ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    -SWORD&MAGIC-

    ลำดับตอนที่ #1 : ยามเช้าที่รุนแรงและสดใส

    • อัปเดตล่าสุด 22 ก.พ. 47


    นานมาแล้ว ณ.ดินแดนแห่งหนึ่ง ดินแดนอื่นๆในโลกแห่งนี้นักเวทย์และนักรบจะอาศัยอยู่ร่วมกัน แต่ในดินแดนแห่งนี้ ที่ใดมีนักรบที่นั่นจะต้องไม่มีนักเวทย์ นักรบและนักเวทย์แบ่งแยกกันโดยสมบูรณ์ และกฎเดียวของทั้งสองกลุ่มที่เหมือนกัน นั่นคือ ห้ามติดต่อกันระหว่างนักรบกับนักเวทย์ โทษของการฝ่าฝืนมีสถานเดียว นั่นคือ ความตาย.......



        เรออส

        ขณะนี้สถานการณ์ชายแดนเหนือค่อนข้างจะแย่มาก นักเวทย์ของเนโครพรีสโต ผสานพลังกับนักรบของพวกเขา  ถ้าไม่เกิดกรณีพิพาทเมื่อ50ปีก่อนคงไม่เป็นอย่างนี้หรอกนะ นายอยู่ในเมืองเป็นอย่างไรบ้าง หวังว่าคงสบายดีนะ

                                                                                                                                         โชคดีนะไอ้น้องชาย

                                                                                                                                                อองเดรย์

    ชายหนุ่มอ่านจดหมายที่พี่ชายของเขาส่งมาอยู่ที่โต๊ะทำงานในห้องของเขาที่บ้าน เมื่อเขาอ่านมันจนจบแล้วเขาพับจดหมายเก็บใส่ซองแล้วนำไปใส่ไว้ในลิ้นชัก



    “เฮ้อ....คงผ่านไปได้ล่ะนะครับพี่” ชายหนุ่มนักรบพึมพำแล้วเดินออกนอกห้องไป ตั้งแต่เขาเกิดมาก็ไม่เคยเห็นนักเวทย์แม้แต่ครั้งเดียว เขาเดินลงบันใดมาชั้นล่างของบ้าน บ้านหลังนี้เป็นบ้านที่ไม่ใหญ่โตนัก เรออสและอองเดรย์

    อยู่ด้วยกันเพียงสองคนพี่น้องหลังจากพ่อและแม่ของเขาตายในสนามรบ เรออสหยิบเสื้อนอกสีน้ำตาลเดินออกมากนอกบ้านของเขา ปิดประตูบ้านที่ทำจากไม้แล้วใส่กุญแจ จากนั้นเก็บกุญแจไว้ในกระเป๋าก่อนออกเดินจากบ้านไป เขาเดินผ่านบ้านหลายสิบหลังจนไปถึงบ้านหลังหนึ่งอยู่ติดกับประตูเมืองทิศตะวันตก เขาเคาะประตูบ้านหลังนั้น ประตูบ้านถูกเปิดออกจากภายในแล้วก็ปรากฏใบหน้าซีดๆของชายหนุ่มคนหนึ่ง



    “มาหาครายย?” เขาพูดยานคางฟังแล้วชวนขนลุกจริงๆ แต่เรออสกลับไม่สนใจตอบกลับไปเรียบๆเช่นกัน



    “สองเหล่ารวมเป็นหนึ่ง  บังเกิดซึ่งสันติภาพ” หนุ่มหน้าซีดผงกหัวขึ้นลงช้าๆแล้วกวักมือให้เรออสเข้าไป

    เรออสเดินผ่านประตูเข้ามาภายในบ้าน เขาเดินไปยังใต้บันใดอย่าคุ้นเคย แล้วค่อยๆลากถุงผ้าใหญ่ๆออกจากใต้บันใด ชายหนุ่มคนนั้นล๊อคประตูแล้วเดินมาหาเรออสช้าๆ



