ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ห้องเก็บของชิวๆของดรีม

    ลำดับตอนที่ #54 : Not all villains are evil

    • อัปเดตล่าสุด 28 มิ.ย. 62


         
    Z y c l o n
         
    Best friend,book


    --------------------------------------------

    "ตัวร้ายเป็นสิ่งที่ใครๆต่างรังเกียจ"

    "พวกขาดความอบอุ่น"

    "สมองกลวง ไร้สมอง!"

    "ต้องถูกกำจัดเเละเจอตอนจบเเย่ๆ!"

    "ไม่จริงสักหน่อย! พวกเขาฉลาดจะตาย
    ทั้งเสียสละให้ตัวเองดูร้ายเพื่อให้เนื้อเรื่องสนุก
    บางคนพยายามมากกว่านางเอกงี่เง่าอีก
    คนทั้งเรื่องตาถั่ว!"

    สายตาของพี่น้องหันไปมองมัวเรลล์ตัวน้อยผู้แปลกประหลาด
    เป็นเด็กหญิงที่มีความคิดนอกกรอบ เป็นเเกะดำของพี่น้อง
    ทว่ากับเก่งกาจจนน่าอิจฉา
    เธอก็ไม่ต่างอะไรกับสัตว์ประหลาดเเกะดำที่เเปลกกว่าใครเขาทั้งหมด
     

    กลิ่นน้ำหอมอันเย้ายวน
    ดอกลิลลี่อันผลิบานอย่างสวยงาม
    คนใช้มากมายเเละประชาชนอันเป็นที่รัก

    ช่วงเวลานั้นราวกับความฝันของเด็กสาวบริสุทธิ์
    เธอรักครอบครัวที่เป็นเพียงความเพ้อฝัน
    รักบิดามารดาเเสนลำเอียง
    พี่น้องที่พร้อมจะตลบหลังได้ทุกเมื่อ
    ราษฎรเเสนขี้ขลาดที่ไม่สามารถช่วยอะไรเธอได้

    ดอกลิลลี่สีเหลืองที่เเสดงถึงความอบอุ่นห่วงใย
    ที่ทั้งครอบครัวให้ในวัยเยาว์ทำให็มีความสุข
    เด็กสาวมักเอามันไปประดับไว้ใจเเจกันห้องเธอเสมอ
    เพราะดอกไม้ที่ชอบที่สุดตอนนั้นคือลิลลี่สีเหลืองอย่างไรล่ะ!

    "ฮึก ท่านพ่อท่านเเม่ ท่านพี่เขาเเกล้งลูก"

    ในวัย8 ขวบ ร่างเด็กสาวตัวเล็กในชุดเดรสสีขาวที่ถูกย้อมไปด้วยเเดงที่เกลียดนักหนา
    โดนเเกล้งให้ใส่ชุดนี้เเถมยังโดดสาดน้ำถูพื้นใส้จากพี่ชายคนเเรก
    ทั้งที่ตอนเด็กใจดีเล่นด้วยกันตลอด
    ตาสีเเดงทับทิมมองน้องสาวอย่างชินชาก่อนจะตีหน้าซื่อ

    "ลูกไม่ได้ทำนะ น้องคงจับคนผิดเเล้ว"

    ชายหนุ่มยักไหล่ด้วยท่าทีไม่ใส่ใจ
    ไม่เเม้เเต่จะถามน้องสาวด้วยซ้ำว่ารู้สึกเช่นไร

    "มิมีทางเป็นพี่ใหญ่หรอก เขาเป็นคนดีเเละเก่งกาจ"

    "ลูกลองนึกดีๆเสีย คงมิใช่พี่ชายเจ้า"

    ตาทับทิมมัวเรลล์เบิกกว้างอย่างไม่เชื่อหูตัวเอง
    น้ำตาเด็กสาวเออล้นออกมาเเล้ววิ่งหนีไปร้องไห้ในห้องบรรทม
    เด็กสาวได้เเต่จ้องกระจก มองเงาสะท้อนตัวเองที่เอาเเต่ร้องไห้

