คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #2 : :: Lu-Han Twins >1< 'จื่อเทาเป็นน้องคนที่สาม'
Lu-Han TWINS
Chapter 1
‘จื่อเทาเป็นน้องคนที่สาม’
“เร็วหน่อยดิพี่หาน~~ เพื่อนผมเร่งมาแล้วเนี่ย ถ้าผมไม่ได้ที่นั่งดีๆนะ”
“รู้แล้วน่า แป๊ปนึงไม่ได้ไง”
ลู่หานจิ๊ปากขัดใจใส่น้องชายฝาแฝดที่เร่งเอาเร่งเอาก่อนจะปิดประตูรถคันหรูดังปัง!
“เบาๆสิพี่หาน ลุงควอนออกรถเลยครับ เหยียบสุดเลยนะ”
“ครับคุณเสี่ยวลู่”
ลู่เหลินหันไปเอ็ดพี่ชายอย่างอดไม่ได้ ก่อนจะบอกให้ลุงคนขับรีบออกรถเพราะตอนนี้เค้าก็เสียเวลาไปมากแล้ว ไม่น่ามาแวะซื้อเครื่องดื่มก่อนเลยแฮะ เพราะพี่หานแท้ๆเอาแต่งอแงอยากกินกาแฟอยู่ได้ ‘ขมก็ขมไม่รู้กินเข้าไปได้ยังไง สีก็ไม่สวยซักนิด’ ลู่เหลินคิดในใจพลางมองแก้วกาแฟเย็นในมือพี่ชายตัวเองที่นั่งดูดอย่างไม่สบอารมณ์อยู่ ใบหน้าหวานเริ่มงอเมื่อพี่หานไม่แม้แต่มองมาที่ตัวเอง
อะไร ? แค่เร่งให้รีบแค่นี้พี่ชายคนแมนฝรั่งหัวแดงเป็นสตรอเบอรี่ถึงกับงอนเค้าเลยเหรอ ?
“นี่เป็นไรอ่ะ ไม่เถียงผมหน่อยเหรอ?”
“ไม่ได้เป็นไร”
“งั้นก็ยิ้มสิ ยี้มมม”
ไม่ว่าเปล่าร่างบางยังขยับเข้าไปใกล้พี่ชายจนชิด ลู่เหลินวางแก้วชานมของตัวเองที่เหลือครึ่งแก้วได้แล้วลงในช่องวางแก้วน้ำข้างหน้า จากนั้นมือบางสองข้างก็ยกขึ้นฉีกปากพี่ชายจนกว้าง ลู่หานมองการกระทำนั้นของน้องชายอย่างชินชา ดวงตารูปกวางกรอกขึ้นลงอย่างเบื่อหน่ายก่อนจะแงะมืออีกคนออก
“นี่พี่โกรษผมจริงเหรอ เรื่องแค่นี้เนี่ยนะ ตุ๊ดว่ะไหนว่าแมน” ทางลู่เหลินเองก็เริ่มอารมณ์เสีย ร่างบางชักมือกลับมาแล้วนั่งกอดอกแน่น มางอนเค้ากับแค่เค้าบอกให้รีบๆแค่นี้เนี่ยนะ
“บ้าเหรอ! คนอย่างฉันเนี่ยนะไม่แมน คนอย่างฉันเนี่ยนะงอน ไว้ชาติหน้าตอนเช้าสางเถอะ”
ลู่หานว่าเสียงดังแล้ววางแก้วกาแฟลงตรงที่วางแก้วข้างหน้าข้างๆกัน ร่างโปร่งยกขาข้างนึงขึ้นมาพาดลงบนเข่าของขาอีกข้างแล้วยืดหลังตรง “แมนกว่านี้ไม่มีแล้วไอน้อง” แล้วก็เอานิ้วหัวแม่มือปัดจมูกไปทีนึง หล่อเลย . .
ลู่เหลินกอดอกมองคนเป็นพี่อย่างหน่ายๆ ไอชอบทำตัวเป็นคนแมนอย่างนี้น่ะเค้าชินแล้ว ส่วนไอที่ไม่พูดไม่จาแล้วทำเสียงดังน่ะก็ชินแล้วเหมือนกันนั่นแหละ แต่ไอที่สงสัยคือปกติพี่หานไม่ได้อารมณ์เสียกับอีแค่เค้าพูดเค้าบ่นแค่นี้ แล้วไหงวันนี้ถึงได้งอนเป็นเด็กๆไปได้
“ถ้าแมนแล้วทำไมต้องอารมณ์เสียกับเรื่องแค่นี้ด้วยเล่า?”
“ฉันไม่ได้อารมณ์เสียนายซักหน่อย ฟังก่อนสิ”
“แล้วทำไมไม่พูดแต่แรกล่ะ มาบอกให้คนอื่นฟังแต่ตัวเองไม่พูดเนี่ยนะ”
“ก็นายไม่ถามเอง” ว่าพลางยกไหล่ไม่รู้ไม่ชี้
“พี่หาน!” ส่วนอีกคนก็ควันขึ้นหู
เอี๊ยด ..
‘โอ ขอบคุณพระเจ้า..’
