คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #12 : Home Run Special : LA Boy I
Home Run Special
: LA Boy I
Pairing: Park Jinyoung and Mark Tuan
“
กลับไปก่อนเลยแจบอม อย่าให้น้องรอนาน”
เสียงทุ้มของจินยองลอยขึ้นมากลางวงสังสรรค์ที่มาร์คไม่ได้อยากมาสักนิด
เขากลอกตาไปมาระหว่างแจบอมกับจินยองที่พูดเสียงเบาแต่ดังราวมากระซิบข้างหู ท่าทางดูไม่อยากกลับบ้านของแจบอมเริ่มเป็นปัญหาเพราะน้องยองแจที่เป็นแฟนของแจบอมคือน้องที่จินยองรักเสียยิ่งกว่าอะไร
บางทีการละเลยน้องยองแจคงไม่ใช่การแหย่เสือที่ดีนัก
“อีกนิดน่า ยองแจรอได้ นานๆทีจะเจอกันจะไล่กูกลับทำไม”
“กูคิดว่ามึงควรกลับ จริงๆแล้ว” จินยองพูดยิ้มๆ
มาร์คผู้เป็นลูกน้องผู้ใกล้ชิดมานานจนได้มาเป็นเพื่อนสนิทกันทั้งกลุ่มเริ่มยุกยิก
และคิดว่าตัวเองต้องทำอะไรสักอย่าง เขาไม่มีแผนล่ามคอเสือตอนนี้ “เอ่อ กลับไปเหอะแจบอม น้องต้องรออยู่แน่ๆเลยนะ แล้ว…แล้วพรุ่งนี้ก็มีงานเช้า ใช่ พรุ่งนี้มีงานเช้า” เสียเวลาอยู่นานกว่าจะเรียบเรียงไวยากรณ์เกาหลี
เขารีบพยักหน้าให้จินยองผู้หันมาก้มหัวให้พร้อมกับยิ้มมุมปากน่ากลัว
“อะไรของมึง
พรุ่งนี้งานเช้าก็จริงแต่กูมีมึงมาดูงานให้อยู่แล้ว”
“สรุปคือมึงยังไม่กลับใช่มั้ย
กูจะได้สั่งเพิ่ม” จินยองยิ้มให้เพื่อนผู้ไม่รู้ชะตากรรมตัวเอง
มาร์คได้แต่นั่งขนลุกซู่ ส่งสายตาให้แจบอมแต่มันก็ไม่เป็นผล
เพื่อนตัวดียังคงร่าเริงกับการชงเหล้า
“ขอกูโทรศัพท์นะ คงไม่ว่ากัน” เพื่อนทุกคนพยักหน้าอย่างพร้อมเพรียง
“สวัสดีครับ คุณป้าหรอครับ
ผมจินยองนะครับ ครับ” และเงียบอย่างพร้อมเพรียง
“พอดีแจบอมมันติดธุระบางอย่างอยู่เลยไม่สามารถติดต่อคุณป้าได้น่ะครับ”
มาร์คและแจบอมหันขวับมาที่จินยอง สายตาแหลมคมมองไปที่กุญแจรถของแจบอม
กระตุ้นให้คนไม่ยอมกลับบ้านรู้สถานะตัวเอง น่าเสียใจเหลือเกินที่แจบอมยังคงท้าทายไม่หยุด
“คือว่าแจบอมต้องย้ายไปทำงานที่สาขาอเมริกาเป็นเวลาสามเดือน” ในที่สุดกุญแจรถก็ถูกหยิบขึ้น
สีหน้าโกรธแค้นแต่ทำอะไรไม่ได้ของแจบอมดูน่าสงสารเหลือเกินในสายตามาร์ค
