ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    โครงการเรื่องสั้นช่วงปิดเทอม หัวข้อ "เรื่องหมา ๆ"

    ลำดับตอนที่ #2 : เรื่องสั้น - 2553 หมาครองเมือง - Prisma Dominus

    • อัปเดตล่าสุด 2 พ.ย. 53


    2553 หมาครองเมือง

                กลางมหานครที่ไม่เคยหลับใหลแห่งดินแดนอันอุดมสมบูรณ์มีฝูงหมาจรจัดอยู่ฝูงหนึ่ง ฝูงหมาจรจัดพวกนี้มีสมาชิกจากต่างถิ่นที่มา บางตัวด่างดำด้วยลายจุดขี้เรื้อน บางตัวขนเนียนเรียบสง่าผ่าเผย บางตัวกำยำแข็งแรงหางตั้งชูชัน บางตัวอ่อนแอปวกเปียก แต่ทุกตัวล้วนมีสิ่งหนึ่งที่เหมือนกัน

                พวกมันไม่เป็นที่ต้องการ พวกมันเป็นหมาจรจัด ถูกไสส่งออกมาจากบ้านเพียงเพื่อให้พ้นตัวเจ้าของ

                หมาจรจัดเรียนรู้ที่จะหากินในสังคมเมือง พวกมันหาอาหารจากแหล่งต่าง ๆ ได้มากมาย พวกมันอาศัยอยู่รวมกันในที่ที่มันเชื่อว่าจะนำอนาคตที่ดีกว่ามาให้ ทว่า ชีวิตของหมาจรจัดไม่สงบสุขขนาดนั้น พวกมันไม่ได้อยู่ในมหานครอันพลุกพล่านนี้ตามลำพัง แม้ฝูงต่าง ๆ จะมีแหล่งอาหารแยกกัน แต่ก็มีบางสิ่งที่พวกมันแบ่งปันกันไม่ได้

                วันหนึ่ง จ่าฝูงฝ่ายเหนือเกิดได้กลิ่นตัวเมียเป็นสัดจึงตามกลิ่นไป ปลายทางพบพุดเดิ้ลตัวเล็กขนสีชมพูตาโตน่าฟัดเป็นที่สุด แต่เมื่อจ่าฝูงฝ่ายเหนือเข้าใกล้ก็พบกับจ่าฝูงฝ่ายใต้ที่ตามกลิ่นตัวเมียเหมือนกัน ทั้งสองจึงเขม่นจ้องตา เดินดูเชิงกันไปมาอยู่นาน พุดเดิ้ลสีชมพูเดินสะบัดหางดุ๊กดิ๊กรอดูว่าหนุ่มฝ่ายใดจะได้เธอไปครอง จ่าฝูงทั้งสองเริ่มแยกเขี้ยวขู่กันและเมื่อไม่มีใครยอมใคร ทั้งสองก็กระโดดเข้าขย้ำกันจนเลือดสาด

                เมื่อฝุ่นผงหายตลบ จ่าฝูงฝ่ายเหนือบาดเจ็บและล่าถอยไป เก็บฝังความแค้นเคืองไว้ภายในบาดแผล มันแหงนหน้าขึ้นฟ้าแล้วเห่าหอน สาบานต่อดวงดาวว่ามันจะต้องเอาคืน มันกลับไปที่ฝูง พรรคพวกของมันต่างก็โกรธแค้นพวกฝ่ายใต้ที่บังอาจหยามหน้ากันถึงเพียงนี้

                จ่าฝูงฝ่ายใต้ก็หิ้วตัวพุดเดิ้ลจากไปอย่างลิงโลด พากลับไปที่ฝูงหมาจรจัดของตนเพื่อแบ่งให้พรรคพวกได้เชยชมพร้อมบอกเล่าวีรกรรมอันหาญกล้าที่ตนได้ทำเพื่อแย่งพุดเดิ้ลมาจากจ่าฝูงฝ่ายเหนือ ฝูงฝ่ายใต้โอ้อวดสาธารณะด้วยการวิ่งเห่าหอนไปตามท้องถนนยามค่ำคืน

