ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ~Ferasai I~

    ลำดับตอนที่ #1 : การเตือนภัยของ\"วิมิช\"

    • อัปเดตล่าสุด 15 ม.ค. 47


              แดดยามเช้าของดินแดนอันไกลห่าง ในท้องพระโรงที่ตอนนี้เนื่องแน่นไปด้วยเหล่าข้าราชบริภาร ที่ว่าราชการกันอยู่



              ไม่มีอะไรมากมาย เกือบ 50 ปีแล้วที่ราชอาณาจักรแห่งนี้ไร้แล้วซึ่งสงคราม ผู้คนอยู่กันอย่างปรกติสุข มีระเบียบวินัย ผลผลิตทางการเกษตรมากมายเกินบริโภค การค้าขายก็เจริญรุดหน้า แต่จะมีใครรู้ ในไม่ช้านี้ ความหวาดหวั่นจะเข้ามาเกาะจับจิตใจของผู้คนที่นี้อีกครั้งหนึ่ง



              หลังจากการว่าราชการในท้องพระโรง King เอเธเลน กษัตริย์ลำดับที่ 13 แห่งราชวงศ์ โรโมนอร์ แห่ง สหราชอาณาจักร สตอมการ์ด ดินแดนที่ปกป้องโดยทวยเทพแห่งโรมอร์นอร์ และด้วยปราการแห่งสตอมการ์ด ที่ไม่มีวันพังทลาย ป้อมคู่แห่ง โรโมนอร์ ไม่เคยมีกองทัพใดผ่านปราการแห่งนี้ได้เลย



              “นี้ข้าแก่ขนาดนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่กันนะ เบอร์ริง” พระองค์ทรงถามกับปราชญ์ประจำตัวผู้สนิทที่พระองค์ทรงไว้ใจที่กำลังพยุงพระองค์ทรงเก้าอี้ติดล้อและพาพระองค์เสด็จออกจากท้องพระโรง



              “ไม่หรอกฝ่าบาท พระองค์ยังทรงแข็งแรงดี ดูสิ ท่านยังว่าราชการได้นี้นาฝ่าบาท” เบอร์ริง กล่าวตอบพระองค์พร้อมเข็นรถต่อ “ท่านจะไม่เป็นไรฝ่าบาท เชื่อหม่อมชั้นเถอะ ตอนนี้ได้เวลาพักผ่อนแล้ว หม่อมชั้นจะพาพระองค์ไปพักผ่อนนะฝ่าบาท”



              “ไม่ต้องปลอบใจข้าหรอกเบอร์ริง ข้ารู้ตัวดี... นี้ก็ 96 ปีเข้าไปแล้วเบอร์ริง มันคงไกล้เข้ามาแล้วเบอร์ริง วันที่ข้าต้องไป” ความเงียบเท่านั้นที่มีอยู่ ณ ตอนนี้ รถเข็นยังคงเดินหน้าไปเรื่อยๆตามท้องโถงที่ทอดยาวตรงไปอย่างไม่เห็นปลายทาง “เบอร์ริง”



              “มีอะไรเหรอคับฝ่าบาท”



              “ก่อนที่ข้าจะไปข้ามีเรื่องอยากจะทำอยู่เรื่องนึง เบอร์ริง”



              “เอ๋     ท่านมีเรื่องอะไรที่อยากทำขอรับฝ่าบาท”



              “ข้าอยากพบ จิน อีกซักครั้ง”



              “ราชโอรถ จินเรย์  เอ่อ........ ขออภัยฝ่าบาท ท่านอยากพบจินเรย์อีกครั้งก็ส่งสารเรียกสิขอรับ”



              “ช่างเถอะเบอร์ริง เรียกเค้าว่าอะไรก็ช่างเถอะ     ในตอนนี้ ข้าอยากขอโทษเค้าในสิ่งที่ข้าทำลงไปในครั้งนั้น  เค้าจะยกโทษให้ข้ารึเปล่าเบอร์ริง”



              “ถึงแล้วฝ่าบาท เอาหละ ที่นี้ก็บรรทมเสียฝ่าบาท ลืมให้หมด ลืมเรื่องที่ทำให้ไม่สบายใจไปเสีย ตื่นขึ้นตอนเที่ยงจะได้ สบายพระทัย” เบอร์ริงพูดตัดบทเพื่อเลี่ยงคำตอบนั้น



              “เบอร์ริง เจ้ายังไม่ตอบข้าเลย เค้าจะยกโทษให้ข้ารึเปล่า เบอร์ริง”



              “ต้องยกโทษให้สิฝ่าบาท บางทีท่านจินเรย์อาจจะสิ่งนั้นอยู่ก็เป็นได้ฝ่าบาท” เบอร์ริงพูดออกไปทั้งๆที่รู้อยู่แก่ใจว่า คนที่พวกเขากำลังพูดถึง ไม่มีวันยกโทษให้พระองค์



              “ข้าขอบใจเบอร์ริง ขอบใจที่เจ้าปลอบใจข้า แต่ข้าเองก็รู้ดีว่า เค้าคงไม่มีวันลืมสิ่งที่ข้าทำกับเค้าไปได้   ช่างเถอะ มันก็แค่ความฟันของคนแก่ๆคนนึงก็เท่านั้นเองหรอก ข้าเองก็เหนื่อย เต็มที่แล้ว ข้าอยากพักผ่อน”

