ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Risk มีดสั้นสังหาร

    ลำดับตอนที่ #7 : บทที่ 6 ความจริงเริ่มปรากฎ : ไวโอ่

    • เนื้อหานิยายตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 36
      0
      12 ต.ค. 48



                                                 บทที่ 6  ความจริงเริ่มปรากฏ : ไวโอ่    









                         ดาร์กโซลจดจ่อกับการเล่าเรื่องของนักเชิดเงาอย่างยิ่ง    เหตุการณ์โศกนาฏกรรมในคืนนั้นที่แท้เป็นเช่นไรกันกันแน่  

                         นักเชิดเงาถอนหายใจเฮือกใหญ่  แววตาของมันดูเหม่อลอย   คล้ายกับเลื่อนลอยไปไกลแสนไกล    แต่ไม่นานนักมันก็เอ่ยปากขึ้น

                         “ คืนวันนั้นเอง   วันที่พิณล่าวิญญาณประกาศว่ามันช่วงชิงของล้ำค่าชิ้นนั้นมาให้ได้    ข้า ลูกชายของข้า และก็สหายที่รักที่สุดของข้าก็ได้เข้าร่วมในการปกป้องของล้ำค่าชิ้นนั้นด้วย ”

                         “ ในคืนวันนั้นอาจเรียกได้ว่า เป็นคืนที่เหล่ายอดฝีมือหลายคนรวมใจเป็นหนึ่งเดียวกันเพื่อจะปกป้องของสำคัญไว้  มิเพียงเท่านั้นเหล่าผู้คุ้มกันก็ร่วมมือป้องกันของล้ำค่านั้นไว้อย่างสุดชีวิตด้วย  

                         ขณะนั้นข้า ลูกชาย และสหายของข้ายืนจดจ่อสมาธิเตรียมรับการมาของพิณล่าวิญญาณ และพวกของมันอย่างใจจดใจจ่อ      ข้าเองสัมผัสได้ถึงกลิ่นอายอันชั่วร้ายของราตรีในคืนนั้นได้  

                         เหล่ายอดฝีมือต่างเฝ้ารอคอยของพิณล่าวิญญาณเป็นเวลานานแสนนาน  แต่มันก็มิมีวี่แววว่าจะปรากฏตัวขึ้นมาเลย    จนกระทังเวลาประมาณตีสองกว่าได้     ลมพัดโชยมาหนาวเหน็บยิ่งนัก     ทันใดนั้นเองการลงมือที่แสนอำมหิตก็เริ่มขึ้น  ! ”

                    



                         “ อาวุธลับที่แสนอำมหิตซัดใส่เหล่ายอดฝีมือทั้งหลายด้วยความรวดเร็วยิ่งนัก    การลงมือในครั้งนั้นเรียกได้ว่า รวดเร็วยิ่งนัก    มียอดฝีมือไม่น้อยที่ไม่สามารถหลบการโจมตีครั้งนั้นได้    

                         ข้าเองก็เกือบที่จะหลบไม่พ้นเช่นกัน   ยังดีที่ข้า กับลูกชายช่วยกันใช้หุ่นเชิดเป็นเกราะกำบังตัวไว้ได้    สหายของข้านั้นเมื่อรู้ว่าฝ่ายตรงข้ามชิงลงมือก็ไม่รอช้าอาศัยท่าร่างพุ่งตัวตรงไปยังที่ทิศที่อาวุธลับเหล่านั้นซัดออกมาในทันที       เหล่ายอดฝีมือที่เหลือก็พุ่งตามสหายของข้าไปเช่นกัน  

                         แต่นั่นกลับเป็นเพียงกับดักลวงของมันเท่านั้น   บริเวณเงามืดที่อาวุธนั้นซัดออกมานั้น    เมื่อเหล่ายอดฝีมือเข้าไปใกล้ก็พบว่านั่นเป็นแค่หุ่นปลอมเท่านั้น    กว่าจะรู้ตัวว่าถูกหลอกก็สายไปเสียแล้ว    หุ่นปลอมนั้นได้มีกับระเบิดติดตั้งไว้    

                         เสียงระเบิดดังสนั่นก้อง   ราวกับว่าจะทำลายทุกสิ่งทุกอย่างในตรงนั้นให้สิ่งซากเป็นผุยผง      ข้าเองก็แทบไม่อยากจะเชื่อสายตาตัวเองเช่นกัน    หุ่นปลอมที่มันคิดค้นขึ้นมานั้น   สามารถซัดอาวุธได้รวดเร็วถึงเพียงนี้      ควัน และเปลวเพลิงจากระเบิดครั้งนั้นแผ่ซ่านไปทั่วบริเวณ    เหล่ายอดฝีมือในตอนนั้นเหลือเพียงแค่ห้าสิบ หกสิบคนเท่านั้น  

                         ภาพที่ปรากฏต่อหน้าของข้าต่อจากนั้นก็คือ  ใต้ควันไฟนั้นได้ปรากฏตัวของพวกมันขึ้น !     พิณล่าวิญญาณ และพวกมือสังหารของมัน      