ลุงคนขับรถคิดในใจก่อนจะถอนหายใจเฮือกใหญ่ รถหันหรูจอดลงตรงหน้าโรงเรียนมัธยมเอตีโซพอดีเป๊ะ สองพี่น้องทำท่าฮึดฮัดใส่กันก่อนที่ลู่หานจะกระโดด(กระโจนเลยเหอะ)ลงจากรถเมื่อลุงคนขับกดเปิดประตูอัตโนมัติให้แล้ว ร่างโปร่งเอื้อมไปคว้ากระเป๋าเป้มาสะพายแล้วออกวิ่งเข้าไปในโรงเรียนโดยไม่ได้สนใจคนเป็นน้องที่นั่งหน้าแดงปรี๊ดอยู่ซักนิด
ให้ตายเหอะ...พี่หาน!!
“ผมไปแล้วนะครับลุง”
ลู่เหลินขมุบขมิบปากใส่แผ่นหลังพี่ชายซักพักอย่างสุดทนก่อนจะหันไปลาลุงคนขับรถ ร่างบางเอากระเป๋าขึ้นสะพายแล้วไม่ลืมที่จะหยิบแก้วชานมของตัวเองกับแก้วกาแฟของพี่ชายออกไปทิ้งนอกรถให้ด้วย
“ตั้งใจเรียนนะครับคุณหนู”
“ครับ ขับรถดีๆนะครับ”
ลู่เหลินโค้งให้ลุงคนขับอีกหนึ่งครั้งก่อนเมื่อลงมาจากรถแล้ว ร่างบางยกมือข้างที่ยังคงถือแก้วชานมอยู่ขึ้นมาโบกๆจนรถเคลื่อนออกไป
เอาล่ะ ตอนนี้ก็เหลือแค่ขึ้นไปจองที่ให้ทันเท่านั้นแหละ ก่อนที่เพื่อนจะฆ่าเค้าตายซะก่อน !
“แกไปไหนมาฮะคยองซู ไปไหนมาๆๆๆ”
“โอ๊ยๆๆ ขอโทษๆๆ”
ดูเหมือนคยองซูกำลังทำให้มินซอกโกรษมาก ใช่..ก็มันทำให้เค้าหน้าแตกนี่นา !!!!!! คยองซูที่ตอนนี้ได้แต่เอี้ยวตัวหลบมือปูของมินซอกไปมาพยายามหันไปเอ่ยคำขอโทษรัวๆชนิดไม่เกรงใจครูที่กำลังสอนอยู่ข้างหน้าเลยซักนิด ร่างเล็กกระเถิบเก้าอี้ขึ้นไปข้างหน้าจนแผ่นอกชิดติดกับโต๊ะเพื่อจะหนีไอเพื่อนที่นั่งหยิกเค้าจากโต๊ะข้างหลัง
“แล้วไมแกไม่ไลน์กลับฉันล่ะว่ายังไม่ถึงน่ะฮะ” มินซอกหยุดมือแล้วกระซิบให้คนข้างหน้าชนิดว่าไม่ดังมากแต่ก็ได้ยินกันไปสามสี่โต๊ะ
“ก็ตอนนั้นฉันไม่ว่างนี่ ก็ว่าเดี๋ยวไอพวกนั้นก็บอกแกเองอ่ะ” คยองซูก็กระซิบกระซาบกลับไปโดยไม่ได้หันไปมองหน้าเพื่อน ร่างเล็กถดตัวหนีอีกรอบเมื่อเห็นจากหางตาว่ามินซอกเตรียมจะพุ่งเข้ามาอีก “เฮ้ย .. ”
“เฮ่ยมึงพอได้แล้ว ชินดงเล็งมึงใหญ่ละ”
คยองซูกำลังรู้สึกเหมือนได้ยินเสียงสวรรค์ ไม่เคยมีครั้งไหนเลยที่รู้สึกดีใจที่ได้ยินเสียงของโอ เซฮุนขนาดนี้ น้ำตาจะไหล เซฮุนที่แอบหัวเราะอยู่นานได้แต่ส่ายหน้าหน่ายๆให้เพื่อนข้างๆที่ปกติจะค่อนข้างตั้งใจเรียนแต่วันนี้กลับเอาแต่หาเรื่องเพื่อนอีกคนไม่หยุด แต่เท่าที่ฟังมันเล่าแล้วก็คงจะอายมากจริงๆ ไม่งั้นคงไม่เล่นคยองซูตั้งแต่เจอหน้าจนเข้าคาบเรียนขนาดนี้
“ฮึ่ย..” แล้วสุดท้ายมินซอกก็ยอมฟังเซฮุนอีกจนได้ ร่างเล็กทำเสียงฟึดฟัดแล้วเอนหลังพิงพนักเก้าอี้อย่างแรง “กูคงไม่กล้าเข้าร้านนั้นอีกเป็นเดือนเลย”
“ขนาดนั้นเลยเหรอวะ” เซฮุนตอบกลับเพื่อนทั้งๆที่สายตายังคงจับจ้องครูกับกระดานข้างหน้า ใบหน้าหล่อหัวเราะน้อยๆให้กับคำพูดของมินซอก
“เออดิ ตอนมันรู้ว่ากูหน้าแตกนะ แม่ง.. กูว่าถ้าได้เจอมันอีกกูต้องถูกมันล้อไปจนวันตายแน่ๆ”
“ก็ไหนมึงบอกมันเป็นเด็กโรงเรียนอื่นไง มันคงไม่มาแล้วมั๊ง”
มินซอกพยักหน้ารับความคิดเห็นของเซฮุนด้วยใบหน้าบิดเบี้ยว คนตัวเล็กเริ่มคิดตามความเห็นของอีกคน ปกติก็ไม่เคยเห็นหน้า แถมยูนิฟอร์มก็เป็นของไอโรงเรียนใหญ่ใกล้ๆ แบบนี้คงไม่โผล่มาแล้วหรอกมั๊ง อีกอย่างที่ร้านก็ถิ่นเค้า นั่งคุมมาเป็นปีๆจะมากลัวอะไรกับอีแค่หน้าแตกหนเดียว เชอะ!
