ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    The Ships Rarely Sail Themselves l DanHoon

    ลำดับตอนที่ #7 : [NielWink] Keep a Weather Eye on the Cloud (5/5)

    • อัปเดตล่าสุด 21 ธ.ค. 61



    EPISODE 02 

    Keep a Weather Eye on the Cloud



    Part: 5/5

    Pairing: Kang Daniel x Park Jihoon

    Genre: Slices of Life, Fluffy

    Rate: PG-13




              “ฉันวาดฝันถึงการสัมผัสก้อนเมฆนุ่มนิ่มเต็มกำมือ แต่เพราะหวาดกลัวความสูง จึงลังเลที่จะเขย่งเท้าขึ้นเหนือพื้น ระวังอย่างมากขณะเอื้อมมือไปคว้า ไม่นานพอให้สมูธตี้ในมือเหลวเป็นน้ำเมฆก็ลอยผ่านไปและฉันทำได้แค่เงยหน้ามอง เมฆที่ล่องลอยอย่างเป็นอิสระ เมฆที่แต่งแต้มสีบนท้องฟ้าไปพร้อมกับแสงของดวงอาทิตย์ คือเมฆที่สวยงามที่สุด ฉันตระหนักได้ในตอนนั้น



    — ลีอันนา, 2017




    -  Keep a Weather Eye on the Cloud -

    Kang Daniel x Park Jihoon




    ในขณะที่คนส่วนมากเกลียดวันจันทร์ คังดาเนียลกลับตั้งตารออย่างใจจดใจจ่อ  


    โดยไม่นับรวมวันจันทร์อื่น แค่วันจันทร์นี้เท่านั้นที่เขาตื่นขึ้นมาแบบไร้ท่าทีอิดออดหลังจากเผื่อเวลานอนของตัวเองไว้เกินแปดชั่วโมงเป็นคืนแรกในรอบเดือน ถึงรู้ทั้งรู้ว่างานกองพะเนินที่ยังค้างจะถูกทบรวมไปกับงานที่จะได้รับเพิ่มในวีคนี้ แต่เขาอยากแน่ใจว่าจะผ่านแลปสองตัวที่อัดมาในวันเดียวกันกับคลาสไวโรที่เกลียดเข้าไส้ได้โดยไม่ตายไปก่อนจะถึงหกโมงเย็น 


    และมันได้ผลยอดเยี่ยม โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อรวมกับอเมริกาโน่เย็นที่ดื่มหมดตั้งแต่เที่ยง ตัดอาการง่วงงุนไปได้เลยเพราะตอนนี้เขากำลังดีดได้ที่


    คังดาเนียลเปลี่ยนท่ายืนเป็นครั้งที่หก ชะเง้อคอมองหาพัคจีฮุนทุกครั้งที่เห็นนักศึกษากลุ่มใหญ่ทยอยเดินออกจากมาตึก ระหว่างนั้นก็คิดว่าควรจะต้องหาที่นั่งได้แล้วถ้าอีกฝ่ายยังไม่มาภายในสิบนาที


    เฮ้ คังดาเนียล” เสียงเรียกเอื่อย  ดังขึ้นไม่ไกลแถมยังไม่ใช่จากคนที่เขารอ ที่เดินมาหยุดที่ปลายหางตาของเขาคือไลควานลิน 


    คังดาเนียลทำหน้าเหม็นเบื่อ อยากแกล้งไม่รู้จักแต่แค่ได้ยินเสียงก็ดันเดาถูกว่าเป็นมัน เขาหันหลังไปอย่างไม่รีบนัก ถ่วงเวลาให้ได้นานที่สุดเท่าที่ระยะการหมุนตัวของคนคนหนึ่งจะเอื้อก่อนจะต้องเจอกับหน้าเมื่อย  ของเจ้าของเสียงเรียก “คำสุภาพหายไปไหนหมด


    จำเป็นด้วยหรอวะพี่


    เด็กเวรนี่ มีอะไรก็พูดมา” คำแรกเขาด่า แต่แค่ในความคิด ส่วนประโยคถัดมาเขาถามออกไป


    ถ้าไม่มีอ่ะ ผมอาจจะทักพี่เฉย  ก็ได้นี่ แม่ผมสอนให้มีมารยาท” แต่ลูกของเธอเลือกนำมันมาปฏิบัติจริงในชีวิตประจำวันมากแค่ไหน นั่นแหละประเด็น


    มีอะไร” คังดาเนียลกรอกตาหนึ่งรอบถ้วนแล้วซ้ำคำถามเดิมโดยย้ำทีละพยางค์ให้ฟังเข้าใจง่ายเหมือนตอนคุยกับลูกสาววัยห้าขวบเศษของป้าเจ้าของหอที่เขาอาศัย


    ผมไม่ใช่เด็กอนุบาล” คนถูกถามทำปากคว่ำประท้วง


    และเขาเลือกประนีประนอม “กูให้มึงมากสุดก็ประถมหนึ่ง


    ไลควานลินดุนลิ้นกับกระพุ้งแก้ม ก่อนจะหยิบบางอย่างออกมาจากกระเป๋ากางเกงแล้วยื่นให้เขา “นี่จดหมายพี่รึเปล่า” 


    รู้ได้ไงว่าของกู เปิดอ่านหรอมึง” คังดาเนียลพิจารณาพับกระดาษยับย่นที่ถูกส่งถึงเขาอีกครั้งเป็นฉบับแรกในรอบสามเดือนแค่ชั่วครู่แล้วยัดเข้าเป้โดยไม่ใส่ใจนัก มันอาจจะเป็นแค่การแกล้งกันรูปแบบหนึ่งหรือไม่ก็ไวรัลสักอย่างที่คนฮิตทำตามกัน ยกเว้นก็แต่เขาได้มันบ่อยจนเลิกตื่นเต้นไปนานแล้ว


    ไม่ได้อ่าน” ไลควานลินปฏิเสธเสียงห้วน


    เยินฉิบหายจนจะขาดคามือกูแล้วเนี่ย เชื่อมึงให้เขางอกบนหัวหรอวะ


    ผมเคยเจอจดหมายแบบนี้ที่หอ กระดาษสีชมพูแปร๋นแถมยังพรมน้ำหอมจนฟุ้งขนาดนี้จำไม่ได้ดิแปลก เห็นข้างนอกแหววจัดจนมดแทบตอมก็อยากรู้จะแย่ว่าข้างในเขียนข้อความประเภทไหน แต่พี่จี้เคยบอกไว้ว่าไม่ให้อ่าน ผมก็ไม่อ่าน


    อ่อ แล้วเขาต้องลูบหัวเด็กมันแล้วพูดว่า ‘เก่งมาก เจ้าหนู’ มั้ยล่ะ แต่เดี๋ยวนะ เมื่อกี้มันเรียกจีฮุนว่าไงนะ


    แล้วพี่มายืนไรแถวนี้วะ นัดกับพี่จี้ไว้หรอ” 


    พี่จี้พี่จี้เนี่ยนะถามจริง สนิทกับจีฮุนมากนักหรอมึง


    เออ” เขาตอบ ลูบใบหูที่เริ่มคันยิบ  เมื่อได้ยินชื่อเรียกที่ทำให้ระคายเคือง “นัดไว้หกโมง


    ไลควานลินกระพริบตารับรู้ช้า  แล้วชี้นิ้วไปที่ผู้ชายคนหนึ่งที่กำลังเดินข้ามทางม้าลายไปสู่ตึกตรงข้าม “เสื้อเหลืองตรงนั้นคิมดงฮัน เรียนเซคเดียวกับพี่จี้วันนี้ หัวฟูตาปรือเหมือนผ่านสงคราม สภาพคนเพิ่งเลิกคลาส” มันเว้นจังหวะพูดไปครู่หนึ่ง แล้วเม้มปากเข้าหากันอย่างใช้ความคิด 


    ทำไม” เขาถาม ทนความลีลาของเด็กตรงหน้าไม่ไหว


    นี่มันหกโมงจะครึ่งแล้ว แล้วพี่จี้ก็เป็นคนรักษาเวลา


    คังดาเนียลใจหล่นวูบ เหมือนกับตอนที่กำลังจะล้มตัวนอนแล้วนึกขึ้นได้ว่ายังทำงานที่ต้องส่งพรุ่งนี้ไม่เสร็จ เสียงหนึ่งในหัวส่งสัญญาณเตือน มือทั้งสองตอบรับโดยการคลี่จดหมายที่เพิ่งได้คืนออกอ่านอย่างร้อนรน



    ถึง คังดาเนียล


    จะเอาอย่างนี้ใช่มั้ย นายปล่อยให้ฉันรอบ่อยเกินไปแล้ว ไม่คิดเหมือนกันจริง  เหรอว่าเราควรมาเจอสักครั้ง 


    ปอลอ ฉันว่าฉันเริ่มโกรธหน่อย  แล้ว หกโมงเย็นของวันนี้มาเจอกันข้างตึกวิทย์ฝั่งเรือนกระจกเถอะนะ ไม่งั้นนายอาจจะเห็นฉันนั่งรออยู่หน้ามาร์ทตอนลงมาหามื้อดึกหรือฉันอาจจะปีนขึ้นไปเคาะกระจกระเบียงของนายที่ชั้นสามก็ได้


    ปอลอสอง ถ้านายยังให้คนอื่นมาแทน ฉันไม่รับประกันนะว่าจะเกิดอะไรขึ้นกับมันบ้าง ฉันไม่ใช่พวกดีแต่ขู่ด้วยสิ



    เขาได้รับจดหมายคล้าย  กันนี้มาแล้วสี่ถึงห้าครั้งแต่ก็ไม่ถึงขั้นนัดเจอ และตั้งแต่เข้าช่วงสอบไฟนอลมามันก็หยุดไป ฮวังมินฮยอนเคยบอกให้เขาตามหาเจ้าของ ‘กูว่าจดหมายท้าดวล (ตามที่องซองอูเรียก) แบบนี้คุกคามความเป็นส่วนตัวกันเกินไป’ มันเตือนแล้ว แต่เขาเลือกที่จะเพิกเฉย ไม่ได้มองว่าจดหมายพวกนี้จะสร้างปัญหาหรือเป็นอันตราย ออกจะตลกด้วยซ้ำ


    ยกเว้นแต่ครั้งนี้ที่ชักไม่ตลกแล้ว


    คังดาเนียลกำลังวิ่ง ใช่ วิ่งตัดสนามหญ้าทั้งที่สปริงเกอร์ยังคงทำงาน รู้ตัวอีกทีผ้าใบที่เขาใส่ก็เปียกชุ่มไปหมด ดินแฉะ  ที่ติดมากับพื้นรองเท้าทั้งหนาทั้งหนัก ถ่วงขาจนแทบยกไม่ขึ้น แต่เขาผ่านลานจอดรถมาแล้ว และอีกแค่นิดเดียวก็จะถึงเรือนกระจก


