ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ํYour first kiss จูบแรกของนายฉันขอนะ2

    ลำดับตอนที่ #2 : ฟ้าลิขิต...ให้พี่เต๋าเป็นของชา ครบ100%แล้วจ๊า

    • อัปเดตล่าสุด 5 พ.ย. 54


     




    Frame  say:

     

     

     

     

    “ขอบใจมากเลยนะจอย” ผมเอ่ยขอบคุณเพื่อนสุดที่รักของผมที่ไปขัดขวางไม่ให้ไอ้เด็กหน้าเดียวนั่นมันเอาจูบแรกของพี่เต๋าไปได้ 

    ใช่แล้วครับเรื่องเมื่อกลางวันผมเป็นคงบงการเองทั้งหมด

     

    “ไม่เป็นไร งานแบบนี้ฉันถนัด” จอยหันมาตอบผมก่อนจะส่งยิ้มให้

     

    “แต่ฉันว่าไอ้เด็กนั่นมันต้องไม่ยอมเลิกราง่ายๆแน่...เพราะฉะนั้นฉันจะคอยช่วยแกเองเฟรม”   ต้องขอบคุณแกอีกรอบนะจอยที่รู้ใจฉันไปซะทุกอย่าง  คชาแกอย่าหวังจะเอาจูบแรกของพี่เต๋าไปเลย...ตราบใดที่ฉันยังอยู่แกไม่มีสิทธิ

     

     

     

    .........................................................................

     

     

     

     

    Kacha  say:

     

     

     

     

    “พี่เต๋าครับ  คือ วันนี้เราไปเดินเล่นที่สวนสาธารณะกันนะครับ”  ผมเอ่ยชวนพี่เต๋าในขณะที่เรากำลังกลับบ้าน  ตามแผนที่ต้นวางไว้เป๊ะเลย

     

    “เอาซิครับ  พี่ก็อยากอยู่กับคชานานๆบ้างเหมือนกัน จะได้ทำให้โลกมันเป็นสีชมพูไปเลย”  เอากับพี่เค้าซิครับ ใครจะรู้ว่าเห็นพี่เต๋าพูดไม่ค่อยเก่งอย่างนี้  แต่เอาเข้าจริงแล้วเสี่ยวรับประทานกันเลยทีเดียว  

    มือเรียวของพี่เต๋ามากอบกุมมือเล็กของผมไว้ก่อนจะดึงมือผมให้เดินตาม

     

    “งั้นไปกันครับ” ผมกับพี่เต๋าเดินจูงมือกันมาเรื่อยๆ จนถึงสวนสาธารณะ  ตลอดทางเดินของที่นี่เต็มไปด้วยดอกไม้หลากสี      แสงแดดสีส้มอ่อนสาดส่องลงมา ทำให้ที่นี่ราวกับโลกแห่งเทพนิยาย      ผมชอบบรรยากาศยามเย็นแบบนี้จัง     มันช่างโรแมนติก สุดๆ ไปเลย

     

    “สวยจังนะครับพี่เต๋า” พูดจบผมก็พยายามทำหน้าให้น่ารักที่สุดเพื่อดึงดูดคนตรงหน้า ซึ่งคาดว่าคงจะได้ผลยู่ไม่น้อย

     

    “ชา พี่ว่าเราไปหาที่นั่งเล่นกันดีกว่า” ให้ตายเถอะพี่เต๋าพี่จะซื่ออะไรปานนั้น  ผมกำลังให้ท่าพี่อยู่นะ  หัดรู้ตัวบ้างซิๆๆๆ

     

    “อุ๊ย!พี่เต๋าดูคู่นั้นซิครับทำอะไรก็ไม่รู้” ผมชี้ไปทางคู่ชายหญิงคู่หนึ่งที่ตอนนี้กำลังแลกลิ้นกันอย่างเมามันส์     ทำเอาชาอิจฉาหมดเลย     พอพี่เต๋ามองตามถึงกับเบิกตากว้าง    

     

    ให้ตายเถอะคนขาวๆเนี้ยเวลาเขินมันปิดไม่มิดเลยจริงๆ หน้าของพี่เต๋าตอนนี้แดงจัดมาก แขนกว้างเริ่มเลื้อยมาโอบไหล่ผม ได้ผลครับทุกคน ต้น! แผนนายเด็ดจริงๆ  

     

    ตอนนี้โลกของผมกำลังจะหยุดลงอีกรอบ   เพราะแขนข้างที่โอบผมอยู่ค่อยๆดัน  ให้ร่างผมเข้าไปหา    จนตอนนี้ตัวของเราแทบจะหลอมรวมเป็นคนเดียวกันอยู่แล้ว

    ใบหน้าหล่อที่ผมหลงใหลค่อยๆโน้มลงมาเพื่อที่จะประทับตราลงบนริมฝีปากของผม  

     

     

    แต่ว่านะ........

