ลำดับตอนที่ #1
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #1 : The Beginning Of The Never Ending War
Thank you To Chosen My Story -/\\-
สวัสดีค่ะ ก่อนอื่นก็จะขอขอบคุณที่กรุณาคลิกเข้ามาอ่านนิยายเรื่องนี้นะคะ ขอขอบพระคุณทุกคนจริงๆ ค่ะ
และก็ขอแนะนำแนวของเรื่องนี้ก่อนนะคะ จะเป็นนิยายแฟนตาซีค่ะ มีเรื่องราวโรแมนติก ออกดราม่านิดๆ ด้วย จะมีเรื่องราวของความรัก และการต่อสู้กันเข้ามามิกซ์ๆ กันค่ะ เพราะส่วนตัวชอบทั้งนิยายแฟนตาซีและนิยายรักโรแมนติก เลยตัดสินใจลองเขียนมันทั้งสองแนวในเรื่องเดียวกัน คิดว่าคงจะชอบกันนะคะ ^_^
เรื่องนี้ได้รับแรงบันดาลใจมาจากเรื่อง \"Shaman King ราชันย์แห่งภูต...ของสนพ. Siam Inter Comics\" ค่ะ ถ้าใครที่เคยอ่านแล้วคิดว่าเรื่องมันออกคล้ายๆ กันก็ขออภัยนะคะ เพราะว่าชอบเรื่องนี้มากๆๆๆ เลยค่ะ
เชิญทุกท่านอ่านได้เลยค่ะ ขอความกรุณาช่วยแนะนำติชมด้วยนะคะ ประสบการณ์ยังน้อย แต่รักที่จะเขียนค่ะ ^^
=======================================================
1
The Beginning Of The Never Ending War
ท่ามกลางเปลวเพลิงอันร้อนระอุ และจิตสังหารอันแรงกล้าของมือสังหารผู้ยิ่งใหญ่...ศัตรูผู้เป็นภัยร้ายแรงต่อสวรรค์และโลกมนุษย์...นั้น ปรากฏร่างของชายผู้หนึ่ง เขานั้นมีเลือดโทรมกาย นอกจากนี้ ยังมีไฟประลัยกัลป์ร้อนแรงวนเวียนอยู่รอบกายเขา แววตาอันอ่อนล้าแต่เต็มเปี่ยมไปด้วยจิตวิญญาณบริสุทธิ์และกล้าแกร่งจับจ้องไปที่จุดๆ หนึ่งอย่างใจจดใจจ่อ
ลมมากมายก่อตัวเป็นพายุขนาดมหึมา จิตสังหารมากมายนั้นแผ่ขยายออกมาจากจุดศูนย์กลางของพายุนั้น แต่ทว่า...สิ่งที่ชายผู้เป็นผู้ควบคุมเปลวเพลิงนั้นจับจ้องอยู่กลับไม่ใช่พายุนั้น...แต่เป็นสิ่งที่อยู่ภายในนั้นต่างหาก...
ผู้ควบคุมพลังอันมหาศาลที่อาจทำลายล้างโลกทั้งโลกได้อย่างง่ายดาย...
อิชิโอกะ โซเซกิ...หรือลูซิเฟอร์ บุตรแห่งนรกผู้รับบัญชาจากนรก...
เปลวเพลิงที่ลอยวนเวียนอยู่รอบตัวชายผู้มีเลือดโทรมกายนั้นขยับไหวเล็กน้อย หลังจากนั้นเพียงไม่นาน เขาก็ใช้แรงเฮือกสุดท้ายยันตัวเองลุกขึ้นยืนอีกครั้ง หลังจากล้มลงไปกว่าร้อยครั้ง
แววตาแรงกล้านั้นจ้องทะลุผนังของพายุแห่งจิตสังหารนั้นเข้าไปถึงดวงตาเย็นเยียบของอิชิโอกะได้อย่างไม่ยากเย็น พลังที่แผ่ออกจากตัวเขานั้นอ่อนแรงเต็มทน ศัตรูที่เก่งกล้าอย่างอิชิโอกะนั้นเกินพละกำลังของเขา หากเทพผู้คุ้มครองอาณาจักรเออร์ริแกรนด์ทั้งห้าอย่างเทพสายฟ้า เทพวารี เทพวายุ เทพธรณี และเทพอัคคีมิได้มาอยู่ด้วยกัน...เทพอัคคีผู้ควบคุมพลังแห่งไฟอย่างเขาก็ไม่สามารถต้านทานพลังอันไร้เทียมทานของอิชิโอกะได้...
