คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #11 : แก้แค้น
มาเรียได้อธิบายเรื่องราวทั้งหมด
เธอบอกว่าตอนแรกที่เธอได้รับพรและการ์ดสกิล 'ผู้เป็นที่รักของพระเจ้า' เธอก็ดีใจมาก แต่หลังจากเธอได้เข้าร่วมปาตี้กับนักผจญภัยของกิลด์ซิกนัส พอพวกมันรู้ถึงรายละเอียดของสกิลของเธอ เธอก็ไม่ได้มีโอกาสได้ออกไปผจญภัยกับปาตี้อื่นๆอีกเลย หากปาตี้ไหนรับเธอเข้าก็จะโดนกิลด์ซิกนัสจ้องเล่นงาน จนต้องไล่เธอออกมา แม้แต่การ์ดสกิลก็โดนบังคับให้เลือกตามที่พวกมันต้องการ บางครั้งถึงกับโดนกักขังไว้ในกิลด์ไม่ให้ออกไปไหน แต่โชคดีที่ได้สมาคมนักผจญภัยช่วยพูดให้ ไม่อย่างนั้นเธอคงไม่ได้ออกมาเจอผม
“ถึงตอนแรกฉันจะกลัว ที่เรื่องนี้ปานปลายจนถึงกับมีคนตาย แต่ฉันก็ดีใจจริงๆนะคะ ที่คุณลูย์ทำเพื่อฉัน” มาเรียบอกด้วยน้ำตา ตอนนี้อารมณ์ของเธอกำลังสับสนไปหมด ใจหนึ่งก็ดีใจ อีกใจก็กำลังหวาดกลัว เธอไม่รู้ว่าหลังจากนี้จะทำอย่างไรต่อไป
“ก็นะ ตอนแรกผมไม่คิดจะฆ่าคนหรอก แต่ดันมาตายในการโจมตีครั้งเดียวนี่สิ” คราวหลังต้องระวังให้มากกว่านี้ อย่าไปเผลอฆ่าใครเข้าอีก ไม่อย่างนั้นอาจจะเกิดปัญหาที่ใหญ่กว่าจะตามมา
“คุณมาเรียคะ หากเป็นกังวล หลักจากนี้ก็มาอยู่กับพวกดิฉันก็ได้ค่ะ ดิฉันจะปกป้องคุณเอง” ชารอทปลอบ สายเลือดคุณแม่ของเธอมันตื่นขึ้นมาหรือไงกัน
“จะ จริงหรอคะ”! มาเรียดีใจ เพราะหากเธอต้องไปอยู่คนเดียวอีก ไม่รู้ว่าจะต้องโดนอะไรบ้าง พวกกิลด์ซิกนัสต้องไม่ปล่อยเธอไปแน่ ดังนั้นเธอต้องหาปาตี้ของตัวเอง ที่จะสามารถช่วยเธอในยามคับขันได้
“ว่าแต่ชารอท ทำไมถึงมีซอมบี้เรดวูฟได้?” ผมถาม ชารอทยื่นการ์ดมาให้ผมตรวจสอบ
-เชื้อซอมบี้ ระดับ 2 (การ์ดสกิลแรก)
-ประเภทสกิล -อัตโนมัติ
-เลือดของผู้ใช้สกิลจะทำให้ติดเชื้อซอมบี้ได้ เผ่ามนุษย์,เผ่าสัตว์ป่า ที่ติดเชื้อซอมบี้และตายจะกลายเป็นซอมบี้ใต้อาณัติ
อย่างนี้นี่เอง เชื้อซอมบี้ระดับ 2 สินะ ดูมีประโยชน์กว่าปลุกอันเดดระดับ 2 ของผมเยอะเลย สามารถทำให้สัตว์ป่ากลายเป็นซอมบี้ได้ แบบนี้ก็ง่ายต่อแผนการสร้างกองทัพซอมบี้อย่างยิ่ง แถมยังสามารถใช้เพียงเลือดแทนการกัดได้ ด้วยผลข้อนี้จึงทำให้การ์ดสกิล เชื้อซอมบี้ระเบิด สามารถใช้งานได้ง่ายดายขึ้น
ชารอทได้ซอมบี้มาเพิ่มอีก 1 ตัว คือศพของนักอัญเชิญศพคนนั้น ส่วนนักธนู เพราะเป็นเผ่าเอลฟ์ชารอทจึงใช้สกิลทำให้เป็นซอมบี้ไม่ได้
“ไหนดูหน่อยซิ มีสกิลระดับ 3 กับระดับ 4 แสดงว่าต้องใช้เครื่องประดับด้วยแน่ๆ…” ผมค้นหาเครื่องประดับจากซอมบี้นักอัญเชิญศพคนนี้
เธอมีแหวนกะโหลกมรกต 2 วง และอีกอันคือ
-กำไลซากศพสีนิล ของซอมบี้ควีน
-เพิ่มพลังป้องกันระดับ D
เพิ่มพลังป้องกันให้กับมอนเตอร์เผ่าอันเดดที่ควบคุมอยู่ ระดับ C
ผู้สวมใส่ได้รับสกิล บริวารซากศพระดับ 2
-บริวารซากศพระดับ 2
-สามารถอัญเชิญมอนเตอร์ซอมบี้มารับใช้ได้ 6 ตัว
