คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #8 : In My Zone || JinMark
In My Zone
Pairing : Park Jinyoung x Mark Tuan x Junior
Rate : ......
Bg song: In My Zone : https://www.youtube.com/watch?v=9PJOpGxufMs
Author : wssw2801 (I AM)
Note: เปิดเพลงไปด้วยจะดีงามนะเคอะ
“เลขามาร์คน่ะ…เท่มากๆเลย”
เสียงแหลมๆของหญิงสาวคนหนึ่ง
“หล่อก็หล่อ ทำงานก็เก่ง ได้ข่าวว่ามาจากแอลเอด้วยนะ”
เสียงจากหญิงสาวคนที่สองดังขึ้น
“เหอะ ถ้าคุณรู้ว่าเลขานั่นเป็นอะไร คุณไม่มานั่งเยินยอมันแบบนี้หรอก”
คราวนี้เป็นเสียงผู้ชาย เสียงอิจฉาริษยาแบบนั้นมันน่าขำนะ…เลขายู
“คุณไม่รู้หรือ…เลขามาร์ค…เป็นเกย์”
In My Zone
น่ารำคาญ
จากเสียงนกกระจอกกลายเป็นความเงียบที่เบากว่าเสียงหายใจ หน้าตาหลุกหลิกกับประชากรเลขาขี้นินทาที่ดูจะขยันจัดตารางงานของเจ้านายเป็นพิเศษ หากจะสังเกตสักนิด ลองดูสีหน้าจอที่สะท้อนอยู่บนหน้าของพวกเธอสิ สีชมพูประจำเครื่องสำอางแบรนด์ดังประจำเกาหลีเด่นหราอยู่บนหน้ามันๆของพวกเธอ
สงสัยโปรแกรมจัดตารางงานของเจ้านายเปลี่ยนเซอร์เฟสจากสีขาวเป็นสีชมพู
ร่างโปร่งเจ้าของชื่อที่ทุกคนเรียกกัน “เลขามาร์ค” นั่งลงอย่างสงบโดยไม่ทักทายใคร ความเงียบของมาร์คเป็นเสน่ห์อย่างหนึ่งที่ทำให้พวกผู้หญิงมอง ถึงแม้เขาจะไม่ได้ใส่ใจกับความสนใจจากผู้หญิงก็ตาม แต่มันก็ทำให้สะใจได้ไม่มากก็น้อยเวลาผู้ชายปากมากที่นั่งตรงข้ามขยับตัวอ้วนพลุ้ยด้วยความอิจฉา
หรืออึดอัดจากกางเกงที่รัดแน่นจนปริแบบนั้นก็ไม่ทราบได้
มาร์คเกลียดห้องทำงานเลขาแบบรวมมากกว่าชอบ เหตุการณ์เมื่อไม่กี่นาทีที่ผ่านมาเป็นตัวอย่างที่ดี เขาออกไปหาเจ้านายแค่เสี้ยววิก่อนที่จะนึกได้ว่าตนลืมโทรศัพท์มือถือจึงเดินเข้ามาอีกครั้ง ช่วงเวลาเพียงแค่นั้นก็ทำให้มนุษย์สองสามคนเริ่มเลื่อนเก้าอีเข้ามาหากันได้อย่างรวดเร็ว
ทันทีที่นั่งลง เสียงเล็กๆของหญิงสาวสองคนก็ดังขึ้นอีกครั้ง
“ถึงว่า เค้าว่ากันว่าเห็นนายนี่ยืนจูบกับกอดจูบกับผู้ชายด้วยกันตรงมุมถนนนี่เอง”
“ไม่ใช่แค่คนเดียวนะ บางวันก็มีคนเห็นเขาโรงแรมไปกับผู้ชายอีกสองคน แหวะ”
“จริงหรือ น่าเกลียดเสียจริง”
“น่าเสียดาย ฉันกำลังจะชอบเขาอยู่แล้วเชียว ถ้าไม่เป็นโฮโมน่ารังเกี---”
