ลำดับตอนที่ #1
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #1 : Begining
    มันเป็นเรื่องราวของคนเพ้อฝัน  มันเป็นความทรงจำที่ดี  มันเป็นสื่อแทนคำพูด  มันเป็นสิ่งที่น่าประทับใจและน่าจดจำ  มันเป็น
เรื่องของเด็กชายคนหนึ่ง
    มันเป็นวันแรกของการเข้ามาอยู่ในสังคมใหม่ๆ  ผู้คนต่างก็มาจากต่างที่ต่างสถาบันกัน  มีบ้างที่มาด้วยกัน และผมเองก็มากับเพื่อนของผมด้วยเช่นกัน
    วันแรกกับโรงเรียนใหม่อาจดูไม่ค่อยสวยหรูเท่าไรนัก  ยังดีที่ผมได้ย้ายมากับเพื่อนเก่าที่เคยอยู่โรงเรียนเดียวกันมา  หัวข้อคุยมีไม่มากนักในวันแรก  ในวันนี้ผมพยายามมองหาเพื่อนใหม่  เป็นเรื่องปกติของคนเราที่เมื่อเข้ามาอยู่ในสังคมใหม่  ก็ต้องอยากทำความรู้จักกับผู้คนในสังคมนั้นๆเสมอ  แต่ใครล่ะ? ที่จะมาเป็นเพื่อนใหม่ของผม
    ในช่วงพักเที่ยง  ทุกๆคนลงไปกินข้าวที่โรงอาหารชั้น 1  จะมีไม่กี่คนที่อยู่บนห้อง  บ้างก็ทำงาน  บ้างก็วิ่งเล่นกันในห้อง  คงมีแต่ผมคนเดียวที่นั่งเขียนเรื่องไร้สาระอยู่  คือผมเป็นคนชอบขีดๆเขียนๆมาตั้งแต่เด็กแล้ว  บางทีก็เขียนดีจนมีคนเอาไปทำละครโรงเรียนก็มีนะ  แต่บางทีก็เขียนไม่ได้เรื่องจนต้องโยนลงถังขยะทั้งเล่มก็มี  ผมคิดว่ามันเป็นการคลายเครียดที่ดีอย่างหนึ่ง  และผมก็ชอบมัน
    ขณะที่ผมกำลังปลดปล่อยจินตนาการและสนุกกับมันอยู่นั้น  เพื่อนของพี่ชายผมก็เดินตรงเข้ามาหาแล้วบอกว่า  “น้องๆ  ขอเบอร์น้องผู้หญิงคนนั้นให้หน่อยสิ”  “คนไหนครับ?”  ผมถามด้วยความสงสัย  “ก็คนนั้นไง  ที่น่ารักๆที่นั่งอยู่ตรงนั้นน่ะ”  ผมหันกลับเข้าไปในห้องจากหน้าประตู  สิ่งที่ผมเห็นก็คือเด็กผู้หญิงคนหนึ่งกำลังนั่งเขียนหนังสืออยู่  เธอดูท่าทางเป็นเด็กดีเรียบร้อยสมกับที่อยู่ห้องเด็กเรียนเช่นนี้  และในวินาทีนั้นเองผมก็คิดว่าผู้หญิงคนนี้แหละที่จะเป็นเพื่อนใหม่คนแรกของผม
    ผมมองดูเธออยู่พักใหญ่ก่อนที่จะหันมาสนใจรุ่นพี่พูดอีกครั้ง  “ฝากด้วยนะน้อง  คงจะรู้จักกันแล้วใช่มะ?”  ผมได้ยินจึงรีบบอกปัดทันที  “เปล่าครับ  ผม .ไม่รู้จักหรอก”  “อ้าว!  ได้ไงเนี่ย  อยู่ห้องเดียวกันแท้ๆ ..แต่เอาเถอะช่วยหน่อยละกันนะ  บาย”