-*หากยังไม่ยกเลิกการอัญเชิญจากสกิลนี้ จะไม่สามารถใช้ใหม่ได้
-*ระยะเวลาในการใช้ใหม่อีกครั้งคือ 30 นาที
“ฮิๆ” ผมปลดไอเทมเครื่องประดับทั้งหมดของนักอัญเชิญศพมาใส่เอง ก่อนแสยะยิ้มอย่างพอใจ
“อา…ดูชั่วร้ายจังเลยนะคะ..” มาเรียเห็นผมช่วงชิงไอเทมมาและแสยะยิ้ม เธอก็ขนลุกทั้งตัวแล้ว
“อะแฮ่ม….ทั้งหมดก็เพื่อใช้ป้องกันตัวเองไงละ ใครจะรู้ว่าในอนาคตต้องเจอกับอะไรบ้าง” ผมกะแฮ่มปรับอารมณ์ ก่อนจะพูดให้ดูดีมีหลักมีการ
หลังจากสวมแหวนกะโหลกมรกตอีก 2 วง สกิลบริวารกระดูกก็เพิ่มเป็นระดับ 5
-บริวารกระดูก ระดับ 5 (สูงสุด)
-บริวารกระดูกระดับ 5 สามารถอัญเชิญสเกเลตันมารับใช้ได้ 10 ตัว และสามารถอัญเชิญสเกเลตันคิงมารับใช้ได้ 1 ตัว
-*หากยังไม่ยกเลิกการอัญเชิญจากสกิลนี้ จะไม่สามารถใช้ใหม่ได้
-*ระยะเวลาในการใช้ใหม่อีกครั้งคือ 30 นาที
สูงสุด? ระดับ 5 ก็คือระดับสูงสุดของสกิลแล้วสินะ
ผมใช้สกิลบริวารกระดูกอีกครั้งเพื่อเรียกสเกเลตันคิงออกมาด้วย ผมได้สั่งให้พวกมันไปเก็บชุดเกราะกับอาวุธของศัตรูที่ตายไปแล้วมาส่วนใส่ สเกเลตันคิงของผมได้เข้าไปหยิบชุดเกราะเหล็กขนาดใหญ่กับดาบใหญ่ของสเกเลตันคิงของนักอัญเชิญศพที่ตายไปแล้วมาใส่
ผมยังได้เล่าเรื่องราวของตนเองให้มาเรียฟัง ทั้งเรื่องที่ถูกฆ่าตายในบ้านทรุดโทรม ทั้งเรื่องที่พวกผมเป็นอันเดด
“ระเรื่องสำคัญแบบนี้ มาเล่าให้ฉันฟังจะดีหรอคะ!?” เธอดูตกใจมาก เธอไม่ได้แปลกใจเรื่องอันเดดเท่าไหร่ เพราะเธอเองก็สงสัยอยู่สักพักแล้ว แต่เธอตกใจที่ยอมเล่าให้เธอฟังมากกว่า
“เพราะเธอคือผู้สมรู้ร่วมคิด ที่ฆ่าคนของกิลซิกนัสไงละ เธอต้องไม่กล้าหักหลังพวกผมอยู่แล้ว” ผมจี้จุดเธอ แน่นอนว่าต่อให้ไม่มีเรื่องพวกนี้ ด้วยนิสัยใจคอของเธอ ผมก็คิดว่าเธอคงไม่บอกใครอยู่ดี
อีกเหตุผลคือการซื้อใจ ยอมเล่าความลับให้คนๆหนึ่งฟัง คือการให้ความไว้ใจอย่างหนึ่ง แต่ก็จะทำให้ผู้ฟังรู้สึกเชื่อใจเราไปด้วย เพราะผมก็สนใจสกิลของเธอเช่นกัน ดังนั้นหากเธอยอมเชื่อใจแล้วอยู่ในปาตี้ด้วยกันไปนานๆก็จะเป็นผลดีกับพวกผมไม่น้อย
หลังจากนั้นผมก็เก็บกวดบริเวณนี้เพื่อไม่ให้ทิ้งหลักฐานไว้ เหล่าอันเดดและซากศพต่างๆถูกโยนเข้าโลงศพ ส่วนศพของเอลฟ์นักธนู เอาไปด้วยก็คงไม่มีประโยชน์ พวกผมจึงขุดหลุมฝังไว้แถวๆนั้น
ระหว่างจัดการซากศพ พวกผมก็พบผลึกอีก 3 อัน 1 เป็นของสเกเลตัน อีก 1 เป็นของซอมบี้ และอีก 1 เป็นของซอมบี้ควีน ถือว่ายังมีโชคอยู่บ้าง
ผลึกของสเกเลตัน - ได้รับ 16 เหรียญเงิน
ผลึกของซอมบี้ - ได้รับหินอัคคี
ผลึกของซอมบี้ควีน - ได้รับมงกุฎซอมบี้ควีน
เหรียญเงิน? หินอัคคี? หินที่ใช้จุดไฟน่ะหรอ แบบนี้เขาเรียกว่าเกลือใช่ไหม? อืม…ทำไมต้องเป็นเกลือนะ จำไม่ได้แล้ว ชั่งมันเถอะ ยังดีที่ของซอมบี้ควีนได้ไอเทมที่พอใช้งานได้มา
-มงกุฎซอมบี้ควีน
-เพิ่มพลังป้องกันระดับ D