“อ้อ…คุณกำลังจะชอบผมหรือครับ”
ไฟสีส้มสาดส่อง หยอกล้อกับเปลวเพลิงในหัวใจที่เต้นระบำ แขนขาของมันขยับพลิ้ว คืบคลานไปทั่วร่างกายของใครบางคนที่กำลังโกรธจัด
มาร์คขนลุกซู่ ความโกรธแล่นริ้วเหมือนเปลวเพลิงลุกช่วง เขากำลังโดนรุกล้ำพื้นที่ส่วนตัว โซนสีแดงที่มีตัวเขาคนเดียวที่เป็นเจ้าของเท่านั้น มันก็เป็นสิทธิ์ของเขาที่จะตัดสินใจว่าเขาจะมีความชอบแบบไหน รวมถึงความผิดถูกของมันที่จะถูกบ่งชี้โดยตัวเขาเอง
ยกตัวอย่างเช่นความสัมพันธ์แบบ One Night Stand กับผู้ชายที่ถูกใจ
หากฝนตก หยาดน้ำต้องไหลริน ไม่ใช่ผลักไสให้มันย้อนกลับขึ้นฟ้า
อะไรคือสิ่งที่เรียกว่าผิด อะไรคือสิ่งที่เรียกว่าถูก ถ้ามันเป็นสิ่งที่ทุกคนทำกันอยู่เป็นประจำ ความเคยชินจะทำให้สิ่งเหล่านั้นเป็นสิ่งที่ถูกต้อง หากใครคนหนึ่งจะแตกต่างเล่า ไม่ว่าจะถูกหรือผิด อย่างน้อยใครคนนั้นก็ต้องโดนเพ่งเล็งพร้อมด้วยความรู้สึกผิดที่ผิดทางและไม่มีที่ยืนที่เกิดขึ้นภายในชั่วพริบตา
“คุณมีอะไร…ให้ผมรู้สึกยินดีที่คุณจะชอบ” มาร์คเหยียดขา ยกเท้าขึ้นวางบนโต๊ะไม่ต่างจากที่เจ้านายชอบทำ ทั้งสองมือประสานไว้ที่ท้ายทอย ท่าทีสบายใจของเขากลับไม่ได้เพิ่มบรรยากาศที่ดีในห้อง หากเป็นเสียงลมหายใจติดขัดของหญิงสาวด้านหลังที่เขาไม่แม้แต่จะหันไปมองหน้า
เธอคงจะได้รู้ว่าหน้าของเธอเขายังไม่อยากจะมอง นับประสาอะไรที่จะรู้สึกยินดีที่เธอมาชื่นชอบ
“อย่างเดียว…ผมชอบความพยายามในการปลดกระดุมเสื้อเม็ดบนก่อนที่จะเข้าไปหาเจ้านายของคุณ…”
“ถึงมันจะน่าสมเพชไปหน่อย…แต่ก็ให้คะแนนความพยายามหนึ่งคะแนน”
“…แต่ความสร้างสรรค์เป็นศูนย์”
น่าหัวเราะที่ได้ยินเสียงกลืนน้ำลาย ลมหายใจติดขัดของหญิงสาวที่ทำอะไรไม่ได้แม้แต่จะเดินออกจากห้องเพราะเขานั่งอยู่ หากจะต้องเดินผ่านกันคงจะสนุกไม่น้อย มาร์คเหลือบตาไปเห็นโทรศัพท์มือถือ นึกได้ว่าต้องเดินกลับไปหาประธานปาร์ค เจ้านายที่อนุมัติการลาออกอย่างไม่มีข้อแม้ ถึงท่านจะพยายามรั้งเลขาฝีมือดี เก็บรายละเอียดได้แม้กระทั้งรสนิยมการใช้ถุงยางของเจ้านาย
อย่างไรท่านเป็นผู้ใหญ่มากพอที่จะเข้าใจถึงสังคมการทำงานบิดเบี้ยวที่เขาต้องทนมานาน เหตุการณ์ครั้งนี้ไม่ใช่ครั้งแรกที่เขาเจอ เพียงแต่ครั้งนี้มันบังเอิญจี้จุดแรงก็เท่านั้นเอง