    “แล้วปิดให้ดีล่ะ” เรออสพูดขณะลากถุงใบสุดท้ายออก จนพบประตูเล็กๆอยู่บนพื้น เขาเปิดมันออก ชายหนุ่มพงกหัวรับคำช้าๆก่อนที่เรออสจะเปิดประตูแล้วปีนบันใดลิงลงไปด้านล่าง  ที่ด้านล่างเรออสพบกับทหารอีกสองนายในชุดเกราะทองแดง



    “อรุณสวัสดิ์ครับท่านเรออส” ทหารคนหนึ่งกล่าวอย่างแข็งขัน



    “อืม” เรออสตอบห้วนๆแล้วเดินลึกเข้าไปในอุโมงค์ใต้ดินจนถึงประตูเหล็กที่ใหญ่มาก เขาเคาะมันเบาๆ ช่องเล็กๆที่อยู่ระดับสายตาของเรออสถูกเปิดออก



    “ท่านเรออสเหรอครับ...สวัสดียามเช้าครับ” เสียงหนึ่งดังจากภายใน



    “อืม” เขาตอบห้วนๆอีกครั้งและเมื่อประตูเปิดออกเขาก็เดินลึกเข้าไปอีก ระหว่างทางผนังจากที่เป็นหินถ้ำก็ค่อยๆกลายเป็นผนังปูน และเขาก็พบประตูอีกบานหนึ่งคราวนี้เขาเปิดประตูเข้าไปด้วยตัวเอง ก็พบกับห้องขนาดใหญ่ที่มีคนเดินไปมาตามห้องที่แยกย่อยจากห้องใหญ่อีกที



    “ท่านเรออสครับ การหารือรอบเช้ากำลังจะเริ่ม ท่านจะเข้าร่วมรึเปล่าครับ” ทหารในชุดเกราะคนหนึ่งเดินเข้ามาพูดกับเขา



    “เข้าซะหน่อยก็ดี” เรออสพึมพำแล้วเดินเข้าไปที่ช่องทางเดินขวาติดกับกำแพงตรงสุดปลายมุมห้องตรงข้ามกับประตู

    เมื่อเข้าไปก็พบห้องอีกห้องหนึ่ง มีโต๊ะไม้ตัวใหญ่อยู่ตรงกลาง ที่เก้าอี้รอบโต๊ะไม้มีบุคคลจากหลายๆหน่วยงานนั่งอยู่ อาทิเช่น ทหารบก ทหารเรือ บาทหลวง หัวหน้าหมู่บ้าน



    เรออสเดินเข้าไปนั่งบนเก้าอี้ไม้ตัวหนึ่ง ชายวัยกลางคนในเสื้อยืดสีน้ำตาล เดินเข้ามานั่งตรงที่ประธาน



    “สวัสดียามเช้าสมาชิกแห่งสันติภาพทุกท่าน” เขานั่งลงแล้วกล่าว



    “วันนี้ผมมีข่าวมาจากชายแดนตะวันออกที่ค่ายเกรโอดีน” ชายคนหนึ่งที่พกดาบของทหารบกกล่าว



    “หวังว่าคงเป็นข่าวที่ดีนะท่านเนเร” บาทหลวงที่นั่งตรงข้ามทหารคนนั้นกล่าวแทรกขึ้นมา



    “คุณพ่อ...ท่านคงผิดหวังเสียแล้วล่ะ ตอนนี้พวกเนโครพรีสโตใช้เหล่านักเวทย์ประสานกับทัพบกบุกเราอย่างหนัก ข้าคิดว่าถ้านักเวทย์ฝั่งเรายังคงนิ่งเฉย คงตรึงไว้ได้อีกไม่นาน” เนเรกล่าวตอบกลับมาในสีหน้าที่เคร่งเครียด



