ลำดับตอนที่ #54
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #54 : Not all villains are evil
--------------------------------------------
"ตัวร้ายเป็นสิ่งที่ใครๆต่างรังเกียจ"
"พวกขาดความอบอุ่น"
"สมองกลวง ไร้สมอง!"
"ต้องถูกกำจัดเเละเจอตอนจบเเย่ๆ!"
"ไม่จริงสักหน่อย! พวกเขาฉลาดจะตาย
ทั้งเสียสละให้ตัวเองดูร้ายเพื่อให้เนื้อเรื่องสนุก
บางคนพยายามมากกว่านางเอกงี่เง่าอีก
คนทั้งเรื่องตาถั่ว!"
สายตาของพี่น้องหันไปมองมัวเรลล์ตัวน้อยผู้แปลกประหลาด
เป็นเด็กหญิงที่มีความคิดนอกกรอบ เป็นเเกะดำของพี่น้อง
ทว่ากับเก่งกาจจนน่าอิจฉา
เธอก็ไม่ต่างอะไรกับสัตว์ประหลาดเเกะดำที่เเปลกกว่าใครเขาทั้งหมด
กลิ่นน้ำหอมอันเย้ายวน
ดอกลิลลี่อันผลิบานอย่างสวยงาม
คนใช้มากมายเเละประชาชนอันเป็นที่รัก
ช่วงเวลานั้นราวกับความฝันของเด็กสาวบริสุทธิ์
เธอรักครอบครัวที่เป็นเพียงความเพ้อฝัน
รักบิดามารดาเเสนลำเอียง
พี่น้องที่พร้อมจะตลบหลังได้ทุกเมื่อ
ราษฎรเเสนขี้ขลาดที่ไม่สามารถช่วยอะไรเธอได้
ดอกลิลลี่สีเหลืองที่เเสดงถึงความอบอุ่นห่วงใย
ที่ทั้งครอบครัวให้ในวัยเยาว์ทำให็มีความสุข
เด็กสาวมักเอามันไปประดับไว้ใจเเจกันห้องเธอเสมอ
เพราะดอกไม้ที่ชอบที่สุดตอนนั้นคือลิลลี่สีเหลืองอย่างไรล่ะ!
"ฮึก ท่านพ่อท่านเเม่ ท่านพี่เขาเเกล้งลูก"
ในวัย8 ขวบ ร่างเด็กสาวตัวเล็กในชุดเดรสสีขาวที่ถูกย้อมไปด้วยเเดงที่เกลียดนักหนา
โดนเเกล้งให้ใส่ชุดนี้เเถมยังโดดสาดน้ำถูพื้นใส้จากพี่ชายคนเเรก
ทั้งที่ตอนเด็กใจดีเล่นด้วยกันตลอด
ตาสีเเดงทับทิมมองน้องสาวอย่างชินชาก่อนจะตีหน้าซื่อ
"ลูกไม่ได้ทำนะ น้องคงจับคนผิดเเล้ว"
ชายหนุ่มยักไหล่ด้วยท่าทีไม่ใส่ใจ
ไม่เเม้เเต่จะถามน้องสาวด้วยซ้ำว่ารู้สึกเช่นไร
"มิมีทางเป็นพี่ใหญ่หรอก เขาเป็นคนดีเเละเก่งกาจ"
"ลูกลองนึกดีๆเสีย คงมิใช่พี่ชายเจ้า"
ตาทับทิมมัวเรลล์เบิกกว้างอย่างไม่เชื่อหูตัวเอง
น้ำตาเด็กสาวเออล้นออกมาเเล้ววิ่งหนีไปร้องไห้ในห้องบรรทม
เด็กสาวได้เเต่จ้องกระจก มองเงาสะท้อนตัวเองที่เอาเเต่ร้องไห้
ทั้งโกรธ ทั้งเศร้า ทั้งน้อยใจ
เหตุใดจึงมิเหมือนในวัยเยาว์ที่เราวิ่งเล่นหัวเราะด้วยกัน
เหตุใดจึงต้องกลั่นเเกล้งกันถึงเพียงนี้ เธอไม่เข้าใจ...
