ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    The Ships Rarely Sail Themselves l DanHoon

    ลำดับตอนที่ #1 : [NielWink] Ghost-free Certificate Service (1/2)

    • อัปเดตล่าสุด 21 ต.ค. 60


    EPISODE 01 
    Ghost-free Certificate Service 

    Part: 1/2
    Pairing: Kang Daniel x Park Jihoon
    Genre: Mystery, Fluffy
    Rate: PG-13



    ว่ากันว่า สิ่งของบางชิ้นจะมีจิตวิญญาณเป็นของตัวเอง หากถูกสร้างขึ้นด้วยความเอาใจใส่ อาคารเก่าแก่ที่เต็มไปด้วยกลิ่นไอของอดีตก็คงไม่ต่างกัน แม้ผู้อาศัยจะเปลี่ยนไปคนแล้วคนเล่า อารมณ์ ความคิด และความรู้สึกของพวกเขาจะยังตกค้างอยู่ในทุกตารางนิ้วของพื้นที่ไม่หายไป


    จริงเหรอ? เอาอะไรมาพิสูจน์กันล่ะ?


    โมเตลที่เขาเลือกมาเยือนกว้างขวางและหรูหราจนเกือบจะเรียกได้ว่าเป็นโฮเตลเสียด้วยซ้ำ ส่วนของล๊อบบี้และห้องนั่งเล่นถูกตกแต่งด้วยเฟอร์นิเจอร์สไตล์วิคตอเรียน คังดาเนียลยื่นหลักฐานการจองห้องพัก ก่อนรับกุญแจห้องมาจากมือที่สั่นน้อย ๆ ของพนักงานต้อนรับร่างผอม สีหน้าประหลาดของอีกฝ่ายทำให้เขาอดไม่ได้ที่จะส่งยิ้มไปให้ แต่ผลที่ได้คือสีหน้าที่แปลกประหลาดยิ่งกว่าเดิม และนั่นทำให้เขาถึงกับหลุดหัวเราะ 


    พอรู้ตัวว่าเพิ่งเสียมารยาทไป คังดาเนียลจึงก้มหัวเล็กน้อยเพื่อขอโทษคนตรงหน้า แต่พนักงานคนนี้ดูจะไม่เห็นเป็นเรื่องใหญ่ อีกฝ่ายทำแค่ผายมืออย่างสุภาพเป็นเชิงบอกทางไปสู่ห้องพัก 


    "ถ้ามีอะไรเกิดขึ้นโทรมาแจ้งได้ตลอดเลยนะครับ" เขาทิ้งท้าย คังดาเนียลเอ่ยขอบคุณเบา ๆ ก่อนจะเดินลึกเข้าไปตามความยาวของโถงทางเดิน 


    ระหว่างทาง เขากวาดสายตาสำรวจภาพวาดพอร์ตเทรตของผู้คนทั้งชายและหญิงในชุดสมัยเก่าที่ถูกแขวนไว้ตามผนัง สีน้ำมันที่เริ่มเลือนรางบ่งบอกอายุของวัตถุได้เป็นอย่างดี พอรวมเข้ากับฝุ่นและหยากไย่ที่ปกคลุมอยู่ตามโคมไฟและของตกแต่งเหมือนไม่รับการดูแลอย่างเหมาะสม ยิ่งเพิ่มความความอึมครึมของบรรยากาศไปอีกเกือบเท่าตัว


    "หืม เหมือนวนกลับมาที่เดิมเลยแฮะ" คังดาเนียลพึมพำกับตัวเอง มือข้างที่ว่างถูกยกขึ้นมาเกาท้ายทอยอย่างทุกครั้งที่เจอกับปัญหา ชะงักอยู่อย่างนั้นครู่หนึ่ง เพื่อทบทวนเส้นทาง จากนั้นก็ผ่อนลมหายใจออกมาเบา ๆ แล้วเริ่มเดินต่อ


