ลำดับตอนที่ #7
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #7 : บทที่ 6 ความจริงเริ่มปรากฎ : ไวโอ่
                                            บทที่ 6  ความจริงเริ่มปรากฏ : ไวโอ่   
                    ดาร์กโซลจดจ่อกับการเล่าเรื่องของนักเชิดเงาอย่างยิ่ง    เหตุการณ์โศกนาฏกรรมในคืนนั้นที่แท้เป็นเช่นไรกันกันแน่ 
                    นักเชิดเงาถอนหายใจเฮือกใหญ่  แววตาของมันดูเหม่อลอย  คล้ายกับเลื่อนลอยไปไกลแสนไกล    แต่ไม่นานนักมันก็เอ่ยปากขึ้น
                    “ คืนวันนั้นเอง  วันที่พิณล่าวิญญาณประกาศว่ามันช่วงชิงของล้ำค่าชิ้นนั้นมาให้ได้    ข้า ลูกชายของข้า และก็สหายที่รักที่สุดของข้าก็ได้เข้าร่วมในการปกป้องของล้ำค่าชิ้นนั้นด้วย ”
                    “ ในคืนวันนั้นอาจเรียกได้ว่า เป็นคืนที่เหล่ายอดฝีมือหลายคนรวมใจเป็นหนึ่งเดียวกันเพื่อจะปกป้องของสำคัญไว้  มิเพียงเท่านั้นเหล่าผู้คุ้มกันก็ร่วมมือป้องกันของล้ำค่านั้นไว้อย่างสุดชีวิตด้วย 
                    ขณะนั้นข้า ลูกชาย และสหายของข้ายืนจดจ่อสมาธิเตรียมรับการมาของพิณล่าวิญญาณ และพวกของมันอย่างใจจดใจจ่อ      ข้าเองสัมผัสได้ถึงกลิ่นอายอันชั่วร้ายของราตรีในคืนนั้นได้ 
                    เหล่ายอดฝีมือต่างเฝ้ารอคอยของพิณล่าวิญญาณเป็นเวลานานแสนนาน  แต่มันก็มิมีวี่แววว่าจะปรากฏตัวขึ้นมาเลย    จนกระทังเวลาประมาณตีสองกว่าได้    ลมพัดโชยมาหนาวเหน็บยิ่งนัก    ทันใดนั้นเองการลงมือที่แสนอำมหิตก็เริ่มขึ้น  ! ”
               
                    “ อาวุธลับที่แสนอำมหิตซัดใส่เหล่ายอดฝีมือทั้งหลายด้วยความรวดเร็วยิ่งนัก    การลงมือในครั้งนั้นเรียกได้ว่า รวดเร็วยิ่งนัก    มียอดฝีมือไม่น้อยที่ไม่สามารถหลบการโจมตีครั้งนั้นได้   
                    ข้าเองก็เกือบที่จะหลบไม่พ้นเช่นกัน  ยังดีที่ข้า กับลูกชายช่วยกันใช้หุ่นเชิดเป็นเกราะกำบังตัวไว้ได้    สหายของข้านั้นเมื่อรู้ว่าฝ่ายตรงข้ามชิงลงมือก็ไม่รอช้าอาศัยท่าร่างพุ่งตัวตรงไปยังที่ทิศที่อาวุธลับเหล่านั้นซัดออกมาในทันที      เหล่ายอดฝีมือที่เหลือก็พุ่งตามสหายของข้าไปเช่นกัน 
                    แต่นั่นกลับเป็นเพียงกับดักลวงของมันเท่านั้น  บริเวณเงามืดที่อาวุธนั้นซัดออกมานั้น    เมื่อเหล่ายอดฝีมือเข้าไปใกล้ก็พบว่านั่นเป็นแค่หุ่นปลอมเท่านั้น    กว่าจะรู้ตัวว่าถูกหลอกก็สายไปเสียแล้ว    หุ่นปลอมนั้นได้มีกับระเบิดติดตั้งไว้   
                    เสียงระเบิดดังสนั่นก้อง  ราวกับว่าจะทำลายทุกสิ่งทุกอย่างในตรงนั้นให้สิ่งซากเป็นผุยผง      ข้าเองก็แทบไม่อยากจะเชื่อสายตาตัวเองเช่นกัน    หุ่นปลอมที่มันคิดค้นขึ้นมานั้น  สามารถซัดอาวุธได้รวดเร็วถึงเพียงนี้      ควัน และเปลวเพลิงจากระเบิดครั้งนั้นแผ่ซ่านไปทั่วบริเวณ    เหล่ายอดฝีมือในตอนนั้นเหลือเพียงแค่ห้าสิบ หกสิบคนเท่านั้น 
                    ภาพที่ปรากฏต่อหน้าของข้าต่อจากนั้นก็คือ  ใต้ควันไฟนั้นได้ปรากฏตัวของพวกมันขึ้น !    พิณล่าวิญญาณ และพวกมือสังหารของมัน     
                    พวกมันมีจำนวนรวมกันแล้วเพียงแค่สี่คนเท่านั้น  ทุกผู้คนถูกปิดบังใบหน้าไว้ด้วยหน้ากากสีดำ  ไม่เว้นแม้แต่พิณล่าวิญญาณ 
