย่างไม่มีจุดหมาย คนตัวโตกว่าที่สวมเสื้อกาวน์ทับเสื้อยืดของตัวเองเอาไว้กับกางเกงขายาวสบาย เขาได้แต่นั่งตรงข้ามกันมองคนไข้อย่าง ลี แทยง แล้วจ้องคนตัวเล็กไว้นิ่งใบหน้าที่ซูบผอมเพราะอีกคนปฎิเสธการรักษาอีกแล้ว เพราะแทยงนั้นไม่ยอมพูดเลยตั้งแต่เกิดเหตุการณ์ครั้งนั้น ..

     

    ...


    แทยงกินข้าวก่อนนะเสียงเรียกดังขึ้นอีกครั้งทำให้แทยงหันมามองช้าๆพร้อมกับรอยยิ้มหวาน มองดูสดใสเหมาะกับอีกคนจริงๆ เจ้าอีกคนก่อนจะเรียกพยาบาลให้เอาข้าวมาให้ทันที เจ้าของมือหนาที่เป็นหมอประจำตัวพยายามตักข้าวพอดีคำป้อนแทยง ป้อนได้นิดหน่อยใบหน้าหวานมองนิ่งก่อนจะหันหนีในที่สุด

     

    “…”

     

    แทยงกินอีกหน่อยนะกินไปแค่สองคำเอง..


    “…” ไร้ซึ่งเสียงตอบรับกลับมาอยู่ดีมีเพียงเส้นผมสีน้ำตาลอ่อนที่ให้เป็นคำตอบเท่านั้น เพราะว่าแทยงน่ะ ไม่เคยพูด เลยต่างหาก..

     

    เพล้ง!

     

    แทยงมือเล็กปัดจานข้าวที่วางบนโต๊ะใกล้จนหล่นแตกซะก่อน แทยงพุ่งมากอดคุณหมอเจ้าของไข้ไว้แนบแน่น มือหนาได้แต่กอดตัวของอีกคนไว้ก่อนจะลูบหัวเบาๆ แทยงซบลงที่อกแกร่งแต่ยังไม่มีแม้คำพูดอะไร ใบหน้าหวานคลอไปด้วยน้ำตา


    ไม่กินก็ไม่กินเนอะ เดียวผมไปเอาน้ำเกลือก่อนนะครับหมอเจ้าของไข้บอกก่อนจะลูบหัวแทยงเบาๆก่อนจะลูบหลังบางเมื่ออีกคนกอดแนบแน่นมากกว่าเดิมอีกแทบจะนั่งบนตักกันอยู่แล้ว คนตัวเล็กยอมผละออกพยักหน้ารับเบาๆ แทยงมองตามอีกคนที่เดินไปเข็นเสาน้ำเกลือที่แขวนไว้พร้อมกับน้ำเกลือถุงโต

     

    คุณหมอยูตะค่ะ เดียวดิฉันจะเข้าไปเช็ดตรงนั้น ..ฝากจับคุณแทยงทีนะคะเสียงของพยาบาลดังขึ้นที่ด้านหลังเหลือบไปมอง พยาบาลสาวที่ตัวสั่นมือที่กำที่จับรถจับไว้แน่นราวกับจะป้องกันตัวเอง ทำเอายุตะถอนหายใจก่อนจะพยักหน้า ยูตะลากเสาน้ำเกลือมาใกล้บริเวณหน้าต่าง ก่อนจะต่อสายน้ำเกลือเขากับแขนเล็กที่มีเข็มปักไว้ก่อนอยู่แล้ว ยูตะมองก่อนจะนั่งลงฝั่งตรงข้างเหมือนอย่างเคย ดวงตากลมมองอีกคนที่ยิ้มกว้างมาให้ แทยงขยับมานั่งพิงอกแกร่งไว้แล้วมองออกไปนอกหน้าต่าง

     

    เหมือนทุกครั้ง..

     

     

    .

     

    เจโน่ทำอะไร?”เสียงทุ้มเอ่ยถามขึ้นมามอง ร่างที่สมส่วนเส้นผมสีทองสว่างสวมชุดสีขาวสะอาดเหมือนกับห้องที่นั่งเขียนอะไรยุกยิกกับกระดาษหลายแผ่นจนมันปนกันไปหมดบนพื้นห้องสีขาวสะอาด คนตัวสูงกว่าเล็กน้อยที่อยู่ในชุดแพทย์เดินเข้ามาในห้องแล้วนั่งยองๆข้างตัวอีกคน ก่อนจะมองคนตัวเล็กที่มีใบหน้าหวานๆกับรอยยิ้มน่ารักที่นอนราบไปกับพื้นเขียน สงสัยจะไม่เห็นเขาน่ะสิ

     

    ตรงนี้หรอ งืม เพิ่มตรงนี้ดีกว่า

     

    เจโน่พอเขาเรียกเจโน่อีกครั้งคราวนี้ดวงตาเรียวหันมามองก่อนจะเบิกกว้าง แขนเรียวรีบดันตัวเองให้ลุกก่อนจะรีบวิ่งไปนั่งบนเตียงกว้างที่ตั้งอยู่มุมห้อง เจโน่นั้นนั่งตัวสั่นบนเตียงขาเรียวนั่งชันก่อนแขนเรียวจะกอดตัวเองไว้ หมอเจ้าของคนไข้ได้แต่ถอนหายใจก่อนจะเดินเข้าไปใกล้กับกระดาษนับสิบใบที่กองบนพื้น ในตอนแรกอยู่ตรงหน้าเจโน่ก่อนที่จะวิ่งไปหลบ

     

    อย่า!”เสียงหวานดังลั่นห้องทันทีเมื่อเขาท่าจะแตะมันไม่ได้มาแค่เสียงแต่มาพร้อมกับร่างของคนตัวเล็กที่เข้าเป็นหมอเจ้าของไข้เจ้าตัวนั้นแหละ เจโน่ที่กระโดดลงมาจากเตียงมาเพื่อจับแขนเขาไว้ ก่อนเขาจะเก็บมันไปอีกครั้ง เจโน่มองคุณหมอเจ้าของผมสีเทาควันบุหรี่ที่มากลับมาด้วยสายนิ่งๆ ไม่กล้าจับตัวอีกคนแล้ว คนตัวเล็กนิ่งไปก่อนจะเดินกับไปนั่งที่เตียงดั่งเดิม

     

    นี้อะไร?”เสียงทุ้มถามอีกครั้งหลังจากอ่าน กระดาษใบแรกมีตัวหนังสือที่เขียนไว้ .. การฆาตกรรมศพที่18 มือที่ปักบนผิว ลำคอที่ขาว ใบมือเล็กที่ปักจิ้มลง เลือดที่แดงสดที่ไหลริน ใบเลื่อยมี่ปักในผิว กลิ่นหอมที่ลอยคลุ้งริมฝีปากแดงสดที่อ้ากว้างราวกับกรามจะหลุด ... โอเคนี้มันโคตรน่ากลัวเลย แต่ว่าเขาไม่กลัวหรอกมันกลายเป็นความเคยชินเสียแล้ว คนตัวเล็กส่ายหัวรัวๆเมื่อเขาไล่สายตาจากกระดาษเงยมองใบหน้าหวานนั้น มือบางยกขึ้นนิ้วโป้งถูกกัดย้ำๆก่อนจะส่ายหัว คนตัวสูงม้วนกระดาษทั้งหมดนี้ขนาดแค่แผ่นเดียว เขาแนบไว้ที่แขนแกร่ง ก่อนจะเดินมาหาอีกคนที่กัดเล็บจนช้ำม่วงไปหมดแล้ว

     

    อย่าเอาไป อย่าเอาไป อย่าๆๆๆเสียงหวานเอ่ยซ้ำๆอยู่แบบนั้น ดวงตาเรียวกลมที่มองอย่างอ้อนวอน คนตัวสูงถอนหายใจ ก่อนพยายามจะดึงแขนเรียวของเจโน่ออกไม่ให้อีกคนกัด แต่เหมือนว่ายิ่งดึงอีกคนก็ยิ่งดื้อไม่ยอมเลิกกัดรั้งแขนอีกต่างหาก

     

    เพี๊ยะ!

