ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [ SF/OF ] NCT , WAYV X YOU

    ลำดับตอนที่ #3 : [ JENO X YOU ] ; 01

    • อัปเดตล่าสุด 18 ส.ค. 64


     

     

    คุณเคยแอบชอบเพื่อนสนิทตัวเองไหมคะ?…

    แล้วคุณคิดว่าถ้าเราสารภาพรักกับเพื่อนสนิทตัวเองแล้วความสัมพันธ์ของเรายังจะเหมือนเดิมอยู่ไหม?…

     

    “ หวัดดีเตี้ย ” 

    เสียงทุ้มอันคุ้นหูดังขึ้นจากด้านหลังของฉันในขณะที่ฉันกำลังนั่งอ่านหนังสือการ์ตูนเงียบๆอยู่ใต้ต้นไม้ โดยที่ฉันไม่ต้องหันหลังไปก็รู้ว่าใครเพราะเขาคือคนที่ฉันแอบชอบมาตั้งแต่ประถมแล้วจนตอนนี้พวกเราก็ขึ้นม.ปลายกันแล้ว แต่ที่ฉันไม่กล้าบอชอบมันไปเพราะแค่คำว่า'เพื่อนสนิท'มันค้ำคออยู่ยังไงล่ะ

    “ อืมม หวัดดีเนิร์ด ” ฉันทักทายมันโดยไม่มองหน้ามันแม้แต่น้อย

    “ เนิร์ดบ้านแกดิ! ”

    “ แล้วเตี้ยบ้านแกดิ! ”

    “ ฮ่าๆๆ แต่ตอนนี้โน่ไม่เนิร์ดแล้วนะครับ… ” ไอเจโน่พูด พอฉันเงยหน้าขึ้นไปก็พบว่ามันไม่ใส่แว่นอีกแล้ว “ …แต่ตอนนี้กลายเป็นฮอตเนิร์ดแทน ” พูดจบมันก็เอาหน้าเข้ามาใกล้ๆฉัน

    “ แล้วเราต้องรู้กับแกด้วยไหมเนี่ย!? แล้วกรุณาเอาหน้าออกไปด้วย ” ฉันเบ้หน้าใส่มันก่อนที่จะก้มลงอ่านหนังสือต่อ

    “ อ่านเรื่องไรอ่ะเราอ่านด้วยดิ ” ไอโน่แทรกหน้าเข้ามาจนบังหนังสือฉันไปหมด

    “ โอ้ยยย อยากอ่านก็ขอดีๆก็ได้ป่ะ! มันบังเราหมดแล้ว ” ฉันดันหน้ามันออกไป

    “ โอเคๆ… ” มันยิ้มออกมาเล็กน้อยแต่รอยยิ้มนั่นมันทำให้ใจฉันมันสั่นแรงมากๆๆ “ …(ชื่อคุณ)ค้าบบ โน่ขออ่านด้วยนะครับ น๊าาา ” 

    มันทำท่าออดอ้อนฉันอย่างที่ไม่เคยทำมาก่อน เพราะเมื่อก่อนที่ตอนพวกเรายังไม่ขึ้นม.ปลายไอโน่มันจะเป็นคนที่นิ่งๆเงียบๆใส่แว่น แถมยังเป็นเดอะแบกของห้องอีกด้วยเพราะมันฉลาดน่ะ และอีกอย่างคือมันไม่เคยทำท่าทางออดอ้อนใส่ฉันมาก่อนแต่พอเราทั้งสองขึ้นม.ปลายวันนี้วันแรกมันกลับไม่ใส่แว่นและทำตัวแพรวพราวขึ้นมาซะงั้น

    “ มะ…ไม่ต้องอ่านแล้วโน่ อีกห้านาทีเราต้องไปเข้าแถวแล้ว ” 

    “ โอเคๆ นี่แกกินข้าวยังอ่ะ? ”

    “ หืออ ยังเลยอ่ะ ”

    “ อ่ะนี่! โน่ซื้อแซนวิชมาเผื่อด้วย… ” ว่าจบเจโน่ก็หยิบแซนวิชออกมาจากกระเป๋าก่อนที่จะยื่นมาให้ฉัน “ …ว่าแต่พ่อแม่แกให้มาอยู่คอนโดแล้วหรือยัง? ” 