                         พวกมันมีจำนวนรวมกันแล้วเพียงแค่สี่คนเท่านั้น   ทุกผู้คนถูกปิดบังใบหน้าไว้ด้วยหน้ากากสีดำ  ไม่เว้นแม้แต่พิณล่าวิญญาณ  

                         ข้าในตอนนั้นด้วยความโมโหที่สหายของข้าโดนระเบิดไป   ก็พุ่งตัวเข้าไปหวังจะต่อกรกับมันด้วยหุ่นของข้า     ถึงแม้ข้าจะรู้ตัวเองว่าฝีมือของพวกมันกับข้าจะต่างกันมากเพียงใดก็ตาม  

                         แต่ข้ามิเพียงไม่สามารถทำอะไรมันได้เท่านั้น   กลับถูกพวกมันคนหนึ่งต่อยเข้าหนึ่งหมัด   แต่ข้าควบคุมหุ่นของข้ารับไว้แทนได้ทัน     ถึงกระนั้นความร้ายอาจของฝีมือการลงมือของมันนั้นร้ายกาจยิ่ง     แม้แต่หุ่นที่ข้าสร้างขึ้นมา     กลับถูกมันต่อยพังด้วยหมัดเปล่าเพียงครั้งเดียว  

                            

                         ในตอนนั้นเหล่ายอดฝีมือบางคนที่คิดจะหนีก็ถูกพวกมันคนอื่นลงมือสังหารเสียสิ้น   ทุกอย่างเกิดขึ้นอย่างรวดเร็วยิ่งนัก   ลูกชายข้าพยายามที่จะเข้ามาช่วยข้า    แต่ไหนเลยจะสามารถช่วยข้าได้   แม้แต่พลังฝีมือของข้ายังไม่สมารถต่อกรกับมันได้เลย  

                         ไม่นานนักยอดฝีมือบริเวณหน้าหอรักษาการณ์ก็เหลือเพียงไม่กี่สิบคนเท่านั้น     แต่ทว่าจำนวนของพวกมันนั้นทั้งสี่คนยังคงไม่มีแม้รอยขีดข่วนแม้แต่เพียงนิดเดียว       ข้าเองในตอนนั้นรู้ดีว่าไม่มีทางรอดชีวิตได้แน่   จะคิดหลบหนีก็คงไม่มีทางรอดพ้น

                         และแล้วหนึ่งในสี่ของพวกมันก็ค่อยๆ ก้าวเข้ามาใกล้ข้า และพวกที่เหลืออย่างช้าๆ   ในมือของมันนั้นถือไว้ด้วยพิณตั้งสายขนาดเล็กอันหนึ่ง    พิณที่ไล่ล่าชีวิตคน  พิณล่าวิญญาณ   !





                         ในตอนนั้นมียอดฝีมือหนึ่งคนคิดจะหลบหนี  แต่เพียงแค่มันพุ่งตัวออกไปยังไม่ทันไร   พิณในมือของมันถูกดีดออก  ร่างของยอดฝีมือผู้นั้นก็ขาดเป็นสองท่อนในทันที       การลงมือของมันนั้นเรียกได้ว่าข่มขวัญยอดฝีมือที่เหลือจนหมดสิ้นแล้ว    

                         ข้ารู้ว่าเวลาชีวิตของข้านั้นเหลือไม่มากแล้ว    ข้าจึงตัดสินใจจะใช้กระบวนท่าเสี่ยงชีวิตกับมันแล้ว   ขณะที่มันกำลังจะดีดพิณของมันขึ้นอีกครั้งหนึ่ง    ข้าอาศัยเรี่ยวแรงที่เหลืออยู่ทั้งหมดของข้าพุ่งเข้าใส่มัน      

                         แต่เมื่อข้าพุ่งตัวไปข้าก็รู้ตัวว่า พลาดท่าเสียแล้ว   มันเพียงตั้งใจหลอกล่อข้าให้พุ่งตัวออกมาเท่านั้น    ข้าคิดจะเปลี่ยนแปลงท่าร่างหลบหนีก็ไม่เป็นผลเสียแล้ว    พร้อมกันนั้นพิณในมือของมันก็ถูกดีดออก  

                         ข้าคิดว่าข้าคงต้องจบชีวิตลงเสียแล้ว    ในตอนนั้นข้ารู้สึกเหมือนว่ามีอะไรบางอย่างกระแทกใส่ตัวของข้าอย่างจัง    ทำให้ข้าต้องกระเด็นไปในทันที      ในตอนแรกข้าคิดว่าเป็นฝีมือจากการลงมือของมัน   ”

                          กล่าวถึงตรงนี้นักเชิดเงาคล้ายกับมีน้ำตา   แต่มันก็กล้ำกลืนเอาไว้พร้อมกับกล่าวต่อ

                          “ แต่ที่ข้ากระเด็นออกไปนั้น  มิใช่เพราะเสียงพิณของมัน     แต่เป็นเพราะลูกชายข้าอาศัยตัวของเขาเข้ารับการลงมือของมันไว้     ลูกชายข้าพยายามปกป้องข้าไว้    ภาพที่ข้าเห็นในตอนนั้นก็คือ  เลือดที่สาดกระเซ็นออกจากคอหอยของลูกชายข้า

                          ข้าตะโกนเรียกลูกชายข้าอย่างสุดชีวิต   แต่เขาไม่สามารถจะกล่าวกับข้าได้แม้แต่เพียงสักคำเดียว   ไม่นานนักลูกชายข้าก็สิ้นลมหายใจ     ข้าไม่สามารถปกป้องลูกชายของตัวข้าเองได้   !