     

    บอกว่าอย่ากัดเล็บมือหนาตบเข้าที่มือเล็กที่เต็มไปด้วยแผลรอยกัด และรอยกัดตามแขนที่มาจากริมฝีปากเรียวเล็กนั้น เลือดมากมายไหลซึมออกมาเพราะอีกคนกัดเล็บที่กุดๆอยู่แล้ว คงเป็นจังหวะเดียวกัดที่เขาตีพอดี คนตัวเล็กมองอีกคนน้ำตาคลอเบ้า ในหัวตอนนี้มีแต่คำๆเดียว

     

    กลัว ..


    อย่าเอางานไปนะ

     

    เดียวจะกลับมาทำแผลให้เสียงหวานเอ่ยอีกครั้งร้องขอไม่ให้อีกคนเอางานไป แน่นอนว่าถูกตัดบทอยู่แล้วแค่บอกตอบกลับไป ก่อนจะเดินเอากระดาษออกไปยังห้องทำงาน โดยทิ้งเจโน่เอาไว้ในห้องคนเดียว เขายืนมองกระดาษมากมายที่ถูกขีดเขียนด้วยลายมือเละบ้างสวยบ้างของเจโน่ มือหนาเลือกจะหยิบกล่องทำแผลก่อนจะเดินออกมา

     

    งานๆ  ไม่ๆเจโน่นั้นที่ถูกทิ้งให้อยู่คนเดียวเดินมาเกาะประตูก่อนจะจิกกลุ่มผมของตัวเองดึงทึ้งไปมาเส้นผมสีทองสว่างฟูฟ่อง หัวเล็กเคาะเข้ากับประตูไปมาจนได้รอยแดงๆมาประทับที่หน้าผาก นิ้วเรียวที่เปื้อนเลือดครูดไปกับประตูกระจกบานใหญ่ ดวงตาเรียวกลมมองก่อนจะยิ้มกว้างรอยเลือดที่เลอะนั้นเจโน่ชอบมัน เจโน่เดินมาหยุดกลางห้อง

     

    กระดาษๆเสียงหวานเอ่ยซ้ำก่อนจะเดินมาหากระดาษที่หมอใจร้ายคนนั้นชอบวางไว้ให้ในห้อง นิ้วเรียวที่ชุ่มไปด้วยเลือด ไหนจะริมฝีปากเล็กที่ทั้งกัดเนื้อตัวเองฟันนั้นกัดโดยที่อีกคนไม่รู้สึกเจ็บอะไรด้วยซ้ำเพราะในหัวเขาต้องการมัน นิ้วเรียวนั้นถูกถูลงกับแผ่นกระดาษ คนตัวเล็กยิ้มกับเลือดมากมายที่ไหลออกมา

     

    กระดาษแผ่นแล้วแผ่นเล่าถูกวาดด้วยเลือด รูปภาพง่ายเช่นผีเสื้อถูกสร้างจากเลือดของเจโน่ที่ยิ้มพอใจกับผลงานของตัวเอง คนตัวสูงเดินมาเปิดประตูก่อนจะมองคราบเลือดบนประตูไหนจะร่างผอมที่นอนกลิ้งบนพื้นอีกแล้ว ยิ่งเห็นเลือดอีกคนออกมากจนมีกระดาษเต็มห้องอีกแล้ว

     

    ทำไมเลือดไหลเยอะแบบนี้เจโน่เจโน่มองหมอใจร้ายที่เดินเข้ามาดุเขาอีกแล้ว มองคนตัวสูงที่เดินเข้ามาภายในห้อง ก่อนเจโน่จะรีบขึ้นไปนั่งบนเตียง คนตัวสูงมองมือเล็กที่กุมกันแน่น ให้เดาคงทำมือตัวเองเละอีกแล้วแน่ๆ

     

    ปะ เปล่า ไม่รู้..

     

    หรอ.. หรือจะให้จับมัดมือเสียงเอ่ยถามจากคนตัวสูงดังขึ้นทำให้เจโน่รีบหันมองกล่องที่มือหนาถือมันตัวสั่นด้วยความหวาดกลัว เข็มฉีดยาที่อยู่ในกล่องถูกหยิบออกมาทำให้เจโน่กลัว ยิ่งอีกคนเดินเข้ามาใกล้ๆ ยิ่งทำคนตัวเล็กแทบจะแทรกเข้าไปในผนังอยู่แล้ว คนตัวสูงดึงแขนขาวก่อนจะจับเข็มให้นิ่งแล้วเสียบเข็มเข้าไป คนตัวเล็กดิ้นทันที

     

    ไม่เคยปราณีเขาซักครั้ง

     

    แจมินเสียงหวานเรียกอีกคนที่ยิ้มให้เขาก่อนดวงตากลมจะปิดสนิท ยืนยันว่าเจโน่นั้นสลบไปแล้ว แจมินถอนหายใจมองเข็มที่ยังเสียบคาอยู่ที่แขนเรียวก่อนจะดึงเบาๆ ก่อนเข็มมันจะเข้าไปลึกกว่านี้หรือมันจะหักคาแขนเรียวนั้น แจมินจับมือเล็กมานั่งทำแผลจับท่าทางนอนให้ดีก่อนจะออกมาเรียกพยาบาลจากด้านนอกทันที

     

    เอ่อ.. คุณหมอค่ะ? คุณเจโน่หลับแล้วนะคะ?”เสียงเอ่ยถามจากด้านนอกทำให้อีกคนถอนหายใจ เขาเปิดประตูอ้าซ่าแบบนี้อีกคนคงไม่หลับหล่ะมั้ง

     

    เข้ามาทำความสะอาดซักที!”

     

    คะ!”พยาบาลสาวสองคนรีบเข้ามาทำความสะอาดทันที ถ้าถามว่าเจโน่น่ากลัวไหมบอกเลยว่ามาก แต่ถ้าเทียบกับคุณหมอแจมินแล้ว น่ากลัวกว่าเจโน่ร้อยเท่าไม่ใช่ว่าจิตอะไรหรอกแต่เพราะความดุความระเบียบเนี่ยแหละ แจมินถอนหายใจก่อนจะเดินออกไปเอาเสาน้ำเกลือกับวิตามินมาให้อีกคน

     

    ขอตัวนะคะ


    เชิญเสียงทุ้มเอ่ยบอกกับพยาบาลสาว ทั้งสองรีบวิ่งออกไปทันทีพร้อมกับของและรถเข็น แจมินจัดการต่อสายยากับน้ำเกลือก่อนจะต่อเข้ากับแขนเล็ก แจมินมองอีกคนที่หลับสนิทบนเตียงมือหนาลูบแก้มนิ่มของเจโน่เบาๆนอนเฉยๆ

     

    ก็น่ารักหรอก

     

    ฝันดีนะครับแจมินก้มใบหน้าลงมาบอกเจโน่ที่นอนบนเตียงกว้าง ก่อนจะกดปลายจมูกลงเข้ากับแก้มกลมซักที แล้วเดินหยิบรูปวาดบนพื้นขึ้นมาถือไว้ ก่อนออกจากห้องเขาไม่ลืมวางกระดาษไว้เพิ่มกับดินสอสามแท่ง อีกคนเดินออกมาพร้อมกับประตูที่ปิดสนิทลง

     

    ไม่วิจัยก็รักษา..

    .

     

    .

