คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #1 : I lie on top (I) || JinMark
I lie on top
Pairing : Park Jinyoung x Mark Tuan
Rate : PG-13
Genre : AU, Mystery
Author : wssw2801 (I AM)
“พ…พอ”
จำไม่ได้ว่าเปล่งเสียงออกไปกี่ครั้ง ร่างกายเขาหนักอึ้ง เขาถูกดูดกลืนด้วยอะไรบางอย่าง หายใจไม่ออก เหมือนจมดิ่งในน้ำเย็นเฉียบ
ไม่
ตรงกันข้าม ร่างกายเขาร้อนรุ่มเหมือนไฟ มันร้อนผ่าว มันเสียดสี
…รู้สึกดี…
เงาดำบนร่างขยับเชื่องช้า เผาไหม้จิตวิญญาณจนแทบสิ้น สงสัยในความพึงพอใจของตัวเองที่คล้อยตามไปการเคลื่อนไหวของคนที่ไม่เห็นหน้า
“…ม..ไม่ไหวแล้ว…” พึมพำออกไปเมื่อรู้สึกถึงความร้อนรุ่มที่ใกล้จะระเบิดอยู่รอมร่อ พยายามจะเอื้อมมือไขว่คว้า แต่จับได้แค่เพียงธาตุอากาศ
“เข้า...มา”
อย่างน้อยก็ขอให้ได้อะไรสักอย่างจากร่างที่ทาบทับ แต่ไม่ทันจะทำอะไรร่างเขากระตุกเกร็ง รู้สึกถึงความอุ่นชื้นที่พุ่งออกมาจากร่างกายรวดเร็วพอๆกับที่กระทบในช่องท้อง เขาหอบหายใจถี่ หัวใจเต้นแรง เขารวบรวมแรงเฮือกสุดท้ายยกมือขึ้นกระชากเงาดำมืดเข้ามาอีกครั้ง แต่ไม่ ไม่ทันแล้ว มันกำลังหายไป
แสงสว่างจ้าเสียดแทงเข้ามาในสายตาเหมือนทุกวัน มันเป็นสัญญาณเตือนว่ากำลังจะจากลา
แต่ก่อนที่สติจะหายไป เขาเห็นแค่สร้อยเงินเส้นเล็กบางเบา
...J...
เฮือก
มาร์คสะดุ้งตื่น เขาหอบหายใจ ยกมือขึ้นมาลูบใบหน้าเรียกสติ เขาฝันแบบนี้อีกแล้ว ไม่รู้ว่ามันเป็นเวลากี่คืนที่ผ่านไปแบบไร้เหตุผล สองขาก้าวออกจากเตียงเพื่อเตรียมตัวไปทำงานเหมือนทุกวัน ภาพตัวเองในกระจกทำให้เขาต้องหยุดมอง ดวงตาหมองคล้ำ หน้าซูบตอบ จากหน้าตาที่ดูสดใสกลับหมองหม่น ผิวซีดเหมือนคนป่วยหนัก
“เฮ้ออ” ได้แต่ถอนหายใจอยู่คนเดียวในห้องพัก เขาอึดอัดจนแทบบ้า แต่ถ้าจะให้ไปบอกกล่าวคนอื่นว่า “ผมฝันว่ามีอะไรกับผู้ชายมาเป็นอาทิตย์แล้ว” ชีวิตคงพังยับเยิน อย่าว่าแต่เพื่อนร่วมงานเลย เพื่อนที่คบกันมาตั้งแต่เด็กก็คงจะไม่เชื่อแถมต่อด้วยคำด่าเป็นพรวน
มาร์คมาถึงที่ทำงานแต่เช้า เขาเป็นแค่พนักงานต๊อกต๋อยของบริษัทใจกลางเมือง ชีวิตแสนน่าเบื่อเริ่มขึ้นซ้ำแล้วซ้ำเล่า เริ่มจากตื่นนอน อาบน้ำ และจัดการตัวเองให้ดูเป็นผู้เป็นคนขึ้นเล็กน้อยด้วยเสื้อผ้าที่หาซื้อได้ทั่วไป ออกจากคอนโดเวลาเดิมทุกวัน เพราะฉะนั้นเขาจะถึงที่ทำงานเวลาเดิมเพราะขนาดความเร็วในการปั่นจักรยานมาทำงานเขายังใช้ความเร็วเท่าเดิม