“ตั้งแต่วันพรุ่งนี้น่ะครับ คุณป้าช่วยพายองแจไปนอนที่บ้านได้มั้ยครับ”และแล้วกุญแจรถและเจ้าของมันก็เคลื่อนที่ออกจากร้านอย่างยอมจำนน
“โอ้ คุณป้าครับ ขอโทษทีครับ
ผมเปลี่ยนแผนแล้วล่ะ…”
“นายคิดว่าคนนั้นเป็นไง”
หลังจากเพื่อนทุกคนกลับไป
ก็เหลือแต่เขาผู้นั่งเบื่อและจินยองผู้เอาแต่นั่งเรื่อยเปื่อย มาร์คหยุดเล่มเกมในโทรศัพท์แต่ไม่ได้เงยหน้าขึ้นมองตามที่เพื่อนพ่วงหน้าที่เจ้านายบอก
“น่ารักดี” พูดออกไปแล้วถอนหายใจเฮือกใหญ่
อาจจะดูนิสัยเสียที่เอ่ยคำชมทั้งที่ไม่ได้มอง
แต่เชื่อสิว่าคนอย่างปาร์คจินยองไม่มีทางสนใจ
“แน่นอน สายตาของฉันไม่มีทางพลาด” หนุ่มหน้าเรียวพยักหน้าหงึกหงัก
แต่แล้วก็ต้องชะงักเมื่อคำสั่งที่คุ้นเคยแต่ไม่เคยชอบใจดั้งขึ้น
“ติดต่อให้หน่อยสิ”
“ครั้งที่แล้วนายบอกว่าจะเป็นครั้งสุดท้ายที่นายจะให้ฉันติดต่อผู้หญิงให้นี่ ลืมไปแล้วหรือไง”
มาร์ควางโทรศัพท์เสียงดังด้วยความโมโห
แต่ก็โมโหได้ไม่มากเพราะมาร์คไม่เคยรู้ว่าคนตรงหน้าคิดอะไรอยู่ เขามาอดหลับอดนอน
นั่งเล่นเป็นเพื่อนในผับแบบนี้ก็ดีแค่ไหนแล้ว
ทำไมเขาจะต้องทานั่งทำอะไรบ้าๆแบบนี้ให้เจ้านายตัวดีที่มันไม่เคยเกรงใจกันสักที ความเป็นพี่ชายที่ดีของน้องหายไปไหนหมด
เหลือแต่ปีศาจเจ้าเล่ห์เท่านั้นล่ะ
“จริงหรอ…สงสัยฉันจะลืมน่ะพ่อแอลเอบอย” สิ่งที่มาร์คเกลียดที่สุดคือการขยับตัวของปาร์คจินยอง
มันดีเกินกว่าจะให้อภัย ทักษะการชายตาพร้อมกับการยกขาขึ้นไขว่ห้างที่เห็นแล้วปวดไปทั้งใจ
“ใช่
นายพูดกับฉันว่ามันจะเป็นครั้งสุดท้ายที่ฉันจะเป็นคนติดต่อผู้หญิงให้นาย
หาสถานที่ให้นาย สั่งดอกไม้ให้นาย และหาวิธีสลัดผู้หญิงทิ้งให้นาย”
เพราะจินยองเป็นเพื่อนกึ่งผู้มีพระคุณที่ช่วยเหลือกันตอนที่เขาโดนกลุ่มนักเลงจี้เอากลางทางกลับบ้าน
แถมรับเขาผู้ไม่คุ้นเคยกับภาษาและวัฒนธรรมเข้าทำงานเป็นหนึ่งในทีมที่ปรึกษาด้านเทคโนโลยี
ไม่ว่าจินยองจะให้มาร์คทำอะไร เขาไม่เคยเกี่ยงเลยสักครั้งเดียว ข้ออ้างคือการที่จินยองบอกว่ามาร์คหน้าตาดีกว่า
แต่สุดท้ายก็เห็นว่าผู้หญิงทุกคนก็เสร็จจินยองอยู่ดีโดยไม่ต้องมีเขาอยู่ดี
“เถอะนะมาร์ค