    “ อืมม ให้มาอยู่แล้วแหละ แต่เราก็ไม่เข้าใจว่าทำไมพ่อกับแม่ไม่ให้เราไปดูห้องก่อน ” และวันนี้ก็เป็นวันแรกที่ฉันจะต้องเข้าไปอยู่คอนโดด้วยโดยที่พ่อและแม่ของฉันไม่ได้พาฉันไปดูเลยสักนิดเดียว แถมแม่ยังบอกว่าระหว่างที่ฉันเรียนอยู่จะมีคนขนของของฉันไปอยู่ที่คอนโดอีกด้วย

    “ อ๋ออ งั้นเราขอไปอยู่ด้วยดิเดี๋ยวช่วยหารเงินค่าคอนโดกับแกด้วย ” ห้ะ!?

    “ แค่กๆ ” ฉันสำลักกับประโยคที่เจโน่พูออกมา

    “ โอ๊ะๆ เอาน้ำก่อนไหม? ” เจโน่รีบเปิดฝากระปุกน้ำแล้วเปิดให้ฉัน

    “ แค่กๆ ขอบคุณนะ… ” แต่เดี๋ยวนะนี่มันไม่ใช่กระปุกน้ำฉันนี่! “ …โน่ นั้นมันไม่ใช่กระปุกน้ำเรานี่ ” 

    “ ไม่เห็นจะเป็นไรเลย ก็'เพื่อน'กันนี่เนาะ ” ว่าจบไอโน่มันก็กระดกน้ำที่ฉันเพิ่งจะดื่มไปเมื่อกี๊

    เพื่อนที่ไหนเขาดื่มน้ำขวดเดียวกันวะ? เจโน่…

    “ อะ…อืม เรารีบไปกันเถอะใกล้ได้เวลาเข้าแถวแล้ว ” ฉันพูดก่อนที่จะเก็บหนังสือเข้ากระเป๋า และสะพายกระเป๋าแล้วลุกขึ้นเตรียมเดินไปเข้าแถว

    “ ฮึ้บ! ”

    “ … ” ฉันเดินนำหน้าเจโน่ไปเมื่อเห็นว่ามันลุกขึ้นแล้ว

    “ (ชื่อคุณ)อาาา ยังไม่ตอบคำถามเราเลยนะ ” โน่เดินมาขนาบข้างฉัน

    “ อะไรหรอ? ”

    “ ก็ที่เราขอไปอยู่กับแกที่คอนโดไง? ”

    “ ขอคิดดูก่อน เพราะเราเป็นผู้หญิงส่วนแกเป็นผู้ชาย ” 

    “ เราให้เวลาแกคิด ห้าโมงเย็นนะ!! ” ห๊ะ!!! 

    “ ไอโน่! เราขอเวลาหน่อยไม่ได้หรอ? ” 

    “ หื้มๆ อะไรนะ? ” ไอโน่ทำเป็นไม่ได้ยินฉัน 

    “ เห้อออออ ”

    “ ไม่รู้แหละ ห้าโมงเย็นแกต้องให้คำตอบเรานะ เราไปเข้าแถวล่ะ ตั้งใจเรียนนะคะ ” เจโน่ลูบหัวฉันก่อนที่จะรีบเดินไปเข้าแถวของตนเอง แถมยังปล่อยให้ฉันยืนเอ๋อคนเดียวอีกด้วย

    ออ!! ฉันลืมบอกไปค่ะว่าฉันและเจโน่อยู่คนละห้องกัน ฉันน่ะเรียนสายศิลป์-ภาษาญี่ปุ่นอยู่ห้อง6 ส่วนนายเจโน่เรียนสายวิทย์-คณิตอยู่ห้อง2

     

     

     

    พักเที่ยง

     

    “ มาช้า ” 

    “ ก็เซ็นเซเพิ่งปล่อยอ่ะ ” เมื่อมาถึงโรงอาหารเจโน่ที่นั่งจองโต๊ะให้ฉันอยู่แล้วก็บ่นฉัน