ร่างที่ซ่อนอยู่ในพายุนั้นแสยะรอยยิ้มเยือกเย็นออกมาเมื่อมองเห็นแววตาแค้นเคืองของศัตรูของเขา...
ฉันพลันนั้นเอง...เปลวไฟก็พวยพุ่งออกจากฝ่ามือของเทพอัคคี ไฟนั้นวิ่งตรงไปพุ่งชนเข้ากับพายุนั้นเข้าอย่างจัง แต่ทว่า...ไฟนั้นกลับรีเฟลกซ์ออกมา ไม่สามารถทะลุผ่านกำแพงพายุร้ายนั้นได้ ส่งผลให้พลังนั้นกลับเข้ากระแทกตัวเจ้าของเอง...
เทพแห่งอัคคีล้มลงอีกครั้ง...
แต่คราวนี้ เขาจะไม่มีวันยอมล้มลงอีกแล้ว...
แม้จะรู้ว่าพลังที่เหลืออยู่มิอาจล้มศัตรูผู้ยิ่งใหญ่เช่นอิชิโอกะได้ แต่ในฐานะเทพอัคคีอย่างเขา...ไม่มีวันจะยอมแพ้คนใจทรามต่ำช้าเช่นอิชิโอกะได้
Holy Sword...ดาบศักดิ์สิทธิ์แห่งอาณาจักรเออร์ริแกรนด์ ถูกชักออกจากฝักเป็นครั้งแรกในรอบสองศตวรรษ นับจากสงครามครั้งสุดท้ายระหว่างอิชิโอกะและอาณาจักรเออร์ริแกรนด์...
แสงสว่างจากโฮลี่สวอร์ดสว่างวาบไปทั่วอาณาบริเวณ แต่ผลที่ส่งไปถึงอิชิโอกะผู้ซ่อนอยู่ภายในวังวนของพายุยิ่งใหญ่นั้นกลับทำได้เพียงแค่รอยยิ้มบางๆ เท่านั้น...
พลังฮึดสุดท้ายจากเทพอัคคีถูกส่งต่อไปยังโฮลี่สวอร์ดในมือของเขา แสงไฟเรืองวาบเป็นสีแดงออกมาจากด้ามดาบส่องประกายทันที พลังอันมหาศาลของเทพอัคคีถูกถ่ายทอดไปยังโฮลี่สวอร์ดจนหมดสิ้น
จากนี้คือการวัดผลครั้งสุดท้าย...ความเป็นความตายของอาณาจักรเออร์ริแกรนด์ขึ้นอยู่กับเขา ผู้เป็นเทพที่ปกปักษ์รักษาคุ้มครองอาณาจักรเพียงองค์เดียวที่เหลืออยู่...
เกิดเสียงกัมปนาทขึ้นทันทีที่เกิดการปะทะกันระหว่างพายุสังหารของศัตรูผู้ยิ่งใหญ่...อิชิโอกะ กับโฮลี่สวอร์ดออฟไฟร์ของเทพอัคคีผู้เก่งกล้าแห่งอาณาจักรเออร์ริแกรนด์...
ชั่วขณะหนึ่ง...เวลาได้หยุดลงกะทันหัน ทุกสรรพสิ่งบนโลกได้หยุดลง...
ร่างของใครคนหนึ่งแตกสลายออกจากกัน โฮลี่สวอร์ดกระเด็นไปอยู่มุมหนึ่งใกล้ๆ นั้น ร่างนั้นก็คือ...
ร่างของเทพอัคคี...
อิชิโอกะที่ขณะนี้ลงจากพายุสังหารมายืนมองดูผลงานชิ้นเอกของตนอยู่ แสยะยิ้มเหี้ยมเกรียมพึงพอใจออกมาทันทีที่ได้เห็น ศัตรูตัวร้ายมองไปยังทิศที่โฮลี่สวอร์ดกระเด็นไปโดยที่รอยยิ้มยังคงไม่หายไป
“ไปกันเถอะ...มิกิวาจิ...” อิชิโอกะหันไปพูดกับลูกน้องคนสนิทของเขาที่ยืนอยู่ใกล้ๆ กันนั้น และเริ่มออกเดินไปพร้อมกัน...
เทพผู้คุ้มครองอาณาจักรเออร์ริแกรนด์ทั้งห้าได้จากไปแล้ว บัดนี้...ไม่มีสิ่งใดจะคอยคุ้มครองอาณาจักรนี้อีกต่อไป มีเพียงแต่ประมุขแห่งอาณาจักรเออร์ริแกรนด์เท่านั้น...
ยูคิมุระ อาซาโอะ...
เขา...เพียงคนเดียวเท่านั้น...
