ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Risk มีดสั้นสังหาร

    ลำดับตอนที่ #5 : บทที่ 4 ต่อสู้เดิมพันชีวิต : นักเชิดเงา

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 36
      0
      28 ส.ค. 48

                                                

                                                                 บทที่ 4   ต่อสู้เดิมพันชีวิต : นักเชิดเงา  









                      ริคจ้องมองไปยังมือสังหารอีกสามคนที่เหลือ     พวกมันล้วนสงบนิ่ง  ไม่มีผู้ใดคิดที่จะลงมือ  แต่ในความสงบนิ่งของพวกมันนั้นคล้ายแฝงความเคลื่อนไหวอยู่ตลอดเวลา

                            ดาร์กโซล และดาบประหารฟ้านั้นกำลังเผชิญหน้ากันอยู่    ทั้งคู่ก็ล้วนยังสงบนิ่งอยู่เช่นกัน   แต่รังสีการฆ่าฟันกลับพุ่งพวยออกมาอย่างไม่ขาดสาย

                            “ เฮอะ  ที่แท้คนแคระเยี่ยงเจ้าก็เป็นแค่คนขี้กลัว  มิกล้าลงมือต่อผู้คน ”

                       ดาร์กโซล กล่าว คำพูดของมันนั้น ตั้งใจแทงใจดำของดาบประหารฟ้า

                             การทำให้คู่ต่อสู้เสียสมาธิก็เป็นหลักอย่างหนึ่งในการต่อสู้

                            ยิ่งหากว่าคู่ต่อสู้ที่มีฝีมือสูสีกันละก็  หากฝ่ายใดสูญเสียความเยือกเย็นก่อนละก็ ฝ่ายนั้นต้องเป็นฝ่ายพ่ายแพ้แน่นอน

                            และท่าทีของดาบประหารฟ้าก็เปลี่ยนไป   มันคล้ายสูญเสียความเยือกเย็นไปหลายส่วน

                           “ เจ้า ! บังอาจนัก ”

                      พริบตานั้นดาบยักษ์ในมือของมันก็ถูกสะบัดออกแล้ว   การชิงลงมือของมันแม้รวดเร็ว  แต่ก็เป็นที่คาดคำนวณได้  นั่นเพราะมันได้สูญเสียความเยือกเย็นไปส่วนหนึ่งแล้ว  

                          ประกายดาบวูบขึ้น  ดาร์กโซลแม้มั่นใจในฝีมือของมันเอง  แต่ก็ยังมิกล้าที่จะปะทะกับดาบยักษ์เล่มนี้ตรงๆ   อาศัยวิชาตัวเบาตีลังกาถอยหลังหลบรัศมีการทำลายล้างอย่างรวดเร็ว

                           มิคาดประกายดาบวูบหนึ่งเพียงครั้งเดียว  กำแพงที่อยู่ข้างๆ ตรอกนั้นกลับปรากฏรอยดาบยาว ลึกยิ่ง   นับว่าพลังการทำลายล้างของมันนั้นสูงยิ่ง    หากโดนฟันเข้าละก็ต้องถูกผ่าออกเป็นสองส่วนแน่นอน





                           ดาบประหารฟ้านั้นแม้ตัวเล็ก  แต่การควบคุมพลังของดาบนั้นใช้ออกมาได้อย่างคล่องแคล่วนับว่ามันสมกลับฉายานี้จริงๆ  

                           ดาร์กโซลขณะหมุนตัวหลบคมดาบยักษ์ของดาบประหารฟ้าอยู่นั้น   ก็รีบตะโกนบอกแก่ริค

                          “ ท่านยังมิไปอีก   หากอยู่ต่อละก็ข้าจะลงมือต่อท่านแล้ว ”

                     ริคเมื่อได้ยินเช่นนี้ ก็กัดฟันอุ้มชายหนุ่ม และเตรียมตัวหลบหนีแล้ว

                          “ ข้าจะกลับมาช่วยท่าน ! ”

                     มันกล่าวพร้อมกับพุ่งตัวออกไป  ท่าร่างของริคในคราวนี้นั้นรวดเร็วยิ่งนัก     นั่นเพราะมันรู้ว่า  หากช้ากว่านี้แล้วละก็  ย่อมมิสามารถหลบหนีจากยอดฝีมืออีกสามคนได้แน่

                         แต่ถึงแม้ความเร็วของริคจะรวดเร็วเพียงใดก็ตาม  ย่อมมิอาจหนีพ้นคนทั้งสามได้แน่  

                         มือสังหารทั้งสามที่นิ่งอยู่บัดนี้ได้เคลื่อนไหวแล้ว !

