ลำดับตอนที่ #19
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #19 : {บทสับ} รอบที่สอง บทวิจารณ์จากท่านปันจี้
ชื่อเรื่องที่สับ : กาลดับสูญ
ด้านที่เลือกสับ : โครงเรื่อง การดำเนินเรื่อง ภาษา และความประทับใจ (เอาแม่มหมด 555+)
เนื้อหาที่สับ
สวัสดีอีกครั้งครับท่านคันดะผู้น่ารัก และเพื่อไม่ให้เป็นการเสียเวลา
เรามาดูกันเลยดีกว่าว่าผมจะสับอะไรท่านได้บ้าง
คำวิจารณ์ด้านโครงเรื่อง
ด้านโครงเรื่องเนื้อหาดีครับ ผมคิดว่าผมเข้าใจตรงกับท่านว่าท่านต้องการจะสื่อถึงอะไร
ซึ่งก็ถือว่าท่านกล้าดีที่เล่นเรื่องแนวนี้ สงครามสีขาว-ดำ
ซึ่งสุดท้ายทั้งสองต่างชโลมไปด้วยเลือดโดยที่มีแบ็คกราวน์เป็น Sky Fall
แต่ก็ต้องขอติงก่อนอย่างแรกครับว่าเนื้อเรื่องค่อนข้างจะเยิ่นเย้อมาก เอาจริงๆ
ประเด็นของมันก็มีอยู่ไม่มากนัก แม้เนื้อหาจะกินใจ แต่ลดความเยิ่นเย้อลงสักนิดเถิดน่าจะดีกว่านี้
สิ่งหนึ่งที่ผมฉุกคิดคือ “แล้วเหตุผลล่ะ” อะไรเป็นสาเหตุให้เม็ดสีค่อยๆ เลือนหายไปจากโลก
อะไรคือสาเหตุที่ทำให้ท้องฟ้าปริแตก ท่านอาจจะคิดว่าในส่วนนี้ให้คนอ่านไปคิดเองก็ได้ หรือว่า
มันคงไม่จำเป็นที่จะต้องใส่เข้ามา แต่โดยส่วนตัวผมว่ามันเหมือนมีอะไรบางอย่างขาดหายไปครับ
ถ้ายังไงช่วยรับไปพิจารณาด้วยแล้วกันนะครับ
อีกสิ่งหนึ่งคือ ท่านเล่นกับเหล่าคนหนุ่มสาวผู้เชื่อมั่นที่จะนำพาเอาสีสันกลับมา
แต่ก็บอกว่าไม่มีใครกลับมาได้ ด้วยอาจลุ่มหลงในสีสันหรืออะไรก็แล้วแต่ จากนั้นท่านก็ทิ้งไปเลย
นั่นทำให้ผมร้องห๊ะ! ดังๆ ก่อนจะคิดว่า “จบแล้ว...แค่เนี๊ย?” คือ...มันก็อาจจะจบในสิ่งที่ท่านจะสื่อ
แต่โดยความรู้สึกผมเหมือนมันยังไม่จบ
หรือผมอาจจะคิดไปเองอันนี้รอกรรมการท่านอื่นออกความเห็นดีกว่าครับ
คำวิจารณ์ด้านการดำเนินเรื่อง
ในด้านการดำเนินเรื่องก็ถือว่าถูกต้องตามกฎกติกาที่ทางกรรมการได้กำหนดไว้
ไม่มีบทสนทนาใดเลยทั้งสิ้น ก็โอเค...