     

     

     

     

    ..................................................................................

     

     

     

    Tao  say:

     

     

     

    “นี่พวกเธอมาทำอะไรกันตรงนี้” เป็นอีกรอบครับที่ผมต้องผละออกจากคชา  เกือบไปอีกแล้วเต๋า  ผมรีบหันไปทางต้นเสียงทันที ก็เสียงนี้มันอาจารย์ฝ่ายปกครองสุดโหดชัดๆ มาขัดขาวงความสุขลูกศิษย์เนี้ย

     

     

    มันบาปรู้มั้ยยยยยย...ครับ

     

     

    “เย็นจนป่านนี้แล้ว ทำไมไม่กลับบ้าน”  ทันทีทันใดแกก็มาแว้ดๆ   ใส่หูพวกผม  ผมเลยกะว่าจะหาข้อแก้ตัวซะหน่อย    แต่ก็ช้าไปแล้วครับ ก็อาจารย์แกดันบอกว่าจะไปส่งบ้านทั้งสองคนเพื่อความปลอดภัย

     

     

    อ๊าก...มารความสุข

     

     

    แต่ก็ดีแล้วหละครับขืนถ้ากลับกันสองคนมีหวังผมห้ามใจไม่อยู่แน่ๆ 

     ตลอดทางกลับบ้านผมกับคชาไม่ได้พูดอะไรกันเลยครับ เพราะ ครูแกดันมาเดินคั่นกลางระหว่างเรา 

     

    แต่ดีนะครับที่    บ้านคชาอยู่ใกล้กว่า พอส่งผมถึงบ้านครูแกก็บ่นให้ผมนิดหน่อยก่อนจะกลับไป พอลับตาแกแล้ว  ผมเลยเอามือถือมากดโทรออกไปยังชื่อที่เมมไว้ว่า ตัวเล็กทันที

     

    “ครับพี่เต๋า”  เสียงหวานเอ่ยขึ้นกระชากใจเต๋า

     

    “พรุ่งนี้วันหยุดเราไปเที่ยวกันนะ”    นี่คือการขอเดทครั้งแรกของผมครับ  กับแฟนคนแรกซะด้วยเ แต่ไม่ต้องแปลกใจหรอกครับว่าทำไมมันคือการขอเดทครั้งแรกของผม เพราะเดททุกครั้งที่ผ่านมาคชาเป็นคนชวนทั้งหมดเลย

     

    “พี่เต๋าจะมารับกี่โมงหละครับ”

     

    “ซัก10โมงแล้วกันครับ” ผมบอกเวลาไป ใจจริงผมอยากชวนตั้งแต่ตี5ด้วยซ้ำแต่ให้คชาได้เตรียมตัวดีกว่า ผมจะได้มีแฟนสวยจนคนอิจฉา

     

    “งั้นได้ครับ” หลังจากนั้นเราก็คุยเรื่องต่างๆมากมายตามประสาคนรักเค้าคุยกัน

     

     

     

     

     

    ...........................................................................

     

     

     

     

     

    Kacha   Say:

     

     

    นี่ผมต้องฝันอยู่แน่ๆ  อยู่ดีๆพี่เต๋าเค้าก็มาชวนผมเดท  ทั้งๆที่ทุกครั้งผมเป็นคนเอ่ยปากทั้งนั้น 

     

    เกิดอะไรขึ้นเนี้ยหรือว่าพี่เต๋าโดนผีเข้าสิงซะแล้ว   แต่ตอนนี้ไม่ใช่เวลาจะมาคิดเรื่องนี้  เพราะ คชาพรุ่งนี้แกต้องดูดีที่สุดในสายตาพี่เต๋าให้ได้

     

     

    เสื้อผ้าหลายตัวถูกรื้อออกมาจากตู้เพื่อให้ผมได้นำมาลองแต่ตัวแล้วตัวเล่าก็ยังไม่ถูกใจผมซักที  ตัวนี้ก็จืดไป  ตัวนี้ก็หวานไป...

