ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Necromancer emperor of undead - ราชาของเหล่าซากศพ เนโครแมนเซอร์

    ลำดับตอนที่ #12 : เลือกคลาส

    • อัปเดตล่าสุด 24 ต.ค. 67


    “บัดซับ!” ผมสบถอย่างหัวเสีย พลางใช้แขนยักษ์ปัดนักผจญภัยคนหนึ่งกระเด็ดไปกระแทกต้นไม้ ก่อนจะกระโจนขึ้นกิ่งไม้แล้วพุ่งไป

    “อย่าปล่อยให้มันหนี!” นักผจญภัยอีกคนตะโกนสั่งกลุ่มคนอีก 10 กว่าคนที่วิ่งตามมา แค่กวดตาดูก็ต้องเสียวสันหลัง กลุ่มคนมีเลเวลต่ำสุดคือ 5 สูงสุดคือ 7 ขุมกำลังระดับนี้ ต่อให้เป็นพวกผมก็ไม่กล้าเข้าปะทะ

    “โลงศพอันเดด!”  หลังกระโจนลงหน้าผ่าแห่งหนึ่ง อาศัยที่ยืนใต้หน้าผ่าสูงชัน เมื่อแน่ใจว่ายังไม่ถูกใครพบ ผมจึงได้ใช้สกิลเรียกโลงศพออกมา ก่อนจะพุ่งเข้าไปและเก็บโลงทันที

    เรื่องนี้เกิดขึ้นได้อย่างไร คงต้องย้อนกลับไปประมาณ 2 วันก่อน

    _____________________


     


    -เควสพิเศษ ล่าค่าหัว (โดยกิลด์ ซิกนัส)

    -กำจัดนักผจญภัยแรงค์ D ลูย์ 
    -จับกุมนักผจญภัยแรงค์ C มาเรีย
    -เงินรางวัล 9 เหรียญทอง 
    -ข้อหา ฆ่านักผจญภัยของกิลด์ซิกนัส

    เมื่อกำลังกลับเขาเมืองก็พบเห็นกระดาษหนังรับเควสถูกแปะอยู่ตามกระดานข่าวหรือกำแพง โชคดีที่ผมและชารอทได้ยินเสียงความวุ่นวายมาแต่ไกล จึงยังไม่ทันได้เข้าเมือง พวกผมดึงกระดาษเควสมาและกลับไปที่ถ้ำก่อน

    “ค่าหัว? แบบนี้พวกทหารไม่ทำอะไรหน่อยหรอ” ผมตกใจกับการกระทำอันอุกอาจของกิลด์ซิกนัส ปิดเมืองฆ่าคน แต่ที่ตกใจกว่าคือหน่วยงานของบ้านเมืองกลับไม่มีท่าทีจะทำอะไรกับเหตุการนี้เลยแม้แต่น้อย

    “ที่เมืองเบอร์ด้าจะแบ่งขุมอำนาจเป็น 2 ฝ่ายค่ะ 1 คือเจ้าเมือง  2 คือกิลด์ค่ะ แต่โดยปกติแล้วทุกคนจะทำตามกฎระเบียบของเจ้าเมือง ยกเว้นแต่ในบางกรณีที่กิลด์ยื่นมือเข้ามายุ่ง บางครั้งเจ้าเมืองก็ต้องยอมรับแต่โดยดีเพื่อไม่ให้เกิดสงครามกลางเมืองค่ะ”

    “แบบนั้นกิลด์ซิกนัสก็มีอำนาจเกินไปไม่ใช่หรือไงกัน ไม่ใช่ว่าพวกนั้นจะยึดเมืองก็ได้หรอกเรอะ” 

    “ทำไม่ได้หรอกค่ะ เพราะกิลด์ที่มีอำนาจนั้น มีอยู่ทั้งหมด 3 กิลด์ในเมืองเบอร์ด้าแห่งนี้ค่ะ หนึ่งในนั้นคือกิลด์ซิกนัส หากอีกทั้งสองกิลด์ไม่ร่วมมือด้วย ก็ทำการใหญ่ไม่ได้หรอกค่ะ”

    อย่างนี้นี่เอง ถึงจะทำการใหญ่ไม่ได้ แต่แค่กำจัดนักผจญภัยคนหนึ่งคงไม่มีขุมอำนาจทางไหนอยากเข้ามายุ่งด้วยหรอก สินะ 

    “สังสัยจะกลับไปที่เมืองไม่ได้ไปสักพักละนะ” ถึงจะไม่รู้ว่าพวกมันรู้ได้อย่างไร ว่าพวกผมไปฆ่าคนของกิลด์ซิกนัส  ตอนนี้มีแต่ต้องหลบหลีกไปก่อน

    “จะทำอย่างไรดีคะ?” มาเรียถาม

    “ไม่รู้สิ" ผมยักไหล่ แต่ทว่าการเลเวลนั้นสำคัญ หากไปเขาวงกตในเมืองไม่ได้ การเก็บเลเวลก็จะลำบากไปด้วย หากเลเวลเพิ่มเท่ากับมีพลังเพิ่ม พลังคือทุกอย่างของโลกใบนี้ หากมีพลังก็ไม่ต้องกลัวใคร อย่างกิลซิกนัสที่มีพลังมากเป็น 1 ใน 3 ของเมือง ก็ถึงกับปิดเมืองสั่งฆ่าคนได้เลย

    ในตอนนี้ไม่สามารถเข้าเขาวงกตหรือไปรับเควสหาเงินได้อีก ตองลองหาสถานที่ มีมอนเตอร์และให้มานาได้เยอะๆ ผมไม่เชื่อหรอกว่าในโลกนี้จะมีสถานที่อย่างเขาวงกตแค่ที่เดียว