มีการใช้วลีซ้ำเพื่อให้ถ้อยคำฝังลึกลงในจิตใจของผู้อ่านก็ถือว่าท่านเล่นคำได้ดีครับ แต่ก็อยากให้เพลาๆ
หน่อยนิดนึง ไม่อยากให้เล่นมากไปนักเพราะอาจทำให้ผู้อ่านเบื่อหรือรำคาญได้
ปล. แอบอยากรู้นิดนึง ไอ้คนเล่านี่มันใครหรือครับ 555+
เพราะเล่าเหมือนอยู่ในเหตุการณ์แต่กลับไม่มีท่าทีวิตกหวาดกลัวสิ่งใดเลย
และเท่าที่อ่านดูก็ไม่ใช่พระเจ้าเล่าด้วย หรือผู้เล่าอาจจะปลงชีวิตแล้วก็เป็นได้ =w=
คำวิจารณ์ด้านภาษา
เรื่องนี้ภาษาสวยครับ สวยแบบเฟร่อร์ๆเลย ผมชอบนะ
หากแต่มันช่างอืดดดดดดดเสียจนหอยทากเรียกคุณพ่อ
ยิ่งรวมกับเหล่าหมู่มวลอักษรที่เรียงชิดติดกันเป็นพรืด
ซึ้งตรงนี้ผมก็คิดแล้วคิดอีกก็ยังไม่เข้าใจว่าท่านต้องการสิ่งใดจากกรรมการ
และกรรมการอย่างผมจะทำอะไรให้ท่านได้บ้าง
ยังมีหลุดพิมพ์ตก พิมพ์ผิดอยู่บ้าง เช่น “ตัวสั่นงักงก” “ของเหลวหนือเหนียว” “เมื่อหนึ่งไม่พอย่อต้องสอง”
“เคยสร้างได้กระทั่งพระเจ้า ตายซาก” ขณะที่ผมกำลังอ่านอยู่เพลินๆ จู่ๆ ก็มีตายซากโผล่มา
จริงอยู่ครับว่ามันรับกับประโยคหลัง แต่เล่นเอามาใส่หลังจากเคยสร้างกระทั่งพระเจ้านี่
เล่นเอาผมเปลี่ยนอารมณ์ไม่ทันเลยทีเดียว
คำวิจารณ์ด้านความประทับใจ
ประทับใจครับ ประทับใจจนน้ำตาไหลพรากๆ เลยทีเดียว
นี่พวกท่านทั้งสองรวมหัวกันแกล้งกรรมการสินะครับ!
อย่าหาว่าอย่างนั้นอย่างนี้เลยนะท่าน มันเป็นความชอบส่วนตัวน่ะครับที่ได้เห็นอะไรสีแดงๆ
ยิ่งตอนท้ายๆ ผู้คนที่ถูกกลืนกัดด้วยสีขาวดำ พวกเขารุมฉีกทึ้งกระชากร่าง
ผมกำลังจินตนาการถึงหนังซอมบี้หลายๆ เรื่อง ก็ฟินดีเหมือนกันนะ
มันเกือบจะสมบูรณ์แบบแล้วท่านถ้าไม่ติดที่การจัดหน้าของท่านที่เรียงกันมาเป็นพรืดประดุจอยากจะพิฆา
ตเหล่ากรรมการให้มลายสิ้น ไม่ทราบว่าพวกผมไปทำให้ท่านขุ่นข้องหมองใจหรือไร
สรุปแล้วเมื่อเปรียบเทียบเรื่องนี้กับเรื่องแรกที่ท่านส่งในกิจกรรม Judge Games
ผมค่อนข้างจะชอบอันนี้มากกว่า หากแต่ด้วยเนื้อหาที่มันค่อนข้างอืด
คำพูดก็ซ้ำไปซ้ำมาซึ่งก็เป็นได้ทั้งข้อดีและข้อเสีย
บวกกับการจัดหน้าที่แทบจะเหมือนกับเอาพจนานุกรมราชบัณฑิตฯ มาฟาดหน้ากรรมการ
ผมจึงขอนิมนต์หลวงพี่คันกลับไปจำพรรษาที่วัดเสียเถิด จะได้ไม่เป็นภาระแก่ลูกหลาน
ชื่อเรื่องที่สับ : การสังเคราะห์ความว่างเปล่า
ด้านที่เลือกสับ : โครงเรื่อง การดำเนินเรื่อง ภาษา และความประทับใจ (เอาแม่มหมด 555+)
เนื้อหาที่สับ
สวัสดีอีกครั้งครับท่านซุงเคสุดหล่อ และเพื่อไม่ให้เป็นการเสียเวลา
เรามาดูกันเลยดีกว่าว่าผมจะสับอะไรท่านได้บ้าง
คำวิจารณ์ด้านโครงเรื่อง
แอบสงสัยว่าพลอตเรื่องท่านได้มาจาก Attack on Titan หรือไร =w=
เปิดเนื้อเรื่องมา มนุษย์ยังคงต้องต่อสู้แย่งชิงบางสิ่งบางอย่างอยู่
ผมอ่านจนถึงจบเรื่องก็ยังตีไม่แตกว่าแย่งชิงอัลไลกัน
“พันธมิตรจักหาดาบเข้าหาเราเพื่อก่อการกบฏ” จะสื่ออัลไลกันท่าน ผมเชื่อมเรื่องราวไม่ได้เลยจริงๆ
ถึงท่านจะอธิบายได้ว่ามันเกี่ยวโยงกับเนื้อเรื่องตรงไหน แต่สิ่งที่ผมอยากบอกคือ...