“เออ ก็จริงของมึง”
“มึงกลับได้นะ อย่าไปโดดน้ำตายที่ไหนเข้าล่ะ มีอะไรนึกถึงหน้าพ่อแม่มึงเข้าไว้ เข้าใจ๊”
“มึงว่ากูโง่ขนาดนั้นเลยเหรอวะ โว๊”
มินซอกบู้หน้ารำคาญไอเพื่อนตัวสูงที่เอาแต่เทศใส่เค้ามาซักพักแล้ว กะอีแค่กลับบ้านคนเดียวนี่มันจะยากเย็นอะไรนักสำหรับคนพึ่งถูกหักอก อย่างมากก็แค่ซื้อเบียร์ซักกระป๋องไปนั่งกระดกอยู่ที่ป้ายรถเมล์แล้วเอาหูฟังอุดหูเปิดเพลงรำรึกความหลังให้น้ำตามันไหลออกมาเล่นๆเท่านั้นแหละ เฮอะ!!
“ใช่ พี่มินซอกไม่มีทางทำอะไรโง่ๆแบบความคิดมึงหรอก ใช่มั๊ยพี่มินซอก”
เห็นไอเซฮุนมันยืนอ่อยพี่มินซอกของเค้าอยู่นานแล้ว พระเอกอย่างจื่อเทาก็อดจะเรียกความสนใจกลับมาไม่ได้ ร่างสูงเดินดึ๊บๆเข้าไปใกล้พี่ชายตัวเล็กมากกว่าเดิมแล้วจับแขนเขย่าไปมา มินซอกที่หน้าบูดบึ้งอยู่ก็ยิ้มออกมาได้บ้าง
“พี่ไม่ทำอย่างนั้นหรอกน่า” พูดจบก็หยิกแก้มน้องชายไปทีนึง “แล้วนี่คุณน้าจะมาเมื่อไหร่ ให้พี่รอเป็นเพื่อนมั๊ย?”
“อืม นี่ก็น่าจะใกล้เวลาแล้วครับ แต่พี่แน่ใจนะว่าจะไม่ไปกับผม?”
“พูดอย่างกับเคยไป ครอบครัวนายพี่จะไปยุ่งด้วยได้ไงเล่า”
มินซอกตอบกลับน้องชายยิ้มๆแถมยังต้องคอยหลบใบหน้าเจ้าเล่ห์ของจื่อเทาที่พร้อมจะพุ่งเข้าหาได้ทุกเมื่อ พอเห็นว่ามินซอกเริ่มรู้ทันจื่อเทาเลยเปลี่ยนอากัปกริยาแอ๊บเรียบร้อยแทน ร่างสูงเอนหัวลงบนไหล่เล็กแล้วโอบคนเป็นพี่แน่น
“งั้นพี่กลับดีๆนะ”
“รู้แล้วน่า”
“พวกมึงเลิกอ้อนกันเหอะ กูอายคนแทน”
น้ำเสียงตัดรอนบวกกับสีหน้าเบื่อหน่ายของเซฮุนสามารถทำให้สองพี่น้องหรือคนเป็นน้องยอมผละออกพี่ได้ จื่อเทาส่งสายตาอาฆาตมาให้เพื่อนพี่ชายที่ยืนเท้าสะเอวแล้วส่งสายตาหน่ายๆมาที่เค้า มึงคิดว่าเท่ห์เหรอ ?
“’งั้นกูไปแล้วนะ ถึงบ้านแล้วไลน์หากูด้วย อย่าไปเมาที่ไหนอีกนะมึง”
มินซอกพยักหน้ารัวกับคำพูดของเซฮุนก่อนจะยิ้มแป้นแล้วยกมือโบกให้เพื่อนที่ค่อยๆข้ามถนนไปอีกฝั่ง ร่างเล็กหันมามองหน้าน้องชายที่ยืนทำหน้าบอกบุญไม่รับก่อนจะเริ่มสังเกตุเห็นรถมินิคันหรูที่เริ่มเข้ามาจอดเทียบ
“คุณน้ามาแล้ว..” มินซอกพูดเสียงเบากับตัวเองก่อนจะหันไปเขย่าแขนน้องชายที่ยังคนยืนทำหน้าอย่างเดิมอยู่ “เทา แม่มาแล้ว”
“ฮะ? อ่ะครับๆ”
..
