ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Judge Games เกมล้างแค้นกรรมการ

    ลำดับตอนที่ #13 : {บทสับ} รอบที่หนึ่ง บทวิจารณ์จากท่านแข็งฟ้า

    • อัปเดตล่าสุด 28 ต.ค. 56


    ผู้สับ
    ท่านแข็งฟ้า

     

    ชื่อเรื่องที่สับ - ในห้วงทรมาน

    ด้านที่เลือกสับ - ขอพูดรวมกันนะครับ

    เนื้อหาที่สับ - อันดับแรกที่ผมอยากบอกก็คือ สงสารคนแก่เถอะครับ ผมปวดตา ยังดีที่มีลิงค์แต่ละตอนไว้ในเพจหลัก ผมเลยไปจิ้มจากที่นั่น ไม่งั้นผมสู้สายฟ้าของท่านไม่ไหวจริงๆ

    ต่อมา ที่ผมสงสัยคือ “ตัวเลข” ไม่แน่ใจว่าท่านจงใจใช้ตัวเลขแต่ละข้อสื่อความนัยอะไรหรือเปล่า หรือใส่มาเอาอารมณ์เหมือนบทเรียนอ่านเขียนในสมัยก่อนเพราะเนื้อหาในแต่ละ ส่วนไม่ได้เกลี่ยให้เท่ากันเลย การใช้ตัวเลขนำก็ดูจะดึงอารมณ์ได้แค่สองตอนแรก อันที่จริงตอนที่สามถึงเจ็ดจะเขียนต่อกันเลยก็ได้ครับเพราะเป็นการเล่า เรื่องแล้ว ไม่ใช่การเปิดเรื่องแบบสองตอนแรก

    วิธีการ เล่าเรื่องก็แปลกครับ เล่าด้วยคำสั้นๆ ในบางจุดคล้ายจะทิ้งปมให้คนอ่านสงสัย อารมณ์แนวๆ แต่บางจุดก็บรรยายต่อด้วยภาษานิยาย รวมกันแบบมีรอยต่อชัดเจนจนอ่านแล้วอารมณ์สะดุด ตอนหลังๆ ใช้การเล่าแบบนิยายทั่วไป อ่านแล้วลื่นกว่าตอนแรกมาก เลยยิ่งทำให้ผมงงว่าตกลงท่านต้องการอะไรจากคนสับ?

    ภาษาผม ไม่อยากวิจารณ์มากครับ ผมเชื่อว่านักเขียนทุกคนมีเอกลักษณ์เป็นของตัวเอง และภาษาของท่านผมอ่านแล้วไม่ขัดใจถึงจะมีสะดุดบ้าง แม้จะสงสัยในบางจุดว่าเพื่ออะไรก็ตาม (๒. คำว่า “ฟัง”) หรือฉากการบรรยายถึงบรรดาโต๊ะหลายตัวของท่าน แต่ผมพยายามคิดให้ลึกว่าท่านคงต้องการสื่อถึงโรงเรียนบ้านนอกที่ไม่มีความ พร้อมเท่าใดนัก บางที่ก็เหมือนพิมพ์ตกหล่น/พิมพ์ผิด นอกนั้นก็อ่านได้ครับ แม้จะไม่มีบทไหนที่ผมประทับใจก็ตาม

    การ ดำเนินเรื่องเหมือนการเล่าเหตุการณ์และแก้ปริศนาไปทีละปม ก่อนจะจบด้วยการเฉลยว่าอะไรคือสิ่งที่น่ากลัวที่สุดของเรื่อง ก็ถือว่าทำได้ดีครับ ดูเป็นการดิ้นรนของตัวละครเอกดี แต่วิธีการเล่าแบบนี้ไม่แปลกใหม่ ถือเป็นวิธีที่ปลอดภัย แต่ก็ไม่ได้ทำให้ผมประทับใจ เพราะผมเดาได้ตั้งแต่มานีผูกคอตายแล้วว่าพล็อตจะต้องมาทำนองนี้ ยิ่งตอกย้ำด้วยเด็กคนอื่นๆ ที่ตาย ผมก็เหลือแต่รออ่านว่าคุณครูจะตายอย่างไร จะเฉลยด้วยวิธีไหน ท่านเลือกวิธีได้ธรรมดาไปหน่อยครับ มันมีวิธีจะเฉลยได้สยองกว่าการเจอรูปครูไพลินป้ายเลือด ดังนั้นผมถือว่าพล็อตธรรมดาเกินไปสำหรับท่าน ระดับท่านควรจะคิดพล็อตได้ลึกซึ้งกว่านี้ ยกเว้นว่าท่านจะจงใจเลือกพล็อตแบบนี้มาให้พวกเราสับ ถ้าท่านอยากให้ผมอ่านแล้วรู้สึกหลอนผมไม่รู้สึกว่าขนตัวเองลุกสักเส้น ถ้าท่านรักงานเขียนแนวดาร์กท่านควรจะเข้าใจอารมณ์หวาดกลัวของมนุษย์ให้ มากกว่านี้ เพราะเท่าที่ผมอ่านคุณครูคนสวยเธอดูไร้อารมณ์มาก ผมยังไม่เห็นความทรมานของเธอนอกจากนิสัยสอดรู้เรื่องชาวบ้านที่ผมสัมผัสได้ ชัดเจน บทที่เธอกลัวหรือเศร้าใจผมว่ามันยังไม่ถึง ทั้งๆ ที่เป็นการเล่าเรื่องโดยเล่นกับความกลัวของตัวคุณครูแท้ๆ ดังนั้น เมื่ออ่านทั้งเรื่อง ผมประทับใจแค่ประโยคสุดท้ายประโยคเดียวครับ สิ่งที่ทิ้งตะกอนไว้ในใจของผมมีแค่คำว่า “ครูไพลิน นั่นคือชื่อของฉัน”