ทั้งท่านพ่อท่านเเม่ที่มีท่าทีเรียบเฉยไม่ถามไม่ปลอบ
ได้เเต่นั่งนิ่งๆเเละมองมาอย่างเฉยชา
ต้องมีผลงานงั้นหรือถึงสนใจ?
ต้องเก่งกาจเช่นท่านพี่หรือท่านจึงเหลียวเเล
หากเช่นนั้นหล่อนก็จะทำ
ตั้งเเต่นั้นมามัวเรลล์ตัวน้อยก็เปลี่ยนเเปลงตัวเอง
ไขว่คว้าความรู้ต่างๆนานาเท่าที่จะทำได้
ออกไปพบปะเเละไปช่วยเหลือราษฎรให้มากที่สุด
ทำงานอย่างสุจริต ไม่ไปช่อโกงใครให้อณาจักรเดิอดร้อน
จนเธอเริ่มมีมีผลงานมากมายเป็นที่รักของประชาชนทั้งปวง
พ่อเเม่เริ่มหันมาสนใจเเละใสใจมากขึ้นเรื่อยๆราวกับผลรางวัลตอบเเทน
มันทำให้เด็กน้อยดีใจเเละมีกำลังใจทำเรื่องพวกนี้ต่อไป
ในขณะเดียวกันสายตาของพี่น้องต่างมองเธอด้วยความริษยาเกลียดชัง
การกลั่นเเกล้งเริ่มมากขึ้นเรื่อยๆเเต่เธอก็อดทน
เคยมีคนบอกว่าหากมีคนเเกล้งก็ปล่อยไปหากเราเฉยๆเขาจะเลิกเอง
เคยลองทำนะ มันไม่จริงเอาเสียเลยเเถมพวกเขายังได้ใจ
4 ปีเเห่งการอดทนได้สิ้นสุดลง
เมื่อพวกพี่ๆเเย่งผลงานไปอวดอ้าง พวกน้องๆทำร้ายข้าวของ
ส่วนพี่น้องที่อายุเท่าเธอ็ทำให้อับอายต่อหน้าผู้คนมากมาย
ทั้งข่าวลือที่ไม่เป็นจริง ความผิดของตัวเองที่โยนให้
ทั้งหมดนี้มัวเรลล์ไม่สามารถทนได้อีกต่อไป
ฉีกปีกนางฟ้าขาวบริสุทธิ์ออก
พอกันที! 4 ปีเเสนระทมที่ต้องเเอบร้องไห้คนเดียวในมุมมืด
พอกันที! 4 ปี ที่ต้องเสียความรู้สึก
พอกันที! ความเป็นธรรมอันเน่าเฟะใคครอบครัว
หากโลกนี้จะให้เธอร้ายย่อมได้
เธอจะใส่ปีกนางมาร
เธอจะย่ำยีพวกมันให้จมดินหมดทุกตัว
หล่อนมองชุดสีโทนเเดงดำ
เมื่อเกลียดนักเกลียดหนาเเต่ตอนนี้มักก็สวยดี
ชุดสีดำยากต่อการให้เกิดร่องรอยยกเว้นจะเป็นสีขาว
เอาเถอะ ไม่ได้เกลียดสีขาวเสียหน่อย
5 ปีผ่านไป
มัวเรลล์สนุกกับการกลั่นเเกล้งเหล่าพี่น้องอย่างถึงที่สุด
ไม่เคยรู้สึกเสียใจที่ทำเเต่กลับรู้สึกดีเเละสะใจ
เพียงเเค่มีผลงานเด่นกว่าเธอก็สามารถทำอะไรใครก็ได้
จะสาดกาเเฟหอมกรุ่น จะตัดชุดหรือใส่ข่าวลือยังไงก็ได้
ผู้คนในวังต่างขนานนามเธอว่า'นางมาร'
เเต่มัวเรลล์ไม่ด้เลวร้ายไปเสียทุกอย่าง
หล่อนยังคอยช่วยเหลือราฎษรเหมือนเดิมไม่ขาดตกบกพร่อง
เพิ่มเติมคือเธอมีเพื่อนสรรพสัตว์ไว้คุยเป็นเพื่อนด้วย
รู้ตัวดีว่านางมารอย่างเธอคงเหยียบวังได้ไม่นาน
คนที่โดนเเกล้งต้องเจ็บใจเเละหาทางเเก้เเค้นไม่ว่าจะหนทางใด
หล่อนก็คร้านนักกับการตบตีเเก้ต่างกับเรื่องป่วยๆเเบบนั้น
เวลาส่วนใหญ่จึงพยายามช่วยให้ได้มากที่สุด
คิดผลงานที่จะช่วยเหลือราษฎรภายภาคหน้าให้ได้มากที่สุด
เเม้จะถูกเเย่งก็ช่าง ขอเพียงประชาชนไม่เป็นไรก็พอ
ทำไมเธอถึงห่วงราษฎรพวกนี้ทั้งที่พวกเขาขี้ขลาดเเละไร้ค่าน่ะหรือ?
