ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ฮุหยินของข้า มาจากหอนางโลม

    ลำดับตอนที่ #3 : จากกันครั้งนี้ เมื่อไหร่จะได้พบหน้า

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 141
      5
      25 ก.ย. 66

     

     

    2

    จากกันครั้งนี้ เมื่อไหร่จะได้พบหน้า

                    ดึกสงัดคืนนั้นเหลยเหลยนั่งมองดวงจันทร์ที่ริมหน้าต่าง สายลมเย็นสบายพัดผ่านผิวกายในช่วงกลางดึกทำให้รู้สึกสบายใจขึ้น ร่างบอบบางนั่งคิดเรื่องที่ได้ฟังมาตั้งแต่เย็นคิดอย่างไรก็คิดไม่ออก ว่าควรตัดสินใจอย่างไร เรือนผมสีดำสนิทปล่อยสยายเต็มแผ่นหลังเสียงประตูไม้ถูกเปิดออกทำให้เจ้าของห้องหันมองอย่างประหลาดใจ

    “ท่านแม่” ยามอยู่กันสองคนเหลยเหลยจะเรียกเถ้าแก่เนี้ยแบบนี้เสมอ

    “ยังไม่นอนหรือ แม่เห็นไฟในห้องของเจ้าสว่างอยู่เลยเข้ามาดู”

    “ข้ามีเรื่องที่ต้องคิดเจ้าค่ะ” เหลยเหลยเล่าเรื่องและข้อเสนอที่ได้รับจากซ่งจินเหลียงให้เจียวเจียวฟัง เถ้าแก่เนี้ยสาวตบเบาๆที่หลังมือของนางริมฝีปากคลี่ยิ้มอ่อนโยน

    “เหลยเหลย เจ้าเป็นผู้ที่อายุน้อยที่สุดที่ข้ารับเข้ามาอยู่ในหอบุปผาและข้าก็รักเจ้าที่สุด เจ้าเปรียบเหมือนลูกสาวของข้า ทำไมข้าจะไม่อยากให้เจ้าได้ดีเล่า สิ่งที่ของนายท่านผู้นั้นหยิบยื่นให้มันดีมากสำหรับอนาคตของเจ้า ใยเจ้ายังลังเลอีก”  รับเป็นลูกบุญธรรมแถมยังให้แต่งเข้าสกุลใหญ่โตถือเป็นวาสนาของนางแล้ว 

    “แต่ข้าเป็นห่วงท่านแม่”

    “อย่าเป็นห่วงแม่เลยเหลยเหลย ความจริงหลายปีมานี้แม่เองก็คิดเรื่องนี้ไม่ตกเช่นกัน ถ้าวันหนึ่งข้าไม่อยู่แล้วเจ้าจะอยู่อย่างไร ข้าไม่ต้องการให้เจ้ายึดอาชีพคณิกาไปจนตายแบบข้าแต่ก็ไม่รู้จะทำอย่างไร แม่หวังดีกับเจ้ามาตลอดจนถึงตอนนี้ เชื่อแม่เถอะนะ ตอบตกลงนายท่านไปเถอะ” เจียวเจียวพบเจอผู้คนหลายประเภทมาตลอดชีวิต นายท่านผู้นั้นมีดวงตา
    เที่ยงธรรมน่าเลื่อมใส การที่เหลยเหลยมีวาสนาถึงเพียงนี้ถือเป็นโชคดีที่สรรค์ประทานให้นางแล้ว

    “ถ้าข้าไม่อยู่แล้วท่านแม่จะอยู่กับใครเล่า”

    “โธ่...ข้ายังมีพี่สาวเจ้าอีกหลายคน เจ้าเถิดออกไปอยู่ข้างนอกคนเดียวแม่ต้องเป็นห่วงเจ้ามากแน่ๆ” เจียวเจียวหมายถึงนางคณิกาทั้งหลายในหอบุปผาแห่งนี้ที่นางล้วนดูแลพวกนางราวกับบุตรสาวก็ไม่ปาน

     

                ถึงวันนัดหมายชายสกุลซ่งรุดมาที่หอบุปผาด้วยความร้อนใจ เขาจะปล่อยเวลาให้เนิ่นนานไปกว่านี้ไม่ได้อีกแล้ว หากสกุลหลี่ทวงคำตอบขึ้นมาก็ไม่รู้ว่าจะหาทางออกได้อย่างไรแล้ว

    “ข้าได้ยินมาว่า ท่านอยากไถ่ตัวเหลยเหลยหรือเจ้าคะ” เถ้าแก่เนี้ยถามพลางรินน้ำชาให้ซ่งจินเหลียงอย่างใจเย็น

    “ใช่ ข้าถูกใจนางยิ่งนัก”

    “ท่านอยากแต่งนางเป็นอนุ”

    “ไม่ปิดบังเจ้า บุตรสาวของข้าถูกทาบทามสู่ขอจากตระกูลหนึ่งแต่นางมีคนรักอยู่แล้ว ไม่ว่าข้าจะเกลี้ยกล่อมอย่างไรนางก็ไม่เปลี่ยนใจ ข้าจึงอยากรับนางเป็นลูกบุญธรรมเพื่อแต่งเข้าสกุลนั้นแทนอันหนิงบุตรสาวของข้า ข้าให้สัญญาว่าจะเลี้ยงดูนางให้เหมือนกับบุตรของข้าเอง”