     

    พี่เตย..เตนล์สอบที่ที่หนึ่งของชั้นหล่ะ..คนตัวเล็กบอกก่อนจะยื่นเกรดให้อีกคนดูทันที พี่สาวคนสวยที่นอนบนเตียงอมยิ้มก่อนจะลูบหัวกลมของน้องเขาเบาๆ คนตัวเล็กยิ้มก่อนจะกอดคนเป็นพี่สาวที่นอนหลับอยู่บนเตียงผู้ป่วย สายมากมายระโยงระย้าเต็มไปหมด แน่นอนเตนล์จะรีบเรียนให้จบเผื่อมาเป็นหมอรักษาตัวพี่สาวของเขาเอง เขาได้ทุนมาจากไทยหลังจากการสอบระดับภาคพื้นเอเชียและโชคดีโรงพยาบาลที่นี้รับเรื่องของพี่สาวเขาให้มารักษาตัวด้วย

     

    ญาติของคุณมินตรารึเปล่าค่ะ? ผอ.มีเรื่องจะคุยด้วยเตนล์รีบพยักหน้ารับทันทีก่อนจะเดินตามพยาบาลไป พยาบาลเดินนำหน้าอีกคนไปยังห้องประชุม คนตัวเล็กก้มหัวเป็นการขอบคุณก่อนจะเดินเข้าไปโชคดีที่เขาสวมชุดเรียบร้อยพอดี ร่างชายท้วมผมขาวนั่งยิ้มให้เขาอยู่คนตัวเล็กรีบก้มหัวให้ทันที


    ..มีอะไรรึเปล่าฮะ?”เสียงหวานเอ่ยถามแต่กลับได้เสียงปรบมือมาแทน

     

    ดีใจด้วยนะที่ได้คะแนนรวมที่หนึ่งของปีห้าคนตัวเล็กยิ้มให้ทันทีก่อนจะก้มหัวอีกครั้งเมื่อเขาได้รับคำขอบคุณ ได้ยินไม่ผิดแล้วหล่ะเขาอายุน่าจะเรียนแค่มอปลายปีสาม มากสุดคงได้มหาลัยแค่ปีหนึ่งแต่ว่าเขาเรียนข้ามขั้นเพราะว่าเขาสอบผ่านในระดับมากกว่าเด็กปกติเลยได้เข้าเรียนหมอก่อนใครเพื่อน


    ขอบคุณฮะ

     

    อยากทำงานได้เงินไหม?”เสียงแหบเอ่ยถามทำเอาเตนลืนั้นรีบมองทันทีก่อนจะร้องออกมา


    ห้ะ?”

     

    อยากได้เงินมารักษาพี่สาวไม่ใช่หรอ?”เตนล์นั้นรีบพยักหน้าทันที โดยไม่เห็นรอยยิ้มที่เจ้าเล่ห์ของคนตรงหน้าซะเลย เด็กก็คือเด็กอยู่วันยังค่ำจะตามอะไรทันได้ยังไงหล่ะ


    จะให้ผมทำอะไรหรอครับ ถ้าได้เงินแล้ว ..

     

    ก็ที่เรียนอยู่น่ะ ..ไปลาออกซะคนตัวเล็กเบิกตามองอีกคนนิ่งเหมือนร่างทั้งร่างจะชาไปหมด แต่ชายชรากลับยิ้มให้เขาพร้อมกับลุกขึ้นยืนแล้วเดินมาใกล้ แต่เตนล์นั้นกลับถอยหลังไปมันรู้สึกน่ากลัวไม่ใช่แค่ลาออกง่ายๆแน่ อีกปีเดียวเขาก็จะจบจากเรียนหมอแล้ว แต่คนตรงหน้ากลับบอกให้เขาลาออก

     

    อะไรกันว่ะ

     

    !!!


    คงไม่ได้ครับ ผมเองต้องต้องบอกว่าขอ ..เตนล์ผ่อนลมหายใจก่อนจะเลือกที่จะปฏิเสธแทน เตนล์นั้นหันหลังเตรียมจะเดินออกจากห้องแล้ว แต่ยังก้าวไปไม่ได้ไกลเลยเสียงแหบก็เอ่ยขึ้นพร้อมกับข้อเสนอมากมาย

     

    ฉันจะรักษาพี่เธอให้หายแลกกับการไปเป็นหมอในอีกที่แบบนี้ดีไหม เธอจะกลับมาเยี่ยมพี่เธอก็ได้เธอจะได้เงินเดือนที่มากกว่าหมอปกติไม่สนใจหน่อยหรอ?”เตนล์นั้นรีบหันกลับมามอง ก่อนจะกัดปากอย่างใช้ความคิด ชายชรามองหน้าอีกคนอย่างยิ้มๆ เตยล์เม้มริมฝีปากจริงอยู่พี่เขาหายก็ต้องใช้เงินอยู่ดี เตนล์ก้มมองมือหยาบกร้านที่ยื่นมาตรงหน้า ก่อนจะมองใบหน้าที่ยังคงมีรอยยิ้มอีกครั้ง มือเรียวเล็กเอื้อมไปจับ..


    ผมตกลง

     

    .

     

    เฉินเล่อ อินจุนเสียงทุ้มที่จัดการคนไข้ดื้อเงียบให้ไปนอนในห้องแล้ว เดินมาเรียกคนที่อยู่ในชุดกาวน์ทั้งคู่ที่นั่งซบไหล่กันเอง ที่กำลังนั่งดูทีวีในโซนห้องโถงของชั้นกว้างนี้ที่ทางเดินน่ะงงเหมือนในเขาวงกตดีๆเลย ทั้งสองมองก่อนจะรีบก้มหัวเป็นการเคารพ คนตัวเล็กทั้งสองที่นั่งอยู่ยูตะที่มองนิ่งแทบจะไม่ยิ้มเลยถ้าไม่ใช่คนไข้หน้าหวาน

     

    ไปหาตาแก่ที่นั่งตรงห้องประชุมด้วยยูตะบอกก่อนจะเดินไปทำเอกสารที่เขาต้องทำเพื่อวิจัยและประเมินคนไข้ของเขา เฉินเล่อถอนหายใจยาวก่อนจะดึงมือขาวของเพื่อนสนิทให้ลุกขึ้นยืนอินจุนเบ้ปากทันที คนตัวเล็กรีบเดินไปยังห้องประชุม ชายชรานั่งยิ้มด้านข้างมีเด็กสองคนกำลังนั่งมองเขาทั้งคู่ตาแป๋ว

     

    มีอะไรหรอฮะ?”เสียงหวานของเฉินเล่อถามขึ้นก่อนจะมองสองคนที่น่าสงสารที่สุดแล้ว แต่ทำหน้าแบบนี้คงยังไม่รู้แน่ๆ

     

    พาหมอคนใหม่มา ดูแลด้วย

     

    น่าสงสารเสียงของอินจุนพูดออกมาเบาๆ ชายชรายิ้มก่อนจะมองทั้งสี่คนที่เดินออกจากห้องไป ประตูลิฟท์ที่ตั้งอยู่ในห้องประชุมรหัสถูกเปลี่ยนไปทุกครั้ง ชายชราเดินเข้าไปรหัสผ่านถูกตั้งใหม่อีกครั้งก่อนจะเลื่อนลงด้านล่าง  ถ้ามีหมอคนไหนคิดจะหนีก็มีแค่ทางเดียวคือกระโดดลงไปจากตึกโรงพยาบาลแล้วไม่ต้องกลัวว่าจะมีคนขึ้นมาพบ

     

    เพราะนี้มันก็ชั้นบนสุดแล้ว

     

    ทั้งสองคนน่ะเป็นรูมเมทกันนะ มาแนะนำตัวกันดีกว่าเสียงหวานของอินจุนดังขึ้นพร้อมกับพาเดินไปยังทางที่แยกหลายแยกที่วกไปมาพอสมควร อินจุนพาอีกคนมายังห้องโถงที่เป็นยังจุดศูนย์กลางของชั้น คนตัวเล็กสองคนวางกระเป๋าไว้รวมกันก่อนจะเดินมานั่งโซฟาตามทั้งคู่

     

    อินจุนไปเอาป้ายมาเถอะน่าเสียงหวานของเฉินเล่อนั้นเอ่ยบอกขึ้นมา อินจุนพยักหน้าก่อนจะไปถือแผ่นกระดานสีขาวออกมา แล้วมาวางตรงหน้าทุกคน อินจุนชี้รูปบนสุด ชายที่มีใบหน้าดูดุแต่ก็ดูดีไม่หยอก กำลังยิ้มให้อยู่ในชุดสูทโรงพยาบาลกับด้านข้างที่มีคนหน้าดุกว่าเยอะเลยทำหน้านิ่งส่งมาให้