                          พิณล่าวิญญาณในตอนนั้นคล้ายกับแย้มยิ้มขึ้นมาเล็กน้อย   มันคล้ายพึงพอใจยิ่งนักที่เห็นผู้คนสูญเสียสิ่งที่ตัวเองรักไป        และก็ในทันใดนั้นเอง   ภายในกองไฟที่เกิดระเบิดก็ปรากฎเงาร่างสายหนึ่งพุ่งตัวออกมาด้วยความรวดเร็วยิ่งนัก     เงาร่างสายนั้นมิเพียงติดไฟที่ลุกไปทั่วร่างกาย   แต่บนตัวของมันนั้นถูกอาวุธลับหลายสิบเล่มปักอยู่     หากเปลี่ยนเป็นคนผู้อื่นคงไม่สามารถมีชีวิตอยู่รอดได้แล้ว    

                          แต่เพราะเงาร่างสายนั้นเป็นมันนั่นเอง !

                          มันคือสหายที่ข้ารักที่สุด   จิตใจของมันนั้นยังคงไม่ยอมแพ้   แม้ร่างกายของมันจะปานตายแล้ว     ข้าเชื่อว่ามันต้องการที่จะปกป้องทุกคนในจงได้      

                          มันตะโกนดังลั่น ‘ ตายไปพร้อมกับข้าเสียเถอะ  พิณล่าวิญญาณ ! ’   เหล่ามือสังหารที่เหลือแม้ประสาทสัมผัสรวดเร็วเพียงใดก็ตาม    พวกมันนั้นซัดอาวุธลับอีกหลายร้อยสายใส่สหายของข้า      แต่นั่นไม่ได้ทำให้การเคลื่อนไหวของสหายของข้าชะงักลงแม้แต่น้อย    กลับกันสหายของข้ากลับพุ่งเข้าล็อคคอของพิณล่าวิญญาณเอาไว้อย่างสุดชีวิต      

                          มันมองมาที่ข้าด้วยสายตาที่ภายในแฝงไว้ด้วยรอยยิ้ม    ข้ายังคงจำสิ่งที่มันกล่าวกับข้าไว้ได้    ‘ ฝากลูกของข้าด้วยนะ ’ !    ”

                          กล่าวถึงตรงนี้น้ำตาของนักเชิดเงาก็หลั่งไหลออกมาในทันที    โซเฟียก็เช่นกัน        

                          ดาร์กโซลมันแม้เป็นนักฆ่าที่เลือดเย็นอำมหิต  แต่พอได้ฟังเรื่องราวถึงตอนนี้ก็แทบจะกลั้นใจไม่ไหวจริงๆ  

                          โซเฟียซบลงที่นักเชิดเงาช้าๆ    นักเชิดเงาลูบหัวปลอบนางอย่างทะนุถนอม  

                          “ และทันทีที่เพื่อนช้ากล่าวจบมันล็อคคอพิณล่าวิญญาณไว้ไม่ทันไร  ก็ถูกซัดใส่ด้วยอาวุธลับอีกหลายสายเช่นกัน   และถึงตอนนั้นมันก็ไม่สามารถทนรับความบาดเจ็บจากการลงมือที่แสนอำมหิตครั้งนั้นได้     แขนที่เคยล็อคคอพิณล่าวิญญาณค่อยๆ ถูกปล่อยออกอย่างช้าๆ  

                          พิณล่าวิญญาณหอบหายใจของมันราวกับเกือบจะสิ้นลมไป    มันคล้ายเพิ่มความโกรธแค้นขึ้นมายิ่งนัก  ดีดพิณตั้งสายของมันใส่ร่างสหายของข้าอีกครั้งหนึ่ง    เลือดซ่านกระเด็นไปทั่วทิศทาง     จากนั้นมันก็ตะโกนออกมาด้วยความโกรธแค้น  ‘ เจ้าพวกสวะเอ๋ย  ข้าจะฆ่าไม่ให้เหลือแม้แต่คนเดียวเลย !  ’  พร้อมกันนั้นมันก็เริ่มบรรเลงพิณของมันแล้ว    