=====================================================
“มัน...มันมาแล้วครับ” เสียงละล่ำละลักของขุนนางชั้นสูงคนสนิทของยูคิมุระ อาซาโอะดังขึ้นหน้าประตูไม้ไผ่บานเลื่อนซึ่งเป็นกำแพงบางๆ กั้นระหว่างตัวเขากับบุคคลผู้ยิ่งใหญ่ที่สุดรองจากเทพทั้งห้าแห่งอาณาจักร...
เขาคือยูคิมุระ อาซาโอะ...ผู้ปกครองอาณาจักรทั้งมวล
“ท่านไฟร์เออร์...แพ้...แล้วหรือ...?” เสียงหนึ่งดังมาจากหลังประตูนั้น
“คะ....คะ...ครับ”
“ใจเย็นๆ สิมิโซเนะ...อิชิโอกะ...จะต้องตายในวันนี้...” เสียงนั้นดังตอบกลับมา และทันใดนั้น ประตูบานเลื่อนก็เปิดออก...
เผยให้เห็นบุคคลที่มีอำนาจและกำลังทัดเทียมกับเทพเจ้าแห่งสวรรค์...ยูคิมุระ อาซาโอะ...
ใบหน้าอ่อนเยาว์หล่อเหลาขัดกับอายุ ผมสีดำสนิท ดวงตาเรียบเย็นสีดำบ่งบอกถึงความหนักแน่นอันเป็นนิสัยประจำของเขา และสุดท้าย...
เดอะการ์เดียนโฮลี่อินเซนต์สวอร์ด ดาบแห่งอนาคต...ที่อยู่ในมือของเขา...
อาซาโอะมองผ่านกรอบหน้าต่างที่อยู่ตรงหน้าไป ร่างสูงสง่างามของศัตรูผู้ยิ่งใหญ่อย่างอิชิโอกะปรากฏอยู่ตรงหน้าเขา และดูเหมือนอิชิโอกะจะรู้ตัวว่าถูกจ้อง...เขาเงยหน้าขึ้นสบตากับผู้นำที่ยิ่งใหญ่ของเออร์ริแกรนด์...
รอยยิ้มเยือกเย็นแต่ว่างเปล่าเย็นชาน่าหวาดหวั่นปรากฏขึ้นบนใบหน้าของเขาอีกครั้ง
อาซาโอะละสายตาจากภาพที่อยู่นอกหน้าต่างนั้นไปทางซ้าย และอีกคนหนึ่งที่ปรากฏอยู่ตรงหน้าเขาก็คือหญิงสาวในชุดกิโมโนลายดอกซากุระสีชมพูที่แม้จะสวยงามแต่กลับดูเศร้าสร้อย...
หญิงสาวผู้มีผมสีน้ำตาลแดง ดวงตาสีเงินแหลมคมดุจเหยี่ยว ลำคอยาวระหงส์ ผิวขาวเนียนราวปุยนุ่น ใบหน้าที่เย็นชาราวน้ำแข็งแต่สวยงามหาที่ใดเปรียบ ข้อมือของเธอผูกเชือกสีแดงสดเหมือนเปลวไฟที่กำลังลามเลียอยู่ภายนอกบริเวณปราสาทนั้น...และสิ่งที่มัดเชือกเอาไว้คือหินสีแดงที่ภายในมีกลุ่มควันหมุนเวียนอยู่...กลุ่มควันที่มีพลังทำลายล้างระดับสูง...
เธอคือพรินเซสออฟไฟร์ ภรรยาของเทพอัคคี...
“ชิยูมิ...”
“ถึงเวลาแล้วสินะ...อาซาโอะ...”
“ใช่...เวลาที่จะเริ่มสงครามที่ไม่มีวันสิ้นสุด...”
“...”
“รักษา...ตัวด้วย...อย่าให้โคโทฮารุเป็นอันตราย...และ...”
“...”
“โฮลี่สโตนออฟไฟร์...เก็บรักษาเอาไว้...แทนเออร์ริแกรนด์ด้วย มีแต่เธอเท่านั้นที่เหมาะสมจะเป็นผู้รักษามันไว้ได้ดีที่สุด...”
“อาซาโอะ...”
“ข้าขอโทษที่ปกป้องเจ้ากับลูกของเจ้าไว้ไม่ได้...ทำไม่ได้ตามที่ท่านเทพอัคคีฝากฝังไว้...ภรรยาและบุตรแห่งเทพอัคคีอย่างพวกเธอเลยต้องระหกระเหินไปแดนไกลเช่นนี้...ชิยูมิ...หากเจ้าอยู่ที่นี่ต่อไปจะเป็นอันตราย อิชิโอกะไม่ปล่อยโคโทฮารุไว้แน่...เพราะฉะนั้น...” อาซาโอะไม่สามารถพูดต่อไปได้ เขายกมือขึ้นปิดหน้า...