     

    โอ๊ย!แล้วเมื่อไหร่จะลงตัวซักทีเนี้ย   ผมใช้สองมือขยี้ผมจนยุ่งเหยิงไปหมดตามความเคยชิน

     

    “พี่เต๋าครับ  แล้วพรุ่งนี้พี่จะประทับใจผมได้ยังไง” ผมพึมพำกับตัวเองหน้ากระจก คิดแล้วก็เหนื่อยใจ โทรปรึกษาต้นดีกว่า    พอคิดได้ผมก็กดโทรศัพท์ไปหาเพื่อนรักทันที

     

     

    “ว่าไงชา แผนฉันสำเร็จไหม” ยังไม่ทันที่ผมจะพูดอะไร ต้นมันก็ถามคำถามที่ทิ่มแทงผมมาก่อนเลย

     

    “สำเร็จบ้าอะไรหละ...” ผมตะโกนใส่โทรศัพท์ไป  แต่ไม่ใช่เพราะโกรธต้นที่เป็นคนคิดแผน    มันเป็นเพราะว่าผมโกรธตัวเองมากกว่าที่มีโอกาสถึงสองครั้งแต่ก็พลาดไปซะทุกครั้ง

     

     

    “ใจเย็นคชา  เล่ามาซิว่ามันเกิดอะไรทำไมถึงพลาด” ต้นดูจะเข้าใจผมมากเลยทีเดียว    เลยพูดแบบใจเย็น เพราะปกติแล้วต้นก็ไม่ใช่คนที่มีความอดทนสูงอะไร

     ผมเล่าทุกเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นให้ต้นฟังก่อนจะขอคำปรึกษา

     

    “คือต้น พรุ่งนี้พี่เต๋าเค้าขอนัดชาไปเดทแต่ยังไม่รู้เลยว่าทำยังไงถึงจะได้จูบกับพี่เค้า...ต้นช่วยชาคิดหน่อยซิ” พอผมพูดจบต้นเงียบไปซักพักก่อนจะพูดขึ้น

     

    “อันดับแรกเลยนะชา  บรรยากาศต้องดีและไม่มีคนรบกวน” ผมฟังต้นบอกแผนการต่างๆอย่างเป็นขั้นเป็นตอนจนจบ ก่อนจะมานั่งเลือกเสื้อผ้าต่อ  

    พรุ่งนี้แล้วซินะพี่เต๋าครับที่เราจะเป็นจูบแรกของกันและกันนน่     ชาจะไม่ให้มันพลาดได้อีกเป็นอันขาด

     

     

     

    ......................................................................

     

     

     

     

    Tao  Say:

     

     

     

    ผมเลือกชุดตัวเก่งของผมออกมาจากตู้  เพื่อเตรียมไว้สำหรับวันพรุ่งนี้  

    พลันสมองก็คิดอะไรไปเรื่อยเปื่อย 

     

    จะว่าไปแล้วก็ประหลาดนะครับ   อยู่ๆคนที่ผมรักก็มาแอบรักผม     พอเราคบกันแล้วผมก็ไม่เคยล่วงเกินตัวเล็กของผมเลยแม้แต่การจูบ

     

     เพราะผมกลัวว่าถ้าผมเผลอจูบกับตัวเล็กไปแล้วจะถอนตัวถอนใจไม่ขึ้น   แล้วมันจะเกินเลยไปมากกว่านั้น   ผมกลัวว่าผมจะทำลายอนาคตอันสดใสของคนที่ผมรัก    และที่สำคัญผมก็อยากจะถนอมเค้าไว้ให้นานที่สุด  ก็เท่านั้นเอง  

     

     

    แต่ไม่รู้เหมือนกันว่าทำไมช่วงนี้ต้องมีเหตุการณ์อะไรหลายอย่างมาทำให้ผมต้องเผลอห้ามอารมณ์ไว้ไม่อยู่     ไม่ว่าจะเป็นตอนเที่ยงที่ผมเกือบจะจูบกับคชาเพราะอยู่ๆเจ้าตัวเล็กก็ดันมาถามเรื่องจูบกับผม     จนทำให้ผมหลุดไปว่าผมยังไม่เคยมีจูบแรกเลย    คิดแล้วก็ยังเจ็บใจตัวเองไม่หาย ที่ดันเผยความลับที่หน้าอายที่สุดออกไป

    แล้วไหนจะตอนเย็นอีกหละที่ตอนแรกเจ้าตัวดีก็มาทำหน้าน่ารัก  น่ากด  จนผมแทบคลั่ง นี่ถ้าตอนนั้นอยู่กันสองคนนะผมคงได้กดคชาจริงๆไปแล้ว   แล้วสติผมก็ต้องแตกอีกรอบเมื่อได้เห็นคู่รักที่กำลังสวีทหวานกันอยู่    ตอนนั้นผมไม่รู้หรอกว่าร่างกายมันทำอะไรออกไปบ้าง รู้แค่ว่าตอนนั้นหน้าของผมร้อนมากและความต้องการก็เพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ   แต่แล้วทุกการกระทำก็ต้องหยุดชะงัก เพราะทุกครั้งที่เราจะจูบกันต้องมีคน(หรือมาร)มาขัดขวางทุกที

     

     

     

     

    ...............................50%.................................