     

    สองคนนี้คือพี่ยูตะกับแจมิน พี่ยูตะน่ะเป็นหัวหน้าของทั้งที่นี้ว่าง่ายๆเขาสั่งอะไรก็ทำ ส่วนแจมินก็ไม่ได้อะไรหรอกดุนิดนึงแต่จริงๆขี้เล่นน้า เอาง่ายๆที่นี้ไม่นับอายุกันหรอกนะเฉินเล่อบอกก่อนจะยิ้มให้ทั้งคู่พยักหน้าอย่างเข้าใจ

     

    ส่วนนี้แจฮยอนเป็นคุณหมอที่อยู่ห้องยาประจำ ส่วนนี้พี่แทอิลหรือหมอมูน นิสัยออกจะแปลกๆหน่อยระวังด้วยหล่ะเสียงหวานของอินจุนบอกก่อนจะยิ้มให้สองคนที่พยักหน้ากันหงึกหงักแบบเข้าใจ อินจุนเดินเอาป้ายไปเก็บก่อนจะเอากล้องมาถ่ายทั้งคู่แล้วส่งให้พยาบาลที่เดินผ่านมานำไปล้าง

     

    ส่วนเราชื่ออินจุน

     

    เราชื่อเฉินเล่อเรียกเล่อก็ได้นะทั้งสองพยักหน้ายิ้มๆ


    ตาพวกนายแนะนำตัวแล้วเดียวอินจุนจะได้พาเราทั้งคู่ไปเก็บของไงเฉินเล่อนั้นยิ้มหวานส่งมาให้ ทั้งสองพยักหน้าก่อนคนตัวเล็กที่มีผมสีน้ำตาลอ่อนแถมหน้าแอบดูดุแต่ก็ดูสวยไปในตัว มือยกมือขึ้นเป็นการแนะนำตัวก่อน

     

    เราเซียวจวิ้นนะ เรียกจวิ้นก็ได้เหมือนกันยังไงก็ฝากตัวด้วยนะครับ

     


    ส่วนเราเตนล์คนตัวเล็กที่มีผมสีดำสวมแว่นกลมใสขอบทองอยู่เอ่ยก่อนจะยิ้มกว้างทำเอาทุกคนน่ะเผลอยิ้มตามทันที อินจุนกับเฉินเล่อพยักหน้ารับอย่างเข้าใจบอกแล้วที่นี้ไม่มีการนับอายุกัน อินจุนรีบพาคนทั้งคู่ไปยังห้องพักทันที เฉินเล่อยังคงนั่งอยู่ที่เดิมก่อนจะถอนหายใจ เขาสงสารเดินสองคนนั้นโดนหลอกมาที่นี้มากกว่าเต็มใจมาน่ะ

     

    เฉินเล่อเสียงทุ้มดังขึ้นจากด้านหลังเก้าอี้ที่เขานั่ง ทำให้เฉินเล่อต้องหันไปมองร่างของเด็กชายตัวโตอยู่ในชุดของโรงพยาบาลสีขาวสะอาดนั้นกำลังเดินมาหาเขา ก่อนจะนั่งลงข้างๆกัน มือบางรีบแหวกคอเสื้ออีกคนออกแผลเป็นของจีซอง หรือปาร์ค จีซอง ที่เป็นยาวเหมือนโดนฟันเข้าเนื้อแต่ไม่ได้ขาดจากกัน มันเริ่มมีเลือดซึมๆจนกลายเป็นแผลสดภายในพริบตา


    ตะ ตื่นแล้วหรอ?”คนตัวเล็กถามเสียงสั่นทันทีไม่ชินเวลาจีซองมานั่งกันใกล้ๆ ใบหน้าคมพยักรับเบาก่อนจะผีเสื้อสีแดงเลือดสด หรือว่าง่ายๆมันคือเลือดของจีซองนั้นแหละ ผีเสื้อค่อยๆบินออกมาจากปากแผลมันขยับปีกเล็กน้อยแล้วบินออกไปไกล คนตัวโตซี๊ดปากด้วยความเจ็บเพราะมันไม่ได้ตัวเล็กๆเลยก่อนจะมองหน้าคุณหมอตัวเล็ก

     

    คิดถึงจังเสียงทุ้มบอกขึ้นมาก่อนจะเลื่อนตัวไปล้มลงนอนหนุนตักนิ่มของเฉินเล่อ มือหนากอดเอวผอมของเฉินเล่อเบาๆ แต่กลับได้ยินเสียงสูดปากด้วยความเจ็บจากคนตัวเล็ก


    ผมขอโทษเสียงทุ้มบอกก่อนจะยิ้มให้เจ้าของตักนิ่มนี้ทำเอาคนที่กัดฟันเผลอหลุดยิ้มจนได้ เฉินเล่อมองก่อนจะลูบหัวของจีซองเบาๆเส้นผมสีแดงสดออกส้มๆ ผีเสื้อตัวเดิมบินมาหยุดที่แผลอีกคนก่อนจะกลายเป็นเพียงหยดเลือดธรรมดาซึมเข้าแผลไป แผลสดกลับกลายเป็นแผลเป็นดังเดิมพร้อมกับลมหายใจสม่ำเสมอของอีกคนเฉินเล่อนั้นลูบหัวโตของอีกคนเบาๆ

     

    ฝันดีนะเสียงหวานบอกจีซองที่นอนกอดเอวเขาหลับสนิทไปแล้ว มือเรียวเล็กลูบเส้มผมนั้นเบาๆจนมือเขานั้นขึ้นรอยช้ำ จริงๆเขาเองก็ไม่รู้ว่าโรคของจีซองมันคืออะไร แต่ว่าจีซองไม่สามารถใช้ชีวิตกับคนอื่นได้เลย เวลาที่เด็กตัวโตนี้โมโหจะมีมีดคมที่ทำจะเลือดมากมายออกมาจากแผลของอีกคน ฆ่าคนที่ทำให้เด็กตัวโตนี้โมโหจนราบไปหมด ทุกคนถึงส่งตัวจีซองมาที่นี้ครั้งแรกที่เขาเจอจีซอง อีกคนเพิ่งจะสิบขวบตอนนั้นเขาก็ห่างจากจองกุกแค่ไม่กี่ปีเอง..


    อืม..เสียงครางหลับของจีซองดังขึ้นเรียกรอยยิ้มได้ดี เฉินเล่อมองอีกคนที่หลับคาตักเขาแล้ว ก่อนจะแหวกเสื้อกาว์นของตัวเอง แล้วดึงเสื้อเชิ้ตสีฟ้าอ่อนออกจากกางเกง รอยแผลช้ำขึ้นตามรอยที่จีซองกำลังกอดตัวเขา เฉินเล่อถอนหายใจเบาๆ ทุกครั้งที่ เด็กตัวโตจับใครจะได้รอยแผลช้ำๆกลับมา ทุกคนถึงเป็นห่วงเขามากที่สุดเลยหล่ะมั้ง

     

    จีซอง .. เฮ้ เฉินเล่อให้พาเจ้าเด็กนี้ไปนอนที่ห้องไหมไม่งั้นแจฮยอนคงโกรธน่าดูที่นายตัวช้ำเป็นจ้ำๆเลยหล่ะนะเสียงทุ้มของแจมินดังขึ้นเพราะเดินผ่านมาพอดิบพอดี แต่เฉินเล่อน่ะกลับส่ายหน้ายิ้มๆกลับไปให้แทน แจมินเลยถอนหายใจก่อนจะเดินไปยังอีกฝากที่เป็นยังห้องพักผู้ป่วยของตัวเอง เฉินเล่อมองจีซองที่นอนหนุกตักเขาแถมยังยิ้มอีก

     

    ว่าง่ายๆเลยเฉินเล่อกำลังรักคนไข้ของตัวเองแล้วสิ..


