ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    สวัสดีมายเฟรนด์

    ลำดับตอนที่ #1 : คนเหงา

    • อัปเดตล่าสุด 13 ม.ค. 47


    อากาศในยามเย็นอันหนาวเหน็บเริ่มทวีความรุนแรงขึ้นทุกขณะแล้ว  ยามนี้ผมเดินเดียวดายท่ามกลางแสงสีแห่งเมืองกรุงในยามค่ำของเมืองใหญ่อย่างกรุงเทพมหานครเมืองที่เหล่าบรรดาผู้คนพากันหลั่งไหลเข้ามารวมตัวกันที่นี่    ผมค่อยๆเดินอย่างช้าๆเพื่อจะได้ไม่ต้องกลับถึงยังห้องพักเร็วๆเพื่อที่จะได้มีเวลาคิดเกี่ยวกับเรื่องงานในวันนี้     เวลาค่อยๆผ่านไปอย่างช้าๆจนกระทั่งผมพาตัวเองมาถึงยังห้องพักทันทีที่ผมเข้าไปในห้องก็พบว่าพี่สาวของผมนั้นกลับมาจากทำงานแล้ว

    \"ทำไมมาช้าจังพี่นั่งรอตั้งนานแล้วน่ะ\"

    \"แล้วพี่รอผมทำไมกันพี่หิวพี่ก็กินไปก่อนเลยซิไม่ต้องห่วงผมหรอกผมโตแล้วน่ะ\"

    ผมพูดอย่างเซ็งๆมันเป็นอย่างนี้ทุกวันเลยแล้วก็ประจำด้วย  ผมเดินไปยังระเบียงห้องพักแล้วก็เหม่อมองไปยังท้องฟ้าอันมืดมิดพร่างพราวไปด้วยแสงดาวน้อยใหญ่มากมาย

    \"วันนี้เพื่อนพี่จะมากินข้าวที่นี่ด้วยแกลงไปซื้อน้ำแข็งให้พี่หน่อยไปเดี๋ยวพี่จะทำกับข้าวรอ\"

    พูดจบแกก็เดินมาหาผมที่ระเบียงพลางยื่นเงินให้ 50 บาท

    \"เอาแค่น้ำแข็งเหรอ\"

    \"จ๊ะรีบๆหน่อยเดี๋ยวเพื่อนพี่เขาจะมาแล้ว\"

    พูดจบแกก็เดินกลับเข้าข้างในแล้วก็สาละวนอยู่กับข้าวของที่แกซื้อมาเตรียมทำกับข้าวส่วนผมก็เดินออกจากห้องลงมายังร้านค้าข้างล่างอย่างเงียบๆ

        ผมชื่อ จักรี  โพธิ์แก้ว  ตอนนี้กำลังทำงานอยู่ที่สำนักพิมพ์แห่งหนึ่งในกรุงเทพมหานครเมืองใหญ่เมืองนี้ผมทำงานด้านสื่อสิ่งพิมพ์ตรงตามที่เรียนมาเป๊ะเลย   ผมจากบ้านมาเป็นเวลา 5 ปีกว่าแล้วและก็ไม่เคยกลับบ้านหรือว่าโทรศัพท์กลับบ้านเลยมีเพียงพี่สาวของผมเท่านั้นที่จะกลับบ้านทุกปีและทุกครั้งที่แกกลับแกก็จะกลับมาพร้อมคำพูดของพ่อกับแม่ว่าคิดถึงผมแล้วก็อยากให้ผมกลับบ้านด้วย   ผมตอบตัวเองในใจทุกครั้งว่ากลับทำไมกันในเมื่อพ่อกับแม่ไม่เคยเข้าใจความรู้สึกของผมเลยว่าผมต้องการอะไร    ทุกวันนี้ผมได้แต่หวังว่าสักวันหนึ่งผมคงจะได้พบกับทางออกที่ผมเผชิญอยู่ตอนนี้   ผมไม่มีเพื่อนหรือแม้แต่แฟนเลยซักคนเดียวจะมีก็เพียงพี่สาวกับน้าสาวที่พักอยู่ในห้องพักเดียวกันหมดเลยเช้ามาก็แยกย้ายกันไปทำงานเย็นๆก็กลับมาที่ห้องกินข้าวเสร็จดูทีวีแล้วก็เข้านอนเป็นกิจวัตรอันน่าเบื่อสำหรับผมและเป็นความรู้สึกอันเปลี่ยวเหงาสำหรับผมด้วย  ตอนนี้อาจไม่มีใครเข้าใจผมว่าผมต้องการอะไรแต่ว่าสักวันหนึ่งพวกเขาคงจะเข้าใจเอง

        ร้านเจ๊กฮวงเป็นร้านขายของที่ใหญ่ที่สุดในย่านนั้นและมีของขายหลายอย่างผมเป็นขาประจำของร้านนี้ทุกครั้งที่ผมไปซื้อของเจ๊กฮวงจะแถมขนมนมเนยมาให้ทุกครั้งทั้งที่ผมเคยบอกแกว่าเกรงใจมากอย่าเลยทุกครั้งแต่เจ๊กฮวงก็ไม่เคยสนใจ

    \"เจ๊กฮวงครับซื้อน้ำแข็ง\"

