คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #10 : ฆ่าครั้งแรก
“กะ แก! แกกล้าฆ่านักผจญภัยหรอ?!” ผู้หญิงคนหนึ่งหนึ่งในกลุ่มตะโกนออกมาด้วยความตกใจ
แน่นอนว่าในตอนแรกไม่คิดว่านักผจญภัยที่ถูกทุบจะตายคาทีทันที แสดงว่าแขนยักษืของสเกเลตันคิงที่กลายมาเป็นแขนยักษ์ของซอมบี้นี้ มีพลังทำลายเกินกว่าที่ผมคิดไว้มาก
“กิลด์ซิกนัสไม่ปล่อยพวกแกไว้แน่!” ชายกล้ามโตที่ยืนอยู่หน้าสุดตะโกนอย่างเกรี้ยวกราด
“กิลด์หรอ? อะไรละนั่น” ผมหันไปถามมาเรียที่วิ่งกลับมาซ่อนข้างหลังผม
“เป็นระบบทีมที่คล้ายกับปาตี้ค่ะ แต่กิลด์จะเป็นทีมที่ใหญ่กว่านั้น ประมาณ 30-40 คนค่ะ”
จากที่มาเรียบอก เหมือนปาตี้จะจำกัดจำนวนได้สูงสุดแค่ 6 คน แต่กิลด์ก็คือทีมใหญ่ๆทีมหนึ่งสินะ แบบนั้นก็ยุ่งยากแล้วซิ ตอนนี้ยังไม่อยากหาศัตรูให้มากจนเกินไป
“ข้าจะฆ่าพวกแกที่นี่แหละ คลื่นดาบผ่านภา!” ชายกล้ามโตกระโจนเข้ามา มันตวัดดาบมาทางผม คลื่นพลังงานบางอย่างพุ่งเข้ามา ผมใช้สเกเลตัน 2 ตัวเข้ามาป้องกันข้างหน้า
บึม
คลื่นพลังของดาบเข้าปะทะกับสเกเลตันจนระเบิดออก สเกเลตันตัวนั้นลงไปกองกับพื้น แต่ไม่นานมันก็ลุกขึ้นมาใหม่
“นักอัญเชิญศพหรอ?”
“หึ ถ้าผมฆ่าพวกคุณที่นี่ให้หมด กิลด์ซิกนัสอะไรนั่นก็คงไม่รู้หรอกใช่ไหม?” ผมยิ้มชั่วร้านพร้อมชักมีดบินปาใส่ชายกล้ามโตที่เข้ามา
เคร้ง
มีดบินที่ปาไป ยังไม่ทันถึงตัวของชายกล้ามโตก็กระทบกับกำแพงบางอย่างเสียก่อน มีสกิลในการป้องด้วยสินะ
-เผ่ามนุษย์
-เลเวล 5
-คลาส Warrior นักรบ
“เอ๋? เราจะสู้กับพวกเขาเหรอคะ แบบนั้นกิลด์ซิกนัสไม่อยู่เฉยๆแน่” มาเรียทำท่าหวาดกลัว
“ก็เพราะแบบนั้นไง เลยต้องปิดปากพวกมันทั้งหมดน่ะ” อีกอย่าง เรื่องที่เกิดขึ้นทั้งหมดนี้ ต้นสายปลายเหตุจริงๆมันมาจากเธอไม่ใช่หรือไง อย่าตื่นกลัวสิ
ถึงไม่บอกก็พอจะเดาได้ ว่าเรื่องราวเป็นยังไง คงเป็นเพราะสกิลที่ทำให้เพิ่มมานา 20% ของมาเรียอย่างแน่นอน หากทุกปาตี้ควรจะมีคลาสนักบวชติดทีมไปด้วยอย่างน้อยหนึ่งคน มันจะมีอะไรดีไปกว่านักบวชที่ขอแค่เข้าทีมมา ก็ได้มานาเพิ่มขึ้น 20% ละ คงทำให้เจ้าพวกนี้อยากครอบครองไว้เองใจจะขาด จนต้องบังคับให้เธอเข้าปาตี้ด้วยในทุกครั้งแน่ๆ