    ตอนนี้พวกเรายังไม่มีคนไข้ประจำตัวกันก็ไปช่วยๆดูแลกันได้นะรู้ไหม? เพราะที่นี้ก็มีพยาบาลแค่สามสี่คนเอ

    อินจุนบอกทันทีที่มาส่งทั้งคู่ที่ห้องพักแล้วเขายืนมองทั้งสองที่ต่างเก็บของของตัวเอง ทั้งคู่พยักหน้าก่อนจะเดินแยกฝั่งเตียงใครเตียงมันเก็บของ อินจุนเดินกลับมาก็เห็นเพื่อนสนิทกำลังให้เจ้าเด็กตัวโตมีพลังเกินคนปกตินั้นนอนหนุนตักอยู่

     

    เจ็บม่ะ?”เสียงหวานของอินจุนเอ่ยถาม เฉินเล่อที่เอาแต่มองจีซองอยู่นั้นแหละ แต่กลับได้สายตาดุๆกลับมาแทน อินจุนนั้นหัวเราะร่าก่อนจะเดินไปทางห้องยา จริงๆเขาก็ยังไม่มีคนไข้ประจำเหมือนกันถ้ามีเอกสารจะถูกส่งขึ้นมาด้านบน แล้วคนที่จะได้รับงานก็คงมีแต่แจฮยอนที่รู้ซะส่วนใหญ่ ก็แจฮยอนเป็นแผนกยานี้อยากได้อะไรก็ต้องสั่งลงไปข้างล่างยังไงทุกอย่างก็ต้องผ่านแจฮยอน

     
    มีหมอมาใหม่หรอ?”เสียงหวานของแจฮยนเอ่ยถามขึ้นทั้งที่ตายังอ่านหนังสือเคมีอยู่เลย

     

    อืมมาตอนอายุเท่าๆกันเลยอินจุนบอกอย่างขำๆ แจฮยอนเลยยิ้มตามก่อนจะยื่นแฟ้มเอกสารสีน้ำตาลแฟ้มโตให้พร้อมกับกล่องเอกสารอีกกล่องให้ด้วย อินจุนนั้นรับมาก่อนจะมองอย่างงงๆ ก็ทั้งแฟ้มแล้วกล่องมันไม่ไม่ได้เขียนชื่อเขาไว้เลย

     

    ของเด็กที่ชื่อเซียวจวิ้นน่ะเดียวเอาไปให้เอง ส่วนของเราน่ะสามกล่องนู้นแจฮยอนบอกก่อนจะชี้ไปอยู่ตรงมุมห้องกล่องเอกสารที่เรียงกับสามกล่องใหญ่ๆแถมมีรถเข็นวางไว้ข้างกัน ใบหน้าหวานพยักรับๆ คนไข้ประจำตัวเขามาแล้วน่ะ

     

    ดีใจเชียว..

     

    ไปแล้วน้า ~”เสียงหวานบอกก่อนจะยกลังสามกล่องใส่รถเข็นเข็นออกจากห้องไป อินจุนเดินผ่านเพื่อนสนิทอย่างเฉินเล่อที่ตอนนี้หลับคู่กันเลย อินจุนยิ้มก่อนจะแบกกล่องกลับห้องพักทันทีปล่อยให้พี่ยุตะดุกันเองละกันน่ะ อินจุนแกะกล่องแรกดูก่อนจะมองชื่ออีกคนทันที

     

    ลี ดงฮยอก ..แฮชาน

     

    .


    ก๊อก ก๊อก

     

    แปบนะครับเสียงหวานดังลอดออกมาจากในห้องพักของคุณหมอคนใหม่ ก่อนประตูจะเปิดออกแจอยอนยิ้มให้คนตัวเล็กทั้งสองคนที่ก้มหัวให้เขา ก่อนจะเดินเข้ามาพร้อมกล่องกับแฟ้มอันใหญ่ แจฮยอนยื่นให้คนตัวเล็กที่มีใบหน้าสวยดุผมสีน้ำตาล ก่อนจะส่งยิ้มลาแล้วเดินออกจากห้องไป

     

    หือ.. คนไข้ประจำตัวของคุณหมอเซียวจวิ้นเสียงหวานเอ่ยอ่านหน้าแฟ้ม เตนล์เดินมาดูก่อนจะช่วยกันแกะกล่องดู ตาโตไล่มองประวัติก่อนจะกลืนน้ำลายเบาๆ ตอนเขามาที่นี้ใหม่ๆเขาถูกชายชราที่พาเขามาที่นี้ไปเจอเขาที่สนามสอบเข้าแพทย์ การสอบเข้าต้องหยุดลงเพราะชายชราคนนั้น เพียงเพราะเข้าอายุน้อยที่สุดในสนามสอบ แน่นอนเขาถูกยื่นข้อเสนอต่างๆ ครอบครัวเขาจนมาก ถ้ามาทำงานที่นี้เขาจะมีเงินส่งไปให้พี่แม่และน้อง ในจำนวนเงินที่คาดไม่ถึงเลย

      

    เฮนเดอรี่หรอ?”เสียงของเตนล์นั้นอ่านประวัติก่อนจะทำให้เซียวจวิ้นนั้นหลุดจากภวังค์ พอเขาอ่านประวัติคร่าวๆอีกคนเป็นตำรวจหน่วยพิเศษที่เรียกว่าเงา ถึงจุดอิ่มของงานทำให้ส่งมาบำบัดที่นี้ มันก็แปลกๆนะ สงสัยคืนนี้เขาต้องมานั่งอ่านจริงๆจังๆ ที่เหลือหล่ะเขาต้องรีบไปดูคนไข้ของเขาแล้ว ..

     

    ไปก่อนนะเซียวจวิ้นบอกก่อนจะเดินไปเอาชุดกาวน์ในตู้มาใส่แล้วหยิบปากกากับกระดาษแล้วก็แฟ้มสำหรับใส่ผลตรวจอีกคน เตนล์นั้นยิ้มให้ก่อนจะจัดของของเซียวจวิ้นให้เข้าที่แทนอีกคนที่ต้องไปดูคนไข้ก่อน เซียวจวิ้นเดินออกมาก่อนจะจำทางเดินที่อินจุนพาเดินมา หยุดที่โซนห้องพักผู้ป่วยยังมีห้องว่างอีกมากมายที่คนไข้ไม่ได้มาอยู่

     

    หือ? 01 ลี แทยง 07 ปาร์ค จีซอง 06 ลี เจโน่ 00 ลี ดงฮยอก 03 เฮนเดอรี่ อ่ะนี้ไงเสียงหวานไล่ตัวเลขตามประตูก่อนจะค่อยๆกดรหัสประจำตัวแพทย์ของตัวเองเพื่อเข้าห้องไป เซียวจวิ้นก็แอบไม่เข้าใจว่าทำไหมห้องของเขาถึงต้องใส่รหัสด้วย แต่บางห้องก็ไม่ต้องใส่แถมตัวเลขห้องก็ไม่เรียงกันอีก ซับซ้อนจริงๆ สงสัยต้องแอบไปถามอินจุนแล้วหล่ะ

     

    สวัสดีครับเสียงหวานเอ่ยทักไปก่อนจะมองเฮนเดอรี่ที่นอนลืมตาอยู่ เซียวจวิ้นมองก่อนจะเดินเข้าไปใกล้อีกคน คนตัวโตที่นอนอยู่กลับลุกขึ้นนั่งก่อนจะจับแขนเล็กอีกคนไว้จนคนตัวเล็กต้องเบ้ปาก แรงบีบที่เจ็บจนเขารู้สึกว่ามันต้องช้ำแน่ๆ

     

    เอ่อ คือหมอมารบกวนหรือเปล่า?”เสียงหวานเอ่ยถามก่อนจะนั่งลงข้างๆ คนไข้ของเขาแทน 

     

    เปล่าเสียงทุ้มบอกทั้งๆที่ยังจับบีบแขนเรียวไว้แน่น เซียวจวิ้นพยักหน้าเบาๆอย่างเข้าใจ ก่อนจะเปิดแฟ้มด้วยมือเดียว แล้วจดบันทึกตามที่เขาเห็นเฉยลักษณะทางกายภาพและสภาพอารณ์ การบีบแขน ต่างๆที่เขาพอจะไปต่อยอดจากนี้ไปได้ เฮนเดอรี่มองคุณหมอตัวเล็กที่นั่งจดไม่สนใจเขาเลย คนตัวเล็กที่กำลังจดอยู่ต้องหันมอง ทันทีว่าอีกคนกำลังจ้องอะไรอยู่