     Kacha  say:

     

     

    ผมตัดสินใจแล้วผมจะต้องได้จูบกับพี่เต๋าในวันนี้......

    ท่ามกลางผู้คนมากมายที่สวนทางเราสองคนไปเรื่อยๆ  ในใจผมตอนนี้มีแต่แผนพิชิตจูบของพี่เต๋าเต็มไปหมด  

     

    ขั้นแรกต้องหาที่ๆคนน้อยกว่านี้  แต่ว่านะก่อนที่ผมจะได้คิดอะไรไปมากกว่านี้ มือเรียวของพี่เต๋าดันมาดึงผมให้วิ่งตามซะก่อนแล้วแบบนี้จะได้อยู่สองต่อสองได้ยังไง 

     

    พอวิ่งมาซักพักพี่เต๋าก็พามาหยุดอยู่ที่ร้านๆหนึ่งบนถนนคนเดินซึ่งที่นี่มีของขายมากมายหลายอย่าง  ไม่ว่าจะของกิน  ของใช้ หรือว่าเครื่องประดับเต็มไปหมด

     

     

    “ชาดูนี่ซิสวยๆทั้งนั้นเลย”  ผมก้มลงไปมองตามสิ่งที่พี่เต๋ามองอยู่สิ่งๆนั้นก็คือ แหวนหลากหลายรูปแบบเต็มไปหมด ว้าว!พี่เต๋าจะหมั้นชาไว้ก่อนหรือนี่<<<เริ่มเพ้อ

    ผมเห็นด้วยกับพี่เต๋านะเพราะมันสวยทุกวงเลย    

     

     แต่เอ๊ะ...มีอยู่อันนึงนะที่สะดุดตาผม เป็นแหวนเงินบริสุทธิ์ครับทั่ววงจะเกลี้ยงไปหมดแต่มีเพชรเม็ดเล็กงามเด่นอยู่เม็ดเดียวบนตัวแหวนท่าทางคงจะแพงหน้าดู

     

    ผมลองเอาแหวนวงนั้นมาสวมดูพอดีเป๊ะๆเลย พออยู่บนนิ้วผมยิ่งสวยไปใหญ่เลยนะเนี้ย

     

    “คชาชอบเหรอ”พี่เต๋าที่เห็นผมส่องแหวนไปมาอยู่นาน ถามขึ้น

     

    “ครับ แต่ช่วงนี้ชาทรัพย์จางอ่ะเอาไว้ก่อนแล้วกัน”  ผมตอบพี่เต๋าไป แต่ใจจริงผมอยากให้พี่ซื้อให้ผมมากกว่านะ จะได้ถือซะว่าจองชาไว้เลย

     

    “วงนี้เท่าไหร่ครับ” ผมหันขวับไปมองหน้าพี่เต๋าที่หันไปคุยกับคนขายอยู่ทันที

     

    “ไม่เป็นไรหรอกครับชาไม่เอาหรอก”ผมบอกปฏิเสธไปเมื่อได้ฟังราคาแหวน ก็นี่มันแหวนเงินแท้นี่ครับผมเสียดายตังค์พี่เต๋า   เก็บไว้ขอเค้าแต่งดีกว่า

     

    “มีคนเคยบอกพี่ไว้นะว่าของน่ะมันจะเลือกคนที่มาเป็นเจ้าของ แหวนวงนี้คงเลือกแล้วหละ ว่าจะให้ชาเป็นเจ้าของ และดูแลมัน” พูดจบมือเรียวก็มาจับมือของผมเอาไว้ ก่อนจะค่อยๆบรรจงสวมแหวนที่นิ้วนางข้างซ้าย เขินซิครับทุกคน >_<

     

    ถ้าพี่เต๋าจะหวานขนาดนี้ทำไมไม่เอาน้ำตาลกรอกคอชาให้รู้แล้วรู้รอดไปเลยหละเนี้ย!!!     แต่นิ้วนางข้างซ้ายเนี้ยพี่เต๋าหมั้นผมไว้จริงๆใช่ไหม

     

     

