คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #1 : - intro
INTRO♡ϟ
เสียงเล็กๆของเด็กผู้ชายวัยห้าขวบที่กำลังกระตุกแขนเสื้อจากด้านหลังของเด็กผู้ชายอีกคนที่ตัวเล็กกว่าเขาอยู่นิดหน่อย
"..."
"มานั่งชิงช้าคนเดียวทุกวันเลยหรอครับ"
ถึงแม้ว่ารุ่นพี่อนุบาลสามตรงหน้าจะยังไม่มีทีท่าสนใจเสียงเรียกของเขาก็ตาม แต่น้องฮุนจะไม่ยอมแพ้หรอกนะ อุส่ายอมตื่นเช้ามาตั้งห้าวันเพื่อจะได้แอบมาดูรุ่นพี่คนนี้ก็เถอะ
เหมือนว่าคนที่เค้าสะกิดเรียกไปในตอนแรกจะเพิ่งรู้สึกตัวหันหลังมาหาเค้า แถมยังมาทำตาโตใส่อีก น้องฮุนเขินครับแม่
"มีอะไรหรอน้องหน้าติ๋ม"
แม่ครับพ่อครับในที่สุดพี่เค้าก็พูดกับฮุนแล้ว!! ถึงแม้สรรพนามว่าน้องหน้าติ๋มจะฟังดูแปลกๆแต่น้องฮุนก็ไม่สนใจหรอกนะ ก็ในเมื่อพี่หน้ากวางที่เึค้าก็ไม่รู้จักชื่อเหมือนกันยอมพูดกับเค้าแล้ว
"แม่ผมบอกว่าชอบใครให้เอาอันนี้ให้ครับ"
พูดจบก็ไม่รอฟังคำตอบจากอีกฝ่ายกลับล้วงกระเป๋ากางเกงหยิบแหวนพาสติกวงเล็กๆ ออกมาส่งให้พี่หน้ากวางตรงหน้า
"..."
"พี่เอาไปใส่นะครับ น้องฮุนให้"
เป็นอีกครั้งที่ โอเซฮุน ในวัยอนุบาลสองไม่รอคำตอบจากพี่หน้ากวาง แต่เขย่งเท้ายืดตัวไปจุ้บแก้มของคนที่ยังนั่งอยู่บนชิงช้าตามแบบในละครที่ดูก่อนเข้านอนกับแม่เป๊ะ
"..."
"น้องฮุนต้องไปเข้าแถวแล้ว ไปละนะครับ"
ผมลืมตาตื่นขึ้นในตอนเช้าเป็นเวลาหกโมงสิบห้า ลุกขึ้นนั่งบิดขี้เกียจสองสามทีก่อนจะรีบลุกไปอาบน้ำแต่งตัวสำหรับการเริ่มงานวันแรกที่พ่อให้ทำสามสี่เดือนก่อนที่ผมจะไปเรียนต่อต่างประเทศ ส่วนงานที่่พ่อให้ผมไปทำก็ไม่ได้ยากเย็นอะไรมากเป็นบริษัทเล็กๆรับออกแบบบ้านตกแต่งภายในซึ่งก็แล้วแต่ลูกค้าจะสั่ง สำหรับนักศึกษาไฟแรงเพิ่งจบหมาดๆอย่างผมก็เป็นธรรมดาอยู่แล้วที่จะตื่นเต้นอยากเริ่มอยากลอง
"มาหอมแก้มก่อนสิฮุน"
เสียงเรียกจากแม่ทำให้ผมที่กำลังจะก้าวขาขึ้นรถประจำตำแหน่งคนขับหยุดชะงักก่อนจะหมุนตัวเดินกลับมา หาแม่ที่หน้าประตูพร้อมกับย่อตัวลงยื่นแก้มสองข้างให้แม่ของผมจุ๊บสองทีซ้ายขวา แปลกแต่จริงที่ผู้ชายที่เพรียบพร้อมสมบูรณ์แบบอย่างโอเซฮุนโตจนเรียนจบเริ่มทำงานทำการแล้วยังต้องให้แม่หอมแก้มทุกวันก่อนออกจากบ้านอย่างกับเป็นเรื่องที่ขาดไม่ได้ของทุกวัน
"ไปละนะแม่ เดี๋ยวสายแล้วจะเสียชื่อพ่อ" โบกมือลาครั้งสุดท้ายก่อนจะเดินกลับไปยังตัวรถสีดำสนิทที่เพิ่งได้เป็นของขวัญเรียนจบจากผู้เป็นพ่อ