    สิบนาทีผ่านไป คังดาเนียลก็ยังพาตัวเองไปไม่ถึงห้องพัก แม้จะไม่อยากยอมรับ แต่เขาวนกลับมาที่เดิมสามรอบแล้ว ชายหนุ่มจำหญิงสาวในภาพวาดด้านขวามือได้ เพราะผมสีน้ำตาลประกายส้มกับชุดแขนพองติดระบายสีรุ้งของเธอค่อนข้างยากที่จะลืม 


    "อีกแค่ครั้งเดียวนะ ถ้ารอบนี้ยังวนมาเจอคุณอีก ผมจะกลับไปที่รถแล้ว" คังดาเนียลพูดกับหญิงสาวตรงหน้าด้วยสีหน้าบึ้งตึง ส่วนเธอก็แค่ส่งรอยยิ้มอย่างคนขี้เกรงใจกลับมาไม่เปลี่ยน ใช่สิ ถ้าหญิงสาวในภาพวาดเริ่มพูดปลอบใจขึ้นมา เขาคงทิ้งแลปท็อปในมือแล้ววิ่งหนีทันที


    ชายหนุ่มก้าวเดินอีกครั้ง คราวนี้เขาจดจ่อกับป้ายโลหะระบุหมายเลขห้องมากขึ้น คังดาเนียลเกลียดอาคารขนาดใหญ่ที่ตกแต่งด้วยเฟอร์นิเจอร์ไม้และผ้าปักลาย กลิ่นปลวกและความอับชื้นทำให้เขารู้สึกไม่เป็นสุข จนต้องเริ่มฮัมเพลงอย่างโง่ ๆ ด้วยทำนองเพลงในโบสถ์ที่จำมาจากเพื่อนสนิท


    เขาเลี้ยวซ้าย แล้วตามด้วยขวา อย่างที่ควรทำถ้าดูตามป้ายเลขที่ห้อง ตรงมาเรื่อย ๆ ผ่านห้องพักอีกสามห้อง และ...


    'L14'


    'ชั้นล็อบบี้ ห้อง L14' มองหมายเลขบนแผ่นป้ายทองเหลือง สลับกับป้ายห้อยกุญแจ เพื่อยืนยันว่าเขามาถึงหัองพักที่จองไว้ในที่สุด


    คังดาเนียลถอนหายใจด้วยความโล่งอก เขาคงเลี้ยวผิดทางที่แยกใดแยกหนึ่งของโถงทางเดินที่ซับซ้อน คิดได้อย่างนั้น ก็เอื้อมมือออกไป แต่ยังแตะไม่ถึงลูกบิด ประตูก็ถูกเปิดออกมาจากด้านในเสียก่อน


    "หลงทางใช่มั้ยล่ะ" ไม่รู้ว่าเขาทำหน้าอย่างไรออกไป หญิงวัยกลางคนในชุดแม่บ้านที่อยู่ด้านหลังประตูถึงได้ขอโทษขอโพยเขาเสียยกใหญ่ ก่อนถามอย่างห่วงใย ไม่ใช่ด้วยประโยคที่แสดงความสงสัย เป็นประโยคทักทายเหมือนคิดอยู่แล้วว่าเหตุการณ์ดังกล่าวจะเกิดขึ้น แต่เขารู้ว่าเธอไม่ได้มีเจตนาร้าย


    "นิดหน่อยครับ" เขาตอบยิ้ม ๆ พยายามสลัดความยุ่งเหยิงที่เริ่มก่อตัวในความคิด


    "ไปได้แล้ว" หญิงวัยกลางคนขยับปากเหมือนยังมีเรื่องที่อยากพูดต่อ แต่ถูกขัดขึ้นด้วยน้ำเสียงเรียบ ๆ ของแม่บ้านอีกคน ถึงเธอพูดจะเพียงแค่นั้น แล้วเดินจากไปอย่างเร่งรีบพร้อมรถเข็นบรรจุอุปกรณ์ทำความสะอาด แต่เขาก็ทันเห็นความกังวลที่ปรากฏขึ้นยามที่เธอเหลือบมองมา มันแฝงไปด้วยบางอย่างที่อธิบายไม่ได้ และเขาไม่คิดว่าเป็นเรื่องดี