                    ข้าในตอนนั้นด้วยความโมโหที่สหายของข้าโดนระเบิดไป  ก็พุ่งตัวเข้าไปหวังจะต่อกรกับมันด้วยหุ่นของข้า    ถึงแม้ข้าจะรู้ตัวเองว่าฝีมือของพวกมันกับข้าจะต่างกันมากเพียงใดก็ตาม 
                    แต่ข้ามิเพียงไม่สามารถทำอะไรมันได้เท่านั้น  กลับถูกพวกมันคนหนึ่งต่อยเข้าหนึ่งหมัด  แต่ข้าควบคุมหุ่นของข้ารับไว้แทนได้ทัน    ถึงกระนั้นความร้ายอาจของฝีมือการลงมือของมันนั้นร้ายกาจยิ่ง    แม้แต่หุ่นที่ข้าสร้างขึ้นมา    กลับถูกมันต่อยพังด้วยหมัดเปล่าเพียงครั้งเดียว 
                       
                    ในตอนนั้นเหล่ายอดฝีมือบางคนที่คิดจะหนีก็ถูกพวกมันคนอื่นลงมือสังหารเสียสิ้น  ทุกอย่างเกิดขึ้นอย่างรวดเร็วยิ่งนัก  ลูกชายข้าพยายามที่จะเข้ามาช่วยข้า    แต่ไหนเลยจะสามารถช่วยข้าได้  แม้แต่พลังฝีมือของข้ายังไม่สมารถต่อกรกับมันได้เลย 
                    ไม่นานนักยอดฝีมือบริเวณหน้าหอรักษาการณ์ก็เหลือเพียงไม่กี่สิบคนเท่านั้น    แต่ทว่าจำนวนของพวกมันนั้นทั้งสี่คนยังคงไม่มีแม้รอยขีดข่วนแม้แต่เพียงนิดเดียว      ข้าเองในตอนนั้นรู้ดีว่าไม่มีทางรอดชีวิตได้แน่  จะคิดหลบหนีก็คงไม่มีทางรอดพ้น
                    และแล้วหนึ่งในสี่ของพวกมันก็ค่อยๆ ก้าวเข้ามาใกล้ข้า และพวกที่เหลืออย่างช้าๆ  ในมือของมันนั้นถือไว้ด้วยพิณตั้งสายขนาดเล็กอันหนึ่ง    พิณที่ไล่ล่าชีวิตคน  พิณล่าวิญญาณ  !
                    ในตอนนั้นมียอดฝีมือหนึ่งคนคิดจะหลบหนี  แต่เพียงแค่มันพุ่งตัวออกไปยังไม่ทันไร  พิณในมือของมันถูกดีดออก  ร่างของยอดฝีมือผู้นั้นก็ขาดเป็นสองท่อนในทันที      การลงมือของมันนั้นเรียกได้ว่าข่มขวัญยอดฝีมือที่เหลือจนหมดสิ้นแล้ว   
                    ข้ารู้ว่าเวลาชีวิตของข้านั้นเหลือไม่มากแล้ว    ข้าจึงตัดสินใจจะใช้กระบวนท่าเสี่ยงชีวิตกับมันแล้ว  ขณะที่มันกำลังจะดีดพิณของมันขึ้นอีกครั้งหนึ่ง    ข้าอาศัยเรี่ยวแรงที่เหลืออยู่ทั้งหมดของข้าพุ่งเข้าใส่มัน     
                    แต่เมื่อข้าพุ่งตัวไปข้าก็รู้ตัวว่า พลาดท่าเสียแล้ว  มันเพียงตั้งใจหลอกล่อข้าให้พุ่งตัวออกมาเท่านั้น    ข้าคิดจะเปลี่ยนแปลงท่าร่างหลบหนีก็ไม่เป็นผลเสียแล้ว    พร้อมกันนั้นพิณในมือของมันก็ถูกดีดออก 
                    ข้าคิดว่าข้าคงต้องจบชีวิตลงเสียแล้ว    ในตอนนั้นข้ารู้สึกเหมือนว่ามีอะไรบางอย่างกระแทกใส่ตัวของข้าอย่างจัง    ทำให้ข้าต้องกระเด็นไปในทันที      ในตอนแรกข้าคิดว่าเป็นฝีมือจากการลงมือของมัน  ”
                      กล่าวถึงตรงนี้นักเชิดเงาคล้ายกับมีน้ำตา  แต่มันก็กล้ำกลืนเอาไว้พร้อมกับกล่าวต่อ
                      “ แต่ที่ข้ากระเด็นออกไปนั้น  มิใช่เพราะเสียงพิณของมัน    แต่เป็นเพราะลูกชายข้าอาศัยตัวของเขาเข้ารับการลงมือของมันไว้    ลูกชายข้าพยายามปกป้องข้าไว้    ภาพที่ข้าเห็นในตอนนั้นก็คือ  เลือดที่สาดกระเซ็นออกจากคอหอยของลูกชายข้า
                      ข้าตะโกนเรียกลูกชายข้าอย่างสุดชีวิต  แต่เขาไม่สามารถจะกล่าวกับข้าได้แม้แต่เพียงสักคำเดียว  ไม่นานนักลูกชายข้าก็สิ้นลมหายใจ    ข้าไม่สามารถปกป้องลูกชายของตัวข้าเองได้  !