"เลิกงานก็รีบกลับบ้านนะลูก"
ผมไม่ได้ตอบอะไรแม่เพียงแต่หันไปยิ้มให้อีกครั้งนึงก่อนจะขับเจ้าคู่หูคันใหม่มุ่งหน้าไปยังออฟฟิศที่ผมจะได้เริ่มงานในวันนี้วันแรก แต่ก็แน่นอนครับออฟฟิศของผมอยู่กลางใจเมืองหลวงอย่างกรุงโซล ย่อมหลีกเลี่ยงไม่ได้กับปัญหาโลกแตกอย่างปัญหารถติดในตอนเช้า ผมที่ได้แต่นั่งเคาะพวกมาลัยให้เข้าจังหวะกับเพลงที่กำลังเล่นอยู่ พลางคิดอะไรเรื่อยเปื่อยจนไปนึกถึงฝันของตัวเองเมื่อคืน นึกละก็ขำครับนี่ผมฮอตตั้งแต่อยู่อนุบาลเลย แหวนพลาสติกแบบนั้นบอกเลยว่าแม่ซื้อให้มาเป็นโหล แจกสาวๆในห้องตอนอนุบาลทุกคน แม่สอนชอบใครให้เอาให้ึครับแต่บังเอิญว่าน้องฮุนชอบทุกคนอ่ะดิ่555555555555
อีกอย่างครับคือภาพลักษณ์ของผมเวลาอยู่ที่บ้านกับอยู่นอกบ้านนี่ค่อนข้างจะแตกต่างกันอยู่สักนิดหน่อย อยู่บ้านแม่สอนแต่เด็กๆครับต้องอ่อนโยนน่ารักฟังคำสั่งแม่ เพราะงั้นผมจึงทั้งเคารพและรักแม่มากที่สุดแล้ว
ใช้เวลาปาไปชั่วโมงเศษๆกว่าจะมาถึงออฟฟิศ ตอนเวลาแปดโมงกว่าก็ถือว่ายังไม่สายครับเพราะที่นี่เค้าเข้ากันแปดครึ่งถือว่าฉิวเฉียดไปเลยทีเดียว ผมก้าวเข้ามาในตึกที่ตอนนี้มีคนเดินกันอย่างพลุกพล่านเนื่องจากได้ใกล้เวลาเข้างานกันเต็มที ผมได้แต่รีบก้าวขายาวๆไปที่หน้าลิฟท์ที่ตอนนี้คนต่อแถวยาวยิ่งกว่าต่อแถว ขึ้นลิฟท์ตึกวรรณสร ใช้หน้าตานิดหน่อยเดินเข้าไปยืนใกล้ๆหน้าลิฟท์ทำทีว่าเป็นการต่อแถวใหม่ก่อนที่ลิฟท์จะเปิดผมก็รีบสวนตัวเข้าไปทันที ไม่ได้ครับนาทีนี้นาทีทองถ้าไม่ได้เข้านิ่ต้องรออีกนานเพราะฉะนั้นผมจะพลาดไม่ได้จริงๆ
ชั้น 13 ที่ตั้งของออฟฟิศเล็กๆที่ผมต้องมาทำงานถึงสามสี่เดือนตามคำสั่งของพ่อ ผมเดินไปตามทางจนเข้ามาในออฟฟิศ ที่นีั่มีพนักงานทำงานกันไม่ถึงสิบคน แต่อย่าดูถูกไปนะครับงานพวกออกแบบอาคาร ตกแต่งภายในอย่างนี้รายได้ทีนึงก็เยอะ เปิดบริษัททำเองรายได้นี่รับกันเต็มๆเป็นแสนครับ ดีกว่าไปทำในบริษัทใหญ่ๆก็ได้แค่ส่วนแบ่งไม่ถึงสิบเปอร์เซ็น ผมเดินเข้าไปก่อนจะโค้งให้กับผู้หญิงตัวเล็กๆที่เหมือนจะสังเกตเห็นการมาของผมเป็นคนแรก
"สวัสดีีครับ ผมเพิ่งมาทำงานใหม่วันนี้วันแรกครับชื่อ โอเซฮุน ครับ" ผมพูดไปพลางก้มหัวเก้าสิบองศาตามมารยาทเกาหลี
"โอ้ยยยยย!! น่ารักจังเลยพี่ชื่อยูรานะจ้ะเป็นเลขาที่นี่ หัวหน้าๆๆคะเด็กใหม่มาแล้วค่ะ!!!!!"