                          ข้าเองในตอนนั้นไม่คิดว่าตัวเองจะมีชีวิตรอดได้อีกแล้ว    เมื่อพิณของมันบรรเลงขึ้นเหล่ายอดฝีมือบางคนก็เกิดอาการคุ้มคลั่งฆ่าฟันพวกเดียวกันเอง     บ้างก็เลือดทะลักออกจากปากสิ้นใจตาย   บทเพลงที่มันบรรเลงในคืนนั้นคือ  ‘ บทเพลงราตรีโหยหวน ’  

                          แต่ข้าในตอนนั้นกลับไม่ได้ยินเสียงอะไรทั้งสิ้น    ข้าคิดว่าข้าคงจะต้องตายแน่แล้ว    แต่ทันใดนั้นเอง    เงาร่างสีเขียวสายหนึ่งก็ปรากฏตัวขึ้น     เงาร่างสายนั้นมิเพียงปรากฏขึ้นมาด้วยความรวดเร็วเท่านั้น   มันกลับพาตัวของข้าหนีไปด้วยความรวดเร็วอย่างยิ่ง       แต่พิณล่าวิญญาณ และพวกของมันนั้นก็หาได้ติดตามไม่   เนื่องเพราะพวกมันไม่ได้สังเกตว่ามีดสั้นสังหารพรางตัวอยู่ และช่วยข้าไปในตอนไหนนั่นเอง   มันคิดว่าข้าตายไปแล้ว  

                          เงาร่างสายนั้นพาข้าไปยังภูเขาแห่งหนึ่งไกลออกไปจากเมืองเทอรีโน่  ที่แววตาของมันนั้นปรากฏรอยน้ำตาขึ้น  ความเจ็บปวดที่มันเผชิญอยู่นั้นมิสามารถบ่งบรรยายได้   ข้าเองก็เช่นกัน    และนั่นก็เป็นครั้งแรกที่ข้าได้เจอกับมีดสั้นสังหาร !   ”

                          จากนั้นนักเชิดเงาก็ได้เล่าให้ฟังว่า

                          “    มีดสั้นสังหารนั้นความจริงรอหาโอกาสลอบสังหารพวกนั้นอยู่   แต่ไม่มีโอกาสที่จะสามารถลงมือได้เลย      เมื่อมันเห็นว่าไม่ได้การ   คนที่มันคิดว่าสามารถช่วยได้เร็วที่สุดในตอนนั้นก็คือ ข้า      

                          หลังจากนั้นข้าก็ไปตามหาตัวโซเฟีย  ซึ่งก็คือลูกสาวของสหายที่รักที่สุดของข้า   พร้อมกันคอยเลี้ยงดูนาง    นางในตอนนั้นอายุประมาณสิบเอ็ดขวบได้         ส่วนมีดสั้นสังหารกับข้าก็ทำการช่วยฝึกวิชาเพื่อที่จะหาทางแก้แค้นพวกมันให้จงได้  

                          และข่าวหลังจากนั้นก็คือ  ของล้ำค่าชิ้นนั้นได้ถูกขโมยไปเสียแล้ว    ข่าวคราวการตายของเหล่ายอดฝีมือก็แพ่รกระจายไปทั่ว    แต่ทว่าหลังจากนั้นก็ไม่มีใครพบเห็นพิณล่าวิญญาณอีกเลย   บ้างก็ว่ามันได้ตายไปแล้ว     แต่ข้าคิดอยู่เสมอว่ามันคงยังไม่ตาย    ”

                          มันกล่าวพร้อมกับชี้ไปที่หุ่นเชิดของมัน

                          “ หุ่นเชิดอันนี้เป็นหุ่นเชิดที่ข้าอุทิศตัวสร้างขึ้น    มันเป็นหุ่นเชิดที่ถอดแบบมาจากลูกชายของข้า   และสักวันข้าจะต้องหาโอกาสแก้แค้นให้จงได้      

                          ข้า และโซเฟียหลบซ่อนมาตลอดเวลาที่ผ่านมา   ติดตามข่าวคราวของมันตลอด   และจนในที่สุดคืนนี้ข้าก็ทราบข่าว    ผู้ที่บอกข้าก็คือ มีดสั้นสังหารนั่นเอง      มันได้บอกกล่าวกับข้าว่ามีการประมูลลับขึ้น   มันจะไปสังเกตการณ์คาดว่าต้องเกี่ยวข้องกับของล้ำค่าที่หายสาบสูญไปแน่   ”

                          เมื่อนักเชิดเงาเล่าเรื่องราวถึงตอนนี้  ดาร์กโซลก็พอเข้าใจอะไรมากขึ้นมาบ้างแล้ว    มันกลับรู้สึกละอายใจตัวขึ้นมาที่คิดจะฆ่ามีดสั้นสังหาร    

                          “ แต่ว่าทำไมมีดสั้นสังหารเมื่อพบกับพิณล่าวิญญาณแล้ว  ถึงทำเป็นเหมือนกับไม่เคยเจอมันมาก่อน ”