“อูมินไม่ไปกับแม่จริงนะ”
“ครับ ผมว่าจะกลับบ้านแล้ว”
“โอเคจ๊ะ งั้นเดี๋ยวเจอกันที่บ้านนะเดี๋ยวแม่ซื้อกับข้าวกลับไปให้”
“ครับ”
หญิงสาววัยห้าสิบต้นๆที่ยังคงสวยไม่สร่างยกยิ้มให้ลูกเลี้ยงที่ยืนอยู่นอกตัวรถ เธอมองดูมินซอกที่โค้งให้ก่อนจะพยักหน้ารับอย่างเอ็นดู ถึงแม้จะเป็นแค่ลูกนอกสายเลือดแต่ยอมรับเลยว่าเธอเองรักแล้วก็เอ็นดูมินซอกมากตั้งแต่เจอกันครั้งแรกตอนมินซอกยังเล็กๆ หรือมันจะเป็นผลพวงมาจากที่เธอรักพ่อของเด็กคนนี้มากๆกันแน่นะ หญิงสาวคิดแล้วก็ได้แต่อมยิ้มกับตัวเองจนลูกชายแท้ๆที่นั่งอยู่ข้างๆอดจะแปลกใจไม่ได้
แม่ยิ้มอะไรของแม่น่ะ ?
“จะไปทำไมบ่อยๆก็ไม่รู้”
เมื่อรถหรูเริ่มออกตัวได้ซักพักจื่อเทาก็เริ่มบ่นทันที ไม่ใช่ว่าเค้าจะไม่ชอบครอบครัวแท้ๆของตัวเองหรอกนะ แต่เค้าแค่คิดว่าบ้านก็อยู่ไม่ได้ไกลอะไรกันมากจะไปหาเมื่อไหร่ก็ได้แท้ๆ ทำไมถึงต้องพาเค้าไปหาพ่อกับพี่ชายแท้ๆบ่อยๆด้วย ?
ทางด้านคนเป็นแม่ที่ได้ฟังประโยคนี้อยู่หลายต่อหลายครั้งก็ละเหี่ยใจเหลือเกิน จื่อเทาคงจะรู้สึกแปลกๆที่หมู่นี้เธอพาเค้าไปเยี่ยมสามีคนเก่ากับลูกชายอีกสองคนซะแทบทุกวัน แต่ที่เธอทำแบบนี้ก็เพื่อลูกทั้งนั้น ความผิดพลาดที่เธอกับพ่อของจื่อเทาก่อนั้นอาจทำร้ายลูกๆอีกสามคนในทางอ้อม ถ้าเลือกได้เธอเองก็ไม่อยากให้พวกเด็กๆต้องอยู่ในสภาพครอบครัวแบบนี้
“เฮ่อ..ขอโทษนะครับ”
เมื่อเห็นว่าคนเป็นแม่เงียบไปคนพูดเลยเริ่มรู้สึกผิดเลยเอ่ยขอโทษออกไปเบาๆ ปกติแม่จะเป็นจะใจดีกับเค้ามากถึงจะทำแต่งานจนไม่ค่อยได้มาสนใจเค้าเท่าไหร่ก็เถอะ แต่สำหรับสถานะตอนนี้แล้วจื่อเทาเองก็อดที่จะยอมรับไม่ได้ว่ามีความสุขมาก มากจนไม่คิดว่าพี่ชายอีกสองคนที่ดูเหมือนจะอยู่สุขสบายกว่าเป็นร้อยๆเท่าจะมีความสุขได้เท่าเค้ารึเปล่า หลายครั้งที่เค้าเองก็รู้สึกว่าตัวเองเป็นคนเห็นแก่ตัวที่ได้อยู่กับแม่มากกว่าพี่ชาย
“ไม่เป็นไรหรอกลูก แม่แค่..อยากให้ลูกไปหาพ่อเค้าบ่อยๆ อีกอย่างแม่ก็อยากดูแลลู่เหลินกับลู่หานให้มากขึ้น”
“อ๋อ . ..”
“เดี๋ยวพอถึงแล้วก็เข้าไปหาพ่อนะ”
“ครับ...”
จื่อเทาพยักหน้าเข้าใจ ใบหน้าคมยิ้มบางๆแล้วเบนไปมองถนนที่รถค่อยๆเคลื่อนผ่านไปเรื่อยๆ ไร้เสียงสนทนาใดๆอีกจนในที่สุดตัวรถก็เคลื่อนผ่านประตูรั้วขนาดใหญ่ จื่อเทาหันเหความสนใจจากสิ่งรอบข้างมาที่แม่ตัวเองอีกครั้งเมื่อได้ยินเสียงหวานเอ่ยขึ้นหลังจากจอดรถที่หน้าประตูบ้านแล้ว
“ลงไปหาพ่อก่อนนะ เดี๋ยวแม่ตามไป ขอไปจอดรถก่อน”
“ครับ”
ร่างสูงพยักหน้าเข้าใจแล้วค่อยๆเปิดประตูรถออกไป จื่อเทาเดินเข้าไปในบ้านหลังใหญ่หรือวังในสายตาเค้าอย่างชำนาญทาง ตาคมสอดส่องหาคนเป็นพ่อแต่ไม่พบเลยเลือกที่จะยืนรอแม่อยู่แถวๆประตูแทน
ร่างสูงยืนบิดไปมาอยุ่พักนึงจนในที่สุดก้ได้ยินเสียงฝีเท้าจากข้างหลัง จื่อเทาหันกลับไปหาคนเป็นแม่แต่ก็ต้องตกใจหน่อยๆที่ดันมีอีกคนเดินเข้ามาพร้อมกันด้วย
“เฮียหาน !”