     

    มีอะไรรึเปล่า อ๊ะ!”เสียงหวานกลืนหายไปกับลำคอ เมื่ออีกคนประกบจูบเข้ามาอย่างรุนแรงและมือหนาก็ลูบไปทั่วแผ่นหลังเล็กทันทีที่ริมฝีปากเข้าถูกปล่อยให้เป็นอิสระ ก็รีบโกยอากาศเข้าทันทีได้รสชาติคาวเลือดหน่อยเพราะแรงกระแทก ฟันคมของคนตัวโตขบกัดเข้าที่คอขาว

     

    ชะ ช่วยด้วยอื้อ!”เสียงหวานตะโกนลั่นห้องทันทีหวังว่ามีคนจะได้ยินเขาก่อนที่มันจะมากไปกว่านี้ ทันทีที่ได้ยินเสียงหวานกำลังจะขอความช่วยเหลือ ริมฝีปากเรียวเลยวกกลับขึ้นมาจูบอีกคนทันที เซียวจวิ้นนั้นดิ้นให้หลุดจากอ้อมกอดทันที แต่มือหนากับจับแขนสองข้างเขาไว้แน่น

     

    เห้ยทำอะไรกัน!? แจมิมช่วยห้องนี้ก่อน!”เสียงหวานดังลั่นที่หน้าห้องถ้าจำไม่ผิดนั้นอาจจะเป็นเสียงของเฉินเล่อรึเปล่า แต่เขารู้สึกชาไปทั่วทั้งลำคอ เซียวจวิ้นแทบจะสลบคาอ้อมกอดของเฮนเดอรี่ที่กำลังกัดคอเขากัดจริงๆ เซียวจวิ้นสลบไปเพราะได้กลิ่นคาวเลือดจางๆกับอะไรเปียกชื้อแถวต้นคอ ก่อนจะรู้สึกว่าเหมือนมีคนอุ้มเขาออกไป

     

    แล้วทุกอย่างก็เป็นสีดำ ..

     

    ตื่นแล้วหรอ?”เสียงหวานของแจฮยอนนั้นถามขึ้น คนตัวเล็กค่อยยันตัวเองขึ้นนั่งรู้สึกแสบไปทั่วทั้งคอเหมือดดนกระชากคอหลุดจริงๆ มือเรียวนั้นจับที่ต้นคอมีผ้าก๊อซแปะแผลแปะอยู่แค่สัมผัสก็ต้องซี๊ดปากทันที แค่มือเรียวนั้นลูบเบาๆก็เจ็บไปทั่วทั้งคอ


    อือครับ

     

    วันหลังเข้าไปต้องพกพวกยาสลบด้วยนะ พี่ต้องจัดเราเข้าอยู่ในหมวดเดียวกับเฉินเล่อแล้วหล่ะ พวกเขาใกล้คนไข้แล้วได้แผลน่ะแจฮยอนบอกก่อนจะลูบหัวกลมเบาๆด้วยรอยยิ้ม เซียวจวิ้นพยักหน้าก่อนจะลุกจากเตียงแฟ้มเอกสารเข้ายังอยู่ครบ เซียวจวิ้นถอนหายใจก่อนจะเดินออกมาจากห้องยา


    ตัวเล็กเป็นไงบ้าง?”

     

    “??เซียวจวิ้นรีบเงยหน้ามองคนที่ตัวสูงกว่าเขามีผมสีควันบุหรี่ใบหน้าเรียบนิ่ง ด้านข้างมีคนตัวเล็กกว่าแต่มีเรือนผมสีดำสนิทที่ยืนยิ้มส่งมาให้

     

    ดีขึ้นแล้วครับ แจมินกับ?”

     

    หมอมูนเสียงหวานตอบก่อนจะยิ้มกว้าง กว้างแบบกว้างมากทำเอาเขานึกถึงเจ้าแมวอ้วนจากหนังเรื่องอลิซกับดินแดนมหัศจรรย์ แจมินลูบหัวเซียวจวิ้นเบาๆ ก่อนจะเดินแยกออกไปแทอิลเองก็ลูบหัวเล็กเบาๆ ก่อนจะยิ้มให้บ้าง เซียวจวิ้นเลยได้แต่ยิ้มให้แทอิล


    ระวังตัวเองด้วยหล่ะยิ่งตัวเล็กๆอยู่พวกพี่ดูเรากันไม่ได้ตลอดนะเซียวจวิ้นพยักหน้าไหนอินจุนกับเฉินเล่ออยู่แบบพี่น้องแต่อีกคนแทนตัวว่าพี่ก้งงๆอยู่เหมือนกัน แทอิลที่บอกก่อนจะเดินจากไป เซียวจวิ้นรีบเอามือแตะริมฝีปากที่บวมเจ่อเบาๆ งั้นก็แสดงว่า..

     

    คนไข้ขโมยจูบแรกเขาไปแล้วสินะ!!

     

    .

     

     

    เจโน่อยากออกไปเดินเล่นไหม?”แจมินหันมาถามเจโน่ที่นอนอยู่กลางห้องวาดรูปเล่นโดยมีเขานั่งบนเตียงมองเจโน่ที่วาดรูปอยู่ห่างๆเพราะกลัวอีกคนจะกลัวเขาจนตัวสั่นอีก เจโน่หันมองก่อนจะวาดรูปอีกสักแปบ ก็วางสีก่อนจะเดินมาหาเขาทันที ขาเรียวนั่งยองบนเตียงข้างๆตัวของแจมิน


    พาไปข้างนอกห้องหรอ? มีเมฆรึเปล่า?”เสียงหวานถามขึ้นมาก่อนจะขยับตัวมานั่งคร่อมตักแกร่งไว้แทน ปกติแล้วที่เจโน่ทำแบบนี้เวลาอ้อนแจมินรับรู้มันเป็นผลของอาการทางจิตเท่านั้นแหละ แจมินมองเจโน่นิ่งๆก่อนจะตอบกลับไป

     

    จะพาไปดูเมฆเอาไหม? แต่ต้องไม่ดื้อนะ


    เอาๆๆเสียงหวานของเจโน่นั้นตอบก่อนจะกอดคอของแจมินเอาไว้เสียแน่น แจมินอุ้มเจโน่ที่กอดคอเขาไว้ไหนจะขาเล็กก็เกี่ยวเอวเขาไว้ออกมาด้านนอกเหมือนกับอุ้มลูกดีๆเนี่ยแหละ ยูตะหันมามองแจมินที่อุ้มเจโน่คนไข้ที่เหมือนจะฤทธิ์น้อยแต่เปล่าเลยหล่ะออกมาจากห้อง พยาบาลสาวรีบเข้าไปทำความสะอาดห้องทันทีก่อนที่เจโน่จะรู้ตัวไหนจะสีกับกระดาษมากมายที่เจโน่หวงไม่หยอก ทำให้ห้องดูสะอาดขึ้นเยอะ แจมินพาเจโน่มายังหน้าต่างอีกบาน ใกล้ๆกับบานที่แทยงนั้นได้นั่งอยู่

     

    เมฆเต็มเลย ดูๆ ดูสิเสียงหวานร้องขึ้นทันทีไหนจะมือที่ตะปบกระจกไปมา เสียงแปะมือกับกระจกดังอยู่ตลอด แจมินปล่อยให้อีกคนยืนบนขอบหน้าต่างบานโตให้อีกคนเล่นให้พอ พอที่จะเก็บห้องพักของเจโน่ได้หมด แจมินมองเจโน่ที่ยิ้มกว้างไหนจะดวงตาที่ดค้งจนเหมือนว่าตาก็กำลังยิ้มอยู่ก่อนจะยิ้มตาม มือเล็กแปะลงที่กระจกก่อนจะมองท้องฟ้าอย่างเหม่อลอย