“ข้าจะรักษาไว้เท่าชีวิต...อาซาโอะ...” เสียงที่เคยเรียบเฉยบัดนี้กลับสั่นเครือ พร้อมกันนั้นเองที่หยาดน้ำใสๆ ไหลหยดออกจากดวงตาสีเงินแหลมคมคู่สวยแต่แฝงความโศกเศร้าเอาไว้ภายใน ร่างเล็กบางแต่สวยงามของเธอสั่นไหวเล็กน้อย
อาซาโอะมองภาพหญิงสาวผู้ร่ำไห้ตรงหน้าด้วยหัวใจที่เจ็บปวด เขาค่อยๆ ก้าวเข้าไปหาเธออย่างช้าๆ ก่อนจะกระชากของสิ่งหนึ่งออกมาจากคอของตัวเอง...
“นี่คือ...ของที่ท่านเทพอัคคีฝากไว้...วันไหนที่โคโทฮารุโตขึ้น...ให้เค้าเก็บรักษามันเอาไว้...แทนพ่อของเค้าด้วยนะ...” สิ่งที่อาซาโอะยื่นให้คือสร้อยคอที่ห้อยหินสีแดงแบบเดียวกับที่ผูกข้อคือชิยูมิเอาไว้ หินสีแดงนั้นส่องประกายแวววาวออกมาราวกับจะสำแดงให้เห็นถึงฤทธิ์เดชของผู้ที่เคยเป็นเจ้าของมันมาก่อน เจ้าของที่บัดนี้กลายเป็นผู้วายชนม์...
“อืม...ข้าสัญญา...” ชิยูมิรับมาด้วยมืออันสั่นเทา
“ดูแลรักษาตัวเองด้วย...จากนี้...อาจเป็นการจากกันชั่วชีวิต ดังนั้น...”
“...” ทั้งสองคนต่างเงียบกันไปนานสองนานด้วยความรู้สึกอย่างเดียวกันที่ท่วมท้นขึ้นในหัวใจ เสียงดังมากมายจากการถูกทำลายของของหลายสิ่งดังมาอย่างต่อเนื่อง ความร้อนระอุจากเปลวไฟอันเป็นผลพวงมาจากการต่อสู้ระหว่างเทพอัคคีกับศัตรูผู้ยิ่งใหญ่ของเออร์ริแกรนด์ก็ยังทำให้ทั้งสองคนรู้สึกได้อย่างชัดเจน...
หากความพ่ายแพ้มาอยู่ฝ่ายของอาซาโอะ...นั่นคือบทสุดท้ายของเออร์ริแกรนด์ คือการจบสิ้นของอาณาจักรอย่างถาวร...
“ขอให้เทพเจ้าแห่งชัยชนะจงอยู่ฝ่ายเรา...อาซาโอะ...หากเป็นสิ่งที่ฟ้าลิขิต เราคงได้พบกันอีกครั้ง...จากวันนี้...ข้ากับโคโทฮารุขอลาไปก่อน...”
“ลาก่อน...ชิยูมิ...” สิ้นเสียงของอาซาโอะ ร่างของชิยูมิก็ค่อยๆ เลือนหายไปเช่นเดียวกับร่างของเด็กชายวัยหกขวบผู้ซึ่งเป็นทายาทเพียงผู้เดียวของเทพแห่งไฟ ซึ่งนอนหลับอยู่ในเตียงข้างๆ ร่างของชิยูมิ หลังจากนั้นเพียงสองวินาที...ช่องว่างระหว่างมิติก็เปิดออก...
ทางเชื่อมระหว่างภพที่สองกับโลกมนุษย์อันเป็นภพที่สามได้เปิดออกแล้ว...
ชิยูมิและอาซาโอะ...เพื่อนรักเพื่อนสนิทของกันและกัน สบตากันเป็นครั้งสุดท้าย เพื่อจะจดจำกันและกันเอาไว้ ก่อนจะต้องจากกันชั่วนิรันดร์...
เพียงห้าวินาทีหลังจากนั้น ร่างของชิยูมิและบุตรชายแห่งเทพอัคคีก็หายลับลงไปทางช่องว่างระหว่างมิตินั้น...
อาซาโอะหันเหความสนใจกลับไปที่นอกหน้าต่างอีกครั้ง บัดนี้...ศัตรูอันดับหนึ่งของเขามายืนอยู่ข้างหน้าต่างเรียบร้อยแล้ว...