ผู้หญิงคนนั้นสวยจริงๆนายก็เห็น” ลำตัวร้อนผ่าวจากแอลกอฮอล์ขยับเข้ามาใกล้
เขาขยับหนีได้ไม่เท่าไรปลายคางแหลมก็วางลงบนบ่าเล็ก
ร่องรอยหนวดเคราที่ยังไม่จัดการให้เรียบร้อยแทงทะลุผิวผ้าสร้างสัมผัสหยาบกร้านไม่น้อย
“ฉันรู้นายเป็นคนใจดี…” ท่าทีออดอ้อนนั้นน่าเกลียดชังและพาหัวใจอ่อนยวบพร้อมๆกัน
แต่ไม่ว่าทางไหนมันไม่เคยเป็นผลดี แม้ร่างกายจะไม่อยากทำตามมากเท่าไรแต่เมื่อจินยองทำท่าทีเหล่านั้นเขากลับทนมันไม่ได้
“นะครับ….” จินยองเป็นคนนิสัยไม่ดีที่สุดเท่าที่มาร์คเคยเจอ
วิธีการที่ใช้จัดการกับเขาไม่เหมือนกับที่จัดการกับแจบอมเวลาไม่ยอมกลับบ้าน
ไม่เหมือนที่จัดการกับแจ็คสันเวลาเหลวไหล
ถ้าเลือกได้เขาเลือกที่รักจะโดนแบบแจบอมมากกว่าเป็นไหนๆ โชคร้ายที่มันไม่ใช่แบบนั้น
คนอย่างจินยองไม่มีทางแกล้งเป็นคนตาบอดแล้วไม่รับรู้ถึงความรู้สึกบางอย่างที่ส่งผ่านดวงตาคู่นี้ไป
คนตรงหน้าเขาจะคว้ามันไว้แล้วใช้มันให้เป็นประโยชน์คุ้มค่าสุดลูกหูลูกตา
ปาร์คจินยองรู้ว่ามาร์คไม่มีทางปฎิเสธได้ลง ความรักที่มาร์คพยายามฝังกลบไว้สุดหัวใจถูกจินยองรับรู้และใช้มาเป็นเครื่องมือเพื่อให้ได้ในสิ่งที่ต้องการ
“ผมไม่สามารถใจดีตลอดไป เจ้านาย” ตั้งใจเปลี่ยนสรรพนามเพื่อให้รู้ว่าคราวนี้เขาจะเอาจริง
ร่างทั้งร่างลุกขึ้นโดยไม่บอกกล่าว ไม่มีการบอกลาเมื่อหันหลังจากลา
แม้ไม่เห็นแต่มาร์ครู้ว่าจินยองกำลังจับจ้องเขามากเพียงใด
ขาซ้ายของเขาเริ่มก้าวเดิน ขาขวาที่ตามมาอย่างยากเย็น
ไม่มีสิ่งใดเป็นอย่างที่ใจนึกเมื่ออยู่ต่อหน้าสายตาคู่นั้น
ตีหนึ่งแล้วที่เดินออกจากผับ เคาะบุหรี่หนึ่งตัวออกจากซอง
และขอยืมไฟจากกลุ่มคนด้านข้าง “ขอบคุณ”
ความแหลมคมที่ผิวกายด้านหลังทำให้มาร์ครู้ตัวว่าโดนเล่นงานเข้าเสียแล้ว
เขาหลับตา ถอนหายใจเสียงดัง “ผมให้คุณได้แต่เงินเท่านั้น” ว่าแล้วก็หยิบเงินที่มีอยู่ไม่เท่าไรส่งให้หนึ่งในนั้น
“นาฬิกาสวยดีนี่”
“ไม่ได้ครับ อันนี้ไม่ได้จริงๆ”
น่าเสียดาย การเป็นเด็กเมืองนอกไม่สามารถช่วยเรื่องชกต่อยได้เลย
แรงมหาศาลจากกำปั้นและฝ่าเท้ากระทบเข้าที่ตัวผอมบาง
เสียงครางด้วยความเจ็บปวดดังขึ้นเมื่อลงไปนอนกองอยู่ที่พื้น