    หลังจากที่รุ่นพี่เดินจากไป  ผมนั่งนิ่งและรวบสมาธิอย่างเต็มที่ราวกับว่ากำลังแบกภาระอันหนักอึ้งไว้  ผมกำลังคิดอยู่ว่าจะเดินเข้าไปทักผู้หญิงที่เราไม่เคยรู้จักว่าอย่างไรดี  และผมก็นึกขึ้นมาได้ว่าวันนี้เรา 2 คนไม่ได้ทานข้าว  ผมจึงรวบรวมความกล้าและเดินเข้าไปหาหล่อน
    “วันนี้ เอ่อ..ไม่ไปกินข้าวหรอ?”  ผมถามเธอเสียงสั่นแต่เธอกลับยิ้มรับและตอบว่า  “ไม่หรอก  ไม่ค่อยหิวน่ะ”  “ไม่กินซักหน่อย ด .เดี๋ยวเป็นโรคกระเพาะนะ”  ผมพูดไปตามเรื่อง  “แล้วเธอล่ะ  ไม่ไปทานข้าวหรอ?”  เธอถามกลับ  “ม ไม่หรอก  เราไม่หิวเท่าไหร่”  “ไม่ทานซะหน่อยเดี๋ยวเป็นโรคกระเพาะนะ  ฮิฮิ”  เธอพูดย้อนพร้อมกับหัวเราะออกมาเบาๆ  ผมยิ้มรับแหยๆแล้วเดินกลับไปนั่งที่โต๊ะเหมือนเดิม  พอรู้สึกตัวอีกทีก็จำได้ว่าที่ผมไปทักเธอเมื่อครู่มีวัตถุประสงค์อะไร
    ที่ผมตั้งใจจะขอเบอร์ของเธอนั้น  ผมคิดเพียงแค่ทำตามคำขอร้องของรุ่นพี่เท่านั้น  ไม่ได้อะไรเกินเลยไปกว่านี้จริงๆ  แต่ความเป็นจริงแล้วอะไรๆมันไม่ได้มาตามที่ใจเราต้องการเสมอหรอก  ผมยังต้องพยายามอีกมากกว่าจะได้เบอร์โทรศัพท์ของหล่อน  แต่ตอนนี้ ความพยายามที่ว่าของผมมัน .ยังไม่ได้เริ่มขึ้นเลย..
    มันเป็นวันแรกของการเข้ามาอยู่ในสังคมใหม่ๆ  ผู้คนต่างก็มาจากต่างที่ต่างสถาบันกัน  มีบ้างที่มาด้วยกัน และผมเองก็มากับเพื่อนของผมด้วยเช่นกัน
    วันแรกกับโรงเรียนใหม่อาจดูไม่ค่อยสวยหรูเท่าไรนัก  ยังดีที่ผมได้ย้ายมากับเพื่อนเก่าที่เคยอยู่โรงเรียนเดียวกันมา  หัวข้อคุยมีไม่มากนักในวันแรก  ในวันนี้ผมพยายามมองหาเพื่อนใหม่  เป็นเรื่องปกติของคนเราที่เมื่อเข้ามาอยู่ในสังคมใหม่  ก็ต้องอยากทำความรู้จักกับผู้คนในสังคมนั้นๆเสมอ  แต่ใครล่ะ? ที่จะมาเป็นเพื่อนใหม่ของผม
    ในช่วงพักเที่ยง  ทุกๆคนลงไปกินข้าวที่โรงอาหารชั้น 1  จะมีไม่กี่คนที่อยู่บนห้อง  บ้างก็ทำงาน  บ้างก็วิ่งเล่นกันในห้อง  คงมีแต่ผมคนเดียวที่นั่งเขียนเรื่องไร้สาระอยู่  คือผมเป็นคนชอบขีดๆเขียนๆมาตั้งแต่เด็กแล้ว  บางทีก็เขียนดีจนมีคนเอาไปทำละครโรงเรียนก็มีนะ  แต่บางทีก็เขียนไม่ได้เรื่องจนต้องโยนลงถังขยะทั้งเล่มก็มี  ผมคิดว่ามันเป็นการคลายเครียดที่ดีอย่างหนึ่ง  และผมก็ชอบมัน