ไหนๆก็จะลาออกอยู่แล้ว ท่านประธานคงต้องรออีกสักหน่อย
“คุณล่ะ เลขายู ข่าวดีที่ผมจะบอกคุณคือผมกำลังจะลาออก”
“คงเป็นโอกาสดีที่คุณจะเข้าไปประจบท่านประธานปาร์คพ่อของเจ้านายสุดหงิมที่ตำแหน่งไม่ขึ้นสักทีของคุณ” น่าสงสารที่เลขายูเผชิญหน้ากับเขาโดยตรง นิ้วยาวเรียวสางผมสีเงินช้าๆ ช่วยผ่อนคลายความเครียดบนใบหน้าอวบอูมอย่างถือดี “ฝากบอกเจ้านายคุณด้วยล่ะ ว่าเลขาดีๆแบบเลขายูหาไม่ได้ง่ายๆนา…”
เขาเอาขาลง เตรียมพร้อมสำหรับการจากลา เขาไม่ได้บอกใครว่าจะมาทำงานในที่แห่งนี้เป็นวันสุดท้าย ข้าวของแทบไม่ต้องเก็บเพราะตอนมาก็มาตัวเปล่า ไม่มีอะไรที่ต้องเก็บไปรวมถึงความทรงจำ ยกเว้นจะทิ้งทวนคำบอกรักเพื่อนเลขาสุดแสนจะสนิทเสียจนน้ำตาไหลริน
“เด็กผู้ชาย…” เขาเน้นเสียงให้เหล่าเลขาเกือบสิบในห้องได้ยิน “ที่คุณตามจีบจนมีรูปในกระเป๋าเงิน…” อีกหนึ่งก้าวที่มาร์คจะถึงโต๊ะทำงานของเลขายู เม็ดเหงื่อผุดซึม ฝ่ามืออวบอูมกำแน่นด้วยความโกรธ
เขาหัวเราะ ก้มลงกระซิบอย่างปราณี
“เสียงครางเพราะดีนะครับ…”
เขาจากลาโดยไม่ลืมจะชูนิ้วที่ยาวที่สุดของมือขึ้นมา
นอยซ์เบสเมนท์ย่านกังนัมคนเยอะเหมือนทุกวัน
อณูความเครียดค่อยๆไหลออกไปเมื่อได้ยินเสียงเพลงอิเล็กโทร สักพักอเมริกันฮิปฮอบก็ดึงให้เขาลุกขึ้นมาเต้นได้ ผู้คนเริ่มเข้ามาเบียดเสียด ทั้งหนุ่มน้อยหน้าหวานหรือหนุ่มใหญ่กล้ามโตเข้าประชิดตัวหนุ่มหล่อร่างโปร่งในเสื้อเชิ้ตสีดำสนิทที่ดูจะเคลิ้มเพราะใบหน้าแดงก่ำ ดวงตาคมประกายกล้าพร้อมแรงดึงดูดสร้างความตื่นเร้าได้ไม่น้อย
อะดรีนาลีนในร่างกายหลั่งริน แอลกอฮอล์ถูกส่งมาให้ไม่ขาดสาย เขาผ่อนคลายแต่รู้สึกขาดหาย คล้ายเชือกตึงที่ยังหย่อนไม่สุดเพราะมีบางอย่างดึงรั้ง
ใช่ ยังขาดคนที่จะไปกับเขาในคืนนี้
ได้ทั้งนั้น
คำว่าได้ทั้งนั้นของเขาไม่ได้หมายถึงชายหรือหญิงที่ได้ทั้งนั้น
โพสิชันสิที่เปิดกว้าง
เพราะสาขานี้อยู่ในย่านที่ถือได้ว่าเป็นย่านหรูหรา ฉะนั้นเขากรองคนได้ในระดับหนึ่งก่อนที่จะเดินออกจากร้านไปด้วยกัน วัยรุ่นพวกนี้ระวังตัวดีพอๆกัน เมื่อทุกอย่างจบลงในวันรุ่งขึ้นก็ไม่มีการวุ่นวายกันอีกโดยเฉพาะเรื่องเงินที่ตัดออกไปได้เลยในย่านนี้ พูดง่ายๆคือจบแล้วจบกัน สบายตัว
แต่วันนี้มาร์คยังไม่เจอคนถูกใจ