แต่ก็มิอาจห้ามฝ่ามือที่กำนาฬิกาเรือนสวยบนข้อมืออีกข้างไว้แน่น
ถึงแม้ดวงตาพร่าเลือนจะเห็นผ่าเท้าสกปรกลอยเด่นพร้อมที่จะเหยียบย่ำบนตัวอีกครั้ง
“พวกนาย…สารเสพติดนี่คงไม่อยากถึงมือตำรวจใช่มั้ย” เสียงคุ้นเคยดังขึ้นจากที่ไกลแสนไกล เสียงของจินยองเป็นแน่
เขาหลับตาคิดในใจ
“มึงไปเอามาจากไหน กูไม่มียาพวกนั้น”
“เอามาจากไหนไม่รู้…แต่คิดว่าเขาจะเชื่อใคร…”
ได้ผลชะงัก วัยรุ่นกลุ่มนั้นสลายตัว มาร์คถอนหายใจด้วยความโล่งอกเมื่อนาฬิกาของเขาปลอดภัย
“พวกมันจะเอาอะไร ทำไมไม่ให้มันไป!” แม้ร่างกายจะถูกกอดรัดด้วยกล้ามเนื้ออุ่นร้อน
แต่ก็ไม่มีเวลาให้มาร์คซึมซับมากเท่าไรเพราะเสียงตวาดข้างหู
“คุณ คุณ เป็นอะไรมั้ย”
เสียงในวันวานดังขึ้น ใบหน้าหล่อเหลาพร้อมหยาดฝนแนบชิด เขายังจำได้ดี
วันที่จินยองมาช่วยเขาไว้ได้ทันเวลาในวันฝนตก
ร่างกายร้อนผ่าวแลกอุณหภูมิกันกับน้ำฝนเย็นเฉียบ
ถ่ายทอดไออุ่นผ่านมายังร่างสั่นเทา…
“มาร์ค มาร์ค!”
“ช…ช่างเถอะ”
มาร์คลุกขึ้น กำจัดความอิดออดหาไออุ่นจากคนใส่เชิ้ตสีดำเพิ่มเสน่ห์
ไออุ่นจากปลายนิ้วอุ่นสัมผัสที่ข้างแก้ม
เขาไม่มีทางเผยจุดอ่อนของตัวเองให้จินยองรู้อีกแล้ว
ไม่มีวันบอกไปว่าเขาหวงนาฬิกาที่จินยองซื้อให้มากเพียงใด
“………………………”
การโอบกอดของจินยองจากด้านหลังทำให้เขาหยุดชะงัก “ฉันขอโทษ” แผลบริเวณมุมปากและท้องหายเจ็บปวดไปฉับพลัน
ไม่ว่าเวลาไหนมาร์คยังคงใจอ่อนกับจินยองเสมอ ไม่มีทางที่จะโกรธกันได้นาน
ยิ่งอีกฝ่ายมาขอโทษกันแบบนี้ ใจเขาอ่อนยวบยิ่งกว่าน้ำ
“ไม่เป็นไร…”
“แต่ขอคนนี้เป็นครั้งสุดท้ายเถอะนะ…ฉันชอบมากจริงๆ”
“คนนี้ยากหน่อย กว่าจะขอเบอร์ได้ก็เสียไปหลายแก้ว”
มาร์คยื่นกระดาษเนื้อบางที่มีตัวเลขยุกยิกพร้อมรอยจูบสีแดงจัด
“ฉันเล่าสรรพคุณของนายไปหลาย
บางเรื่องแทบจะโกหกขึ้นมาอยู่แล้ว จินยอง จะไปเดทมาถามกันก่อนล่ะจะได้พูดให้ตรงกัน”
เจ้านายสุดหล่อของมาร์คไม่แม้แต่จะเงยหน้าขึ้นมามองผลงานของลูกน้องคนโปรด
เสียงขบขันแต่ความหมายไม่น่าหัวเราะดังขึ้น “น่าสนใจ อะไรง่ายๆนี่ไม่สนุกสักนิด”