                    



                     ดาร์กโซลเมื่อเห็นมือสังหารทั้งสามตามริคไป ก็พยายามเพื่อที่จะเข้าไปขัดขวางมือสังหารทั้งสามคนนั้น     แต่ประกายดาบที่วูบขึ้นตลอดเวลาของดาบประหารฟ้านั้น ทำให้มันมิอาจแบ่งสมาธิไปช่วยเหลือริคได้เลย

                            “ เห็นทีข้าคงจะต้องฆ่าเจ้าก่อนกระมัง ”

                       มันกล่าว    พร้อมกันนั้นก็เริ่มเปลี่ยนแปลงท่าร่างของมัน      มันหมุนตัวพุ่งเข้าหาดาบประหารฟ้าด้วยความรวดเร็วยิ่ง     มันคิดที่จะใช้ท่าร่างนี้พุ่งเข้าสังหารดาบประหารฟ้าในเพียงกระบวนท่าเดียว !

                       หากคู่มือของดาร์กโซลในวันนี้มิใช่ดาบประหารฟ้า  คู่มือของมันต้องตายไปแล้วแน่

                             ดาร์กโซลนั้นแม้เป็นนักฆ่าที่มีฝีมือสูงเยี่ยมแต่คู่ต่อสู้ของมันก็มิใช่ชนชั้นธรรมดา    การจะสังหารมันได้ในกระบวนท่าเดียวย่อมมิใช่เรื่องง่ายดาย

                             แต่การพุ่งท่าร่างของดาร์กโซลในครั้งนี้   เรียกได้ว่ามันใช้พลังลมปราณในตัวของมันอย่างเต็มที่ก็ว่าได้

                             หากจะบรรยายความรวดเร็วของเหตุการณ์ที่กำลังเกิดขึ้นตอนนี้นั้นย่อมยากที่จะบรรยายได้

                                  

                            

                       อีกเพียงไม่เท่าไหร่ก็จะถึงตัวของดาบประหารฟ้าแล้ว    ตอนนี้ขอเพียงดาร์กโซลใช้กระบี่ของมันออกก็สามารถปลิดชีพของดาบประหารฟ้าได้แล้ว

                             แต่ทันใดนั้นเอง

                             “ ฟ้าววว ! ”

                       ประกายดาบยักษ์กลับวูบขึ้น    

                             ดาบประหารฟ้านั้นอาศัยจังหวะที่ดาร์กโซลชะล่าใจ แกล้งเปิดโอกาสให้มันจู่โจมเข้ามา    ทันทีที่มันกำลังจะใช้สภาวะกระบี่ของนั้นดาบประหารฟ้าก็ชิงลงมือ

                             การใช้แผนล่อดาร์กโซลในครั้งนี้นั้นมิเพียงแต่ต้องอาศัยความกล้า  แต่ยังต้องอาศัยการคาดคำนวณที่แม่นยำมากด้วย

                             หากคาดคำนวณในการชิงลงมือพลาดแม้แต่เพียงนิดเดียวชีวิตของมันก็ต้องจบสิ้นลงแล้ว

                             ดาร์กโซลนั้นแรกกำลังจะใช้ออกด้วยกระบี่    แต่เมื่อมันรู้สึกได้ถึงการเคลื่อนไหวของฝ่ายตรงข้ามก็รู้ว่ามันพลาดเสียแล้ว  

                              มันอาศัยความรวดเร็ว   ใช้ออกด้วยกระบี่ในทันที !

                        “ เช้ง ! ”

                        กระบี่ที่มันใช้ออกนั้นมิได้ใช้สังหารดาบประหารฟ้า  แต่ใช้เพื่อป้องกันการโจมตีของดาบประหารฟ้า

                              กระบี่สีดำเข้มของดาร์กโซลผ่านการฆ่ามานักต่อนัก   บัดนี้สามารถปะทะกับดาบยักษ์ของดาบประหารฟ้าได้ทันถ่วงที   นับว่าสมแล้วที่มันสามารถอาศัยกระบี่สีดำเข้มเล่มนี้รอดชีวิตมาได้ถึงตอนนี้

                              แต่ดาบยักษ์ของดาบประหารฟ้ามิใช่ดาบทั่วไป

                              มันคือ ดาบที่สามารถประหารได้แม้แต่ฟ้า ดิน !  

                       แล้วกระบี่ของดาร์กโซลเล่าใช่ ยิ่งใหญ่กว่าฟ้า ดิน หรือไม่ ?

                       คำตอบได้ออกมาแล้ว    ทันทีที่ดาร์กโซลนั้นใช้กระบี่ของมันป้องกันดาบยักษ์ไว้ได้   แต่ก็ไม่สามารถป้องกันอานุภาพทำลายล้างของมันได้    ดาร์กโซลถูกแรงเหวี่ยงของดาบยักษ์กระเด็นชนกำแพงตรอกอย่างจัง

                            



                               มันแม้กระเด็นชนกำแพงอย่างจัง  แต่ก็มิได้ล้มลงอาศัยท่าร่างหมุนตัวกลับมายืนอยู่บนพื้นได้อีกครั้ง  

                               เลือดทะลักออกจากปากของมันไม่น้อยทีเดียว   นี่หรือพลังการทำลายล้างของดาบประหารฟ้า

                               สภาพการณ์ในตอนนี้มันเป็นฝ่ายเสียเปรียบ     จากการกระทบกับกำแพงเมื่อสักครู่นี้ทำให้พลังลมปราณในร่างของมันเริ่มแตกซ่านแล้ว  