    "ยังมีสถานที่ ที่สามารถเก็บเลเวลได้ง่ายๆอย่างเขาวงกตนี้อยู่อีกไหม?" ผมถามมาเรีย

    ไม่ว่าจะเป็นผมที่เพิ่งเกิดขึ้นมาใหม่ในโลกนี้ หรือชารอทที่ก่อนหน้านี้ก็ยังเป็นชาวบ้านรากหญ้าธรรมดา พวกผมไม่ค่อยมีความรู้เรื่องโลกภายนอกมากนัก แต่มาเรียดูเหมือนว่าเธอจะเป็นนักผจญภัยมาสักพักแล้ว น่าจะพอรู้อะไรบ้าง

    “เอ่อ…ก็พอมีอยู่นะคะ พวกนักพจญภัยจะเรียกที่แบบนั้นว่า ดันเจี้นยค่ะ” มาเรียคิดอยู่พักหนึ่งก็ตอบออกมา

    “ดันเจี้ยน? เป็นที่แบบไหนหรอ เหมือนเขาวงกตหรือป่าว?”

    “ก็คล้ายๆเขาวงกตแต่ขนาดเล็กว่าค่ะ……..” มาเรียเริ่มอธิบาย

    จากที่มาเรียกบอกมา สรุปได้ว่า เป็นสถานที่ลึกลับที่ซ้อนตัวอยู่ตามจุดต่างๆของโลก ข้างในดันเจี้ยนจะมีมอนเตอร์ชนิดหนึ่งเยอะมากกว่าข้างนอกแถมมานาที่ได้ก็ยังมากกว่า แต่ว่าดันเจี้ยนจะมีแค่เพียงชั้นเดียวและหากเคลียร์ดันเจี้ยนหรือฆ่ามอนเตอร์หมดแล้ว มอนเตอร์ในดันเจี้ยนก็จะไม่ปรากฏออกมาอีก 

    “แล้วเธอพอรู้จักดันเจี้ยนที่ไหนบ้างละ” 

    “เอ่อ ก็พอรู้บ้างค่ะ แต่ฉันบอกไปก็ไม่มีประโยชน์หรอกนะคะ เพราะเป็นดันเจี้ยนที่ถูกเคลียร์ไปแล้ว กลายเป็นพื้นที่ว่างเปล่าแล้วค่ะ…” มาเรียตอบ เฮ้อ ยุ่งยากจริงๆแฮะ

    “ดิฉันคิดว่า ไปที่ป่าเอลฟ์ไหมค่ะ? ท่านแม่เคยบอกว่า เผ่าเอลฟ์นั้นรักธรรมชาติอย่างมาก จึงไม่ค่อยออกไปรุกล้ำพื้นที่ของมอนเตอร์หรือสัตว์ป่าเท่าไร จึงยังมีพื้นที่ลึกลับที่ไม่ได้สำรวจอยู่อีกมากค่ะ” จู่ๆชารอทก็เสน่อออกมา เธอมีความรู้เรื่องนี้ด้วยหรอ?

    “เมันก็ใช่อยู่หรอกนะคะ แต่ว่าพวกเขาไม่รุกล้ำหรือสำรวจก็ไม่ได้หมายความว่าพวกจะเขายอมให้คนอื่นรุกล้ำเข้าไปนะคะ” มาเรียตกใจเล็กน้อย เธอคิดไม่ถึงว่าพวกผมจะไปหาเรื่องเผ่าเอลฟ์

    “ตกลงตามนี้ ไปป่าเอลฟ์กัน” ผมตัดสินใจทันที การเพิ่มเลเวลเป็นเรื่องสำคัญ อีกอย่างหากเผ่าเอลฟ์จับไม่ได้ว่ามีคนบุกรุก ก็ไม่มีปัญหาแล้ว

    “เฮ้ออ” มาเรียถอนหายใจยาว เธอคิดไม่ถึงว่าเรื่องจะกลายเป็นแบบนี้ไปได้

    ในขณะที่กำลังประชุมหารือ ผมกับชารอทพลันได้ยินเสียงเคลื่อนไหวรอบ

    “ว้ายย” ผมผลักมาเรียเขาโลงศพอย่างกะทันหัน

    “เจอตัวแล้ว"

    ฟิ้วว ตู้ม

    พุสัญญาณถูกจุดขึ้นฟ้า ไม่นานนักผจญภัยกิลด์ซิกนัส 5 คนก็กระโจมออกมาจากป่า รายล้อมถ้ำแห่งนี้ไว้

    "ยอมกลับไปกับพวกเราแต่โดยดี ข้าจะไว้ชีวิตพวกเอ็ง" ชายถือดาบใหญ่ข้างหน้าเอ่ย

    "ฝัน!" ผมพุ่งเข้าไป แขนขนาดใหญ่จากกลางหลังงอกออกมาชกใส่ดาบใหญ่เต็มแรง

    อึก

    ชายดาบใหญ่ถอยไปสองก้าว สีหน้าตื่นตะหนก เขาแทบไม่เชื่อว่าดาบใหญ่ของเขาจะแพ้ด้านพลังกับเด็กหนุ่ม

    "หึ รีบหาที่ตาย ฆ่า!" ชายดาบใหญ่ตะโกน ใบดาบติดเพลิงไฟสีแดง ตวัดฟันใส่หัวผม

    "กระดูก" ผมเรียกสเกเลตันออกมาต้านรับ สเกเลตัน 5 ตัวโดนดาบใหญ่เข้าไปทีเดียว ก็ร่วงไปกองกับพื้น