                      พิณล่าวิญญาณในตอนนั้นคล้ายกับแย้มยิ้มขึ้นมาเล็กน้อย  มันคล้ายพึงพอใจยิ่งนักที่เห็นผู้คนสูญเสียสิ่งที่ตัวเองรักไป        และก็ในทันใดนั้นเอง  ภายในกองไฟที่เกิดระเบิดก็ปรากฎเงาร่างสายหนึ่งพุ่งตัวออกมาด้วยความรวดเร็วยิ่งนัก    เงาร่างสายนั้นมิเพียงติดไฟที่ลุกไปทั่วร่างกาย  แต่บนตัวของมันนั้นถูกอาวุธลับหลายสิบเล่มปักอยู่    หากเปลี่ยนเป็นคนผู้อื่นคงไม่สามารถมีชีวิตอยู่รอดได้แล้ว   
                      แต่เพราะเงาร่างสายนั้นเป็นมันนั่นเอง !
                      มันคือสหายที่ข้ารักที่สุด  จิตใจของมันนั้นยังคงไม่ยอมแพ้  แม้ร่างกายของมันจะปานตายแล้ว    ข้าเชื่อว่ามันต้องการที่จะปกป้องทุกคนในจงได้     
                      มันตะโกนดังลั่น ‘ ตายไปพร้อมกับข้าเสียเถอะ  พิณล่าวิญญาณ ! ’  เหล่ามือสังหารที่เหลือแม้ประสาทสัมผัสรวดเร็วเพียงใดก็ตาม    พวกมันนั้นซัดอาวุธลับอีกหลายร้อยสายใส่สหายของข้า      แต่นั่นไม่ได้ทำให้การเคลื่อนไหวของสหายของข้าชะงักลงแม้แต่น้อย    กลับกันสหายของข้ากลับพุ่งเข้าล็อคคอของพิณล่าวิญญาณเอาไว้อย่างสุดชีวิต     
                      มันมองมาที่ข้าด้วยสายตาที่ภายในแฝงไว้ด้วยรอยยิ้ม    ข้ายังคงจำสิ่งที่มันกล่าวกับข้าไว้ได้    ‘ ฝากลูกของข้าด้วยนะ ’ !    ”
                      กล่าวถึงตรงนี้น้ำตาของนักเชิดเงาก็หลั่งไหลออกมาในทันที    โซเฟียก็เช่นกัน       
                      ดาร์กโซลมันแม้เป็นนักฆ่าที่เลือดเย็นอำมหิต  แต่พอได้ฟังเรื่องราวถึงตอนนี้ก็แทบจะกลั้นใจไม่ไหวจริงๆ 
                      โซเฟียซบลงที่นักเชิดเงาช้าๆ    นักเชิดเงาลูบหัวปลอบนางอย่างทะนุถนอม 
                      “ และทันทีที่เพื่อนช้ากล่าวจบมันล็อคคอพิณล่าวิญญาณไว้ไม่ทันไร  ก็ถูกซัดใส่ด้วยอาวุธลับอีกหลายสายเช่นกัน  และถึงตอนนั้นมันก็ไม่สามารถทนรับความบาดเจ็บจากการลงมือที่แสนอำมหิตครั้งนั้นได้    แขนที่เคยล็อคคอพิณล่าวิญญาณค่อยๆ ถูกปล่อยออกอย่างช้าๆ 
                      พิณล่าวิญญาณหอบหายใจของมันราวกับเกือบจะสิ้นลมไป    มันคล้ายเพิ่มความโกรธแค้นขึ้นมายิ่งนัก  ดีดพิณตั้งสายของมันใส่ร่างสหายของข้าอีกครั้งหนึ่ง    เลือดซ่านกระเด็นไปทั่วทิศทาง    จากนั้นมันก็ตะโกนออกมาด้วยความโกรธแค้น  ‘ เจ้าพวกสวะเอ๋ย  ข้าจะฆ่าไม่ให้เหลือแม้แต่คนเดียวเลย !  ’  พร้อมกันนั้นมันก็เริ่มบรรเลงพิณของมันแล้ว   
                      ข้าเองในตอนนั้นไม่คิดว่าตัวเองจะมีชีวิตรอดได้อีกแล้ว    เมื่อพิณของมันบรรเลงขึ้นเหล่ายอดฝีมือบางคนก็เกิดอาการคุ้มคลั่งฆ่าฟันพวกเดียวกันเอง    บ้างก็เลือดทะลักออกจากปากสิ้นใจตาย  บทเพลงที่มันบรรเลงในคืนนั้นคือ  ‘ บทเพลงราตรีโหยหวน ’ 
                      แต่ข้าในตอนนั้นกลับไม่ได้ยินเสียงอะไรทั้งสิ้น    ข้าคิดว่าข้าคงจะต้องตายแน่แล้ว    แต่ทันใดนั้นเอง    เงาร่างสีเขียวสายหนึ่งก็ปรากฏตัวขึ้น    เงาร่างสายนั้นมิเพียงปรากฏขึ้นมาด้วยความรวดเร็วเท่านั้น  มันกลับพาตัวของข้าหนีไปด้วยความรวดเร็วอย่างยิ่ง      แต่พิณล่าวิญญาณ และพวกของมันนั้นก็หาได้ติดตามไม่  เนื่องเพราะพวกมันไม่ได้สังเกตว่ามีดสั้นสังหารพรางตัวอยู่ และช่วยข้าไปในตอนไหนนั่นเอง  มันคิดว่าข้าตายไปแล้ว 