    ผมเอ่ยปากขึ้นเจ๊กฮวงเดินออกมาอย่างรีบเร่ง

    \"อ้าวอารีนี่เองนึกว่าใครอาลื้อจะซื้ออาไรอ่ะ\"

    \"ซื้อน้ำแข็งครับ\"

    \"อ้อน้ำแข็งเหรอล่ายล่าย\"

    แกพูดพร้อมกับเดินไปยังตู้แช่หยิบถุงน้ำแข็งออกมาถุงหนึ่งแล้วก็จัดการใส่ถุงหิ้วให้ผมแล้วก็หยิบขนมออกติดมือมาด้วยห่อนึงเช่นเคย

    \"เอานี่นำแข็งแล้วก็นี่อั๊วให้ลื้ออารี\"

    \"โธ่เจ๊กฮวงผมบอกแล้วไงครับว่าไม่ต้องผมเกรงใจ\"

    \"ไม่ต้องเกรงจงเกรงใจอั๊วหลอกน่าอารีน่าลื้อรับๆไปเหอะ\"

    แกพูดพร้อมกับยัดของเหล่านั้นใส่มือผม  ผมยื่นตังค์ไปให้แกแล้วแกก็กลับเข้าข้างในและออกมาพร้อมกับตังค์ทอน 45 บาท

    \"ขอบคุณเจ๊กฮวงมากครับ....งั้นผมไปน่ะ\"

    \"ล่ายล่าย\"

    พูดจบผมก็กลับขึ้นยังห้องพักเพื่อนำของมาเก็บก็พบว่าตอนนี้พี่สาวทำอาหารเสร็จ 2 อย่างแล้ว

    \"อ้าวมาแล้วเหรอแม่โทรมาน่ะบอกให้แกโทรกลับด้วย\"

    \"อีกแล้วเหรอผมบอกแล้วไงว่าไม่ต้องโทรมา\"

    \"แม่อยากคุยกับแกน่ะเห็นใจแม่บ้างซิแกนี่ก็เหลือเกินมือถือมีก็ไม่ยอมเปิดปล่อยให้แม่โทรมากวนใจพี่ทุกครั้งเลยโทรกลับด้วยน่ะสงสัยแกมีเรื่องสำคัญจะคุยด้วย\"

    \"ก็เห็นพี่บอกอย่างนี้ทุกครั้งนั่นแหละ\"

    ผมเดินออกไปที่ระเบียงอีกแล้วก็จัดการโทรศัพท์ไปหาแม่ตามที่พี่บอก

    \"ฮัลโหล....แม่เหรอ..มีอะไรครับ

    .....ปีไหม่นี้ผมคงไม่กลับหรอกแม่...

    ไม่ฮะไม่คิดถึง.....บ้านไม่ได้ย้ายหนีผมหรอกน่าถ้าผมไม่กลับน่ะ...

    ผมเข้าใจแต่จะให้ผมกลับไปทำไมกันล่ะฮ่ะไม่มีเหตุผลที่ผมจะต้องกลับไปเลยนี่นา....

    ไม่แม่ผมไม่กลับหรอกยังไงผมก็ไม่กลับ....

    ผมมีเหตุผลของผมน่าแม่....

    ครับ....

    อะไรน่ะ......

    พระเบิ้มเหรอ...มีอะไรแม่

    ลูกจูด้วยเหรอ...

    พระบาปหนักด้วยเหรอแม่...

    ทำไมครับ...

    พวกเขามาหาแม่ถึงที่บ้านเลยเหรอแม่

    ผมไม่รู้ว่าผมจะว่างหรือเปล่าน่ะซิ

    โอเคครับเอาเป็นว่าปีนี้ผมจะกลับบ้านก็แล้วกัน

    ครับๆสวัสดีครับ\"

    หลังจากที่ผมวางหูเพื่อนพี่ก็มาถึงห้องกันแล้วประมาณ3-4 คน  ผมเดินกลับเข้ามาข้างในแล้วก็เดินไปยังตู้เก็บเสื้อผ้า

    \"ไงจะกลับบ้านเหรอปีนี้น่ะ\"

    \"ครับจะกลับ\"

    \"มีอะไรดลใจล่ะถึงคิดจะกลับน่ะ\"

    \"ก็ไม่มีอะไรหรอกเพื่อนเก่าขอร้องแม่ผมเลยอยากกลับ\"

    \"เพื่อนเหรอแกมีเพื่อนที่บ้านด้วยเหรอทำไมไม่ยักกะเล่าให้พี่ฟังบ้างเลย...พี่ก็นึกว่าแกไม่มีเพื่อนที่บ้านเลยไม่อยากกลับ...แต่ทุกทีที่แกยังเรียนอยู่พี่ไม่เคยเห็นแกกับเพื่อนแกเลยน่ะ\"

    \"เพื่อนผมน่ะไม่ได้อยู่ในตัวหมู่บ้านหรอก...พวกเขาอยู่ในวัด\"

    \"ในวัดเหรอ\"

    \"ก็พวกพระพวกเณรนั่นแหละ\"

    \"ไม่เคยเห็นแกบอกพี่\"

    \"ไม่จำเป็นนี่ฮ่ะ\"

    พูดจบผมก็จัดการรื้อข้าวของในตู้ออกมาแล้วก็ควานหาของบางอย่างในความมืด.....

    สักครู่หนึ่งก็เจอบางสิ่งที่ผมค้นหา

    .......................................

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×