    "ฮิล ชำระล้าง" นักบวชในกลุ่มกิลด์ซิกนัสใช้สกิลฮิลใส่สเกเลตันของผม พวกมันจึงฟื้นคืนชีพกลับมาไม่ได้

    "ท่าจะแย่แล้ว พวกนี้เตรียมตัวมาดี" ผมมองไปทางนักบวชคนนั้น เห็นได้ชัดว่าพวกมันรู้จักสกิลของผมอย่างดี

    "นายท่าคะ กำลังมีอีก 8 คนมาทางนี้" ชารอทที่สู้อยู่กับนักรบของกิลซิกนัส เอ่ยเตือน หูของเธอดีกว่าผมเล็กน้อย

    "ชารอท เปิดทาง!" ดูท่าจะไม่ดีแล้ว ผมเรียกซอมบี้ออกมา จับโยนไปทางชายดาบใหญ่ พร้อมกับชารอทกรีดข้อมือ สบัดแขนจนเลือดกระเซ็นไปใส่พวกซอมบี้ที่ถูกโยนออกไป

    "ไรประโยชน์" ชายดาบใหญ่ฟันซอมบี้ที่ถูกโยนมา กลายเป็นสองท่อนกลางอากาศ แต่ทว่าซอมบี้ที่ตายไปเกิดอาการโป่งพอง หลังจากนั้น

    ตู้มม

    เชื้อซอมบี้ระเบิดศพ แน่นอนว่าชายดาบใหญ่พอมีสกิลดีอยู่บ้าง จึงบาดเจ็บท่าไรนัก แต่จุดประสงค์ของผมคือการเปิดทาง จึงไม่สนผลลัพธ์เท่าไร หลังซอมบี้ระเบิดเกิดฝุ่นควันฟุ้งกระจาย ผมกับชารอทกระโจนผ่านกลุ่มควัน ทะลุออกจากวงล้อมได้

    "ตามไป!!"

    "ชารอทเข้าโลงศพก่อน" ระหว่างที่กึ่งวิ่งกึ่งกระโดด ผมก็เรียกโลงศพออกมา ให้ชารอทเข้าไป แล้วเก็บโลงศพ

    ส่วนตัวผมนั้นจำเป็นต้องหาที่หลบซ่อนตัวก่อนจึงจะเข้าโลงศพได้ เพราะโลงศพที่ถูกเรียกออกมา จะปรากฏมาในบริเวณที่ผมอยู่ แต่หากผมเข้าโลงไปเสียเอง โลงศพจะออกมาในจุดที่ผมเข้าไปครั้งสุดท้าย ดังนั้นหากให้พวกกิลด์ซิกนัสเห็นว่าผมเข้าไปตรงไหน คงไปล้อมไว้แถวนั้นแน่

    หลังจากนั้นเกมวิ่งไล่จับนี้จึงดำเนินไปอีก 2 วันเต็มๆ

    ____________________

    "นายท่าน"

    "คุณลูย์"

    ชารอทกับมาเรียรีบวิ่งเข้ามาหาผม หลังจากเห็นสภาพยับเยินของผมจึงอดเป็นห่วงไม่ได้

    "ไม่เป็นอะไรมาก ร่างกายซอมบี้ไม่เหนื่อยไม่เจ็บหรอก แต่ใบไม้รักษาที่มีถูกใช้หมดแล้ว" ผมนั่งลงพลางหาเศษซากเลือดและเนื้อที่เคยเก็บไว้ในโลงศพมากินเพื่อฟื้นฟู ชารอทกับมาเรียเห็นดังนั่งจึงค่อยโล่งอก พวกเธอเห็นผมหายไปสองวันจึงอดเป็นห่วงไม่ได้

    "คงต้องอยู่ในนี้สักพัก รอจนกว่าคนค้นหาน้อยลง พวกเราค่อยออกเดินทาง" ผมเสนอ ชารอทกับมาเรียเห็นด้วยกับเรื่องนี้

    ตอนนี้ข้างในโลงศพมี สเกเลตัน 10 ตัว สเกเลตันคิง 1 ตัว ซอมบี้ 8 ตัว และซอมบี้เรดวูฟ 3 ตัว

    ก่อนหน้าที่จะเกิดเรื่อง ผมได้เก็บข้าวของจำเป็นในถ้ำใส่เข้าไปในโลงศพอันเดด รวมถึงตัดต้นไม้จำนวนหนึ่งใส่เข้ามาด้วย 

    “ช่วยสร้างบ้านเล็กๆสักหลังนะ ส่วนที่เหลือจะทำอะไรก็เชิญ” มิติในโลงศพค่อนข้างกว้าง ผมจึงสั่งให้พวกสเกเลตันที่อาศัยอยู่ในโลงศพอันเดดช่วยสร้างบ้านให้ หลังจากนี้อาจจะได้อยู่ข้างในนี้บ่อยขึ้น

    พวกสเกเลตันที่ผมเรียกออกมา เหมือนจะมีสติปัญญาพอสมควร ดูจากที่พวกมันชอบเล่นสร้างบ้านจากกระดูกเพื่อฆ่าเวลา แสดงว่าพวกมันมีความคิดมากพอที่จะสร้างสิ่งของง่ายๆได้

    ส่วนซอมบี้รูปแบบมนุษย์ที่ผมเรียกมาผ่านสกิล บริวารซากศพ 6 ตัว ถึงแม้เป็นกำลังรบได้ค่อนข้างดี เพราะพวกมันจะแข็งแกร่งกว่าตอนเป็นสิ่งมีชีวิตปกติ แต่ก็ใช้ประโยชน์อย่างอื่นไม่ได้อีก พวกมันรับคำสั่งซับซ้อนอย่างไปสร้างบ้านไม่ได้ พวกมันจึงทำได้แค่เดินไปเดินมาในมิติโลงศพนี้ 