“ดิฉันขอเวลาสักครู่นะคะ” ชารอทบอก พูดจบเธอก็เดินเข้าไปในโลงศพของผมทันที เธอดูครุ่นคิดมาสักพักก่อนหน้านี้แล้ว
เอ๋? ต้องเป็นตอนนี้ด้วยหรอ ผมกำลังประกาศสงครามอยู่นะ! แต่เมื่อคิดดูดีๆ ชารอทไม่ใช่คนที่จะทิ้งผมไว้โดยไม่มีเหตุจำเป็น เธอคงกำลังเตรียมการอะไรสักอย่าง
“บริวารซากศพ! แกไม่ใช่นักอัญเชิญศพคนเดียวในที่นี่หรอก” หญิงสาวที่ยืนอยู่ข้างหลังสุด ใช้สกิล เหล่าซอมบี้ 10 ตัวก็โผล่ออกมาจากพื้นดิน
“บริวารกระดูก!” สเกเลตันอีก 5 ตัวออกมาเพิ่ม นี่มันสกิลเหมือนกับที่ผมมีเลยนี่ บริวารกระดูกระดับ 3
หืม….มีสกิลเรียกกองทัพเยอะกว่าผมอีกแฮะ น่าสนใจดี
-เผ่ามนุษย์
-เลเวล 5
-คลาส Necromancer จอมเวทย์แห่งซากศพ
ส่วนอีกคนเหมือนจะเป็นชายหนุ่มเผ่าเอลฟ์ เลเวล 4 ใช้ธนูเป็นหลัก
“มาเรียเธอคอยใช้สกิล ฮิล โจมตีพวกอันเดดของทางนั้น พร้อมกับใช้ เบลซซิ่ง ใส่ไปด้วย จำไว้ว่าอย่างใช้ใส่อันเดดทางเราละ” ผมสั่งการมาเรีย คงต้องหวังพึ่งพาเธอไปสักพักแหละนะ จนกว่าชารอทจะกลับออกมา
ผมสั่งสเกเลตันของผมทั้งหมด 5 ตัวไปจู่โจมทางนักอัญเชิญศพ มาเรียใช้สกิล เบลซซิ่ง ใส่อันเดดของทางนั้น ทำให้พวกมันติดสถานะอ่อนแอ พลังโจมตี ความเร็ว และพลังป้องกันลดลง 30% แบบนี้ก็อาจจะพอถ่วงเวลาได้ มาเรียช่วยโจมตีเสริมและระหว่างที่สเกเลตันของผมกำลังจะโดนโจมตี เธอก็ร่ายคาถาของหนังสือ ช่วยสร้างบาเรียป้องกันไว้เป็นบางครั้ง
ผมควงลูกตุ่มหัวกะโหลกกระโจนไปทางชายกล้ามโต ชายกล้ามโตใช้สกิลคลื่นดาบโจมตีสวนมา แต่โจมตีตรงๆแบบนี้หลบได้ไม่ยาก เมื่อหลบได้ผมก็ใช้ลูกตุ่มฟาดเข้าไป
เคร้ง
ลูกตุ่มยังคงติดกำแพงที่มองไม่เห็น
“ฉันไม่เชื่อว่ามันจะป้องกันไปได้ตลอดหลอก” ผมเริ่มควงลูกตุ่มหัวกะโหลกใหม่ รอบนี้หัวกะโหลกของสเกเลตันที่ผมเคยฆ่าตายในโลงศพ ก็ลอยออกมาด้วย
ผมหลบคลื่นดาบอีกครั้ง
“ทำไมเจ้าหมอนี้ถึงเร็วจังฟะ มันไม่ใช่นักเวทหรอกเรอะ” ชายกล้ามโตเริ่มสงสัย
ผมฟาดเข้าไปอีกรอบ ครั้งนี้หัวกะโหลกที่ลอยอยู่รอบๆก็พุ่งเข้าไปกะหน่ำโจมตีด้วย
เคร้ง เคร้ง เคร้ง เคร้ง เคร้งง!