“ขอบคุณที่ชมผมว่าหงิมนะ…คุณเลขา”
มาร์คสะดุ้งเพราะความเย็นจากขวดเบียร์แนบเข้าที่แก้ม ตกใจเพราะไม่คิดว่าจะเห็นก้นสวยๆของปาร์คจินยอง ลูกชายของเจ้านายเก่าอยู่ในสถานที่แบบนี้ แว่นตากรอบเหลี่ยมยังคงอยู่บนใบหน้าได้รูปไม่ต่างจากรูปโง่ๆที่แปะในห้องทำงานรวมของเลขา ต่างที่เส้นผมสีดำขลับถูกเซ็ทขึ้นเปิดโครงหน้าสว่าง สูทสีดำถูกถอดออกไป เหลือแต่เชิ้ตขาวสะอาดพร้อมกับเนคไทที่ถูกคลายออกเล็กน้อย
กล้ามเนื้อเขาตึงเครียด
แต่สิ่งหนึ่งที่ทำให้เขาแปลกใจ…เขาไม่รู้ว่าประธานปาร์คมีลูกแฝด
“ผมชื่อจูเนียร์” ช่างเป็นฝาแฝดที่เหมือนกันราวกับแกะ แต่บุคลิกต่างกันราวกับฟ้ากับเหว จูเนียร์ไม่ได้ทำให้คนทั่วไปหัวใจระทวยเหมือนจินยองคนเป็นพี่ แต่บุคคลทำให้หัวใจเต้นแรงเพราะริมฝีปากที่ดูยั่วเย้าแถมเอาแต่ใจเป็นพิเศษ ดวงหน้าที่ดูหวานกว่าเล็กน้อยและท่าทางการสบตากันทำให้มาร์ครู้ทันทีว่าสองฝาแฝดนี้มีอะไรเป็นสิ่งสุดท้ายที่ต่างกัน
ฝ่ามือหยาบกร้านของคนพี่สัมผัสเข้าที่ไหล่ เขาหันไปสบตากับคนที่ไม่เคยแม้แต่จะเจอหน้ากันเพราะเจ้าตัวเอาแต่หมกอยู่ในห้องทำงาน หากเพียงได้เห็นตัวจริง มาร์คคงรู้เสียนานแล้วว่าดวงตาคู่นี้ทำให้ตัวตนตื่นเร้าแค่ไหน
ไม่ต่างจากคนเป็นน้องที่มีดวงตาชุ่มฉ่ำเหมือนหยาดน้ำสดใส มือที่ดูสะอาดสะอ้าน ไม่ได้ทำงานเยอะเหมือนพี่ชายเข้าสัมผัสที่หลังมือ รอยยิ้มสื่อความนัยของสองพี่น้องตัวร้ายทำให้เขาเผลอขำเพราะนึกถึงคำพูดที่เหล่าเลขาพากันพูดที่ทำงาน
ไม่ใช่แค่คนเดียวนะ
หากแต่วันนั้นเขาแค่ไปกินเที่ยวกับเพื่อนที่มาจากแอลเอเท่านั้น
ถ้าวันนี้เขาจะลองตามที่เลขาสาวคนนั้นบอก คงไม่มีอะไรเสียหาย
ไม่มีอะไรทำให้เขาตื่นตัวได้มากเท่ากับการทำอยู่กับคนน้องแล้วคนพี่เพียงแค่นั่งสูบบุหรี่รอ โซฟาสีครีมที่เจ้าตัวลากมานั่งชมการแสดงดูคับไปถนัดตา ดวงหน้านิ่งไร้รอยยิ้มยิ่งทำให้เลือดในกายเดือดพล่าน กลิ่นน้ำหอมอ่อนๆที่ลอยมาเมื่อเจ้าตัวถอดเสื้อสูทออกพาดกับพนักพิง
เขาจ้องตากับปาร์คจินยองเสียนาน จนกระทั่งคนน้องที่ชื่อจูเนียร์จับใบหน้าเขาให้เข้าไปรับจูบร้อนแรงที่เจ้าตัวตั้งใจมอบให้ เสื้อเชิ้ตสีดำของเขาถูกถอดออกเชื่องช้าระหว่างที่สบตากัน ตัวตนเขาถูกปลดปล่อยเมื่อริมฝีปากที่บวมเจ่อจากการที่ถูกเขาขบกัดเมื่อครู่กำลังปลดซิปให้อย่างชำนาญ