                      เงาร่างสายนั้นพาข้าไปยังภูเขาแห่งหนึ่งไกลออกไปจากเมืองเทอรีโน่  ที่แววตาของมันนั้นปรากฏรอยน้ำตาขึ้น  ความเจ็บปวดที่มันเผชิญอยู่นั้นมิสามารถบ่งบรรยายได้  ข้าเองก็เช่นกัน    และนั่นก็เป็นครั้งแรกที่ข้าได้เจอกับมีดสั้นสังหาร !  ”
                      จากนั้นนักเชิดเงาก็ได้เล่าให้ฟังว่า
                      “    มีดสั้นสังหารนั้นความจริงรอหาโอกาสลอบสังหารพวกนั้นอยู่  แต่ไม่มีโอกาสที่จะสามารถลงมือได้เลย      เมื่อมันเห็นว่าไม่ได้การ  คนที่มันคิดว่าสามารถช่วยได้เร็วที่สุดในตอนนั้นก็คือ ข้า     
                      หลังจากนั้นข้าก็ไปตามหาตัวโซเฟีย  ซึ่งก็คือลูกสาวของสหายที่รักที่สุดของข้า  พร้อมกันคอยเลี้ยงดูนาง    นางในตอนนั้นอายุประมาณสิบเอ็ดขวบได้        ส่วนมีดสั้นสังหารกับข้าก็ทำการช่วยฝึกวิชาเพื่อที่จะหาทางแก้แค้นพวกมันให้จงได้ 
                      และข่าวหลังจากนั้นก็คือ  ของล้ำค่าชิ้นนั้นได้ถูกขโมยไปเสียแล้ว    ข่าวคราวการตายของเหล่ายอดฝีมือก็แพ่รกระจายไปทั่ว    แต่ทว่าหลังจากนั้นก็ไม่มีใครพบเห็นพิณล่าวิญญาณอีกเลย  บ้างก็ว่ามันได้ตายไปแล้ว    แต่ข้าคิดอยู่เสมอว่ามันคงยังไม่ตาย    ”
                      มันกล่าวพร้อมกับชี้ไปที่หุ่นเชิดของมัน
                      “ หุ่นเชิดอันนี้เป็นหุ่นเชิดที่ข้าอุทิศตัวสร้างขึ้น    มันเป็นหุ่นเชิดที่ถอดแบบมาจากลูกชายของข้า  และสักวันข้าจะต้องหาโอกาสแก้แค้นให้จงได้     
                      ข้า และโซเฟียหลบซ่อนมาตลอดเวลาที่ผ่านมา  ติดตามข่าวคราวของมันตลอด  และจนในที่สุดคืนนี้ข้าก็ทราบข่าว    ผู้ที่บอกข้าก็คือ มีดสั้นสังหารนั่นเอง      มันได้บอกกล่าวกับข้าว่ามีการประมูลลับขึ้น  มันจะไปสังเกตการณ์คาดว่าต้องเกี่ยวข้องกับของล้ำค่าที่หายสาบสูญไปแน่  ”
                      เมื่อนักเชิดเงาเล่าเรื่องราวถึงตอนนี้  ดาร์กโซลก็พอเข้าใจอะไรมากขึ้นมาบ้างแล้ว    มันกลับรู้สึกละอายใจตัวขึ้นมาที่คิดจะฆ่ามีดสั้นสังหาร   
                      “ แต่ว่าทำไมมีดสั้นสังหารเมื่อพบกับพิณล่าวิญญาณแล้ว  ถึงทำเป็นเหมือนกับไม่เคยเจอมันมาก่อน ”
                      มันถามอย่างสงสัย
                      “ นั่นก็เพราะมันไม่ต้องการให้พิณล่าวิญญาณสงสัยในตัวของมันนั่นเอง  และก็เป็นการดีแก่ตัวมันเองด้วยที่จะสะกดกลั้นความแค้นไว้  เพื่อซ่อนจิตสังหารของมันไม่ให้แผ่ออกมา  มิเช่นนั้นในตอนนั้นหากมันสูญเสียพลังสมาธิไปเพียงส่วนเดียวมันคงไม่สามารถมีชีวิตรอดจนข้าไปช่วยได้แล้ว ”
                      “ เช่นนั้นเป็นว่า พิณล่าวิญญาณไม่รู้ว่าคนที่ช่วยชีวิตท่านในวันนั้นไว้คือ มีดสั้นสังหาร ”
                      นักเชิดเงาพยักหน้ายอมรับ
                      “ ในตอนนั้นมันคงไม่คิดว่าจะมีใครมาช่วยชีวิตข้าไว้ได้  หากมันล่วงรู้ว่ามีดสั้นสังหารช่วยข้าไว้ได้ในวันนั้น  มันคงตามเก็บข้าแล้ว ”