ในที่สุดมันก็แตกออก ผมใช้โอกาสนี้งอกแขนของสเกเลตันคิงออกมาต่อยเข้าไปที่ชายกล้ามโต
ปึกก
ความรู้สึกเหมือนต่อยโดนหินแข็งๆ เมื่อมองดูชายกล้ามโต ร่างกายของมันกลายเป็นสีนิลเหมือนเหล็ก
“กายาเหล็ก ยังไงละ” สกิลนี้ทำให้ร่างกายของชายกล้ามโตแข็งเหมือนเหล็ก แต่ถึงอย่างนั้นก็ยังมีเลือดไหลออกมาจากปาก เพราะพลังของแขนซอมบี้ยักษ์ไม่ใช่จะมารับกันได้ง่ายๆหรอกนะ
ฉึบ
ลูกธนูพุ่งเข้ามาปักกลางหัวผม ผมหยุดชะงักลง
“ฮ่า ฮ่าๆ ตายซะ เจ้าเด็กอวดดี” หลังจากที่ผมโดนลูกธนูปักกลางหัวจนชะงักไป ชายกล้ามโตก็พุ่งเข้ามาจับผมไว้ ด้วยสกิลกายาเหล็ก ทำให้พลังกายของชายกล้ามโตเพิ่มขึ้นอย่างมาก มันดึงผมเข้าไปอยู่ในอ้อมแขนเหล็กแล้วบีบ บีบ บีบ และบีบแขนเข้ามาเรื่อยๆ
กรอบแกรบ ก็อก แกรบ..
เสียงกระดูกทั้วร่างกายผมหัก เหมือนกลัวว่าลูกธนูกลางหัวจะฆ่าผมไม่ตาย หรือด้วยความสะใจส่วนตัวก็ไม่ทราบ ชายกล้ามโตยังทุบศีรษะผมจนแตกก่อนจะปล่อยร่างที่แหลกเละของผมให้ลงไปกองที่พื้น
“ฮ่าๆ” ชายกล้ามโตยังคงหัวเราะอย่างสะใจ
“คุณลูย์!!!” มาเรียร้องตะโกน เธอล้มลงไปแทบสิ้นสติ
“นายท่านคะ…..” ชารอทที่ออกมาพอดีถึงกับตะลึงไปชั่วคราว จากนั้นก็กลายเป็นความโกรธ
“โอ้ มาแล้วหรอ ให้รอตั้งนานเลยนะ” ผมพูดออกมา
“………………..”
“.......................”
เกิดความเงียบงันชั่วขณะ ความโกรธของชารอทค่อยๆหายไป
กรอบแกรบ
กระดูกของผมตามพื้นค่อยๆเข้ามารวมกัน หัวกะโหลกที่แตกก็ค่อยๆต่อกลับเข้าไปจนเป็นปกติ ไม่นานผมก็ยืนขึ้น
กรอบแกรบ
ผมบิดกระดูกเล็กน้อย เสียงกระดูดดังกรอบแกรบไม่หยุด ถึงกระดูกจะกลับมาเป็นปกติเพราะสกิล แฟรงเกนสไตน์ ที่เปลี่ยนเอากระดูกของสเกเลตันใส่แทนกระดูกของผม ทำให้ได้รับคำอวยพร ต่อกระดูก แบบเดียวกับสเกเลตันเข้ามาด้วย แต่ถึงอย่างนั้นก็มีเพียงกระดูกที่ไม่เสียหาย ชิ้นส่วนเนื้อที่หลุดไปยังคงเป็นบาดแผลสาหัส
ชิ้นเนื้อหลายแห่งฉีกขาด บางชิ้นหลุดไปกองกับพื้นแล้ว แลดูสยดสยอง ผมเดินเข้าไปหาซากศพของนักผจญภัยคนแรกที่เพิ่งฆ่าไป ก่อนจะก้มลงไปฉีกเนื้อและเลือดกิน บาดแผลค่อยๆฟื้นฟูกลับมา