    “ อ่ะนี่ เราซื้อข้าวเผื่อแกแล้ว ” เจโน่เลื่อนจานข้าวผัดกะเพรามาให้ฉัน

    “ อื้ม ขอบคุณนะ นี่ค่าข้าว ” ฉันยื่นเงินค่าข้าวไปให้เจโน่

    “ ไม่ต้องหรอก เก็บไว้ซื้อหนังสือเถอะ จะได้อ่านกับโน่บ่อยๆ ” เจโน่ยื่นมือมาแตะที่หัวฉันเบาๆ

    “ แต่— ”

    “ เจโน่ บีมขอนั่งด้วยได้ไหมพอดีว่าโต๊ะอื่นเต็มหมดแล้ว ” ฉันที่กำลังจะพูดอะไรบางอย่าง จู่ๆก็มีผู้หญิงผมยาวแต่งหน้าบางๆ มายืนอยู่ที่โต๊ะของเราพร้อมกับถือจานข้าวมาด้วย พร้อมกับส่งสายตาออดอ้อนให้เจโน่

    “ ได้สิคะ ” ทุกคนนน ดูไอโน่มันพูด!! จากที่มันไม่เคยพูดคะขามันก็พูดและก็มันไม่เคยมผู้หญิงคนไหนเข้าหามันก่อนอีกด้วย

    “ ฮิฮิ ขอบคุณนะคะโน่ ”

    “ บีม เรายังไม่สนิทกันอย่าเรียกเราว่าโน่ได้ไหมคะ ” ใช่ค่ะ เจโน่จะให้เรียกมันว่าโน่ก็ต่อเมื่อมันสนิทเท่านั้น! แล้วนี่เพิ่งรู้จักกันวันแรกแต่ไปเรียกเขาว่าโน่เฉย

    “ ก็ได้ค่ะ… ” คนชื่อบีมเบ้ปากออกมาเล็กน้อยเชิงไม่พอใจก่อนที่จะลากสายตามาหาฉันที่กำลังจ้องท่าทีของสองคนนั้นอยู่ “ …ว่าแต่นี่ใช่เพื่อนเจโน่ไหม? ” 

    “ ใช่ค่ะ นี่เพื่อนเราเองชื่อ(ชื่อคุณ) ”

    “ อ๋อออ สวัสดีเราชื่อบีมนะ เป็นเพื่อนร่วมห้องของเจโน่ แล้วเธออยู่ห้องอะไรหรอ? ” บีมหันมาถามฉันด้วยรอยยิ้ม

    “ เรา(ชื่อคุณ)นะ เราอยู่ห้อง6 ยินดีที่ได้รู้จักนะ ” ฉันส่งยิ้มบางๆไปให้บีมก่อนที่จะก้มหน้ากินข้าวต่อ

    “ เธออยู่ศิลป์ญี่ปุ่นหรอ? ”

    “ ใช่แล้ว ”

    “ งั้นตอนเที่ยงเรามานั่งกินข้าวแบบนี้ด้วยกันอีกได้ไหม พอดีว่าบีมไม่มีเพื่อนน่ะ ”

    “ คือว่า—- ” เจโน่กำลังจะเปิดปากพูด

    “ ได้สิ อีกอย่างเธอกับเจโน่จะได้สนิทกันเร็วขึ้นด้วย ” เจโน่ที่กำลังจะเปิดปากพูดแต่คำพูดของเจโน่ก็หายไปเพราะฉันชิงพูดตัดหน้าเจโน่ซะก่อน

    “ หื้มมม ขอบคุณนะ(ชื่อคุณ) ” 

    บีมส่งยิ้มมาให้ฉันและก้มกินข้าวต่อแบบมีความสุขแต่พอฉันเคลื่อนสายตาไปมองที่เจโน่ก็พบว่าเขากำลังส่งสายตาดุๆมาให้ฉันอย่างไม่พอใจ เมื่อเห็นดังนั้นฉันจึงรีบก้มหน้ากินข้าวต่อเพื่อหลบสายอันน่ากลัวคู่นั้นของเจโน่ 

     

     

     

     

    15.23 น.