                               “ ฮ่าๆๆ  ดูท่าวันนี้เจ้าจะต้องตายอย่างอนาถเสียแล้ว    มีอะไรจะสั่งเสียหรือไม่ ”

                         ดาบประหารฟ้าหัวเราะอย่างได้ใจ

                               ดาร์กโซลบ้วนเลือดในปากของมันออกก่อนที่จะกล่าวอย่างแข็งใจ  ร่างกายของมันในตอนนี้นั้นหากไม่ใช่ฝึกปรือวิชาฝีมือมานาน   คงจะต้องตายไปแล้ว

                               “ เฮอะ ข้ามิมีทางตายเพราะคนแคระอย่างเจ้าหรอก ”

                         “ ไม่อยากเชื่อว่า มือกระบี่ปีศาจที่แท้ก็เป็นคนที่ดีแต่ปากอย่างนี้    ยังมีหน้าจะมาพูดอีกหรือ   เจ้าลองดูกระบี่ในมือเจ้าเสียก่อน ”

                         ดาร์กโซลเหลียวมองกระบี่สีดำเข้มที่มือของมันก็ถึงกับต้องตะลึง    กระบี่สีดำเข้มของมันในตอนนี้นั้นเหลือเพียงไม่ถึงครึ่งเล่มเสียแล้ว

                                การใช้กระบี่ป้องกันการโจมตีเมื่อสักครู่นี้ของมันนั้น   ทำให้แม้แต่กระบี่คู่ใจของมันก็ต้องหักครึ่งลง      ความรู้สึกของดาร์กโซลในตอนนี้นั้นยากที่จะบรรยายได้

                               หากมือกระบี่ผู้หนึ่งสูญเสียกระบี่ของตนเอง   นั่นก็เท่ากับว่ามือกระบี่ผู้นั้นได้ตายไปแล้ว

                              ที่ตายไปอาจมิใช่คนใช้กระบี่   แต่เป็นจิตใจของผู้ใช้กระบี่  !

                        จิตใจดาร์กโซลใช่ได้ตายไปแล้วด้วยหรือไม่ ?    







                        ริคแม้อาศัยท่าร่างเคลื่อนที่ด้วยความรวดเร็วอย่างสุดกำลังแล้ว  แต่ก็ยังไม่สามารถหนีพ้นจากการติดตามของมือสังหารทั้งสามได้

                              ริคนั้นมิใช่คนที่ชอบหนีแต่อย่างใด   แต่คู่ต่อสู้ของมันในครั้งนี้มิใช่คนที่มันจะต่อกรด้วยได้    

                              การหลบหนีของมันในครั้งนี้   ดูไร้จุดหมายยิ่งนัก   นั่นก็เพราะมิว่ามันจะหนีไปที่ใด   พวกมันล้วนติดตามมาทันเสมอ   ซ้ำยังกระชั้นชิดเข้ามาเรื่อยๆ แล้ว

                             ดูท่าหากยังเป็นเช่นนี้ไปเรื่อยๆ แล้วละก็ชีวิตของมีดสั้นสังหารจะต้องจบลงในคืนนี้แน่นอน  

                             และในที่สุดมันก็ตัดสินใจได้แล้ว      

                             ริคหยุดท่าร่างของมันลง     พร้อมกับวางร่างของชายหนุ่มลง    มันยิ่งสงบนิ่งอยู่บนหลังคาบ้านใหญ่หลังหนึ่ง    

                             ไม่ทันไรเงาร่างของมือสังหารทั้งสามก็เคลื่อนที่มาล้อมริคไว้แล้ว

                            “ ท่านหยุดอยู่อย่างนี้  ดูท่าจะเข้าใจแล้วกระมัง ”

                      คนในเสื้อคลุมขาวกล่าวกับมันอย่างสุภาพเช่นเคย  

                            “ พวกท่านอย่างเพิ่งเข้าใจผิด   ที่ข้าหยุดตรงนี้นั้นก็เพราะข้าได้ตัดสินใจแล้ว ”

                      “ ท่านตัดสินใจอันใด ”

                      “ ข้าตัดสินใจแล้วว่า คงจะต้องต่อสู้กับพวกท่าน  ”

                      “ การตัดสินใจของท่านนั้นก็ไม่นับว่าแย่เกินไป   เพียงแต่ท่านคิดว่าท่านสามารถหรือ ”

                      “ เรื่องที่ข้าได้ตัดสินใจแล้วนั้น  มิว่าสามารถหรือไม่สามารถข้าล้วนต้องกระทำ ”

                      “ กล่าวได้เยี่ยมสมกับเป็นมีดสั้นสังหารจริงๆ   ท่านก่อนตายยังคงคิดจะสู้   ข้าเลื่อมใสในความกล้าหาญของท่านยิ่งนัก ”