    ขอให้ไม่เป็นอย่างที่คิดเหอะว่ะ” คังดาเนียลไม่นับถือศาสนา แต่เขากำลังภาวนา ภาวนาทั้งที่ไม่รู้ด้วยซ้ำว่าเหตุการณ์แบบไหนที่รอเขาอยู่ ภาวนาด้วยแต้มบุญที่สะสมไว้น้อยนิด ไม่ว่าจะอาหารแมวแบบหรูที่เขานับเหรียญซื้อให้จอมเชิดที่หอเมื่ออาทิตย์ก่อน เวลานอนสามชั่วโมงที่เสียไปกับการติวควิสฉบับเร่งรัดให้หลานรหัสกับกลุ่มเพื่อนของมัน หรืออะไรก็ได้


    และสิ่งที่เกิดขึ้นตรงหน้าก็ไม่เป็นอย่างที่คิดจริง  


    แต่อาจเพราะเขาเดินแซงคุณยายคนเมื่อเช้าแทนที่จะพยุงท่านข้ามถนนไปพร้อมกัน มันจึงเลวร้ายกว่านั้น


    “หยุดพูดนะ แกมีสิทธิอะไรมาสั่งสอนฉัน แกไม่ได้ต่างจากฉันเลยพัคจีฮุุน เลิกมองฉันด้วยสายตาเหนือกว่าสักที” เป็นเสียงกรีดร้องของชเวมียอง เธอออกแรงผลักพัคจีฮุนให้ห่างจากตัว แล้วจ้วงปลายแหลมของพลั่วในมือขึ้นหมายจะแทงเข้าที่คางของฝั่งตรงข้าม


    อย่า” จังหวะการเต้นของหัวใจที่กำลังถี่รัวแทบหยุดชะงัก คังดาเนียลแค้นเสียงออกมาทั้งที่หอบจนตัวโยน มือที่เท้าอยู่กับสัมผัสสาก  ของโค้งประตูที่เขรอะไปด้วยฝุ่นและผงดินเท่านั้นที่ช่วยให้เขายังไม่ทรุดลงไปกองกับพื้น 


    นั่นดาเนียลนี่นา มาตามนัดของฉันใช่มั้ย” ชเวมียองชะงักมือก่อนจะคลี่ยิ้มออกมาด้วยความตื่นเต้นทันทีที่เห็นว่าบุคคลที่สามเป็นเขา แต่ไม่วายตวัดร่างของพัคจีฮุนเข้าหาตัวแล้วล็อคเอาไว้ด้วยแขน วัตถุคมปลาบเปลี่ยนตำแหน่งไปอยู่ที่ลำคออย่างน่าหวาดเสียว แต่คนถูกกระทำแทบไม่พยายามขัดขืน ทั้งยังคงท่าทีนิ่งเฉยเอาไว้ได้อย่างเหนียวแน่นราวกับเป็นคนนอกที่แค่ถูกไหว้วานให้เฝ้าดูและจดจำเหตุการณ์นี้เอาไว้ในทุกรายละเอียดผ่านดวงตากลมโตแทนที่จะเป็นเลนส์กล้อง


    นี่มันเรื่องอะไรกัน” เขาถามเสียงแผ่ว นี่อาจเป็นครั้งแรกและครั้งเดียวที่คังดาเนียลควบคุมสายตาของตัวเองไม่ให้เผลอไปหยุดอยู่ที่พัคจีฮุนได้ เพราะตอนนี้เขากำลังมองลึกเข้าไปในดวงตาของชเวมียอง พายุความบ้าคลั่งก่อตัวอยู่ในนั้น แต่จะสร้างความเสียหายหรือไม่ดูเหมือนจะขึ้นอยู่กับความสามารถในการเกลี้ยกล่อมของเขา ซึ่งเขาไม่มั่นใจเอาเสียเลย 


    ก็ดาเนียลไม่ยอมมาตามนัดฉันนี่ ครั้งที่หนึ่ง ครั้งที่สอง ครั้งที่สาม ฉันรอ ดาเนียลไม่ว่าง ดาเนียลไม่เห็นจดหมาย ฉันรอได้ จนฉันรู้ว่าเป็นมัน มันที่ขวางฉัน ไม่ให้ได้เจอดาเนียล แล้ววันนี้ก็อีกครั้ง มันถึงขั้นเสนอหน้ามาแทน พัคจีฮุนคนสอดรู้ มันคิดว่าตัวเองเป็นใคร


    เป็นความผิดเขา


    คังดาเนียลรู้สึกถึงก้อนความรู้สึกไม่สบายใจที่ตีขึ้นมาในลำคอ คลื่นไส้จนอยากอาเจียน เว้นแต่ว่าสิ่งที่ออกมาคงไม่ใช่อะไรนอกจากความรู้สึกผิด ถ้าเขาไปตามนัดสักครั้ง ถ้าจดหมายในกระเป๋าสเวตเตอร์ของเขาไม่ถูกอ่าน ถ้าความสนใจทั้งหมดของเขาไม่จดจ่ออยู่แค่พัคจีฮุน ไม่สิ จดจ่อให้มากกว่านี้ เขาก็คงรู้เรื่องเร็วพอจะตั้งรับ


    ฉันแค่จะกำจัดตัวขัดขวาง ฉันผิดหรอที่พยายามเพื่อให้ได้สิ่งที่ต้องการ ดาเนียลไม่เห็นใจฉันหรอ” 


    เขาไม่รู้ว่าควรพูดอะไรต่อ คิดไม่ออกเลยสักนิดว่าจะแสดงความเห็นใจตามที่ถูกเรียกร้องได้อย่างไร ในเมื่ออีกฝ่ายขอมันทั้งที่ยังกำอาวุธไว้ในมือ


    มียองคือปล่อยเขาก่อนได้มั้ย แล้วเราจะได้มาคุยกันดี  ไง นี่มันเรื่องระหว่างเรา อย่าดึงคนอื่นเข้ามาเกี่ยวเลยนะ” 


    พัคจีฮุน ‘เคย’ เป็นคนอื่น แต่ไม่ใช่หลังจากที่มันเข้ามายุ่มย่าม ตอนนี้มันถูกนับรวมแล้ว แล้วก็เห็นได้ชัดเลยว่าดาเนียลให้ค่ามันมาก  ทำไมล่ะ กลัวมันเจ็บหรอ” คังดาเนียลแทบไม่ได้ฟัง เขาจดจ้องที่ปลายพลั่วอย่างระแวดระวังเมื่อชเวมียองค่อย  เพิ่มแรงกดขึ้นตามอารมณ์


    มียอง มียอง ใจเย็น” เขาปรามด้วยเสียงที่พยายามคุมให้ตื่นตระหนกน้อยที่สุด ชเวมียองเข้าใจถูกทุกอย่าง ความคิดที่ว่าพลั่วคม  ในมือเธออาจสร้างบาดแผลให้กับพัคจีฮุนได้ทุกเวลาทำให้เขาหวาดกลัวที่จะโต้ตอบ ไม่รู้เลยว่าหญิงสาวกล้าแค่ไหน และเขาทนไม่ได้แน่ถ้าต้องเห็นพัคจีฮุนเจ็บ


    ดาเนียลน่ะไม่เคยมองเห็นฉันด้วยซ้ำ ฉันเคยคิดว่าไม่เป็นไร ในเมื่อดาเนียลก็ไม่มองคนอื่นเหมือนกัน ฉันก็จะพอใจกับแค่ได้ตามดู แค่ได้สอดจดหมายกับของขวัญไว้ในล็อกเกอร์ของเธอเป็นครั้งคราว แต่สุดท้ายเธอกลับเอาของ  ฉันไปให้คนอื่น


    กูเข้าใจว่ามันไม่มีเจ้าของ” เพราะสติแทบไม่อยู่กับตัว คังดาเนียลที่หลุดพูดตามที่คิดไปแล้วจึงได้แต่สบถด่าตัวเองตามหลัง


    ถึงยังงั้นก็อย่าเอาไปให้คนอื่นสิ แค่ไม่เอาไปให้คนอื่น ไม่ให้มัน ทำไมล่ะ ทำไมดาเนียลต้องใจดีไปทั่วด้วย เพราะรู้ใช่มั้ยว่าฉันจะไม่โกรธ ใช่สิ ใช่สิ ดาเนียลน่ะไม่ผิดหรอก มันสิผิด รับของดาเนียล มันกล้ารับ ฉันต้องสั่งสอนมัน ตอนนั้นฉันคิด แล้วฉันก็ทำ ทำเลย ไม่ต้องลงแรงด้วยซ้ำ ซอนาแร ยัยนั่นน่ะแค่พูดอะไรด้วยหน่อยก็ตัวซีดตัวสั่น


    เค้าลางหายนะชัดเจนทุกขณะโดยมีคำพูดของเขาเป็นทริกเกอร์คุณภาพสูง คังดาเนียลคิดว่าหลังจากนี้เขาจะหุบปากแล้ว ถ้าชเวมียองยังเหลืออะไรที่อยากพูดเขาก็จะทำตัวเป็นผู้ฟังที่ดี ยืนนิ่ง  เงียบ  อยู่ตรงนี้ 


    จะได้ยังไงกันเล่า ในเมื่อพัคจีฮุนยังถูกล็อคตัวอยู่ 


    และนั่นเป็นสิ่งที่เขาสงสัย อีกฝ่ายยังสงบอยู่ได้อย่างไรในสถานการณ์อันตรายแบบนี้ ต่างจากเขาที่เริ่มยืนไม่ติดที่ เลือดที่ซิบออกมาตามรอยบาดที่คอยังไม่เพียงพอให้พัคจีฮุนแสดงความหวาดกลัวออกมาสักนิด


    ทำไมกัน


    พอได้เอะใจขึ้นมาแล้วก็สลัดออกไปไม่หลุด ถึงจะลองพยายามสื่อสารกับเจ้าตัวโดยตรงก็ล้มเหลว พัคจีฮุนไม่ยอมสบตาเขาแม้แต่แวบเดียว อย่างไรก็ตาม ท่าทางที่เหมือนกับมั่นใจว่าตัวเองจะปลอดภัยแบบนั้นของพัคจีฮุนทำให้เขารู้สึกว่าอีกฝ่ายต้องมีแผนรับมือ แต่มันคืออะไรล่ะ 