‘ไม่ได้เข้ามานานแค่ไหนแล้ววะเนี่ย’
โอ เซฮุนหยุดคิดก่อนจะยกมือขึ้นเกาท้ายทอยน้อยๆ นานแล้วที่เค้าไม่ได้เข้าร้านหนังสือ แล้วไอครั้งล่าสุดนี่ก็มาพร้อมกับพวกไอมินซอกด้วย ไอบรรยากาศเข้าร้านหนังสือคนเดียวในรอบหลายเดือนนี่ก็แปลกใหม่ดีเหมือนกัน
มือหนาผลักบานประตูก่อนจะค่อยๆก้าวเข้าร้าน ร่างสูงสูดลมหายใจเต็มปอดเมื่อสัมผัสถึงความเย็นจากเครื่องปรับอากาศพร้อมกับกลิ่นที่บ่งบอกถึงคำว่าสะอาด? คิดไม่ผิดเลยที่มาร้านนี้ มิน่าไอมินซอกถึงได้ยกให้เป็นนัมเบอร์วัน เซฮุนใช้สายตาสอดส่องมองไปตามชื่อหมวดหนังสือ ร้านนี้มองข้างนอกดูเล็กๆแฮะแต่พอเข้ามาแล้วก็ใหญ่เอาตัวเลย
‘เคมี ม.ปลาย’
เซฮุนยกยิ้มเมื่อมองเห็นหมวดหนังสือที่ตัวเองต้องการ ขายาวพาตัวเองไปยังบริเวณนั้นอย่างไม่รอช้า เห็นไอมินซอกมันบ่นอยู่เมื่อกลางวันว่าอยากได้หนังสือเคมีซักเล่มแต่ไม่มีตังค์ ก็สมควรอยู่หรอกเห็นได้ตังค์มาเท่าไหร่ก็เอาไปให้พวกนักร้องไอดอลไรนั่นหมด อัลบั้มที่มีน่ะซื้อแล้วเอามาอ่านได้มั๊ยฮะ อยากจะบ่นไปเหลือเกินแต่เดี๋ยวมันก็บ่นเค้ากลับอีก ไอเค้าเลยว่าจะซื้อไปเป็นขวัญกำลังใจให้มันซักหน่อย เป็นการปลอบใจที่ถูกผู้ชายทิ้งน่ะนะ ว่าแต่ไอหนังสือที่พวกเด็กเรียนอ่านกันเนี่ยมันต้องเป็นแบบไหนล่ะ ?
เซฮุนเริ่มมึนอีกรอบ ร่างที่ว่าสูงแล้วยังต้องเขย่งขึ้นไปอีกเมื่อชั้นหนังสือมันโครตสูง ถามว่าจะเอาเล่มสูงๆไปทำไมเค้าเองก็ไม่รู้ รู้แค่ว่าอะไรที่ยิ่งยากแล้วเค้ายิ่งชอบก็แค่นั้น เห็นสีมันสวยดีเลยลองเอื้อมหยิบมาดูซักหน่อย
“นี่..”
“....”
“นี่...นาย”
“?”
เป็นเพราะแรงสะกิดเบาๆที่ไหล่พร้อมกับเสียงเอ่ยเรียกเบาๆ จึงทำให้เซฮุนหลุดจากภวังค์ของตัวเองได้บ้าง ใบหน้าเรียวหันมามองคนที่เรียกตัวเองก่อนจะขมวดคิ้วเล็กน้อย นี่มัน..นายคนเมื่อเช้าหนิ?
“อ้าว ?”
“หวัดดี”
“อ่า ..อื้ม”
“คือช่วยไรหน่อยได้มั๊ย”
“หืม?.. .ได้สิ”
..
“นายแน่ใจนะ”
น้ำเสียงพร้อมใบหน้าที่แสดงความไม่มั่นใจถูกส่งมาให้หนุ่มหน้าหวานคนข้างๆ คำขอที่ลู่เหลินขอเค้านั้นใช่ว่าจะยากเกินช่วย แต่ดูเหมือนมันก็ไม่น่าง่ายอย่างที่คิด นี่นายคิดไงถึงจะคิดจะไอหนังสือเล่มบนสุดอย่างนั้นน่ะฮะ !! นี่ถ้าเป็นคนที่สนิทๆเค้าคงจะด่าออกไปแบบนี้แล้วล่ะ ! แต่รับว่าจะช่วยไปแล้วเค้าเองก็น้ำท่วมปากปฏิเสธไม่ได้เหมือนกัน แล้วยิ่งเห็นไอหน้าหวานๆนั้นง้ำงอขอให้ช่วยหยิบให้ให้ได้แล้วยิ่งปฏิเสธไม่ลง ให้ตายสิ . .