    ทั้งโกรธ ทั้งเศร้า ทั้งน้อยใจ
    เหตุใดจึงมิเหมือนในวัยเยาว์ที่เราวิ่งเล่นหัวเราะด้วยกัน
    เหตุใดจึงต้องกลั่นเเกล้งกันถึงเพียงนี้ เธอไม่เข้าใจ...
    ทั้งท่านพ่อท่านเเม่ที่มีท่าทีเรียบเฉยไม่ถามไม่ปลอบ
    ได้เเต่นั่งนิ่งๆเเละมองมาอย่างเฉยชา
    ต้องมีผลงานงั้นหรือถึงสนใจ?
    ต้องเก่งกาจเช่นท่านพี่หรือท่านจึงเหลียวเเล
    หากเช่นนั้นหล่อนก็จะทำ

    ตั้งเเต่นั้นมามัวเรลล์ตัวน้อยก็เปลี่ยนเเปลงตัวเอง
    ไขว่คว้าความรู้ต่างๆนานาเท่าที่จะทำได้
    ออกไปพบปะเเละไปช่วยเหลือราษฎรให้มากที่สุด
    ทำงานอย่างสุจริต ไม่ไปช่อโกงใครให้อณาจักรเดิอดร้อน
    จนเธอเริ่มมีมีผลงานมากมายเป็นที่รักของประชาชนทั้งปวง
    พ่อเเม่เริ่มหันมาสนใจเเละใสใจมากขึ้นเรื่อยๆราวกับผลรางวัลตอบเเทน
    มันทำให้เด็กน้อยดีใจเเละมีกำลังใจทำเรื่องพวกนี้ต่อไป
    ในขณะเดียวกันสายตาของพี่น้องต่างมองเธอด้วยความริษยาเกลียดชัง
    การกลั่นเเกล้งเริ่มมากขึ้นเรื่อยๆเเต่เธอก็อดทน
    เคยมีคนบอกว่าหากมีคนเเกล้งก็ปล่อยไปหากเราเฉยๆเขาจะเลิกเอง
    เคยลองทำนะ มันไม่จริงเอาเสียเลยเเถมพวกเขายังได้ใจ

    4 ปีเเห่งการอดทนได้สิ้นสุดลง
    เมื่อพวกพี่ๆเเย่งผลงานไปอวดอ้าง พวกน้องๆทำร้ายข้าวของ
    ส่วนพี่น้องที่อายุเท่าเธอ็ทำให้อับอายต่อหน้าผู้คนมากมาย
    ทั้งข่าวลือที่ไม่เป็นจริง ความผิดของตัวเองที่โยนให้
    ทั้งหมดนี้มัวเรลล์ไม่สามารถทนได้อีกต่อไป

    ฉีกปีกนางฟ้าขาวบริสุทธิ์ออก
    พอกันที! 4 ปีเเสนระทมที่ต้องเเอบร้องไห้คนเดียวในมุมมืด
    พอกันที! 4 ปี ที่ต้องเสียความรู้สึก
    พอกันที! ความเป็นธรรมอันเน่าเฟะใคครอบครัว

    หากโลกนี้จะให้เธอร้ายย่อมได้ 
    เธอจะใส่ปีกนางมาร
    เธอจะย่ำยีพวกมันให้จมดินหมดทุกตัว

    หล่อนมองชุดสีโทนเเดงดำ
    เมื่อเกลียดนักเกลียดหนาเเต่ตอนนี้มักก็สวยดี
    ชุดสีดำยากต่อการให้เกิดร่องรอยยกเว้นจะเป็นสีขาว
    เอาเถอะ ไม่ได้เกลียดสีขาวเสียหน่อย

    5 ปีผ่านไป

    มัวเรลล์สนุกกับการกลั่นเเกล้งเหล่าพี่น้องอย่างถึงที่สุด
    ไม่เคยรู้สึกเสียใจที่ทำเเต่กลับรู้สึกดีเเละสะใจ
    เพียงเเค่มีผลงานเด่นกว่าเธอก็สามารถทำอะไรใครก็ได้
    จะสาดกาเเฟหอมกรุ่น จะตัดชุดหรือใส่ข่าวลือยังไงก็ได้
    ผู้คนในวังต่างขนานนามเธอว่า'นางมาร'
    เเต่มัวเรลล์ไม่ด้เลวร้ายไปเสียทุกอย่าง
    หล่อนยังคอยช่วยเหลือราฎษรเหมือนเดิมไม่ขาดตกบกพร่อง
    เพิ่มเติมคือเธอมีเพื่อนสรรพสัตว์ไว้คุยเป็นเพื่อนด้วย