เนื้อเรื่องที่ท่านเขียนมันก็หนักอยู่แล้ว อย่าได้ทำให้การตีความมันหนักไปมากกว่านี้เลยเถิด
ขอนอกเรื่องนิดนะท่าน ผมกำลังสงสัยว่านี่ขนาดมนุษย์ยังอยู่ยากขนาดนี้แล้วบรรดาสัตว์ป่า ต้นไม้
จะอยู่ได้อย่างไร ถ้ายังไงโปรดอธิบายที อย่าให้คนอ่านเกิดคำถามในใจเลย
ผมเดาว่า พอเราเปลี่ยนเป็นสิ่งมีชีวิตตัวเล็กที่อาศัยให้ในร่องช่องดิน
จากนั้นก็พบสิ่งมีชีวิตจากถิ่นอื่นที่รูปร่างเหมือนมนุษย์ เราจึงเข้าไปอาศัยในร่างนั้น นั่นคือท่านจะสื่อว่า
ไอ้สิ่งมีชีวิตตัวเล็กนี่คือแบคทีเรียสินะครับ แล้วมันก็จะวนลูปเป็น Circle of Life สินะ (ขอแอบบอกนิดว่า
ตรงนี้แหละ ผมโคตรชอบเลย)
“เรารู้สึกตื่นเต้นดีใจเป็นยิ่งนัก ด้วยพวกเราทั้งหลายต่างคิดถึง ‘ความเป็นมนุษย์’เสียเหลือเกิน”
อ้าว...ไหนท่านบอกหลงลืมความเป็นมนุษย์แล้ว?
คำวิจารณ์ด้านการดำเนินเรื่อง
ไม่รู้ว่าท่านซุงเคกับท่านคันดะนัดกันมาหรือไร ถึงได้ส่งเรื่องแนวปวดกบาลมาทำร้ายกรรมการกัน
สำหรับการดำเนินเรื่อง แน่นอนว่ามันค่อนข้างซับซ้อน ต้องใช้เวลาในการตีความอยู่เหมือนกัน
แต่ก็ไม่ถึงกับอ่านแล้วต้องไปผูกคอตาย ผมยังแอบคิดอยู่ว่า เอ...แล้วไอ้คนเล่าเรื่องนี่มันใครกันวะ?
แลดูจะรู้เรื่องตั้งแต่อดีตเป็นพันๆปีจนถึงปัจจุบันดีเหลือเกิน
นี่ถ้าตอนจบเป็นฉากผู้เล่าเรื่องเป็นครูสอนประวัติศาสตร์กำลังเลคเชอร์ให้นักเรียนผมคงได้ฮาตกเก้าอี้เป็
นแน่แท้
ส่วนการใช้ภาษาสมัยก่อนในการดำเนินเรื่องก็...ขอไปแขวะในส่วนของภาษาแล้วกันนะครับ
อ้อเกือบลืม เรื่องนี้มีการเปลี่ยนแปลงด้านเวลาเยอะมาก คือ...ก็แค่อยากจะเตือนไว้น่ะครับ
ถ้ายังไงเขียนอะไรที่มันแสดงไว้ชัดๆ ถึงเส้นแบ่งของเวลาในแต่ละช่วงก็ดีเหมือนกัน
เพราะบางจุดเล่นเอาผมบินตามไม่ทันกันเลยทีเดียว
คำวิจารณ์ด้านภาษา
สำหรับเรื่องภาษา สิ่งที่ผมสงสัยเหลือเกินคือ
มีความจำเป็นตรงไหนถึงต้องใช้ภาษาสมัยก่อนในการดำเนินเรื่องหรือท่าน
เพราะท่านที่อ่านดูเรื่องมันน่าจะเริ่มในสมัยปัจจุบันหรือไม่ก็ในอนาคตนี่แหละ
แล้วทำไมหนอผู้เล่าเรื่องถึงกลายเป็นคนยุคอดีตไปได้
“โลกหล้าอันเป็นสีฟ้าครามอร่ามจ้า” สะดุดครับ สุดุดสุดๆ! ผมจินตนาการไม่ออกเลยจริงๆ
ว่าสีฟ้าครามมันจะอร่ามจ้าได้เช่นไร
“แบคทีเรียนั้นมิได้ทำตนให้เกิดสารประโยคหรือโทษใดๆ”
ผมเพิ่งรู้ว่าแบคทีเรียสามารถแต่งประโยคที่มีสาระได้ =w=
“ก็ไม่ทางเกิดปัญหาได้” พิมพ์ตกนะครับ
คำวิจารณ์ด้านความประทับใจ
ประทับใจครับ ประทับใจจนน้ำตาไหลพรากๆ เลยทีเดียว
นี่พวกท่านทั้งสองรวมหัวกันแกล้งกรรมการสินะครับ!