                          มันถามอย่างสงสัย

                          “ นั่นก็เพราะมันไม่ต้องการให้พิณล่าวิญญาณสงสัยในตัวของมันนั่นเอง   และก็เป็นการดีแก่ตัวมันเองด้วยที่จะสะกดกลั้นความแค้นไว้  เพื่อซ่อนจิตสังหารของมันไม่ให้แผ่ออกมา   มิเช่นนั้นในตอนนั้นหากมันสูญเสียพลังสมาธิไปเพียงส่วนเดียวมันคงไม่สามารถมีชีวิตรอดจนข้าไปช่วยได้แล้ว ”

                          “ เช่นนั้นเป็นว่า พิณล่าวิญญาณไม่รู้ว่าคนที่ช่วยชีวิตท่านในวันนั้นไว้คือ มีดสั้นสังหาร ”

                          นักเชิดเงาพยักหน้ายอมรับ

                          “ ในตอนนั้นมันคงไม่คิดว่าจะมีใครมาช่วยชีวิตข้าไว้ได้   หากมันล่วงรู้ว่ามีดสั้นสังหารช่วยข้าไว้ได้ในวันนั้น   มันคงตามเก็บข้าแล้ว ”

                          ดาร์กโซลนั่งเงียบสักพัก  มันคล้ายกำลังทบทวนความจำ  และคิดอะไรอยู่    

                          “ ถ้าเป็นเช่นนั้นของล้ำค่าชิ้นนั้นไฉนตกอยู่ในมือของคอนเนอร์ได้  ”

                          “ ข้าเองก็ไม่ทราบเหมือนกัน   อาจบางทีเป็นคอนเนอร์ว่าจ้างพิณล่าวิญญาณให้ไปขโมยของชิ้นนั้นแต่แรกแล้ว ”

                          “ คนเช่นคอนเนอร์แม้ร่ำรวยก็จริง  หากแต่พิณล่าวิญญาณก็มิใช่คนที่จะยอมตกอยู่ในการควบคุมของใครง่ายๆ  ไฉนมันต้องยอมทำงานเสี่ยงชีวิตเช่นนี้ให้คอนเนอร์ด้วย ”

                          “ ข้าเองก็มิอาจทราบได้ ”







                          ขณะที่ความเงียบกำลังครอบคลุมไปทั่วห้องนั้นเอง     ภายในห้องก็เกิดการเคลื่อนไหวขึ้น    เป็นการเคลื่อนไหวของชายหนุ่มท่าทางธรรมดานั่นเอง  

                          นักเชิดเงาเมื่อเช่นนั้นก็รีบเข้าไปดูอาการของมันในทันที

                          ชายท่าทางธรรมดาค่อยๆ ลืมตาขึ้นช้าๆ

                          “ เจ้าพอจะลุกขึ้นไหวไหม ”  

                          ชายหนุ่มผงกหัว  พร้อมกันนั้นนักเชิดเงาก็เข้าไปช่วยประคองมัน

                          ชายหนุ่มกวาดสายตาไปรอบๆ มันคล้ายสับสนเล็กน้อย  

                          “ นี่ข้า……. ”

                          “ เจ้าโดนพิษสาหัสดีที่ยังรอดมาได้   ว่าแต่เจ้าเป็นใครกัน ”

                          หากเป็นคนผู้อื่นต้องเล่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นให้ฟังก่อนแล้ว    หากแต่นี่เป็นนักเชิดเงาผู้มีประสบการณ์มามากมาย   มันย่อมต้องรู้ที่มาที่ไปของคนอื่นก่อนค่อยบอกเรื่องราวที่เกิดขึ้น  

                          มิเช่นนั้นหากคนผู้นี้เป็นศัตรูแล้ว   ย่อมไหวตัวทันคิดกลบเกลื่อนเรื่องราว

                          “ ข้าเป็นแค่คนธรรมดาผู้หนึ่ง  ชื่อของข้าก็คือ ไวโอ่ ”

                          ดาร์กโซลจ้องไปยังไวโอ่อย่างเชื่อครึ่งไม่เชื่อครึ่งในคำพูดของมัน

                          “ ดูจากเพลงดาบ และการตัดสินใจของเจ้าแล้ว   เจ้าต้องมิใช่ชนชั้นธรรมดาแน่  ไยบอกว่าตัวเองเป็นเพียงแค่คนธรรมดา ”

                          “ ข้าเป็นแค่คนธรรมดาผู้หนึ่งจริงๆ ”

                          มันกล่าวแต่กลับไม่กล้าสบสายตาของดาร์กโซล  

                          คนผู้นี้หนึ่งหากเวลากล่าววาจา  ไม่กล้าสบสายตากับคู่สนทนาแล้ว  นั่นย่อมหมายความได้เพียงไม่กี่อย่างเท่านั้น  

                          “ เฮอะ คนธรรมดาผู้หนึ่งไหนเลยสามารถจัดการกับยอดฝีมือได้ภายในกระบวนท่าเดียว   ไหนเลยสามารถเข้าไปในการประมูลลับได้ ”