บางทีมาร์คก็คิดว่าชีวิตเขามันน่าเบื่อเกินกว่าจะมีชีวิตอยู่
ยกเว้นอยู่เรื่องเดียวก็คือการฝันว่าได้มีเซ็กส์กับผู้ชาย ซึ่งเขาก็คิดว่าเรื่องนี้มันก็โลดโผนเกินไป
“ลาเต้ร้อนครับ”
ร่างกายอ่อนเพลียจนคิดว่าต้องหาอะไรหวานๆให้ร่างกาย เขาแวะร้านกาแฟเล็กๆหน้าบริษัททุกเช้า ใช่ การเข้าร้านกาแฟก็เป็นหนึ่งในแพทเทิร์นของเขา รวมถึงเด็กน้อยที่ชงกาแฟให้เขาทุกเช้าด้วย แต่การที่เมนูของเขาแปลกไปคงสร้างความประหลาดใจให้เด็กหนุ่มตรงหน้าได้ไม่น้อย
“ทำไมวันนี้เปลี่ยนเมนูล่ะครับ” ชเวยองแจถามเขา ยองแจเป็นเด็กน่ารัก การใส่ใจทุกรายละเอียดของลูกค้าทุกคนทำให้ร้านกาแฟเล็กๆแห่งนี้ไม่เคยขาดผู้คน ยกเว้นเสียแต่ว่ามีแฟนขี้หึงที่พาลจะทำให้ลูกค้ากลัวจนหดหายไปหมด
“อยู่ดีๆก็อยากกินอะไรหวานๆ” มาร์คยิ้มกลับไป
“ก็ดีครับ ผมก็ว่างั้นแหละ”
“หืม ทำไมล่ะยองแจ”
“ฮยองเหมือนศพเดินได้ เนาะแจบอมฮยอง” มาร์คหันไปขอความคิดเห็นจากแฟนขี้หวงของเด็กตรงหน้า ดวงตาคมๆมองมาทางเขานิ่งจนน่ากลัว น่าจะเป็นความคิดที่ดีที่จะอ้าปากบอกไปว่าไม่ได้จะจีบเจ้าของร้าน
“เอ่อ…”
“ใช่ครับ คุณเหมือนศพเดินได้”
ในที่สุดก็ได้รับคำตอบ เขาตัดสินใจได้ในวินาทีนั้น
เขาต้องปรึกษาหมอ
“กินอาหารเช้าหน่อยมั้ย ผมทำให้ฟรีเลย ตอบแทนที่เป็นลูกค้าผมทุกวัน”
มาร์คยืนนิ่ง ความใจดีแบบแปลกประหลาดที่ไม่เคยต้องการ เขาส่ายหน้าเป็นอัตโนมัติ แต่เพราะเด็กน้อยน่ารักขี้อ้อนลากเขาไปนั่งที่โต๊ะแล้วเรียบร้อย ไอ้แรงจะขัดขืนเด็กที่ตัวเล็กกว่ายังไม่มีเลย คงจะจริงอย่างที่ว่านั่นแหละ เขาเป็นศพเดินได้
“ขอบคุณนะครับ” เอ่ยขอบคุณคนหน้าดุเมื่ออาหารเช้าหอมกรุ่นมาวางตรงหน้า “เชิญตามสบายครับ”
มาร์คกินอาหารเช้าอย่างรวดเร็ว เขารู้สึกอึดอัดกับดวงตาดำสนิทที่มองมา เขาอ่านสายตานั้นไม่ออก ทางเดียวที่จะหลุดออกจากความอึดอัดนี้ให้เร็วที่สุดคงเป็นการรีบกิน…และรีบไป
“ขอบคุณนะครับ” เขาโค้งตัวก่อนจะถือแก้วกาแฟออกจากร้านทันทีเมื่อกินอาหารเช้าที่แสนจะอึดอัดเสร็จ แอบสังเกตได้ว่าอิมแจบอมยังมองเขาอยู่แม้จะออกมาแล้ว แต่เขาก็เลือกที่จะลืมมัน
“แจบอมฮยอง…มาร์คฮยองเขาเป็นอะไร”
เมื่อแผ่นหลังบอบบางพ้นสายตาไป คนตัวเล็กกว่าก็เอ่ยถามขึ้นทันที “อย่างกับคนดวงตก”
“คงงั้น” แจบอมยกมือขึ้นลูบผมนุ่มของคนรัก ถอนหายใจออกมาเพราะความกังวล
“แต่มันไม่ใช่เรื่องของเราหรอกยองแจ”
ใช่
เพราะมันน่ากลัวเกินกว่าจะรู้
“ผมมาหาคุณหมอปาร์คจินยอง”
“นัดไว้ใช่รึเปล่าคะ”