มาร์คเหลือบมองคนที่นั่งสูบบุหรี่อย่างใจเย็น อดคิดไม่ได้ว่าน้องร้อนแรงขนาดนี้ แล้วคนพี่จะขนาดไหน
เพราะวันนี้ถูกคำพูดร้ายแรงทำร้ายจิตใจ ความโศกเศร้าที่หลบซ่อนอยู่กำลังแสดงตัวผ่านทางสีหน้าและแววตาขณะที่เขาฝังกายลงในความอ่อนนุ่ม ลำตัวขาวบิดไปมาอย่างรู้งานว่าต้องทำท่าแบบไหนคู่นอนถึงจะตื่นตัว แต่มาร์คอยากให้มีคนเอาใจมากกว่าการต้องเอาใจใคร
เพียงแต่การ One Night Stand ไม่ใช่การมาบอกเหตุผลกัน ต่างมาปลดปล่อยอารมณ์โดยใช้ร่างกายของอีกฝ่ายเพียงเท่านั้น มาร์คจึงเก็บความต้องการไว้อย่างเงียบงัน
หากมาร์ครู้ตัว คงจะรู้ว่ากี่ครั้งแล้วที่เขามองปาร์คจินยองที่นั่งเฉยๆอย่างใจเย็นมากกว่าจูเนียร์ที่ครวญครางเป็นชื่อเขาด้วยความสุขสมเมื่อถึงจุด ร่างโปร่งฟุบตัวลงบนลำตัวชื่นเหงื่อ เสียงหอบหายใจกระเส่าดังอยู่ข้างหูสักพักก่อนที่ลมหายใจจะกลับไปเป็นปกติ
เพราะจูเนียร์จะไปต่อที่อื่น
เวลาของปาร์คจินยองจึงมาถึง
จินยองค่อยๆลุก แค่หนึ่งก้าวจากเก้าอี้ถึงเตียงกลับนานกว่าที่คิดเมื่ออีกคนเป็นคนพี่ มาร์คนอนคว่ำ พลิกหน้าสบตากับคนที่กำลังเดินเข้ามาช้าๆพร้อมกับเชิ้ตขาวที่ถูกถอดออกไป ร้อนวูบเมื่อเห็นร่างกายสมส่วนต่างจากคนน้อง สายตาเหมือนเสือล่าเหยื่อทำให้มาร์คตัวสั่นอย่างห้ามไม่ได้ การรออย่างใจเย็นของจินยองไม่ได้ทำให้มาร์คเบื่อ แต่ทำให้หัวใจเต้นแรงเหมือนจะระเบิด
แม้เวลาที่เขาฝังตัวลงร่างข้างใต้ แต่กลับสบตากับคนที่นั่งรอ
ร่างของมาร์คถูกพลิกหงาย ร่างที่ใหญ่กว้าทาบทับลงเบาๆ ฝ่ามือกร้านลูบเข้าที่ข้างแก้มแผ่วเบา เขาหลุบตา ปิดการรับรู้จากเสียงของหัวใจที่กระหน่ำรัว แต่เพียงแค่หลับตานั้นไม่เกี่ยวกับการรับฟังเพราะรอยยิ้มน้อยๆของจินยองทำให้มาร์ครู้ว่าอีกฝ่ายได้ยิน
จินยองลอบยิ้มให้แก้มแดงริ้ว ความเหนื่อยล้าในดวงตาและสีหน้ายามเคลื่อนกายไม่เลือนหายไปจากความทรงจำ เขาปล่อยให้เลขาคนเก่งของพ่อเพลิดเพลินไปกับการปลดปลดจอมปลอมที่เจ้าตัวคิดว่าจะสามารถคลายความเครียดหนักหนาที่มาร์คพบเจอมาได้
ทำไมจินยองถึงจะไม่รุ้ ในเมื่อเรื่องราวเหล่านี้ออกมาจากปากพ่อของเขาเอง
คนที่ได้รับความโหดร้ายจากคนรอบตัวต้องการการปลอบใจ ไม่ใช่การเป็นผู้ควบคุม