    “หมั้นแล้วอย่าลืมให้แม่มาขอเค้านะ...ไม่งั้นนอยด์จริงๆด้วย” ผมแซวพี่เต๋าเข้าให้ เพราะมันอดไม่ได้จริงๆนี่ครับยิ่งพี่เต๋าเป็นแบบนี้แล้วผมยิ่งรักเข้าไปใหญ่ แต่อีกไม่นี้นานหรอกพี่เต๋า ไม่รอดแน่<<<แอบจิต-_-

     

    “งั้นอย่าเรียกสินสอดแพงนะ เดี๋ยวพี่ไม่มีตังค์ไปขอ”  อ๊าก!!!จากจะทำพี่เต๋าเขินดันมาเขินเองซะงั้นชาเอ๊ย   แต่มีเหรอชาจะยอมง่ายๆ ขอแกล้งต่อหน่อยนะเต๋าเอ๋อ

     

    “ไม่มีตังค์ก็ไม่ได้แต่งหรอก แม่เลี้ยงมาดี ให้ใครฟรีไม่ได้” ผมพูดจบก็ทำหน้ากวนประสาทนิดๆ เอาซิผมจะทำให้พี่จนมุมให้ได้คอยดู

     

    “ไม่ได้แต่งไม่เป็นไร เดียวพี่ฉุดไปกดเอง”นี่ถ้าพี่จะพูดให้ผมคิดไกลขนาดนี้ ก็รีบฉุดๆไปซะซิคร๊าบบบบ...   

     

    “กดไม่กลัว...กลัวไม่ก...”คำท้าทายของผมยังไม่ทันจบประโยคผมก็รู้สึกถึง              แรงกระชากอย่างแรงที่แขน

     

    “มานี่เลย”  ไม่ใช่ใครที่ไหนหรอกครับ เป็นแรงกระชากจากสุดที่เลิฟของผมเองแหละ แต่อย่าบอกนะว่าพี่จะกดผมจริงๆ ความรู้สึกหวั่นๆเกิดขึ้นไม่น้อย ถึงแม้ว่าผมจะพูดท้าทายมากมายขนาดไหน แต่ในใจผมก็ยังอยากได้แค่จูบนะครับ...

     

     

    ...................................................................

    Tao  Say:

     

     

    ผมทนไม่ไหวอีกต่อไปแล้วครับ  ไอ้ตัวเล็กมันทำอะไรของมัน มันอยากให้ผมกดมันจริงๆใช่ไหมถึงได้พูดอะไรแบบนั้นผมแค่พูดเล่นเฉยๆว่าจะจับกด แต่เด็กมันยั่วเต๋าอ่ะ ผมลากคชามายังมุมตึกที่ลับสายตาผู้คนในทันทีทันใด

     

     สองแขนแกร่งของผมต้อนร่างเล็กจนไร้ซึ่งหนทางหนี  ดวงหน้าหวานฉายแววความหวาดกลัวขึ้นเล็กๆ แต่นั่นคือสิ่งที่กระตุ้นอารมณ์อยากของผมต่างหากหละ ไม่ใช่อารมณ์สงสาร

     

    “นายท้าพี่เองนะ คชา” ทันทีที่จบประโยคริมฝีปากหนาก็ซุกไซ้ไปตามแนวคอระหงอย่างชำนาญการ ถึงแม้ว่านี่จะเป็นครั้งแรกแต่ก็ไม่ได้หมายความว่าร่างสูงจะไม่รู้เรื่องพวกนี้เอาซะเลย     เขาหนะเก็บกดมานานแล้วต่างหาก

     

    “อืม” เสียงครางแผ่วเบาดังลอดออกมาจากร่างเล็ก เมื่อปากหนาค่อยเลื่อนขึ้นมาขบเม้มบริเวณใบหู

     

     

    มือของร่างบางค่อยๆลูบไล้ไปตามแผ่นหลังกว้างเพื่อหาที่ระบายอารมณ์  พร้อมกันกับมือเรียวของร่างสูงที่เข้าไปซุกซนอยู่ภายใต้กางเกงขาสั้นสีครีมของร่างเล็กและมือนั้นก็กำลังทำหน้าที่เคล้าคลึงสะโพกน้อยของมันอย่างดี

     

    หน้าแดงร้อนของร่างเล็กที่ตอนนี้อารมณ์กำลังพลุ่งพล่านดึงดูดให้ใบหน้าของร่างสูงเลื่อนเข้าไปใกล้อย่างช้าๆจนจมูกของทั้งคู่ชนกัน... 

