คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #12 : {บทสับ} รอบที่หนึ่ง บทวิจารณ์จากอี้หลิง
อี้หลิง
ในห้วงทรมาน
ด้านภาษา
ภาษาของท่านดะจี้เป็นอะไรที่สั้นง่าย กระชับ ได้ใจความ เหมือนพาเนื้อเรื่องไหลไปเรื่อยๆ ดังนั้น พอบทจะสะดุด อี้เลยเกือบหน้าคว่ำ
คาดว่าเพราะเป็นงานที่มีเวลาจำกัด และค่อนข้างเผา (โอเคมันเผาแหละ) เลยมีบางจุดที่ท่านน่าจะเผลอใช้คำซ้ำๆ กันในประโยค
เช่น
“ทุกวันอาศัยข้าวก้นบาตร อาศัยเพียงลำพังใกล้วัด”
ขัดตาชะมัด ขอความกรุณางวดหน้าอ่านทวนนะคะ
คำผิดมีบ้างประปรายน่าจะพิมพ์ตกเสียมากกว่า ประโยคกำกวมก็มีให้เห็น
ช่องเถ้าซ้ายขวา ในวูบแรกรู้สึงเหมือนมีช่องสามช่องเรียงกัน แต่มันดันมีห้าคน จินตนาการผิด ฝั่งละสองสินะ
การดำเนินเรื่อง
เนื้อเรื่องเป็นไปอย่างเนิบนาบแต่น่าติดตาม (ที่เนิบน่าจะเป็นเพราะลักษณะการเล่าไปเรื่อยของตัวละคร) สะดุดเล็กๆ ตรงรอยต่อส่วนที่สองกับสาม คือการเรียบเรียงมันชวนให้คิดว่ามานีในช่วงที่สามเป็นมานีเดียวกับช่วงที่สอง จะต้องอ่านไปสักแปปจึงจะตั้งสติได้ว่าไม่ใช่นะ มันเป็นมานีเดียวกับช่วงที่ 1
จังหวะช่วงสุดท้ายมีความรู้สึกเหมือนมันโดนรวบรัดแปลกๆ คือใจความมันครบถ้วน แต่จังหวะมันเหมือนเดินๆ แล้วพอเห็นเส้นชัย ท่านก็พุ่งใส่เลย แบบ จบแล้วโว้ย สิ้นสุดกันที!! มันเป็นความรู้สึกเบาบางที่จับได้
อ้ออีกเรื่อง สัดส่วนของช่วงทั้งเจ็ดของท่านมันต่างกันเกินไป จริงๆ ตัวเลขก็แบ่งตอนของเรื่องได้ดีหรอก แต่มันไม่สมดุลกันนี่สิ ช่วงแรกก็สั้นมาก กลางๆ ก็ยาวเว่อร์
โครงเรื่อง
ถ้าจะถามว่าใหม่ไหม โดยส่วนตัวว่าไม่ใหม่ เหมือนสามารถเจอได้ในนิยายหลอนประสาทของฝรั่งกับญี่ปุ่นหลายๆเรื่อง แต่ที่ชอบคือเพราะที่มันเป็นฉากแบบโรงเรียนในชนบท
อ่านไปกลางๆเรื่องชักนึกถึงหนังเรื่องเด็กหอขึ้นมา โทนแอบใกล้กันในบางจุดนะคะ
เป็นพล๊อตที่คิดว่านะจะสมบูรณ์ในตัวมันแล้วพอสมควร เพราะมันไม่ซับซ้อนอะไรนัก เพียงแต่มีข้อสงสัยในประวัติตัวละครสักนิด คือ ลุงโตเห็นชูใจแอบไปเรียนก่อนมีลูก แต่จำหน้าพ่อเด็กไม่ได้ ทั้งๆที่ลูกสองคนก็อายุห่างกันจนเรียกได้ว่าลูกหลง หมายถึงต้องอยู่กินกันหลายปี ชูใจย้ายบ้านตอนมีสามีเหรอคะ?