                      ดาร์กโซลนั่งเงียบสักพัก  มันคล้ายกำลังทบทวนความจำ  และคิดอะไรอยู่   
                      “ ถ้าเป็นเช่นนั้นของล้ำค่าชิ้นนั้นไฉนตกอยู่ในมือของคอนเนอร์ได้  ”
                      “ ข้าเองก็ไม่ทราบเหมือนกัน  อาจบางทีเป็นคอนเนอร์ว่าจ้างพิณล่าวิญญาณให้ไปขโมยของชิ้นนั้นแต่แรกแล้ว ”
                      “ คนเช่นคอนเนอร์แม้ร่ำรวยก็จริง  หากแต่พิณล่าวิญญาณก็มิใช่คนที่จะยอมตกอยู่ในการควบคุมของใครง่ายๆ  ไฉนมันต้องยอมทำงานเสี่ยงชีวิตเช่นนี้ให้คอนเนอร์ด้วย ”
                      “ ข้าเองก็มิอาจทราบได้ ”
                      ขณะที่ความเงียบกำลังครอบคลุมไปทั่วห้องนั้นเอง    ภายในห้องก็เกิดการเคลื่อนไหวขึ้น    เป็นการเคลื่อนไหวของชายหนุ่มท่าทางธรรมดานั่นเอง 
                      นักเชิดเงาเมื่อเช่นนั้นก็รีบเข้าไปดูอาการของมันในทันที
                      ชายท่าทางธรรมดาค่อยๆ ลืมตาขึ้นช้าๆ
                      “ เจ้าพอจะลุกขึ้นไหวไหม ” 
                      ชายหนุ่มผงกหัว  พร้อมกันนั้นนักเชิดเงาก็เข้าไปช่วยประคองมัน
                      ชายหนุ่มกวาดสายตาไปรอบๆ มันคล้ายสับสนเล็กน้อย 
                      “ นี่ข้า . ”
                      “ เจ้าโดนพิษสาหัสดีที่ยังรอดมาได้  ว่าแต่เจ้าเป็นใครกัน ”
                      หากเป็นคนผู้อื่นต้องเล่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นให้ฟังก่อนแล้ว    หากแต่นี่เป็นนักเชิดเงาผู้มีประสบการณ์มามากมาย  มันย่อมต้องรู้ที่มาที่ไปของคนอื่นก่อนค่อยบอกเรื่องราวที่เกิดขึ้น 
                      มิเช่นนั้นหากคนผู้นี้เป็นศัตรูแล้ว  ย่อมไหวตัวทันคิดกลบเกลื่อนเรื่องราว
                      “ ข้าเป็นแค่คนธรรมดาผู้หนึ่ง  ชื่อของข้าก็คือ ไวโอ่ ”
                      ดาร์กโซลจ้องไปยังไวโอ่อย่างเชื่อครึ่งไม่เชื่อครึ่งในคำพูดของมัน
                      “ ดูจากเพลงดาบ และการตัดสินใจของเจ้าแล้ว  เจ้าต้องมิใช่ชนชั้นธรรมดาแน่  ไยบอกว่าตัวเองเป็นเพียงแค่คนธรรมดา ”
                      “ ข้าเป็นแค่คนธรรมดาผู้หนึ่งจริงๆ ”
                      มันกล่าวแต่กลับไม่กล้าสบสายตาของดาร์กโซล 
                      คนผู้นี้หนึ่งหากเวลากล่าววาจา  ไม่กล้าสบสายตากับคู่สนทนาแล้ว  นั่นย่อมหมายความได้เพียงไม่กี่อย่างเท่านั้น 
                      “ เฮอะ คนธรรมดาผู้หนึ่งไหนเลยสามารถจัดการกับยอดฝีมือได้ภายในกระบวนท่าเดียว  ไหนเลยสามารถเข้าไปในการประมูลลับได้ ”
                      ดาร์กโซลกล่าวพร้อมกับเอื้อมมือไปหยิบดายักษ์ที่ข้างตัวมัน 
                      “ หากเจ้าไม่พูดความจริงทั้งหมดออกมา  เห็นทีข้าคงต้องฆ่าเจ้าแล้ว ”
                      “ เช่นนั้น  ข้าขอถามท่านเพียงแค่สองสามข้อก่อนเท่านั้น ”
                      คราวนี้มันสบสายตาดาร์กโซลแล้ว  แววตาของมันผิดแปลกจากที่ผ่านมาในทันที  เป็นแววตาของผู้ที่มีความมุ่งมั่น มีปณิธานอันแข็งกล้า 