    "ถ้าเกิดอะไรขึ้น โทรไปที่ล็อบบี้เลยนะหนุ่ม" ประโยคเดียวกันกับที่ได้รับจากพนักงานต้อนรับเมื่อเกือบยี่สิบนาทีก่อนถูกเอ่ยขึ้นอีกครั้ง เขาแสร้งทำเหมือนไม่ติดใจและพยักหน้ารับอย่างว่าง่าย 


    "แล้วก็ ทั้งปีกซ้ายยังไม่มีใครเข้าพักนอกจากหนุ่มหรอกนะ" เธอเสริมขึ้นมาลอย ๆ หรืออย่างน้อยคังดาเนียลก็บังคับตัวเองให้เชื่ออย่างนั้น กระทั่งไม่กี่ชั่วโมงถัดมานั่นแหละ




    -  Ghost-free Certificate Service  -
    Kang Daniel x Park Jihoon



    ระหว่างที่คังดาเนียลกำลังวุ่นวายอยู่กับการติดตั้งอุปกรณ์ที่จำเป็นในการทำงานที่จะเริ่มขึ้นจริงในวันพรุ่งนี้ เสียงเรียกเข้าก็ดังขึ้น เขาดึงมือถือออกมาจากกระเป๋ากางเกงเพื่อกดรับ ก่อนจะหนีบมันไว้โดยการเอียงใบหน้าแนบกับไหล่ให้มือสองข้างเป็นอิสระ


    "ว่า?" เขาเปิดบทสนทนา


    "ถึงแล้วช่ะ ที่นั่นเป็นไงมั่ง" ประโยคแรกไม่ใช่คำถาม ประโยคที่สองต่างหาก ทักทายกันเพียงเล็กน้อย ปลายสายก็เข้าเรื่องที่ต้องการรู้ทันที


    "ก็ดี" 


    "แค่นั้น?" อีกฝ่ายถามย้ำอีกครั้ง ฟังแค่เสียงก็พอเดาได้ว่าองซองอูกำลังหงุดหงิดอยู่หน่อย ๆ กับคำตอบห้วนสั้นที่ได้รับ


    "อืม" คังดาเนียลละความสนใจจากงานที่กำลังทำ กวาดสายตาไปรอบห้องอีกครั้ง เพื่อคิดหาคำอธิบายที่ดีขึ้น 


    โทนของห้องเป็นสีแดงจากผนังและเฟอร์นิเจอร์ไม้มะฮอกกานีไปกว่าครึ่ง แต่ก็ไม่ได้ทำให้รู้สึกอึดอัด เพราะด้านหนึ่งของผนังเป็นกระจกทั้งบาน กั้นด้วยผ้าม่านสีน้ำเงินเข้ม ซึ่งรูดเก็บไว้ให้เห็นวิวด้านนอก


    โมเตลโดยทั่วไปจะตกแต่งห้องมากสุดเพียงแขวนภาพวาดหนึ่งชิ้น เพื่อให้สะดวกต่อการทำความสะอาด แต่ที่นี่ต่างออกไป แจกันดอกไม้ป่าบนโต๊ะกลมบริเวณมุมห้องด้านขวายังดูสดเหมือนเพิ่งจัดมาเปลี่ยนใหม่ รูปปั้นแกะสลักลายซับซ้อนบนขอบเตาผิงจำลองสำหรับวางฮีทเตอร์ถูกขัดจนขึ้นเงา พรมรองขาเตียงไม่ขึ้นฝุ่นถึงจะกระทืบเท้าลงไปเต็มแรง


    “มึงจะแปลกใจเลยล่ะ กว้าง สะอาด ตกแต่งดี ที่นอนนิ่ม มองเห็นทะเลสาบ แถมบรรยากาศสงบ คงเพราะอยู่ห่างจากถนนหลักด้วยมั้งเลยสงบ สงบมากจริง ๆ หาไม่ได้หรอกสำหรับห้องพักราคาประมาณนี้ อ่อ พรุ่งนี้มีบุฟเฟต์เบรคฟาสท์ด้วย คงต้องออกไปกินสักหน่อยแล้ว"