    หืม….สเกเลตันตัวหนึ่งกำลังพยายามขึ้นขี่ซอมบี้เรดวูฟ? ถึงจะขึ้นขี่ได้แล้วแต่ก็อย่างที่คิด ซอมบี้เรดวูฟไม่ยอมเดินหรือเครื่อนไหวตามที่สเกเลตันบังคับ มันเดินอย่างเซื่องซึมไปมา

    “แกน่ะ” ผมชี้ไปที่ซอมบี้เรดวูฟตัวนั้น

    “หลังจากนี้ฟังคำสั่งที่เจ้ากระดูกตัวนั้นสั่งด้วย” หลังผมออกคำสั่งไปแบบนั้น ซอมบี้เรดวูฟก็เริ่มออกวิ่งไปตามที่สเกเลตันบนหลังบังคับ เมื่อสเกเลตันตัวอื่นเห็นเข้าก็พากันวิ่งมาจับจองเรดวูฟของตัวเอง ถึงจะเหลือแค่ 2 ตัวก็เถอะ เหมือนแย่งของเล่นเลยแฮะ
     

    สเกเลตันไรเดอร์
     

    เมื่อสังเกตุสเกเลตันที่ขี่ซอมบี้เรดวูฟอยู่ ก็ปรากฏชื่อใหม่ขึ้น ผมจึงได้ทำแบบเดียวกันกับซอมบี้เรดวูฟอีก2ตัว


    สเกเลตันไรเดอร์

    สเกเลตันไรเดอร์


    ได้กองกำลังที่น่าสนใจเพิ่มมากอีก2ตัว

    เวลาผ่านไป 2 3 วัน ช่วงแรกยังพอมีเนื้อหมาป่าให้กินอยู่บ้าง ส่วนมาเรียต้องนำเนื้อพวกนี้ไปย่างให้สุกก่อนจึงจะกินได้ แต่เมื่อผ่านไปอีกหลายวันเข้า อาหารก็เริ่มหมดลง ผมจึงต้องออกมาดูสถานการณ์ข้างนอกโลงศพบ้าง

    “ไม่มีวี่แวนคนแล้ว ไปเถอะ ออกเดินทางกัน” ผมเรียกพวกมาเรียกับชารอทที่รออยู่ให้ออกเดินทาง

    พวกผมมุ่งหน้าไปยังทิศเหนือตามที่มาเรียบอก ระยะทางค่อนข้างยาวไกล ระหว่างทางได้เจอกับพวกก็อบลินตัวเขียวดักซุ่มโจมตี เพียงเรียกพวกอันเดดออกมา ก็สามารถจัดการพวกมันได้อย่างง่ายดาย 


     

    เผ่าออร์ค สายพันธุ์ก็อบลิน


     

    เจ้าพวกนี้เป็นเผ่าเดียวกับพวกออร์ค แต่ตัวเล็กกว่าจึงเป็นสายพันธุ์ก็อบลิน พวกมันมีตัวสีเขียวทั้งตัว ฉลาดกว่าพวกซอมบี้หรือสเกเลตัน มีทั้งวางกับดัก ซุ่มโจมตี แต่พวกมันไม่ค่อยแข็งแกร่งหรือจัดการยุ่งยากอย่างการเป็นอมตะของสเกเลตัน จึงจัดการก็อบลินทั้ง 12 ตัวได้ง่ายกว่าที่คิด  


     

    -ได้รับมานา 114 เพิ่ม 20% มานา 23 (914/1500)

    -ชารอท (761/1500)

    -มาเรีย (1177/3200)


     

    บางครั้งก็เจอเรดวูฟ แต่เรดวูฟในป่าไม่ค่อยรวมฟูงกัน มักจะเจอพวกมันเป็นจ่าฟูงของหมาป่าปกติ รวมแล้วระหว่างทางเจอ 4 ฟูง มีเรดวูฟ 4 ตัวที่ถูกฆ่า หมาป่าทั้งหมดอีก 22 ตัว


     

    -ได้รับมานา 221 เพิ่ม 20% มานา 44 (1179/1500)

    -ชารอท (1026/1500)

    -มาเรีย (1442/3200)


     

    ชารอททำให้เรดวูฟกลายเป็นซอมบี้เรดวูฟ รวมถึงพวกหมาป่าปกติด้วย ถึงพวกมันจะไม่ค่อยมีประโยชน์ในการต่อสู้ แต่ก็ก่อกวนได้ดี อีกทั้งหากชารอทจะระเบิดศพเล่น ก็สามารถใช้พวกมันได้

    ผมให้พวกกระดูกมาขี่เรดวูฟ ทำให้มีสเกเลตันไรเดอร์เพิ่มขึ้นมาเป็น 7 ตัว

    ระหว่างเดินทาง พวกผมจะพักกันในโลงศพ เรื่องที่มาเรียสามารถเข้ามาในโลงศพได้ด้วย เป็นเพราะไอเทม มงกุฎซอมบี้ควีน ทำให้เธอมีสถานะเป็นเผ่าอันเดดชั่วคราว จึงสามารถผ่านเข้าออกโลงศพอันเดดได้ถ้าผมต้องการ