“นี่มัน…สกิลแบบไหนกัน พลังฟื้นฟูจะมากเกินไปแล้ว ต่อให้มีสกิลคำอวยพรต่อกระดูก แต่โดนยิงที่หัวไปแล้วก็ไม่น่าจะฟื้นขึ้นมาได้นี่ หรือว่ามันเป็นอมตะ!?” นักธนูเอลฟ์ตกตะลึงเมื่อเห็นคนที่เคยโดนยิงหัว แถมยังถูกบดจนร่างแหลกเละ กลับมายืนได้ใหม่
อันที่จริงโครงกระดูกของสเกเลตันที่ผมใช้อยู่ก็เหมือนกับสกิลคำอวยพรต่อกระดูกนั่นแหละ แต่เพราะร่างของผมคืออันเดด ต่อให้โดยยิงหัวจนสมองไหล หรือยิงทะลุหัวใจ อันเดดก็ไม่ตายทันทีหรอก ผมจึงเหมือนอมตะ ดังนั้นสกิลต่อกระดูกจึงมีประโยชน์กับเผ่าอันเดดอย่างมาก …แต่ถ้าโดนนักบวชชำระล้าง พรตรงนี้ก็ไม่ประโยชน์เหมือนเดิม
“ไปทำอะไรมาเหรอ?” ผมไม่สนใจคำถามของเขา ไม่สนใจด้วยว่าพวกมันจะรู้ว่าผมเป็นอันเดดไหม อย่างไรก็จะฆ่าทั้งหมดอยู่แล้ว ผมหันมาถามชารอท การที่เธอหายไปทั้งๆที่อยู่ในช่วงหน้าสิ่วหน้าขวานแสดงว่าต้องเป็นเรื่องสำคัญพอสมควร
“ค่ะ เพิ่งได้การ์ดสกิลที่คิดว่าสามารถพลิกสถานการณ์ได้ จึงต้องใช้เวลาเตียมตัวสักหน่อยค่ะ หลังจากนี้นายท่านพักฟื้นให้สบายเถอะนะคะ” โฮ้ ถ้าจำไม่ผิดชารอทเพิ่งเลเวลเพิ่มเป็น 4 แล้วซินะ จึงได้การ์ดสกิลใหม่มาให้เลือก เห็นบอกว่าให้ผมพักเถอะ แสดงว่าจะจัดการคนเดียวทั้งหมด?
ชารอทค่อยๆเดินออกมา ไม่นานในโลงศพก็มีบางอย่างเดินตามออกมา มันเดินสี่เท้ามีขนสีแดง ตัวใหญ่เท่ามนุษย์ เรดวูฟ? ไม่สิ ซอมบี้เรดวูฟ!
ซอมบี้เรดวูฟเดินตามชารอทออกมา 1 ตัว 2 ตัว 3 ตัว…..ทั้งหมด 8 ตัว! เธอได้สกิลแบบไหนมาละเนี้ย
ชารอทลากไม้กระบองยักษ์กระโจนเข้าโจมตีชายกล้ามโตพร้อมกับเรดวูฟอีก 4 ตัว ส่วนอีก 2 ตัววิ่งออกไปจัดการกับนักธนูเอลฟ์ที่ยิงธนูปักหัวผม ที่เหลือเข้าไปช่วยมาเรียต่อสู้กับฝูงซอมบี้และสเกเลตันของนักอัญเชิญศพ
ชารอทกับเรดวูฟ 4 ตัวกระหน่ำโจมตีอย่างบ้าคลั่ง จนชายกล้ามโตได้แต่ใช้บาเรียป้องไม่มีโอกาสโจมตีสวนเลยแม้แต่น้อย เรดวูฟที่กลายเป็นซอมบี้ไม่สามารถใช้สกิลลวงตาได้ แต่ความเร็วดังเดิมก็ยังอยู่ เมื่อเพิ่มกับพลังหลังกลายเป็นซอมบี้พวกมันก็แข็งแกร่งและเร็วกว่าเดิมมาก
เคร้งง
ไม่นานเกาะบาเรียก็แตก ชารอทใช้กระบองฟาดเข้าไป ชายกล้ามโตใช้ กายาเหล็ก ทำให้สามารถทนรับการโจมตีของกระบองไว้ได้บ้าง และโจมตีสวนกลับมา