คงเป็นเพราะมันเป็นหน้าที่ขององค์หญิงที่รักประชาชนหมดใจคนหนึ่งกระมั้ง?
เพล้ง!
เเจกันที่ประดับดอกลิลลี่สีเหลืองตกเเตกกระจาย
เหล่าทหารต่างง้างคมมีดเข้าหาเธอ
หญิงสาวเบิกตากว้างอย่างตกใจ เรื่องที่สังหรณ์เกิดขึ้นเร็วเกินคาด
ตาเเดงทับทิมสะท้อนใบหน้ารังเกียจของมารดาเเละสีหน้าโกรธเกรี้ยวของบิดา
ภาพนี้คงตราตรึงเข้าไปในความทรงจำหล่อนอีกนานเท่านาน
"นี่ มันเรื่องบ้าอะไร!?
ท่านพ่อท่านเเม่ อธิบายให้ลูกเดี๋ยวนี้!!"
เสียงหวานขึ้นเสียงอย่างโกรธเกรี้ยวพร้อมส่งเสียงกรี๊ดอย่างไม่พอใจ
สอนเองไม่ใช่หรือถ้าจะเข้าออกห้องใครต้องเคาะประตู
ชายหนุ่มวัยกลางคนเดินเหยียบดอกลิลลี่เหี่ยวเฉาเข้ามาหาลูกสาว
"หุบปาก!! เจ้าลูกทรพี
พี่ๆน้องๆเล่าให้พ่อเเม่ฟังหมดเเล้วว่าเจ้าช่วยเหลือกษฎ!!"
เขาตะคอกจนเหล่าทหารสั่นกลัว
ด้วยน้ำเสียงดังทำให้พี่น้องเเถวนั้นวิ่งมาชะเง้อดูเหตุการณ์ที่ขอบประตู
ช่วงนี้จะมีกษฎก่อความเดือดร้อนไปทั่วครั้งนี้วุ่นวายไปถึงเศรษฐกิจบ้านเมือง
เเล้วอย่างไรกัน?
พวกเขาตาบอดหรือตาถั่ว ก็เธอไงที่คอยช่วยเหลือราษฎรมากกว่าคนที่ใส่ร้าย
ดีไม่ดีคนที่ใส่ร้ายนั่นเเหละที่ช่วยเหลือกษฎ
เข้าใจว่าเสียงข้างมากย่อมน่าเชื่อถือกว่าข้างน้อย มัวเรลล์ได้เเต่สูดหายใจเข้าลึกๆ
เหลือบตามองรอยยิ้มเยอะจะมุมประตู
"ท่านพ่อท่านเเม่เคยรัก
เคยเชื่อใจในตัวตนจริงๆของลูกบ้างหรือไม่?"
มัวเรลล์รู้ตัวลึกๆอยู่เเล้ว
พูดเเก้ตัวไปก็เท่านั้น พวกเขาคงไม่มีวันรับฟัง
จึงเลือกคำถามที่ต้องการรับรู้ที่สุดในช่วง9ปี
ที่ท่านลำเอียงที่ท่านเยินยอคนที่เก่งเเละละเลยลูกที่ย่ำเเย่
พวกท่านมีความเป็นพ่อเเม่อยู่หรือไม่?