“น่านะ”
ลู่เหลินพยักหน้าให้อีกคนสามทีรวดแล้วทำตาปริบๆ ใบหน้าหวานหันซ้ายหันขวาหาบันไดสำหรับยืนหยิบหนังสือชั้นสูงๆอีกครั้งแต่ก็ไม่พบอยู่ดี อีกอย่างเค้าก็วิ่งหาทั่วร้านแล้วด้วย แต่มันไม่มีจริงๆนี่นา แล้วให้ไปถามกับพนักงานหน้าร้านนั่นยิ่งแล้วใหญ่ วันๆจะยิ้มบ้างรึเปล่าก็ไม่รู้ ทำหน้าอย่างกับคนมาซื้อหนังสือจะเอาปืนมาปล้นตัวเองไม่มีผิด
“โอเค”
เซฮุนมองหน้าอีกคนอีกครั้งก่อนจะก้มหน้าถอนหายใจ หนังสืออยู่ห่างจากเอื้อมมือเค้าไปอีกประมาณเกือบสองคืบได้ ถ้ากระโดกซักหน่อยก็อาจจะถึงไอเล่มเขียวๆนั่นแฮะ เซฮุนคิดก่อนจะย่อตัวลงเตรียมกระโดด ลู่เหลินเห็นอีกคนเตรียมพร้อมก็ถอยห่างออกมาเล็กน้อย
“สู้ๆ”
ฮึบ !
‘ไม่ได้แฮะ’
ฮึบ !
‘ไม่ถึงว่ะ’
ฮึบ ! ฮึบ !!
‘ไอเหี้ย ได้แล้ว !!!’
โครม !!!
“โอ๊ะ !! โอ๊ยๆๆ”
โอ๊ย!! โอเซฮุนคนนี้ล่ะอยากตบกระบาลตัวเองจริงๆ เซฮุนเบ้หน้าเมื่อสัมผัสถึงความเจ็บที่สะโพกตอนกระโดดพลาดแล้วหล่นก้นจ้ำเบ้าลงที่พื้น ไม่พอหล่นแล้วหลังยังไปชนเอากับตู้หนังสืออีกตู้ข้างหลังจนตู้ล้มไม่เป็นท่าอีก เสียงโครม! จากตู้หนังสือเมื่อครู่กลบเสียงร้องของเค้ากับเสียงอุทานของอีกคนซะสนิท
“เป็นไรมากมั๊ย ลุกขึ้นก่อนๆ”
ทางลู่เหลินที่ยืนลุ้นอยู่ก็ตกใจไม่แพ้กัน ร่างบางรีบวิ่งเข้าไปดูคนตัวสูงก่อนจะช่วยพยุงอีกคนให้ลุกขึ้นนั่ง ใบหน้าหวานหันไปมองตู้หนังสือที่เซฮุนทำล้มแล้วกลืนน้ำลายลงคออีกใหญ่ เหงื่อกาฬพากันผุดขึ้นเต็มขมับเมื่อได้ยินเสียงส้นรองเท้ากระทบพื้นแรงๆดังมาเรื่อยๆ ลู่เหลินค่อยๆเงยหน้ามองเจ้าของเสียงลงเท้าก่อนจะกลืนน้ำลายลงคออีกรอบ . . ตายแน่ๆ เสี่ยวลู่ ตายแน่ !!
“พวกนายทำอะไรน่ะ ลุกขึ้นเดี๋ยวนี้เลยนะ !!”
เสียงแหลมจากพนักงานที่น่าจะกำลังนั่งอยู่ที่เคาท์เตอร์คิดเงินดังขึ้นจนเซฮุนที่นั่งลูบก้นตัวเองอยู่สะดุ้ง ร่างสูงรีบเด้งตัวลุกขึ้นก่อนที่ลู่เหลินจะลุกขึ้นตามแล้วเดินไปหลบหลังอีกคน เอ้า...มึง มารับผิดชอบเลยนะ !! เซฮุนคิดก่อนจะหันมองมองคนข้างหลังเล็กน้อย แต่ก็ต้องหันมาเผชิญหน้าเองอีกรอบเมื่อไอคนข้างหลังไม้แม้แต่เงยหน้าขึ้นมาซักนิด เออ..ให้มันได้อย่างงี้สิ !!
“ไหนบอกมาซิว่าจะรับผิดชอบยังไง! เล่นอะไรกันเป็นเด็กไปได้ ทำไมไม่รู้จักดุให้ดีฮะ ไอเด้กพวกนี้นี่มัน โอ๊ย !”
ไอคุณพนักงานก็แหวๆใส่ไม่หยุด ร่างบางที่ดูจะตัวเล็กกว่าลู่เหลินอยู่พอสมควรยกมือขึ้นท้าวสะเอวแล้วจ้องเด็กม.ปลายสองคนตรงหน้าเขม็ง คนยิ่งอารมณ์ไม่ดีอยู่ด้วย ยังมาสร้างปัญหาอีกเจ้าเด็กพวกนี่ !