                      “ ข้อที่หนึ่งพวกท่านใช่คนของคอนเนอร์หรือไม่ ”
                      “ เฮอะ หากพวกข้สเป็นคนของคอนเนอร์เจ้ายังสามารถถามข้าได้อีกหรือ  ”
                      คำถามของมันนั้นมิเพียงรวบรัดยิ่ง  แต่มันสามารถแน่ใจได้อย่างไรว่าคำตอบที่มันได้รับฟังก็เป็นเรื่องจริง 
                      นั่นอาจเป็นเพราะเวลาที่มันถามนั้น  สายตาของมันไม่เคลื่อนออกจากการจ้องมองไปยังตาของ
ดาร์กโซลเลยแม้แต่น้อย  อย่าว่าแต่คำตอบของดาร์กโซลก็รวบรัดยิ่งเช่นกัน 
                      “ ข้อที่สองพวกท่านไฉนคิดช่วยข้า ”
                      “ นั่นเพราะเจ้าช่วยชีวิตผู้อื่น ผู้อื่นถึงคิดช่วยชีวิตเจ้า ”
                      หากท่านไม่เคยคิดที่จะช่วยเหลือผู้อื่นก่อน  ผู้อื่นไหนเลยจะคิดช่วยเหลือท่านก่อน
                      “ ข้อสุดท้ายคนที่ช่วยเหลือข้านั้น  ตอนนี้อยู่ที่ใด ”
                      “ มันไม่ได้อยู่ที่นี่ ”
                      ไวโอ่หลับตาคล้ายวิเคราะห์เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นมาทั้งหมดจากนั้นมันก็กล่าวขึ้น
                      “ ตามที่ข้าได้ตกลงไว้  ข้าจะบอกพวกท่านว่าข้าเป็นใครกันแน่ ”
                      มันกล่าวพร้อมกับค่อยๆ พยุงตัวเองลุกขึ้นช้าๆ  คล้ายจะทดสอบพลังที่ตัวเองมีอยู่ในตอนนี้    หากเป็นคนที่ไม่ได้รับการฝึกปรือฝีมือมา    ย่อมต้องไม่สามารถลุกขึ้นยืนได้หลังจากถูกพิษร้ายเช่นนี้
                      แต่มันกลับสามารถลุกขึ้นยืนได้    ย่อมทราบแลเวว่าพลังฝีมือของมันนั้นมิใช่ธรรมดา
                      “ ชื่อของข้าก็คือ ไวโอ่จริงๆ    หากแต่ข้าเป็นคนของมิว ! ”
                      มันกล่าวถึงตอนนี้คล้ายสร้างความตื่นตระหนกแก่คนฟังทั้งสามคนอย่างยิ่ง
                      มิวนั้นเป็นชื่อองค์กรลับที่ทำหน้าที่คล้ายผู้รักษาความยุติธรรมพิเศษ    ฟังว่าคนที่อยู่ในองค์กรนี้ได้มีเพียงไม่กี่คนเท่านั้น    แต่ละคนนั้นมีฝีมือสูงล้ำ 
                      งานที่มิวกระทำนั้นย่อมถูกปกปิดเป็นความลับ  เพียงแต่งานที่พวกมันกระทำนั้นล้วนเป็นเรื่องดีงาม  เช่นนี้เป็นว่าไวโอ่ถูกส่งมาให้จัดการกับเรื่องของล้ำค่าชิ้นนั้นนี่เอง   
                      “ ข้าถูกส่งมาให้จัดการกับของล้ำค่าชิ้นนั้น  พร้อมทั้งกำจัดต้นตอแห่งเรื่องทั้งหมดนี้ด้วย ”
                      “ ต้นตอที่ว่านี่ใช่หมายถึงคอนเนอร์ และพวกมือสังหารของมันด้วยใช่หรือไม่ ”
                      “ ย่อมต้องใช่ คอนเนอร์ภายนอกดูเป็นมหาเศรษฐีที่มีความเมตตา  แต่ความจริงแล้วมันได้พยายามรวบรวมมือสังหารจากทุกที่เพื่อสร้างอำนาจให้แก่มัน  แผนการของมันก็คือ  การได้เป็นใหญ่ในแผ่นดินนั่นเอง ”
                      “ เฮอะ  แต่การกระทำเพียงแค่นี้มันไหนเลยสามารถเป็นใหญ่ได้ ”
                      ไวโอ่หันมาสบตาดาร์กโซลอีกครั้ง  มีเพียงไม่กี่คนเท่านนั้นที่กล้าสบสายตากับดาร์กโซลเป็นครั้งที่สอง 
                      “ ท่านเคยทราบเรื่องราวโศกนาฎกรรมเมื่อห้าปีที่แล้วหรือไม่ ”