“ไง...ยูคิมุระซามะ (**ซามะ...แปลว่าท่าน ใช้กับการยกย่องคนคนหนึ่ง)...สบายดีรึเปล่า?”
“ข้าคงไม่สบายเท่าไหร่นัก แต่คนที่จะไม่สบายมากไปกว่าข้าก็คือ...”
“...?”
“เจ้านั่นแหละ อิชิโอกะ โซเซกิ!!~” จบคำ อาซาโอะก็โหนทะยานออกไปนอกหน้าต่างทันที อิชิโอกะหัวเราะเบาๆ ในลำคอก่อนจะพุ่งตามลงไปยังสมรภูมิแห่งไฟด้านล่าง และนั่น...คือจุดเริ่มต้นแห่งสงครามที่ไม่มีวันสิ้นสุด...
สงครามที่ตัดสินความเป็นอยู่ระหว่างฝ่ายเทพเจ้าแห่งสวรรค์ และฝ่ายซาตานแห่งนรก...
=======================================================
To Be Continue
ขอขอบคุณทุกคนที่เข้ามาอ่านนิยายแฟนตาซีโรแมนติกเรื่องนี้กันนะคะ ^^ หวังว่าคงจะสนุกค่ะ ยังไงก็จะพยายามมาอัพให้เร็วที่สุดค่ะ ช่วยเป็นกำลังใจให้เทพธิดาแห่งสายลมด้วยนะคะ ^O^
ขอบคุณจากใจจริงอีกครั้งค่ะ
Angel Of WindS
สวัสดีค่ะ ก่อนอื่นก็จะขอขอบคุณที่กรุณาคลิกเข้ามาอ่านนิยายเรื่องนี้นะคะ ขอขอบพระคุณทุกคนจริงๆ ค่ะ
และก็ขอแนะนำแนวของเรื่องนี้ก่อนนะคะ จะเป็นนิยายแฟนตาซีค่ะ มีเรื่องราวโรแมนติก ออกดราม่านิดๆ ด้วย จะมีเรื่องราวของความรัก และการต่อสู้กันเข้ามามิกซ์ๆ กันค่ะ เพราะส่วนตัวชอบทั้งนิยายแฟนตาซีและนิยายรักโรแมนติก เลยตัดสินใจลองเขียนมันทั้งสองแนวในเรื่องเดียวกัน คิดว่าคงจะชอบกันนะคะ ^_^
เรื่องนี้ได้รับแรงบันดาลใจมาจากเรื่อง \"Shaman King ราชันย์แห่งภูต...ของสนพ. Siam Inter Comics\" ค่ะ ถ้าใครที่เคยอ่านแล้วคิดว่าเรื่องมันออกคล้ายๆ กันก็ขออภัยนะคะ เพราะว่าชอบเรื่องนี้มากๆๆๆ เลยค่ะ
เชิญทุกท่านอ่านได้เลยค่ะ ขอความกรุณาช่วยแนะนำติชมด้วยนะคะ ประสบการณ์ยังน้อย แต่รักที่จะเขียนค่ะ ^^
=======================================================
1
The Beginning Of The Never Ending War
ท่ามกลางเปลวเพลิงอันร้อนระอุ และจิตสังหารอันแรงกล้าของมือสังหารผู้ยิ่งใหญ่...ศัตรูผู้เป็นภัยร้ายแรงต่อสวรรค์และโลกมนุษย์...นั้น ปรากฏร่างของชายผู้หนึ่ง เขานั้นมีเลือดโทรมกาย นอกจากนี้ ยังมีไฟประลัยกัลป์ร้อนแรงวนเวียนอยู่รอบกายเขา แววตาอันอ่อนล้าแต่เต็มเปี่ยมไปด้วยจิตวิญญาณบริสุทธิ์และกล้าแกร่งจับจ้องไปที่จุดๆ หนึ่งอย่างใจจดใจจ่อ
ลมมากมายก่อตัวเป็นพายุขนาดมหึมา จิตสังหารมากมายนั้นแผ่ขยายออกมาจากจุดศูนย์กลางของพายุนั้น แต่ทว่า...สิ่งที่ชายผู้เป็นผู้ควบคุมเปลวเพลิงนั้นจับจ้องอยู่กลับไม่ใช่พายุนั้น...แต่เป็นสิ่งที่อยู่ภายในนั้นต่างหาก...
ผู้ควบคุมพลังอันมหาศาลที่อาจทำลายล้างโลกทั้งโลกได้อย่างง่ายดาย...