    แจมเจโน่เอ่ยเรียกแจมินที่นั่งขอบอีกด้านเงยหน้ามองเจโน่ที่ยืนมองด้านนอก ไอน้ำที่เกาะกระจกจากริมฝีปากเรียวอิ่มนั้นทำให้หน้าต่างกลายเป็นไอก่อนจะเขียนตัวอักษรภาษาอังกฤษตัวแล้วตัวเล่าถึงได้หันกลับมาหันมองอีกคน แจมินมองเจโน่ที่ส่งยิ้มหวานให้หลังจากเขียนเสร็จ มีแค่คนตัวเล็กคนนี้เท่านั้นที่เรียกเขาแบบนี้

     

    ให้เขาเขียนงาน งาน ๆทำงานนะเสียงหวานเอ่ยขอแจมินไหนจะท่าทางแสนออดอ้อนนั้นอีก ทำเอาแจมินถึงกับถอนหายใจทันทียกมือขึ้นเกาคิ้วก่อนจะมองริมฝีปากเล็กที่ยู่ลง ไม่ใช่ไม่อยากให้ทำแค่ตอนนี้เขาให้ยาระงับประสาทขนานแรงมากแล้วเพื่อไม่ให้เจโน่คลุ้มคลั่งหลังจากเขียนกระดาษพวกนั้น ก็แทบจะคุมไม่อยู่ถ้าให้เจโน่กลับมาเขียนงานแบบครั้งนั้นอีก

     

    แจมินขอไม่เสี่ยงดีกว่า


    ไม่เอา กลับห้องได้แล้วแจมินบอกขึ้นมาก่อนจะดึงอีกคนลงจากขอบหน้าต่างแต่ท่าทีขัดขืนนั้นทำเอาแจมินถอนหายใจ เจโน่รีบเอามือแปะหน้าต่างก่อนจะจิกเบาๆนิ้วเรียวที่มีแต่เล็บสั้นๆจึงขูดอะไรไม่ได้อีก แจมินได้แต่ถอนหายใจก่อนจะดึงเอวผอมให้ลงจากขอบหน้าต่าง

     

    ปล่อยเจโน่ ปล่อย ฮึก!”ยูตะหันมามองหน้าต่างบานข้างๆให้เดาคนไข้ของแจมินคงแผลงฤทธิ์อีกแล้วแน่เลย ยูตะมองแจมินที่อุ้มเจโน่ลงจากขอบหน้าต่าง เจโน่ทั้งดิ้นทั้งทุบแขนที่เกี่ยวเอวเอาไว้ไหนจะร้องไห้ออกมาก่อนจะแหวกชุดกาว์นของแจมินกระชากเสื้อเชิ้ตสีอ่อนออกก่อนจะกัดไหล่แกร่งจนเป็นรอยเขียวช้ำย้ำๆอยู่ที่เดิม แต่แจมินกลับนิ่งแล้วพาเจโน่กลับห้อง ยูตะมองแทยงเองก็มองตามคนทั้งคู่ ก่อนจะหันกลับไปมองหน้าต่างด้านนอก

     

    เลิกกัดได้แล้ว

     

    เจโน่อยากเห็นเมฆอีก แจมจะเอาเมฆ นะๆเสียงหวานบอกแจมินที่เขาหิ้วเขาไว้ขาเรียวตีไปมา แจมินพาเจดน่นั้นมานอนเตียงที่ปูใหม่แล้ว แจมินจัดการจับให้เจโน่นั้นนอนลงบนเตียงดีก่อนจะห่มผ้าให้เจดน่ไม่ได้ดิ้นกลับนอนมองหน้าเขาไว้ เสาน้ำเกลือที่พยาบาลนั้นเตรียมไว้ให้แล้ว แขนแกร่งจับแขนเล็กมาก่อนจะต่อสายน้ำเกลือกับเข็มที่ยังคงติดไว้กับมือเรียวเล็ก

     

    นอนก่อนแล้วตื่นมาจะเห็นเมฆโอเคนะครับแจมินเอ่ยบอกเจโน่ที่นอนจ้องเขาตาแป๋วแค่ตอบออกมาเป็นคำตอบที่ตรงใจเจโน่นั้นยิ้มร่าทันที มือหนาลูบหัวกลมเบาๆเพื่อให้อีกคนไม่ดื้อ เจโน่หลับตาพริ้มก่อนจะหลับไปในที่สุดไม่บ่อยนั้นที่เจโน่จะยอมนอนง่ายโดยที่ไม่ใช้ยาสลบ แจมินถอนหายใจยาวไม่รู้วันๆหนึ่งเขาถอนหายใจกี่รอบกันเขาทั้งเหนื่อยทั้งท้อมากๆ ที่เจโน่เป็นแบบนี้ก็เพราะว่าอีกคนชอบเขียนหนังสือฆาตกรรม เขียนเพื่อตอบสนองความสุขของตัวเองที่ชอบการทรมาน เป็นการหมกหมุ่นที่เขาพยายามจะศึกษาให้เข้าใจ แต่พอเจโน่นั้นได้ยาระงับประสาทก็กลายเป็นเด็กซื่อๆคนหนึ่ง

     

    ฝันดีนะคุณนักเขียน ..

     

    เฉินเล่อไหวแน่นะครับเตนล์เอ่ยถามชายตัวขาวใบหน้าจีนแท้ที่ทำทุกอย่างตามปกติแต่ว่ามีรอยช้ำๆตามแขนขาวไปหมด เฉินเล่อส่ายหัวก่อนจะยิ้มๆให้แสดงให้รู้ว่าเขาโอเค เตนล์ถอนหายใจยาวไม่รู้ว่าเฉินเล่อได้แผลมาได้ยังไงที่นี้ก็ดูไม่ค่อยจะไม่ใครเท่าไหร่ ก่อนเตนล์จะเดินมานั่งดูทีวีที่ห้องโถงใหญ่โดยมีเฉินเล่อนั่งข้างๆ พอมองไปที่หน้าต่างก็เจอคนไข้ตัวเล็กนั่งมองออกไปโดยมียูตะนั่งเป็นเบาะให้แทยงนั่งซบ

     

    อินจุนนี้จะไปไหนน่ะ? มานั่งดูทีวีด้วยกันไหม?”เฉินเล่อหันไปถามเพื่อนสนิทเมื่อเห็นว่าอินจุนกำลังจะเดินผ่านไปพอดี อินจุนหันมาบอกก่อนจะรีบวิ่งออกไป เตนล์มองคนตัวเล็กที่รีบวิ่งออกไป ก่อนจะถอนหายใจยาว

     

    เดียวมาๆ รีบอยู่ตอนนี้

     

    เซียวจวิ้นมาดูทีวีกันเปล่า?”เสียงหวานของเฉินเล่อเอ่ยถามคนตัวเล็กที่เดินตามหลังกับอินจุนมา เจ้าตัวพยักหน้ารับตามคำขอก่อนจะอ้าปากหาวหวอดๆแอบแว๊บไปกินข้าวที่ห้องพักพยาบาลที่มีแม่บ้านทำกับข้าวไว้ ถามพยาบาลที่นั่งอยู่ก็เพิ่งรู้ว่าแม่บ้านทั้งหมดถูกห้ามเข้าในห้องคนไข้เลยอยู่ในครัวบ้านห้องน้ำตามทางเดินแต่ก็มีอยู่น้อยจริงๆ ผ้าก๊อซที่คอใหญ่เด่นหราจนรูมเมทต้องเอ่ยถามขึ้น

     

    เมื่อคืนไปไหนทำไมไม่กลับห้อง ไหนแผลที่คออีกดูหน่อย เห้ยรอยฟันเลยเตนล์ที่แกะผ้าก็อซดูร้องก่อนจะเงยหน้ามาถามอีกคนที่สะบัดหัวไปมา เซียวจวิ้นไม่ได้ว่าอะไรเพราะเขายังคงง่วงๆอยู่เลยปล่อยให้เตนล์ทำนู้นนี้ได้ตามสบาย แถมตัวเขายังอิงนอนซบเฉินเล่อซะอีก