“บ้าเลือด เบอร์เซิร์ก!” ชารอทใช้สกิลบ้าเลือด ร่างกายของเธอกลายเป็นกล้ามเนื้อแข็งแกร่ง เส้นเลือดสีเขียวเต้นตุบๆทั่วร่าง เธอใช้การโจมตีแบบแลกหมัด เธอฟาด ฟาด ฟาด ด้วยการเพิ่มพลังของบ้าเลือดทำให้พลังของเธอเพิ่มอีก 100% ส่วนชายกล้ามโตก็ต่อยสวนกลับมาทุกครั้งที่มีโอกาส หลังจากใช้สกิลบ้าเลือดพลังป้องกันของเธอก็ลดลงด้วยถึง 70% ทำให้เธอได้รับบาดเจ็บเช่นกัน แต่ถึงอย่างนั้นทางของเธอก็มีเรดวูฟค่อยช่วยโจมตีอีกแรง
“อ๊ากก ฉันยอมแล้ว ไว้ชีวิตฉันเถอะ!” ไม่นานชายกล้ามโตที่ลงไปกองกับพื้นก็ร้องขอชีวิต
“โทษฐานที่แกฆ่านายท่าน…..คือตาย” ชารอทฟาดอย่างเต็มแรงครั้งสุดท้าย ทำให้ชายกล้ามโตตายคาที่
-ได้รับมานา 50 เพิ่ม 20% มานา 10 (285/1500)
-ชารอท (132/1500)
-มาเรีย (548/3200)
“จุๆ ฆ่าคนได้มานาเยอะกว่าจำกัดเรดเวฟหรือสเกเลตันคิงอีก” ผมจุปากด้วยความอัศจรรย์ใจ
“รู้สึกว่า จะได้มานาเฉพาะกับคนที่มีพรเท่านั้นค่ะ” มาเรียตอบข้อสงสัยของผมให้
ชารอทกัดนิ้วตัวเองจนเลือดไหล เธอหยดเลือดลงบนศพของชายกล้ามโต ศพชายกล้ามโตเริ่มขยับและลุกขึ้นมา กลายเป็นซอมบี้? หืม ไม่ใช่ว่าต้องกัดหรอกเรอะ ใช้แค่เลือดหยดก็ได้สินะ
ตอนนี้ชารอทสั่งซอบบี้ที่เพิ่งได้มากับเรดวูฟทั้งหมดเข้าโจมตีนักธนู
“คุณมาเรีย เตียมใช้การชำระล้างด้วยนะคะ” ชารอทเดินมาอยู่ข้างๆมาเรีย
“อะ ค่ะ!”
ชารอทกัดนิ้วอีกรอบ รอบนี้เหมือนเธอจะกัดเยอะเป็นพิเศษ เพราะเลือดของเธอไหลออกมาเหมือนท่อน้ำที่แตก ชารอทสะบัดมือไปทางซ้อมบี้ของนักอัญเชิญศพ เลือดกระเด็กไกลจนไปหยดลงบนร่างกายซอมบี้พวกนั้น
“พะ พวกแกจะทำอะไรน่ะ” หญิงสาวนักอัญเชิญศพที่เห็นพวกพ้องตายเริ่มสติแตก
ไม่นานซอมบี้ที่โดนเลือดก็เริ่มเปล่งแสงสีเขียว ร่างกายพองขยายใหญ่ขึ้น นั่นมัน เชื้อระเบิดศพ? สเกเลตันตัวหนึ่งของผมวิ่งเข้าไปใช้ดาบเสียบซอมบี้นั่น
ตู้มมมมมมมมมม ตู้มมมมม ตู้มมมมมม
เมื่อซอมบี้ตัวหนึ่งระเบิด ตัวอื่นๆที่ติดเชื้อจากเลือดของชารอทก็ระเบิดตาม กลายเป็นภาพการระเบิดที่ยิ่งใหญ่อลังการจริงๆ
-ได้รับมานา 10 เพิ่ม 20% มานา 2
-ได้รับมานา 10 เพิ่ม 20% มานา 2
-ได้รับมานา 10 เพิ่ม 20% มานา 2
………………………………….
………………………………….
………………………………….