                ไม่ช้าฝ่ายเหนือก็ไม่อาจทนถูกหยามศักดิ์ศรีได้อีก จ่าฝูงและพรรคพวกหลายตัวออกจากฝูงมุ่งหน้าไปยังรังของฝ่ายใต้ แต่แทนที่จะเข้าไปท้าทายจ่าฝูงฝ่ายใต้ พวกมันดักรอ และเมื่อมันเห็นหมาจรจัดที่กำลังออกจากฝูงฝ่ายใต้ พวกมันก็ตรงเข้าไป กัด ขย้ำ ตัวผู้จนบาดเจ็บ และย่ำยีตัวเมียจนเสียหมา จากนั้นก็ฉี่ราดหัวทุกตัวที่มันฟัดไว้เป็นสัญญาณฝากไปบอกจ่าฝูงฝ่ายใต้ ว่าพวกมันมาเอาคืน

                จ่าฝูงฝ่ายใต้ได้รับรู้จากเพื่อนพ้องที่บาดเจ็บก็โกรธจนหูสั่น มันแยกเขี้ยวแล้วหอนลั่นท้องถนน เรียกฝูงของตนเข้ามาหาเพื่อสั่งการ เปิดศึกกับฝูงหมาฝ่ายเหนือจนกว่าพวกมันจะสูญพันธุ์ไป ฝูงฝ่ายใต้จึงยกขบวนกันไปเป็นร้อย มุ่งหน้าไปท้าชนฝูงฝ่ายเหนือ และฝูงฝ่ายเหนือก็ตอบรับด้วยการยกพวกออกมาพร้อมเขี้ยวเล็บพร้อมสรรพ

                หมามันคุยกันไม่เป็น

                หมามันไม่มีเหตุผล

                หมามันไม่สนกฎระเบียบศีลธรรม

                หมามีเพียงสิ่งเดียว...สัญชาตญาณที่ดิบเถื่อน

                เสียงเห่าหอนดังก้องจากลำคอของจ่าฝูงที่ไม่รู้ว่าเป็นฝ่ายไหน ฝูงหมาจรจัดสองฝ่ายที่จด ๆ จ้อง ๆ กันมานานก็ถูกปล่อยให้ห้ำหั่นกันท่ามกลางสายตาของผู้คนเดินถนน หมาจรจัดที่เจ้าของเอือมระอาทั้งสองฝ่ายพุ่งกระโจนแล้วฝังเขี้ยวเข้าใส่ฝ่ายตรงข้ามอย่างไร้ปราณี ตัวต่อตัว คู่ต่อคู่ หมู่ต่อหมู่หรือหมู่ต่อหนึ่งพวกมันไม่สน พวกมันขอแค่ได้สู้ ขอแค่ได้แก้แค้นพวกที่หยามเกียรติกัน ขอแค่ได้สะใจที่ฝ่ายตรงข้ามเจ็บปวด

                สงครามระหว่างหมาฝ่ายเหนือและหมาฝ่ายใต้เริ่มขึ้นนับแต่นั้นเป็นต้นมา

                การปะทะรอบแรกนั้นไม่ปรากฏผลว่าฝ่ายใดเป็นผู้ชนะ ทั้งฝ่ายเหนือและฝ่ายใต้ต่างสูญเสีย สูญเสียทั้งชีวิต เลือด และเกียรติยศศักดิศรี

                ฝ่ายเหนือกลับไปที่รังแล้วบ่มเพาะสั่งสอนรุ่นน้องหมาใหม่ที่เพิ่งเข้ามา ปลูกฝังให้รักในรัง ปลูกฝังให้เชื่อฟังรุ่นพี่ ปลูกฝังให้เคารพวิถีแห่งรังเหนือ หมาจรจัดผู้ยิ่งใหญ่พ่อทุกสถาบัน และฝึกฝนรุ่นน้องเลือดใหม่แห่งฝ่ายเหนือให้แข็งแกร่ง เฉียบขาด และไร้ปราณี