      

              “ใช้แล้วฝ่าบาท ท่านควรจะพักผ่อน” เบอร์ริง ประคองร่ายกายที่ชราภาพของพระองค์นอนลงบนเตียงทองสลักลวดลายจิจิตรประดับอัญมณีหลายหลายสี ก่อนห่มผ้าห่มขนนกกริฟไทท์ ให้แด่กษัตริย์ชราก่อนเดินออกมานอกห้องพร้อมเดินตรงไป



              ภายในห้องตอนนี้ มีเพียงพระองค์ที่ทรงประทับอยู่บนเตียงทองคำนั้น สายตาอันพล่ามัวทอดไปอกหน้าต่างที่เปิดออกไว้รับอากาศแห่งฤดูใบไม้ผลิ เหล่าต้นไม้กำลังผลิใบร่วงหล่นลงไป กับดอกไม้ที่กำลัง ออกดอกอยู่บนต้นไม้ที่อายุมากแล้ว



              “96 ปีที่ผ่านมา เทียบกับฟ้าแล้ว ก็แค่ฝันตื่นหนึ่ง  เกิดมาหนหนึ่ง ยังจะดิ้นรนอะไรมากมาย” พระองค์ทรงรำพลันกับตัวเอง สายตายังคงทอดออกไปที่ต้นไม้นั้นอยู่



              พับ ๆๆๆๆๆ



              นกตัวหนึ่งบินโผเข้ามาในหนาต่างก่อนจับที่ข้างขอบเตียงก่อนบินลงบนพื้นเบื่องล้าง  พระองค์ทรงตกใจอยู่เล็กน้อย ก่อนเอ่ยขึ้นว่า “กี่ปีแล้วนะ วิมิช ที่ท่านไม่ได้ส่งข่าวคราวถึงข้า ข้านึกว่าท่านลืมสหายผู้นี้เสียแล้ว”



              นกตัวนั้นค่อยๆกลับกลายร่างเป็นชายวัยกลางคนที่ถือคฑาไม้สลักรูปลายเถาวัลย์ปลายด้านล่างประดับอัญมณีสีเขียว ด้านบนเกะเป็นรูปกงเล็บ จับลูกแก้วสีมรกรต ด้านหลังห่มผ้าคลุมขนนกผืนใหญ่ก่อนที่สายตาอันคมกลิบ ดุจพญาเหยี่ยว จะจ้องมองมาที่กษัตริย์ชราที่ประทับบนเตียง



              สายตานั้นอ่อนลงอย่างฉับพลัน ก่อนกล่าวขึ้นมา “ไม่กี่ปีนี้ท่านดูโทรมลงไปมาก  มากจนข้าแทบจำไม่ได้” รอยยิ้มปรากฏบนใบหน้านั้น “ท่านชราลงไปมากจริงๆ เอเธเลน สหายข้า”



              “ข้าคงไม่เหมือนท่านหรอก วิมิช ไม่ว่าจะกี่ปี ท่านก็ดูไม่แก่ลงซักนิด”



              “อย่ายอข้าเลย ข้าหน่ะก็แก่ลงมาก ข้ารู้ตัว ถึงผายนอกจะดูเหมือนไม่เปลี่ยนแปลงก็เถอะนะ เอเธเลน แต่ว่าหลายปีมานี้ สิ่งที่ข้าหวาดหวั่นมันกำลังกล้าแข็งหน่ะสิ เอเธเลน มันกำลังจะก่อตัวขึ้นมาอีกครั้ง เหมือนเมื่อครั้งอดีต”



              “เจ้ากำลังหมายถึงเรื่องที่เจ้าเล่าให้ข้าฟังในครั้งนั้นรึเปล่า”



              “ใช่ ภัยร้ายมันกำลังจะตื้นขึ้นมาอีกครั้ง และครั้งนี้ ข้าเองก็ไม่รู้ว่าเหมือนกัน ว่าเหล่าสรรพชีวิตบนโลก จะต้านทานภัยร้ายที่กำลังจะตื่นขึ้นครั้งนี้ยังไง”



              “หากเรื่องที่ท่านพูดมาเป็นจริงหล่ะก็ ข้าต้องเตือนภัยไปยังเหล่าพันธะมิตรซะแล้ว นี้วิมิช ช่วยพยุงข้าที”



              “ท่านนี้ก็ เอาเถอะ” วิมิช ยื่นมือที่ เหี่ยวย่น มาให้พระองค์จับก่อนพยุงไปยังห้องว่าราชการ



              ม้าเร็วทั้ง 24 ตัวถูกปล่อยไปเพื่อนำสารไปยังดินแดนต่างๆเพื่อเตือนภัยให้แด่เหล่าพันธะมิตรเก่าที่ยังคงติดต่อกันอยู่ เหล่าเจ้าแห่งเกาะต่างๆ  บรรดาจ้าวแห่งหอคอย และทุกเผ่าพันธุ์บนพิภพ~Ferasai~



              “ขอบใจท่านมากที่นำข่าวสำคัญแบบนี้มาเตือนข้าและเหล่าสรรพชีวิตบนพิภพนี้”



              “ไม่เป็นไร ข้าเองก็เป็นส่วนหนึ่งของพิภพนี้เช่นกัน”





    …………………………………………………………………

    จบตอนที่ 1 การเตือนภัยของ วิมิช

    …………………………………………………………………

                    

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×