ผู้สวมใส่จะได้รับคำอวยพรแห่งความตาย มีสถานะเป็นเผ่าพันธุ์อันเดดชั่วคราว
หากไม่สร้างความเสียหายให้ซอมบี้ จะไม่ถูกซอมบี้โจมตีก่อน
ก็น่าจะดีอยู่นะ เหมือนได้สกิล พวกเดียวกัน(ซอมบี้) มาเลยไม่ใช่หรือไง แต่เป็นประเภทหมวกสินะ ไม่ใช่เครื่องประดับ
“มาเรีย เอานี่ไป” ผมโยนมงกุฎซอมบี้ควีนให้เธอ มงกุฎซอมบี้ควีน มีลักษณะเป็นมงกุฎสีทองเล็กๆ ไม่ใหญ่สะดุดตา ยังมีผ้าปิดหน้าสีดำบางๆ ติดไว้ที่มงกุฎด้วย ช่วนในการปกปิดใบหน้าได้ดี
“เอ๊..นี่มัน ไอเทมขยะที่นักผจญภัยขายทิ้งกันไม่ใช่หรอค่ะ….ขอ 16 เหรียญเงินยังจะดีกว่า…” มาเรียบ่น มงกุฎซอมบี้ควีน นอกจากใช้ตอนที่มาจัดการกับพวกซอมบี้แล้ว ก็ไม่มีประโยชน์อื่นอีก แถมยังกลายเป็นเผ่าอันเดดทำให้นักบวชในทีมไม่สามารถช่วยรักษาหรือสนับสนุนได้อีกด้วย
“เอาน่า ใช้ปิดบังใบหน้าก็ยังดี หลังจากนี้จะให้ใครรู้ไม่ได้ใช่ไหมละ ว่าเธออยู่กับปาตี้ไหน ไม่อย่างนั้นเรื่องก็ไม่จบเสียที” อันทีจริงเรื่องของมาเรียสามารถผ่านไปได้ง่ายๆ แค่เธอปิดบังตัวตนซะ ก็ไม่มีใครรู้แล้วว่าเธอเป็นใคร
อีกอย่าง ผมคิดว่าพรที่สุ่มเลือกการ์ดให้ หรือการ์ดต่อไปที่จะได้ อ้างอิงจากสกิลแรกเป็นหลัก และอีกอย่างที่ผมคิดไว้ ก็คือสถานะหรือเผ่าพันธ์ุของบุคคนนั้น อย่างเช่นการ์ดสกิล การผ่าตัดต้องห้าม แฟรงเกนสไตน์ ที่สามารถนำศพมาดัดแปลงตัวเองได้ ผมคิดว่าคนปกติคงไม่มีทางสุ่มได้การ์ดสกิลนี้แน่นอน เพราะการจะเอาชิ้นส่วนศพไปติดกับคน คือเรื่องที่เป็นไปไม่ได้ แต่ผมดันเป็นซอมบี้ จึงมีการ์ดสกิลนี้ออกมา ดังนั้นหากให้มาเรียสวมไอเทมที่ทำให้มีสถานะเป็นเผ่าอันเดดไว้ การ์ดสกิลต่อไปอาจจะมีประโยชน์กับเผ่าอันเดดได้บ้าง แต่ก็ขึ้นอยู่กับเธอแหละนะว่าจะเลือกอย่างไร เพราะทั้งหมดก็เป็นเพียงการคาดเดาของผมเอง
หลังจากนั้นพวกผมก็กลับไปที่ชั้น 0 ผมรับใบเควสมา
เควสแรงค์ F
กำจัดสเกเลตัน 5 ตัว
เงินรางวัล 6 เหรียญเงิน
เควสแรงค์ F (2 ใบ)
กำจัดซอมบี้ 5 ตัว
เงินรางวัล 5 เหรียญเงิน
เควสแรงค์ C
กำจัดสเกเลตันคิง 1 ตัว
กำจัดซอมบี้ควีน 1 ตัว
เงินรางวัล 22 เหรียญเงิน
ผมส่งใบเควสที่เคาน์เตอร์ ได้เงินรางวัลมาทั้งหมด 38 เหรียญเงิน แบ่งให้มาเรียไป 13 เหรียญเงิน เหลือ 25 เหรียญเงิน ถ้ารวมเงินทั้งหมดที่ผมมีตอนนี้ก็ 49 เหรียญเงิน 75 เหรียญทองแดง
“ไม่เจอกันแปปเดียว คุณลูย์ตัวสูงขึ้นมากเลยนะคะ” ราฟี้ พนักงานเอลฟ์เอ่ยทัก คงเป็นเพราะเปลี่ยนกระดูกนั่นแหละ
“เด็กๆก็โตเร็วแบบนี้แหละ” ผมตอบแบบขอไปที
ผมยังขึ้นไปชั้น 1 เพื่อซื้อชุดเกราะตัวใหม่ เพราะตัวเก่าออกแบบมาสำหรับร่างกายเด็ก เมื่อร่างกายใหญ่ขึ้นกลายเป็นของเด็กหนุ่ม จึงเริ่มรู้สึกว่าชุดมันเล็กเกินไป
ลุงเผ่าดวอร์ฟยังคงชอบที่จะจ้องมองชารอทไม่เปลี่ยน แต่รอบนี้เหมือนจะมองที่มาเรียด้วย คงไม่คิดอะไรพิลึกๆอีกใช่ไหม? แต่จะว่าไปมาเรียก็เป็นคนสวยอยู่แล้ว ผมสีเหลืองของเธอทำให้เข้ากับชุดเกราะสีทองของเธออย่างมาก ส่วนหน้าอก…..ใหญ่กว่าชารอทอีกไม่ใช่หรือไง!? ซ่อนรูปสินะ