อิชิโอกะ โซเซกิ...หรือลูซิเฟอร์ บุตรแห่งนรกผู้รับบัญชาจากนรก...
เปลวเพลิงที่ลอยวนเวียนอยู่รอบตัวชายผู้มีเลือดโทรมกายนั้นขยับไหวเล็กน้อย หลังจากนั้นเพียงไม่นาน เขาก็ใช้แรงเฮือกสุดท้ายยันตัวเองลุกขึ้นยืนอีกครั้ง หลังจากล้มลงไปกว่าร้อยครั้ง
แววตาแรงกล้านั้นจ้องทะลุผนังของพายุแห่งจิตสังหารนั้นเข้าไปถึงดวงตาเย็นเยียบของอิชิโอกะได้อย่างไม่ยากเย็น พลังที่แผ่ออกจากตัวเขานั้นอ่อนแรงเต็มทน ศัตรูที่เก่งกล้าอย่างอิชิโอกะนั้นเกินพละกำลังของเขา หากเทพผู้คุ้มครองอาณาจักรเออร์ริแกรนด์ทั้งห้าอย่างเทพสายฟ้า เทพวารี เทพวายุ เทพธรณี และเทพอัคคีมิได้มาอยู่ด้วยกัน...เทพอัคคีผู้ควบคุมพลังแห่งไฟอย่างเขาก็ไม่สามารถต้านทานพลังอันไร้เทียมทานของอิชิโอกะได้...
ร่างที่ซ่อนอยู่ในพายุนั้นแสยะรอยยิ้มเยือกเย็นออกมาเมื่อมองเห็นแววตาแค้นเคืองของศัตรูของเขา...
ฉันพลันนั้นเอง...เปลวไฟก็พวยพุ่งออกจากฝ่ามือของเทพอัคคี ไฟนั้นวิ่งตรงไปพุ่งชนเข้ากับพายุนั้นเข้าอย่างจัง แต่ทว่า...ไฟนั้นกลับรีเฟลกซ์ออกมา ไม่สามารถทะลุผ่านกำแพงพายุร้ายนั้นได้ ส่งผลให้พลังนั้นกลับเข้ากระแทกตัวเจ้าของเอง...
เทพแห่งอัคคีล้มลงอีกครั้ง...
แต่คราวนี้ เขาจะไม่มีวันยอมล้มลงอีกแล้ว...
แม้จะรู้ว่าพลังที่เหลืออยู่มิอาจล้มศัตรูผู้ยิ่งใหญ่เช่นอิชิโอกะได้ แต่ในฐานะเทพอัคคีอย่างเขา...ไม่มีวันจะยอมแพ้คนใจทรามต่ำช้าเช่นอิชิโอกะได้
Holy Sword...ดาบศักดิ์สิทธิ์แห่งอาณาจักรเออร์ริแกรนด์ ถูกชักออกจากฝักเป็นครั้งแรกในรอบสองศตวรรษ นับจากสงครามครั้งสุดท้ายระหว่างอิชิโอกะและอาณาจักรเออร์ริแกรนด์...
แสงสว่างจากโฮลี่สวอร์ดสว่างวาบไปทั่วอาณาบริเวณ แต่ผลที่ส่งไปถึงอิชิโอกะผู้ซ่อนอยู่ภายในวังวนของพายุยิ่งใหญ่นั้นกลับทำได้เพียงแค่รอยยิ้มบางๆ เท่านั้น...
พลังฮึดสุดท้ายจากเทพอัคคีถูกส่งต่อไปยังโฮลี่สวอร์ดในมือของเขา แสงไฟเรืองวาบเป็นสีแดงออกมาจากด้ามดาบส่องประกายทันที พลังอันมหาศาลของเทพอัคคีถูกถ่ายทอดไปยังโฮลี่สวอร์ดจนหมดสิ้น
จากนี้คือการวัดผลครั้งสุดท้าย...ความเป็นความตายของอาณาจักรเออร์ริแกรนด์ขึ้นอยู่กับเขา ผู้เป็นเทพที่ปกปักษ์รักษาคุ้มครองอาณาจักรเพียงองค์เดียวที่เหลืออยู่...
เกิดเสียงกัมปนาทขึ้นทันทีที่เกิดการปะทะกันระหว่างพายุสังหารของศัตรูผู้ยิ่งใหญ่...อิชิโอกะ กับโฮลี่สวอร์ดออฟไฟร์ของเทพอัคคีผู้เก่งกล้าแห่งอาณาจักรเออร์ริแกรนด์...
ชั่วขณะหนึ่ง...เวลาได้หยุดลงกะทันหัน ทุกสรรพสิ่งบนโลกได้หยุดลง...
