คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #5 : ซ่งจินหมิง
4
ซ่งจินหมิง
หลังจากอาหารมื้อนั้นจบลงซ่งจินเหลียงก็ขอตัวไปพักผ่อนทำให้การพบปะหน้ากันครั้งแรกของเหลยเหลยและคนในครอบครัวเลิกราไปโดยปริยาย ขากลับไปที่เรือนครานี้มีเหลยเหลยและสาวใช้สองคนเท่านั้น ทั้งสามเดินกันไปคุยกันไปอย่างสนุกสนาน มีเพียงแสงจากตะเกียงและโคมไฟนำทาง อีกด้านร่างของบุรุษหนุ่มผู้หนึ่งเดินสะเปะสะปะเซซ้ายเซขวาเข้ามาในเรือนตระกูลซ่ง ใบหน้าของเขาแดงก่ำด้วยพิษสุรา กลิ่นคละคลุ้งไปทั้งร่าง ทั้งสามชะงักฝีเท้าทันทีที่เห็นเขา
“เขาคือคุณชายสามเจ้าค่ะ” เสียงกระซิบจากอิงอิงบอกกับคุณหนูของนาง โชคไม่ดีเลยที่มาเจอคุณชายรองซ่งจินหมิงระหว่างทาง บ่าวไพร่ล้วนรู้ดีว่าคุณชายรองมีนิสัยเสเพลเพียงใด
“โอ้ ที่นี่มีสาวงามด้วยอย่างนั้นหรือ” ซ่งจินหมิงเอ่ยเสียงอ้อแอ้ทันทีที่สบตากับหญิงสาวทั้งสามพร้อมก้าวเข้ามาหาอย่างรวดเร็ว มือใหญ่ยึดข้อมือเล็กนั่นไว้ดึงรั้งโฉมงามเข้าหาตัว
“พี่สามปล่อยข้านะ” เหลยเหลยเอ่ยอย่างตื่นตระหนกพยายามบิดข้อมือออกแต่เรี่ยวแรงของสตรีหรือจะสู้บุรุษได้ ใบหน้าของจินหมิงยื่นเข้ามาใกล้สูดดมกลิ่นกายหอมกรุ่นจนเกือบซุกไซร้ลงที่ซอกคอของนาง ทันใดนั้นก็มีมือใหญ่อีกข้างมากั้นไว้ได้ทัน
“น้องสาม” เสียงเรียกแข็งขืนราวกับจะเตือนสติคนเมา จินหมิงเงยหน้าขึ้นคลี่ยิ้มให้กับบุรุษหนุ่มตรงหน้า
“พี่ใหญ่ ใยท่านอยู่ที่นี่ด้วยเล่า หรือท่านก็มาชื่นชมคนงามเช่นข้า”
“เจ้าพูดเหลวไหลอันใดของเจ้า นี่คือเหลยเหลย นางเป็นน้องสาวบุญธรรมของเจ้า” หยางเจี๋ยผลักไหล่น้องชายให้พ้นทางแล้วเอาตัวเข้าขวางไม่ให้จินหมิงเข้าใกล้นางได้อีก
“เจ้าเมามากแล้ว รีบกลับไปพักผ่อนเสีย” เขาออกปากไล่น้องชาย จินหมิงเชื่อฟังพี่ชายแต่โดยดีไม่ตอแยใดๆ อีก เขาเดินจากไปอย่างเงียบเชียบ
“เจ้าเป็นอันใดหรือไม่” หยางเจี๋ยถามด้วยเป็นห่วง นางเป็นเพียงเด็กสาวที่เพิ่งถึงวัยปักปิ่นเข้ามาในสกุลซ่งวันแรกกลับเจอเรื่องราวชวนตกใจถึงเพียงนี้
“ข้าไม่เป็นอันใด เพียงแค่ตกใจเท่านั้น” เหลยเหลยคลี่ยิ้มบางให้พี่ชายเพื่อมิให้เขาต้องกังวล