     

    ตอนนี้เป็นเวลาเลิกเรื่องแล้วแต่ฉันก็ยังนั่งอยู่ในห้องกับเจโน่สองคนเพราะฉันยังไม่อยากกลับคอนโดจึงมานั่งทำการบ้านภาษาญี่ปุ่นที่เซ็นเซสั่งเมื่อก่อนจะจบคาบเรียนสุดท้าย และอีกอย่างพอฉันไปถึงคอนโดจะได้พักผ่อนเต็มที่

    “ จะให้คำตอบโน่ได้ยัง? ” 

    “ หื้อ? ” 

    “ เราอยากไปอยู่กับแกที่คอนโดอ่าาา ” เจโน่นั่งเท้าคางมองฉันพร้อมกับทำตาปริบๆเพื่อเอาคำตอบจากฉัน

    “ ขอถามแม่ก่อน ” 

    “ ถามเร็วๆๆๆๆ ” 

    “ เฮ้ออออ ” ฉันพรูลมหายใจอยากแรงก่อนที่จะหยิบโทรศัพท์เพื่อกดโทรหาแม่ทันที

     

    ในสาย

    “ (ว่าไงจ๊ะลูกสาวว) ”

    “ แม่ คือว่าไอโน่อยากมาอยู่คอนโดกับหนูอ่ะแม่ ”

    “ (อ่าห้ะ) ”

    “ นี่แม่ไม่ตกใจหน่อยหรอแม่? ”

    “ (ฮ่าๆ เจ้าโน่ยังไม่บอกลูกอีกหรอว่าแม่ของเจ้าโน่ก็จะให้อยู่คอนโดกับหนูเหมือนกัน) ” ห๊ะ!!

    ทันทีที่ฉันได้ยินประโยคที่แม่พูดฉันจึงหันไปมองไอโน่ที่กำลังนั่งเท้าคางและยิ้มน้องยิ้มใหญ่อยู่คนเดียว

    “ ทำไมไอโน่ไม่เห็นได้บอกอะไรหนูเลยอ่ะ ”

    “ (แล้วแม่จะไปรู้ไหมล่ะ หึ๊? เอ่อ! แล้วก็รีบกลับคอนโดด้วยนะ พี่ๆเขาลงของให้หนูกับเจ้าโน่แล้ว) ”

    “ โอเคค่ะแม่ หนูทำการเสร็จแล้วจะรีบกลับคอนโดนะแม่ ”

    “ (จ้าๆกินข้าวเยอะๆนะทั้งหนูแล้วก็เจ้าโน่เลย) ”

    “ แค่นี้ก่อนนะคะแม่ ”

    “ (จ้าา) ” 

    ตรู๊ดด

     

    “ ไอโน่! ” เมื่อวางสายกับแม่ฉันก็รีบหันไปมองไอโน่อย่างคาดโทษ

    ขา ว่าไงคะ? ” ยังจะมาทำตัวแพรวพราวใส่อีก หึ้ยย!!

    คนมันเขินเป็นนะเฟ้ยยย!!

    “ แกรู้ตั้งแต่แรกแล้วทำไมไม่บอกเราอ่ะ! ”

    “ เซอร์ไพรส์ไง ” ไอโน่มันทำท่าเซอร์ไพรส์

    “ หึ้ยย!! ” ด้วยความหมั่นไส้ฉันจึงบีบจมูกโน่แรงๆทีนึง

    “ โอ้ยยย มันหายใจไม่ออกนะคะ ”

    “ แบร่!! ” ฉันแลบลิ้นให้เจโน่ก่อนที่จะก้มหน้าทำการบ้านต่ออย่างไม่สนใจเจโน่ที่กำลังบ่นเป็นภาษาซามอยด์ให้ฉันฟังอยู่

     

     

    16.57 น.

     

    “ ก่อนหน้านี้แกได้มาดูคอนโดยัง? ” ระหว่างทางที่ฉันกับเจโน่เดินกลับไปที่คอนโดฉันก็เอ่ยถามเจโน่ด้วยความสงสัย

    “ มาดูแล้วแหละ แล้วเราเป็นคนเลือกห้องเองด้วย ” เอ้า! นี่ก็คิดว่าไม่แม่ฉันก็แม่เจโน่เป็นคนเลือก

    “ จริงดิ ” 

    “ เรารับรองว่าแกต้องชอบมากแน่ๆ ”