                      คนในเสื้อขาวกล่าว  พร้อมกับเริ่มหยิบพิณตั้งสายขนาดเล็กของมันขึ้นช้า       อัศวินมารซามูเอลนั้นยืนสงบนิ่งอยู่   ผ้าคลุมดำของมันไหวต้องกับสายลม   แต่ในดวงตาของมันนั้นแฝงแววพร้อมที่จะฆ่าฟันทุกเมื่อ    มือสังหารเสน่ห์ก็เอามือไข้วหลังไว้พร้อมที่จะซัดอาวุธลับใส่ริคทุกเมื่อ

                            ดูท่าคราวนี้จะเป็นจุดจบของริคเสียแล้ว  

                            ริคเองก็เตรียมพร้อมที่จะสู้แล้วเช่นกัน   ในมือทั้งสองข้างของมันนั้นมิทราบปรากฏมีดสั้นขึ้นเมื่อไหร่    คราวนี้มีดสั้นของมันนั้นเปร่งประกายยิ่งกว่าเดิม    เนื่องด้วยบริเวณที่มันอยู่นั้นมิได้ถูกเฆมบดบัง  

                            มือสังหารทั้งสาม แม้เป็นสุดยอดฝีมือ ที่อาจจัดได้ว่ามีฝีมือสูงกว่าริคนั้น   เมื่อเห็นมีดสั้นปรากฎขึ้นก็มิอาจเปลี่ยนท่าทางไปเล็กน้อย

                            มิว่าผู้ใดก็ตามเมื่ออยู่ต่อหน้ามีดสั้นของริคแล้วก็ต้องอดที่จะหวาดหวั่นมิได้







                            หากถามว่าทำไมริคไม่ตั้งหลักต่อสู้ที่ตรอกนั้นกับดาร์กโซลตั้งแต่แรกนั้น   อาจสามารถตอบได้สองประการ

                             ประการที่หนึ่งมันรู้ว่า หากมันยังอยู่ดาร์กโซลย่อมมิสามารถต่อสู้ได้อย่างเต็มที่   และตัวมันเองด้วยเช่นกัน    แต่ถ้าหากมันหนีมามือสังหารอีกสามคนจะต้องตามมาเป็นแน่    และโอกาสที่ดาร์กโซลจะรอดชีวิตย่อมมีมากกว่า

                              ประการที่สองนั้นบริเวณตรอกนั้นมืดสลัวยิ่งนัก   ไม่เหมาะแก่การต่อสู้ตัดสินชะตากรรม  มันจึงเลือกหนีมาหาที่ๆ สามารถมองเห็นได้ชัดเจนที่สุด  ซึ่งก็คือที่ตรงนี้ ที่แสงจันทร์สาดส่องมาให้เห็นได้ชัดเจนพอดี

                              “ ข้ามีเรื่องที่คิดจะบอกท่านทั้งสามอย่างหนึ่ง ”

                        มือสังหารทั้งสามคนยืนนิ่ง  แต่ก็หมายความว่าพร้อมที่จะรับฟัง

                              “ การสังหารของข้ามิเคยพลาดมาก่อน !   หากพวกท่านคิดลงมือก็เชิญได้ทุกเมื่อ  ”

                        มันกล่าวเช่นนี้ ทั้งสามรู้ว่ามิใช่การข่มขู่แน่นอน  นั่นเพราะการลงมือของมีดสั้นสังหารมิเคยพลาดมาก่อนจริงๆ

                        มือสังหารทั้งสามยังคงนิ่งเฉยอยู่เช่นเคย  

                              “ หรือพวกท่านมิกล้าที่จะลงมือ   การสังหารของข้าแม้ไม่เคยพลาดมาก่อน  แต่การที่จะสังหารพวกท่านทั้งสามคนก็ไม่แน่ว่าอาจจะพลาดก็ได้ ”

                        “ พวกข้าแม้มิลงมือ  แต่ท่านเองก็มิกล้าลงมือเช่นกันใช่หรือไม่ ?”

                        คนในเสื้อคลุมขาวกล่าวอย่างเปิดเผย  

                             “ และหากข้าทั้งสามลงมือพร้อมกันละก็  ท่านมั่นใจหรือไม่ว่าสามารถเอาชัยพวกข้าได้ ”

                       “ บอกตามตรงว่าข้ามิมั่นใจ    แต่เมื่อพวกท่านลงมือก็คงจะทราบคำตอบเอง ”

                       กล่าวจบทุกอย่างก็ตกอยู่ในความเงียบ    มือสังหารทั้งสามแม้มีฝีมือสูงส่งแต่ก็ยังมิมีผู้ใดกล้าที่จะเป็นฝ่ายลงมือก่อน  

                              ริคกัดฟันของตัวเองแน่น  พยายามควบคุมพลังสมาธิของตนเองให้นิ่งที่สุด   ในตอนนี้หากมันเคลื่อนไหวเชื่องช้าไปเพียงส่วนหนึ่งละก็ชีวิตของมันจะต้องจบสิ้นลงแน่  