“อะ เอ๊? มะ มองฉันทำไมค่ะ” มาเรียเริ่มเขินอาย สงสัยผมกับลุงดวอร์ฟจะมองนานไปหน่อย
“เอ่อ….ผมมาเปลี่ยนชุดเกราะน่ะ” ผมรีบเปลี่ยนเรื่อง แล้วเข้าไปคุยกับลุงดวอร์ฟ ผมใช้ชุดเกราะอันเก่ากับโครงกระดูกบางส่วนของสเกเลตันคิง และเพิ่มเงินอีก 5 เหรียญเงินเพื่อซื้อชุดใหม่
-ชุดเกราะราชากระดูก
-เพิ่มพลังป้องกัน C
เพิ่มพลังโจมตี C (B หากมีสเกเลตันคิงสองตัวเป็นบริวาร)
ผมเอาชุดเกราะราชากระดูกทั้งหมดของลุงดวอร์ฟมาดู พบว่าตัวนี้มีพลังแฝงที่พิเศษกว่าตัวอื่น คือ พลังโจมตีของชุดจะเพิ่มถึงระดับ B หากมีสเกเลตันคิงสองตัวเป็นบริวาร ผมจึงเลือกตัวนี้มา
ข้างในชุดเกราะทำจากผ้าฝ้ายสีดำก่อนจะนำโครงกระดูกส่วนอกมาใส่เป็นส่วนป้องกันตรงหน้าอก ตรงส่วนอื่นก็ใช้กระดูกชิ้นอื่นๆในการทำ เมื่อใส่ครบชุดแล้วดูเหมือนคนเถื่อนอยู่บ้าง
ผมขึ้นไปที่ชั้น 3 ซึ่งเป็นพื้นที่ขายยาโพชั่น ยาสมุนไพรและชิ้นส่วนมอนเตอร์ต่างๆ ยังมีร้านที่ขายผลึกของมอนเตอร์อีกด้วย มีราคาตั้งแต่ 30 เหรียญเงิน ไปจนถึง 1 เหรียญทอง ขึ้นอยู่กับว่าเป็นผลึกของมอนเตอร์ตัวไหน
แต่วันนี้ผมยังไม่ได้มาหาซื้อยาแปลกๆหรือผลึกมอนเตอร์ ผมเข้าไปในร้านสมุนไพร ขอซื้อเซ็ตทำยาสมุนไพร มีทั้งเครื่องบดยา เครื่องต้มยาและเครื่องกรอง ทั้งหมดในราคา 2 เหรียญเงิน
“คุณลูย์ทำยาสมุนไพรเป็นด้วยหรอค่ะ” มาเรียถาม เธอก็พอมีความรู้ด้านยาสมุนไพรอยู่บ้าง
“ไม่หรอก แม่ของชารอททำเป็นน่ะ เลยว่าจะซื้อเครื่องมือที่อำนวยความสะดวกในการทำไปให้” ยาของซอมบี้คงต้องให้ยายผลิตไว้อีกเยอะ เป็นการใช้แรงงานคนสูงอายุเกินไปหรือเปล่า? ว่าแต่ยายชื่ออะไร? ยังไม่เคยถามเลยนี่นะ เดี๋ยวกลับไปค่อยถามแล้วกัน
หลังจากซื้อเซ็ตทำยาสมุนไพรเสร็จพวกผมก็ออกมาจากหอคอยวงกต ออกจากเมืองชั้นในและชั้นนอก เข้าสู่ป่ากันตามปกติ เนื่องจากตอนนี้เป็นช่วงเวลากลางคืน ในป่าจึงมืดสนิท ผมกับชารอทนั้นไม่มีปัญหา เพราะสามารถมองเห็นในที่มืดได้ แต่มาเรียนั้นเดินลำบาก พวกผมจึงค่อยๆเดินไปอย่างไม่เร่งไม่รีบ
“นายท่าน…ได้ยินเสียงแปลกๆไหมค่ะ” จู่ๆชารอทก็ถามขึ้นมา หูของซอมบี้ดีกว่าหูของมนุษย์ทั่วไป
“อืม รู้สึกไม่ดีเลยแฮะ รีบกลับกันเถอะ” ผมดึงมาเรียเขามาอุ้มก่อนจะรีบกระโจนออกไป มาเรียส่งเสียงแปลกๆออกมา แต่ช่วยอดทนหน่อยเถอะ ตอนนี้ต้องรีบไปแล้ว ชารอทกระโจนตามมาอย่างรวดเร็ว
“กลิ่นนี่มัน…เลือด!” ขณะเข้าใกล้ถ้ำที่พวกผมอาศัยอยู่ก็ได้กลิ่นเลือดโชยมา ผมและชารอทรีบวิ่งอย่างไม่คิดชีวิต
“คุณแม่!” เมื่อมาถึงชารอทก็พุ่งตัวเข้าไปในถ้ำ
“แสงศักดิ์สิทธิ์ ฮิล!” มาเรียรีบเข้าไปใช้สกิลรักษา
บาดแผลถูกแทงสิบกว่าแห่งตามร่างกาย บาดแผลค่อยๆสมานกันจากสกิลของมาเรีย แต่….