    “ ต้องไปดูก่อนนน… ” ฉันเงียบไปแค่แปปเดียวจู่ๆมันก็มีอีกคำถามนึงที่มันผุดขึ้นมาคือ.. “ …ว่าแต่มันมีกี่ห้องนอน? ”

    “ ห้องเดียวค่ะ:) ”

    “ ห๊ะ!!! แกก็รู้ว่าเราอยู่กันสองคนอ่ะทำไมแกไม่เลือกที่มันมีสองห้องอ่ะ แล้วจะให้ฉันอยู่ห้องเดียวกับแกนี่นะ เหอะ! ไม่เอาหรอกนะ!! ถ้ารู้งี้ฉันอยู่บ้านกับพ่อแม่ดีกว่า!! ” ฉันรีบบ่นออกมาอย่างยืดยาวแต่คนที่โดนบ่นนั้นกลับทำหน้ายิ้มแย้มแบบไม่สะทกสะท้านอะไรเลย

    “ ฮ่าๆๆ แกเขินหรอ? ”

    “ บะ…บ้าเปล่าใครเขิน!? อะไรเนี่ยแกจะมารู้ควา—- ”

    “ ชู่ววว เงียบแล้วฟังโน่ก่อนนะคะ ” เจโน่เข้ามาคล้องคอฉันอย่างถือวิสาสะก่อนที่จะบอกให้ฉันหยุดพูดเพื่อฟังเขา

    “ … ”

    “ โน่ไม่ได้เลือกห้องที่มีห้องนอนเดียวสักหน่อย โน่แค่แกล้ง(ชื่อคุณ)เฉยๆ ที่จริงมันมีสองห้อง ”

    “ ไอบ้า!! เอาแขนแกออกไปเลยนะมันหนัก! ”

    “ แล้วก็อีกอย่างเวลาแกเขินอ่ะ โคตรน่ารักเลย ”

    “ อะ…อะไรอ่ะ ก็บอกอยู่ว่าไม่ได้เขิน!! จะให้ฉันต้องบอกแกกี่รอบอ่ะ—- ” และฉันก็ต้องเงียบลงโดยฝีมือเจโน่อีกแล้วเพราะว่าคราวนี้มันเอามือมาปิดปากฉัน

    “ เนี่ยๆเวลาแกเขิน แกจะพูดมากบวกกับหน้าขึ้นสีเป็นลูกมะเขือเทศ ” เจโน่มันส่งยิ้มให้ฉันอย่างเอ็นดู และหลังจากนั้นระหว่างเดินทางกลับคอนโดฉันก็บ่นนู้นบ่นนี่ไปเรื่อยตามปะสาคนขี้บ่นโดยที่มีไอโน่เป็นสนามอารมณ์ให้ฉัน

    แต่ฉันว่าคอนโดกับโรงเรียนก็ไม่ได้ไกลนักหรอกแค่เดิน10นาทีก็ถึงแล้ว อย่างนี้แหละยิ่งดีเลยเพราะฉันขี้เกียจนั่งรอรถโคตรๆ

     

     

     

     

     

     

     

     

    18.10 น.

     

    ก๊อกๆ

    “ (ชื่อคุณ)มากินข้าวได้แล้ว ” 

    ผมเรียกยัยเพื่อนตัวเล็กของผมที่อยู่ในห้องนอนส่วนตัว หลังจากที่ผมและเธอแยกย้ายกันไปขนย้ายข้าวของตัวเอง ยัยเพื่อนของผมก็รีบเข้าห้องน้องตัเองอย่างรวดเร็ว ส่วนผมก็เดินลงมาที่มินิมาร์ทที่อยู่ตรงข้ามคอนโดเพื่อซื้อวัตถุดิบมาทำหารสำหรับมื้อค่ำนี้

    เอาจริงๆผมน่ะไม่อยากเป็นเพื่อนกับเธอสักเท่าไหร่หรอกเพราะผมนั้นก็แอบชอบเธอมานานมากกกก ตั้งแต่เรารู้จักกันตั้งแต่ประถมเลยล่ะ แถมเธอยังเป็นเพื่อนที่ผมสนิทมากที่สุดซะด้วย ตั้งแต่ประถมจนถึงม.ต้นผมจะชอบใส่แว่นหนาเตอะส่วนเธอก็จะเป็นคนที่ไม่สนโลกและเป็นคนที่นเงียบมากๆ แบบว่าถามคำตอบคำ และมันมีอยู่เหตุการณ์หนึ่งที่ทำให้ผมและเธอมาสนิทกันได้เพราะแม่ผมกับแม่เธอเป็นเพื่อนสนิทกันครับ เลยทำให้เราสองคนรู้จักและเล่นด้วยกันอยู่เป็นประจำ