    ส่วนเรื่องอาหารผมและชารอทไม่มีปัญหาเพราะสามารถกินเนื้อสดๆที่หามาจากพวกหมาป่าได้ แต่สำหรับมาเรียต้องนำไปย่างให้สุกก่อน ทุกวันได้กินแต่เนื้อหมาป่าย่าง เธอก็ไม่บ่นสักคำ

    ต่อมาเมื่อพวกเสกเลตันสร้างบ้านหลังเล็กๆในโลงศพเสร็จ พวกผมก็ย้ายไปพักในนั้น 

    ถึงจะบอกว่าบ้านหลังเล็ก แต่จริงๆแล้วมันคือบ้านกระท่อมที่ทำจากไม้และกระดูกผสมกัน จนดูสยองไปบ้าง ในบ้านมีเครื่องมือเล็กน้อย เช่น หม้อ เตาไฟที่ก่อด้วยหิน ใช้หินอัคคีในการจุดไฟ เซ็ตเครื่องทำสมุนไพรที่ซื้อไว้ให้คุณยาย ถึงตอนนี้ให้ไม่ได้แล้ว แต่มาเรียก็ได้นำไปใช้ประโยชน์อยู่บ้าง เธอมีความรู้เรื่องสมุนไพร จึงทำยารักษาไว้ให้พวกผมได้ อีกทั้งเธอยังใช้มันในการทำเครื่องเทศในการปลุงรสอาหาร จากสมุนไพรนาๆที่ผมเก็บกลับมาระหว่างเดินทางอีกด้วย ทำให้มาเรียสามารถย่างหมาป่าที่มีหลากหลายรสชาติได้แล้ว

    ใช้ระยะเวลาค่อนข้างนาน ในที่สุดพวกผมก็มาถึงป่าที่มีต้นไม้สูงใหญ่ เถาวัลย์ขนาดเท่าแขนโยงไปมา ป่าเขียวขจีสวยงาม ใบไม้ส่วนใหญยังจะมีขนาดใหญ่กว่าตัวมนุษย์เสียอีก มีแมลงเรืองแสงบางชนิดบินไปมาให้ความสว่าง มองไปชวนหลงไหล

    “ถึงป่าของพวกเอลฟ์แล้วค่ะ” มาเรียรีบบอก

    “หาจุดที่มีมอนเตอร์เยอะๆไว้ก่อน อย่างน้อยถ้าไม่พบดันเจี้ยนก็ยังฆ่าพวกมันแก้ขัดไปได้” ผมออกมาจากโลงศพเพื่อสำรวจรอบ

    ผมส่งพวกสเกเลตันไรเดอร์ทั้งหมด 7 ตัวออกไปค้นหา พวกมันมีความเร็วมากกว่าอันเดดตัวอื่นๆไม่นานก็มีสเกเลตันไรเดอร์ตัวหนึ่งวิ่งกลับมา มันส่งสัญญาณให้ตามไป

    พวกผมตามไปดูก็พบกับฟูงเรดวูฟฝูงหนึ่ง ประมาณ 16 ตัว ถึงจะไม่เยอะมากเท่ากับที่พบในหอคอยวงกต  แต่หากเปรียบเทียบกับที่เจอมาระหว่างทางแล้ว ถือว่าเยอะพอสมควร พวกมันรวมตัวกันเป็นกลุ่มเป็นก้อน ไม่สามารถโจมตีทีละกลุ่มได้หรือทีละตัวได้ ดังนั้นจึงต้องเปิดศึกประจัญบานกันสักรอบ

    “มาเรีย” 

    “อะไรหรอคะ?”

    “ฉันว่าเธอเข้าไปหลบอยู่ในโลงศพอันเดดก่อนดีกว่า…มันเกะ…หมายถึง มันจะเป็นอันตรายน่ะ” ผมบอกมาเรีย ถึงแม้เธอจะมีสกิลช่วยเหลือที่ดี แต่สำหรับผมที่เป็นเผ่าอันเดดแล้ว จะมีเธออยู่หรือไม่ ก็เหมือนกัน หากไม่ได้ไปสู้กับสเกเลตัน เธอก็มีดีแค่เพิ่มมานา 20% นั่นแหละ! อืม…ถึงจะแรงไปหน่อยก็เถอะ แต่ก็เป็นความจริงนี่นะ

    “จะใจร้าย….” มาเรียเดินคอตกกลับเข้าโลงศพ 

    ผมเริ่มเปิดศึกกับเรดวูฟ โดยมีผมและชารอทเป็นคนนำเข้าโจมตี เหล่าอันเดดรวม 40 กว่าตัวเข้าโรมรันเรดวูฟ เริ่มแรกก็ต่อสู้ยืดเยื้ออยู่บ้าน แต่เมื่อกลุ่มสเกเลตันไรเดอร์วิ่งออมไปแล้วพุ่งเข้ามาประกบจากข้างหลัง พวกเรดวูฟก็ไม่มีทางหนีได้อีก จมเข้าไปในกองศพอันเดด แน่นอนเหล่าเรดวูฟที่ตายก็ถูกทำให้กลายเป็นซอมบี้เรดวูฟเพิ่มอีก


    -ได้รับมานา 312 เพิ่ม 20% มานา 62 (1553/1500) เพิ่มเป็นเลเวล 5 (53/3200)

    -ชารอท (1400/1500)
    -มาเรีย (1816/3200)

    ‘กรุณาเลือก คลาส ค่ะ’

    เสียงพรดังขึ้น

    “โอ้ เลือกคลาสได้แล้วๆ” ผมถูมือด้วยความตื่นเต้น เรื่องแบบนี้ต้องใช้เวลาคิดไตร่ตรองอย่างรอบคอบ ผมจึงนำพวกชารอทกลับไปที่บ้านในโลงศพก่อน หยุดการสำรวจไว้ชั่วคราว