มาร์คสะอึก จะว่าไปหัวใจเขาง่ายยิ่งกว่าผู้หญิงพวกนั้นเสียอีก
“เย็นนี้ที่ร้านเดิมนะ
ฉันนัดไว้ให้แล้ว”
“แวะไปเอาดอกไม้ด้วยล่ะ
สั่งไว้ให้แล้วเหมือนกัน”
“แล้วก็…”
“เจ็บแผลหรือเปล่า” จินยองเงยหน้าจากกองเอกสารแล้ว มาร์คจับแผลที่ใบหน้าแล้วส่ายหน้า
“แล้วก็อย่าลืมแต่งตัวดีๆไปด้ว…”
“รอยช้ำที่ท้องล่ะ” โดนขัดครั้งที่สองชวนหงุดหงิดนัก “ยังปวดอยู่นิดหน่อย อย่าสนใจเลย” เขาตอบเสียงสะบัดใส่เจ้านายที่เดินอ้อมมาหาแล้วนั่งลงบนเก้าอี้ด้วยความเงียบเชียบ
รู้สึกหมั่นไส้รอยยิ้มน้อยๆนั่นเหลือเกิน
“เดี๋ยวๆ…นายจะทำอะไรจินยอง” ลำตัวเขาปลิวเข้าไปในอ้อมแขนกว้างจนเผลอวางมือบนบ่าแกร่ง
เท่านั้นไม่พอกระดุมบนเสื้อเชิ้ตสีอ่อนยังถูกปลดจากด้านล่างด้วยความรวดเร็ว
เนื้อครีมเย็นเฉียบสัมผัสลงบนหน้าท้อง อดไม่ได้ที่จะกลั้นหายใจยามที่นิ้วเรียวนั้นลากผ่าน
“นายไม่ทายา ฉันรู้”
“เดี๋ยวฉันทาเอง ส่งมาเถอะ” เสียงเขาแหบเหลือเกิน แต่แน่นอนที่เจ้านายจินยองจะไม่ฟัง
การทายาที่แสนจะอึดอัดยังคงดำเนินต่อไปจนเสร็จ
“ไม่ต้องทำขนาดนี้ก็ได้จินยอง”
“ไม่ต้องขอบคุณกันด้วยวิธีนี้
ขอแค่ครั้งนี้เป็นครั้งสุดท้าย เท่านั้นก็พอ”
ความรักข้างเดียวส่วนใหญ่เกิดจากการไม่รู้ของฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง
หากแต่การรักข้างเดียวของมาร์คนั้นจินยองน่าจะรู้อยู่แก่ใจ
มาร์คไม่เคยสารภาพกับจินยองก็จริง
แต่การที่เขายอมให้เพื่อนคนหนึ่งได้สัมผัสกันด้วยท่าทีที่เพื่อนคนอื่นๆไม่ได้ทำกัน
ทั้งกอดรัด ทั้งสัมผัสผิวกายกันในบางครั้ง ความห่วงหาอาทรกันมากกว่าปกติ
ไหนจะการตามใจจินยองอีกนับไม่ถ้วนนั้นทำให้มาร์ครู้ว่าจินยองไม่ได้มีใจให้กันมากกว่าความเป็นเพื่อน
ไม่อย่างนั้นคงไม่ทำให้เขาช้ำใจเล่นจนถึงวันนี้หรอก
เขากำลังจะหมดจากหน้าที่นี้ หน้าที่ของการเป็นเพชฌฆาตคร่าหัวใจตัวเอง
สิ่งสุดท้ายที่ยื้อชีวิตของมาร์คได้คือการที่เขาไม่ต้องรับรู้เรื่องราวความรักใดๆ…
เฮือก
คงมีแต่มาร์คและแจ็คสันที่นั่งตัวแข็งหน้าแดงก่ำ
ใครกันจะไปมองหน้าแฟนเพื่อนแล้วไม่นึกถึงไอ้คลิปเมื่ออาทิตย์ก่อนนั่นหละ