     

    ‘Well hey So much I need to say Been lonely since the day The day you went away’

     

     

    เค้าว่ากันว่าเวลาคนเราจะมีความสุขมักจะมี ตัวมาร มาขัดขวาง

     

    “ว่าไงเฟรม  โทรมามีอะไรรึเปล่า”   หลังจากหลุดจากห้วงแห่งความสุขเพราะความตั้งใจของใครบางคนแล้ว เต๋าก็ต้องแยกจากคชาเพื่อมาคุยโทรศัพท์   สายที่ไม่ได้รับเชิญ

     

    “เต๋า คือ วันอาทิตย์หน้าจะวันเกิดเฟรมแล้ว ก็เลยจะโทรมาชวนเต๋า ว่าแต่วันอาทิตย์หน้าเต๋าว่างไหม”    จะโทรมาให้ช้าหรือเร็วกว่านี้หน่อยไม่ได้เลยเหรอไง กำลังเข้าด้ายเข้าเข็มแท้ๆเสียอารมณ์หมด

     

    “ได้ซิ...เออเฟรมโทรมามีเรื่องแค่นี้ใช่ไหม งั้นแค่นี้นะ”   ผมกดตัดสายทันทีเพราะไม่อยากปล่อยตัวเล็กอยู่คนเดียวนานๆ

     

     

     

    ...............................................80%........................................

     

    ต่อค่ะ

     

    Kacha  Say:

     

     

    ฝ่ามือบางของผมจับไปที่ต้นคอที่ยังเจ็บอยู่นิดๆ นึกแล้วก็ยังอายไม่หาย

     

    พี่เต๋ารุกเก่งเป็นบ้าเลย

     

    “คชาหิวไหม  พี่ซื้อนี่มาฝาก” พี่เต๋ายื่นนมรสสตอเบอรี่มาให้ผม ผมรับมาก่อนที่พี่เต๋าจะนั่งลงข้างๆ

     

     

     

    “เจ็บไหม” น้ำเสียงอบอุ่นเอ่ยขึ้นอย่างห่วงใย  มือเรียวหนาประคองหน้าผมขึ้น เพื่อดูรอยรักที่เจ้าตัวได้ทำไว้เมื่อกี๊

     

    “พี่ขอโทษนะ” แววตาสำนึกผิดแฝงความอบอุ่นส่งมาทางผม นัยน์ตานั้นจ้องลึกลงไปจนใจผมแทบละลาย >_<

     

    “ไม่เป็นไรครับ แค่นี้เอง” ผมส่งยิ้มกลับไป จริงๆแล้วถ้าพี่เต๋าจะทำมากกว่านี้ชาก็ไม่ว่าอะไรนะครับ<<<เบาหน่อยก็ได้นะลูก

     

     

     

    เอาวะ!!! โอกาสมาขนาดนี้แล้วจัดเลยแล้วกัน

     

    ผมเลื่อนหน้าเข้าไปใกล้พี่เต๋าเรื่อยๆ  ซึ่งพี่เต๋าก็ทำเช่นกัน เขาก็โน้มหน้าลงมาใกล้ผมๆๆๆๆๆๆๆๆๆ...

      

     

     

    พลั่ก...!!!

     

     

     

    “คชา...” เสียงพี่เต๋าร้องอย่างตกใจ แล้วพี่เขาร้องทำไมเหรอครับ แล้วนี่ทำไมโลกมืดๆแบบนี้หละ

     

    “อะ...เอ่อ ขอลูกบอลคืนด้วยครับ” ลูกบอล ใช่ลูกบอลลูกเมื่อกี๊  ที่มันลอยมา แทบสอยหัวผมให้หลุดได้เลย

     

    “นี่!มาเล่นบอลแถวนี้ได้ไง ไม่รู้หรอว่ามันอันตรายกับคนอื่น”  พี่เต๋าบ่นเสียงดัง   ถึงผมจะมึนอยู่แต่ผมก็พอจะเข้าใจว่ามันเกิดอะไรขึ้นนะ

     

     

    “ไม่เป็นไรครับพี่เต๋า...คืนบอลไปเถอะครับ” ผมบอกออกไปพี่เต๋าจึงส่งลูกบอลคืนให้   ที่จริงผมก็ไม่ได้เป็นอะไรมากซะหน่อยแค่ลูกบอลอัดหน้าเอง?