“ใช่ครับ วันนี้ถึงกำหนดนัด”
มาร์คคิดว่าคนที่มีปัญหานอนไม่หลับเรื้อรังจนต้องพบจิตแพทย์เป็นอะไรที่น่าหดหู่ เขานึกสงสารตัวเองจับใจ เพราะชีวิตที่ไม่มีอะไรคืบหน้าแถมยังแย่ลงทำให้อะไรหลายๆอย่างเริ่มดำดิ่ง เขามีปัญหาจากการนอนไม่หลับเรื้อรังมานานเป็นเดือน นั่นเป็นสาเหตุที่ทำให้เขาต้องมาอยู่ที่นี่ทุกอาทิตย์
“เชิญค่ะ คุณหมอรออยู่แล้ว”
ทันทีที่เปิดประตูเข้าไปเขาก็รู้สึกว่าร่างกายเบาหวิวประหลาดๆ มันเป็นแบบนี้ทุกครั้งที่ย่างเท้าเข้ามา แต่เขาไม่มีเวลาคิดสงสัยอะไรมากเพราะความสามารถพิเศษเกินคนของคุณหมอประจำตัว
มาร์คคิดว่าบางทีบุคลิกของผู้ชายคนหนึ่งไม่จำเป็นต้องดึงดูดสายตามากขนาดนี้ก็ได้ การโดนตัดความสนใจจากทุกสิ่งและโดนบังคับให้เขาสนใจได้เพียงตัวคุณหมอคนเดียวนั้นเป็นการกระทำที่เลือดเย็น
โดยที่หมอไม่ต้องกระดิกนิ้วเลยด้วยซ้ำ
“เป็นไงบ้างคุณมาร์ค อาทิตย์ที่ผ่านมาโอเคมั้ย”
พอแผ่นหลังได้สัมผัสกับโซฟานุ่มๆ ร่างกายพลันอ่อนยวบไปหมด เขาอยากจะหลับลงเดี๋ยวนี้ ติดตรงที่ต้องคุยกับคุณหมอมาดนิ่งตรงหน้าก่อน
“อย่าพึ่งหลับครับ คุยกับผมก่อน” แค่คุณหมออยู่เฉยๆหลังโต๊ะทำงานสมองมาร์คยังวิ่งเร็วจี๋ ยิ่งมาโดนคำพูดสั้นๆที่คิดได้หลายทาง บวกกับเสียงเพราะๆที่ไม่รู้ว่าจิตแพทย์ทุกคนจะเป็นแบบนี้รึเปล่า มาร์คยิ่งรู้สึกว่าโซฟามันน่าอึดอัดชอบกล
“เหมือนเดิมครับ แต่ผมทำตามที่หมอบอกแล้ว มันดีขึ้นจริงๆ”
“คุณทำอะไรบ้างครับ”
“ผมอ่านหนังสือ หาอะไรที่มันเบี่ยงเบนความสนใจ” มาร์คมีปัญหานอนไม่หลับเรื้อรังที่เกิดจากความเครียด ด้วยปัญหาครอบครัวที่แอลเอ ภาวะการแก่งแย่งชิงดีกันภายในครอบครัวใหญ่นั้นเป็นเรื่องธรรมดาไม่ว่าจะอยู่ ณ ผืนแผ่นดินใดก็ตาม โชคร้ายที่แม่เขาโดนพี่น้องแท้ๆของตัวเองโกงธุรกิจอย่างเลือดเย็น ครอบครัวเขาหมดเนื้อหมดตัวจนต้องอาศัยใบบุญคนอื่น นั่นเพื่อนของแม่ที่เป็นคนเกาหลีนั่นเอง
แน่นอน เขาปรับตัวไม่ได้ มาถึงก็มีปัญหากับหัวหน้าที่เอาแต่ด่าว่าไม่เคารพผู้ใหญ่ ทำอะไรก็ผิดไปหมดเพราะความอคติที่มีอยู่ในจิตใจหลังจากการพบเจอกันครั้งแรก ความรู้สึกเลวร้ายทั้งหมดแปลงร่างเป็นความกดดันภายใต้ตัวเร่งที่ชื่อว่าความจำเป็น
ความเครียดสะสมขึ้นโดยที่เขาไม่รู้ตัว เวลาว่างเขามักนึกถึงบรรยากาศในออฟฟิซที่น่าอึดอัด นึกถึงหัวหน้าใจร้ายที่คอยแต่จะเล่นงาน เขากินได้น้อยลงและนอนไม่หลับติดต่อกันเป็นอาทิตย์จนแม่ที่อาศัยอยู่กับเพื่อนรักบังคับให้มาปรึกษาหมอ เรื่องราวจึงจบลงที่เขาต้องมาติดอยู่ในห้องคุณหมอบุคลิกอันตรายทุกอาทิตย์