    “ โอเคคคค ” ยัยตัวแสบเดินออกมาจากห้องตัวเองโดยที่ใส่แว่นถือไอแพดออกมาด้วย แถมยังมองหน้าจอไอแพดโดยที่ไม่วางตาอีกด้วย 

    เดี๋ยวก็ล้มหรอก!ไอตัวเล็กเอ้ย!

    “ หยุดดูก่อนแล้วค่อยเดินก็ได้เดี๋ยวก็สะดุดล้มหรอก ”

    “ … ” เงียบ…ไม่มีสัญญาณตอบกลับแถมยังเดินผ่านหน้าผมไปอีกด้วย เธอเดินตรงไปทางห้องครัวเพื่อไปกินข้าวโดยที่สายตายังคงจดจ้องไปที่หน้าจอไอแพด

    “ (ชื่อคุณ) ” 

    “ หื้อ? ” ผมเรียกเธอเมื่อเธอนั่งลงบนโต๊ะแล้วกำลังตั้งไอแพด

    “ หยุดดูแล้วมากินข้าวก่อน แล้วค่อยกินไปดูไปก็ได้ ”

    “ ก็ได้ค่ะ พ่ออออ ” เธอทำตามผมอย่างว่าง่ายก่อนที่จะลงจากเก้าอี้ตัวสูงแล้วลงไปตักข้าวใส่จานตัวเองแล้วกลับมานั่งที่เดิมก่อนที่จะเปิดไอแพดที่เธอดูอนิเมะค้างไว้อยู่

    ส่วนผมก็ส่ายหัวให้กับคนตรงหน้าที่ติดอนิเมะก่อนที่ตัวเองจะเดินไปตักข้าวมากิน

    “ :) ” และในระหว่างที่กินข้าวกันนั้น(ชื่อคุณ)ก็ได้อมยิ้มเขินให้กับตัวละครในอนิเมะอย่างชอบใจจนไม่สนใจผมที่นั่งกินข้าวตรงข้ามกับเธอ

    ผมเนี่ยย!! อยากจะสารภาพรักกับเธอมากเลยนะถ้าไม่ติดตรงที่เธอเคยบอกกับผมว่า‘อยากได้ผู้ชายในอนิเมะมาเป็นแฟน’ กับ ‘ไม่มีใครดีเท่าผู้ชายในอนิเมะแล้ว’ เนี่ยแล้วผมนี่ไม่หล่อหรือไงวะ?ทำไมเธอถึงได้หลงนักหลงหนากับผู้ชาย2D

    “ (ชื่อคุณ)! ”

    “ หะ…ห๊ะ ว่าไง? ” เธอกดหยุดก่อนที่จะหันหน้ามามองผมตาแป๋ว

    “ ระหว่างเรากับคนนั้นใครหล่อกว่ากันคะ? ” ผมชี้ไปที่จอไอแพด ถึงแม้ว่าผมจะไม่เห็นภาพที่หน้าจอก็ตาม

    “ ของแบบนี้มันแน่นอนอยู่แล้ว ”

    “ เราหล่อกว่าใช่ไหมคะ ”

    “ ก็ต้องเป็นคนในจออยู่แล้ว! ฮ่าๆ ” เธอหัวเราะชอบใจ ส่วนผมก็เบ้หน้าใส่เธอ

    ครั้งนี้ถือได้ว่าเป็นครั้งแรกที่เราได้มาอยู่ด้วยกันโดยที่ไม่มีผู้ใหญ่คอยจับตามอง ผมที่รู้ว่าเธอติดอนิเมะแต่ไม่ติดขนาดนี้!สงสัยอยู่ที่บ้านเธอคงจะเป็นแบบนี้แหละ

    “ กินข้าวเสร็จแล้วเรามาดูหนังกันไหม? ”