“ผมขอโทษด้วยนะครับพี่ ขอโทษครับๆ” เซฮุนว่าก่อนจะโค้งให้อีกคน ไม่พอยังดึงมือลู่เหลินแรงๆจนอีกคนก้มตามด้วย
“เดี๋ยวผมจะชดใช้ค่าเสียหายให้ครับ”
เสียงหวานที่ตะกุกตะกักอยู่หน่อยๆดังขึ้นจากข้างหลังจนเซฮุนอดจะตกใจไม่ได้ นึกว่าจะชิ่งให้เค้ารับผิดชอบคนเดียวซะแล้ว แต่ไอหนังสือยกตู้เนี่ย จะรับผิดชอบเนี่ยนะ ?
เซฮุนหันไปส่องสายตาเชิง ‘พูดอะไรไปน่ะ’ ให้อีกคนทั้งๆที่ยังคงค้อมตัวอยู่ พอเห็นอย่างนั้นลู่เหลินเลยยักไหล่เบาๆกลับไปให้ ซื้อร้านนี้ทั้งร้านฉันยังทำได้เลย
“พวกนายเนี่ยนะจะรับผิดชอบ เหอะ”
บยอน แบคฮยอนที่อยุ่ในชุดนักศึกษาพร้อมกับเสื้อคลุมสีฟ้าสัญลักษณ์ของร้านคิดในใจก่อนจะเบะปากอย่างเหนื่อยหน่ายกับคำพูดที่ฟังดูปากดีเหลือเกินของเด็กตรงหน้า
“…..”
“เลิกก้มได้แล้ว!”
เสียงแหลมเริ่มตะคอกอีกครั้งก่อนจะมองหน้าเด็กสองคนที่เอาแต่ค้อมให้เค้าอย่างไม่สบอารมณ์ จะชดใช้ค่าเสียหายเนี่ยนะ เด็กมัธยมปลายพวกนี้มันคิดจะเอาเงินมากๆแบบนั้นมาจากไหน พูดไม่คิดเลยจริงๆเหอะ
“มาช่วยฉันยกตู้แล้วเก็บให้เหมือนเดิมเลยนะ. . . ทั้งสองคน!”
“แกหายไปไหนตั้งสองสามวันวะ?”
น้ำเสียงกวนๆพร้อมกับใบหน้าพยายามแมนของคนเป็นพี่ที่ถูกส่งมาทำให้จื่อเทายกยิ้ม นี่เค้าหายไปสองสามวันนี่เฮียหานว๊อนมีขนาดนั้นเลยเหรอ 5555555555 ขอหัวเราะเป็นภาษาไทยซักทีเถอะ
“ก็โรงเรียนจะเปิดแล้ว ผมเลยต้องเตรียมตัว แม่ก็ไม่ค่อยว่าง”
จื่อเทาตอบกลับยิ้มๆก่อนจะยื่นมือไปล้วงขนมจากซองในมือของอีกคน ลู่หานเองก็ยื่นให้น้องชายร่วมสายเลือดแต่โดยดี ไม่รู้หรอกนะว่าทำไมถึงได้ถามไอเทาออกไปแบบนั้น แต่ช่วงนี้เค้าเองคงเริ่มชินกับการเห็นหน้าม๊ากับน้องชายอีกคนน้องชายอีกคนที่ไม่ใช่ฝาแฝดตัวเองบ่อยๆ ร่วมเดือนมานี้ม๊ามาเยี่ยมเค้าบ่อยขึ้นจนน่าตกใจ จากที่ตอนเด็กๆจะแวะมาก็สองสามอาทิตย์ครั้ง
“เฮียคิดถึงผมเหรอ เหงาอ่ะดิ อยู่แต่กับเฮียเหลินอ่ะนะก็ต้องอมทุกข์เป็นธรรมดา”
“เหอะ แกอย่าเรียกชื่อนั้นให้มันได้ยินเชียวนะเทา เดี๋ยวก็ได้กระบาลแยกหรอก ฮ่าๆ”
ลู่หานหัวเราะร่าเมื่อน้องชายเอ่ยชื่อฝาแฝดตัวเองออกมาแบบนั้นอีกแล้ว นี่ไม่อยากจะคิดว่าถ้าเสี่ยวลู่มันได้ยินจะเป็นยังไง
“เออ แล้วนี่เฮียแกไปไหนอ่ะ ?”
จื่อเทาหัวเราะไปด้วยก่อนจะหันซ้ายขวา นี่ตั้งแต่เข้าไปหาพ่อในห้องทำงานพร้อมเฮียหานจนออกมานั่งรอแม่ที่ห้องนั่งเล่นนี่ก็นานมากแล้วนะ ไอพี่ชายอีกคนก็ยังไม่โผล่หัวมาซักที
“เห็นมันว่าจะไปซื้อหนังสือไรมันไม่รู้ ก็ไปดูมาตามเน็ตอีกอ่ะแหละ เห็นว่าเป็นช็อตรวมข้อสอบในตำนาน” ลู่หานว่าก่อนจะยักไหล่อย่างไม่หยี่ระ ไอเรื่องแบบนี้เค้าไม่เคยสนใจอยู่แล้ว
“เออ ว่าไป..แล้วนี่เฮียไปเช็กข่าวในแหล่งบ้างป่ะ โอเวอร์โดสเวอร์ชั้นใหม่1.2 แม่งเทพชิบหาย”
จื่อเทาว่าก่อนจะตบตักตัวเองดังป๊าบแล้วเคี้ยวขนมตุ้ยๆ ทางด้านลู่หานก็ตกใจแทบตกโซฟา
‘ โอเวอร์โดส 1.2 ‘
‘ โอเวอร์โดส 1.2 ‘
‘ โอเวอร์โดส 1.2 ‘
!!!