                          ดาร์กโซลกล่าวพร้อมกับเอื้อมมือไปหยิบดายักษ์ที่ข้างตัวมัน  

                          “ หากเจ้าไม่พูดความจริงทั้งหมดออกมา  เห็นทีข้าคงต้องฆ่าเจ้าแล้ว ”

                          “ เช่นนั้น  ข้าขอถามท่านเพียงแค่สองสามข้อก่อนเท่านั้น ”

                          คราวนี้มันสบสายตาดาร์กโซลแล้ว   แววตาของมันผิดแปลกจากที่ผ่านมาในทันที   เป็นแววตาของผู้ที่มีความมุ่งมั่น มีปณิธานอันแข็งกล้า  

                          “ ข้อที่หนึ่งพวกท่านใช่คนของคอนเนอร์หรือไม่ ”

                          “ เฮอะ หากพวกข้สเป็นคนของคอนเนอร์เจ้ายังสามารถถามข้าได้อีกหรือ  ”

                          คำถามของมันนั้นมิเพียงรวบรัดยิ่ง  แต่มันสามารถแน่ใจได้อย่างไรว่าคำตอบที่มันได้รับฟังก็เป็นเรื่องจริง  

                          นั่นอาจเป็นเพราะเวลาที่มันถามนั้น   สายตาของมันไม่เคลื่อนออกจากการจ้องมองไปยังตาของ

    ดาร์กโซลเลยแม้แต่น้อย   อย่าว่าแต่คำตอบของดาร์กโซลก็รวบรัดยิ่งเช่นกัน  

                          “ ข้อที่สองพวกท่านไฉนคิดช่วยข้า ”

                          “ นั่นเพราะเจ้าช่วยชีวิตผู้อื่น ผู้อื่นถึงคิดช่วยชีวิตเจ้า ”

                          หากท่านไม่เคยคิดที่จะช่วยเหลือผู้อื่นก่อน  ผู้อื่นไหนเลยจะคิดช่วยเหลือท่านก่อน

                          “ ข้อสุดท้ายคนที่ช่วยเหลือข้านั้น  ตอนนี้อยู่ที่ใด ”

                          “ มันไม่ได้อยู่ที่นี่ ”

                          ไวโอ่หลับตาคล้ายวิเคราะห์เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นมาทั้งหมดจากนั้นมันก็กล่าวขึ้น

                          “ ตามที่ข้าได้ตกลงไว้   ข้าจะบอกพวกท่านว่าข้าเป็นใครกันแน่ ”

                          มันกล่าวพร้อมกับค่อยๆ พยุงตัวเองลุกขึ้นช้าๆ  คล้ายจะทดสอบพลังที่ตัวเองมีอยู่ในตอนนี้     หากเป็นคนที่ไม่ได้รับการฝึกปรือฝีมือมา     ย่อมต้องไม่สามารถลุกขึ้นยืนได้หลังจากถูกพิษร้ายเช่นนี้

                          แต่มันกลับสามารถลุกขึ้นยืนได้     ย่อมทราบแลเวว่าพลังฝีมือของมันนั้นมิใช่ธรรมดา

                          “ ชื่อของข้าก็คือ ไวโอ่จริงๆ    หากแต่ข้าเป็นคนของมิว ! ”

                          มันกล่าวถึงตอนนี้คล้ายสร้างความตื่นตระหนกแก่คนฟังทั้งสามคนอย่างยิ่ง

                          มิวนั้นเป็นชื่อองค์กรลับที่ทำหน้าที่คล้ายผู้รักษาความยุติธรรมพิเศษ    ฟังว่าคนที่อยู่ในองค์กรนี้ได้มีเพียงไม่กี่คนเท่านั้น    แต่ละคนนั้นมีฝีมือสูงล้ำ  

                          งานที่มิวกระทำนั้นย่อมถูกปกปิดเป็นความลับ   เพียงแต่งานที่พวกมันกระทำนั้นล้วนเป็นเรื่องดีงาม   เช่นนี้เป็นว่าไวโอ่ถูกส่งมาให้จัดการกับเรื่องของล้ำค่าชิ้นนั้นนี่เอง    

                          “ ข้าถูกส่งมาให้จัดการกับของล้ำค่าชิ้นนั้น   พร้อมทั้งกำจัดต้นตอแห่งเรื่องทั้งหมดนี้ด้วย ”

                          “ ต้นตอที่ว่านี่ใช่หมายถึงคอนเนอร์ และพวกมือสังหารของมันด้วยใช่หรือไม่ ”

                          “ ย่อมต้องใช่ คอนเนอร์ภายนอกดูเป็นมหาเศรษฐีที่มีความเมตตา  แต่ความจริงแล้วมันได้พยายามรวบรวมมือสังหารจากทุกที่เพื่อสร้างอำนาจให้แก่มัน   แผนการของมันก็คือ  การได้เป็นใหญ่ในแผ่นดินนั่นเอง ”

                          “ เฮอะ  แต่การกระทำเพียงแค่นี้มันไหนเลยสามารถเป็นใหญ่ได้ ”