ประโยคแรกเหมือนเธอจะพูดกับผมก่อนจะหันหน้าไปตะโกนเรียกหาหัวหน้าซึ่งก็คงจะเป็นเพื่อนพ่อผมเจ้าของออฟฟิศนี้แน่นอน ออฟฟิศนี้ก็ไม่ใหญ่มากเข้ามาด้านในเป็นเพียงแค่ห้องกว้างๆแต่จัดแบ่งเป็นโซนๆ ชัดเจน มีมุมด้านหลังที่มีผนังกั้นซึ่งผมสังเกตดูแล้วน่าจะเป็นที่ๆชงกาแฟสำหรับคนในออฟฟิศนี้แน่
"นี่ๆน้องเซฮุนนิ่หัวหน้าจ้า"
"สวัสดีครับผมโอเซฮุนครับ"
"เพิ่งจบใหม่สิเรา ถึงจะมาอยู่แค่สามสี่เดือนก็ตั้งใจทำงานนะแล้วก็อย่าลืมถึงฉันจะเป็นเพื่อนกับพ่อเธอแต่ตอนนี้ให้ถือว่าฉันเป็นเจ้านาย จะมาสบายกว่าคนอื่นไม่ได้เข้าใจมั้ย" คุณอาบยอยดงเพื่อนรักของพ่อผมที่ตอนนี้กำลังพ่วงตำแหน่งเจ้านายของผมไปด้วยพูดกับผมก่อนจะให้พี่ยูราพาผมไปที่โต๊ะทำงานและแนะนำพนักงานคนอืิ่นๆอีก
"นี่โต๊ะทำงานเรานะ อยู่ตรงข้ามโต๊ะพี่มีไรก็เรียกได้เสมอนะจ้ะ" พี่ยูราว่าก่อนจะทำท่าเขินอายเอานิ้วมาจิ้มแขนผม แล้วรีบเดินกลับไปนั่งที่โต๊ะของตัวเอง
เนี่ยแหละครับสเน่ห์ของโอเซฮุน ไปที่ไหนก็ต้องมีสาวกรี้ดทุกที่ก็ต้องขอบคุณหน้าตาที่แม่ให้มามากกว่าครึ่งนะครับ เพราะถ้าได้พ่อมาคงจะไม่หล่อได้ขนาดนี้ ก็ได้แต่แอบนินทาพ่อในใจเงียบก่อนจะเงยหน้าขึ้นมาป๊ะพี่อยู่ยูรานั่งเอามือสองข้างเท้าคางมองหน้าผมด้วยตาเยิ้มๆ คือพี่ยูราน่ารักนะครับผู้หญิงตัวขาวๆหน้าตาจิ้มลิ้มดี แต่ผมไม่ค่อยชอบคนแก่กว่าเท่าไหร่เคยคบกับคนแก่กว่าครั้งนึงบอกเลยครับว่าเข็ดจนตาย
"นี่ยูราไอ้ลู่มันมาทำงานยัง" คือแบบออฟฟิศมันไม่มีกำแพงไม่มีอะไรกั้นเลยไงครับใครพูดอะไรก็เหมือนจะได้ยินกันหมด แต่อะไรๆก็ไม่ทำให้ผมตกใจเท่ากับชื่อที่คุณอาหัวหน้าเอ่ยมาได้หรอก ไอ้ลู่ หรอ ไม่หรอกโลกมันคงไม่กลมขนาดนั้น