    ผมสำรวจการ์ด รอบนี้มีการ์ดให้เลือกทั้งหมดแค่ 2 ใบ 


    -คลาส Necromancer  จอมเวทย์แห่งซากศพ (สกิลคลาส)

    -เพิ่มสกิลเสริมให้แก่สกิลต่อไปนี้ : ปลุกอันเดด ระดับ 2 (สกิลแรก),โลงศพอันเดด, บริวารกระดูก, บริวารซากศพ
    -ปลุกอันเดด ระดับ 2 : สามารถคืนชีพให้กับ ‘อมนุษย์’ ได้ 1 ตัว (0/1)
    -โลงศพอันเดด : เหล่าอันเดดที่อยู่ข้างในจะได้รับการรักษาตลอดเวลา และเมื่ออันเดดออกมาจากโลงศพ จะเพิ่มพลังโจมตีและความเร็ว 20% เป็นเวลาระยะเวลา 60 วินาที
    -บริวารกระดูก : สามารถเรียกสเกเลตันคิงได้เพิ่มอีก 1 ตัว
    -บริวารซากศพ : สามารถเรียกซอมบี้ควีนได้เพิ่มอีก 1 ตัว


    -คลาส Dead Warrior นักรบแห่งความตาย (สกิลคลาส)

    -เพิ่มสกิลเสริมให้แก่สกิลต่อไปนี้ : การผ่าตัดต้องห้าม แฟรงเกนสไตน์,โลงศพอันเดด
    -การผ่าตัดต้องห้าม แฟรงเกนสไตน์ : เพิ่มพลังพื้นฐานทั้งหมด 100% สามารถใช้สกิลโดยไม่จำกัดระยะเวลาใช้ใหม่
    -โลงศพอันเดด : เมื่อถือหรือแบกโลงศพอันเดดไว้ จะได้รับพลังพื้นฐานทั้งหมดเพิ่ม 1 % ต่ออันเดด 1 ตัวที่อยู่ในโลงศพ


     

    ดูจากคลาสที่ให้เลือกและสกิลเสริมแล้ว การเลือกครั้งนี้จะมีผลอย่างมากต่อการ์ดที่จะมีเพิ่มในอนาคต ดังนั้นต้องเลือกอย่างระมัดระวัง

    คลาส เนโครแมนเซอร์ หรือ จอมเวทย์แห่งซากศพ นั้นมุ่งเน้นไปที่การเพิ่มจำนวนบริวารและความสามารถของพวกมัน 

    ส่วนคลาส เดดวอริเออร์ หรือ นักรบแห่งความตาย กลับมุ่งเน้นไปที่ความแข็งแกร่งของตัวเองเป็นหลัก และเอาพวกบริวารอันเดดต่างๆมาเพิ่มพลังให้ตัวเอง ถึงเส้นทางสายนี้จะทำให้ผมแข็งแกร่งขึ้นมาก แต่ทว่าสกิลส่วนใหญ่ที่ผมมีรวมถึงสกิลแรกก็เป็นสกิลของสาย เนโครแมนเซอร์ เสียมากกว่า ดังนั้นการตัดสินใจครั้งนี้จึงยากมากเป็นพิเศษ

    “อืม…………เอาไงดีนะ พวกเธอคิดว่าอย่างไงบ้าง ชารอท มาเรีย” ผมคิดไม่ตก จึงหันไปถามพวกเธอ แต่พวกเธอกลับไม่ได้สนใจทางนี้ 

    “หืม? ทำอะไรกันอยู่น่ะ” พวกเธอกำลังคุยอะไรบางอย่างกัน ชารอทหยิบการ์ดมาหนึ่งใบ ก่อนจะยื่นให้ผมดู

    “คะ คุณชารอทเลือกคลาสแล้วค่ะ” มาเรียหันมาบอก

    “ห๊ะ!?” เลือกแล้ว? อะไร ยังไง ชอรอทยังเลเวลไม่เพิ่มเลยไม่ใช่หรอ

    “ฉันใช้การ์ดสกิลนี้ช่วยให้เลเวลเพิ่มค่ะ” เหมือนมาเรียจะเดาใจผมออก จึงรีบอธิบาย เธอยื่นการ์ดสกิล ผู้เป็นที่รักของพระเจ้า (สกิลแรก) ให้ผมดู มันก็สกิลที่เพิ่มมานา 20% ไม่ใช่หรอ…ผมลองอ่านดูอีกที 

    -สกิลคลาส - แด่ผู้เป็นที่รัก การ์ดสกิลจะทำการเก็บสะสมมานาบางส่วนไว้ และสามารถส่งมอบมานาที่เก็บไว้ให้แก่ผู้อื่นได้ (มานาสะสม 1926)

    “ก่อนหน้านี้มานาสะสมมีอยู่ 2026 ค่ะ ใช้ให้คุณชารอทไป 100 เพราะเห็นว่าใกล้จะเพิ่มเลเวลได้พอดีค่ะ” มาเรียอธิบาย อย่างนี้เองสินะชารอทจึงได้มานาเพิ่ม


    -ได้รับมานา 100 เพิ่ม 20% มานา 20 (173/3200)

    -ชารอทได้รับมานา 100 เพิ่ม 20% มานา 20 (1520/1500) เพิ่มเป็นเลเวล 5 (20/3200)

    “รู้สึกว่าฉันก็ได้มานามาเพิ่ม 100 เหมือนกันนะ” ผมบอกมาเรีย

    “สงสัยว่าคุณชารอทจะเกิดมาจากสกิลของคุณลูย์น่ะค่ะ ดังนั้นมานาจึงส่งถึงกันได้”

    “แล้วเธอไม่ใช้ให้ตัวเองหรอ?”