เคยคิดถึงจิตใจกันไหม?
ดอกลิลลี่สีเหลือง...ที่เเสดงถึงความอบอุ่นภายนอก
เเต่ภายในนั้นมีเเต่เรื่องหลอกลวง
"ไม่!
เด็กไม่เอาไหนอย่างเจ้ามิมีทางเป็นลูกข้า
ไสหัวออกจากอณาจักรนี้เเล้วอย่ากลับมาอีก!!"
สิ้นเสียงมารดาเป็นที่ประจักษ์สู่สายตาผู้คน
ว่าต่อจากนี้มัวเรลล์ เวนท์วอร์ทไม่ใช่ธิดาของราชวงศ์นี้อีกต่อไป
ทั้งยังถูกไล่ตอนอายุ 17 ปีเสียด้วยคงมิปราณีกันเลยสินะ
หญิงสาวไม่รอช้า หยิบกระเป๋าที่เคยใสเสื้อผ้าเตรียมการรอเหตุการ์ณนี้ด้วยเฉพาะ
ไม่ต้องรอให้ไล่เพราะเธออยากไปเองตั้งนานอยู่เเล้ว
"ดูเเลราษฎรดีๆ ขอให้ตาสว่างในเร็ววันนะเพคะ
เหล่ากษัตริย์ผู้โง่เขลา"
ถอนสายบัวก่อนจะถูกสั่งให้ทหารลากตัวออกไปทันที
มัวเรลล์ไปได้ขัดขืนอะไรดีเสียอีกมีคนคอยคุ้มกันก่อนออกอณาจักรด้วย
ในเมื่อตัดขาดก็ไม่จำเป็นต้องไว้เกียรติซึ่งกันเเละกันอีกต่อไป
ร่างเล็กออกเดินทางตามเส้นทางไปเรื่อยๆโดยไร้จุดหมาย
ไม่รู้ว่าจะไปที่ใดเเละต้องทำอะไรต่อไป
เเผนง่ายๆที่อยู่ในหัวคือเอาตัวรอดให้ได้
หนังสือเล่มเก่าครั้งที่เยาว์วัยมักขอให้มารดาขึ้นมาอ่านถูกนำมาเปิดอ่านระหว่างเดินทาง
"ไม่จริงสักหน่อย! พวกเขาฉลาดจะตาย
ทั้งเสียสละให้ตัวเองดูร้ายเพื่อให้เนื้อเรื่องสนุก
บางคนพยายามมากกว่านางเอกงี่เง่าอีก
คนทั้งเรื่องตาถั่ว!"
นึกย้อนกลับไปก็ตลกตัวเองที่ออกตัวปกป้องตัวร้าย
ราวกับรู้ว่าโตมาตัวเองจะเป็นเสียเอง
ระหว่างทางเธอได้เห็นทุ่งดอนแอนนีโมนีสีม่วงเเพรวพราว
ขยับไปมาตามเเรงลมเย็น
ดอกที่มีความหมายถึงการถูกทอดทิ้ง
ช่างเหมือนเธอไม่มีผิด
น้ำใสไหลออกมาจากตาทับทิ่มอย่างหยุดไม่ได้
จริงๆก็เสียใจมาตลอด ไม่เข้าใจว่าพวกเขาเกิดเธอมาทำไม
ในเมื่อต่อเมื่อตอนนี้พวกเขาทิ้งหล่อนให้เดียวดายตรงนี้
โดยไม่สามารถรู้ได้ว่าเธอจะถูกสัตว์ร้ายโจมตีหรือตายเพื่อใดก็ได้
เมื่อร้องจนพอใจเเล้วก็เช็ดน้ำตาเเล้วเดินทางต่อไป
ร้องไห้ไปก็ไม่สามารถทำอะไรได้อยู่ดี
ตอนนี้ได้รับอิสระเเล้วควรท่องโลกกว้างให้สุขสำราญสิ
รอหน่อยเถิดโลก เอ๋ย เราจะท่องให้หมดเลย!
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น