    ในระหว่างทำเป็นว่าสนใจฟังเรื่องราวจากปากของชเวมียอง คังดาเนียลกวาดตามองรอบตัวเร็ว  หนึ่งครั้งอย่างหมดหนทาง คาดหวังลม  แล้ง  ว่าจะมีคำตอบผุดขึ้นมาให้เห็นจากกระถางสักใบหรือต้นอ่อนสักต้น


    ฉันมองดาเนียลเฉย  ไม่ได้แล้ว นั่นแหละที่ฉันคิด ฉันต้องมีตัวตน เริ่มจากงานกลุ่ม ฉันเลือกยูซอนโฮ นอกจากไลควานลินมันก็ไม่มีใครคบ กลุ่มสี่คนตอนนี้มีแล้วสาม เหลือหนึ่งที่ให้ดาเนียลและซอนาแรจะไม่ขัดใจฉัน ง่ายจริง  ฉันมีที่ยืนข้างดาเนียลแล้ว ดาเนียลรับรู้แล้วว่ามีฉันอยู่ตรงนี้คนนึง ฉันเข้าใจยังงั้น แต่มันไม่ใช่เลย


    จู่  พัคซูยองก็โผล่มา หน้าตาดี หุ่นดี แถมเกรดดี ดี ดีไปหมด ไม่มีข้อเสียสักอย่าง แต่เพราะไม่มีนั่นแหละถึงน่ารังเกียจ ทำเป็นสนิทกับดาเนียล ทำมาชวนดาเนียลไปเลือกของ ฉันไม่ยอมหรอก มีแฟนแล้วก็อย่ามายุ่งกับดาเนียลสิ แฟนจริงรึเปล่าก็ไม่รู้ มันไม่บริสุทธิ์ใจกับดาเนียล ฉันต้องจัดการ แล้วก็จริงด้วย แค่เป่าหูสองสามคำ มันก็เลิกกับแฟน ตลกดีว่ามั้ย


    ไม่ตลก ไม่ตลกสักนิด


    สักพักแล้วที่เขาเลิกลนลานแล้วหันมาฟังทุกคำบอกเล่าของชเวมียอง ตั้งแต่ชื่อเจ้าของเงาตะคุ่มหลังกระถางทรงสูงถูกเอ่ยถึงแอปรีคอร์เดอร์ที่ติดตั้งไว้ในมือถือของเขาก็ถูกเริ่มต้นใช้ทำงาน


    คังดานียลไม่อยากยอมรับ เขาไม่เคยรู้สึกยินดีที่ได้เห็นหน้าไลควานลิน อย่างมากสุดก็แค่เฉย  แต่ครั้งนี้ต่างออกไป การที่เด็กตัวสูงตามมาสมทบทำให้เขาโล่งใจไปเปลาะหนึ่ง 


    ไลควานลินยืนดูเชิงอยู่ตรงนั้นด้วยแววตาเย็นเฉียบ สีหน้าไม่ทุกข์ร้อนที่เห็นจนชินตาไม่มีอีกแล้ว อีกฝ่ายพึมพำบางอย่างใส่โทรศัพท์ไม่กี่คำก็กดวาง ก่อนมือขาวซีดจะส่งสัญญาณบางอย่างกับพัคจีฮุน


    ฉันเคลียร์หมดแล้ว ผู้หญิงทุกคนที่เกาะแกะดาเนียล แล้วต่อจากนั้นก็พัคจีฮุน มันเป็นผู้ชาย มันแค่เพื่อนที่สนิทมากของดาเนียล ไม่ใช่คู่แข่งฉัน ฉันปล่อยมันไว้ แต่ฉันมีความรู้สึกประหลาด ดาเนียลสนิทกับมันเกินไป สายตาของดาเนียลก็ด้วย ฉันต้องยืนยันเรื่องนี้ อย่างดาเนียลหรอจะชอบผู้ชาย


    เอ้า โทษทีแล้วกันที่กูชอบผู้ชาย กูก็เพิ่งรู้เมื่อไม่นานมานี้เหมือนกัน’ เกือบจะสวนไปดัง  แต่คราวนี้คังดาเนียลสงบปากสงบคำไว้ได้ เขาผ่อนคลายลงแล้ว แค่แสตนบายอยู่ตรงนี้เพื่อเบี่ยงเบนความสนใจระหว่างที่รูมเมทคู่นั้นกำลังดำเนินการตามแผนสักอย่างที่เขาเดาไม่ออก


    ฉันส่งจดหมายนัดเจอดาเนียลหลายครั้ง หลายครั้งเลย แต่เธอเงียบ ฉันส่งจดหมายอีกครั้ง คราวนี้เธอตอบกลับ ไม่สิ มันตอบกลับ พัคจีฮุนยื่นจมูกเข้ามา อย่างที่ฉันบอกไป แต่ฉันไม่สน คนที่ฉันจะคุยด้วยมีแค่ดาเนียล ฉันทำขนาดแกล้งเป็นลมกลางคลาส ถ้าโชคดีองซองอูจะคาบข่าวเรื่องฉันไปบอกดาเนียล แล้วดาเนียลก็จะมา แต่เธอก็ไม่มา


    ฟังมาจนถึงตอนนี้คังดาเนียลก็ยังไม่เข้าใจ บอกก่อนเลยว่าเขาไม่ได้ไม่พยายามเข้าใจ แต่มันยากที่จะเข้าใจ 


    คังดาเนียลไม่คิดว่าตัวเองเป็นคนที่ตามหาตัวได้ยาก เขาใช้ชีวิตส่วนมากอยู่กับแค่คลาสเรียน แลป หอพัก และพัคจีฮุนซึ่งอาจจะมากหน่อยในช่วงหลัง ชเวมียองไม่ใช่คนที่เขาจะหลบหน้าอยู่แล้ว (แต่หลังจากนี้ก็ไม่แน่) แทนที่จะใช้วิธีที่อ้อมค้อมอย่างการส่งจดหมายโดยไม่ลงชื่อคนเขียน ก็แค่มาเจอกันถ้าอยากคุย หรือไม่ จะใช้โอกาสในช่วงสี่ห้าครั้งที่นัดทำงานกลุ่มก็ยังได้ แต่ชเวมียองกลับแค่ทำงานในส่วนของเธอไปเงียบ  และพูดเท่าที่จำเป็น จนคังดาเนียลคิดแล้วด้วยซ้ำว่ากำลังถูกเกลียด พอเป็นแบบนั้นการจะไปเยี่ยมไข้ยิ่งไม่ต้องพูดถึง


    ฉันส่งจดหมายอีก ครั้งนี้ครั้งสุดท้าย ถึงดาเนียลจะไม่มา พัคจีฮุนจะมา แล้วทีนี้ฉันจะจัดการมัน แต่ดาเนียลมา มาหลังจากมัน แต่ก็มา ที่นี้ฉันควรทำไง ทำยังไงกับมันดี ดาเนียลว่าไง ฉันควรปล่อยมันหรอ


    แน่นอนว่าควรปล่อย 


    นั่นเป็นวินาทีหนึ่งที่เขารู้สึกโล่งอก คังดาเนียลพยักหน้า ยื่นมือออกไปรับตัวพัคจีฮุน ก่อนจะรู้ว่าเขาคิดอะไรตื้น  แผนที่รับรองความปลอดภัยของพัคจีฮุนไม่มี มีแค่เขาที่มองโลกในแง่ดีจนเกินไป เพราะความเคลื่อนไหวต่อมาเกิดขึ้นเร็วมาก เร็วจนภาพที่พัคจีฮุนถูกสะบัดทิ้งจนกระแทกเข้ากับตะแกรงวางกระถางกลายเป็นเชื่องช้า 


    ไลควานลินที่อยู่ใกล้กว่ารับร่างพัคจีฮุนไว้ได้ทันก่อนจะล้มลงกับพื้น มันกระชากแขนเสื้อของตัวเองทั้งแขนมาขยุ้มเพื่อกดห้ามเลือดคนเจ็บ ส่วนเขาพุ่งตัวเข้าไปปัดพลั่วออกจากมือชเวมียอง เหยียบมันเอาไว้ไม่ให้เจ้าของมีโอกาสได้คืน 


    คังดาเนียลหายใจแรงจนหน้าอกกระเพื่อม ซับเหงื่อเม็ดโตที่ผุดขึ้นบริเวณหน้าผาก อาจเป็นเพราะอะดรีนาลีนหรือสารคัดหลั่งตัวใดตัวหนึ่งที่ทำให้เขารู้สึกถึงเลือดในกายที่เปลี่ยนเป็นเย็นเฉียบ แต่คังดาเนียลไม่คิดหาคำตอบ กลิ่นสนิมที่ชัดขึ้นเรื่อย  กับสีแดงที่ซึมบนผ้าขาวที่กดอยู่เหนือปากแผลเป็นทางยาวบนตัวของพัคจีฮุนคือทั้งหมดที่เขากังวล




    -  Keep a Weather Eye on the Cloud -

    Kang Daniel x Park Jihoon




    ไงมึง ไม่ได้นอนมากี่คืนละ” 


    คังดาเนียลเหลือบตามองเจ้าของเสียง เขาหอบโน้ตบุ๊คกับกองเปเปอร์ออกมาถึงร้านกาแฟชั้นล่างสุดของตึกเพื่อเปลี่ยนบรรยากาศหลังจากอุดอู้อยู่แต่ในแลปมาสามวันติด และทันทีที่องซองอูทรุดตัวนั่งลงบนเก้าอี้ฝั่งตรงข้าม ดูเหมือนว่าเขาจะได้เปลี่ยนบรรยากาศสมใจ


    กูนอนทุกคืน


    แต่ถึงชั่วโมงมั้ยกูถามแค่นี้ ทำมาเป็นงานเยอะ งานละเอียด ข้ออ้างทั้งนั้น มึงแค่ทำตัวยุ่งจะได้ไม่ต้องคิดถึงมัน ทำไมกูจะไม่รู้ ห่วงมันนักก็ไปเยี่ยมสิวะ


    หลังจากที่ทำให้เขาเจ็บขนาดนั้นนะ หน้ากูไม่หนาเท่ามึงว่ะอง” คังดาเนียลว่าพร้อมกับเคาะสเปซบาร์สองครั้งจนคำที่ขาดตกไปรวมกันที่บรรทัดถัดไป