    ก็เมื่อวานจะกลับไปแล้วแต่ต้องนั่งเฝ้าคุณเฮนเดอรี่น่ะสิ ยานอนหลับให้แล้วก็ไม่ยอมหลับเจอไปสามโดสยิ่งกว่ายาสลบช้างอีก แถมยังกัดด้วยดิเซียวจวิ้นบ่นเบาๆก่อนจะทำท่าทางเหมือนเป่าลูกดอกยาสลบช้างจริงๆตาเรียวก็ยังปรือด้วยความง่วง เตนล์ขำก่อนจะมองบุคคลที่เดินมาก่อนจะเดินมาดึงแขนเรียวของเตนล์ไปทันที

     

    เอ่อ.. คือ


    ชื่อแทอิลเสียงนุ่มตอบกลับมาแม้ว่าจะยังไม่ทันได้หันมามองเลยทำให้เตนล์ถึงกับขมวดคิ้วไม่น้อย ก็เตนล์น่ะไม่ได้จะถามชื่อซะหน่อยเขาจะถามอีกคนว่าพาไปไหนต่างหาก แทอิลลากคนตัวเล็กมายังห้องประชุมก่อนจะเดินเข้าไปพร้อมกัน เตนล์มองชายชราที่ส่งยิ้มมาให้เหมือนเคยทุกครั้งที่เจอกัน เตนล์นั้นรีบเดินไปหาทันที ก่อนจะนั่งตรงข้ามชายชราที่มียศเป็นผู้อำนวยการที่นี้ทันที

     

    พี่สาวผมเป็นยังไงบ้างครับเตนล์เอ่ยถามขึ้นมาชายชรายิ้มให้ก่อนลุกจากเก้าอี้แล้วเดินมาหาเขามือหยาบกร้านลูบหัวกลมเบาๆ


    ฉันดูแลอย่างดีเลยหล่ะ วันนี้ขึ้นมาหาจริงๆก็คงเป็นเพราะแฟ้มนี้ของเธอและนี้ของแทอิลเสียงแหบพร่าบอกก่อนจะพายมือไหนบนโต๊ะที่มีแฟ้มวางไว้เพียงแค่สองแฟ้ม แทอิลเดินมานั่งลงข้างๆเตนล์ก่อนจะเบะปากออกมา เตนล์สังเกตเห็นเหมือนว่าแทอิลมีอะไรพิเศษ

     

    ให้คนข้างล่าส่งมาก็ได้ไม่ต้องลำบากเดินขึ้นมาเองหรอกแทอิลนั้นบ่นเบาๆ ชายชรากลับหัวเราะก่อนจะเดินจากไปในลิฟท์ตัวเดิม แทอิลมองแฟ้มในมือก่อนจะถอนหายใจ เตนล์แอบเปิดประวัติอ่านก่อนจะเข้าใจแล้วว่าทำไม ชายชราต้องเป็นคนเอาขึ้นมาให้เองกับมือ ก็คนที่กำลังจะย้ายมามีนามสกุลเป็นถือหลานของท่านประธานาธิบดี


    วินวิน..ชื่อเพราะแฮะไปเล่นด้วยดีกว่า ดูสิว่าจะเก่งแค่ไหนกันนะเตนล์หันไปมองแทอิลที่แทบจะวิ่งออกไป เขาบอกแล้วว่าแทอิลน่ะแปลกๆ ส่วนเตนล์นั้นเดินออกไปด้วยรอยยิ้มอย่างน้อยในเรื่องแปลก พี่สาวของเขาก็กำลังจะหายแล้วเพราะโรงพยาบาลนี้เองก็ขึ้นชื่ออยู่ไม่น้อย

     

    .

     

    โอ๊ย! เฉินเล่อแขนจวิ้นช้ำแล้ว!”


    จีซองนั่งลงนะ!”

     

    พี่ยูตะ!”เตนล์นั้นที่เดินกลับมาที่ห้องโถงก็เกิดเหตุการณ์ความวุ่นวาย มีเด็กตัวโตผมสีแดงสว่างอมส้มๆยืน และมือหนานั้นแตะลงที่แขนเล็กของเซียวจวิ้นอยู่ รอยเขียวช้ำวงกว้างจากดูเขียวมันม่วงมากไหนจะมีรอยห้อเลือดอีกต่างหาก เฉินเล่อดึงแขนแกร่งของจีซองเอาไว้ แต่จีซองเองก็แตะไม่ยอมปล่อยแขนของเซียวจวิ้นทำให้รอยช้ำเขียวจนน่ากลัว จนเฉินเล่อนั้นต้องเรียกยูตะเข้ามา 

    จีซองปล่อยเสียงห้าวๆของยูตะดังขึ้นมาจีซองไม่ควรดื้อกับยูตะเพราะอีกคนดุจริงแน่น ยูตะนั้นจับแขนของจีซองกระชากออก จีซองเองก็ยอมแต่โดยดีจีซองขยับมือไปแตะลงที่มุมปากเล็กของยูตะเบาๆ ก่อนจะดึงแขนของเฉินเล่อให้เข้าห้องแต่ไป ยูตะสถบเบาๆจับมุมปากก็พบว่าเลือดได้ไหลออกมา

     

    เซียวจวิ้นไปทำแผลไป เตนล์พาไปทีเตนล์รีบพยักหน้าก่อนจะพาเซียวจวิ้นออกมา เซียวจวิ้นกุมแขนตัวเองที่เหมือนโดนทุบจนแทบจะไร้ความรู้สึก ยูตะเดินกลับมาหาแทยงที่ลงมายืนกับพื้น ใบหน้าหวานเต็มใบด้วยน้ำตาอีกคนกำลังร้องไห้อย่างไม่มีเสียง ยูตะเดินเข้าไปใกล้แทยงตั้งใจว่าจะดึงมากอดไว้ แต่แทยงกลับผละออกก่อนจะเข็นเสาน้ำเกลือวิ่งหายไป


    กริ๊ด!! คุณแทยง!”ยูตะกำลังจะเดินไปดูตามเสียงร้องที่ดังมาจากส่วนกลาง แต่ยังไม่ทันเดินไปแทยงนั้นก็กลับมาพร้อมกับกล่องพยาบาล ยูตะถอนหายใจก่อนจะนั่งลงที่ขอบหน้าต่างดีๆปล่อยให้แทยงนั้นยืนทำแผลให้ แทยงไม่ได้พูดเพียงแค่ยืนตั้งใจทำแผลให้เท่านั้น จนรอยยิ้มค่อยๆปรากฏออกมาเมื่อเลือดหยุดไหลแล้ว แทยงมองยูตะที่ยิ้มกว้างส่งมาให้

     

    น่ารักเสียงทุ้มบอกทันทีที่ทำแผลเสร็จมือเล็กลดลงจากบริเวณมุมปาก แทยงทำเพียงแค่รีบกลับไปนั่งที่เดิมเท่านั้น ยูตะมองแก้มใสของอีกคนที่มีสีแดงเปล่ง ทำเอายูตะนั้นยิ้มก่อนจะมองกล่องปฐมพยาบาล แล้วหยิบขึ้นมาก่อนจะเดินไปเก็บให้เรียบร้อย ยูตะมาตรงฝ่ายพยาบาลก่อนจะยื่นก่อนปฐมพยาบาลคืนไปให้หญิงสาวที่ตัวสั่นด้วยความกลัว

     

    คุณหมอยูตะเมื่อกี้ ..

     

    เงียบ!”เสียงทุ้มของยูตะตวาดออกดวงตาแข็งกร้าวทันที ยูตะผ่อนลมหายใจไม่เคยคุมตัวเองได้ซักครั้งเมื่อเป็นเรื่องของแทยง ยูตะกระแอมสองสามทีทำให้คนทุกตวาดผ่อนหายใจยูตะมองก่อนเดินไปจากตรงนี้แทน เขาไม่ยอมให้ใครมาว่าแทยงหรอก

     

    ไม่มีวัน..

     

     


      
    #ฟิคคนโรคจิต


    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×