“.....ไม่ทันแล้วค่ะ” หลังจากใช้สกิลฮิลสักพัก เธอก็บอกออกมาอย่างสิ้นหวัง
ดูจากบาดแผลแล้วแสดงว่าเพิ่งตายได้ไม่นาน คนร้ายต้องอยู่ไม่ไกลจากที่นี่แน่ ผมเรียกโลงศพออกมา ปล่อยซอมบีเรดวูฟทั้ง 8 ตัวออกไปตามหาร่องรอยของคน
“บริวารกระดูก บริวารซากศพ ออกมา!” ผมเรียกใช้สกิล
สเกเลตัน 10 ตัว สเกเลตันคิง 1 ตัวและซอมบี้อีก 6 ตัว โผล่ออกมาจากพื้นดิน ผมสั่งให้พวกมันออกตามหาคนบริเวณนี้เช่นกัน
“นายท่านคะ….” ชารอทเริ่มมีน้ำตาไหลออกมา
“ช่วย..คืนชีพ..ได้ไหมคะ? เหมือนที่นายท่านคืนชีพให้ดิฉัน” ชารอทยิ่งพูดยิ่งน้ำตาไหล
“แน่นอน รอผมได้การ์ดสกิลปลุกอันเดดระดับ 3 มาก่อน ผมจะช่วยยายเอง” ผมปลอบโยนเธอ ถึงแม้การใช้สกิลปลุดอันเดดนั้น ควรจะเอาไว้ใช้กับคนเก่งๆ ที่สามารถปลุกขึ้นมาแล้วเป็นกำลังรบได้เลย แต่เพื่อชารอท….และตัวผมเอง…จะมัวคิดแต่ผลได้ผลเสียไม่ได้
บรู๊ววววววว
เสียงซอมบี้เรดวูฟหอน
“ชารอท เจอคนแล้ว” ผมรีบกระโจนออกไปตามทิศทางที่ได้ยินเสียงแทบจะทันที
“คุณมาเรีย ฝากดูแลร่างกายของคุณแม่ด้วยนะคะ” ชารอทสงบสติอารมณ์ลง เธอพุ่งตามผมไปอย่างรวดเร็ว
“ค่ะ!”
หลังจากได้ยินเสียงเรดวูฟ ผมก็กระโจนตามเสียงมาเรื่อยๆ จนเริ่มมองเห็นแสงสว่างของกองไฟ ซอมบี้เรดวูฟกำลังสู้อยู่กับมนุษย์สองคน
“ไอ้นี่มันตัวอะไรกันวะ!” ชายคนหนึ่งตะโกนออกมาขณะกำลังใช้ดาบฟันเรดวูฟเพื่อป้องกันตัว
“ก็แค่เรดวูฟไม่ใช่เรอะ” ชายอีกคนช่วยยิงธนูเสริม ถึงแม้เรดวูฟจะหลบได้อย่างรวดเร็ว แต่ธนูก็เข้าเป้าอยู่ดี
“รูปร่างมันก็คล้ายๆอยู่หรอก แต่พลังและความเร็วมีมากกว่าตัวปกติเห็นๆเลยนี่”
“.....เป็นพวกแกอีกแล้ว” ผมเดินออกมาจากข้างหลังของซอมบี้เรดวูฟ เสียงของผมเย็นชาจนตัวเองยังแปลกใจ
“เป็นพวกมัน…พวกมันอีกแล้ว..” ไม่นานชารอทก็ตามมาถึง เธอยืนข้างๆผมเนื้อตัวสั่นเทิ้ม
พวกนี้ก็คือเจ้าพวกฆาตกรที่เคยฆ่าชารอทและลูกของเธอ ตอนนี้ยังตามมาฆ่าแม่ของเธออีก ชารอทแทบควบคุมตัวเองไม่อยู่แล้ว
“พวกแกเป็นใครกัน?” ฆาตกรคนหนึ่งถาม เพราะผมกับชารอทสวมหน้ากากอยู่ พวกฆาตกรนี่เลยจำไม่ได้
ผมกับชารอทถอนหน้ากากออก
“ชารอท? กับลูกของมัน? พวกแกยังไม่ตายจริงๆด้วย เป็นไปได้ยังไง?” เมื่อมันเห็นหน้าผมกับชารอท พวกมันสับสนเล็กน้อย ก่อนจะหัวเราะออกมาอย่างชั่วร้าย
“หึ สงสัยตั้งแต่แรกที่เห็นเจ้าเด็กนั่นแล้ว พวกแกยังไม่ตายจริงด้วย ตอนนี้ถึงกับได้รับพรแล้ว” ชายที่ใช้ธนูเตียมต่อสู้อย่างระวังตัว เรื่องนี้ต้องมีบางอย่างแปลกๆ มันมั่นใจมากว่าฆ่าชารอทเองกับมือ แต่ตอนนี้เธอกลับมายืนหัวโด่อยู่ตรงนี้
ต่างกับฆาตกรอีกคนที่กำลังเลียริมฝีปากพลางจ้องมองเรือนร่างของชารอทอย่างไม่วางตา
ชารอทแทบทนไม่ไหว แต่ผมก็จับมือเธอไว้ก่อน ยังไม่ใช่ตอนนี้
“พวกแกฆ่าคนชราที่ไม่มีทางสู้ ทำไม?” ผมถาม
“เพราะอีแก่นั่น ไม่ยอมบอกว่าพวกแกอยู่ที่ไหนน่ะสิ ขนาดโดนแทงไปสิบกว่าครั้งยังปากแข็งอยู่ได้”
“พวกแก่นี่มันเศษสวะของแท้เลย…เริ่มกันเถอะชารอท” ผมและชารอทเดินเข้าไป
“เหอะ แค่นักผจญภัยเลเวล 4 สองคน กับเรดวูฟอีกตัว คิดจะฆ่าพวกฉันเรอะ ฝันไปเถอะ!” ชายที่อยู่ข้างหน้าสุดเตรียมถือดาบและโล่ขึ้นมา มันสวมใส่ชุดเกราะเหล็กแบบเต็มตัว เหมือนอัศวินในยุคกลาง