    แล้วก็วกมาแซะกูเฉย” องซองอูกดมุมปากลงข้างหนึ่งให้เขาเดาได้ว่ากำลังถูกด่า แล้วพูดต่อ “เนียลมึงฟังกู เลิกโทษตัวเองละแบกหน้าบาง  หมา  ของมึงไปหาพัคจีฮุนที่โรงบาลซะ มึงทำเรื่องไว้แล้วหายหัวไม่ได้เว้ย อย่างน้อยก็ไปขอบคุณมันสักคำ จะได้จบ  กันไปไม่ค้างคา


    แต่กูไม่อยากจบ จนถึงตอนนี้กูไม่รู้ด้วยซ้ำว่าทำไมจีฮุนต้องเอาตัวเข้ามาลำบากกับปัญหาของกู กูเดาไม่ออกว่าเขาคิดอะไรอยู่” คังดาเนียลเม้มริมฝีปาก พยายามสรรหาคำพูดที่ใกล้เคียงความรู้สึกในช่วงสามวันมานี้ “เหมือนกับถูกให้ความสำคัญ แต่ก็กลัวด้วย มึงเก็ทกูฟีลมั้ย


    กูถึงให้มึงไปหามันไง เลิกเดาไอ้ควาย แอ็บสแตรคขนาดนั้นมึงคงเข้าใจมันได้หรอก


    เขามองเคอร์เซอร์ที่หมุนอยู่ครู่หนึ่งขณะที่ไฟล์งานถูกเซฟ ก่อนบ่ายเบี่ยงด้วยน้ำเสียงครุ่นคิด “กูแค่อยากคิดอะไรอีกหน่อย” 


    ก็แล้วแต่ละงั้น” องซองอูไม่เซ้าซี้ไปมากกว่านี้ แต่เชื่อเถอะ พรุ่งนี้มันก็จะมาโน้มน้าวให้เขาไปเยี่ยมพัคจีฮุนอีก นี่เป็นวิธีขอโทษในแบบของมันหลังจากได้ฟังคลิปเสียงที่เขาอัดไว้ “แล้วนี่เชี่ยมินไปไหน


    มีนัดคุยกะที่ปรึกษาเรื่องจัดตารางเรียน จะควบทำโปรเจกต์ฝึกงานกับโปรเจกต์จบให้เสร็จพร้อมกันหรือไงนี่แหละ   แต่กูดูละ แลปมันใช้เวลาตามผลนาน ไหนจะต้องหาออฟติไมซ์คอนดิชั่นอีก กว่าจะเสร็จก็คงหมดเทอมแรกพอดี แต่วิชาต่อสามหน่วยกิตที่มันต้องเก็บดันเปิดให้ลงแค่เทอมแรกเหมือนกันนี่ดิ


    เอ้า แล้วมันทำไง


    คงต้องหาคนที่จะลงเทอมสองด้วยกันมั้ง ถ้าถึงสิบคนก็น่าจะเปิดเซคเพิ่มได้ แต่ก็ขึ้นอยู่กับจารย์ประจำวิชาด้วยว่ะ คือที่ถามพี่จีซองมา คลาสนี้ไม่มีคะแนนควิส ไม่มีคะแนนเก็บ สอบล้วน  ถ้าไม่ได้จริง  มันบอกว่าจะขอให้จารย์เว้นนับแอทเทนเดนท์แล้วอ่านเองเอา


    เทพมินกู” องซองอูครางด้วยความศรัทธา “มิดเทอมนี้กูคงไม่พกเครื่องรางละว่ะ” 


    ทำไม มึงจะเอารูปมันห้อยคอเข้าห้องสอบแทนไง


    ได้มั้ยวะ” มันตอบรับแบบสบาย  ถ้าเป็นต้องเป็นห่วงฮวังมินฮยอนเรื่องเรียน เอาเวลาไปหาทางให้ตัวเองเอาชีวิตรอดจนได้จบภายในสี่ปีดีกว่า “มึงส่งรูปที่มันดูฉลาด  ให้กูที ดูดิในเครื่องกูมีแต่อะไร นี่ มึงดูอันนี้หน้าตาโคตรปัญญาอ่อน” 


    แค่เหลือบไปมองก็ต้องอุดปากขำ คังดาเนียลพับฝาโน๊ตบุ๊คแล้วหยิบมือถือของตัวเองขึ้นมาค้นรูปบ้างหลังจากได้เห็นรูปเผลอของฮวังมินฮยอน “กูก็มีรูปนึงเหมือนกัน หน้างี้โง่สัด” 


    นั่นมันรูปกูมั้ย” คราวนี้ทั้งสองคนหลุดหัวเราะพร้อมกัน องซองอูหยิบกระดาษสี่ห้าแผ่นบนโต๊ะขึ้นมาม้วนให้ได้ขนาดพอดีมือ ก่อนจะฟาดเข้าที่ไหล่เขาเสียงดัง พอปีหนึ่งโต๊ะข้าง  หันมามองมันก็ตีหน้าตายกลับไปอย่างไร้จิตสำนึก 


    ก็ได้ยินไอ้มินมันเกริ่น  อยู่ว่าจะไปช่วยงานวิจัยของภาคอุต ไม่นึกว่าจะเอาจริง งานหนักจะตายห่า


    แต่ก็ดีตรงที่ไม่ต้องลุ้นว่าโปรเจกต์จะถูกยืดไปถึงช่วงซัมเมอร์ ยังงั้นกว่าจะได้ใบจบก็คงพร้อมพวกปีสองนู่น แถมต้องโดนสูบค่าบำรุงการศึกษาอีกตั้งเทอมนึง โคตรไม่คุ้ม” 


    ดีขนาดนั้นไมมึงไม่เอาด้วย” องซองอูถามต่อ


    กูติดเงื่อนไขทุนไง” เพราะคังดาเนียลมีชื่ออยู่ในทีมวิจัยของอาจารย์โอมาตลอดตั้งแต่ขึ้นปีสาม เขาจึงได้เริ่มโปรเจกต์ของตัวเองก่อนใคร และถึงตอนนี้ก็เหลือแค่ทำต้นฉบับส่งตีพิมพ์ เขาจบได้ด้วยวารสารที่มีชื่อเขาและตรามหาวิทยาลัยอยู่บนนั้น “ถามเรื่องของมึงเหอะ มาทำไรถึงนี่ นี่มันคนละฟากกับคณะมึงเลยไม่ใช่ไง


    แล้วมึงว่า คนหน้าตาประมาณกูเขามาทำอะไรกัน” มันตอบแบบนั้นพร้อมกับหรี่ตาลงอย่างดุดัน 


    ต่อยได้มั้ยหรือเตะหน้าแข้งสักทีดี


    คังดาเนียลถอดหายใจดังพรืด “กูต้องรู้หรอ แต่ห้องน้ำที่นี่มีที่ฉีดตูดนะ มึงเดินตรงไปทางนั้นแล้วเลี้ยวขวา


    เอาไว้พาพ่อมึงมาใช้นะเนียลนะ กูมารอสาวมั้ยล่ะไอ้เวร


    เออ ไม่พูดถึงก็ลืมไปเลย เซฝากมาบอกว่าขนมที่มึงซื้อให้วันนั้นอร่อยดี แต่คราวหน้าไม่ต้องซื้อมาแล้ว มึงไม่ใช่ไทป์น้องมันว่ะ มันรับไม่ได้ที่เอวมึงเล็กกว่าขามัน มันชอบผู้ชายที่หุ่นหมี  มากกว่า แล้วยิ่งถ้าเป็นทาสแมวด้วยยิ่งชอบ เซมันว่ามางี้


    กูไม่ได้มารอหลานรหัสมึงมั้ย” องซองซูบอกเสียงสูง “แล้วเอวเหี้ยอะไรจะเล็กกว่าขาคน กูถามหน่อย ยัยหนูจองนี่ชักยังไง  ละ ตอนนั้นมึงตอบน้องไปว่าไง


    ก็แค่บอกว่าไว้เจอมึงเมื่อไหร่จะบอกให้” รับปากไปแบบนั้นมาตั้งแต่เดือนที่แล้วแล้วถ้าเขาจำไม่ผิด


    องซองอูทำหน้าเหมือนกลืนของขม มันนิ่งไปอึดใจหนึ่ง เป็นอึดใจที่ตั้งใจทิ้งไว้เพื่อบิ้วด์ให้เขามีอารมณ์ร่วม มันมักทำแบบนี้จนเขาเรียนรู้ที่จะรอแทนที่จะเร่ง เพราะสุดท้ายมันก็จะคายคำพูดที่อมไว้ออกมาอยู่ดี “พูดไม่ออกเลยว่ะ เด็กมันชัดเจนขนาดนี้แล้วนะเว้ย มึงนี่ไม่ได้เรียนรู้อะไรจากชเวมียองเลยมั้ง


    อะไรของมึง กูเห็นมึงก็ยังไง  กับทุกคน เรียนรู้จากเรื่องของจีฮุนมั่ง” คังดาเนียลว่า ปลงกับความเล่นใหญ่เหมือนดึงทิชชู่แบบป๊อปอัพด้วยท่าทางแบบกำลังแสดงมายากลเพื่อที่จะพบว่ามีทิชชู่อีกแผ่นเด้งขึ้นมาแทนที่


    องซองอูอ้าปากเตรียมตอบโต้ แต่หุบปากลงและหันหลังขวับทันทีที่ถูกเรียกด้วยเสียงหวานหยดย้อย


    ซงงู~” 


    คังดาเนียลขนลุกเกรียวเมื่อชื่อขององซองอูถูกเรียกแบบเพี้ยนคำให้น่ารักน่าเอ็นดู และขนลุกขึ้นไปอีกเมื่อเจ้าตัวตอบรับด้วยน้ำเสียงละมุน


    อัน ทำไมถึงแล้วไม่โทรมาล่ะครับ ผมจะได้ออกไปรับ


    เซอร์ไพรส์ไง คณะวิทย์หาง่ายจะตายเดินผ่านรั้วมาก็เจอแล้ว” เธอว่าพร้อมกับแตะนิ้วที่ปลายจมูกของมันอย่างหยอกเย้า


    คังดาเนียลแลกเปลี่ยนสายตากับเพื่อนของเขา แล้วมันก็คิดได้ว่าควรจะแนะนำหญิงสาวตรงหน้าให้รู้จัก “นี่อันนาแฟนกู


    เขาเหลือกตามองเพื่อนสนิทอย่างไม่เชื่อหู แล้วไอ้การบิดตัวนั่นอะไร น่ารักเลยมากมั้ง หยุดทำ พอที คังดาเนียลเบือนหน้าหนี ทนมองได้ยากเมื่อเพื่อนของเขาไม่ได้เป็นตัวเล็กตัวน้อยแบบจีฮอะเฮ่ม ฮวังมินฮยอนต้องบันเทิงแน่ถ้าได้รู้เรื่องนี้