                        นานเท่าไหร่มิทราบ  ก็ยังไม่มีผู้ใดลงมือ    หากเป็นเช่นนี้ต่อไปเรื่อยๆ ริคจะต้องเป็นฝ่ายผ่ายแพ้แน่นอน   นั่นก็เพราะเมื่อใดที่พลังสมาธิของมันถดถอยลงเรื่อยๆ จนใกล้หมดแล้วละก็เมื่อถูกลงมือตอนนั้นมันก็ไม่สามารถหลบหลีกได้แล้ว         แต่หากให้มันลงมือในตอนนี้นั้นมันก็ต้องผ่ายแพ้เช่นกัน  

                              





                              

                                ดาบประหารฟ้าเตรียมตัวที่จะลงมือแล้ว   ดาร์กโซลในตอนนี้นิ่งเงียบไปแล้ว   นั่นใช่เพราะกระบี่ของมันได้ถูกทำลายไปแล้วใช่หรือไม่

                                “ เจ้าตายซะ ! ”

                         มันกล่าวพร้อมกับกระโดตวัดดาบยักษ์ของมันออกอย่างสุดกำลัง   การลงมือของมันในครั้งนี้ทุ่มกำลังออกอย่างสุดแรงหมายที่จะฟันร่างของดาร์กโซลในขาดครึ่งท่อนภายในดาบเดียว     ดาร์กโซลนั้นคล้ายไม่คิดที่จะเคลื่อนไหวหลบ     หรืออาจเป็นเพราะร่างกายของมันนั้นบอบช้ำจนไม่สามารถเกร็งพลังได้ทัน  

                               เห็นแน่ชัดว่า ดาบยักษ์ต้องตัดร่างของดาร์กโซลขาดแน่นอน  

                               แต่ทันใดนั้นเองประกายกระบี่สีดำเข้มก็วูบขึ้น

                              ประกายกระบี่ปีศาจที่แสนอำมหิตนั้นเอง

                              กระบี่สีดำเข้มครึ่งท่อนที่เหลือถูกซัดออกด้วยความรวดเร็วยิ่งนัก  ตรงเข้าใส่ดาบประหารฟ้า     พร้อมกันนั้นดาร์กโซลก็อาศัยพลังเฮือกสุดท้ายของมันหลังจากซัดกระบี่ใส่ดาบประหารฟ้าแล้วนั้น   พุ่งตัวขึ้นหลบดาบยักษ์ในทันที    

                               ดาบประหารฟ้าใช้กำลังออกอย่างสุดแรงสภาวะดาบของมันนั้นยากที่จะดึงกลับได้ทันถ่วงที   เมื่อปรากฏประกายกระบี่วูบเข้าใส่มัน     มันคิดหลบก็ไม่ทันถ่วงทีแล้ว

                               แต่มิคาดมันอาศัยวิชาปลดพลังที่เกร็งใส่ดาบยักษ์   เปลี่ยนสภาวะดาบของมันกลับฟันใส่กระบี่ที่ดาร์กโซลซัดมา    กระเด็นหักออกเป็นสองท่อนอีกครั้ง !

                        



                              

                          แผนการที่ดาร์กโซลอุส่าห์ใช้พลังเฮือกสุดท้ายของมันนั้น เท่ากับว่าล้มเหลวแล้ว

                                 “ ฮ่าๆๆ  ลูกไม้ตื้นๆ หรือจะลวงข้าได้    ตอนนี้เจ้าไม่มีอาวุธแล้ว  ทั้งยังใกล้ตายเต็มที่   ดูเหมือนว่าข้าจะเป็นฝ่ายชนะเสียแล้ว ”

                          มันกล่าวยังไม่ทันจบเงาร่างสายหนึ่งก็พุ่งขึ้นตรงไปยังกระบี่ที่กำลังกระเด็นขาดสองท่อนพอดี     เงาร่างสายนั้นจับกระบี่ทั้งสองท่อนนั้นพร้อมกับพุ่งตรงเข้าหาดาบประหารฟ้า  

                                 เงาร่างนั้นอาศัยช่วงเวลาเพียงแค่เสี้ยววินาที   วิ่งไต่ดาบยักษ์เล่มนั้นตรงเข้าหาดาบประหารฟ้า     ตอนนี้ดาบประหารฟ้าคิดหลบหนีก็ไม่ทันแล้ว    คิดจะใช้ดาบของมันออกนั้นก็ไม่ทันเช่นกัน   นั่นเพราะดาบของมันถูกเงาร่างสายนี้ทิ้งน้ำหนักลงพร้อมวิ่งตรงเข้าหามันแล้ว

                                  “ ฟ้าววววว ! ”

                           โลหิตกระเซ็นออกเป็นสาย   ดาบประหารฟ้าถูกฟันใส่คอหอยอย่างจัง   ช่างเป็นการลงมือที่แสนอำมหิตยิงนัก      

                                   เงาร่างสายนั้นเมื่อพุ่งเข้าสังหารดาบประหารฟ้าได้แล้ว ก็หมุนตัวลงกลับพื้น   แต่พลังของมันนั้นแทบไม่มีเหลืออีกแล้ว    ทำให้มันแทบไม่สามารถทรงตัวได้   ต้องชันเข่าข้างหนึ้งลงพร้อมกับหอบหายใจด้วยความเหนื่อยล้า

                                  “ ปัง !! ”

                           ดาบยักษ์ของดาบประหารฟ้าร่วงลงกับพื้น    แต่ร่างของดาบประหารฟ้ายังไม่ล้มลง

                                  “ เจ้า เจ้า ! ”

                           มันเริ่มหายใจไม่ออกแล้ว   นั่นเพราะหลอดลมของมันถูกฟันขาดสะบัดไปแล้ว   โลกของมันเริ่มมืดลงเรื่อยๆ   สิ่งที่มันรู้สึกสุดท้ายก่อนตายก็คือ  ประกายกระบี่ที่เย็นเฉียบ  กระบี่ที่อำมหิตยิ่งนัก กระบี่ปีศาจ !  