    “พระเจ้าช่วย...ข้าจะรีบติดต่อท่านเนเฟิล” บาทหลวงพูดขึ้น



    “ท่านเนเฟิลของท่านจะช่วยอะไรได้ พวกเราที่อยู่ในนี้ยังไม่เคยเห็นซักคนมีแต่ท่านน่ะแหละ” เรออสกล่างขึ้นหลังจากที่นิ่งเฉยมานานพอควร



    “เรออส ใจเย็นๆ  ข้ารู้ว่าเจ้ามั่นใจในฝีมือของตัวเอง ไม่งั้นเจ้าไม่มีทางได้เป็นรองแม่ทัพตั้งแต่ยังอายุ20อย่างนี้หรอก” ชายวัยกลางคนที่หัวโต๊ะกล่าว



    “ตอนนี้ข้าคิดว่า ท่านผู้บัญชาการฟรานซ์คงจะส่งทัพเรือผ่านไปทางแม่น้ำเรลโดรอน แล้วขนาบโจมตีจากแนวหลังข้าศึก” ทหารที่พกกระบี่ของทหารเรือกล่าวขึ้น



    “อย่างไรก็ตามนะขอรับท่าน  กระผมคิดว่าเราควรถอนกำลังจากเกรโอดีนลงมาที่นิริสเธอราน” เรออสกล่าว



    “นั่นมันเขตของนักเวทย์ เราเข้าไปถึงนักเวทย์จะกำจัดพวกเนโครพรีสโตทัพนี้ได้  ทหารของเราก็โดนกำจัดอยู่ดี อย่าเพิ่งว่าถึงการแก้ไขเมื่อเข้าไปในเขตนักเวทย์เลย แค่จะหาวิธีให้ผู้บัญชาการสั่งถอย...ก็แทบรากเลือดแล้ว....พี่ชายท่านก็อยู่ในทัพนั่นไม่ใช่เหรอเรออส” เนเรกล่าวสวนขึ้นมา เรออสลุกออกจากเก้าอี้ก่อนจะกล่าวว่า



    “ถ้าเช่นนั้นกระผมขอตัว...กระผมจะหาทางใหม่มาให้ได้” แล้วเขาก็เดินออกจากห้องประชุมมายังห้องโถงใหญ่

    เขามุทะลุเกินไป เขาควรไปหาอะไรสบายๆทำดีกว่าในเวลาเช้าๆอย่างนี้ คิดได้ดังนั้นเขาก็เดินไปที่ปลายสุดห้องโถงตรงข้ามกับประตู ขยับคบเพลิงที่ปักอยู่เล็กน้อย ผนังก็เปิดออก เขาเดินล่วงประตูลับไปแล้วผนังก็ปิดกลับมาดังเดิม เขาเดินมาเรื่อยๆจนพบประตูเหล็กเล็กๆขนาดฝาท่อน้ำ แล้วเปิดมันออกก็มาโผล่บนภูเขา ปากท่อน้ำที่เขาออกมานั้นซ่อนไว้ในพงหญ้าที่ขึ้นรกไปหมด เขาเดินลุยผ่านพงหญ้าออกมาจนพบกับหน้าผาที่กว้างใหญ่ ที่ๆเขาอยู่ตอนนี้คือภูเขาที่อยู่ทางฟากตะวันตกของเมือง สายลมที่พัดโชยมาอ่อนๆทำให้เรื่องเครียดๆในหัวถูกพัดพาไปกับสายลม นกตัวเล็กๆที่บินไปมาส่งเสียงร้องที่ไพเราะราวกับเครื่องดนตรีชั้นยอดทำให้เรออสเพลิดเพลินใจยิ่งนักเขาค่อยๆเอนตัวลงนอน แหงนหน้ามองท้องฟ้าที่กว้างใหญ่



    “การร่วมแรงใจระหว่างนักเวทย์แห่งนิริสเธอริลกับนักรบแห่งเรดรีมิสต้าคงเป็นไปได้ยากทีเดียว” เขาพึมพำออกมาเบาๆ

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×