                          ไวโอ่หันมาสบตาดาร์กโซลอีกครั้ง   มีเพียงไม่กี่คนเท่านนั้นที่กล้าสบสายตากับดาร์กโซลเป็นครั้งที่สอง  

                          “ ท่านเคยทราบเรื่องราวโศกนาฎกรรมเมื่อห้าปีที่แล้วหรือไม่ ”

                          ดาร์กโซลผงกหัว

                          “ ข่าวที่บอกว่าได้ค้นพบของล้ำค่าชิ้นนั้นขึ้น  ของที่จะนำมาซึ่งความหายนะ   ข่าวที่ต้องทำให้เหล่ายอดฝีมือล้มตายเป็นอันมาก   ความจริงก็คือ  เรื่องราวทั้งหมดล้วนเป็นเรื่องโกหกทั้งนั้น ! ”

                          กล่าวถึงตอนนี้ทั้งสามได้แต่ตะลึงแล้ว

                          “ ของล้ำค่าที่ว่านั้นความจริงมิได้ถูกค้นพบขึ้นเลยแม้แต่น้อย   หากแต่มันมีอยู่ตั้งแรกแล้ว !     ของล้ำค่าชิ้นนั้นความจริงเป็นมรดกที่ถูกตกทอดมาอย่างลับๆ ภายในตระกูลของคอนเนอร์แต่แรกแล้ว    เพียงแต่ว่าตระกูลของมันนั้นเป็นตระกูลที่ซื่อสัตย์ยิ่ง     ของล้ำค่าชิ้นนั้นถูกสืบทอดโดยได้รับการเก็บรักษาเป็นอย่างดี   ไม่ให้นำออกมาใช้เป็นอันขาด    และก็ไม่เคยมีใครล่วงรู้ความลับเรื่องของล้ำค่าชิ้นนี้เลยแม้แต่น้อย

                         จนกระทั่งถึงรุ่นของคอนเนอร์   เรียกได้ว่าเป็นเคราะห์กรรมก็ว่าได้   คอนเนอร์นั้นคิดผ่าฝืนข้อห้ามของตระกูล   หวังจะใช้ของล้ำค่าชิ้นนั้นเพื่อสร้างความเป็นใหญ่ให้แก่ตนเอง   ”

                          ไวโอ่เดินไปเดินมาราวกับครุ่นคิดอะไรสักพักก็กล่าวต่อ

                          “ ของล้ำค่าชิ้นนั้นความจริงมีเพียงแค่ผู้ที่ได้รับการสืบทอดจริงๆ เท่านั้นถึงจะสามารถใช้มันได้อย่างเต็มความสามารถ   หากตกไปแก่ผู้อื่นก็ไม่ต่างอะไรกับของไร้ค่าชิ้นหนึ่ง    ดังนั้นพอถึงรุ่นของมัน  มันจึงเริ่มคิดวางแผน ”

                          ระหว่างที่ไวโอ่จะกล่าวต่อมันก็ถูกถามขึ้น   ผู้ที่ถามคราวนี้กลับเป็นโซเฟีย ซึ่งเงียบมาตลอด

                          “ ของชิ้นนั้นที่แท้มีความสามารถอะไรกันแน่   แล้วถ้ามันไม่ดีอย่างนั้นจะเก็บมันไว้ทำไมกัน ”

                          “ คนเราบางครั้งก็ไม่อาจหักใจทิ้งของที่มีค่าสำหรับตัวเราได้ถึงแม้มันจะไม่เป็นผลดีแก่ตัวเราเอง  และคนรอบข้างก็ตาม  นั้นคือความอ่อนแอในจิตใจของคน ”

                          ความรักไยมิใช่เช่นเดียวกัน  รู้อยู่แก่ใจว่ายิ่งรักยิ่งทำร้ายจิตใจ  หากตัดใจเลิกรักแม้เจ็บปวดแต่ก็เจ็บนาน   แต่ผู้คนมักไม่ยอมรับความเป็นจริง   ยังคงยอมเจ็บปวดต่อไป   ที่แท้เพื่ออะไรกัน ?  

                          “ และความสามารถที่แท้จริงของๆ ชิ้นนั้นก็คือ …………… ”



                  



                          เสียงเพลงโหยหวนที่ดังกึกก้องเริ่มค่อยลง   รอบๆ บริเวณนั้นปราศจากสิ่งมีชีวิตโดนสิ้นเชิง    เสียงพิณที่บรรเลงออกไปนั้นคล้ายทำลายทุกสรรพสิ่งให้สิ้นซากไปในพริบตา  

                          เสียงพิณเงียบหายไปแล้ว   คนเล่า ?   คนก็หายไปเช่นกัน

                          “ ประเสริฐ  มีดสั้นสังหารอันประเสริฐนัก ”

                          พิณล่าวิญญาณกล่าวอย่างเคียดแค้นยิ่งนัก    ที่ใบหน้าบริเวณแก้มของมันปรากฏรอยแผลชนิดหนึ่งขึ้น   รอยแผลนี้ดูไปไม่หนักหนานัก เป็นเพียงแค่ขีดๆ หนึ่งเท่านั้น    แต่กลับทำให้มันรู้สึกเจ็บปวดยิ่งนัก   ราวกับถูกฉีกเลือดเนื้อออกไปหมดร่างกายก็ไม่ปาน

                          นั่นเพราะรอยแผลนั้นเป็นรอยที่เกิดขึ้นจากมีดนั่นเอง   มีดที่รวดเร็วยิ่งนัก   มีดที่มองไม่เห็น !