                ฝ่ายใต้กลับไปที่รังแล้วบ่มเพาะสั่งสอนรุ่นน้องให้รู้ไส้ฝ่ายเหนือ ปลูกฝังความเกลียดชัง ปลูกฝังให้เชื่อฟังรุ่นพี่ ปลูกฝังให้เคารพวิถีแห่งรังใต้ หมาจรจัดผู้ยิ่งใหญ่พ่อทุกสถาบัน แล้วฝึกฝนรุ่นน้องหมาใหม่แห่งฝ่ายใต้ให้เด็ดขาด ว่องไว และไร้ปราณี

                สงครามกองโจรเริ่มขึ้น หมาจรจัดทั้งสองฝ่ายต่างพยายามไล่ล่ากันและกันทุกครั้งที่เจอหน้า หมาจากฝูงเหนือมากันมากกว่าเจอหมาของฝูงใต้อยู่ตามลำพัง ฝูงเหนือต้องแสดงแสนยานุภาพด้วยการโดดเข้าขย้ำให้หมาฝ่ายใต้จมกองเลือดสิ้นใจ หมาฝ่ายใดจะล่วงล้ำดินแดนฝ่ายตรงข้ามตามลำพังเป็นไม่ได้ หากละเมิดอาจถูกลงโทษถึงตาย

                ไม่ปรากฏเป็นที่แน่ชัดว่าฝ่ายใดเป็นผู้ริเริ่ม แต่ระหว่างสงครามหมา ๆ นั้นมีความพยายามที่จะกระตุ้นการเข่นฆ่าฝ่ายตรงข้ามให้มากขึ้น หมาฝ่ายหนึ่งริเริ่มพิธีกรรมการล่าหาง พวกมันตัวใดที่สามารถตัดหางฝ่ายตรงข้ามมาได้จะเป็นผู้ยิ่งใหญ่และเป็นที่ยอมรับในฝูงอย่างที่สุด หมาจรจัดชั้นผู้น้อยและน้องใหม่ต่างต้องการเป็นที่ยอมรับและออกล่าหัวหมาฝ่ายตรงข้ามอย่างไม่ปราณีปราศรัย พวกมันฆ่า...เพื่อหาง

                หมาจรจัดตัวใดที่ไม่ได้อยากยุ่งเกี่ยวกับสงครามต้องเอาหางจุกตูดเอาไว้เมื่อยามออกจากรัง ไม่กล้าอวดอ้างตั้งหางเพราะจะนำภัยมาสู่ตนและผู้ที่อยู่ใกล้เคียง กลับกันกับหมาจรจัดที่ฝักใฝ่ความเป็นตัวผู้และเย่อหยิ่งในศักดิ์ศรีที่เห็นว่าพิธีกรรมล่าหางนั้นเป็นสิ่งที่ยอดเยี่ยมจึงเลียนแบบมา ไม่ช้า พิธีกรรมล่าหางก็แพร่สะพัดไปตามฝูงหมาจรจัดต่าง ๆ ที่มุ่งหวังจะสร้างเกียรติยศศักดิ์ศรีให้ตัวเอง การล่าหางมีขึ้นทั่วไป จากที่ฝูงอริกันล่าหางฝูงตรงข้ามเท่านั้น กลายเป็นว่าพวกมันล่าหางทุกตัวที่ไม่ยอมเอาหางจุกตูดเอาไว้เมื่อพวกมันเดินผ่าน หางยิ่งมาก พวกมันยิ่งมีบารมีในฝูง

                เมื่อเวลาผ่านไป หมาใหม่ของทั้งสองฝ่ายรู้ตัวว่า ถ้าไม่อยู่ในกลุ่มนักรบก็จะถูกล่าหาง พวกมันจึงเข้ากลุ่มนักรบของฝูงและเพิ่มจำนวนเขี้ยวเล็บขึ้นเรื่อย ๆ ตัวใดที่ไม่เข้าร่วมวิถีล่าหางจะเป็นหมาหัวเน่า ตัวใดไม่เข้าร่วมวิถีล่าหางจะกลายเป็นหน้าตัวเมีย แล้วจะมีหมาตัวผู้หูตั้งหลังอานตัวใดกันเล่าที่สามารถทัดทานได้