                                 ร่างของดาบประหารฟ้าค่อยๆ ล้มลง    มันตายแล้ว !

                        



                      

                           ที่แท้ดาร์กโซลในตอนแรกจงใจซัดกระบี่ออก  โดยรู้อยู่แล้วว่าดาบประหารฟ้าต้องถอนสภาวะดาบของมัน    จากนั้นดาร์กโซลก็อาศัยท่าร่างพุ่งตัวขึ้นพร้อมเตรียมตัวที่จะรับกระบี่ที่ดาบประหารฟ้าจะฟันออก      เมื่อกระบี่สีดำเข้มของมันถูกฟันขาดเป็นสองท่อนมันก็พุ่งตัวเข้ารับกระบี่สองท่อนนั้นพร้อมอาศัยจังหวะที่สภาวะดาบนั้นไม่มีกำลังชั่วขณะวิ่งไต่ขึ้นบนดาบยักษ์พร้อมกับสังหารดาบประหารฟ้าในทันที

                           แผนการฆ่าของดาร์กโซลนั้นเรียกได้ว่า  แม่นยำทีเดียว   มิเพียงต้องอาศัยประสบการณ์ที่ผ่านมาอย่างโชกโชน  ยังต้องอาศัยพลังสมาธิ และพลังฝีมืออย่างมากอีกด้วย  

                                   มือของมันนั้นยังคงกำกระบี่ของมันไว้แน่น   แม้ว่าเลือดที่ออกมาจากมือทั้งสองข้างของมันนั้นจะมากเพียงใดก็ตาม

                                 ในแววตาของมันนั้นคล้ายปรากฏคราบน้ำตาขึ้น    

                                 มันยังคงกำกระบี่ไว้แน่น  คล้ายกับเป็นการไว้อาลัยสิ่งที่มันรักยิ่ง

                          ไม่นานนักมันก็ค่อยๆ ลุกขึ้นช้าๆ    สภาพร่างกายของมันนั้นเรียกได้ว่า  แค่ลุกขึ้นได้ก็ดีมากแล้ว     เลือดทะลักออกจากปากของมันอีกครั้ง    นั่นก็เพราะเมื่อครู่มันใช้พลังลมปราณไปมาก    

                           มันค่อยๆ นำกระบี่ทั้งสี่ท่อนของมันสอดคืนฝักกระบี่ของมันอย่างดีที่สุด

                                  หากเป็นผู้อื่น เมื่อตกอยู่ในสภาพเช่นนี้จะต้องรีบกลับบ้าน  ไม่ก็ไปหาหมอแล้ว   แต่มันทั้งยังไม่กลับบ้าน  ทั้งไม่ไปหาหมอ   มันค่อยๆ เดินตรงไปยังดาบยักษ์ของดาบประหารฟ้า  







                                 มิทราบว่ามันเอาแรงมาจากไหน   มันค่อยๆ ยกดาบยักษ์เล่มนั้นขึ้น      ดาบเล่มนี้มิเพียงหนักยิ่ง   หากมิใช่ผู้ที่ฝึกปรือเพื่อที่จะใช้มานานละก็  ย่อมมิสามารถใช้ได้แน่นอน

                                 แต่ดาร์กโซลกลับค่อยๆ ยกดาบนั้นขึ้นช้าๆ    พร้อมกับเตรียมตัวที่จะใช้ดาบเล่มนี้แทนกระบี่ที่หักไปของมัน    

                                  ที่มันสามารถมีกำลังได้ถึงตอนนี้นั่นใช่เพราะ  คำว่าสหาย ได้เริ่มเกิดขึ้นในจิตใจมันแล้วหรือไม่    

                              ที่มันยังไม่สามารถพักได้  นั่นก็เพราะมันยังเหลือคนที่มันยังจะต้องไปช่วยเหลืออยู่    มีดสั้นสังหารนั่นเอง !

                         คนผู้หนึ่ง  หากมันพร้อมที่จะทำเพื่อผู้อื่นแล้วละก็  คนผู้นั้นย่อมต้องมีพลังใจเหนือผู้อื่นแน่นอน    

                         จากนั้นมันก็พุ่งตัวออกแล้ว   การเคลื่อนไหวของมันแม้เชื่องช้าลงไปมากก็ไม่สำคัญ   ที่สำคัญคือ มันยังคงเคลื่อนไหว  มันยังคงไม่ยอมแพ้  นั่นเพราะจิตใจของมันยังคงมิได้ตายลง

                               คนผู้หนึ่งหากจิตใจยังคงไม่ยอมแพ้   คนผู้นั้นย่อมจะไม่มีวันพ่ายแพ้ !  