เผ่ามนุษย์
เลเวล 6
คลาส Knight อัศวิน
ชายที่อยู่ข้างหลังง้างธนู ยิงมา
เผ่ามนุษย์
เลเวล 6
คลาส Wind archer นักธนูสายลม
ธนูพุ่งมาทางผม ผมไม่หลบ เพราะรู้ว่าถึงหลบไปก็โดนอยู่ดี จู่ๆสเกเลตันตัวหนึ่งก็กระโจนเข้ามาขวางทางลูกศรด้วยคำนั่งผม
“ไม่ใช่ 2 คนกับอีก 1 ตัว แต่เป็น 2 คนกับอีก 27 ตัวต่างหาก” สเกเลตันที่โดนยิงตายไป ฟื้นคืนชีพกลับมายืนได้ใหม่
รอบๆป่าค่อยๆปรากฏร่างของซอมบี้ สเกเลตัน และซอมบี้เรดวูฟออกมาจากความมือมิด รายล้อมศัตรูเอาไว้ ก่อนหน้านี้ที่ห้ามชารอทลงมือกับการถามคำถามอีกเล็กน้อย เป็นเพียงการถ่วงเวลาเท่านั้น เพื่อให้อันเดดของผมล้อมที่นี่เอาไว้
“อันเดด! เยอะขนาดนี้เลยหรอ?” ชายในชุดเกราะเริ่มเครียด
“เราถูกล้อมแล้ว!” นักธนูหันไปใช้สกิลใส่อันเดดข้างหลัง หวังจะเปิดทางออก มันยิงลูกศรขึ้นฟ้า เกิดเป็นฝนลูกศรสีเขียวตกลงมาใส่พวกอันเดด บางตัวตายไป แต่ส่วนใหญ่ยังอยู่
“หึ โง่จริง” ผมปามีดบินใส่นักธนูที่หันหลัง ชายเกาะเหล็กจะเข้ามาป้องกันให้ แต่ถูกซอมบี้เรดวูฟกระโจนใส่จนตัวเองต้องหลบไป
ฉึก
มีดบินเสียเข้าบริเวณไหล่ของนักธนู
“อึก…แก! ไอ้เด็กไม่สิ้นกลิ่นน้ำนม หาที่ตาย!” นักธนูร้องออกมาด้วยความเจ็บ
ชารอทกระโจนไปทางนักธนู พร้อมกับไม้กระบองยังหวดออก
“คำอวยพรแห่งสายสายลม!” นักธนูใช้สกิลเสริม พลังความเร็วให้ตัวเองและชายเกาะหนัก ทำให้พวกมันสามารถเคลื่นไหวได้เร็วขึ้น นักธนูจึงหลบการจู่โจมของชารอทไปได้
ส่วนที่ประชันหน้ากับชายชุดเกราะหนัก ได้ใช้ลูกตุ่มหัวกระโหลกฟาดลงไปเต็มแรงเข้าใส่ ชายชุดเกราะยกโล่ขึ้นมาตั้งรับได้ทัน แต่เห็นได้ชัดว่าเคลื่อนไหวช้าเพราะชุดเกราะ ผมงอกแขนยักษ์ออกมาระหว่างนั้น หวดไปยังลำตัวของมันจนได้รับบาดเจ็บ
“คิดไม่ถึงเลยนะ ว่าเธอจะยังไม่ตาย แถมได้รับพรมาอีกด้วย” นักธนูพูดระหว่างที่หลบการโจมตีไปด้วย เร็วมาก ชายคนนี้ยังเร็วกว่าตอนที่เจอกันครั้งแรกเสียอีก เพราะสกิลของคลาสนักธนูสายลมหรือเปล่า?
“เพราะดิฉันได้รับโอกาสจากสวรรค์….ไม่สิ คงเป็นเทพแห่งความตาย เพื่อที่จะได้แก้แค้นแกไงละ!” ชารอทยังพุ่งเข้าไปหวด รอบนี้เธอเปิดใช้สกิล บ้าเลือด ด้วย ทำให้พลังและความเร็วของเธอเพิ่มขึ้น 100% หลังจากที่นักธนูหลบการหวดด้วยไม้กระบองยักษ์ได้ เธอก็หมุนตัวเตะเข้าไปที่ใบหน้าของมัน ด้วยแรงของซอมบี้ทำให้นักธนูกลิ่งล้มลงไป ยังพุ่งอย่างแรงไปชนต้นไม้อีก
อึก
“กรอด…” นักธนูกัดฟันกรอด เลือดกลบปาก ใบหน้าบวมเป่ง
“เงาสายลม!” จู่ๆร่างของนักธนูก็แบ่งออกเป็น 2 คน 3 คน สุดท้ายกลายเป็น 4 คน แถมร่างเงาทั้งหมดยังสามารถยิ่งธนูติดตามได้อีกด้วย ลูกศรถูกยิงปลิวว่อนในอากาศ ลูกธนูทุกดอกยังเลี้ยวเข้ามาเสียบชารอทถึงแม้เธอจะหลบแล้วก็ตาม จนเธอกลายเป็นเม่นที่มีหนามแหลมอยู่ทุกส่วนของร่างกาย
ฉึก ฉึก ฉึก ฉึก ฉึก …………
“หึๆ ฮ่าๆ ตายไปซะ ถึงจะเสียดายร่างกายสวยงามนั้นก็เถอะ”
“ของแค่นี้ ไม่…สามารถฆ่าดิฉันได้หรอก!” ชารอทวางไม้กระบองยักษ์ลง เธอใช้มือทั้งสองข้างรวบลูกธนูที่เสียบอยู่ตามร่างกายไว้แต่ยังไม่ดึงออก แล้วกระโจนเขาไปหานักธนู