เด็กเรียบร้อยแบบนี้พออยู่บนเตียงแล้วมันเอ็กส์แบบนั้นได้ไงวะ
มาร์คอยากจะร้องไห้
หลังจากวันที่เอาเบอร์สาวคนนั้นไปให้
มาร์คกับจินยองก็ไม่ได้คุยกันอีก รู้ตัวอีกทีก็โดนนัดให้ไปที่ร้านอาหาร
วีดีโอแฟนแจนบอมเล่นกับร่างกายตัวเองก็โผล่ขึ้นแบบไม่ได้รับเชิญ
เรื่องราวก็คือแจบอมคนโง่ผู้ไม่เคยใส่ใจแฟนเด็กน่ารักของตนเอง
เอาแต่พูดจาทำร้ายจิตใจแถมยังพูดว่าจะไปหาระบายเอาข้างนอก
ทำเอาน้องเขาเสียใจจนเรื่องถึงมือเจ้านายปาร์ค…แล้วเรื่องก็เป็นอย่างที่เห็น
คุณบอสสุดหล่อไปจัดท่าทางอันแสนยั่วยวนให้น้องยองแจ
ส่งคลิปมาเปิดกางวงกันซึ่งๆหน้า เล่นเอาชายหนุ่มสามคนบนโต๊ะปวดตัวกันไปยกใหญ่
การกระทำของจินยองเหนือความคาดหมายของเขานัก
ที่เซอร์ไพรซ์หนุ่มเมืองนอกอย่างเขาก็คือ…เหตุการณ์ก่อนหน้าที่จะถ่ายคลิปมานั้น
จินยองทำอะไรกับน้องบ้าง พอถึงตอนนี้ร่างกายเขากลับปวดเกร็งแปลกๆ
"มึงมาทำไมกันแต่เช้า" แจบอมในชุดอยู่บ้านเดินเช็ดผมออกมาจากห้องน้ำ
"มึงนัดทำงานเองไอ้ห่า ทำเป็นลืม ลูกค้าก็เร่งกูยิกๆ"
แจ็คสันตวาดกลับ สงสัยติดแฟนมากเกินไปหน่อย
"เออ โทษๆ" แจบอมตอบรับแล้วเดินเข้าไปหายองแจที่เคาน์เตอร์ครัว
คนตัวเล็กกำลังวุ่นวายกับการหาของกินให้พวกเขาทำงาน วงแขนแกร่งของแจบอมโอบกอดทางด้านหลัง
อีกฝ่ายหันกายเข้าหาส่งรอยยิ้มสดใสให้
แล้วสองคนนั้นก็จูบกัน
มาร์คก้มหน้าลงแกล้งทำเป็นนวดขมับทั้งที่จริงแล้วคือไม่สามรถทนมองมันไปได้มากกว่านี้แล้ว
"จินยอง
ยังไม่เคลียร์เรื่องเก่า" หลังจากที่แจบอมจูบกับน้องเสร็จเรียบร้อยก็ถึงเวลาหาเรื่อง
"ไม่ต้องห่วงหรอกมึง กูไม่กินของเพื่อนหรอก ใสๆกูไม่ค่อยถนัด" คนข้างๆเอ่ยเสียงดัง
"ทำไม
ของมึงต้องแบบไหน"
"กูหรอ แอลเอสไตล์... ละมั้ง..." มาร์คเงยหน้าจากฝ่ามือชุ่มเหงื่อ
หัวใจกรีดร้องตึกตักเมื่อได้ยินความนัยที่คนข้างกายสื่อรวมถึงอ้อมกอดพาเอาเตรียมตัวไม่ทัน
เขาเริ่มทำตัวไม่ถูกในสายตาของแจบอมและแจ็คสัน คำพูดต่อมาช่วยลดความสงสัยของเพื่อนได้ดี
แต่มันกลับเป็นเครื่องมือเพิ่มความเจ็บปวดในใจชั้นเยี่ยม
“หมายถึงสไตล์ที่แอลเอบอยเป็นคนหามาให้ต่างหาก”