    ลีอันนาค่ะ แล้วนี่คงจะเป็นดาเนียล ใช่มั้ย” เธอแนะนำตัว ทำท่าคิดเล็กน้อยก่อนเดาชื่อเขา 


    ครับ ดาเนียลครับ คังดาเนียล” หญิงสาวค้อมศีรษะให้เล็กน้อยเมื่อเขาโค้งทักทาย เธอปัดเส้นผมสีดำขลับที่ค่อย  ไหลลงมาปรกหน้ากลับไปให้พ้นไหล่อย่างมีจริต ฉีกยิ้มเฉิดฉายให้เขาแล้วหันกลับไปสนใจแฟนของเธอ “ซงงูตอนอันเดินมานะแดดร้อนสุด  รู้สึกคอแห้งมากจัง


    งั้นอันเอาสมูทตี้สักแก้วมั้ย ที่นี่มิกซ์เบอร์รี่อร่อย เดี๋ยวผมไปสั่งให้


    ขอบคุณน้า


    ดี ออดอ้อนเอาใจกันเข้าไป ต่อหน้าเขานี่แหละ เขาโอเค แต่ถ้านี่คือฝันกลางวันและเขาเร่งปั่นวิจัยจนน็อคไม่รู้ตัว ใครก็ได้เขย่าเขาให้ตื่นที 


    จี้ฝากมาขอบคุณที่แวะไป โกโก้ของเราถึงมือเขาแล้วล่ะ” คังดาเนียลกระพริบตาปริบเมื่อลีอันนาเปิดประเด็น “พี่กับซองอูไปเยี่ยมจี้มาเมื่อวาน เราก็ไปมาใช่มั้ย


    ถ้าพูดให้ถูกคือเขาไปเยี่ยมพัคจีฮุนทุกวัน ไม่สิ เขาเดินวนที่หน้าห้องพักฟื้น ไม่ก็นั่งอยู่ตรงนั้นวันละไม่ต่ำกว่าครึ่งชั่วโมงในช่วงเวลาที่ปลอดคน แค่นั้น จนกระทั่งเมื่อวานที่ซื้อโกโก้ร้อนติดมือไปด้วยเป็นการบังคับตัวเองกลาย  ว่าต้องเจอพัคจีฮุนให้ได้ แต่ก็ไม่ช่วย เขายังไม่กล้าพอที่จะเผชิญหน้า โกโก้แก้วนั้นถูกแขวนไว้ที่ลูกบิดประตูโดยคิดว่าจะถูกแม่บ้านเก็บทิ้งด้วยซ้ำ 


    ทำไมจีฮุนถึงฝากข้อความมากับพี่ละครับ


    แล้วทำไมไปเยี่ยมทั้งทีแต่ไม่ยอมเจอคนเจ็บล่ะ” คำถามถูกย้อนกลับมาหาเขา คังดาเนียลชะงักเมื่อเห็นรอยยิ้มกำกวมบนใบหน้าของลีอันนาแวบหนึ่ง “หยอกน่ะ นึกว่าเราเห็นหน้าพี่แล้วจะจำได้เลยซะอีก ตอนยังเรียนที่นี่พี่ว่าพี่ก็ดังอยู่บ้างนี่นา


    คังดาเนียลพิจารณาอีกฝ่ายอีกครั้ง หญิงสาวหน้าตาสะสวยกับรอยยิ้มมั่นใจ เคยเรียนที่นี่ มีคนพูดถึงเยอะแถมยังรู้จักกับพัคจีฮุนหรืออาจสนิทสนม “พี่ที่เคยอยู่การจัดการ


    ใช่เลย แต่เราเนี่ยสุภาพจังนะ ถ้าเป็นคนอื่นคงเจาะจงกว่านี้ไปแล้วอดีตดาวคณะการจัดการที่ถูกพัคจีฮุนบอกเลิกคนนั้นแหละพี่ล่ะ” ลีอันนาขยายความแล้วตบท้ายด้วยเสียงหัวเราะ


    เขาพอเดาได้แล้วว่าทำไมองซองอูถึงขยันดิสเครดิตพัคจีฮุนนัก


    พี่รู้ว่ามันเกิดอะไรขึ้น ทำไมจี้ถึงไปนอนเป็นผักที่โรงบาลแบบนั้น แต่เราไม่ต้องรู้สึกผิดนักหรอก” คังดาเนียลขมวดคิ้วเมื่อลีอันนาพูดอย่างนั้นได้หน้าตาเฉย มันไม่เป็นไรถ้าเธอจะมองว่าความรู้สึกผิดของเขาเป็นเรื่องเสียเปล่า แต่เขาโกรธแน่ถ้าจะบอกว่าพัคจีฮุนสมควรเจ็บตัวเพราะรนหาที่


    จี้หยุดคิดที่จะช่วยคนไม่ได้รู้มั้ย นี่ไม่ใช่ครั้งแรกและอาจไม่ใช่ครั้งสุดท้ายที่เขาจะลากตัวเองเข้าไปมีส่วนเกี่ยวข้องกับเรื่องพวกนี้ เขารักการทำตัวเป็นฮีโร่ มันเป็นข้อเสียหนึ่งในไม่กี่อย่างของเขาเลย” คนที่กำลังฟังส่ายหน้าอย่างไม่เห็นด้วย ถ้าฮีโร่ที่ลีอันนากำลังพูดถึงมีสไปเดอร์แมนรวมอยู่ในนั้น คังดาเนียลคิดว่านั่นเป็นข้อดี 


    ลีอันนามองปฏิกิริยาของเขาแล้วยกยิ้ม เธอยังคงพูดไปเรื่อย  “จี้มองปัญหาเป็นตุ๊กตาน่ารัก  แต่ปัญหาก็คือปัญหา จะคิดว่ามันนุ่มนิ่มยังไงก็ได้ จนโถมตัวเข้าใส่เท่านั้นแหละ รู้เรื่อง เขาเคยกล้าถึงกับย่องเข้าไปในห้องพักอาจารย์เพราะเจอเรื่องไม่ยุติธรรม แล้วเป็นไงต่อเราคงเคยได้ยินเขาพูดกันใช่มั้ย เขาถูกสอบสวนอยู่เป็นเดือน แต่พี่ที่รู้อย่างนั้นก็ยังหาประโยชน์จากเขา พี่ขอเขาเดท ใช้ความเป็นเพื่อนให้ตัวเองได้ตามใจ” 


    คังดาเนียลขยับตัวเล็กน้อย การได้รู้ว่าพัคจีฮุนถูกเอาเปรียบทำให้เขาหงุดหงิดใจ 


    เขารู้อยู่แล้ว แต่ใจดีเกินกว่าปฏิเสธ คนอย่างพัคจีฮุนรู้ทุกอย่างนั่นแหละ อยู่ที่จะพูดหรือไม่แค่นั้น เขาทำเป็นคบกับพี่อยู่เกือบเดือน แต่มันไม่ได้ผล จนใกล้จะเข้าเดือนที่สอง เขาก็ลองเปลี่ยนวิธีการ คนบางประเภทก็เหมาะกับการคุยด้วยกำลัง จี้ทำมันจนมั่นใจแล้วว่าเจ้านั่นจะไม่กลับวอแวพี่อีก แล้วเขาก็บอกเลิกกับพี่ทันทีเลย


    ตอนนั้นพี่เคว้งมาก ไม่เข้าเรียน ไม่ไปไหนกับใคร ไม่อัพเดตโซเชียล หมกตัวอยู่แต่ในห้อง คิดถึงหน้าจี้วนไม่หยุด ผลก็คือจีพีเอ 1.0 ที่มาพร้อมกับจดหมายแจ้งว่าพี่พ้นสภาพการเป็นนักศึกษา ซึ่งก็สมควรแล้ว แต่ก็เขาอีกนั่นแหละที่ยื่นมือเข้ามาช่วย 


    จี้อยากให้พี่ทำเรื่องรีเอนเทอร์ แต่พี่ขอให้ย้ายหน่วยกิตไปที่ไกล  ไม่มีทางตัดใจได้หรอกถ้ายังเจอเขาอยู่ พี่หนีทุกครั้งที่เจอปัญหาอยู่แล้ว ครั้งนี้ก็แค่ยากกว่าครั้งก่อน  นิดหน่อย มันแลกกับการเสียรุ่นน้องคนสนิท


    พี่ไม่ต้องเล่าต่อแล้วได้มั้ย” คังดาเนียลขัดขึ้นอย่างก้าวร้าว เขาไม่คิดว่าอะไรจะดีขึ้นแม้จะทนฟังเรื่องที่เธอเล่าต่อไปจนจบ


    ลีอันนาเลิกคิ้วมองมาอึ้ง  ท่าทีของเธอเปลี่ยนไปฉับพลันเมื่อพูดต่อ ราวกับกำลังพอใจ “ชอบจี้มากเลยนี่ เราน่ะ แล้วจี้ล่ะ ชอบเราเหมือนกันรึเปล่า” คังดาเนียลไม่ได้ตอบ เอาจริง  เขาไม่รู้ “แนะนำอย่างหนึ่งนะ ถามกับเจ้าตัวไปตรง  ไปเลย เสี่ยงดูหน่อย


    คุยอะไรกันอยู่ครับ“ องซองอูเดินกลับมาพร้อมกับเครื่องดื่มสองแก้ว และแน่นอน มันถามลีอันนา ไม่เคยพูดดี  แบบนั้นกับเพื่อนอยู่แล้ว


    เรื่องทั่วไปน่ะ อันกับเพื่อนของซงงูเราคุยกันถูกคอสุด ” 


    อ่อ” องซองอูพยักหน้ารับปลื้ม  มันยื่นน้ำให้เธอดูด แล้วรอฟังฟีดแบคอย่างใจเย็น


    อ่อพ่ออ่อแม่มึงดิอง มึงดูหน้ากู มาคุขนาดนี้ถูกคอมากเลยมั้ง’ คังดาเนียลประท้วงในใจ มองดูคู่รักหวานชื่นที่เริ่มสร้างพื้นที่ส่วนตัวสีชมพูอย่างจนใจ องซองอูมีรสนิยมเรื่องผู้หญิงไม่ค่อยดี มันคุยกับคนนู้นคนนี้ไปทั่วก็จริง แต่ที่ทำให้มันตกลงปลงใจได้ก็มีแต่พวกร้าย  ทั้งนั้น 