จุดหนึ่งเลยที่ผมชอบเรื่องนี่คือท่านโยงเรื่องมันวนลูปได้อย่างแนบเนียน และการที่ท่านทำให้ผมฟินถึง
Attack on Titan ได้ มันก็...นะ (ได้โปรดอย่า”งง”เพราะในส่วนความประทับใจ มันหาเหตุผลไม่ได้หรอก
555+) ถึงเนื้อเรื่องจะชวนให้ปวดเศียรเวียนเกล้าอยู่บ้าง
คือ...มันก็ไม่ได้เข้าใจยากอะไรมากมายหรอกนะครับ
แต่ด้วยความที่คนอย่างปันจี้ไม่เคยอ่านอะไรหนักหัว พอมาเจออะไรแนวๆ นี้จึงทำให้สมอง word 98
ของผม error ไปบ้าง
จักขอกล่าวโดยสรุป แม้นตัวข้าจะชื่นชอบโครงเรื่องของเจ้ามากเพียงไร
แต่ด้วยภาษาที่เจ้าใช้เขียนซึ่งทำให้ตัวข้านั้นคิดมิตกว่าเหตุใดกันถึงต้องใช้ภาษาเยี่ยงนี้
อีกทั้งยังมีอยู่บางจุดที่ทำให้ข้านั้นสะดุดและต้องใช้เพลานานนักกว่าจักเข้าใจ
ด้วยเหตุนี้ข้าจึงขอพิพากษาเจ้าให้ตายตกตามดะจี้เมียรักของเจ้าด้วยประการฉะนี้แล
ด้านที่เลือกสับ : โครงเรื่อง การดำเนินเรื่อง ภาษา และความประทับใจ (เอาแม่มหมด 555+)
เนื้อหาที่สับ
สวัสดีอีกครั้งครับท่านคันดะผู้น่ารัก และเพื่อไม่ให้เป็นการเสียเวลา
เรามาดูกันเลยดีกว่าว่าผมจะสับอะไรท่านได้บ้าง
คำวิจารณ์ด้านโครงเรื่อง
ด้านโครงเรื่องเนื้อหาดีครับ ผมคิดว่าผมเข้าใจตรงกับท่านว่าท่านต้องการจะสื่อถึงอะไร
ซึ่งก็ถือว่าท่านกล้าดีที่เล่นเรื่องแนวนี้ สงครามสีขาว-ดำ
ซึ่งสุดท้ายทั้งสองต่างชโลมไปด้วยเลือดโดยที่มีแบ็คกราวน์เป็น Sky Fall
แต่ก็ต้องขอติงก่อนอย่างแรกครับว่าเนื้อเรื่องค่อนข้างจะเยิ่นเย้อมาก เอาจริงๆ
ประเด็นของมันก็มีอยู่ไม่มากนัก แม้เนื้อหาจะกินใจ แต่ลดความเยิ่นเย้อลงสักนิดเถิดน่าจะดีกว่านี้
สิ่งหนึ่งที่ผมฉุกคิดคือ “แล้วเหตุผลล่ะ” อะไรเป็นสาเหตุให้เม็ดสีค่อยๆ เลือนหายไปจากโลก
อะไรคือสาเหตุที่ทำให้ท้องฟ้าปริแตก ท่านอาจจะคิดว่าในส่วนนี้ให้คนอ่านไปคิดเองก็ได้ หรือว่า
มันคงไม่จำเป็นที่จะต้องใส่เข้ามา แต่โดยส่วนตัวผมว่ามันเหมือนมีอะไรบางอย่างขาดหายไปครับ
ถ้ายังไงช่วยรับไปพิจารณาด้วยแล้วกันนะครับ
อีกสิ่งหนึ่งคือ ท่านเล่นกับเหล่าคนหนุ่มสาวผู้เชื่อมั่นที่จะนำพาเอาสีสันกลับมา
แต่ก็บอกว่าไม่มีใครกลับมาได้ ด้วยอาจลุ่มหลงในสีสันหรืออะไรก็แล้วแต่ จากนั้นท่านก็ทิ้งไปเลย
นั่นทำให้ผมร้องห๊ะ! ดังๆ ก่อนจะคิดว่า “จบแล้ว...แค่เนี๊ย?” คือ...มันก็อาจจะจบในสิ่งที่ท่านจะสื่อ
แต่โดยความรู้สึกผมเหมือนมันยังไม่จบ
หรือผมอาจจะคิดไปเองอันนี้รอกรรมการท่านอื่นออกความเห็นดีกว่าครับ
คำวิจารณ์ด้านการดำเนินเรื่อง
ในด้านการดำเนินเรื่องก็ถือว่าถูกต้องตามกฎกติกาที่ทางกรรมการได้กำหนดไว้
ไม่มีบทสนทนาใดเลยทั้งสิ้น ก็โอเค...