    “รู้สึกเหมือนจะใช้ให้ตัวเองไม่ได้นะคะ” มาเรียตอบ แสดงว่าเธอก็คงเคยลอยใช้มาแล้วสินะ อย่างนี้นี่เอง เหตุผลที่พวกกิลด์ซิกนัสต้องการตัวเธอ เพราะนอกจากจะเพิ่มมานาให้กับปาตี้ 20% ตามปกติแล้ว ยังสามารถเพิ่มมานาจากการสะสมของการ์ดให้คนอื่นได้อีกด้วย และจากที่ผมคำนวน การสะสมมานาของการ์ดก็เพิ่มตามจำนวนมานาที่เธอได้แบบเท่าๆกัน ตามปกติ เหมือนกับที่ชารอทได้มานาเท่ากับที่ผมได้โดยไม่ต้องหักอะไร

     แสดงว่า……แทบจะเพิ่มให้เป็น 2 เท่าเลยไม่ใช่หรอ! 

    ถ้าหากสมมุติว่าเธอเพิ่มให้ผมหรือชารอท ก็จะได้มานาคูณ 2 เข้าไปอีก เพราะชารอทจะได้มานาเท่ากับผมตลอด ไม่ว่าจะเป็นการได้จากทางไหนก็ตาม 

    อืม….แต่เรื่องทั้งหมดนี้ก็ขึ้นอยู่กับมาเรียแหละนะ ก่อนจะมาเจอกับผมเธอคงถูกบังคับเข้ารวมปาตี้และมอบมานาจากการ์ดให้คนอื่นมาไม่รู้เท่าไหร่ ถ้าหากผมยังไปบังคับเธออีก ผมก็คงไม่ต่างจากพวกชั่วนั่น

    “เข้าใจแล้ว ชารอทเธอเลือกคลาสอะไรเหรอ” ผมหันกลับไปถามชารอท

    “เดดวอริเออร์ ค่ะ” เธอตอบอย่างไม่ลังเล 

    อืม ก็เหมาะกับเธอดีละนะ ดูเธอเหมือนจะสนใจสายบ้าพลังเป็นพิเศษ

    “แล้วคลาสอื่นละ เป็นยังไง”

    “ดิฉันคิดว่า มีแต่คลาสที่อ่อนแอค่ะ” เธอบอกแบบนั้นแล้วเอาการ์ดคลาสที่ยังไม่ทันหายไปให้ผมดู


    -คลาส Necromancer  จอมเวทย์แห่งซากศพ (สกิลคลาส)

    -เพิ่มสกิลเสริมให้แก่สกิลต่อไปนี้ : เชื้อซอมบี้ระดับ 2 (สกิลแรก), เชื้อซอมบี้ระเบิดศพ
    -เชื้อซอมบี้ระดับ 2 : ทำให้ซอมบี้ทั้งหมดที่เกิดจากสกิลนี้ สามารถแพร่เชื่อต่อได้ด้วยตัวเอง เพิ่มพลังโจมตีของซอมบี้อีก 15%
    - เชื้อซอมบี้ระเบิดศพ : ทำให้ซอมบี้ที่เกิดจากสกิล เชื้อซอมบี้ จะระเบิดตัวเองเมื่อถูกฆ่าตายโดยไม่ต้องใช้สกิล หากเป้าหมายตายด้วยสกิลนี้จะติดเชื้อซอมบี้อีกด้วย


    -คลาส Dead Warrior นักรบแห่งความตาย (สกิลคลาส)

    -เพิ่มสกิลเสริมให้แก่สกิลต่อไปนี้ : บ้าเลือด เบอร์เซิร์ก, เชื้อซอมบี้ระดับ 2 (สกิลแรก)
    -บ้าเลือด เบอร์เซิร์ก : เพิ่มความสามารถพื้นฐานทั้งหมด 100% แม้ไม่ได้ใช้สกิล 
    -เชื้อซอมบี้ระดับ 2 : สามารถสังเวยเนื้อและเลือดของซอมบี้ที่เกิดจากสกิลนี้ เพิ่มพลังพื้นฐานทั้งหมด 50% ต่อตัวซอมบี้ที่ถูกสังเวย เป็นระยะเวลา 10 นาที


    -คลาส Explode magicianr จอมเวทย์ระเบิด (สกิลคลาส)

    -เพิ่มสกิลเสริมให้แก่สกิลต่อไปนี้ : เชื้อซอมบี้ระเบิดศพ
    -เชื้อซอมบี้ระเบิดศพ : สามารถระเบิดซอมบี้ได้จากระยะไกลด้วยพลังเวท ไม่จำจัดจำนวนครั้ง ไม่มีระยะเวลาในการใช้ใหม่อีกครั้ง เพิ่มพลังโจมตีของระเบิด 200% 


    อ่อนแอหรอ? แบบนี้ไม่เรียกอ่อนแอแล้ว!! ผมถึงกับทรุดลง คำว่าอ่อนแอหรือแข็งแกร่งของชารอทหมายถึงพลังของร่างกายสินะ จากที่ผมดู คลาสเนโครแมนเซอร์ของชารอทแข็งแกร่งกว่า สกิลคลาสเนโครแมนเซอร์ของผมอีกไม่ใช่เรอะ? นี่มันสกิลทำรายล้างขนาดใหญ่ระดับทำลายเมืองได้เลยนะ ลองคิดภาพว่าปล่อยซอมบี้ไว้ในเมืองสัก 10 ตัว แล้วซ้อมบี้วิ่งไปกัดชาวบ้านจนเกิดการติดเชื้อ หลังจากนั้นก็เหมือนไฟลาม ไม่มีทางหยุดได้อีก ถึงแม้จะฆ่าซอมบี้ตาย ซอมบี้ก็จะระเบิดทำให้คนๆนั้นตายไป แล้วกลายเป็นซอมบี้อีกที บู้ม ทั้งเมืองกลายเป็นซอมบี้ ผมได้กองทัพซอมบี้ขนาดใหญ่มาไว้ในมือ