ร่างของใครคนหนึ่งแตกสลายออกจากกัน โฮลี่สวอร์ดกระเด็นไปอยู่มุมหนึ่งใกล้ๆ นั้น ร่างนั้นก็คือ...
ร่างของเทพอัคคี...
อิชิโอกะที่ขณะนี้ลงจากพายุสังหารมายืนมองดูผลงานชิ้นเอกของตนอยู่ แสยะยิ้มเหี้ยมเกรียมพึงพอใจออกมาทันทีที่ได้เห็น ศัตรูตัวร้ายมองไปยังทิศที่โฮลี่สวอร์ดกระเด็นไปโดยที่รอยยิ้มยังคงไม่หายไป
“ไปกันเถอะ...มิกิวาจิ...” อิชิโอกะหันไปพูดกับลูกน้องคนสนิทของเขาที่ยืนอยู่ใกล้ๆ กันนั้น และเริ่มออกเดินไปพร้อมกัน...
เทพผู้คุ้มครองอาณาจักรเออร์ริแกรนด์ทั้งห้าได้จากไปแล้ว บัดนี้...ไม่มีสิ่งใดจะคอยคุ้มครองอาณาจักรนี้อีกต่อไป มีเพียงแต่ประมุขแห่งอาณาจักรเออร์ริแกรนด์เท่านั้น...
ยูคิมุระ อาซาโอะ...
เขา...เพียงคนเดียวเท่านั้น...
=====================================================
“มัน...มันมาแล้วครับ” เสียงละล่ำละลักของขุนนางชั้นสูงคนสนิทของยูคิมุระ อาซาโอะดังขึ้นหน้าประตูไม้ไผ่บานเลื่อนซึ่งเป็นกำแพงบางๆ กั้นระหว่างตัวเขากับบุคคลผู้ยิ่งใหญ่ที่สุดรองจากเทพทั้งห้าแห่งอาณาจักร...
เขาคือยูคิมุระ อาซาโอะ...ผู้ปกครองอาณาจักรทั้งมวล
“ท่านไฟร์เออร์...แพ้...แล้วหรือ...?” เสียงหนึ่งดังมาจากหลังประตูนั้น
“คะ....คะ...ครับ”
“ใจเย็นๆ สิมิโซเนะ...อิชิโอกะ...จะต้องตายในวันนี้...” เสียงนั้นดังตอบกลับมา และทันใดนั้น ประตูบานเลื่อนก็เปิดออก...
เผยให้เห็นบุคคลที่มีอำนาจและกำลังทัดเทียมกับเทพเจ้าแห่งสวรรค์...ยูคิมุระ อาซาโอะ...
ใบหน้าอ่อนเยาว์หล่อเหลาขัดกับอายุ ผมสีดำสนิท ดวงตาเรียบเย็นสีดำบ่งบอกถึงความหนักแน่นอันเป็นนิสัยประจำของเขา และสุดท้าย...
เดอะการ์เดียนโฮลี่อินเซนต์สวอร์ด ดาบแห่งอนาคต...ที่อยู่ในมือของเขา...
อาซาโอะมองผ่านกรอบหน้าต่างที่อยู่ตรงหน้าไป ร่างสูงสง่างามของศัตรูผู้ยิ่งใหญ่อย่างอิชิโอกะปรากฏอยู่ตรงหน้าเขา และดูเหมือนอิชิโอกะจะรู้ตัวว่าถูกจ้อง...เขาเงยหน้าขึ้นสบตากับผู้นำที่ยิ่งใหญ่ของเออร์ริแกรนด์...
รอยยิ้มเยือกเย็นแต่ว่างเปล่าเย็นชาน่าหวาดหวั่นปรากฏขึ้นบนใบหน้าของเขาอีกครั้ง
อาซาโอะละสายตาจากภาพที่อยู่นอกหน้าต่างนั้นไปทางซ้าย และอีกคนหนึ่งที่ปรากฏอยู่ตรงหน้าเขาก็คือหญิงสาวในชุดกิโมโนลายดอกซากุระสีชมพูที่แม้จะสวยงามแต่กลับดูเศร้าสร้อย...
หญิงสาวผู้มีผมสีน้ำตาลแดง ดวงตาสีเงินแหลมคมดุจเหยี่ยว ลำคอยาวระหงส์ ผิวขาวเนียนราวปุยนุ่น ใบหน้าที่เย็นชาราวน้ำแข็งแต่สวยงามหาที่ใดเปรียบ ข้อมือของเธอผูกเชือกสีแดงสดเหมือนเปลวไฟที่กำลังลามเลียอยู่ภายนอกบริเวณปราสาทนั้น...และสิ่งที่มัดเชือกเอาไว้คือหินสีแดงที่ภายในมีกลุ่มควันหมุนเวียนอยู่...กลุ่มควันที่มีพลังทำลายล้างระดับสูง...