“แกอย่าบอกนะ!!”
“เมื่อคืนผมเล่นจนเกือบเช้าแน่ะ ฮิ”
พูดยั่วพี่ชายจบก็ยกยิ้มชนิดโคตะระกวนบาทาไปพร้อมกับยักคิ้วหนึ่งที เรียกอารมณ์เดือดจากลู่หานได้แทบในทันที บางทีจื่อเทาก็ไม่ค่อยเข้าใจตัวเอง ทำไมถึงชอบไออาการเดือดๆของคนอื่นเวลาถูกตัวเองยั่วประสาทนัก สะใจนักแล ฮิฮิฮิฮิฮิฮิฮิ
“เฮ้ย!! ได้ไงวะ แกเอามาแบ่งเฮียเลย !!” ลู่หานว่าเสียงดังลั่นก่อนจะกระโดดไปล็อกคอจื่อเทาจนอีกคนสำลักขนม
“แค่กๆ โอยๆ”
“ให้ไม่ให้”
“งือ..แค่กๆ”
พอเห็นอีกคนพยักหน้าแต่โดยดีลู่หานก็ยิ้มร่าก่อนจะค่อยๆปล่อยมือออกจากคออีกคน ว่าง่ายอย่านี้สิถึงจะเป็นน้องชายเฮียหาน
“แต่เฮียต้อง..แค่ก..รอก่อนนะ ”
“ฮะ?” หันหน้ากลับมามองน้องชายพร้อมขมวดคิ้ว
“เพื่อนผมยืมไป คิวยาวเป็นแถว เดี๋ยวผมลัดให้ อีกซักอาทิตย์กว่าค่อยเอา”
อาทิตย์กว่า !
อาทิตย์กว่า !
อาทิตย์กว่า !
ให้ตายเหอะ !!!!!!!! รออาทิตย์กว่าน่ะไอโอเวอร์โดส 1.2 ที่เค้าพึ่งสั่งไปก็มาพอดีน่ะสิ แล้วอย่างงี้จะไปขอมันทำหอกอะไรล่ะครับ !! นี่ไม่ได้อยากจะอิจฉาอะไรหรอกนะ แต่เพราะพ่อ(เลี้ยง)ของน้องชายเค้าดันเป็นผู้จัดการบริษัทเกมส์รายใหญ่ของเกาหลีซะได้ เลยมักได้เล่นเกมส์อื่นๆก่อนเค้าเสมอ ส่วนเค้าเองน่ะเหรอ !! ก็ได้แต่ตามอิจฉามันมาตั้งแต่เด็กจนโตนั่นแหละ
“แต่เฮียจะเล่นวันนี้!” ลู่หานตะโกนลั่นห้องจนใบหน้าบิดเบี้ยว เส้นตีนกาน้อยๆโผล่มาตามหางตาเรียกความแมนจากใบหน้าได้ไม่น้อย (555555)
“ก็ไม่มีแผ่นอ่ะเฮีย” ส่วนไออีกคนก็นั่งกินขนมต่อไม่สนใจอาการร้อนรนของพี่ชายซักนิด
“งั้นก็เอาข้อมูลในคอมแกมาให้เฮีย ใส่แฟรชไดรฟ์มาเดี๋ยวเฮียตามไปเอาที่บ้าน”
“ไม่ได้ !”
“ทำไมไม่ได้?”
ถ้าไปแล้วเฮียไปจีบพี่มินซอกของผมล่ะ จื่อเทาคิดก่อนจะหันมามองหน้าพี่ชายตัวเองที่นั่งขมวดคิ้วอยู่ข้างๆ ยิ่งมองยิ่งคิดว่าเฮียมันหล่อ เค้าเองไม่อยากเสียพี่มินซอกให้ไอผู้จีนที่ไหนอีกแล้ว พี่มินซอกต้องติดใจสไตล์จีนๆแบบไอพี่คริสแน่ๆ แล้วยิ่งเฮียหานขี้เต๊าะคนนี้ ไม่ได้ๆ !
“บ้านผมไม่ได้ใหญ่เป็นวังแบบเฮียหนิ เอางี้เดี๋ยวผมส่งให้เฮียทางเมล์ คืนนี้ได้เลย เฮียไม่ต้องแวะไปอีก”
จื่อเทาพูดตัดบทอย่างชาญฉลาด ทางลู่หานก็พยักหน้าเข้าใจ ร่างโปร่งลุกขึ้นก่อนจะเดินเข้าไปใกล้น้องชายให้มากขึ้นอีก
“ห้ามเกินสองทุ่มนะ เข้าใจ๊?”
“รู้แล้วน่า .. ”
________
◊ SQWEEZ
ความคิดเห็น