                            

                              

                               ขณะที่มือสังหารทั้งสาม และริคนั้นยังคงอยู่ในสภาวะสงบนิ่งพร้อมที่จะลงมือนั้น     ก็ปรากฏเสียงหนึ่งดังขึ้น     เสียงที่แสนเย็นชา   แต่เสียงที่แสนเย็นชานี้   กลับช่วยให้ความหวังที่หมดไปสำหรับริคกลับคืนมา  

                                เสียงๆ นั้นเป็นเสียงของดาร์กโซลนั่นเอง !

                         “ พวกท่านทั้งสามคน  รุมสังหารคนเพียงคนเดียว ยังนับว่าพวกท่านมีความละอายอยู่ด้วยหรือ ”

                         มือสังหารทั้งสามถึงกับจ้องมองไปยังเจ้าของเสียงเป็นสายตาเดียวกัน    มือสังหารเสน่ห์ถึงกับต้องหลุดปาก

                                “ เจ้า ! เจ้ายังไม่ตาย  ถ้าอย่างนั้นดาบประหารฟ้า หรือว่า ?! ”

                         “ เฮอะ ”

                         ดาร์กโซลไม่ตอบ แต่ดาบยักษ์ที่อยู่ในมือของมันนั้นได้แทนคำตอบแล้ว

                               ริคนั้นแย้มยิ้มออกมาเล็กน้อย   มันทั้งดีใจที่ดาร์กโซลสามารถเอาชนะดาบประหารฟ้าได้   และยังสามารถมาช่วยเหลือมันได้อีก   ดูท่าในวันเดียวมันจะติดหนี้บุญคุณคนไว้ไม่น้อยเลยทีเดียว

                          “ สมแล้วที่เป็นมือกระบี่ปีศาจ   ไม่ทำให้ข้าผิดหวังจริงๆ    แต่ดูจากอาการของท่านนั้น  ไม่ตายก็ไม่ต่างกับตายแล้วเท่าไหร่ ”

                         คนในเสื้อคลุมขาวยิ้มอย่างสุภาพ     มันไม่ได้มีท่าทีตื่นเต้นเลยแม้แต่น้อย   จากการปรากฎตัวขึ้นอีกครั้งของดาร์กโซล

                                “ ข้าจะเป็นคนส่งวิญญาณของท่านเองก็แล้วกันนะ ”

                          คนในเสื้อคลุมขาวกล่าวจบก็ไม่รอช้า     มันเปลี่ยนพิณตั้งสายขนาดเล็กในมือของมันเป็นขลุ่ย พร้อมกับเป่าออกในทันที

                                 ในทันทีที่มันเป่าขลุ่ยขึ้นนั้น ก็ปรากฏอาวุธลับหลายสายพุ่งพวยออกจากขลุ่ยของมัน  

                                ดาร์กโซลนั้นร่างกายได้รับความบอบช้ำมากอยู่แล้ว    ซ้ำยังถือดาบยักษ์ไว้   จะพุ่งหลบอาวุธลับหลายสายนั้นย่อมมิมีทางทันท่วงทีแน่นอน

                          ริคนั้นแม้จะช่วยเหลือตอนนี้ก็ไม่ทันเช่นกัน   ที่สำคัญหากเขาพุ่งเข้าไปช่วยเหลือตอนนี้ละก็มือสังหารอีกสองคนจะต้องจัดการเขาแน่นอน

                                 ดังนั้นตอนนี้ดาร์กโซลได้แต่ตายแล้ว !









                           “ เช้ง เช้ง เช้ง !!! ”

                          เสียงอาวุธลับหลายสายพุ่งเข้าใส่ดาบ

                                ที่อาวุธลับหลายสายนั้นพุ่งชนมิใช่ดาร์กโซล แต่เป็นดาบเล่มหนึ่ง

                                ดาบยักษ์ของดาบประหารฟ้านั่นเอง !

                         “ ท่านยังมีแรงที่จะลับอาวุธลับของข้าได้อีกหรือ ! ”

                         คนในเสื้อคลุมขาวกล่าวด้วยท่าทีเปลี่ยนไปเล็กน้อย  แต่ท่าทางของมันยังคงสงบนิ่งเช่นเคย  

                                มิว่าใครก็มิอาจเชื่อได้ว่า  ดาร์กโซลยังคงมีแรงเหลือพอที่จะยกดาบป้องกันอาวุธลับที่แสนอำมหิตเช่นนี้ได้ทัน    ที่ไม่อาจเชื่อนั้นก็ไม่เพียงตัวมันเองด้วยเช่นกัน

                                มันจำไม่ได้ว่ามันได้ใช้ดาบป้องกันอาวุธลับนั้นไว้ด้วยตัวมันเอง    

                                ลมพัดโชยมาวูบหนึ่ง  ก็ปรากฏเสียงหัวเราะลอยตามลมมาด้วยเช่นกัน

                               “ ฮ่าๆๆๆ  มือกระบี่ปีศาจไม่มีแรง  แต่ข้ายังมีแรงเหลืออีกเยอะ ! ”

