ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    The WAR of The WORLD

    ลำดับตอนที่ #1 : Chapter 1 : War Begin

    • อัปเดตล่าสุด 24 พ.ย. 49


                        กลางปี ค.ศ. 2238 ลัทธิคอมมิวนิสต์ได้หวนกลับสู่โลกอีกครั้งหลังจากที่หายไปกว่าสองร้อยปี  โลกแบ่งออกเป็นสองฝ่าย  คือฝ่ายประชาธิปไตยและฝ่ายคอมมิวนิสต์  สงครามระหว่างทั้งสองฝ่ายเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง  ประชากรโลกนับล้านคนต้องจบชีวิตโดยที่ไม่รู้เรื่องรู้ราวอะไร  แต่นับวันสงครามก็ยิ่งทวีความรุนแรงขึ้นจนบานปลายกลายเป็นสงครามโลกครั้งที่ 5  สงครามครั้งนี้ยืดเยื้อไปกว่าสามสิบปี  แต่ก็ไม่มีทีท่าว่าฝ่ายใดจะแพ้หรือชนะ  เนื่องจากเทคโนโลยีอันทันสมัย  ทหารที่สามารถโคลนออกมาได้อย่างไม่จำกัด  อาวุธยุโธปกรณ์อันล้ำยุค  ซึ่งทั้งสองฝ่ายก็แทบจะกินกันไม่ลง  จนกระทั่งเดือนมกราคมปี ค.ศ. 2270  โลกก็ได้รับความสงบสุขอีกครั้ง  เมื่อฝ่ายประชาธิปไตยสามารถโค่นล้มและขับไล่ฝ่ายคอมมิวนิสต์ได้สำเร็จ  กองกำลังของฝ่ายคอมมิวนิสต์จึงได้ขนย้ายกำลังทหารและเทคโนโลยีหนีออกจากดาวโลกไป  ความสงบสุขได้หวนคืนสู่มวลมนุษยชาติอีกครั้งหนึ่ง...

                        แต่ทว่าความสงบสุขไม่ได้มีตลอดไป  ปลายเดือนสิงหาคมปี ค.ศ. 2327  โลกมนุษย์ตรวจพบกองยานกองมหึมากองหนึ่ง  ซึ่งกำลังเคลื่อนพลผ่านดาวพฤหัสด้วยความรวดเร็ว  เวลาผ่านไปสองวัน  กองยานก็ได้มาหยุดอยู่ที่ดาวอังคาร  และสัญญาณต่างๆก็หายไป...

                        "ฐานปฏิบัติการดาวอังคารเรียกศูนย์ควบคุมโลก  ฐานปฏิบัติการดาวอังคารเรียกศูนย์ควบคุมโลก" 'สตีเวน  บาเบล'  นายทหารควบคุมศูนย์ปฏิบัติการบนดาวอังคารกำลังส่งสัญญาณขอความช่วยเหลือจากโลก  แต่สิ่งที่ได้รับกลับมาคือความเงียบสนิท  "ให้ตายสิ  พวกเราติดต่อโลกไม่ได้เลย" สตีเวนสบถออกมา
                        "แล้วผมก็อยากจะบอกด้วยว่าป้อมของเรานั้นก็หนักเอาการแล้ว  ไหนจะกำลังพลที่ลดลงเรื่อยๆอีก" 'จอร์จ  ลูแปง' นายทหารอีกคนหนึ่งกล่าว
                        "นั่นสิ  ผมว่าเราคงต้องรีบหนีและทิ้งฐานที่ดาวอังคารแล้วล่ะ" สตีเวนบอกกับจอร์จ "แต่ว่าประชาชนที่อยู่ที่นี่น่ะสิ" เขาพูดต่อพร้อมด้วยสายตาที่ครุ่นคิด
                        "นั่นน่ะสิ  ประชาชนอาจจะต้องตาย" จอร์จกล่าว "แต่ถ้าเราไม่รีบไปแจ้งข่าวให้โลกรู้  เราจะไม่เหลือใครให้ปกป้องอีก" จอร์จพูดต่อด้วยสีหน้าอันเคร่งเครียด
                        "ตกลง  สั่งทหารย้ายขึ้นยาน  ขนไปเฉพาะสิ่งที่จำเป็น  เราจะกลับโลกกัน" สตีเวนหันไปสั่งกับนายทหารอีกคนที่ยืนอยู่ตรงประตู  ทหารคนนั้นจึงรีบวิ่งออกไปบอกกับทหารคนอื่นทันที "
    ขอให้พระเจ้าคุ้มครองเถอะ" เขาก้มหน้าพูด