                บัดนี้ ยามเมื่อหมาจรจัดไปที่ใดแม้แต่มนุษย์ยังต้องหลบทางให้ ใครขวางมันเป็นอันต้องโดนมันกัด พวกมันไม่ละเว้นแม้เด็ก สตรี คนแก่ คนพิการ แต่จะทำอย่างไรได้ ในเมื่อหมามันฟังภาษาคนไม่รู้เรื่อง และคนที่มีอำนาจในบ้านเมืองก็ไม่สนใจที่จะแก้ไขปัญหาหมาครองเมือง เพราะสำหรับพวกเขา มันก็เป็นแค่เรื่องหมา ๆ มันไม่มีความสำคัญเท่าโครงการก่อสร้างที่มูลค่าแค่เพียง 1% ก็สูงถึงร้อยล้าน

                หมาจรจัดจึงได้ใจ เชิดหน้า ชูคอเหนือถนนที่คนสร้าง คนเดิน

                สำหรับคนที่รักสงบและประนีประนอม สงครามของหมาก็ส่วนหมา เรื่องของคนก็ส่วนคน หมาจะฟัด คนอย่าแส่ หมาจะกัด คนอย่ายุ่ง หมาไม่เคยยุ่งเรื่องคน ๆ คนก็อย่าไปยุ่งเรื่องหมา ๆ ทำให้ทั้งคนทั้งหมาอยู่บนถนนเดียวกันแต่ก็เหมือนมีเส้นบาง ๆ คั่นระหว่างทางเดินคนและทางเดินหมา

                ทว่า...วันหนึ่ง เส้นบาง ๆ นั่นก็ถูกล่วงละเมิด...

                บนถนนที่คนเดินกันขวักไขว่ หมาฝ่ายใต้ก็เดินอย่างสบายใจ แต่ทันใดนั้นเสียงเห่าหอนก็ดังขึ้นและหมาฝ่ายเหนือก็บุกเข้ามาหมายจะขย้ำหมาฝ่ายใต้ด้วยความโหดเหี้ยม แต่หมาฝ่ายใต้ที่รู้ตัวและได้รับฝึกฝนมาเป็นอย่างดีอาศัยความชำนาญพื้นที่โกยหายไปอย่างเร็ว คมเขี้ยวโสโครกของหมาจรจัดกัดขย้ำลงบนเนื้อ เลือดสีแดงกระจายเปื้อนเสื้อนักเรียนสีขาว สร้างความเศร้าสลดให้กับผู้พบเห็นเป็นที่สุด เมื่อหมารู้ว่ากัดผิดตัว พวกมันก็โกยหนีหางจุกตูด

                วันรุ่งขึ้นหนังสือพิมพ์มนุษย์ก็พาดหัวข่าว...

              “สุนัข – หมากัดกันกลางกรุง เด็กน้อยโดนลูกหลง”

                เจ้าหน้าที่ตีหน้าเข้มบุกไปถึงรังของหมาฝ่ายเหนือแล้วจับตัวหมาที่กัดเด็กออกมาหมายจะจัดการเสียให้สิ้น แต่มนุษย์มีอารยะ ในเมื่อเด็กก็ถูกกัดไปแล้วจะฆ่าหมาตัวนี้เสียก็ไม่ได้ทำให้รอยเขี้ยวของมันถูกลบเลือน มนุษย์จึงจับหมาจรจัดไปขัง มันจะได้ไม่กัดคนอื่นอีก

                หลังจากที่หมาตัวที่ก่อเหตุโดนจับไปแล้ว ตามธรรมชาติของมนุษย์ เมื่อมีเรื่องโด่งดังสักครั้งก็จะตื่นเต้นกันสักที และเจ้าหน้าที่ 2 เท้าก็เต้นตามกระแสข่าวไปทั้ง ๆ ที่จริง ๆ ไม่ได้ทำอะไรให้ยุติสงครามระหว่างหมา มาตรการที่ได้มีเพียงการบังคับให้เจ้าของที่ตั้งรังหมาต้องดูแลหมาให้ดีเท่านั้น