มีการใช้วลีซ้ำเพื่อให้ถ้อยคำฝังลึกลงในจิตใจของผู้อ่านก็ถือว่าท่านเล่นคำได้ดีครับ แต่ก็อยากให้เพลาๆ
หน่อยนิดนึง ไม่อยากให้เล่นมากไปนักเพราะอาจทำให้ผู้อ่านเบื่อหรือรำคาญได้
ปล. แอบอยากรู้นิดนึง ไอ้คนเล่านี่มันใครหรือครับ 555+
เพราะเล่าเหมือนอยู่ในเหตุการณ์แต่กลับไม่มีท่าทีวิตกหวาดกลัวสิ่งใดเลย
และเท่าที่อ่านดูก็ไม่ใช่พระเจ้าเล่าด้วย หรือผู้เล่าอาจจะปลงชีวิตแล้วก็เป็นได้ =w=
คำวิจารณ์ด้านภาษา
เรื่องนี้ภาษาสวยครับ สวยแบบเฟร่อร์ๆเลย ผมชอบนะ
หากแต่มันช่างอืดดดดดดดเสียจนหอยทากเรียกคุณพ่อ
ยิ่งรวมกับเหล่าหมู่มวลอักษรที่เรียงชิดติดกันเป็นพรืด
ซึ้งตรงนี้ผมก็คิดแล้วคิดอีกก็ยังไม่เข้าใจว่าท่านต้องการสิ่งใดจากกรรมการ
และกรรมการอย่างผมจะทำอะไรให้ท่านได้บ้าง
ยังมีหลุดพิมพ์ตก พิมพ์ผิดอยู่บ้าง เช่น “ตัวสั่นงักงก” “ของเหลวหนือเหนียว” “เมื่อหนึ่งไม่พอย่อต้องสอง”
“เคยสร้างได้กระทั่งพระเจ้า ตายซาก” ขณะที่ผมกำลังอ่านอยู่เพลินๆ จู่ๆ ก็มีตายซากโผล่มา
จริงอยู่ครับว่ามันรับกับประโยคหลัง แต่เล่นเอามาใส่หลังจากเคยสร้างกระทั่งพระเจ้านี่
เล่นเอาผมเปลี่ยนอารมณ์ไม่ทันเลยทีเดียว
คำวิจารณ์ด้านความประทับใจ
ประทับใจครับ ประทับใจจนน้ำตาไหลพรากๆ เลยทีเดียว
นี่พวกท่านทั้งสองรวมหัวกันแกล้งกรรมการสินะครับ!