    เนียลกูจะไปแล้วนะ นี่อเมริกาโน่ของมึง กูสั่งมาเผื่อ นึกครึ้มอะไรแดกโกโก้เอามึงอยู่ที่ไหน” องซองอูว่า มันวางกาแฟลงบนโต๊ะ แล้วใช้แขนที่ว่างโอบรอบเอวของลีอันนา


    อือแต้ง มึงไปเหอะ พาแฟนมึงไปด้วย กูไม่หลับคาคอมหรอกเขาขอบคุณก่อนจะปัดมือไล่ ตอนแรกที่ว่าจะกลับหอก็คงนั่งทำงานต่ออีกหน่อย


    คังดาเนียลถอดแว่นออกแล้วกดนิ้วกับเปลือกตา เขารู้สึกแย่อีกแล้ว เพื่อปกป้องเพื่อนพัคจีฮุนลงทุนทำขนาดนั้น ไม่ใช่แค่เจ็บตัว แต่ความรู้สึกก็ด้วย แล้วคราวนี้ยังมาช่วยเหลือเขาอีก คังดาเนียลควรจะเห็นแก่ตัวอยู่เป็นภาระของอีกคนมากไปกว่านี้จริง  หรือ




    -  Keep a Weather Eye on the Cloud -

    Kang Daniel x Park Jihoon




    คังดาเนียลเพิ่งออกมาจากคลาสสุดท้ายของวันศุกร์ เขาหยุดยืนเพื่อปรับสายตาที่พร่าเบลอให้เข้ากับแสงจ้านอกอาคาร บอกปัดทุกคำชวนสำหรับปาร์ตี้ แฮงค์เอ้าท์ หรืออะไรก็ตาม เขาแค่อยากอยู่เฉย  หลังจากสอบย่อยสี่ตัวและวิจัยที่เพิ่งปิดเล่ม หรืออย่างน้อยนั่นคือแผนที่เขาวางไว้ก่อนจะรับรู้ถึงสายตาคู่หนึ่ง


    เพราะวิชาไอโอเอ็มที่ทำให้ต้องดั้นด้นไปเรียนไกลถึงคณะวิศวกรรมจบไปตั้งแต่เทอมที่แล้ว เขาจึงไม่มีโอกาสได้เดินผ่านเก้าอี้ม้าหินที่เจอพัคจีฮุนครั้งแรกอีก แต่คังดาเนียลก็ไม่ได้อาลัยกับมันมากนักในเมื่อพวกเขาเท็กซ์คุยกันจนเป็นเรื่องปกติ ต่างกับตอนนี้ที่สถานการณ์เปลี่ยนไป การได้เห็นพัคจีฮุนบนเก้าอี้ม้าหินอีกครั้ง แม้จะคนละตัว ก็ทำให้เขาอดนึกย้อนถึงตอนนั้นไม่ได้


    คังดาเนียลจะไม่มีทางทำเป็นเมินอีกฝ่ายที่อยู่ห่างเพียงแค่ไม่กี่ก้าว เรื่องนั้นพัคจีฮุนรู้ดี จึงทำแค่รออย่างใจเย็นและเริ่มทักทายเมื่อเขาเดินเข้าไปถึงระยะที่ไม่ต้องตะโกนคุยกัน “เนียล” 


    เพียงได้ยินเสียงของคนที่ผลุบโผล่อยู่ในความคิดมาตลอดสัปดาห์ใจของเขากระโดดโลดเต้นอย่างรื่นเริง ถึงอย่างนั้นคังดาเนียลก็ยังไม่ซื่อสัตย์พอที่จะยิ้มยินดี และเขาเกลียดเสียงเรียบเรื่อยที่ตัวเองใช้ในการตอบรับ “จีฮุน นึกว่ามึงมีเรียนสเตรติจีตอนบ่ายครึ่งซะอีก” 


    ก็มีนั่นสิ ทำไมผมถึงมาอยู่นี่กันนะ” พัคจีฮุนขมวดคิ้วน้อย  เหมือนจะอารมณ์เสียขึ้นมา ถึงอย่างนั้นก็ยังน่าเอ็นดูเอามาก  ในเสื้อสีพาสเทลตัวใหญ่แทบคลุมเข่าที่เขาซื้อให้ “ไหน  ผมก็โดดแล้ว เรามาคุยกันหน่อยมั้ย


    อย่างกับว่าเขาจะปฏิเสธลง


    ทั้งสองคนลัดเลาะตามฟุตปาธไปเรื่อย  จนถึงสวนสาธารณะด้วยเส้นทางที่คังดาเนียลใช้ประจำ ถ้าเป็นก่อนหน้านี้เขาคงกำลังชี้ชวนให้พัคจีฮุนดูนั่นดูนี่ พูดคุยไร้สาระบ้างมีสาระบ้าง และหัวเราะออกมาได้ง่าย  ยามมองดูอีกฝ่ายทำสีหน้าหลากหลายแบบ ไม่ใช่อย่างตอนนี้ที่เขาตั้งหน้าตั้งตาเดินอย่างไม่มีวอกแวกไม่ต่างจากหุ่นยนต์ที่ถูกตั้งโปรแกรม 


    คังดาเนียลยอมสร้างระยะห่างดีกว่าเปิดโอกาสให้พัคจีฮุนแสดงออกว่าเกลียดโดยรู้ทั้งรู้ว่านั่นไม่ยุติธรรมกับอีกฝ่ายสักนิด 


    เขากำลังเรียกร้องความสนใจเป็นเด็ก 


    ในเมื่ออีกฝ่ายอุตส่าห์ชดเชยให้กับความไม่แน่ใจของเขาโดยการเข้าหาก่อนแล้ว เขาก็จะไม่หลีกเลี่ยงอีก ถึงคราวที่เขาจะต้องเลิกทำตัวเหมือนพวกขี้แพ้แล้วบอกทุกอย่างที่เก็บเอาไว้ให้พัคจีฮุนได้รู้วันนี้ 


    คังดาเนียลเลียริมฝีปากเพื่อคลายความประหม่า คำว่าถอยไม่ได้ที่เคยพูดไว้สะท้อนเตือนในความคิด ถึงอย่างนั้นปากที่ขยับกลับไม่เปล่งคำใด 


    นานพอยัง อาทิตย์นึงแล้วนะที่เนียลหนีผม ผมว่าผมคงยอมให้นานกว่านี้ไม่ได้” พัคจีฮุนเริ่มต้นอีกครั้ง สุดท้ายเขาก็เสียโอกาสในการควบคุมทิศทางของบทสนทนา


    กูไม่รู้ว่าถ้าไปเจอมึงเราจะคุยเรื่องอะไรกัน เรื่องที่กูต้องขอบคุณมึงที่ออกหน้ากันปัญหาให้ เรื่องที่มึงถูกลากไปเจอเรื่องแบบนั้นเพราะกู หรือเรื่องขาของมึงที่จะมีรอยแผลเป็นไปอีกหลายปี


    เราจะคุยกันทุกเรื่อง” พัคจีฮุนตอบง่าย  ราวกับพวกเขาไม่เคยผ่านเหตุการณ์ที่เรือนกระจก


    แล้วหลังจากนั้นจะให้กูมองหน้ามึงเหมือนเดิมยังไงดี” คังดาเนียลลดสายตามองต่ำด้วยรู้สึกเหมือนมีชนักติดหลัง “ตอนเห็นมึงเกือบถูกแทง กูตั้งสติ พยายามพูดให้มียองใจเย็นแต่แม่งยิ่งพูดยิ่งมีแต่แย่กับแย่ลง กูกลัวไปหมด กูหมดหวัง แต่พอเห็นควานลินมันยืนอยู่ด้วยก็อ่ะกูมีที่พึ่งละ แล้วมันก็ปกป้องมึงไว้ได้จริง 


    พัคจีฮุนส่ายหน้า พยายามอธิบาย “เนียล ผมไม่ใช่เด็กผู้หญิง ผมไม่อยากได้ใครมาปกป้อง ควานลินก็ไม่ได้ปกป้องผม เขาจะแค่ยืนดูเฉย  จนจบเรื่องถ้าไม่ใช่ผมที่บอกให้เขาโทรเรียกรถพยาบาลมาเผื่อไว้


    แต่ก็เป็นมันที่มึงเลือกใช้ทั้งที่กูก็อยู่ตรงนั้น มึงไม่สบตากูด้วยซ้ำ” คังดาเนียลขบริมฝีปากล่าง คิดไปเองว่าจะช่วยสงบความฟุ้งซ่าน ทั้งที่เป็นต้นเหตุแต่ไม่ต้องทำอะไร ไม่เจ็บตรงไหนด้วยเพราะพัคจีฮุนรับแทนไปแล้ว จะเหลือก็แค่ความอึดอัดใจ เสียใจ และน้อยใจให้เขารู้สึก


    ถ้าเนียลอยากเท่ในสายตาผม ผมก็อยากเท่ในสายตาเนียลเหมือนกัน ถูกผู้หญิงตัวเล็ก  ขู่แถมยังถูกจับตัวผมก็อายนะ แต่ผมตีเธอกลับไม่ได้ ผมถูกสอนมายังงั้น


    ผมประเมินสถานการณ์ มันไม่ได้เลวร้ายถึงขั้นต้องพานิค แต่กันไว้ก่อนน่าจะดีกว่า แล้วที่ผมเลือกควานลินก็ไม่ใช่อะไร แค่เรามีวิธีสื่อสารที่ตกลงกันไว้ ควานลินบ้าหนังสงคราม เขาเคยดึงดันจะคุยกับผมผ่านรหัสมืออยู่ช่วงนึง บ้าบอมากแต่กลับมีประโยชน์ ผมขอบคุณควานลินไปแล้ว แล้วปัญหาก็จบแค่นั้น ไม่มีใครติดค้างใคร


    แล้วถ้ากูขอบคุณมึงด้วย กูก็จะไม่เหลืออะไรติดค้างมึงเหมือนกันใช่มั้ย” เสียงตะโกนทำพัคจีฮุนยืดตัวเกร็งเหมือนแมวที่กำลังเฝ้าระวังแต่คังดาเนียลแสร้งเป็นมองไม่เห็น เขาไม่ได้พิเศษกว่าใครและกำลังถูกจัดรวม เขาจะจบแบบเดียวกับลีอันนา


    คังดาเนียลใจเย็นกว่านี้ได้อีก แต่เพราะความรู้สึกที่อดกลั้นเอาไว้มากเกินไปทำหน้าที่เหมือนระเบิดเวลา คำตัดพ้อโง่  จึงถูกโพล่งออกมาได้อย่างง่ายดายจนต้องนึกเสียใจ 