     

    “คชา...เลือดกำเดา”   พี่เต๋าแลดูตกใจมาก  ก่อนจะใช้ผ้าเช็ดหน้าสีเขียวอ่อนมาซับเลือดที่ออกมาจากโพรงจมูกให้ผม

     

    “เงยหน้าขึ้นเร็ว”    ผมทำตามคำสั่งอย่างว่าง่าย  พี่เต๋าอ่อนโยนจริงๆ  การกระทำว่าใส่ใจของพี่เพียงแค่นี้   มันทำให้ผมรักพี่มากขึ้นทุกวัน 

     

     

    ฟ้าคงลิขิตเอาไว้...

     

     

    ว่าให้พี่เต๋าเป็นของชา....

     

     

    “ชาพี่ว่ามันคงหยุดไหลแล้วหละ” พี่เต๋าเอาผ้าเช็ดหน้าออกจากจมูกของผม  ก่อนจะประคองใบหน้าหวานของผมลง

     

     

     

    “หายแล้วจริงๆด้วย”พี่เต๋าส่งยิ้มมาให้ผมที่อยู่ในสายตาของเขาเพียงคนเดียว  ดวงตาของคนทั้งสองจองลึกลงไปที่ตาของฝ่ายตรงข้ามราวกับว่าจะหาคำตอบอะไรซักอย่าง

     

     

    ฟิ้ววววววววววว.... 

     

     

     

    ลูกฟุตบอลที่ก่อนหน้านี้ทำผมเจ็บลอยผ่าช่องใบหน้าของเราสองคนไปด้านหลัง

    ผมหันขวับในทันที   มันอีกแล้วครับ  คนเดิมเลย  

     

    ไอ้บ้าเอ้ยยยยย...ทำไมไม่ไปเตะที่อื่นวะ คนหล่อเสียอารมณ์หมด

     

     

    “ขอโทษครับ...” ชิ้ง..ชิ้ง...ตากลมของผมจิกไอ้คนตรงหน้าจนแทบจะฆ่ามันได้ 

    ไอ้มารคอหอย  ไอ้พวกบาป    ทำลายความสุขคนอื่น  ไอ้ๆๆๆไอ้บ้าเอ๊ย......

     

    ไม่ได้การอีกแล้ว       ถ้าขืนอยู่นี่ต่อมีหวังโดนไอ้ลูกบอลบ้านั่นมันมาขัดขวางอีก

     

     

    เหลือบเห็น---------->>>    เรือ                                                                                                                                                                                                        

     

     

    “พี่เต๋าครับ ชาว่าไปนั่งเรือเล่นดีกว่าครับ” เอ่ยปากพร้อมตาปริบๆ

     

    “อะ เอ่อ คือว่า”  พี่เต๋าอึกอัก   หน้าที่ขาวจัดดูซีดขึ้นเรื่อยๆ

     

     

    “มีอะไรรึเปล่าครับ” ผมถามขึ้น

     

    “คือ ชาพี่กลัวน้ำ” แป่ววววว...ชาก็นึกว่าอะไร  แต่ไหนๆก็ด้านมาเยอะแล้ว...ด้านต่อคงไม่เป็นไร (สายตาโรคจิต)555

     

    “ไม่เป็นไรหรอกครับ แค่นั่งเล่นเฉยๆ” พูดจบก็ฉุด...?กระชากลากถู

     

    “ว้าว...ปลาคราฟตัวโต๊โต” ผมส่องหน้าลงไปเพื่อดูขนาดของปลาที่น่าทึ่ง

     

     

    “อย่าโผล่ลงไปแบบนี้เดี๋ยวตกหรอก” สองลำแขนแกร่งคว้าเอวของผมเอาไว้ในอ้อมกอดราวกับว่าถ้าปล่อยมือแล้วผมจะตกลงไปยังไงอย่างงั้น ตาคมของคนที่กอดผมอยู่หลับปี๋เหมือนเด็กขี้กลัว... 

     

    โอ้ ม่าย ก้อด! พึ่งเคยเห็นเต๋าเอ๋อสุดที่รักกลายเป็นเด็กน้อยก็คราวนี้แหละ

    น่ารักเป็นบ้าเลย

     

     

    “คือพี่เต๋าครับ แบบว่า...” พี่เต๋าที่เริ่มจะรู้ตัวปล่อยมือ ออกก่อนจะกลับไปนั่งที่เดิมแล้วออกแรงพายเรือต่อ

     

    “ทำไมพี่เต๋าถึงกลัวน้ำหละครับ” ผมถามทำลายความเงียบ

     

    “ก็ตอนเด็กๆพี่เคยแอบแม่ไปว่ายน้ำเล่นที่คลองแถวบ้าน  แล้วจมน้ำเกือบตาย พี่เลยกลัวมาจนทุกวันนี้แหละ” เพราะความซนแท้ๆเลยสุดที่รักของผม 