    “ อื้ม! เอาสิแต่เราขอดูเรื่องนี้ให้จบสองตอนก่อน ” 

    “ โอเคค่ะ ”

    หลังจากที่ผมและเธอกินข้าวล้างจานกันเสร็จเรียบร้อยแล้วพวกเราทั้งสองคนก็มาดูหนังกันที่ห้องนั่งเล่น เมื่อหนังฉายจบพวกเราก็แยกย้ายกันเข้านอน

     

     

     

     

    1 อาทิตย์ต่อมา…

     

    “ เจโน่! สวัสดีตอนเช้านะ ” ระหว่างทางที่ฉันกับไอโน่กำลังเดินเข้ามาที่โรงเรียนจู่ๆบีมก็วิ่งมาเกาะแขนไอโน่มันเฉยเลย

    “ อืม หวัดดีค่ะ ” 

    “ โอ๊ะ! สวัสดีนะ(ชื่อคุณ) ” 

    “ อืมม สวัสดีจ้ะ ”

    “ เจโน่ ขอบคุณนะที่เมื่อคืนช่วยสอนการบ้านฟิสิกส์ให้บีมน่ะ ถ้าบีมไม่ได้เจโน่นะบีมตายแน่ๆเลย ” บีมพูดกับโน่นะแล้วทำไมต้องหันมามองฉันด้วย

    “ ไม่เป็นไร เรื่องแค่นี้เองค่ะ ” 

    “ น่ารักกก ” ฉันแอบกรอกตามองบนเพราะสองคนนั้นคุยกันจนไม่สนใจฉันเลย แล้วฉันรู้สึกว่าพักนี้บีมตามโน่อย่างกับปลิง เอาง่ายๆก็คือ…มีโน่ที่ไหนมีบีมที่นั่น ส่วนฉันเนี่ยกลายเป็นอากาศไปแล้วมั้ง

    “ โน่ ”

    “ ขาา ”

    “ คือเราต้องไปหาเซ็นเซที่ห้องอาเซียนน่ะ ” ที่จริงเซ็นเซไม่ได้เรียกหรอก แต่แค่อยากไปจากสองคนนี้เท่านั้นเองเพราะตั้งแต่ที่มีบีมเข้ามาฉันกับโน่ก็ไม่ค่อยคุยกัน(หมายถึงตอนอยู่โรงเรียนนะคะ) 

    “ ให้โน่ไปเป็นเพื่อนไหมคะ? ” 

    “ เออ!! เจโน่พาเราไปส่งงานของวิชาเคมีหน่อยสิ นะคะ ” ฉันที่ยังไม่ทันได้อ้าปากบีมก็พูดขึ้นมาก่อน 

    “ แกก็ไปกับบีมสิ อยู่ห้องเดียวกันไม่ใช่หรอ? ”

    “ แต่ว่า--- ” 

    “ เราไปเองได้ ส่วนแกก็ไปกับบีมเลย ” เจโน่พยักหน้าตอบฉัน

    “ เราไปกันเถอะค่ะ เจโน่ ” 

    ว่าจบบีมก็เกาะแขนแล้วลากเจโน่ออกไป ก่อนที่เราทั้งสามจะแยกกันฉันเห็นสายตาของเจโน่มองนิ่งมาที่ฉันแล้วหันหลังให้ฉันเพื่อเดินไปตามบีม ถึงแม้ว่าฉันจะะเป็นเพื่อนกับมันมานานแล้วแต่ฉันก็ไม่เคยอ่านสายตาของเจโน่ออกเลยสักนิด

    แต่ฉันมีความรู้สึกว่าโน่มันก็ดูชอบบีม…เพราะฉะนั้นฉันเลยคิดว่าปล่อยให้พวกเขาอยู่กันไปสองคนดีกว่า อีกอย่างฉันก็ไม่อยากที่จะเป็นอากาศสำหรับพวกเขาอีกด้วย…

     

     

     

     

    TALK;N

    เฟื่อน พเื่อน สะกดยังไงหรอ???

    เรื่องราวจะเป็นยังไงต้องรอติดตามตอนที่สองนะคั้บ!ทุกคนนนน!

    ปล. เซ็นเซ ในภาษาญี่ปุ่นแปลว่า ครู , อาจารย์

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×