    รู้ตัวดีว่านางมารอย่างเธอคงเหยียบวังได้ไม่นาน
    คนที่โดนเเกล้งต้องเจ็บใจเเละหาทางเเก้เเค้นไม่ว่าจะหนทางใด
    หล่อนก็คร้านนักกับการตบตีเเก้ต่างกับเรื่องป่วยๆเเบบนั้น
    เวลาส่วนใหญ่จึงพยายามช่วยให้ได้มากที่สุด
    คิดผลงานที่จะช่วยเหลือราษฎรภายภาคหน้าให้ได้มากที่สุด
    เเม้จะถูกเเย่งก็ช่าง ขอเพียงประชาชนไม่เป็นไรก็พอ
    ทำไมเธอถึงห่วงราษฎรพวกนี้ทั้งที่พวกเขาขี้ขลาดเเละไร้ค่าน่ะหรือ?
    คงเป็นเพราะมันเป็นหน้าที่ขององค์หญิงที่รักประชาชนหมดใจคนหนึ่งกระมั้ง?

    เพล้ง!

    เเจกันที่ประดับดอกลิลลี่สีเหลืองตกเเตกกระจาย
    เหล่าทหารต่างง้างคมมีดเข้าหาเธอ
    หญิงสาวเบิกตากว้างอย่างตกใจ เรื่องที่สังหรณ์เกิดขึ้นเร็วเกินคาด
    ตาเเดงทับทิมสะท้อนใบหน้ารังเกียจของมารดาเเละสีหน้าโกรธเกรี้ยวของบิดา
    ภาพนี้คงตราตรึงเข้าไปในความทรงจำหล่อนอีกนานเท่านาน

    "นี่ มันเรื่องบ้าอะไร!?
    ท่านพ่อท่านเเม่ อธิบายให้ลูกเดี๋ยวนี้!!"

    เสียงหวานขึ้นเสียงอย่างโกรธเกรี้ยวพร้อมส่งเสียงกรี๊ดอย่างไม่พอใจ
    สอนเองไม่ใช่หรือถ้าจะเข้าออกห้องใครต้องเคาะประตู
    ชายหนุ่มวัยกลางคนเดินเหยียบดอกลิลลี่เหี่ยวเฉาเข้ามาหาลูกสาว

    "หุบปาก!! เจ้าลูกทรพี
    พี่ๆน้องๆเล่าให้พ่อเเม่ฟังหมดเเล้วว่าเจ้าช่วยเหลือกษฎ!!"

    เขาตะคอกจนเหล่าทหารสั่นกลัว
    ด้วยน้ำเสียงดังทำให้พี่น้องเเถวนั้นวิ่งมาชะเง้อดูเหตุการณ์ที่ขอบประตู
    ช่วงนี้จะมีกษฎก่อความเดือดร้อนไปทั่วครั้งนี้วุ่นวายไปถึงเศรษฐกิจบ้านเมือง
    เเล้วอย่างไรกัน?
    พวกเขาตาบอดหรือตาถั่ว ก็เธอไงที่คอยช่วยเหลือราษฎรมากกว่าคนที่ใส่ร้าย
    ดีไม่ดีคนที่ใส่ร้ายนั่นเเหละที่ช่วยเหลือกษฎ
    เข้าใจว่าเสียงข้างมากย่อมน่าเชื่อถือกว่าข้างน้อย มัวเรลล์ได้เเต่สูดหายใจเข้าลึกๆ
    เหลือบตามองรอยยิ้มเยอะจะมุมประตู

    "ท่านพ่อท่านเเม่เคยรัก
    เคยเชื่อใจในตัวตนจริงๆของลูกบ้างหรือไม่?"

    มัวเรลล์รู้ตัวลึกๆอยู่เเล้ว
    พูดเเก้ตัวไปก็เท่านั้น พวกเขาคงไม่มีวันรับฟัง
    จึงเลือกคำถามที่ต้องการรับรู้ที่สุดในช่วง9ปี
    ที่ท่านลำเอียงที่ท่านเยินยอคนที่เก่งเเละละเลยลูกที่ย่ำเเย่

    พวกท่านมีความเป็นพ่อเเม่อยู่หรือไม่?
    เคยคิดถึงจิตใจกันไหม?