    คิดแล้วน้ำตาก็แทบไหล แต่ถึงจะอย่างนั้น ผมอาจจะคิดในแง่ดีเกินไปก็ได้ เพราะถึงอย่างไรซอมบี้ที่เกิดจากมนุษย์ก็เป็นแค่มอนเตอร์ระดับต่ำ หากเมืองๆนั้นมีนักผจญภัยหลายคนหน่อยก็อาจจะกำจัดได้หมดในเวลาไม่นานก็ได้

    เฮ้อ

    แต่ก็เอาเถอะ คลาสที่เธอเลือกก็เพิ่มความแข็งแกร่งได้อย่างแท้จริงโดยไม่หวังพึ่งพาความสามารถของคนอื่น ในเมื่อชารอทเลือกคลาสที่เพิ่มความแข็งแกร่งของตัวเองแล้ว ผมก็ควรเลือกคลาสที่เพิ่มความสามารถของทีมสินะ 

    อีกอย่างสกิล ปลุกอันเดด ระดับ 2 มีสกิลเสริม คือ สามารถคืนชีพให้กับ ‘อมนุษย์’ ได้ 1 ตัว 

    ถึงจะใช้คืนชีพศพของยายไม่ได้ แต่ผมก็สนใจคำว่า อมนุษย์ เพราะคำว่าอมนุษย์นั้นตีความได้กว้างมาก ยกตัวอย่างเช่น ตัวผมเอง จะหมายถึงอมนุษย์ได้ไหม? หรือยังคงเป็นมอนเตอร์? แล้วพวก เอลฟ์ คนแคระ ยักษ์ หรือก็อบลินละ? อะไรคืออมนุษย์กันแน่ มีแต่ต้องลองสินะ ถ้าได้อมนุษย์ที่แข็งแกร่งมาช่วยสู้อีกแรงก็คงจะดี ตัดสินใจได้แล้ว

    “คลาส ‘เนโครแมนเซอร์’ นี่แหละ! ฉันฝากความหวังไว้กับแกนะ”
     

     

     



    สรุปหลังบท

    ลูย์
    -เผ่าอันเดด สายพันธุ์ซอมบี้
    -เลเวล 5 มานา (173/3200)
    -คลาส : เนโครแมนเซอร์ จอมเวทย์แห่งซากศพ
    -สกิลแรก : ปลุกอันเดด ระดับ 2
    -ปลุกอันเดด ระดับ 2 : สามารถคืนชีพศพ 2/2
    -สกิลอื่นๆ : โลงศพอันเดด,บริวารกระดูกระดับ 5, การผ่าตัดต้องห้าม แฟรงเกนสไตน์,สกิลบริวารซากศพระดับ 2
    -ไอเทม : มีดบิน, สร้อยกะโหลกมรกต(สกิลบริวารกระดูกระดับ 2), ชุดเกราะราชากระดูก, ผ้าคลุมหมาป่าแดง(สีดำ ติดฮูด), ลูกตุ่มหัวกะโหลกดำ, แหวนกะโหลกมรกต(สกิลบริวารกระดูกระดับ 1) 3 วง, หน้ากากหัวกะโหลก, เช็ตปรุงยาสมุนไพร,กำไลซากศพสีนิล(สกิลบริวารซากศพระดับ 2)

    ชารอท
    -เผ่าอันเดด สายพันธุ์ซอมบี้
    -เลเวล 5 มานา (20/3200)
    -คลาส : เดดวอริเออร์ นักรบแห่งความตาย
    -สกิลแรก : เชื้อซอมบี้ระดับ 2
    -เชื้อซอมบี้ : เลือดของผู้ใช้สกิลจะทำให้ซอมบี้ติดเชื้อได้ เผ่ามนุษย์,เผ่าสัตว์ ที่ติดเชื้อซอมบี้และตายจะกลายเป็นซอมบี้ใต้อาณัติ
    -สกิลอื่นๆ : เชื้อซอมบี้ระเบิดศพ,บ้าเลือด เบอร์เซิร์ก
    -ไอเทม : กระบองยักษ์มรณะ,ชุดเกาะกระดูกหมาป่าแดง,เสื้อคลุมหมาป่าแดง(เสียหาย)

    มาเรีย
    -เผ่าพันธุ์ มนุษย์
    -เลเวล 5 มานา (1816/3200)(มานาสะสม 1926)
    -คลาส : พรีช นักบวช
    -สกิลแรก : ผู้เป็นที่รักของพระเจ้า
    -ผู้เป็นที่รักของพระเจ้า : ผู้ใช้สกิลและพันธมิตรในปาตี้ได้รับมานาเพิ่ม 20%
    -สกิลอื่นๆ : แสงศักดิ์สิทธิ์ ฮิล ระดับ 1, คำอวยพร เบลซซิ่ง ระดับ 2
    -ไอเทม ชุดซิสเตอร์,คัมภีร์แห่งแสง,มงกุฎซอมบี้ควีน

    เหลือเงิน : 42 เหรียญเงิน 75 เหรียญทองแดง


     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×