                      ดาร์กโซลผงกหัว
                      “ ข่าวที่บอกว่าได้ค้นพบของล้ำค่าชิ้นนั้นขึ้น  ของที่จะนำมาซึ่งความหายนะ  ข่าวที่ต้องทำให้เหล่ายอดฝีมือล้มตายเป็นอันมาก  ความจริงก็คือ  เรื่องราวทั้งหมดล้วนเป็นเรื่องโกหกทั้งนั้น ! ”
                      กล่าวถึงตอนนี้ทั้งสามได้แต่ตะลึงแล้ว
                      “ ของล้ำค่าที่ว่านั้นความจริงมิได้ถูกค้นพบขึ้นเลยแม้แต่น้อย  หากแต่มันมีอยู่ตั้งแรกแล้ว !    ของล้ำค่าชิ้นนั้นความจริงเป็นมรดกที่ถูกตกทอดมาอย่างลับๆ ภายในตระกูลของคอนเนอร์แต่แรกแล้ว    เพียงแต่ว่าตระกูลของมันนั้นเป็นตระกูลที่ซื่อสัตย์ยิ่ง    ของล้ำค่าชิ้นนั้นถูกสืบทอดโดยได้รับการเก็บรักษาเป็นอย่างดี  ไม่ให้นำออกมาใช้เป็นอันขาด    และก็ไม่เคยมีใครล่วงรู้ความลับเรื่องของล้ำค่าชิ้นนี้เลยแม้แต่น้อย
                    จนกระทั่งถึงรุ่นของคอนเนอร์  เรียกได้ว่าเป็นเคราะห์กรรมก็ว่าได้  คอนเนอร์นั้นคิดผ่าฝืนข้อห้ามของตระกูล  หวังจะใช้ของล้ำค่าชิ้นนั้นเพื่อสร้างความเป็นใหญ่ให้แก่ตนเอง  ”
                      ไวโอ่เดินไปเดินมาราวกับครุ่นคิดอะไรสักพักก็กล่าวต่อ
                      “ ของล้ำค่าชิ้นนั้นความจริงมีเพียงแค่ผู้ที่ได้รับการสืบทอดจริงๆ เท่านั้นถึงจะสามารถใช้มันได้อย่างเต็มความสามารถ  หากตกไปแก่ผู้อื่นก็ไม่ต่างอะไรกับของไร้ค่าชิ้นหนึ่ง    ดังนั้นพอถึงรุ่นของมัน  มันจึงเริ่มคิดวางแผน ”
                      ระหว่างที่ไวโอ่จะกล่าวต่อมันก็ถูกถามขึ้น  ผู้ที่ถามคราวนี้กลับเป็นโซเฟีย ซึ่งเงียบมาตลอด
                      “ ของชิ้นนั้นที่แท้มีความสามารถอะไรกันแน่  แล้วถ้ามันไม่ดีอย่างนั้นจะเก็บมันไว้ทำไมกัน ”
                      “ คนเราบางครั้งก็ไม่อาจหักใจทิ้งของที่มีค่าสำหรับตัวเราได้ถึงแม้มันจะไม่เป็นผลดีแก่ตัวเราเอง  และคนรอบข้างก็ตาม  นั้นคือความอ่อนแอในจิตใจของคน ”
                      ความรักไยมิใช่เช่นเดียวกัน  รู้อยู่แก่ใจว่ายิ่งรักยิ่งทำร้ายจิตใจ  หากตัดใจเลิกรักแม้เจ็บปวดแต่ก็เจ็บนาน  แต่ผู้คนมักไม่ยอมรับความเป็นจริง  ยังคงยอมเจ็บปวดต่อไป  ที่แท้เพื่ออะไรกัน ? 
                      “ และความสามารถที่แท้จริงของๆ ชิ้นนั้นก็คือ ”
             
                      เสียงเพลงโหยหวนที่ดังกึกก้องเริ่มค่อยลง  รอบๆ บริเวณนั้นปราศจากสิ่งมีชีวิตโดนสิ้นเชิง    เสียงพิณที่บรรเลงออกไปนั้นคล้ายทำลายทุกสรรพสิ่งให้สิ้นซากไปในพริบตา 
                      เสียงพิณเงียบหายไปแล้ว  คนเล่า ?  คนก็หายไปเช่นกัน
                      “ ประเสริฐ  มีดสั้นสังหารอันประเสริฐนัก ”
                      พิณล่าวิญญาณกล่าวอย่างเคียดแค้นยิ่งนัก    ที่ใบหน้าบริเวณแก้มของมันปรากฏรอยแผลชนิดหนึ่งขึ้น  รอยแผลนี้ดูไปไม่หนักหนานัก เป็นเพียงแค่ขีดๆ หนึ่งเท่านั้น    แต่กลับทำให้มันรู้สึกเจ็บปวดยิ่งนัก  ราวกับถูกฉีกเลือดเนื้อออกไปหมดร่างกายก็ไม่ปาน
                      นั่นเพราะรอยแผลนั้นเป็นรอยที่เกิดขึ้นจากมีดนั่นเอง  มีดที่รวดเร็วยิ่งนัก  มีดที่มองไม่เห็น !