    ขณะที่ผมกำลังปลดปล่อยจินตนาการและสนุกกับมันอยู่นั้น  เพื่อนของพี่ชายผมก็เดินตรงเข้ามาหาแล้วบอกว่า  “น้องๆ  ขอเบอร์น้องผู้หญิงคนนั้นให้หน่อยสิ”  “คนไหนครับ?”  ผมถามด้วยความสงสัย  “ก็คนนั้นไง  ที่น่ารักๆที่นั่งอยู่ตรงนั้นน่ะ”  ผมหันกลับเข้าไปในห้องจากหน้าประตู  สิ่งที่ผมเห็นก็คือเด็กผู้หญิงคนหนึ่งกำลังนั่งเขียนหนังสืออยู่  เธอดูท่าทางเป็นเด็กดีเรียบร้อยสมกับที่อยู่ห้องเด็กเรียนเช่นนี้  และในวินาทีนั้นเองผมก็คิดว่าผู้หญิงคนนี้แหละที่จะเป็นเพื่อนใหม่คนแรกของผม
    ผมมองดูเธออยู่พักใหญ่ก่อนที่จะหันมาสนใจรุ่นพี่พูดอีกครั้ง  “ฝากด้วยนะน้อง  คงจะรู้จักกันแล้วใช่มะ?”  ผมได้ยินจึงรีบบอกปัดทันที  “เปล่าครับ  ผม .ไม่รู้จักหรอก”  “อ้าว!  ได้ไงเนี่ย  อยู่ห้องเดียวกันแท้ๆ ..แต่เอาเถอะช่วยหน่อยละกันนะ  บาย”
    หลังจากที่รุ่นพี่เดินจากไป  ผมนั่งนิ่งและรวบสมาธิอย่างเต็มที่ราวกับว่ากำลังแบกภาระอันหนักอึ้งไว้  ผมกำลังคิดอยู่ว่าจะเดินเข้าไปทักผู้หญิงที่เราไม่เคยรู้จักว่าอย่างไรดี  และผมก็นึกขึ้นมาได้ว่าวันนี้เรา 2 คนไม่ได้ทานข้าว  ผมจึงรวบรวมความกล้าและเดินเข้าไปหาหล่อน
    “วันนี้ เอ่อ..ไม่ไปกินข้าวหรอ?”  ผมถามเธอเสียงสั่นแต่เธอกลับยิ้มรับและตอบว่า  “ไม่หรอก  ไม่ค่อยหิวน่ะ”  “ไม่กินซักหน่อย ด .เดี๋ยวเป็นโรคกระเพาะนะ”  ผมพูดไปตามเรื่อง  “แล้วเธอล่ะ  ไม่ไปทานข้าวหรอ?”  เธอถามกลับ  “ม ไม่หรอก  เราไม่หิวเท่าไหร่”  “ไม่ทานซะหน่อยเดี๋ยวเป็นโรคกระเพาะนะ  ฮิฮิ”  เธอพูดย้อนพร้อมกับหัวเราะออกมาเบาๆ  ผมยิ้มรับแหยๆแล้วเดินกลับไปนั่งที่โต๊ะเหมือนเดิม  พอรู้สึกตัวอีกทีก็จำได้ว่าที่ผมไปทักเธอเมื่อครู่มีวัตถุประสงค์อะไร
    ที่ผมตั้งใจจะขอเบอร์ของเธอนั้น  ผมคิดเพียงแค่ทำตามคำขอร้องของรุ่นพี่เท่านั้น  ไม่ได้อะไรเกินเลยไปกว่านี้จริงๆ  แต่ความเป็นจริงแล้วอะไรๆมันไม่ได้มาตามที่ใจเราต้องการเสมอหรอก  ผมยังต้องพยายามอีกมากกว่าจะได้เบอร์โทรศัพท์ของหล่อน  แต่ตอนนี้ ความพยายามที่ว่าของผมมัน .ยังไม่ได้เริ่มขึ้นเลย..
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น