    ความ เกี่ยวโยงของภาพและเนื้อเรื่องทำได้ค่อนข้างแย่ครับ ผมยังไม่เห็นกาและคุณอา เห็นแต่มานี และรูปแบบของประโยค “มานี มี ตา” ถือว่านำเรื่องราวของมานีมาใช้ได้คุ้ม แต่แบบเรียนและเรื่องราวของมานีไม่ใช่ภาพโจทย์ครับ ถึงจะเป็นการตีความอย่างอิสระของนักเขียนแต่มันไม่ได้ปปล่อยของ ตรงนี้ผมขอกดคะแนน


     

    ชื่อเรื่องที่สับ - ฟูมฟาย ไร้เสียง

    ด้านที่เลือกสับ - ขอพูดรวมกันเช่นเดิมครับ

    เนื้อหาที่สับ - เปิดเรื่องได้ดีครับ ชวนติดตาม วิธีการเล่าเรื่องก็น่าสนใจ ผมชอบการสลับตัวละครให้ปูแสดงนำแทนนีในตอนท้ายแต่สามารถต่อเนื้อหากันได้ราบ ลื่น แม้ผมจะงงว่านีใช้มือไหนถือหมอนและวางหมอนเพื่อถือมีดตั้งแต่ตอนไหน

    พล็อต ที่ท่านใช้ไม่ได้แปลกใหม่ แต่เป็นการนำเอาพล็อตตัวละครกลับกลายมามีชีวิตผสมผสานกับพล็อตแท้จริงแล้ว เหยื่อคือผู้วางแผนได้อย่างแนบเนียน ตรงจุดนี้ผมชื่นชมครับ ดำเนินเรื่องได้แยบยลชวนให้ติดตามและหลอกคนอ่านได้พอสมควร เหมือนที่ปูจงใจหลอกนีโดยการแกล้งทำไม่รู้เรื่องก่อนจะเฉลยออกมา ซึ่งพอผมมาคิดตามแล้วก็เห็นด้วยว่าทำไมปูที่ดีใจอยากทานข้าวหมูกรอบจนไม่ยอม นอนถึงได้ขอทานข้าวหมูแดงแทน มันมีจุดสังเกตมาตลอด ดังนั้นพอเฉลยจึงดูสมเหตุสมผล ผมได้เห็นความฉลาดของปูจากตอนที่นึกสงสัยตัวตนของตัวเอง ทำให้ไม่รู้สึกถึงการยัดปัญญาแบบปัจจุบันทันด่วนใส่ลงในตัวปู และผมเห็นการสอดแทรกความตาดีของนีไว้อย่างชาญฉลาด เช่นยางสีเขียวที่รัดอยู่บนกล่องข้าวหมูกรอบ มีดแล่เนื้อในตู้เสื้อผ้า รอยเลือดของปูตอนถูกแทง สิ่งที่ทำให้ผมชอบมากที่สุดในเรื่องคือคาแรคเตอร์ของปูครับ ดูน่าเชื่อถือว่าไร้หัวใจจริงๆ ปูเป็นสิ่งที่มีเสน่ห์มากที่สุดในเรื่องนี้

    ภาษา อ่านแล้วมีสะดุดเป็นบางจุด เช่น เรื่องไฟดับ ต่อให้เป็นหน้าหนาวผมว่าสี่โมงเย็นมันยังไม่มืด บางจุดในเรื่องก็อ่านแล้วงงพอสมควร แต่ผมจะมองข้ามครับ ถือว่าเป็นเอกลักษณ์ของนักเขียน ผมไม่ชินกับสำนวนของท่านเลยไม่แน่ใจว่าท่านจงใจพลาดหรือสไตลนี้อยู่แล้ว แต่ที่มองข้ามไม่ได้ก็คือคำผิด มีมากพอสมควรครับ และบางประโยคผมไม่แน่ใจว่าท่านพิมพ์ผิดหรือเป็นสำนวนของท่าน แต่ที่แน่ๆ ผมยังไม่เห็นใครฟูมฟาย หรือจะสื่อถึงมานีในหนังสือที่พยายามเขียนให้ดูไร้เสียง ผมว่ายังไม่พอครับ แม้ว่านีในเรื่องจะดูไม่ยอมคิดอะไรเองก็ตาม แต่มานียังแสดงอารมณ์ไม่มากพอ ยังไม่ทำให้คนอ่านเห็นภาพของจอมบงการได้ ทั้งๆ ที่เรื่องเกิดเพราะมานี แต่ตัวละครที่เด่นกลับเป็นปู

    ผม รู้สึกดีกับเรื่องของท่าน เป็นความชอบที่เกิดขึ้นเพราะไม่รู้สึกขัดใจ แต่ก็ยังไม่ประทับใจมากเท่าไหร่ มันยังไม่สามารถทิ้งตะกอนไว้ในใจผม แต่ก็ถือว่าใช้ได้ ส่วนความเกี่ยวโยงของภาพและเนื้อเรื่องผมขอกดคะแนนเช่นกัน มีคุณอาโผล่มาหนึ่งคำ แต่ผมยังไม่เจอกา ถึงจะเป็นการตีความโดยอิสระ แต่ผมก็ยังอยากเห็นการปล่อยของที่ผูกเรื่องไว้ได้เหนือชั้นกว่านี้ครับ

     


     


    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×