อีกจุดคือ ไพลินรู้เหตุการณ์ตายที่บังเอิญของทุกคนแล้ว นางไม่หลอนเหรอคะ ถึงจะบังเอิญ แต่ก็เหมือนในหนังสือทั้งหมด เป็นอี้เก็บกระเป๋าหนีกลับกรุงเทพแล้วค่ะ ไม่อยู่จนจบเรื่องหรอก
ความประทับใจ
ชอบวิธีนำเสนอค่ะ รู้สึกเหมือนกำลังนั่งฟังครูไพลินเล่าเรื่องของตัวเอง มีความรู้สึกอยากอ่านจนจบ ถึงแม้จะสะดุดในตอนจบไปบ้าง แต่ก็ถือว่าเป็นเรื่องสั้นที่สร้างความเพลิดเพลินในช่วงเวลาการสับสองสามวันนี้ได้ดีทีเดียวค่ะ
ฟูมฟายไร้เสียง
ด้านภาษา
เริ่มมาก็สะดุดเลย รู้สึกตะกุกตะกักแปลกๆ ค่ะ อี้อ่านไม่ค่อยลื่นเลย เหมือนมันกะท่อนกะแท่นยังไงก็ไม่รู้
ท้องฟ้าส้มจัด แต่ดันมืดสลัว เดี๋ยวนะ อี้ลำดับภาพงงเอง หรือท่านพี่เบลอกับแสงสีคะ เมื่อมันส้มจัดอยู่ ก็ยังไม่น่าจะมืดมากขนาดนั้นนะคะ ด้วยความรู้สึก น่าจะด้วยส้มของคนเราไม่เท่ากันด้วยค่ะ คนเราจะนึกสีภาพตามประสบการณ์ที่เคยเจอมา ซึ่งในมุมมองของแต่ละคนไม่เท่ากันจริงๆ
มีคำผิดประปราย รู้ค่ะว่าเวลากระชั้นจนไม่มีเวลาอ่านทวน
แล้วอีกอย่าง ขอเถอะค่ะ ใส่เป็นตัวเอียงก็ยังดี เวลาหนังสือพูด กับนีพูด มันแยกยากมาก มันชัดไม่พอค่ะ อ่านผ่านๆ ต้องวนมาดูว่า เห้ย นี่นีนะ นี่หนังสือนะ อยากให้แบ่งให้ชัดกว่านี้ค่ะ
ยิ่งย่อหน้าที่สามนี่เล่นเอาเกือบตาย บทสนทนาระหว่าง นี หนังสือมานี และปู อี้แทบคลั่ง แบ่งชัดๆเถิด จะได้ไม่เป็นภาระแก่คนอ่าน
โดยรวมอี้ว่ามีหลายจุด ที่ชวนให้งงกับลำดับภาพ อยากให้ลองอ่านทวนดีๆ ดูนะคะ มึนมากจริงๆ ตอนแรกคิดว่างงจากพล๊อตเรื่อง ไปๆ มาๆ คำที่ใช้หลายคำก็มีผลให้มึนไปด้วย
หลายประโยคต้องกลับมาอ่านว่า สรุปใครเป็นคนกระทำกันแน่ ชักอยากจะถามว่าท่านเมามานีเหรอคะ
การดำเนินเรื่อง
เปิดเรื่องมาได้น่าติดตามพอดูเลยค่ะ เปิดปมปริศนาทิ้งไว้ ชวนให้อยากรู้ว่าทำไมจึงเกิดการฆ่ากรรม เพราะหากต้องร้องไห้ แสดงว่าตัวละคร คงต้องมีความสัมพันธ์ที่แนบแน่นพอสมควร
เรื่องดำเนินเรื่อยๆ ตามจังหวะของมัน ไม่ได้เร่งรีบ แต่ก็ไม่ได้ช้าจนน่าเบื่อเกินไปนัก (จะหงุดหงิดก็ตรงที่ต้องวนไปอ่านซ้ำเพราะมึนนั่นแหละ)
แต่แปลกตอนที่มานีจะกดหมอน กับจะแทงปู กลับไม่รู้พีคเท่าที่ควร เหมือน รู้สึกเนือยๆ ไปหน่อยน่ะคะ อารมณ์เลยประมาณว่า อ้อ อื้อ แทงแล้วนะ ไม่โดนนะ
โดยรวมๆ ถือว่าดีนะคะ คือมันก็ถูกจังหวะของมันน่ะคะ อะไรควรจะมาตอนไหน มันก็มา เพียงแต่อารมณ์ไม่ค่อยถึงนิดหน่อยเท่านั้นเอง (นิดเดียวจริงๆ )
โครงเรื่อง
เหมือนจะครบสมบูรณ์ แต่กลับอ่านเจออะไรหลายอย่างที่ชวนให้เกิดข้อสงสัย และขัดหูขัดตา
ที่เป็นคำถามชัดๆ ในหัวเลยก็คือ ทำไมนีจึงต้องได้ยินเสียงตัวอักษรรอบๆตัวด้วย ในเมื่อ คนที่บงการก็คือมานีในหนังสือ หรือถ้าได้ยินตัวอักษรทุกตัว แล้วที่แก้วพูดกับ ปู เหตุใด นีจึงไม่ได้ยิน
เอาจริงๆ เหมือนอี้จะเดาตอนจบได้แต่แรก ด้วยบทนำที่ทิ้งไว้เป็นปริศนา แต่มันชวนให้คิดว่าที่เป็นปริศนาเพราะจงใจจะหักมุม แต่ก็ไม่เสียอรรถรสเท่าไหร่หรอกค่ะ เพราะเรื่องมันเอื้อให้เป็นแบบนั้นอยู่พอสมควร
สำหรับชื่อเรื่อง คิดซะว่าเป็นการฟูมฟายของคนอ่านของท่านละกันค่ะ พาราเป็นกำมือเลยงานนี้
ความประทับใจ
เป็นส่วนที่ไม่อยากสับเลย แต่จะสับ โอเค ถ้ามองในมุมนักอ่านทั่วไป เรื่องนี้ก็ถือเป็นเรื่องที่น่าติดตามเรื่องนึง ด้วยบรรยากาศ หม่นๆ นิดๆ อึมครึมหน่อยๆ ยังไงก็ชอบอะไรแนวๆนี้อยู่แล้ว การดำเนินเรื่องไปช้าๆ โดยมีผู้บงการ อ่าห์...ช่าง น่าสนใจ แต่ถ้ามองในมุมของแฟนคลับที่อ่านนิยายทุกเรื่องของท่านที่หาอ่านได้ น้องผิดหวังค่ะ คาดหวังว่าจะได้เห็นอะไรที่มากกว่านี้ มันก็ไม่ได้แย่อย่างที่บอก แต่หากกล่าวถึงงานท่าน เรื่องนี้จะเป็นเรื่องท้ายๆ ที่อี้คิดถึงคะ พี่สาวที่เคารพ //กราบ
สุดท้ายน้องขออัญเชิญท่านพี่ลงเครื่องปั่นน้ำผลไม้ไปเลยคะ กลายเป็นเศษเนื้อไปซะ เผื่อตอนเอาตัวกลับมาต่อใหม่แล้วจะหายมึน //กดสวิต
ความคิดเห็น