    "โอเคเลย จะเสริมอะไรอีกมั้ยล่ะครับ รีวิวจนกูอยากจะแพ็คของแล้วตามไปตอนนี้เลยเนี่ย" น้ำเสียงกลั้วหัวเราะถูกส่งกลับมาจากปลายสาย "จำได้ว่ามึงไปทำงานนะ ไม่ใช่ลาพักร้อน"


    "ไม่รู้สิ ครั้งนี้ก็อาจจะทั้งสองอย่าง" คังดาเนียลวางไขควงในมือลงข้างเครื่องมือวัดรูปร่างประหลาดที่ตั้งอยู่ก่อนแล้วบนโต๊ะกาแฟ ตามด้วยมือถือโดยไม่ตัดสาย แต่กดให้เสียงออกทางลาวด์สปีกเกอร์แทน เขาล้วงมือเข้าไปในเป้ที่วางพิงกับโซฟาหนังสีเบจถัดไปไม่ไกลเพื่อหยิบกล้องถ่ายรูปออกมาใช้ 


    "23:30 นาฬิกาของวันที่ 28 ตุลาคม 20xx รายงานการสำรวจพื้นที่ PI0174m ครั้งที่ 1 อุณหภูมิอยู่ในระดับปกติที่ 27 องศาเซลเซียส ไม่พบบริเวณที่มีความกดอากาศต่ำอย่างมีนัยยะ ทั้งนี้ ได้มีการติดตั้งกล้องสอดแนมกระจายอยู่ตามจุดต่าง ๆ ภายในห้องเป็นจำนวนแปดจุด และอีกสองจุดบริเวณระเบียง เพื่อตรวจจับปรากฏการณ์แปลกประหลาดที่อาจเกิดขึ้นต่อไป" 


    "เป็นงานเป็นการ" ทันทีที่กดปุ่มหยุดบันทึก องซองอูที่รอจังหวะอยู่แล้วก็เอ่ยขึ้นมาอย่างล้อเลียน ก่อนจะปรับเสียงให้จริงจังขึ้นในประโยคถัดมา "แต่ถ้าถามนะ ครั้งนี้มึงน่าจะเจอ กูลองอ่านบันทึกของพี่จีซองคร่าว ๆ ละ แหล่งข่าวทุกคนพูดออกมาแนวเดียวกันหมด แล้วไม่ใช่ว่าจะไม่มีมูลด้วย"


    "แบบนั้นฟังดูไม่เลวเท่าไหร่ ถ้าจะเจอก็รีบ ๆ เหอะ จะได้ส่งงานต่อซะที" งานที่เขาทำอยู่คือการตระเวนไปตามอสังหาริมทรัพย์ให้เช่าต่าง ๆ เพื่อตรวจสอบและออกใบรับรองในกรณีที่ที่นั้น ๆ เหมาะ (หรือปรับปรุงจนเหมาะ) สำหรับการพักอาศัย ด้วยเหตุนี้ ถึงเขาจะไม่อยากทิ้งรูนี่กับปีเตอร์ให้อยู่กันลำพังแค่ไหน คังดาเนียลก็ไม่ได้มีตัวเลือกมากนัก นอกจากจะเร่งหาสิ่งผิดปกติให้พบโดยเร็วที่สุด


    "กระตือรือร้นเหลือเกินคุณ ถ้าบอสมาได้ยินคงดีใจจนน้ำตาไหล ขนาดกูยังเกือบจะลุกขึ้นปรบมือให้แล้ว แต่ติดตรงที่คนที่ต้องรับช่วงต่ออาจเป็นกูไง" 