                        เวลาผ่านไป 5 นาที  กำแพงด้านนอกของป้อมนั้นทรุดโทรมเต็มที่  และอาจจะทนรับการโจมตีได้อีกประมาณ 10 นาทีหรือน้อยกว่านั้น  ป้อมแกรนด์ฟอร์เทรสที่แข็งแกร่งที่สุดบนดาวอังคารกำลังจะถูกตีแตก  ขีปนาวุธจากยานไม่ปรากฏสัญชาติได้ยิงโหมกระหน่ำใส่ป้อมไม่ขาดสาย  ไหนเลยจะขีปนาวุธเจาะเกราะที่ยิงเข้ามาทีกำแพงก็แทบจะถล่ม  คงไม่ต้องพูดถึงอาวุธอีกนับสิบนับร้อยชนิดที่ถาโถมโจมตีใส่แกรนด์ฟอร์เทรสแห่งนี้มากว่าห้าชั่วโมงแล้ว

                        "เอาล่ะทหาร  รีบเร่งมือเข้า  เราไม่มีเวลาแล้ว  เราต้องสละป้อม!!!" 'แจ็กสัน  เบิร์น' นายทหารระดับสูงคนหนึ่งในป้อมออกคำสั่งสั่งทหารคนอื่นไม่ขาดสาย "เอาล่ะ  นักบินเตรียมยานให้พร้อมบินได้ทุกเมื่อ  อย่าลืมยิงปืนเบิกทางด้วย" เขาสั่งต่อ

                        ผ่านไปสัก 2 นาที  ทหารทุกคนก็เข้าที่  ปืนไอออนถูกยิงเบิกทางไม่ขาดสาย  ยานขนส่ง 'BlackBox' รุ่น A239 จำนวนห้าลำเหินทะยานขึ้นฟ้าด้วยความเร็วสูง  พาเอาสิ่งต่างๆในยานสั่นไหวไปตามๆ  ยานรบขับไล่ประมาณสามสิบลำบินคุ้มกันอยู่ด้านนอก    เป็นอย่างที่ทุกคนคาดคิด  ศัตรูไม่ปรากฏสัญชาติส่งยานขับไล่พร้อมกับขีปนาวุธนำวิธีมาอำลา  ยานขับไล่ของโลกทำงานกันอย่างหนักหน่วง  ถึงขนาดที่ว่าต้องสู้รบแบบ 3 ต่อ 1 ไหนเลยจะต้องป้องกันขีปนาวุธที่ถูกส่งมาอำลาอีก

                        สงครามกลางเวหาล่วงเลยมาจนถึงอวกาศ  จนหลุดออกรัศมีแรงดึงดูอของดวงจันทร์  พวกมันจึงเลิกตามตื้อ  แต่ทว่ายานของโลกนั้นเหลือเพียง BlackBox A239 เพียงลำเดียว  ซ้ำยังอยู่ในสภาพที่ทรุดโทรมเต็มทีจนไม่รู้ว่าจะรอดจากการระเบิดในระหว่างที่เข้าชั้นบรรยากาศของโลกหรือเปล่า  ส่วนทางยานขับไล่ก็เหลือเพียง Eagle S-365 เพียงสามลำ  ซึ่งสภาพนั้นก็พอๆกับ BlackBox แต่จะดูดีกว่านิดหน่อยแค่นั้นเอง