    “เหลยเหลยได้พบนายท่านถือเป็นวาสนาแล้ว แต่หอบุปผาของข้าไม่มีการบีบบังคับใจใคร ขอให้ข้าได้ไต่ถามนางก่อนเถิด ถ้านางยินดี ข้าก็มิห้ามปราม”

    “ไปตามเหลยเหลยมาพบข้า” เจียวเจียวหันไปสั่งสาวใช้ประจำกาย เพียงไม่นานร่างของโฉมสะครวญก็ก้าวเข้ามาในห้อง เหลยเหลยทำความเคารพซ่งจินเหลียงด้วยท่าทีนอบน้อม

    “เหลยเหลย ที่ข้าเรียกเจ้ามาเพราะมีเรื่องอยากถามสักหน่อย นายท่านผู้นี้บอกข้าว่าอยากไถ่ตัวเจ้าไปเป็นบุตรบุญธรรม เจ้าจะว่าอย่างไร” โฉมสะครวญผินหน้ามาสบตากับซ่งจินเหลียงชั่วครู่ราวกับครุ่นคิดไตร่ตรอง

    “ข้ายินดีเจ้าค่ะ”

    “ถ้าเหลยเหลยยินดี ข้าก็มิขัดข้องเจ้าค่ะ บุตรสาวของข้าผู้นี้ยังเยาว์นัก หวังว่านายท่านจะเมตตานาง” เจียวเจียวฝากฝังเหลยเหลย อนาคตข้างหน้าของนางขึ้นอยู่กับบุรุษผู้นี้แล้ว

    “วางใจเถิด ข้าซ่งจินเหลียงพูดคำไหนคำนั้น ข้าจะให้การดูแลเลี้ยงดูนางเหมือนกับนางเป็นบุตรสาวแท้ๆของข้าแน่นอน เถ้าแก่เนี้ยเชิญบอกค่าไถ่ตัวของนางมาเถิด”

    “ถ้าอย่างนั้น ข้าขอเท่าที่ซื้อนางมาจากบิดาก็แล้วกัน” เจียวเจียวบอกจำนวนเงิน เมื่อจัดการเรื่องทุกอย่างเสร็จสรรพ ซ่งจินเหลียงก็หันไปบอกลูกสาวคนใหม่ว่า

    “อีกสามวันข้าจะส่งคนมารับเจ้านะ เจ้าก็เก็บของใช้จำเป็นให้เรียบร้อยก็แล้วกัน” เหลยเหลยค้อมศีรษะน้อมรับคำนั้น

    “เจ้าค่ะนายท่าน”

    “เรียกท่านพ่อสิ ฝึกให้ชินเข้าไว้”

    “เจ้าค่ะท่านพ่อ”

     

                เถ้าแก่เนี้ยและพี่น้องในหอบุปผายืนส่งเหลยเหลยขึ้นรถม้าด้วยสีหน้าอาวรณ์ พวกนางอยู่ด้วยกันมานานปีพอมีฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งจากไปก็ชวนให้ใจหาย

    “จากกันครั้งนี้เมื่อไหร่จะได้พบหน้า ถนอมรักษาตัวเองให้มาก เจ้าต้องออกไปอยู่ข้างนอกแล้วนี่เป็นเงินเล็กๆน้อยๆ แม่ขอมอบให้เจ้าไว้ใช้สอยติดตัวนะ” เจียวเจียวนางล้วงถุงผ้าใบหนึ่งออกมาจากแขนเสื้อยัดใส่มือบุตรสาวก่อนจะกุมมือนุ่มเหมือนเต้าหู้ของเหลยเหลยไว้แน่น ดวงตาคู่สวยคลอเบ้าไปด้วยหยดน้ำสีใสแวววาว สำหรับนางแล้วการปล่อยเหลยเหลยไปก็เหมือนพรากหัวใจนางไปทั้งดวงทีเดียวแต่เพื่อความสุขสบายในภายภาคหน้าของผู้ที่นางรักดุจบุตรในอุทรณ์ ทำให้นางต้องหักใจ

    “ท่านแม่” ร่างบางโผเข้ากอดเถ้าแก่เนี้ยหอบุปผาสะอื้นตัวโยน

    “ในถุงนั่นคือเงินค่าไถ่ตัวของเจ้าทั้งหมด แม่ให้เจ้าไว้ติดตัวออกไปอยู่ข้างนอกคนเดียวแบบนี้ เจ้าต้องมีเงินติดไว้บ้างจะได้ไม่ลำบาก” เจียวเจียวกระซิบกระซาบกำชับด้วยน้ำเสียงอ่อนโยนยิ่งทำให้ร่างเล็กในอ้อมแขนร้องไห้หนักขึ้น

    “เด็กโง่ เจ้าจะร้องไห้ทำไม”

    “ข้าต้องคิดถึงท่านมากแน่ๆ”

    หากมีวาสนาแม้ห่างกันพันลี้ยังได้พบหน้า หากไร้วาสนาแม้อยู่ตรงข้ามก็ไม่พบเจอ ถึงเวลาแล้วเจ้าออกเดินทางเถอะ


    ***************************************

    ดาวเหนือ  Talk


    น้องเหลยเหลยของเรากำลังจะออกไปท่องโลกกว้างแล้วนะคะ

    อย่าลืมเป็นกำลังใจให้น้องกันด้วยน้า

     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน
    ดูอีบุ๊ก

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    นักเขียนปิดการแสดงความคิดเห็น
    ×