เพราะเขารู้ เขาถึงเอาใจ
“อยากทำอะไร” จินยองกระซิบชิดริมฝีปากบาง ก่อนจะบดเบียดกลีบปากลงแนบแน่น อีกฝ่ายเปิดรับเขาอย่างไม่อิดออด ปล่อยให้เขาไล่ชิมทั่วริมฝีปาก ขบกัดเล็กน้อยก่อนไล้เรียงชิมตามแนวฟันขาวสะอาด ลิ้นร้อนเข้าเกี่ยวกระหวัดดูดดื่มจนสมองขาวโพลน
ไม่รู้เวลาว่าผ่านไปกี่นาที กี่วินาที รู้ตัวอีกทีเรียวขายาวก็เปิดอ้า รองรับสะโพกแข็งแรงเข้าให้แล้ว
“ต้องใส่มั้ย” จินยองรั้งกายจากปลายเท้าขาวที่กดสะโพกสอบให้ฝังกาย กระซิบถามข้างลำคอชุ่มเหงื่อถึงอุปกรณ์สีใสประจำตัว เสียงแหบพร่าครางฮือ กระซิบด้วยความเร่งรีบ “ไม่ต้อง…ไม่ทันแล้ว…”
“ทำให้หน่อย…เร็ว”
มาร์คหอบหายใจเพราะความคับเมื่ออีกฝ่ายทำตามที่เขาพูดทุกประโยค เรียวขาขาวกระหวัดที่สะโพกสอบ กลีบเนื้อด้านหลังแหวกอ้า ตัวตนเข้าฝากฝังฝืดเคืองและเชื่องช้า
จากครึ่งทาง…จนสุดทาง…
เนื้อขาวเนียนบริเวณต้นขาถูไถกับกล้ามเนื้อตึงแน่นด้านนอก เกร็งตัวหุบเข้าเมื่อความร้อนผ่าวเข้าลึกถึงจุด อ้าออกกว้างเมื่อต้องการให้อีกฝ่ายขยับที่รัว
ร่างของจินยองร้อนผ่าว การเป็นผู้กระทำของมาร์คยั่วยวนน้อยกว่าการเป็นผู้ถูกกระทำนัก ปลายผมสีอ่อนเปียกชื้น แนบลู่ไปตามโครงหน้าเล็กได้สัดส่วน ดวงตาฉ่ำน้ำดึงดูดให้เขาเคลื่อนหน้าเข้าใกล้ สูดดมกลิ่นเหงื่อปนกลิ่นน้ำหอม ปล่อยให้ลมหายใจร้อนจากริมฝีปากเผยอค้างเพราะความตึงแน่นรินรดลงใบหน้า เสียงครางต่ำเร้าอารมณ์กรีดลงจิตวิญญาณได้มากกว่าเสียงแหลมสูง ร่างกายเขากรีดร้อง ด่านล้างปวดหนึบจนคำรามก้อง ขบกัดลำคอแดงเรื่อเมื่อโพรงนุ่มบีบรัดแน่นจนแทบหายใจไม่ออก
เอวบางชุ่มเหงื่อแดงเรื่อเพราะถูกมือใหญ่บีบรัด อารมณ์ที่เข้าใกล้ฝั่งเพิ่มความรุนแรง จินยองขยับกายถี่รัวใส่ตำแหน่งที่ทำให้มาร์คร้องดังที่สุด สองมือทาบทับลงบนใบหน้าได้รูปของกันและกัน ปลายเล็บจิกทึ้งลงบนผมดำขลับเมื่อหวีดร้อง ร่างกายกระตุกรัวเมื่อถึงจุดอย่างรุนแรง
สรรพเสียงหายไปชั่วขณะก่อนที่เสียงหอบหายใจจะเข้าแทนที่ ร่างโปร่งเกร็งตัวในอ้อมกอดที่ใหญ่กว่า มือเรียวลูบผมดำขลับ เลื่อนลงแผ่นหลังตึงแน่น ยิ้มบางเบาอย่างเลื่อนลอย หยาดน้ำใสกลิ้งลงจากหางตา ปลดปล่อยความเครียดออกมาเป็นความอ่อนล้า
จินยองผละออก