                      ที่มือของมันก็ปรากฏรอยเช่นนี้ขึ้นเช่นกัน    เลือดในมือของมันไหลออกมากแล้วในตอนนี้   
                      พิณตั้งสายขนาดเล็กของมันในตอนนี้คล้ายไม่สามารถเล่นได้อีกสักพักหนึ่ง  นั่นก็เพราะสายพิณที่ขาดไปแล้วสองสายนั่นเอง ! 
                      แต่ที่สร้างความเจ็บปวดให้แก่มันที่สุดก็คือ  มีดสั้นสังหารได้หายไปแล้วนั่นเอง !
                      “ มีดสั้นสังหารข้าเข้าใจแล้ว  ว่าทำไมนักเชิดเงาถึงรอดชีวิต  คืนนั้นนั่นเอง  คืนนั้นที่ข้าคิดว่าข้าตาฝาดไป  เงาร่างสีเขียวนั้นเป็นเจ้านั่นเอง  ข้าน่าจะนึกออกตั้งแต่แรก ”
                      รอยยิ้มของมันในตอนนี้ช่างชั่วร้ายยิ่งนัก
                      “ ฮ่าๆๆ สมแล้วที่เจ้าได้รับการร่ำลือว่าเป็นสุดยอดมือสังหาร  สมแล้วจริงๆ ”
                      มันหัวเราะอย่างบ้าคลั่ง  เลือดในมือของมันในตอนนี้ไหลออกมามาก  แต่มันคล้ายกับไม่รู้สึกเลยแม้แต่น้อย   
               
                     
                      มีดสั้นสังหารความจริงลงมือไม่เคยพลาดมาก่อน  การลงมือในครั้งนี้ของเขาใช่พลาดแล้วหรือไม่ ?  หรือที่มีดสั้นสังหารลงมือมิใช่ต้องการปลิดชีวิตพิณล่าวิญญาณ  หากแต่ต้องการทำลายพิณ และมือของมัน
                      ผู้ใช้พิณผู้หนึ่งหากถูกทำลายมือ และพิณทิ้งแล้ว  มันจะยังสามารถใช้อะไรได้อีก ?
                      แต่มีดสั้นสังหารเล่า  การลงมือของพิณล่าวิญญาณก็ไม่เคยไม่คร่าชีวิตผู้คนมาก่อน    เพลงที่มันบรรเลงหนึ่งเพลงนั้นย่อมต้องแลกมาด้วยชีวิตผู้คน    เช่นนั้นชีวิตของมีดสั้นสังหารใช่ถูกแลกกับบทเพลงที่มันบรรเลงไปแล้วหรือไม่ ?
           
                      “ หึหึ  แต่ถึงยังไงเจ้าก็ไม่มีทางรอดชีวิตได้ไปหรอก  ผู้ที่เคยคิดยินเสียงเพลงของข้าไม่เคยมีผู้ใดรอดชีวิตไปได้  ”
                      คำพูดของมันไม่ได้โกหกเลยแม้แต่น้อย  ผู้ที่ได้ยินเพลงของมันต้องตกตายทุกคน
                      “ แต่ข้าเพียงหวังว่าเจ้ายังไม่ตายง่ายๆ ตอนนี้  เจ้าจะต้องได้รับความเจ็บปวดอย่างสาสมที่ทำกับพิณ และมือสุดรักของข้า  เสียงเพลงของข้าจะทำให้เจ้าต้องสูญเสียทุกๆ อย่าง    ฮ่าๆๆๆๆ  ”
                      เสียงหัวเราะของมันดังก้องไปทั่วราวกับเสียงของปีศาจร้ายจากขุมนรก        เพลงที่มันบรรเลงในค่ำคืนนี้ก็คือ  ‘ บทเพลงราตรีโหยหวน ’  ซึ่งมันได้เคยบรรเลงไว้เมื่อห้าปีก่อน    บทเพลงที่ทำให้คนฟังต้องบ้าคลั่งเสียความเป็นตัวเองไป    บางคนถึงกับต้องตกตายในตอนนั้นทันที
                      แล้วมีดสั้นสังหารใช่สูญเสียความเป็นตัวเองไปแล้วหรือไม่  ใช่ตกตายไปแล้วหรือไม่ ?
                      ไม่มีผู้ใดทราบได้ !
                     
                                           
                           
                                                          __________________________________
             
             
           
                           
                 
             
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น