    เพราะจู่ ๆ คนที่เคยถูกจัดเข้าทีมสำรวจนี้อย่างไลควานลินก็เกิดอารมณ์ศิลปินพลุ่งพล่าน ยื่นคำร้องขอลาพักร้อนสิบห้าวันในช่วงนี้ที่งานชุกที่สุดในรอบปี แม้ด้วยเหตุผลง่อย ๆ ว่าอยากหาแรงบันดาลใจ แต่คงเห็นแก่รอยคล้ำใต้ตากับการขยับตัวเอื่อยเฉื่อยอย่างคนไร้เรี่ยวแรง บอสถึงยอมปล่อยให้เจ้าเด็กนั่นเก็บกระเป๋าออกเดินทางสมใจ โดยลืมไปว่าในแผนกที่รับหน้าที่ปรับปรุงพื้นที่ (ในกรณีที่ลูกค้าร้องขอ) เหลือพนักงานอยู่คนเดียว สุดท้ายองซองอูที่เคยประจำแผนกดังกล่าว จึงถูกเรียกให้กลับมารับงานทางนี้ชั่วคราว


    "ก็ว่างมาพักนึงแล้วป่ะวะ จับงานสักทีคงไม่ลำบากเท่าไหร่มั้ง" เขาย้อนถาม ปรับท่านั่งให้สบายขึ้น โดยการเอนตัวพิงไปกับพนักโซฟา สายตาหยุดค้างที่เม็ดคริสตัลที่ห้อยลงมาจากโคมไฟทองเหลืองติดเพดานที่เริ่มเปลี่ยนเป็นสีน้ำตาลคล้ำ เงี่ยหูฟังเสียงลากวัตถุที่น่าจะดังมาจากห้องข้าง ๆ นี่ไม่ใช่เรื่องแปลก เขาเคยชินแล้วที่จะต้องเจอคนจำพวกไม่เกรงใจในทุก ๆ สามถึงสี่ครั้งของการเข้าพัก


    "คือมึงต้องเข้าใจนะ กูไม่ได้ตัวคนเดียวเปล่าเปลี่ยว เหมียว ๆ เล่นกับแมวแบบมึงไง ลองให้กูหายไปสักพักสิ น้องแชยอนต้องเหงาจนทนไม่ไหวแน่" องซองอูพูดด้วยน้ำเสียงแสดงความกังวลที่ฟังดูก็รู้ว่าแกล้งทำ


    คังดาเนียลกรอกตา เขาพ่นลมหายใจออกทางจมูกแรง ๆ อย่างจงใจให้คนในสายได้ยิน "มโนเอาหรอวะ กูว่าน้องเขาคงมีความสุขที่จะหายใจได้สะดวกขึ้นเพราะไม่มีคนไปวอแวมากกว่า" 


    "เพื่อนมึงคนนะครับ ไม่ใช่ก๊าซพิษ" แล้วมันก็เริ่มขึ้น องซองอูมักคาดการณ์ประโยคตอบโต้ของคู่สนทนาไว้ล่วงหน้าเสมอ จึงไม่เคยพลาดจังหวะในการเริ่มมุขตลกไร้สาระเลยสักครั้ง


    "ไม่ นั่นดีไป กูกำลังเปรียบมึงกับลมกำลังแรงชนิดหนึ่งที่มนุษย์มักขับออกสู่อากาศ และบางครั้งก็มาพร้อมกลิ่นอ่ะ พอคิดภาพออกมะ" ในเมื่อเพื่อนของเขาคิดว่าสิ่งที่ทำอยู่มันเป็นอะไรที่คนคูล ๆ เขาทำกัน คังดาเนียลก็ไม่ใจร้ายพอจะเมินเฉยให้อีกฝ่ายเสียความตั้งใจ


    "เนียล! มึง! นี่กูพกศัตรูไว้ใกล้ตัวขนาดนี้เลยหรอวะ แม่กูจะต้องรู้เรื่องนี้แน่บอกไว้เลย ทีนี้คอยดูเอาละกันว่าแมวมึงมันจะหิวแค่ไหนเวลาไม่มีคนหาข้าวหาน้ำให้กิน" องซองอูใช้เสียงดังโวยวายกลับมาอย่างยอมไม่ได้ จนเขาถึงกับต้องดึงมือถือออกมาให้ห่างจากหู