    เขากำลังทำทุกอย่างพัง เขารู้ แต่ถ้าพัคจีฮุนกำลังเล่นบทฮีโร่อย่างที่ลีอันนาว่า คำขอบคุณก็คงเป็นสิ่งที่คนตรงหน้ารอคอย แค่คำเดียว เขาก็จะกลายเป็นหนึ่งในอีกหลาย  คนที่ถูกพัคจีฮุนช่วยเหลือ


    “ขอโทษ กูเสียงดังใส่มึง” เสียงของคังดาเนียลแผ่วเบาไม่ต่างจากลมพัด เขาวางสายตาไว้ที่จุดหนึ่งเลยไปจากราวกั้นที่พัคจีฮุนเท้าแขนเพื่อหลีกเลี่ยงการสบตาและปฏิกิริยาตอบรับ 


    ครู่หนึ่งที่บทสนทนาต่อกันไม่ติด ต่างคนต่างจมลงไปในความคิดของตัวเอง มองปลากลุ่มใหญ่กำลังรุมทึ้งก้อนขนมปังที่มีคนใจดีโยนให้ทั้งที่เพิ่งกินอาหารจากเจ้าหน้าที่ไปไม่ถึงสิบนาที พวกมันไม่ได้หิวแต่ขนมปังอาจอร่อยกว่า คนใจดีคนนั้นไปแล้ว แต่พวกปลากระเสือกกระสนยื้อเย่งเพื่อส่วนแบ่งเสี้ยวเล็กเสี้ยวน้อยของขนมปังก้อนนั้น


    ถ้าเป็นผมคงจะฉีกเป็นชิ้น  ก่อนแล้วค่อยโปรยไปคนละทางให้พวกมันแยกกันกิน” พัคจีฮุนหมายถึงฝูงปลา สองสามตัวอ้าปากพะงาบ  เมื่อถูกดันเกยตัวอื่นจนลอยพ้นผิวหน้า


    ถ้าเป็นกูคงไม่โยนลงไปแต่แรก พวกมันมีคนเลี้ยงอยู่แล้ว” ส่วนเขาก็คงหมายถึงฝูงปลาเขาคิดว่าอย่างนั้น 


    นั่นสินะ” พัคจีฮุนไม่ต่อปากต่อคำให้ยืดยาว “เนียลคงเจออันแล้ว ผมจะไม่ถามว่าอันพูดอะไรไปบ้าง แต่ผมอยากให้เนียลรู้ว่าผมไม่ใช่พวกชอบเสียสละ ถ้าผมลงทุนทำอะไรสักอย่างนั่นเพราะผมคิดแล้วว่ามันคุ้ม


    เพราะลีอันนากับกูเป็นเพื่อนมึงก็เลยช่วย อันนั้นกูเข้าใจ แต่อาจารย์ฮงล่ะ” ได้ยินเสียงถอนหายใจยาวเหยียดคล้ายกับยอมแพ้ท่าทีของคังดาเนียลก็อ่อนลงมาก ถ้ายิ่งตั้งแง่ยิ่งทำให้เรื่องยุ่งยากมากขึ้น เขาจะลองเปิดอกคุยกันสักครั้ง


    และเขาเชื่อว่าเขาตัดสินใจได้ดี


    พัคจีฮุนปล่อยมือจากราวกั้นเปลี่ยนเป็นทิ้งตัวพิงด้วยท่าทางที่ผ่อนคลายมากขึ้น “เนียล ผมน่ะเก่งมากนะ พูดเอาเองแบบนี้อาจจะฟังดูน่าหมั่นไส้ แต่ผมมั่นใจว่ารู้ทุกอย่างเท่าที่นักศึกษาคนหนึ่งควรรู้หรืออาจจะมากกว่า สำหรับผม บีบวกหนึ่งตัวบนทรานสคริปท่ามกลางเอหมดทั้งแถบแทบไม่มีผลอะไรเลย แต่ดันเป็นคนอื่นซะอีกที่เดือดร้อน


    ดงฮันวอแวผมไม่หยุด เขาจำคะแนนมิดเทอมผมได้ ถ้าไม่ใช่เพราะผม เขาจะเป็นแม็กซ์ของเซค ดงฮันแปลกใจที่พวกเราไม่ได้เอ ถกกับผมเรื่องนี้ทุกครั้งที่เจอกันเลย จะว่ารำคาญก็ได้ แต่ข้อสอบไฟนอลก็ง่ายมากจริง  ด้วยความสงสัยเป็นทุนเดิมผมไปหาอาจารย์พร้อมกับคำถามสองสามข้อ เจ้าตัวไม่อยู่ที่ห้อง มีแค่แลปท็อปเปิดค้างไว้


    อย่าบอกนะว่ามึง—”


    ไม่หรอก ผมไม่อยากเสียมารยาท หน้าอย่างงั้นคืออะไรอ่ะ ผมพูดอะไรแปลกหรอ” พัคจีฮุนกรอกตาตอนที่หันมาเจอเขาพร้อมกับสีหน้าปลาตาย เซ็งสุดขีดที่ไม่ประสบความสำเร็จในการหลอกเขาด้วยท่าทีอ่อนน้อมประจำตัว “ก็ลองใส่รหัสดูแล้วสองสามครั้งแต่ไม่ถูก ผมก็เลยลองเปิดลิ้นชักดูเล่น  แล้วรู้มั้ยผมเจออะไร


    คังดาเนียลเหมือนจะคิ้วกระตุก อาจจะคิดไปเอง แต่ช่วงนี้เขามักได้คำตอบของคำถามเป็นคำถามอีกที อารมณ์แบบกำลังลุ้นจนตัวโก่งแต่ถูกตัดเข้าโฆษณา ทั้งขัดใจทั้งอยากบีบอะไรสักอย่างให้เหลว ยกตัวอย่างง่าย  ก็เช่นปากมุบมิบของคนตรงหน้า


    มึงเจออะไร แผ่นหนังเอวี?” เขาเดาส่ง  ก่อนต้องเสริมต่อด้วยน้ำเสียงไม่อยากเชื่อเมื่ออีกฝ่ายไม่มีท่าทีจะปฏิเสธ “กูถามจริง


    ผมไม่ได้ล้อเล่น เป็นเซลฟ์แคมเลยด้วย เซลฟ์แคมที่อาจารย์ฮงถ่ายกับนักศึกษาหลายคน” พัคจีฮุนเว้นวรรค เบ้หน้าน้อย  เมื่อนึกถึงสิ่งที่เคยได้เห็น “เรื่องแย่  ในวันที่เลวร้าย ถ้าย้อนกลับได้ผมจะไม่ขี้สงสัย แต่เพราะย้อนกลับไม่ได้ผมก็เลยฉกดีวีดีนั่นใส่กระเป๋ามาแผ่นหนึ่ง แล้วก็วิ่ง ไม่สงไม่สนมันแล้วเรื่องเกรด


    และนั่นคงเป็นเหตุผลที่อาจารย์ฮงถูกย้ายกะทันหัน เรื่องร้ายแรงขนาดนี้มหาลัยคงอยากให้จบเงียบที่สุดเป็นธรรมดา ดูจากพัคจีฮุนโดนแค่ตักเตือน ที่สอบสวนกันอยู่นานสองนานก็คงเพื่อเบี่ยงประเด็น “คนในคลิปคงมาขอบคุณมึงเยอะเลยดิ


    ขอบคุณหรอ แค่ไม่สาปส่งหรือปล่อยข่าวลือแปลก  ผมก็ดีใจแล้ว จะว่ามองโลกในแง่ร้ายก็ได้ แต่ผมว่าบางคนเต็มใจแลก


    ไม่ค่อยคุ้มเท่าไหร่ว่ะ ข้อสอบสเตทพื้นฐานมันออกซ้ำ  กันเกือบทุกปี


    ผมก็ว่างั้น” พัคจีฮุนพยักหน้าเห็นด้วย ก่อนจะยกมุมปากขึ้นน้อย  เผยรอยยิ้มแรกที่หาได้ยากของวัน แค่นั้นก็ทำให้เขารู้สึกหายใจได้ทั่วท้อง คังดาเนียลหลุดยิ้มตามอย่างห้ามไม่อยู่ พนันเลยว่านี่กำลังจะกลายเป็นอีกนิสัยที่แก้ไม่หาย


    ก่อนหน้านี้คังดาเนียลไม่เคยถาม เขาไม่เคยคิดอยากรู้ความจริงของข่าวลือเพราะอย่างไรเขาจะชอบพัคจีฮุนอยู่ดี แต่พอได้ลองถามเข้าจริงผลลัพธ์กลับต่างไปเล็กน้อย ในความชอบมีความชื่นชมเพิ่มขึ้นมา สถานการณ์นั้นใช่ว่าไม่มีทางเลือกเสียทีเดียว พัคจีฮุนจะเพิกเฉยก็ได้แต่กลับเลือกลงมือทำบางอย่างเพื่อความเปลี่ยนแปลง


    เขาก็ควรเลือกลงมือทำเช่นกัน จังหวะนี้เลยไม่ต้องรอแล้ว


    จีฮุน” คังดาเนียลเรียก ความลังเลแทรกออกมาตามเสียง หลังจากปรับความเข้าใจกันมาเกือบหนึ่งชั่วโมงบรรยากาศก็เริ่มดีขึ้น และเขาขอให้ดีพอสำหรับเรื่องที่เขาตัดสินใจจะพูด “กูรู้ว่ามึงคงผิดหวัง แต่กูไม่อยากเป็นเพื่อนกับมึงแล้ว


    พูดอีกทีได้มั้ย ผมอาจจะฟังผิด” พัคจีฮุนกระพริบตาหนึ่งทีพลางยกมือขึ้นกอดอก ทุกเส้นสายบนใบหน้าไม่บ่งบอกอะไร แต่ดวงตาสีเข้มเป็นประกายล้อแดดสะท้อนอารมณ์ปนเปกัน


    มึงได้ยินชัดแล้ว กูรู้มึงคงเห็นกูเป็นแค่เพื่อน แต่กูไม่อยากเป็นแค่นั้น กูพยามยามแล้วจีฮุน แต่มันไม่เหมือนเดิม กูชอบมึงไปแล้ว” เขาว่า พยายามซ่อนความกังวลภายใต้รอยยิ้มเค้น  ที่ดูน่าเกลียดยิ่งกว่า ถ้าพัคจีฮุนตอบกลับมาว่าจะเป็นแค่เพื่อน เขาก็จะพอใจแค่เพื่อน แต่ถ้าแค่เพื่อนก็เป็นต่อไปไม่ได้ล่ะ