"ยังเลยค่ะหัวหน้า สายครั้งที่สามของเดือนแล้วหักเงินเดือนมันเลยค่ะ"
คือผมก็นึกตามนะครับวันนี้วันที่สามแล้วเดือนนี้สายมาสามครั้งแล้วคืองี้คือสายทุกวันป่ะ คนแบบนี้ผมเกลียดครับแมร่งแบบไม่ค่อยรู้เวลาคนเราทำไรก็ต้องตรงต่อเวลาดิ่ ผมนิ่เห็นงี้สมัยเรียนแทบจะไม่เคยสายเลยนะครับ ไปเช้าๆไปนอนรอที่ห้องเรียนก็ได้ บอกเลยครับสรรพนามเรียกคนที่ชื่อว่าไอ้ลู่นิ่ผมอคติตั้งแต่ยังไม่เห็นหน้าละ
"ใครนินทาป๋าลู่สุดหล่อหรอครับบบบ!!"
นั่นไงสงสัยว่าไอ้ลู่ที่พี่ยูราว่าจะตายยากครับพูดถึงก็มาเลย แต่ผมว่าเสียงมันคุ้นแปลกๆนะครับ ผมค่อยๆเงยหน้าขึ้นจากโต๊ะก่อนที่ผมจะพบว่า
'เชื่อละว่ากาลิเลโอพูดจริง ว่าโลกของเรากลมมาก'
ผมร้องร้องตะโกนออกมาเป็นคำยอดฮิตแห่งประเทศไทย
"hereeeeeeeeeeeee!!!!!!!!!!" ละเหมือนว่าหลังจากที่ผมตะโกนลั่นห้องว่าhereไปเนี่ย ทำให้คนทั้งออฟฟิศหันมามองผมเป็นตาเดียวรวมถึงไอ้พี่ลู่ฉายา
'ตีนกาหกเส้น'
"เห้ยยยยยย!!! ไอ้heyyyyyyyy!!!" นั่นแหละครับหลังจากที่มันหันมาเห็นผม มันก็ตะโกนแหกปากสุดเสียงแข่งกับผมอีก
"ไอ้พี่ตีนกาหกเส้น!!"
"ไอ้ตุ๊ดหน้าแป๊ะ!!"
บอกเลยครับว่าพลาดสุดชีวิตไม่คิดว่าชีวิตนี้จะต้องวนมาเจอมันอีก สังเกตจากหน้ามันก็คงจะอยู่ในอารมณ์เดียวกับผมแน่นอน
อีกสี่เดือนที่ผมต้องใช้ชีวิตในออฟฟิศนี้ผมก็ได้ปณิธานในการใช้ชีวิตใหม่
'ไม่มันมันก็กูต้องลาออก'
เย้จบอินโทรละนะสั้นๆได้่ใจความนะ ตอนที่หนึ่งจะยาวกว่านี้เยอะรอติดตามนะ
หวังว่าจะแบบมีคนเข้ามาอ่าน+เม้น ซักคนสองคนพอ U _ U
ถ้าแป้กเดี๋ยวจะลบเลยน้า แล้วก็ถ้าชอบก็ฝากติดแท็ก #ฟิคสามครั้ง ด้วยน้า
ก็เป็นฟิคสบายๆอ่านไปไม่เครียดไรมากนะ ฝากติดตามด้วยย้ากกกกกกกกกกกก <3
ความคิดเห็น