                ไม่ช้า หมาจรจัดที่ถูกจับก็ถูกปล่อยออกมาและกลับเข้าฝูงพร้อมถูกยกย่องให้เป็นวีรสุนัข ยิ่งขยายกระแสพิธีกรรมล่าหางให้ยิ่งใหญ่ขึ้นไปอีก หมาออกล่ากันมากขึ้น คนเดินถนนถูกลูกหลงมากขึ้น รอยฉี่บอกเขตแดนมีขึ้นตามกำแพงมากมาย หมาบางตัวย่ามใจเหลือจะกล่าว มองคนคาดเข็มขัดคิดว่าคนมีหางแล้วเอามาคาดเอว พวกมันก็เลยกัดคนหมายจะชิงหาง บางตัวได้กลิ่นหมาฝูงอื่นติดคนมาก็กัดคนหมายจะให้ตายบ้าง หมายจะกัดฝากไปบ้าง

                มนุษย์คนแล้วคนเล่าถูกกัด แต่ที่เจ้าหน้าที่รัฐทำก็มีเพียงลุกขึ้นมาเต้นแร้งเต้นกาตามกระแสเป็นพัก ๆ เท่านั้น ชาวเมืองเลยรวมตัวกันหาวิธีจัดการกับปัญหาหมาครองเมือง และได้ความว่าต้องสั่งสอนให้รู้สำนึก

                คนกลุ่มหนึ่งบอกว่าหมาเลวต้องฆ่าเสียให้สิ้น หมาควรจะโดนลงโทษเหมือนคน ถ้าคนทำผิดอย่างที่หมาทำต้องถูกตัดหัวก็ให้หมาถูกตัดหัวด้วย แต่คนอีกฝ่ายหนึ่งยืนยันว่าพวกหมาเป็นแค่หมา ไม่มีปัญญา ไม่มีใครฝึกฝน ควรจะนำไปฝึกฝนและมอบโอกาสให้หมาจรจัดได้ทำประโยชน์ให้สังคม

                ราวกับไม่มีใครจำได้สักคนว่าที่รังพวกหมาก็ฝึกกันอยู่แล้ว...แต่หมามันจะไปจำอะไรได้

                หมาจรจัดที่กัดคนจึงถูกส่งไปให้ทหารฝึก หมายจะให้กลายเป็นหมาที่มีวินัยรักชาติ แต่เมื่อมันกลับมาจากค่ายฝึก กลายเป็นว่าวิชาที่พวกมันถูกฝึกนั้นกลับมาสนับสนุนลัทธิล่าหางกันต่อไป นานวันเข้าพวกมนุษย์ก็เลยตาสว่าง การลงโทษที่รุนแรงขึ้นจึงตามมา หมาตัวใดที่กัดคนจะถูกนำไปฉีดยาเสียให้ตาย แต่ก็ด้วยความใจอ่อนของมนุษย์นั่นเองที่ทำให้หมาที่ต้องโทษมีโอกาสรับการลดหย่อนโทษลงมาเรื่อย ๆ จนได้ออกจากที่คุมขัง

                เวลามีหมากัดกันตายแต่ละครั้งหรือมีหมากัดคนแต่ละครั้ง เจ้าหน้าที่และสื่อมวลชนของมนุษย์ก็จะตื่นเต้นกันครั้งหนึ่ง แล้วเรื่องก็จะถูกลืมเลือนหายไปจากสมองอันปราดเปรื่องของมนุษย์อารยะชน

                สงครามระหว่างหมาฝูงต่าง ๆ ยังมีอยู่จนถึงทุกวันนี้...

                พิธีกรรมล่าหางระหว่างหมาฝูงต่าง ๆ ยังมีอยู่จนถึงทุกวันนี้...

                ไม่แน่...เหยื่อการล่าหางคนต่อไปอาจจะเป็น...คุณ

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×