“บางทีคุณหมอมีหนังสืออะไรน่าสนใจ แนะนำให้ผมบ้างก็ดีนะ”
หมอปาร์คจินยองแนะนำให้เขาหาอะไรเบี่ยงเบนความสนใจ เวลาว่างจะได้ไม่ต้องนึกถึงอะไรที่เป็นสาเหตุของการนอนไม่หลับ แน่นอน การนอนไม่หลับมันทำให้ระบบร่างกายเสียไปหมด ถ้าเขาไม่มาหาหมอ การงานเขาอาจจะเละไม่เป็นท่า หรือไม่เขาก็อาจจะเป็นศพคาห้องจากภาวะร่างกายที่ผิดปกติ
“ก็ดีครับ ผมเป็นห่วงคุณจริงๆ” จากที่จะเคลิ้มหลับ หัวใจเขาเต้นเร็วขึ้นมาอีกหนึ่งจังหวะ
“เอาล่ะๆ ผมจะปล่อยให้คุณนอน”
อาจจะน่าสงสัยที่จิตแพทย์ปล่อยให้คนไข้นอนหลับในห้องทำงานตัวเองได้ แต่ตั้งแต่ครั้งแรกที่เขาเข้ามาในห้องนี้ อะไรไม่รู้ดลใจให้เขาเอ่ยคำขอแปลกๆออกไป “ขอผมหลับในห้องนี้ได้มั้ย” เพราะตั้งแต่เดินเข้ามาในห้องเขารู้สึกว่าเขามีความจำเป็นที่จะต้องหลับในห้องนี้โดยไม่มีเหตุผล เปลือกตาเขาหนักอึ้ง ลมหายใจเริ่มแผ่วลงทั้งๆที่ยังไม่เริ่มทำการรักษา
มาร์คยังจำสีหน้าประหลาดใจของหมอจินยองได้ดี แต่เขาก็ประหลาดใจมากเหมือนกันที่ไม่มีคำปฎิเสธกลับมา
ตอนนี้ไม่ใช่เวลามาคิดเรื่องอื่น มือที่มองไม่เห็นค่อยๆดึงเปลือกตาเขาให้ปิด เขาปรับโซฟาตัวนุ่มให้เอนต่ำลง
ในที่สุดเขาก็ได้หลับเสียที
“อื้อ…”
ร่างกายถูกเติมเต็มด้วยไฟร้อนผ่าว ร่างหนักอึ้งทาบทับ โหมแรงลงมาเต็มร่างจนเขาสะดุ้ง ร่างกายเขาร้อนรุ่มเหมือนโดนไฟเผา สัมผัสได้ถึงอุ่นชื้นไล้ไปตามไปหน้า แรงเสียดสีด้านล่างรวดเร็วจนแทบไม่ได้หายใจ
“ออกไป…”
ร้องครางออกไปไม่รู้กี่ครั้ง ร่างกายเขาโดนโหมกระหน่ำใส่จนตัวแทบขาด เขาพยายามยันกายขึ้นรับแรงกระแทกที่อยู่ในช่องท้อง ความเจ็บปวดแทงไปทั่วร่าง แต่แผ่นเหล็กที่เขามองไม่เห็นมันกดทับไว้จนขยับตัวไปได้
ความเจ็บปวดแทรกไปทุกอณูร่างกายเพียงชั่ววิก่อนที่ร่างกายจะพลิ้วไหว เคลิบเคลิ้มไปกับการชักนำในฝันจนลืมโลกแห่งความเป็นจริง เขาครางฮือ ร่างร้อนวูบก่อนจะหลอมละลายเสมือนเทียนโดนไฟลน
“ใกล้…แล้ว…อื้ออ”
กล้ามเนื้อขมวดเกร็งขึ้นพร้อมกับเสียงกรีดร้อง ส่งเสียงดังก้องไปลืมอาย เงาดำพร่าเลือนขยับเร็วขึ้นกว่าเดิม เขาหอบหายใจเหมือนคนที่โดนกดน้ำ ความทรมานที่แสนหอมหวานนำพาให้สมองปลอดโปร่ง ดื่มดำกับความอิ่มเอิบในร่างกายจนลืมสิ้นทุกอย่าง
เสียงครางสุดท้ายบ่งบอกถึงห้วงอารมณ์ที่ถึงฝั่ง
เขารู้สึกดีจนแทบบ้า
“”คุณมาร์ค คุณมาร์ค!!”