“เบลซซิ่ง!” มาเรียใช้สกิลเบลซซิ่งที่เป็นสกิลวงกว้าง แต่ก็ยังได้รับผลของการชำระล้างอยู่ ใส่พวกสเกเลตันของศัตรูที่ตายไปเพื่อไม่ให้พวกมันคืนชีพได้อีก ส่วนซอมบี้ของทางนั้นก็ระเบิดตายหมดแล้ว รวมแล้วฆ่าไป 15 ตัว แต่ตัวนักอัญเชิญหนีออกมาทันจึงยังไม่ตายไปพร้อมกันระเบิด
-ได้รับมานา 150 เพิ่ม 20% มานา 30 (465/1500)
-ชารอท (312/1500)
-มาเรีย (728/3200)
ส่วนทางของนักธนูที่ถูกเรดวูฟ 8 ตัวไล่ล่าก็ถูกฆ่าตายตามไปอย่างง่ายดาย
-ได้รับมานา 40 เพิ่ม 20% มานา 8 (513/1500)
-ชารอท (360/1500)
-มาเรีย (776/3200)
“กรอด อย่ามาดูถูกนักผจญภัยที่เปลี่ยนคลาสแล้วนะ ดูนี่ซะ พลังของคลาสเนโครแมนเซอร์”
“ออกมาซะ บอสมอนเตอร์ สเกเลตันคิง! ซอมบี้ควีน!”
พุ พุ
ร่างกายกระดูกขนาดใหญ่ของสเกเลตันคิงโผล่ออกมาจากพื้นดิน ส่วนซอมบี้ควีนนั้นไม่ได้ตัวใหญ่อย่างที่คิด ซอมบี้ควีนมีรูปร่างเหมือนผู้หญิงทั่วไป เป็นซอมบี้ที่ไม่มีกลิ่นเหม็นเน่าหรือเนื้อที่เน่าเปื่อยติดตัวเลย เหมือนผมกับชารอทเลยไม่ใช่หรือไง?
สเกเลตันคิงเรียกลูกสมุนสเกเลตันมาอีก 5 ตัว มันถือดาบใหญ่เข้าไปสู้กับพวกซอมบี้เรดวูฟทั้ง 8 ตัว ส่วนซอมบี้ควีนเรียกซอมบี้มาเพิ่มอีก 7 ตัว และกระโจนเข้ามาโจมทีชารอท ซอมบี้ควีนดูมีความคิดและฉลาดกว่าซอมบี้ทั่วๆไป แต่ก็ยังห่างไกลจากคำว่ามีสติปัญญาแบบผมและชารอท
“ชารอท ใช้เชื้อระเบิดศพ กับซอมบี้ควีนไม่ได้หรอ?” ผมถาม เพราะหากใช้ได้ ก็สามารถจัดการได้ในทีเดียวเลย
“ไม่ทราบเหมือนกันค่ะ แต่ทว่าสกิลนี้มีระยะเวลาใช้ใหม่อีกครั้งคือ 30 นาที ดังนั้นอย่างไรก็ไม่สามารถใช้ในตอนนี้ค่ะ” ชารอทเรียกซอมบี้เรดวูฟมา 4 ตัวไปช่วยเธอจัดการซอมบี้ควีน ส่วนที่เหลือไปจัดการสเกเลตันคิง
ถึงซอมบี้เรดวูฟจะมีแค่ 4 ตัวแต่ก็สามารถจัดการกับเหล่าซอมบี้ปกติที่มีถึง 7 ตัวได้อย่างสบายๆ แต่ซอมบี้ควีนที่เหมือนจะฉลาดกว่า และมีพลังโจมตีกับความเร็วที่มากกว่าซอมบี้ปกติ กลับไม่ถูกจัดการได้ง่ายๆ มันฉวยโอกาสที่ซอมบี้ตัวอื่นสู้กับเรดวูฟอยู่เข้าไปโจมตี ทำให้ซอมบี้เรดวูฟถึงกลับต้องถอยออกมา
ดังนั้นชารอทจึงมีหน้าที่ตามจัดการกับซอมบี้ควีนตัวนี้เอง ชารอทมีทั้งชุดที่เพิ่มพลังโจมตีและความเร็ว รวมทั้งอาวุธ และยังมีสร้อยคอของผมที่เพิ่มพลังโจมตีให้กับเผ่าอันเดดทั้งหมดอีก ทำให้พลังของเธอเหนือกว่าซอมบี้ควีนอยู่ขั้นหนึ่ง หากสู้กันตรงๆอย่างไรเธอก็ชนะได้แบบสบายๆ นี่ยังไม่นับสกิลบ้าเลือดด้วย