มาร์คยิ้มเจื่อนให้เพื่อนทั้งสองคน “ที่จริงฉันไม่ได้เลือกหรอก จินยองเลือกทั้งนั้น”
เป็นอันปิดประเด็น
ทุกคนกลับไปทำงานกันอีกครั้ง
กว่าจะทำเสร็จก็ปาไปสี่ห้าโมงแล้ว พวกเขาออกจากคอนโดนแจบอม แจ็คสันขอตัวไปก่อน
เหลือแต่เขาสองคนที่ไม่รู้ว่าจะไปไหนเลยเลือกที่จะไปร้านกาแฟเล็กๆริมถนน
“อาทิตย์หน้าไปไหนหรือเปล่า”
“ทำไมหรือ จำไม่ได้
ขอดูก่อน” ในเมื่อเพื่อนพ่วงเจ้านายถามแล้วก็ต้องหยิบตารางงานขึ้นมา
และจินยองผู้เสียมารยาทก็ดึงมันออกจากมือเขาไปดูเองทันที “มีมารยาทหน่อย
ฉันไม่โกหกนายหรอกน่า”แถมขมวดคิ้วใส่อีกหนึ่งที
“วันที่วงดินสอไว้คืออะไร”
มาร์คนิ่งเมื่อรู้ว่ามันคือวันอะไรในอาทิตย์หน้า
ที่สงสัยคือทำไมจินยองยังถามทั้งที่ควรจะรู้ว่ามันคือวันอะไร “ไม่มีอะไรหรอก น่าจะเคยไม่ว่างแล้วยกเลิกไปแล้วน่ะ”
“งั้นหรือ
ไปกับฉันแล้วกันนะ อย่าไปนัดใครล่ะ”
“ไปไหน”
“ความลับ….” มาร์คยู่หน้าใส่คนเจ้าความลับ รวมถึงงุนงงที่จะต้องทำอะไรกันบ้างในวันนั้น
ที่แน่ๆรอยยิ้มก่อนที่เจ้าตัวจะออกจากร้านไปนั้นไม่ได้ทำให้มาร์คสบายใจขึ้นเลย
เขาเดินออกมาจากร้านในห้านาทีต่อมา
ไม่ทันไรแจ็คสันก็โทรมาเสียก่อน
“ว่าไงแจ็คสัน”
“มาร์ค
กูจะมาบอกนายว่าอาทิตย์หน้ากูต้องไปดูงานที่ต่างประเทศแทนรุ่นพี่อีกคนหนึ่ง”
“แล้วไง”
“ก็อาทิตย์หน้ามันวันเกิดมึงไง
กูต้องมาบอกก่อนเพราะเดี๋ยวจะไม่ได้แฮปปี้เบิร์ธเดย์กันน่ะสิ” หลังจากฟังแจ็คสันพูดแล้วก็หัวเราลั่น เพื่อนคนนี้น่ารักกว่าที่คิดจริงๆ “ไม่เห็นเป็นไรเลย พูดถึงวันเกิด จินยองพึ่งมาบอกว่าจะให้ไปไหนด้วยในวันเกิดพอดีเลย
ไม่รู้จะทำอะไร อาจจะงานล่ะมั้ง”
“อันเน่าะ
มันจะพามึงไปเซอร์ไพรซ์รึเปล่า พวกมึงสนิทกันมากกว่าพวกกูนี่”
“งั้นหรอ…เซอร์ไพรซ์งั้นหรอ”
มาร์คพึมพำแล้ววางสายหลังจากเอ่ยขอบคุณแจ็คสัน
และในคืนนั้น มาร์คไม่รู้ว่าตัวเองภาวนาให้ถึงวันอังคารหน้าเร็วๆ
TBC
อ่อย มาทีละครึ่งนะคะนะ
พอดีเขียนสองเรื่องสลับกัน แต่พอดีคิดเรื่องนั้นไม่ออกเลยมาปั่นเรื่องนี้ต่อค่ะ
อาจจะผิดแปลกไปบ้างเพราะไม่ได้เขียนฟิคนาน ขอเวลาสักพักในจูนนะคะ
รักทุกคนนน
#iamjinmark
ความคิดเห็น