คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #6 : แรกพบ สบตา
5
แรกพบ สบตา
หลังจากเหลยเหลยไปจากสกุลซ่งไม่นาน ซ่งอันหนิงก็ได้แต่งให้กับเกาหย่งอี้ตามที่ตั้งใจไว้ สกุลซ่งเมื่อขาดคนในครอบครัวไปถึงสองคนก็ดูจะเงียบเหงาขึ้นมาทันใด หลี่จื้อก็ได้ข่าวนี้เช่นกันนั่นยิ่งทำให้รู้สึกไม่พอใจสกุลซ่งขึ้นไปอีก ไหนบอกว่าบุตรสาวของตนอ่อนแอไม่แข็งแรงไม่เหมาะจะแต่งงานอย่างไรเล่า ทำไมผ่านไปไม่นานกลับแต่งให้สกุลเกาได้แล้ว
ตั้งแต่สตรีสกุลซ่งผู้นั้นมาถึงหลี่จื้อได้แต่หมกตัวอยู่ในห้องทำงานกับจวนเจ้าเมืองแทบไม่ออกไปไหน แม้แต่ท่านแม่ของเขาให้สาวใช้มาตามก็ไม่คิดจะโผล่หน้าไปหาแม้แต่น้อย มีเพียงจินจางหมิ่นองค์รักษ์ของเขาเท่านั้นที่สามารถเข้าออกห้องทำงานของเขาในช่วงนี้ จากที่ได้รับรายงานดูเหมือนว่าสตรีสกุลซ่งผู้นั้นคงจะไม่ใช่ลูกคนโปรดของซ่งจินเหลียงนักเมื่อจากบ้านมาแต่งเข้าสกุลหลี่ของเขา นางมีเพียงสาวใช้ติดตามมาด้วยแค่สองคนซึ่งดูผิดปกติเป็นอย่างมากไม่มีแม้กระทั่งแม่นม แต่นั่นก็ไม่ใช่ธุระกงการอะไรของเขา ความเป็นมาของนางยังคลุมเครือชวนให้สงสัย อีกทั้งนางไม่ใช่สตรีที่เขาต้องการจะแต่งงานด้วยอีกต่างหาก
“คุณหนูเจ้าคะ เรามาถึงที่นี่ได้หลายวันแล้ว เหตุใดยังไม่มีการกำหนดวันแต่งอีก” เสี่ยวฮวาเปรยขึ้นกับเหลยเหลยด้วยความรู้สึกกังวล พวกนางเดินทางรอนแรมมาหลายวันจนบัดนี้ยังไม่ได้เจอกับท่านเจ้าเมืองคู่หมายของคุณหนูเลย อีกทั้งยังไม่มีกำหนดวันแต่งงานออกมาอีกด้วย
“รออีกสักหน่อยเถิด” เหลยเหลยเข้าใจความกระวนกระวายใจของเสี่ยวฮวาดี นางคิดว่าน่าจะเป็นเพราะข่าวคราวการแต่งงานของพี่สาวนางนั่นเองที่ทำให้สกุลหลี่เงียบไป เป็นใคร ใครจะไม่รู้สึกบ้าง ซ่งอันหนิงก็ช่างกระไร รีบแต่งออกไปราวกับหนีอะไรบางอย่างแบบนี้
“หรือว่าเราควรถามเรื่องนี้กับพ่อบ้านสักหน่อย” อิงอิงเสนอ ในเมื่อไม่เจอเจ้าตัวถามผ่านไปทางพ่อบ้านก็คงจะได้กระมัง
“ที่เจ้าว่ามาก็ดีเหมือนกันนะ คุณหนูคะ” เสี่ยวฮวาหันไปหมายจะถามความเห็นจากคุณหนูของตน
“ข้าจะไปเดินเล่นสักหน่อย พวกเจ้าไม่ต้องตามมาหรอก” เหลยเหลยบอก ดีเสียอีกที่สกุลหลี่ยังไม่กำหนดวันมงคล นางยังไม่พร้อม ชีวิตของนางช่วงนี้พลิกคว่ำพลิกหงายคล้ายเรือลำน้อยที่เผชิญมรสุมลูกใหญ่จากคณิกาขายศิลปะกลายเป็นคุณหนูตระกูลพ่อค้ามีฐานะ แล้วนี่นางยังเป็นกลายเป็นคู่หมายกับเจ้าเมืองลั่วหยางอีก น่าเวียนหัวเสียเหลือเกิน