ระหว่างที่ชารอทกำลังโรมรันกับซอมบี้ควีน ผมก็ลุกขึ้นยืน บาดแผลส่วนใหญ่หายไปแล้ว ผมเรียกมาเรียให้มากับผม เราสองคนจะไปจัดการกับสเกเลตันคิงกัน ถึงซอมบี้เรดวูฟ 4 ตัวที่เหลือจะสามารถจัดการกับสเกเลตันคิงได้อยู่ แต่เพราะสเกเลตันสามารถคืนชีพได้ พวกซอมบี้เรดวูฟจึงเริ่มเสียเปรียบ ขณะที่มาเรียเข้ามาใกล้ผม เธอทำท่าจะใช้ฮิลรักษาบาดแผลให้ผม แต่โดนผมขัดขวางไว้ก่อน
สเกเลตันคิงสวมใส่เกาะเหล็กคุณภาพดี ดาบใหญ่ในมือก็เหมือนจะเป็นของที่แพงอยู่พอสมควร นักอัญเชิญศพคนนั้นลงทุ่นไม่น้อยเหมือนกัน
ผมลองเรียกซอมบี้เรดวูฟกลับมา พวกมันก็เชื่อฟังคำส่งผมด้วยเช่นกัน หากนับตามลำดับชั้น ผมก็ถือว่าเป็นเจ้านายของชารอทที่เป็นเจ้านายของพวกมันอีกที
“มาเรีย ใช้เบลซซิ่ง” ผมบอกเธอ มาเรียใช้เบลซซิ่งใส่สเกเลตันคิง ทำให้มันพลังลดลงและเครื่อนไหวช้าลง ก่อนจะสั่งให้ซอมบี้เรดวูฟ 4 ตัวกับพวกสเกเลตันทั้ง 5 ตัวของผม เข้าโจมตีอีกครั้ง ผมงอกแขนยักษ์สองข้างออกมาแล้วเข้าไปตะลุมบอนด้วย
ผมโจมตีอย่างไม่กลัวตาย ไม่หลบ ไม่ป้องกัน ผมควงลูกตุ่มหัวกระโหลกฟาดซ้ำแล้วซ้ำเล่า หัวกระโหลกมนุษย์บินว่อนไปมา เดี๋ยวพุ่งโจมตีใส่ เดี๋ยวบินขึ้นใหม่ แขนยักษ์ของผมก็ทำหน้าทีเหมือนเครื่องบดทำลาย บางครั้งใช้ต่อยบางครั้งใช้จับฉีกกระชากชิ้นส่วนออกมา
-ได้รับมานา 25 เพิ่ม 20% มานา 5 (543/1500)
-ชารอท (390/1500)
-มาเรีย (806/3200)
ผมกับมาเรียกำจัดสเกเลตันคิงลง พร้อมกับที่ชารอทกำจัดซอมบี้ควีนได้พอดี
-ได้รับมานา 25 เพิ่ม 20% มานา 5 (573/1500)
-ชารอท (420/1500)
-มาเรีย (836/3200)
“พะพวกแกเป็นตัวอะไรกันแน่!” นักอัญเชิญศพล้มลงไปกองกับพื้น
“วะ ไว้ชีวิตฉันเถอะ ฉะฉันไม่เอาเรื่องนี้ไปบอกใครหรอก..นะ..นะ” เธอหวาดกลัวและข้อร้อง แต่แววตานั้นยังเป็นของคนที่ไม่ยอมแพ้ ไม่รู้ว่าหลังจากนี้จะทำอะไรอีกบ้าง
“ไว้ใจไม่ได้ค่ะ” ชารอทกล่าว ขณะเดินเข้าไปหา
……..ขอโทษด้วยนะ แต่….
ไม่รู้ว่ามีความจำเป็นอะไรบ้าง ที่ทำให้คนๆหนึ่งสามารถฆ่าคนได้อย่างเลือดเย็น แต่ความรู้สึกผมกลับไม่สั่นคอนแม้แต่น้อย หากกลับกัน เป็นพวกมันที่สามารถฆ่าพวกผมได้ พวกมันคงไม่มีความลังเลเช่นกัน เมื่อนึกได้ดังนั้นผมจึงสามารถลงมือได้อย่างเยือกเย็น
-ได้รับมานา 50 เพิ่ม 20% มานา 10 (633/1500)
-ชารอท (480/1500),มาเรีย (896/3200)
ความคิดเห็น