    ไม่ เนียลไม่รู้ จู่  มาพูดแบบนี้เนียลคาดหวังการตอบรับแบบไหนอยู่” พัคจีฮุนสวนกลับทันที ไม่สั่นคลอนสักนิดแม้ถูกสารภาพรัก 


    คังดาเนียลยิ้มให้กำลังใจตัวเอง เขาพลาดแล้วที่ไม่เตรียมใจไว้แต่เนิ่น  


    เอาจริง  กูคิดไว้เป็นสิบ  แบบ เลวร้ายที่สุดคือมึงรับไม่ได้ที่กูชอบจนอาจจะแบนกูไปเลย ซึ่งกูหวังมาก  ให้ไม่เป็นแบบนั้น กูอยากให้มึงตอบรับ อยากมีมึงเป็นของตัวเองแต่ไม่ได้ก็ไม่เป็นไรนะ ความเป็นได้มันน้อยมากอยู่แล้ว แค่มึงไม่ได้รังเกียจที่กูรู้สึกแบบนี้ก็เท่ากับว่ากูยังมีโอกาส ใช่มั้ย กูจะจีบมึง จะจีบจนกว่าจะติด” เขากลั้นใจพูดรอบเดียว


    จีบหรอ จีบของเนียลนี่ยังไงอ่ะ” อีกหนึ่งคำถามซอกแซกที่ไม่ได้ขึ้นต้นว่าทำไมหรือเมื่อไหร่ แต่ลงท้ายว่าทำอย่างไร


    คังดาเนียลคิดว่าอีกฝ่ายไม่ต้องการคำตอบ แค่พยายามเปลี่ยนเรื่อง แต่เขาไม่อยากด่วนสรุป “ก็มาให้เจอบ่อย  ไม่ก็ทำอะไรดี  ให้ ประมาณนั้นมั้ง” 


    ถ้าแบบนั้นผมก็กำลังจีบเนียลอยู่ไม่ใช่หรอ” พัคจีฮุนเป็นตัวแปรอิสระที่อยู่นอกเหนือการควบคุมและยากคาดเดา


    คังดาเนียลสตั้นไปครู่หนึ่ง ทำใจเชื่อไม่ลงกับประโยคที่เพิ่งได้ยิน พวกเขาไม่เคยมีช่วงเวลาหวานแหวว ทุกครั้งที่ลองหยอดพัคจีฮุนก็ไม่เคยทำสีหน้าเขินอาย “จะไปใช่ได้ไงล่ะ มึงไม่จีบกูหรอก


    นั่นแหละเรื่องที่เนียลไม่รู้ ผมไม่ได้อยากเป็นเพื่อนของเนียลแต่แรกแล้ว ผมจีบเนียลอยู่แน่  แล้วนี่ก็คิดว่าจีบติดแล้วด้วย


    คังดาเนียลตัวชาคล้ายกับถูกสาดด้วยความประหลาดใจถังใหญ่ รู้สึกวูบวาบในท้องและใจเต้นแรง ถึงอย่างนั้นเขาก็พยายามทำสีหน้าให้เป็นปกติ เผื่อว่านาทีใดนาทีหนึ่งคนตรงหน้าจะเฉลยว่านี่เป็นรายการซ่อนกล้องและเริ่มหัวเราะ


    แต่พัคจีฮุนพูดจริงเสมอ


    บางทีเนียลก็ควรฟังเพื่อนเนียลบ้าง” พัคจีฮุนมักมีอาการแปลก  ทุกครั้งที่มาหาเขาแล้วเจอเข้ากับองซองอู เป็นไปได้หรือไม่ที่อีกฝ่ายจะไม่ได้รู้สึกอึดอัดอย่างที่เขาเข้าใจ แต่แค่ดึงหน้าเอาไว้เพราะไม่อยากให้องซองอูจับไต๋ได้


    องมันเบลมมึงเรื่องจดหมาย ยิ่งกูมารู้ทีหลังว่าช่วงนั้นคือช่วงเดียวกับที่มันเริ่มคุยกับลีอันนาทั้งที่เธอยังลืมมึงไม่ได้ กูคงควรฟังมันมั้ง พอนอยมันก็เดามั่วไปเรื่อย


    ไม่มั่วซะทีเดียวนะ จำตอนที่องซองอูกระชากคอเสื้อผมแล้วตะคอกถามเหตุผลที่พยายามเข้าหาเนียลได้มั้ย


    คังดาเนียลเผาเพื่อนตัวเองแต่มันมีคนแก้ต่างให้


    จำได้ดิ มึงไม่ยอมตอบมันเลยหัวร้อน” จะว่าไปเขาก็มีส่วนผิดกับเหตุการณ์นั้นอยู่หน่อย  มันเกิดขึ้นเพราะเขาชิ่งนัดองซองอูเป็นครั้งที่สาม จะชวนไปไหนก็ได้แต่ไม่ใช่คาราโอเกะ เขายอมฟังมันบ่นแล้วใช้พัคจีฮุนที่ผ่านมาพอดีเป็นข้ออ้าง ความเล่นใหญ่เล่นโตจบที่สตอรี่ขององซองอูกับเพื่อนอีกห้าคนกำลังร้องเพลงอย่างเมามัน


    ก็เขาไม่ต้องรู้” หรือที่สุภาพน้อยกว่าเรียกว่าเสือกถอดความโดยเขาเอง พัคจีฮุนไม่ได้พูด


    แล้วใครที่ต้องรู้” คังดาเนียลกระเซ้า


    ถ้าขนาดนี้แล้วเนียลยังต้องถามผมจะพอแล้ว ไปหาใหม่เอาข้างหน้าก็ได้” อีกฝ่ายว่าพลางยักไหล่ ถือคำถามเขาเป็นแค่เรื่องขบขัน ไม่พยายามปั้นหน้าจริงจังด้วยซ้ำ


    พัคจีฮุนดึงดูดผู้คน เขาไม่ได้ลืมความจริงข้อนั้น แต่เขาจะไม่ดูถูกความรู้สึกของอีกคนโดยการอ่อนไหวกับเรื่องไม่เป็นเรื่อง


    มึงไม่ทำอย่างงั้นหรอก” คังดาเนียลยิ้มกริ่ม เขามองเห็นหญิงสาวผมบลอนด์หุ่นบอบบางกับหญิงสาวริมฝีปากชมพูทองท่าทางเย้ายวนที่เขาจำหน้าไม่ได้ยืนคล้องแขนพัคจีฮุนแทนที่จะเป็นเขาหมายถึงเรา คล้องแขนกัน แต่ยังคงเปี่ยมความมั่นใจ 


    คังดาเนียลมีคนตรงหน้าเป็นผู้สนับสนุนหลัก


    เพราะมันทำไม่ได้ง่าย  น่ะสิ เนียลคิดหรอว่าผมชอบเสื้อผ้าสีแสบตาพวกนั้น ไม่เลย ตู้เสื้อผ้าผมเคยมีแค่สีน้ำเงิน เทา แล้วก็ดำ แต่ผมเริ่มซื้อสีอื่นมาเพิ่มเพราะมันทำให้เนียลมองหาได้ง่าย คิดหรอว่าผมแค่บังเอิญไปอยู่ในทุกที่ที่เนียลไป ไม่ ผมไม่ชอบออกจากหอ แต่ผมขุดตัวเองออกมาเพราะเดาได้ว่าจะเจอเนียล คิดหรอว่าผมจะเที่ยวกันจดหมายแปลก  ให้ใครไปทั่ว ก็ไม่อีกนั่นแหละ เรื่องวุ่นวายพวกนั้นผมมองมันเกิดขึ้นได้เฉย  แต่พอมันเกิดขึ้นกับเนียล—” พัคจีฮุนถูกหยุดไว้ก่อนที่จะพูดออกมาจนหมดเปลือก


    รู้แล้ว ทุกอย่างเลย” คังดาเนียลประคองสองข้างแก้มขนาดพอดีอุ้งมือไว้ก่อนจะแนบหน้าผากของพวกเขาเข้าด้วยกัน มองสันจมูกของคนที่หลุบสายตาลงต่ำ พัคจีฮุนดูเหมือนจะเดาได้ว่าเขาจะทำอะไรต่อไป “จูบนะ


    จะขอทุกครั้งเลยรึเปล่าล่ะ” อีกฝ่ายยู่หน้าพร้อมกับประชดประชัน เป็นครั้งแรกที่ได้เห็นพัคจีฮุนหน้าแดงอย่างควบคุมไม่อยู่ เขาอารมณ์ดีจนหัวเราะออกมา


    ก็แค่ครั้งนี้แหละน่า ครั้งแรกครั้งเดียว


    คังดาเนียลแนบริมฝีปากลงไปกับความนุ่มหยุ่นกลิ่นพีช แลกเปลี่ยนสัมผัสเพียงเล็กน้อยแค่ให้ความรู้สึกติดค้างอยู่ที่ปลายลิ้น แต่น่าแปลกที่เขากลับโล่งไปทั้งใจ ความตึงเครียดที่รุมเร้าเหมือนไม่ใช่เรื่องจริง จูบของพัคจีฮุนเยียวยาเขา และเขาชอบความรู้สึกที่กำลังถูกเยียวยา เขาจึงทำมันอีกครั้ง อีกครั้ง และอีกครั้ง


    เนียล พอก่อน” เป็นคำขอที่ยากแต่เขาก็ยอมทำตาม คังดาเนียลคลายมือจากเอวนุ่มนิ่ม แล้วพักศีรษะไว้ที่ไหล่ของอีกคน คิดว่าคงหยุดไม่ได้ถ้าพัคจีฮุนยังเอียงใบหน้าให้เขาจูบที่ลำคอย้ำ  อย่างตามใจอยู่อย่างนี้ 


    คบกันเถอะ” เขาเอ่ยขอและพัคจีฮุนก็ครางรับ ถ้าหัวใจเขาจะต้องเต้นอย่างหนักหน่วงจนอ่อนยวบไร้เรียวแรง คังดาเนียลก็คิดว่ามันคุ้ม เขาได้ทำสิ่งที่อยากทำแล้ว ต่อจากนี้คงเป็นจุดเริ่มต้นจริง  สำหรับความสัมพันธ์ของเราสองคนเสียที




    END

     


     Writer’s Note

    ฟิคหนึ่งปีจบแล้วนะคะ หลัง ๆ เราอ่านนิยายน้อยแล้ว พวกวิธีบรรยายก็มีสับสนบ้าง แต่งไปลบไป แต่เพราะยังมีคนอ่านยังมีเม้นก็เลยดรอปเรื่องนี้ไม่ลง ขอบคุณมากเลยค่ะที่ตามกันมาจนถึงขนาดนี้ 

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×