                          ที่มือของมันก็ปรากฏรอยเช่นนี้ขึ้นเช่นกัน     เลือดในมือของมันไหลออกมากแล้วในตอนนี้    

                          พิณตั้งสายขนาดเล็กของมันในตอนนี้คล้ายไม่สามารถเล่นได้อีกสักพักหนึ่ง   นั่นก็เพราะสายพิณที่ขาดไปแล้วสองสายนั่นเอง !  

                          แต่ที่สร้างความเจ็บปวดให้แก่มันที่สุดก็คือ   มีดสั้นสังหารได้หายไปแล้วนั่นเอง !







                          “ มีดสั้นสังหารข้าเข้าใจแล้ว  ว่าทำไมนักเชิดเงาถึงรอดชีวิต   คืนนั้นนั่นเอง  คืนนั้นที่ข้าคิดว่าข้าตาฝาดไป   เงาร่างสีเขียวนั้นเป็นเจ้านั่นเอง   ข้าน่าจะนึกออกตั้งแต่แรก ”

                          รอยยิ้มของมันในตอนนี้ช่างชั่วร้ายยิ่งนัก

                          “ ฮ่าๆๆ สมแล้วที่เจ้าได้รับการร่ำลือว่าเป็นสุดยอดมือสังหาร   สมแล้วจริงๆ ”

                          มันหัวเราะอย่างบ้าคลั่ง   เลือดในมือของมันในตอนนี้ไหลออกมามาก  แต่มันคล้ายกับไม่รู้สึกเลยแม้แต่น้อย    

                    

                          

                          มีดสั้นสังหารความจริงลงมือไม่เคยพลาดมาก่อน   การลงมือในครั้งนี้ของเขาใช่พลาดแล้วหรือไม่ ?  หรือที่มีดสั้นสังหารลงมือมิใช่ต้องการปลิดชีวิตพิณล่าวิญญาณ  หากแต่ต้องการทำลายพิณ และมือของมัน

                          ผู้ใช้พิณผู้หนึ่งหากถูกทำลายมือ และพิณทิ้งแล้ว   มันจะยังสามารถใช้อะไรได้อีก ?

                          แต่มีดสั้นสังหารเล่า   การลงมือของพิณล่าวิญญาณก็ไม่เคยไม่คร่าชีวิตผู้คนมาก่อน    เพลงที่มันบรรเลงหนึ่งเพลงนั้นย่อมต้องแลกมาด้วยชีวิตผู้คน    เช่นนั้นชีวิตของมีดสั้นสังหารใช่ถูกแลกกับบทเพลงที่มันบรรเลงไปแล้วหรือไม่ ?

                



                          “ หึหึ  แต่ถึงยังไงเจ้าก็ไม่มีทางรอดชีวิตได้ไปหรอก   ผู้ที่เคยคิดยินเสียงเพลงของข้าไม่เคยมีผู้ใดรอดชีวิตไปได้  ”

                          คำพูดของมันไม่ได้โกหกเลยแม้แต่น้อย   ผู้ที่ได้ยินเพลงของมันต้องตกตายทุกคน

                          “ แต่ข้าเพียงหวังว่าเจ้ายังไม่ตายง่ายๆ ตอนนี้   เจ้าจะต้องได้รับความเจ็บปวดอย่างสาสมที่ทำกับพิณ และมือสุดรักของข้า   เสียงเพลงของข้าจะทำให้เจ้าต้องสูญเสียทุกๆ อย่าง    ฮ่าๆๆๆๆ  ”

                          เสียงหัวเราะของมันดังก้องไปทั่วราวกับเสียงของปีศาจร้ายจากขุมนรก         เพลงที่มันบรรเลงในค่ำคืนนี้ก็คือ  ‘ บทเพลงราตรีโหยหวน ’   ซึ่งมันได้เคยบรรเลงไว้เมื่อห้าปีก่อน    บทเพลงที่ทำให้คนฟังต้องบ้าคลั่งเสียความเป็นตัวเองไป    บางคนถึงกับต้องตกตายในตอนนั้นทันที

                          แล้วมีดสั้นสังหารใช่สูญเสียความเป็นตัวเองไปแล้วหรือไม่   ใช่ตกตายไปแล้วหรือไม่ ?

                          ไม่มีผู้ใดทราบได้ !

                          

                                                



                                

                                                               __________________________________

                  

                  



                

                                





                      







                  

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×