    และทันทีที่ทำอย่างนั้น ก็เหมือนได้ยินเสียงหัวเราะคิกคักแว่วขึ้นมาจากทางด้านหลัง พอเหลียวไปมองก็เห็นเพียงความมืดสะท้อนกลับมาผ่านประตูกระจกเลื่อนที่เปิดออกไปสู่สวนหย่อม ซึ่งนอกจากรูปปั้นเสมือนของเด็กหนุ่มถือคนโทหน้าบ่อน้ำพุ ก็ไม่พบร่องรอยการมีอยู่ของใครที่สามารถส่งเสียงดังกล่าวได้ สองสิ่งที่กำลังเคลื่อนตัวไหวอยู่ด้านนอกขณะนี้ มีเพียงการส่ายไปมาตามกระแสลมของวิสทีเรียที่เลื้อยอยู่ตามร่องอิฐของผนังอาคารกับต้นไซเปรสที่ปลูกไว้ตามแนวรั้วเท่านั้น


    "ซองอู ตอนนี้มึงอยู่กับใครป่ะ" คังดาเนียลหยั่งเชิง ประโยคข่มขู่ก่อนหน้านี้ไม่ได้ทำให้เขาสะทกสะท้าน เขามั่นใจว่ารูนี่ย์กับปีเตอร์จะอยู่อย่างเป็นสุขภายใต้การดูแลของคุณนายองอย่างแน่นอน


    "อยู่คนเดียวที่คอนโดเนี่ย แต่กำลังจะออกละ แจฮวานมันชวนไปคลับเปิดใหม่ย่านแอลอีเอส ถามทำไมวะ" พอถูกถามกลับมาอย่างนั้น บทสนทนาก็ชะงักไปครู่หนึ่ง


    "แค่ถาม" คังดาเนียลไม่รู้ว่าด้วยซ้ำว่าตัวเองกำลังคาดหวังคำตอบแบบไหน จึงตอบไปส่ง ๆ ให้รู้ว่าจะจบประเด็นนี้แค่นี้ และถึงจะคาใจยังไง องซองอูก็ไม่ใช่พวกที่ชอบซักไซ้


    "เออ ๆ งั้นกูวางเลยละกัน มีอะไรก็โทรมา เดี๋ยวคนฮอตอย่างกูจะเคลียร์คิวไว้ให้ อ่อ แล้วก็วิธีรับมือเบื้องต้น ให้ลองใช้การสัมผัสดู ผลลัพธ์แปดสิบเปอร์เซ็นต์โพสิทิฟ แค่นี้แหละ ดี ๆ นะเว้ย อย่าให้ต้องถึงมือกู" สายตัดไปแล้ว เหลือแค่คำแนะนำและความมั่นหน้าที่ถูกทิ้งไว้ คังดาเนียลส่ายหัวให้กับเพื่อนสนิท ถึงคำพูดโอ้อวดขององซองอูจะไม่ได้เกินความจริง แต่เรื่องตลกคือ ความฮอตที่ว่า จะเห็นได้ก็เฉพาะเวลาที่อีกฝ่ายวางท่านิ่งเฉย ซึ่งบอกได้เลยว่าแทบไม่เคยเกิดขึ้น


    งานของเขาในอีกวันหนึ่งที่ยาวนานเป็นพิเศษเสร็จเรียบร้อยแล้ว คังดาเนียลอาบน้ำไปพร้อมกับความรู้สึกติดค้างบางอย่างที่ยังกวนใจไม่หยุดเมื่อก้าวเข้ามาในโมเตลแห่งนี้ ต้องออกจากบ้านตั้งแต่ฟ้ายังไม่สว่างเพื่อขับรถมาให้ถึงที่นี่ตามกำหนด แล้วต้องเดินวนหาห้องอีกร่วมชั่วโมง ทำเอาเขาเหนื่อยจนแทบลืมตาไม่ขึ้น ลมหายใจถูกผ่อนออกหนึ่งครั้ง ปล่อยให้น้ำอุ่นไหลไปตามตัว คิดถึงเตียงที่รออยู่ คืนนี้เขาจะนอนหลับให้เต็มอิ่มชดเชยกับเวลาพักผ่อนที่เสียไป



    TBC
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×