“เจ้ากำลังจะกลับเรือนใช่หรือไม่ ข้าเดินไปส่งดีกว่า” หยางเจี๋ยบอกเขาคงรู้สึกไม่สบายใจถ้าปล่อยให้ทั้งสามเดินกลับไปที่เรือนเอง
“ถ้าอย่างนั้นข้ารบกวนพี่ใหญ่ด้วยเจ้าค่ะ”
“รบกวนอันใดกัน เจ้าเป็นน้องสาวของข้านะสมควรแล้วที่ข้าจะไปส่ง”
“ขอบคุณพี่ใหญ่ที่มาส่งเหลยเหลย” นางค้อมศีรษะลงเล็กน้อยแสดงความขอบคุณเมื่อมาถึงหน้าเรือนเล็กของตนเอง
“ข้าต้องขอโทษเจ้าแทนจินหมิงด้วย แต่ไหนแต่ไรน้องสามเอาแต่เที่ยวเล่นสนุกไปตามประสา ไม่ได้มีเจตนาจะทำไม่ดีกับเจ้า”
“พี่สามแค่เมามากจึงเลอะเลือนไปชั่วครู่เท่านั้น เหลยเหลยไม่เป็นอันใดเจ้าค่ะ”
“ขอบคุณเจ้ามากที่เข้าใจ ดึกมากแล้วเจ้าคงอยากพักผ่อน พี่ไปก่อนนะ” ถึงหยางเจี๋ยจะไม่พอใจกับการกระทำของจินหมิงมากเพียงไร แต่เขาก็ไม่ต้องการให้เรื่องนี้รู้ไปถึงหูท่านพ่อ โชคดีที่เหลยเหลยไม่ติดใจเอาความ พรุ่งนี้ให้จินหมิงมีสติขึ้นสักหน่อย เขาจะไปพูดกับน้องสามให้รู้เรื่อง
“คุณหนูจะไม่บอกนายท่านหรือเจ้าคะ” เสี่ยวฮวาทักท้วงหลังจากที่คุณชายใหญ่จากไปแล้ว
“เรื่องเข้าใจผิดเล็กน้อยจะเอาไปกวนใจท่านพ่อทำไม” อันที่จริงเรื่องนี้ทำให้นางอกสั่นขวัญหายไม่น้อย แต่พี่ชายใหญ่ออกปากขนาดนี้แล้วอีกทั้งยังไม่ได้มีอันใดเกิดขึ้น นางจึงตัดสินใจที่ไม่เอ่ยถึงเรื่องนี้อีก
“พวกเจ้าก็อย่าไปเล่าให้ใครฟังละ” เหลยเหลยไม่ลืมกำชับสาวใช้ของตน
เพียงพริบตาเดียวเหลยเหลยก็เข้ามาอยู่ในตระกูลซ่งครบเดือนตอนนี้นางสามารถปรับตัวเข้ากับสภาพแวดล้อมที่เปลี่ยนไปได้แล้ว หลังจากเหตุการณ์วันนั้นหยางเจี๋ยก็พาจินหมิงมาขอโทษนางด้วยตนเอง และเขายังคงแวะเวียนมาเยี่ยมเยือนนางสม่ำเสมอทำให้เรือนหลังนี้มีเขาเป็นแขกประจำจนเหลยเหลยรู้สึกราวกับตนเองมีพี่ชายจริงๆ วันนี้ก็เช่นกันหยางเจี๋ยไปทำธุระแทนบิดา ขากลับจึงซื้อขนมกุ้ยฮวามาฝากนาง
“พี่ใหญ่ไม่น่าลำบากเลย”
“ลำบากอะไรกัน ข้าจำได้ว่าเจ้าชอบกินขนมนี่ พูดแบบนี้พี่ใหญ่ของเจ้าเสียใจนะ” เหลยเหลยคลี่ยิ้มขบขันกับถ้อยคำหยอกล้อของเขา
“ขอบคุณเจ้าค่ะพี่ใหญ่” นางส่งขนมให้อิงอิงไปจัดใส่จาน เสี่ยวฮวาทำหน้าที่รินน้ำชาให้คุณชายใหญ่ระหว่างรอของว่างจากอิงอิง