อย่าหาว่าอย่างนั้นอย่างนี้เลยนะท่าน มันเป็นความชอบส่วนตัวน่ะครับที่ได้เห็นอะไรสีแดงๆ
ยิ่งตอนท้ายๆ ผู้คนที่ถูกกลืนกัดด้วยสีขาวดำ พวกเขารุมฉีกทึ้งกระชากร่าง
ผมกำลังจินตนาการถึงหนังซอมบี้หลายๆ เรื่อง ก็ฟินดีเหมือนกันนะ
มันเกือบจะสมบูรณ์แบบแล้วท่านถ้าไม่ติดที่การจัดหน้าของท่านที่เรียงกันมาเป็นพรืดประดุจอยากจะพิฆา
ตเหล่ากรรมการให้มลายสิ้น ไม่ทราบว่าพวกผมไปทำให้ท่านขุ่นข้องหมองใจหรือไร
สรุปแล้วเมื่อเปรียบเทียบเรื่องนี้กับเรื่องแรกที่ท่านส่งในกิจกรรม Judge Games
ผมค่อนข้างจะชอบอันนี้มากกว่า หากแต่ด้วยเนื้อหาที่มันค่อนข้างอืด
คำพูดก็ซ้ำไปซ้ำมาซึ่งก็เป็นได้ทั้งข้อดีและข้อเสีย
บวกกับการจัดหน้าที่แทบจะเหมือนกับเอาพจนานุกรมราชบัณฑิตฯ มาฟาดหน้ากรรมการ
ผมจึงขอนิมนต์หลวงพี่คันกลับไปจำพรรษาที่วัดเสียเถิด จะได้ไม่เป็นภาระแก่ลูกหลาน
ชื่อเรื่องที่สับ : การสังเคราะห์ความว่างเปล่า
ด้านที่เลือกสับ : โครงเรื่อง การดำเนินเรื่อง ภาษา และความประทับใจ (เอาแม่มหมด 555+)
เนื้อหาที่สับ
สวัสดีอีกครั้งครับท่านซุงเคสุดหล่อ และเพื่อไม่ให้เป็นการเสียเวลา
เรามาดูกันเลยดีกว่าว่าผมจะสับอะไรท่านได้บ้าง
คำวิจารณ์ด้านโครงเรื่อง
แอบสงสัยว่าพลอตเรื่องท่านได้มาจาก Attack on Titan หรือไร =w=
เปิดเนื้อเรื่องมา มนุษย์ยังคงต้องต่อสู้แย่งชิงบางสิ่งบางอย่างอยู่
ผมอ่านจนถึงจบเรื่องก็ยังตีไม่แตกว่าแย่งชิงอัลไลกัน
“พันธมิตรจักหาดาบเข้าหาเราเพื่อก่อการกบฏ” จะสื่ออัลไลกันท่าน ผมเชื่อมเรื่องราวไม่ได้เลยจริงๆ
ถึงท่านจะอธิบายได้ว่ามันเกี่ยวโยงกับเนื้อเรื่องตรงไหน แต่สิ่งที่ผมอยากบอกคือ...
เนื้อเรื่องที่ท่านเขียนมันก็หนักอยู่แล้ว อย่าได้ทำให้การตีความมันหนักไปมากกว่านี้เลยเถิด
ขอนอกเรื่องนิดนะท่าน ผมกำลังสงสัยว่านี่ขนาดมนุษย์ยังอยู่ยากขนาดนี้แล้วบรรดาสัตว์ป่า ต้นไม้
จะอยู่ได้อย่างไร ถ้ายังไงโปรดอธิบายที อย่าให้คนอ่านเกิดคำถามในใจเลย
ผมเดาว่า พอเราเปลี่ยนเป็นสิ่งมีชีวิตตัวเล็กที่อาศัยให้ในร่องช่องดิน
จากนั้นก็พบสิ่งมีชีวิตจากถิ่นอื่นที่รูปร่างเหมือนมนุษย์ เราจึงเข้าไปอาศัยในร่างนั้น นั่นคือท่านจะสื่อว่า
ไอ้สิ่งมีชีวิตตัวเล็กนี่คือแบคทีเรียสินะครับ แล้วมันก็จะวนลูปเป็น Circle of Life สินะ (ขอแอบบอกนิดว่า
ตรงนี้แหละ ผมโคตรชอบเลย)
“เรารู้สึกตื่นเต้นดีใจเป็นยิ่งนัก ด้วยพวกเราทั้งหลายต่างคิดถึง ‘ความเป็นมนุษย์’เสียเหลือเกิน”
อ้าว...ไหนท่านบอกหลงลืมความเป็นมนุษย์แล้ว?
คำวิจารณ์ด้านการดำเนินเรื่อง
ไม่รู้ว่าท่านซุงเคกับท่านคันดะนัดกันมาหรือไร ถึงได้ส่งเรื่องแนวปวดกบาลมาทำร้ายกรรมการกัน
สำหรับการดำเนินเรื่อง แน่นอนว่ามันค่อนข้างซับซ้อน ต้องใช้เวลาในการตีความอยู่เหมือนกัน
แต่ก็ไม่ถึงกับอ่านแล้วต้องไปผูกคอตาย ผมยังแอบคิดอยู่ว่า เอ...แล้วไอ้คนเล่าเรื่องนี่มันใครกันวะ?