     

    “มากับชาไม่ต้องกลัวหรอกครับ  ชาว่ายน้ำเก่งโค-ตรๆเลย” โกหกไปนั่น  รู้แล้วเหยียบไว้นะครับ   ผมน่ะว่ายน้ำยังกับลูกหมาโดนโยนลงน้ำเลยแหละ

     

    “โม้ไปนั่น...แต่จะว่าไปนั่งพายเรือเล่นก็สบายตาดีเหมือนกันนะ”

     

     

     

    “สบายตา?วิวสวยเหรอครับ” งงเหมือนกันนะเนี้ย นั่งเรือต้องสบายตัว สบายใจซิถึงจะถูก

     

    “ปล่าว...” พี่เต๋าปฎิเสธ

     

     

    “สบายตาได้มองหน้าคนสวย”  หน้าผมร้อนผ่าวขึ้นเรื่อยๆ บอกแล้วไงครับว่าเต๋าเอ๋อไม่มันเสี่ยว

     

    “สวยไร  หล่อต่างหาก” ผมแขวะไป  แต่ผมก็ชอบนะคำว่าสวยเนี้ย เพราะคนตรงหน้าเป็นคนพูด...

     

     

     

    .................................................................

     

     

     

    Frame    Say:

     

     

     

    มีความสุขกันเข้าไปเถอะ   แต่อีกเดี๋ยวก็คงจะยิ้มไม่ออกกันแล้วหละ    

     

    “นี่เฟรมฉันเตรียมแผนต่อไปเสร็จแล้วนะ”  จอยที่พึ่งเดินมาถึงดึงผมหลุดจากภวังค์อันชั่วร้าย

     

    “ดีมาก...คราวนี้แหละแกได้ลงนรกแน่...ไอ้เด็กเว-ร”  แรงอิจฉาริษยาครุกรุ่นไปหมด  ตอนนี้ผมหน้ามืดตามัวจนไม่สนใจอะไรอีกแล้ว   ต่อให้ต้องฆ่าไอ้เด็กหน้าเดียวนั่นผมก็จะทำ เพื่อความรักและร่างกายของเต๋า

     

    “จะว่าไปแล้วก็สะใจดีเหมือนกันนะ...ลูกบอลอัดหน้าจนเลือดสาด ต้องขอบใจไอ้เต้มันจริงๆ ไม่พลาดเลยซักนิด”  จอยหัวเราะร่ากับแผนการของเราที่วางไว้ แล้วมันก็สำเร็จไปซะทุกอย่าง

     

    “ยังมีเรื่องให้สนุกกว่านี้อีกตั้งเยอะ” ผมเปรย  ทำเอาจอยหัวเราะออกมา  นึกขำกับสิ่งที่กำลังจะเกิดขึ้น

     

    “ว่าแต่  แกจะปล่อยให้ไอ้เด็กนั่นมันอยู่กับเต๋าแบบนี้เหรอ  เดี๋ยวก็เสร็จมันพอดี”  พูดจบจอยปรายตามองสองคนที่อยู่บนเรือ

     

    “จะทำอะไรกันได้...เต๋ากลัวน้ำซะขนาดนั้น หรือถ้ามันจะจูบเต๋าจริงๆ  ลูกบอลก็คงต้องลงไปลอยน้ำเล่นแล้วหละ”

     

    เตรียมใจไว้เถอะ   ของจริงมันกำลังจะเริ่มในอีกไม่ช้าแล้ว

     

     

     

     

    ..................................100%....................................

     

     


    ครบร้อยแล้วจ๊าทุกคน เม้นๆด้วย(ขอบ่อยๆเดี๋ยวก็มา)เอิ๊กๆ-_-

    ไรท์เตอร์อยากรู้อ่ะค่ะว่าภาษามันเวิ่นไปรึปล่าว

    ถ้ามันเวิ่นจะได้จัดเกรียนซะเลย555

    ป.ล. เกลียดพี่เฟรม+จอยเบาๆ ฟิ้ววว...(ขอหลบรองเท้าก่อน)


    มาคอยดูกันว่าชาจ๋าจะโดนอะไร

     

    ตัวอย่างตอนต่อไป

       

    ตู้ม!!!...ร่างบอบบางตกลงกระทบผิวน้ำ

     

    “พี่เต๋าครับ...ถ้าชาไม่อยู่แล้ว พี่ดูแลตัวเองด้วยนะครับ”

      




     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×