    ย้อนกลับมาที่ดาวอังคาร  หลังจากที่กองกำลังไม่ปรากฏสัญชาติได้ทำการยึดดาวเรียบร้อยแล้ว

                        "เอาล่ะสมิธ  ผมคิดว่าตอนนี้เราน่าจะออนไลน์ได้แล้วนะ" 'อดัม  โบนเนอร์' บอกกับทหารช่าง
                        "ครับ  ทำการออนไลน์กับโลกเรียบร้อยแล้วครับ" ทหารช่างตอบกลับมา
                        "ดี...  ดีมาก  หึหึหึ" อดัมพูดพร้อมกับหัวเราะออกมาเบาๆ

    ทางศูนย์ควบคุมบนโลก

                        "ตอนนี้เราออนไลน์กับศูนย์ปฏิบัติการดาวอังคารแล้วครับ" พนักงานรายงานกับหัวหน้าของเขา "เอ่อท่านครับ  มีข้อความส่งเข้ามาครับ" เขาพูดต่อ
                        "ขึ้นจอภาพเลย" 'แจ็ค  สตีโบน' บอกกับพนักงานคนดังกล่าว 

                        ไม่นาน  ภาพที่ถูกส่งเข้ามาก็ปรากฏขึ้นจอภาพ  สิ่งที่ปรากฏทำให้ทุกคนต้องตกกตะลึงไปพักใหญ่   เนื่องจากภาพเหล่านั้นคือสภาพของดาวอังคารที่ถูกถล่มจนย่อยยับ  ภาพถูกแพนไปที่ป้อมแกรนด์ฟอร์เทรส  สภายของมันนั้นดูจะหนักกว่าอย่างอื่นด้วยซ้ำ  ดูท่าทางแล้วเหมือนจะไม่มีใครรอดชีวิต  สักครู่  ภาพก็ถูกแพนมาที่ใบหน้าขอองคนคนหนึ่ง  ใบหน้าที่ทุกคนบนโลกจำกันได้ดี  บุคคลที่จารึกอยู่ในประวัติศาสตร์ "อดัม  โบนเนอร์" ผู้นำกองทัพคอมมิวนิสต์ในปี 2238  แต่ว่าเขาไม่ได้ดูแก่ลงไปเลย

                        "อึ้งกันอยู่ล่ะสิ  พวกประชาธิปไตยน่าโง่" เขาทักทายฝ่ายประชาธิปไตยด้วยคำที่เขาเคยใช้ในปี 2238 ไม่มีผิด "คงสงสัยล่ะสิ  ทำไมผมถึงไม่เปลี่ยนไปจากในตำราวิชาประวัติศาสตร์ของพวกคุณเลย" อดัมพูดพลางมองแขนขาตัวเอง "โอเค  ผมจะบอกให้  ผมโคลนตัวเองขึ้นมา  แล้วก็เปลี่ยนเอาสมอองของผมสู่ร่างโคลน  แค่นั้นเอง" เขาตอบออกมาในขณะที่ทุกๆคนกำลังอึ้ง "ผมจะไม่พูดพร่ำทำเพลงนะ  ผมจะบอกกับพวกคุณทุกๆคนว่า  โลกจะต้องถูกปกครองด้วยระบอบคอมมิวนิสต์ออีกครั้ง" เขาพูดพร้อมกับรอยยิ้มอันน่ากลัว  พลัน  ภาพก็ตัดขาดหายไป
                        "การนองเลือดกำลังจะได้เริ่มอีกครั้ง  เราคงจะอยู่เฉยกันไม่ได้แล้ว..." แจ็คพูดด้วยน้ำเสียงอันเศร้าหมอง  ก่อนที่จะเดินออกไป...

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×