“หืม ทำอะไรนะ?!” นักธนูตกใจ นอกจากชารอทจะไม่ตาย เธอยังทำพฤติกรรมแปลกๆกระโจนมาทางนี้ นักธนูเตียมหนี แต่ทว่าไม่ทันเสียแล้ว ซอมบี้เรดวูฟ 5 ตัวกับซอมบี้อีก 4 ตัวกระโจนเข้ามาพร้อมชารอทพอดี บางตัวจับนักธนูไว้ บางตัวกัด ตัวไหนโจมตีไม่ได้ก็พยายามเข้าประชิดตัวนักธนูหรือร่างแยกให้ได้มากที่สุด
“เชื้อซอมบี้ระเบิดศพ!” ชารอทเข้าไปถึงกลางวงก็ดึงลูกธนูที่ถูกเสียบอยู่ตามร่างกายทั้งหมดออกพร้อมๆกัน จนเกิดเป็นภาพฝนสีเลือดสาดกระเซ็นไปทั่ว ฝนเลือดกระเซ้นใส่ซอมบี้ทุกตัวแถวนั้น
เมื่อซอมบี้เปล่งแสงสีเขียว ตัวพองขยาย ซอมบี้อีกตัวก็จะโจมตีใส่กันเองจนเกิดระเบิดขนาดใหญ่ขึ้น
ตู้มมมมมมม
—--------------------------------------
ย้อนกลับมาเล็กน้อย
ถึงแม้ชายชุดเกราะจะได้รับคำอวยพรที่เพิ่มความเร็วแล้วก็ตาม แต่ทว่าด้วยชุดเกราะที่หนักอึ้งก็ยังไม่สามารถหลบการโจมตีจากลูกตุ่มและแขนยักษ์ของผมได้อยู่ดี ผมควงลูกตุ่มไปมา หัวกระโหลกบินลอยออกมาจากโลงศพ เดียวชนทางซ้าย ชนขวา บางครั้งยังเข้าไปกระแทกข้างหลัง อีกทั้งยังมีสเกเลตันและซอมบี้อีก 10 กว่าตัวเขามาช่วยโจมตี ถึงไม่ได้สร้างความเสียหายมากมาย แต่ก็ทำให้ชายชุดเกราะไม่มีโอกาสโจมตีกลับมา มีดีแค่การป้องกันสินะ
“คำอวยพรเกราะป้องกัน!” ชายชุดเกราะใช้สกิล เหมือนจะเป็นสกิลเพิ่มพลังป้องกันขึ้นไปอีก มันยกโล่ขึ้นมาป้องกัน ทำให้ค่าป้องกันสูงขึ้นไปอีก
"หึ กระดองเต่าแข็งๆนี่ อย่าคิดว่าจะปกป้องแกได้ตลอด" ผมใช้กำปั่นยักษ์สองข้างกะหน่ำรั่วไปบนโล่เหล็กจนมันแทบแตก
ชายชุดเกราะเริ่มเห็นท่าไม่ดี หากเป็นอย่างนี้ต่อไปโล่ของเขาได้แตกแน่
“จงออกมา เหล่าทหารองครักษ์!” เกิดแสงสว่างขึ้นรอบตัวชายชุดเกราะ อัศวิน 4 ตัวปรากฏขึ้นรอบกายมัน
“แค่อัศวิน 4 ตัวนี้ก็สามารถรับมือกับอันเดดกระจอกๆพวกนี้ได้แล้ว” ชายชุดเกราะปล่อยให้อัศวันจัดการกับเหล่าอันเดดของผม หลังจากแยกการพัวพันของพวกอันเดดไป ชายชุดเกราะก็หั่นมาเป็นฝ่ายโจมตีบ้าง มันกระโจนเข้ามาใช้โล่โจมตี
“โล่กระแทก!” บริเวณโล่เกิดไฟลุกขึ้นก่อนเข้าชนผม ผมใช้แขนยักษ์ป้องกันไว้ แขนยักษ์เกิดความเสียหาย กระดูกมือข้างซายแตกแขนสองข้างถูกเผ่าไหม้ หลังจากป้องกันสำเร็จ ผมก็โจมตีสวนกลับด้วยลูกตุ่มหัวกระโหลก
“เริ่มโจมตีเป็นแล้วเรอะ” ผมฟาดด้วยลูกตุ่มใส่ชุดเกราะของมันจนเห็นเป็นรู้ แต่มันก็ยังไม่หยุดโจมตี ใช้ดาบแทงเข้ามาใส่ผม ผมใช้แขนยักษ์ต่อยกลับไป มันใช้โล่ชนมา ผมก็หวดกลับด้วยลูกตุ่มอีก เป็นแบบนี้อยู่สักพัก
“เจ้าโง่เอ๋ย แลกการโจมตีกับคลาสอัศวินที่พลังป้องกันเยอะที่สุดอย่างงั้นเรอะ?”
“อัศวินโต้กลับ!” แสงสีส้มสว่างขึ้นทั่วร่างของชายชุดเกราะ ก่อนจะย้ายเข้าไปรวมกันที่ดาบจนสว่างจ้า ชายชุดเกราะง้างดาบและฟันสุดแรง
เปรี้ยง ฉึก
พลังของดาบระเบิดออก ฉีกร่างของผมเป็นสองส่วน
“ฮ่าๆ เป็นไงละ สกิลที่รวบรวมความเสียหายที่ได้รับและโต้กลับไปด้วยพลังนั้นสองเท่า!” ถึงชายชุดเกราะจะสบัคสบอมแต่ก็ยังยืดอกในชัยชนะ เขาหันกลับไปดูทางเหล่าอัศวินองครักษ์ ปรากฏว่าเหล่าอัศวินองครักษ์ตายหมดแล้ว
“นั่นมัน สเกเลตันคิง?”