“นายท่าน” เสียงทักทายจากอิงอิงที่ด้านนอกทำให้เสี่ยวฮวากระวีกระวาดไปเปิดประตูต้อนรับ
“คุณหนูล่ะ” ซ่งจินเหลียงถามหาลูกสาวบุญธรรมของตน หลายวันนี้เขาไม่มีเวลาแวะมาไถ่ถามสารทุกข์สุขดิบของนางเลย
“ท่านพ่อ” เสียงหวานของเหลยเหลยทักทาย
“หยางเจี๋ย เจ้าก็อยู่นี่ด้วยรึ” ซ่งจินเหลียงเอ่ยถามอย่างแปลกใจเมื่อเห็นบุตรชายคนโตที่เรือนนี้
“พอดีลูกซื้อขนมกุ้ยฮวามาฝากเสี่ยวเหลยขอรับ” ซ่งจินเหลียงส่งเสียงรับคำในลำคอ ก่อนหันไปถามบุตรสาวว่า
“เจ้าอยู่ที่นี่เป็นอย่างไรบ้าง สุขสบายดีหรือไม่”
“ข้าสบายดีเจ้าค่ะท่านพ่อ”
“เรื่องการแต่งงานของเจ้า สกุลหลี่ตอบรับกลับมาแล้ว อีกสิบวันทางสกุลหลี่จะมารับเจ้าเดินทางไปลั่วหยาง” จริงสิ นางลืมไปเลยว่าตนเองมาอยู่ที่นี่ในฐานะใด เพิ่งปรับตัวเข้ากับสกุลซ่งได้ไม่นานจำต้องจากไปอีกแล้วหรือนี่ นางคิดอย่างอาลัย
“เจ้าไม่ต้องห่วง ข้าจะให้สาวใช้ของเจ้าทั้งสองคนตามเจ้าไปด้วย”
หยางเจี๋ยมองดวงหน้าหวานด้วยความรู้สึกบอกไม่ถูก
“ขอบคุณเจ้าค่ะท่านพ่อ” อย่างน้อยก็ยังมีคนที่นางพอจะคุ้นเคยติดตามไปด้วย ลดความกังวลให้นางไม่น้อย
การเดินทางมาลั่วหยางของเหลยเหลยในครั้งนี้นับเป็นการเดินทางไกลจากบ้านเป็นครั้งที่สอง การเดินทางเช่นนี้ได้แต่อุดอู้อยู่เพียงในรถม้าสร้างความมึนหัวไม่น้อย
“ถึงแล้วเจ้าค่ะคุณหนู” เสียงอิงอิงร้องขึ้นอย่างยินดี เวียนหัวจะแย่อยู่แล้ว นางกับเสี่ยวฮวารีบลงจากรถม้าอย่างไม่รีรอ เหลยเหลยตามลงไป ทั้งสามยืนอยู่ข้างรถม้าจ้องมองไปที่ประตูที่มีป้ายไม้แกะสลักสวยงามเขียนไว้ว่า จวนสกุลหลี่ จากการมองด้วยสายตาดูเหมือนว่าที่นี่จะมีขนาดใหญ่กว่าสกุลซ่งไม่น้อย ที่นี่สินะคือบ้านใหม่ของนางอย่างแท้จริง เพียงแต่ไม่รู้ว่าชีวิตของนางหลังจากนี้จะดำเนินไปทางใด
****************************************************************************
ดาวเหนือ TALK
เดินทางมาถึงตอนที่4แล้วนะคะ แทบไม่มีคนคอมเม้นเติมกำลังใจให้ไรท์เลย
ชักเริ่มไม่มั่นใจแล้วสิว่ามันเป็นยังไงบ้าง มันแย่มากเลยหรอคะ
ตอนนี้น้องเหลยเหลยของเราชีวิตระหกระเหินมาก อยู่ไม่เป็นที่เลย
หวังว่าการแต่งงานในครั้งนี้จะทำให้น้องมีความสุขขึ้นนะ
ความคิดเห็น