    ดอกลิลลี่สีเหลือง...ที่เเสดงถึงความอบอุ่นภายนอก
    เเต่ภายในนั้นมีเเต่เรื่องหลอกลวง

    "ไม่!
    เด็กไม่เอาไหนอย่างเจ้ามิมีทางเป็นลูกข้า
    ไสหัวออกจากอณาจักรนี้เเล้วอย่ากลับมาอีก!!"

    สิ้นเสียงมารดาเป็นที่ประจักษ์สู่สายตาผู้คน
    ว่าต่อจากนี้มัวเรลล์ เวนท์วอร์ทไม่ใช่ธิดาของราชวงศ์นี้อีกต่อไป
    ทั้งยังถูกไล่ตอนอายุ 17 ปีเสียด้วยคงมิปราณีกันเลยสินะ
    หญิงสาวไม่รอช้า หยิบกระเป๋าที่เคยใสเสื้อผ้าเตรียมการรอเหตุการ์ณนี้ด้วยเฉพาะ
    ไม่ต้องรอให้ไล่เพราะเธออยากไปเองตั้งนานอยู่เเล้ว

    "ดูเเลราษฎรดีๆ ขอให้ตาสว่างในเร็ววันนะเพคะ
    เหล่ากษัตริย์ผู้โง่เขลา"

    ถอนสายบัวก่อนจะถูกสั่งให้ทหารลากตัวออกไปทันที
    มัวเรลล์ไปได้ขัดขืนอะไรดีเสียอีกมีคนคอยคุ้มกันก่อนออกอณาจักรด้วย
    ในเมื่อตัดขาดก็ไม่จำเป็นต้องไว้เกียรติซึ่งกันเเละกันอีกต่อไป

    ร่างเล็กออกเดินทางตามเส้นทางไปเรื่อยๆโดยไร้จุดหมาย
    ไม่รู้ว่าจะไปที่ใดเเละต้องทำอะไรต่อไป
    เเผนง่ายๆที่อยู่ในหัวคือเอาตัวรอดให้ได้
    หนังสือเล่มเก่าครั้งที่เยาว์วัยมักขอให้มารดาขึ้นมาอ่านถูกนำมาเปิดอ่านระหว่างเดินทาง

    "ไม่จริงสักหน่อย! พวกเขาฉลาดจะตาย
    ทั้งเสียสละให้ตัวเองดูร้ายเพื่อให้เนื้อเรื่องสนุก
    บางคนพยายามมากกว่านางเอกงี่เง่าอีก
    คนทั้งเรื่องตาถั่ว!"

    นึกย้อนกลับไปก็ตลกตัวเองที่ออกตัวปกป้องตัวร้าย
    ราวกับรู้ว่าโตมาตัวเองจะเป็นเสียเอง
    ระหว่างทางเธอได้เห็นทุ่งดอนแอนนีโมนีสีม่วงเเพรวพราว
    ขยับไปมาตามเเรงลมเย็น

    ดอกที่มีความหมายถึงการถูกทอดทิ้ง
    ช่างเหมือนเธอไม่มีผิด

    น้ำใสไหลออกมาจากตาทับทิ่มอย่างหยุดไม่ได้
    จริงๆก็เสียใจมาตลอด ไม่เข้าใจว่าพวกเขาเกิดเธอมาทำไม
    ในเมื่อต่อเมื่อตอนนี้พวกเขาทิ้งหล่อนให้เดียวดายตรงนี้
    โดยไม่สามารถรู้ได้ว่าเธอจะถูกสัตว์ร้ายโจมตีหรือตายเพื่อใดก็ได้

    เมื่อร้องจนพอใจเเล้วก็เช็ดน้ำตาเเล้วเดินทางต่อไป
    ร้องไห้ไปก็ไม่สามารถทำอะไรได้อยู่ดี
    ตอนนี้ได้รับอิสระเเล้วควรท่องโลกกว้างให้สุขสำราญสิ
    รอหน่อยเถิดโลก เอ๋ย เราจะท่องให้หมดเลย!






















    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×