                         เสียงหัวเราะนี้มิทราบออกมาจากที่ใด  รู้แต่เพียงว่าเสียงหัวเราะนี้แฝงพลังที่แข็งแกร่งมากมายไว้ขุมหนึ่ง        

                              “ พวกท่านมีสามคนสู้กับคนสองคนจะสนุกได้อย่างไร   เพิ่มข้าไปอีกสักคนหนึ่งสิ ถึงจะสนุก ”

                        พร้อมกันนั้นเงาร่างใหญ่สายหนึ่งก็ปรากฏขึ้นด้านหลังของดาร์กโซล     เงาร่างสายนี้เพียงปรากฏตัวขึ้นท่าทีของมือสังหารทั้งสามก็ต้องเปลี่ยนไปแล้ว

                              “ ท่านหรือว่าท่านจะเป็น ! ”

                        มือสังหารเสน่ห์กล่าวด้วยความตกตะลึง

                              “ ใช่แล้ว ไม่ใช่ข้าแล้วจะเป็นผู้ใด ”

                        เงาร่างใหญ่ที่อยู่ด้านหลังของดาร์กโซลค่อยชัดเจนขึ้นเรื่อยๆ    กลับปรากฏเป็นชายชราท่าทางใจดีผู้หนึ่ง    ผม และเคราของชายชราผู้นี้แม้จะเป็นสีขาวหมดแล้ว   แต่ยังแฝงไว้ด้วยความมีชีวิตชีวาขุมหนึ่ง    และที่ด้านข้างของชายชราผู้นี้คล้ายมีคนรูปร่างผอมสูงคนหนึ่งอยู่  แต่หากสังเกตดีๆ คนรูปร่างผอมสูงผู้นี้กลับไม่ใช่ผู้คน  แต่เป็นหุ่นเชิด !

                      ดังนั้นเมื่อมองไกลๆ เวลาชายชราเคลื่อนไหวจึงเหมือนเป็นเงาร่างสายใหญ่นั่นเอง    !

                      และที่ดาร์กโซลสามารถขยับดาบมาป้องกันอาวุธลับไว้ได้นั้นก็เพราะฝีมือของชายชราผู้นี้นั่นเอง

                      และคนผู้นี้ก็คือ ยอดฝีมือ ฉายา นักเชิดเงา นั่นเอง !    

                          







                           “ ไม่ได้พบกันนานเลยนะ ริค ”

                      นักเชิดเงากล่าวทักทายริค   มิคาดว่าชายชราผู้นี้กลับรู้จักริคมาก่อน  ซ้ำยังเรียกมีดสั้นสังหารว่า ริค อีกด้วย นั่นย่อมแสดงว่าคนทั้งสองนี้รู้จักกันอย่างสนิทสนมเลยทีเดียว

                           “ นั่นสินะครับ ท่านผู้อาวุโส ”

                           “ ดูเหมือนว่าวันนี้จะเกิดเรื่องเยอะเลยนะ  ”

                      นักเชิดเงาจ้องมองไปยังมือสังหารทั้งสามคน   ทำให้ทั้งสามอดที่จะหวาดหวั่นไม่ได้   สถาณการณืในตอนนี้ริคเริ่มเป็นฝ่ายได้เปรียบแล้ว

                            

                             “ เอาละรีบจัดการเจ้าสามคนนี้ก่อนดีกว่านะ   เรามีเรื่องที่จะต้องคุยกันอีกเยอะ ”

                             “ ครับ ”

                        นักเชิดเงากล่าวกับริคเสร็จก็หันมากระซิบกับดาร์กโซล

                             “ ข้าขอยืมตัวเจ้าเป็นหุ่นให้ข้าสักครุ่ก่อนนะ ”

                       “ ……….. ”

                       “ ฮ่าๆ ไม่น่าเชื่อจริงๆ ว่านักเชิดเงาที่หายตัวไปนานกลับปรากฏตัวขึ้นมาในวันนี้   แต่จะจัดการข้าทั้งสามคนได้นั้นมันไม่ใช่เรื่องง่ายหรอกนะ ”

                       คนในเสื้อคลุมขาวหัวเราะ  มันคล้ายขาดความเยือกเย็นไปบ้างแล้ว

                       มันคล้ายกับแค้นตัวเองที่ไม่ยอมสังหารริคแต่แรก  ปล่อยให้มีคนมาช่วยเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ

                            “ หึหึ เดี๋ยวเจ้าก็จะรู้เองละว่า ง่ายหรือไม่ ”

                       นักเชิดเงาหันไปมองริค ดาร์กโซล และหุ่นของเขา  จากนั้นก็มองไปยังมือสังหารทั้งสามคนก่อนที่จะกล่าว

                            “ ถ้าพร้อมแล้วก็จะลงมือละนะ ! ”











                                        __________________________________

        



                                                      

                        





                                              

                  





                        

                                



                      

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×