“ค...ครับ”
มาร์คหอบหายใจหนัก ร่างกายทุกตารางนิ้วมันเจ็บปวดเหมือนมีเข็มนับร้อยทิ่มตำ รู้สึกเหนื่อยจนถ้าหายใจแม้อีกหนึ่งเฮือกเขาก็อาจจะตายได้
“เป็นอะไรรึเปล่า”
“ป…เปล่าครับ” มาร์คหลับตาอย่างเหนื่อยอ่อน ถ้าจะให้บอกว่าพึ่งฝันว่ามีอะไรกับผู้ชายมาเขาคงได้ยาเพิ่มนอกจากยานอนหลับอ่อนๆที่ได้อยู่ในปัจจุบัน
“ผมชักไม่แน่ใจแล้วว่าคุณดีขึ้น คุณโทรมมากรู้ตัวรึเปล่า”
มาร์คอ่อนแรงเกินกว่าจะผลักร่างใหญ่กว่าที่ก้มลงมาใกล้ เขาปล่อยให้อีกคนพินิจใบหน้าซูบตอบได้ตามใจ พยายามไม่สนใจลมหายใจร้อนผ่าวที่รินรดอยู่ที่ใบหน้า
“ผมรู้…” เขาพึมพำ มันแทบจะเป็นเสียงกระซิบเพราะริมฝีปากเขามันใกล้กันเกินไปที่จะขยับริมฝีปากได้มากกว่านั้น
“มีอะไรที่คุณไม่บอกผมรึเปล่า” การทำงานของหมอปาร์คจินยองน่ากลัวที่สุด มาร์คไม่รู้ว่าจิตแพทย์คนอื่นจำเป็นต้องเท้าแขนกับโซฟาแล้วยื่นหน้าสบตากันแบบนี้รึเปล่า แต่มาร์คคิดว่ามันเป็นวิธีที่น่ากลัวต่อหัวใจเขามาก
“ใจคุณเต้นแรง อันนี้ล่ะ รู้ตัวรึเปล่า”
“ม…ไม่รู้” เขาโกหกเต็มคำ
“ผมจะเชื่อแล้วกัน” รอยยิ้มมุมปากของปาร์คจินยองคือปิศาจ
ทว่าระหว่างที่ลอบถอนหายใจเพราะคุณหมอคนเก่งถอนตัวออกไป เขาตัวเย็นเฉียบ ลมหายใจสะดุดไปชั่ววิ
เขาเห็นอะไรบางอย่างที่ไม่ควรจะเห็นในชีวิตจริง
…สร้อยคอเส้นบาง …
…บนลำคอของปาร์คจินยอง…
...J...
TBC
Talk
โงร้ยยย มันไม่จบภายในตอนเดียวค๊า พยายามลงไว้ก่อนเพราะกลัวตัวเองดองแล้ว
ไม่ยอมลงสักทีค่ะ เดี๋วจะโดนคนใกล้ตัวตบเอาได้ง่ายๆ /โดนตบจริงๆ แงงงง
เรื่องนี้มาแนวแปลกเนาะคะเนาะ ให้ลองมั่วๆเดาๆไปก่อนละกันนะคะ /โดนตบ
ฮืออ แล้วก็อย่าพึ่งคาดหวังอะไรมากนะคะนะ 55555 ตอนหน้ามันอาจจะออกมาง่อยกันเลยทีเดียว
ขอบคุณทุกๆคนที่หลงเข้ามาอ่านนะค๊า สามารถติชมกันได้ในนี้เลย หรือจะติดแท็กก็ได้นะคะ
#iamjm หรือทวิตเตอร์ @wssw2801 ก็ได้ค่ะ
รักทุกคนน จุ๊บบ
ความคิดเห็น