“ถึงแม้แต่สเกเลตันคิงกับสเกเลตันปกติจะสู้กับเหล่าอัศวินองครักษ์ไม่ได้ แต่ทว่าพวกมันเป็นก็เป็นอมตะละนะ เหมือนฉันไง” เสียงของผมดังขึ้นจากข้างหลังของชายชุดเกราะ ชายชุดเกราะค่อยๆหันกลับมา
กรอบแกรบ แก๊กๆ
กระดูกของผมกลับมาต่อกันใหม่เหมือนเดิม ผมยืนขึ้นอีกครั้ง
“มาเริ่มกันอีกรอบเถอะ” ผมเข้าไปแลกการโจมตีอีกครั้งพร้อมกับพวกสเกเลตันก็เข้ามาร่วมโจมตีด้วย ครั้งนี้เหมือนว่าชายชุดเกราะจะเสียกำลังใจไปแล้ว ถึงแม้ทางของผมและเหล่าอันเดดจะมีพลังป้องกันไม่เยอะ สู้ได้ไม่นานก็ล้มลง แต่ทว่าหากศัตรูไม่มีนักบวชอยู่ในทีม พวกผมก็ฟื้นกลับมาได้ใหม่ เป็นแบบนี้ไม่มีวันจบ
แต่ชายชุดเกราะยังคงเป็นมนุษย์ เมื่อการต่อสู้ยืดเยื้อนานเข้า ไม่นานเขาก็หมดแรงล้มลงไป
“อะ อ๊ากกกกก”
ผมปล่อยให้เหล่าอันเดดปิดฉาก
-ได้รับมานา 60 เพิ่ม 20% มานา 12 (705/1500)
-ชารอท (552/1500)
-มาเรีย (968/3200)
ตู้มมมมม
ไม่นานเสียงระเบิดขนาดใหญ่ก็ดังขึ้น หันไปดูทางชารอทเห็นภาพการระเบิดที่ใหญ่โต ไม่รู้ว่าเธอใช้ซอมบี้ในการรเบิดไปกี่ตัว การระเบิดถึงได้ใหญ่โตขนาดนี้
“แฮกๆ…”
ไม่รู้ว่านักธนูคนนี้ใช้สกิลอะไร หรือเพราะโชคดี จึงยังรอดจากการระเบิดขนาดใหญ่นั่นมาได้ แต่ทว่าก็บาดเจ็บปางตาย ชารอดเดินเข้าไปหามัน
“วะ ไว้ชีวิตข้าเถอะ ข้าสัญญาว่าจะไม่ทำ…..อ๊ากกกกกกก” นักธนูยังพูดไม่ทันจบ ชารอทก็กระทืบไปที่บริเวณเป้ากางเกงจนของมันจนเละ หลังจากนั้นเธอก็เข้าไปหักแขน
“อ๊ากกกกกกกกกกกกกก”
หักแขนอีกข้าง
“อ๊ากกกกกกกกกกกกกกกก”
หักขา
“อ๊ากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก”
หักขาอีกข้าง
“อ๊ากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก”
ชายนักธนูสลบไป
………………………….
เธอรอจนมันฟืนสติ แล้วใช้ไม้ที่เหลามาเป็นอย่างดี เสียบทะลุตั่งแต่หว่างขา ขึ้นไป จนปลายของไม้ทะลุออกปาก
“อ๊ากก อะ โอ้ก อ๊อกก…” ชายนักธนูส่งเสียงร้องไม่เป็นภาษาก่อนจะตายไป
ได้รับมานา 60 เพิ่ม 20% มานา 12 (777/1500)
ชารอท (624/1500)
มาเรีย (1040/3200)
พวกผมกลับมายังถ้ำ เก็บศพของยายไว้ในโลงศพอันเดด รอให้มีสกิลปลุกอันเดดระดับ 3 ก่อนแล้วค่อยชุบชีวิตยายขึ้นมา ถึงจะฟื้นขึ้นมาเป็นอันเดดก็เถอะนะ
“ยายมีชื่อว่าอะไร” ผมถามชารอท
“นายท่านรอถามเอง ตอนท่านแม่ฟื้นขึ้นมาเถอะนะคะ” ชารอทตอบแบบนั้น คิดว่าคงเป็นความต้องการของคุณยายเองสินะ
“คนๆนี้……เป็นคนของกิลด์ซิกนัสนี่ค่ะ” มาเรียบอกหลังจากมาดูศพของพวกฆาตกรที่ผมเอากลับมาด้วย
“กิลด์ ซินัส อีกแล้วหรอ?”
—-----------------------------------------------------------------------
ในเขาวงกต ระหว่างทางจากชั้น -1 ไปยังชั้น -2 มีหลุมศพหลุมหนึ่งที่พวกลูย์ใช้ฝังศพ ศพหนึ่งที่ฆ่าไปไม่นานมานี้
พุ
ศพๆหนึ่งลุกขึ้นมาจากหลุม เป็นชายหนุ่มเผ่าเอลฟ์
“คิดไม่ถึงเลยว่าการ์ดสกิลแรก จิตย้ายศพ จะมามีประโยชน์ในตอนนี้”
เพราะนักผจญภัยต้องออกไปเสี่ยงต่อสู้กับมอนเตอร์ทุกวัน เธอจึงเลือกการ์ดสกิลแรกเป็นใบนี้ ทำให้เธอมีหลักประกันว่าตัวเองจะไม่ตาย
-จิตย้ายศพ
-ประเภทสกิล : อัตโนมัติ
-สกิลจะใช้ทันทีหลังจากตายไปแล้ว สามารถย้ายดวงจิตของตัวเองไปยังศพมนุษย์ในบริเวณใกล้เคียงได้
-สกิลคลาส สามารถย้ายไปยังศพเผ่าพันธุ์ใดก็ได้ในบริเวณใกล้เคียงได้
“เจ้าพวกเวรนั่น กิลด์ซิกนัสจะไม่ปล่อยพวกแกไปแน่ ฉันจะต้องแก้แค้น!”
ความคิดเห็น