เขาจูบลารสรักรสใหม่เป็นครั้งสุดท้ายเมื่อ one night stand กำลังจะหมดลง
จูบที่ไม่เคยให้ใครมาก่อนถึงแม้จะไม่ใช่จูบแรงของอีกฝ่ายก็ตามที
หากเปลวเพลิงจะมอดไหม้ เขาก็คงต้องปล่อยให้มันลุกลาม
--------------------
มาร์คหงุดหงิดอีกครั้ง
หงุดหงิดที่ตัวเองมาสัมภาษณ์งานแล้วจิตใจยังคงฟุ้งซ่านถึงใครบางคน ปฏิเสธไม่ได้ว่ามัวแต่นึกถึงค่ำคืนที่ลูกชายเจ้านายเก่าขยับกายรุนแรงอยู่บนร่าง ร้องเสียงดังก้องจนแหบพร่าในรุ่งเช้า หากแต่ตื่นมา แทนที่จะพบกับคนที่มอบความสุขให้ แต่กลับพบเพียงความว่างเปล่าและคราบขาวที่เป็นหลักฐานของกิจกรรมเมื่อคืน
ผ่านมาหลายเดือน แต่ความทรงจำยังคงฝังชัดและคอยแต่จะเรียกขึ้นมาฉายอย่างเด่นชัดทุกคืน บางครั้งอาการก็หนักจนไม่สามารถไปทำกับใครได้ที่ไหน แต่เขากลับมาใช้มือของตัวเองขณะที่จินตนาการถึงดวงตาลึกล้ำในแว่นกรอบใสและใบหน้าได้รูปของปาร์คจินยอง
มาร์คนั่งรอเจ้านายมาสัมภาษณ์ แต่กลับมาคิดเรื่องช่วยตัวเอง
“คุณจำรายละเอียดของเจ้านายได้มากแค่ไหน”
เพราะมัวแต่นั่งก้มหน้า รู้ตัวอีกทีเจ้านายคนใหม่ก็เข้ามาประชิดตัวแล้ว เมื่อเงยหน้าขึ้นมา หัวใจมาร์คสะดุดเหมือนมีมือที่มองไม่เห็นมากระชากหัวใจไปเสียดื้อๆ
ก่อนที่มันจะเต้นแรงอีกครั้งในรอบหลายเดือน
ปาร์คจินยอง
“ทำไมมาอยู่ที่นี่…” จินยองยิ้มกับท่าทีเหม่อลอยของมาร์ค
“ผมอยู่ในนั้นเพราะพ่อใช้หลอกพวกผู้ถือหุ้นให้ตายใจเท่านั้นแหละ พ่อผมจะได้มีเวลาจัดการไอ้แก่พวกนั้นตอนที่มันชะล่าใจคิดว่าคนอย่างผมคงทำอะไรมันไม่ได้”
“ใครจะไปรู้ว่าปาร์คจินยองสุดหงิมจะเป็นประธานของบริษัทชั้นนำอีกแห่ง ผมรู้ว่าคุณไม่สนใจอยู่แล้วว่าจะต้องมาทำงานกับคู่แข่งของเจ้านายเก่า ผมถึงให้ลูกน้องผมที่เป็นเพื่อนของคุณแนะนำคุณไป”
“เอาล่ะ…ยังไม่ตอบคำถามผมเลยนะ…คุณเลขามาร์คคนเก่ง”
ทันทีที่ตั้งสติได้ รอยยิ้มเผยเขี้ยวเล็กๆปรากฏขึ้น ตอบกลับว่าที่เจ้านายคนใหม่อย่างฉะฉาน
“พ่อคุณชอบใช้แบบเรียบ ขอให้เป็นกลิ่นผลไม้ รสอะไรก็ได้”
จินยองอึ้งไปพัก ไม่คิดว่าคนตรงหน้าจะรู้เรื่องที่พ่อตัวร้ายชอบแอบไปมีเล็กมีน้อยข้างนอก
เขาหัวเราะเสียงเบาก่อนจะกระซิบด้วยถ้อยคำบางอย่างที่ทำให้เลขาคนเก่งหน้าเห่อร้อน
“อยู่กับผมไม่ต้องจำนะ…เพราะกับคุณ…ผมคงไม่ใช้”
END
#iamjinmark
ความคิดเห็น