ดอกไห่ถังบานส่งกลิ่นหอมไปทั่วชวนให้รู้สึกผ่อนคลาย เหลยเหลยเดินทอดน่องเพียงลำพังในบรรยายกาศแสนสงบ
ดวงหน้าอ่อนหวานหลับตาพริ้มยื่นมือออกไปสัมผัสกลีบดอกไม้ที่ปลิดปลิวมาตามสายลม หลี่จื้อออกมาเดินเล่นเช่นกันเขาชะงักฝีเท้ามองภาพตรงหน้า โฉมสะครวญนางหนึ่งรูปร่างเล็กบอบบาง หน้าตางดงามผิวขาวผุดผาดในอาภรณ์สีชมพูอ่อนยิ่งเพิ่มความอ่อนหวานให้กับนางมากยิ่งขึ้น นี่เป็นครั้งแรกที่เขาได้ยลโฉมของสตรีสกุลซ่ง นางไม่มีเค้าโครงหน้าเหมือนพี่สาวเลยแม้แต่น้อย ใบหน้าขาวกระจ่างนั้นกลับดูน่ามองไปอีกแบบ ราวกับรับรู้ว่าถูกแอบมองเหลยเหลยหันมาประสานสายตากับบุรุษหนุ่มแปลกหน้า เขาผู้นั้นมีรูปร่างสูงใหญ่สง่าผ่าเผย ไหล่กว้างกำยำ ใบหน้าแม้จะดุดันแต่คมคายน่ามอง ริมฝีปากบางแย้มยิ้มเล็กน้อยก้มศีรษะทักทายทั้งที่ไม่รู้ฐานะของอีกฝ่ายแน่ชัด
“หึ!” หลี่จื้อตื่นจากภวังค์ความงามสตรีสกุลซ่งล้วนแล้วแต่ทำให้มัวเมาขาดสติ เขาสะบัดแขนเสื้อจากไปทันทีสร้างความงุนงงให้เหลยเหลยไม่น้อย
เมื่อกลับมาถึงเรือนก็ทราบว่าเมื่อสักครู่หลี่ฮูหยินได้ให้สาวใช้มาเชิญไปดื่มชาสนทนากันที่เรือน นางไม่รอช้ารีบรุดไปยังเรือนของหลี่ฉิงซูด้วยไม่อยากให้ผู้อาวุโสคอยนาน
“เหลยเหลยมาแล้วหรือ ข้ากำลังคิดถึงเจ้าอยู่พอดีเชียว” หลี่ฉิงซูเอ่ยทักด้วยน้ำเสียงยินดี
“เหลยเอ๋อร์ขออภัยที่มาช้าเจ้าค่ะ เมื่อสักครู่ข้าไปเดินเล่นที่สวนจึงไม่ทราบว่าหลี่ฮูหยินให้คนไปตาม”
“ไม่เป็นไรหรอก ข้าแค่อยากได้เพื่อนดื่มชาด้วยก็เท่านั้น” นางพูดพลางโบกมือ
“น้ำชาค่ะหลี่ฮูหยิน” เหลยเหลยรินชาใส่แก้วกระเบื้องเนื้อดีส่งให้หลี่ฉิงซู
นางยังจำได้วันแรกที่ไปคาระวะผู้อาวุโสได้ นัยต์ตาของหลี่ฮูหยินมีรอยเอื้อเอ็นดูนางไม่น้อย หลังจากวันนั้นนางมักหาเวลาไปนั่งสนทนากับผู้อาวุโสอยู่บ่อยครั้ง บางคราก็นำฉินที่เอาติดตัวมาบรรเลงให้ความรื่นรมย์อย่างเช่นวันนี้
“วันนี้เจ้าเอาฉินมาด้วยหรือ ดีจริง คราวก่อนที่เจ้าบรรเลงให้ฟังข้ายังติดใจไม่หาย”
“ใช่เจ้าค่ะ วันนี้ข้าตั้งใจนำฉินมาดีดให้ฮูหยินฟัง จิบชาไปฟังเสียงฉินไปหรือไม่เจ้าคะ”
“ดียิ่ง เช่นนั้นข้ารบกวนเจ้าด้วยนะ” หลี่ฮูหยินกล่าว ตั้งแต่มีเหลยเหลยเข้ามา นางไม่เคยเหงาเลยสักวัน