แลดูจะรู้เรื่องตั้งแต่อดีตเป็นพันๆปีจนถึงปัจจุบันดีเหลือเกิน
นี่ถ้าตอนจบเป็นฉากผู้เล่าเรื่องเป็นครูสอนประวัติศาสตร์กำลังเลคเชอร์ให้นักเรียนผมคงได้ฮาตกเก้าอี้เป็
นแน่แท้
ส่วนการใช้ภาษาสมัยก่อนในการดำเนินเรื่องก็...ขอไปแขวะในส่วนของภาษาแล้วกันนะครับ
อ้อเกือบลืม เรื่องนี้มีการเปลี่ยนแปลงด้านเวลาเยอะมาก คือ...ก็แค่อยากจะเตือนไว้น่ะครับ
ถ้ายังไงเขียนอะไรที่มันแสดงไว้ชัดๆ ถึงเส้นแบ่งของเวลาในแต่ละช่วงก็ดีเหมือนกัน
เพราะบางจุดเล่นเอาผมบินตามไม่ทันกันเลยทีเดียว
คำวิจารณ์ด้านภาษา
สำหรับเรื่องภาษา สิ่งที่ผมสงสัยเหลือเกินคือ
มีความจำเป็นตรงไหนถึงต้องใช้ภาษาสมัยก่อนในการดำเนินเรื่องหรือท่าน
เพราะท่านที่อ่านดูเรื่องมันน่าจะเริ่มในสมัยปัจจุบันหรือไม่ก็ในอนาคตนี่แหละ
แล้วทำไมหนอผู้เล่าเรื่องถึงกลายเป็นคนยุคอดีตไปได้
“โลกหล้าอันเป็นสีฟ้าครามอร่ามจ้า” สะดุดครับ สุดุดสุดๆ! ผมจินตนาการไม่ออกเลยจริงๆ
ว่าสีฟ้าครามมันจะอร่ามจ้าได้เช่นไร
“แบคทีเรียนั้นมิได้ทำตนให้เกิดสารประโยคหรือโทษใดๆ”
ผมเพิ่งรู้ว่าแบคทีเรียสามารถแต่งประโยคที่มีสาระได้ =w=
“ก็ไม่ทางเกิดปัญหาได้” พิมพ์ตกนะครับ
คำวิจารณ์ด้านความประทับใจ
ประทับใจครับ ประทับใจจนน้ำตาไหลพรากๆ เลยทีเดียว
นี่พวกท่านทั้งสองรวมหัวกันแกล้งกรรมการสินะครับ!
จุดหนึ่งเลยที่ผมชอบเรื่องนี่คือท่านโยงเรื่องมันวนลูปได้อย่างแนบเนียน และการที่ท่านทำให้ผมฟินถึง
Attack on Titan ได้ มันก็...นะ (ได้โปรดอย่า”งง”เพราะในส่วนความประทับใจ มันหาเหตุผลไม่ได้หรอก
555+) ถึงเนื้อเรื่องจะชวนให้ปวดเศียรเวียนเกล้าอยู่บ้าง
คือ...มันก็ไม่ได้เข้าใจยากอะไรมากมายหรอกนะครับ
แต่ด้วยความที่คนอย่างปันจี้ไม่เคยอ่านอะไรหนักหัว พอมาเจออะไรแนวๆ นี้จึงทำให้สมอง word 98
ของผม error ไปบ้าง
จักขอกล่าวโดยสรุป แม้นตัวข้าจะชื่นชอบโครงเรื่องของเจ้ามากเพียงไร
แต่ด้วยภาษาที่เจ้าใช้เขียนซึ่งทำให้ตัวข้านั้นคิดมิตกว่าเหตุใดกันถึงต้องใช้ภาษาเยี่ยงนี้
อีกทั้งยังมีอยู่บางจุดที่ทำให้ข้านั้นสะดุดและต้องใช้เพลานานนักกว่าจักเข้าใจ
ด้วยเหตุนี้ข้าจึงขอพิพากษาเจ้าให้ตายตกตามดะจี้เมียรักของเจ้าด้วยประการฉะนี้แล
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น