มือบางแตะเครื่องดนตรีเริ่มต้นกรีดนิ้วลงไปยังสาย เสียงฉินของนางไพเราะจับใจดังก้องกังวาลไปทั่วชวนให้จิตใจสงบสบายยิ่งนัก เสียงนี้แว่วไปถึงหูของหลี่จื้อที่ขมวดคิ้วอย่างประหลาดใจ ใครมาดีดฉินแถวนี้หรือว่าท่านแม่จ้างนักดนตรีมาเพื่อคลายเหงากัน เขาละมือจากม้วนกระดาษตรงหน้าเพื่อไปดูถึงที่มาของเสียงนั้น
ยิ่งเข้าใกล้เรือนของมารดาเสียงฉินนั้นก็ยิ่งดังกังวาน บุรุษหนุ่มสาวเท้าเข้าไปในเรือนใหญ่ของมารดา ด้านหลังนักดนตรีสาวในชุดฮั่นฝูสีชมพูอ่อนแลดูคุ้นตา
“จื้อเอ๋อร์มาแล้วหรือ” มารดาของเขาเอ่ยทักทันทีที่เห็นบุตรชายก้าวเข้ามาทำให้เหลยเหลยหยุดมือ หลี่จื้อทำความเคารพมารดาพลางหันกลับมามองนักดนตรีสาว สตรีสกุลซ่งนั่นเอง เขาไม่คิดว่าจะเจอนางที่นี่
“พอดีเลยเหลยเหลย นี่คือหลี่จื้อคู่หมายของเจ้า” ดวงตาเรียวเล็กชั้นเดียวสบเข้ากับดวงตาดุดัน คือเขา,,,บุรุษแปลกหน้าคนนั้นนั่นเอง ใบหน้าหล่อเหลาราวรูปสลักไม่มีแม้แต่รอยยิ้มทักทาย
“เจ้ามีเวลาว่างให้แม่ได้แล้วรึ” ฉิงซูค่อนขอดบุตรชายคนเดียวของตน ถึงแม้จะรู้ว่าเขามีงานมากมายต้องทำ แต่ก่อนหน้านี้บุตรชายของนางยังแบ่งเวลาว่างให้กับนางเสมอ มีเพียงช่วงหลายวันมานี้เท่านั้นที่ดูจะจงใจทำตัวยุ่งเป็นพิเศษ
“งานของลูกช่วงนี้มีมากมายนัก ขออภัยที่ไม่ได้มาพบท่านแม่เลย” หลี่จื้อกล่าวขอโทษ
“แต่เห็นทีท่านแม่คงไม่เหงาหรอกกระมัง มีคนคอยเอาใจอยู่แบบนี้” ดวงตาคมปรายตาไปยังร่างบอบบางตรงหน้า หึ! ช่างรู้จักประจบประแจงยิ่งนัก
“ใช่สิ ขืนข้ารอเจ้าว่างคงเหงาแย่”
“ในเมื่อท่านแม่มีคนคลายเหงาแล้ว เห็นทีบุตรชายเช่นข้าคงไม่จำเป็นถ้าอย่างนั้นข้าขอตัวก่อน” หลี่จื้อพูดเท่านี้ก็หันหลังเดินจากไป เหลยเหลยเผลอมองตามไปอย่างตกตะลึงทำอะไรไม่ถูก นี่นางโดนบุรุษผู้นี้เมินใส่ถึงสองครั้งติดกันในหนึ่งวันเชียวหรือ
“อย่าไปสนใจเลยเหลยเอ๋อร์” หลี่ฉิงซูเอ่ยทั้งที่ยังยิ้มค้าง เจ้าเด็กหวงแม่
ดาวเหนือ TALK
พ่อพระเอกของเรานอกจากจะค่าตัวแพงแล้วยังไบโพล่าร์ด้วยนะเนี่ย 5555
เอาเถอะพ่อ เชิดใส่น้องซะให้พอ อย่ามาตกหลุมรักน้องก็แล้วกัน
ตัวอย่างตอนที่ 6
เวลานี้เหลยเหลยกำลังแช่น้ำอย่างมีความสุขอยู่หลังฉากกั้นโดยไม่ทันสังเกตเสียงแปลกปลอมแม้แต่น้อย เรือนร่างขาวผ่องหันข้างให้ฉากกั้นเผยให้เห็นเสี้ยวหน้าด้านข้าง สถานการณ์ตรงหน้าเป็นสิ่งที่หลี่จื้อไม่เคยจินตนาการมาก่อน เขาลอบกลืนน้ำลายลงคออย่างยากลำบาก
ความคิดเห็น