เธอคือพรินเซสออฟไฟร์ ภรรยาของเทพอัคคี...
“ชิยูมิ...”
“ถึงเวลาแล้วสินะ...อาซาโอะ...”
“ใช่...เวลาที่จะเริ่มสงครามที่ไม่มีวันสิ้นสุด...”
“...”
“รักษา...ตัวด้วย...อย่าให้โคโทฮารุเป็นอันตราย...และ...”
“...”
“โฮลี่สโตนออฟไฟร์...เก็บรักษาเอาไว้...แทนเออร์ริแกรนด์ด้วย มีแต่เธอเท่านั้นที่เหมาะสมจะเป็นผู้รักษามันไว้ได้ดีที่สุด...”
“อาซาโอะ...”
“ข้าขอโทษที่ปกป้องเจ้ากับลูกของเจ้าไว้ไม่ได้...ทำไม่ได้ตามที่ท่านเทพอัคคีฝากฝังไว้...ภรรยาและบุตรแห่งเทพอัคคีอย่างพวกเธอเลยต้องระหกระเหินไปแดนไกลเช่นนี้...ชิยูมิ...หากเจ้าอยู่ที่นี่ต่อไปจะเป็นอันตราย อิชิโอกะไม่ปล่อยโคโทฮารุไว้แน่...เพราะฉะนั้น...” อาซาโอะไม่สามารถพูดต่อไปได้ เขายกมือขึ้นปิดหน้า...
“ข้าจะรักษาไว้เท่าชีวิต...อาซาโอะ...” เสียงที่เคยเรียบเฉยบัดนี้กลับสั่นเครือ พร้อมกันนั้นเองที่หยาดน้ำใสๆ ไหลหยดออกจากดวงตาสีเงินแหลมคมคู่สวยแต่แฝงความโศกเศร้าเอาไว้ภายใน ร่างเล็กบางแต่สวยงามของเธอสั่นไหวเล็กน้อย
อาซาโอะมองภาพหญิงสาวผู้ร่ำไห้ตรงหน้าด้วยหัวใจที่เจ็บปวด เขาค่อยๆ ก้าวเข้าไปหาเธออย่างช้าๆ ก่อนจะกระชากของสิ่งหนึ่งออกมาจากคอของตัวเอง...
“นี่คือ...ของที่ท่านเทพอัคคีฝากไว้...วันไหนที่โคโทฮารุโตขึ้น...ให้เค้าเก็บรักษามันเอาไว้...แทนพ่อของเค้าด้วยนะ...” สิ่งที่อาซาโอะยื่นให้คือสร้อยคอที่ห้อยหินสีแดงแบบเดียวกับที่ผูกข้อคือชิยูมิเอาไว้ หินสีแดงนั้นส่องประกายแวววาวออกมาราวกับจะสำแดงให้เห็นถึงฤทธิ์เดชของผู้ที่เคยเป็นเจ้าของมันมาก่อน เจ้าของที่บัดนี้กลายเป็นผู้วายชนม์...
“อืม...ข้าสัญญา...” ชิยูมิรับมาด้วยมืออันสั่นเทา
“ดูแลรักษาตัวเองด้วย...จากนี้...อาจเป็นการจากกันชั่วชีวิต ดังนั้น...”
“...” ทั้งสองคนต่างเงียบกันไปนานสองนานด้วยความรู้สึกอย่างเดียวกันที่ท่วมท้นขึ้นในหัวใจ เสียงดังมากมายจากการถูกทำลายของของหลายสิ่งดังมาอย่างต่อเนื่อง ความร้อนระอุจากเปลวไฟอันเป็นผลพวงมาจากการต่อสู้ระหว่างเทพอัคคีกับศัตรูผู้ยิ่งใหญ่ของเออร์ริแกรนด์ก็ยังทำให้ทั้งสองคนรู้สึกได้อย่างชัดเจน...
หากความพ่ายแพ้มาอยู่ฝ่ายของอาซาโอะ...นั่นคือบทสุดท้ายของเออร์ริแกรนด์ คือการจบสิ้นของอาณาจักรอย่างถาวร...
“ขอให้เทพเจ้าแห่งชัยชนะจงอยู่ฝ่ายเรา...อาซาโอะ...หากเป็นสิ่งที่ฟ้าลิขิต เราคงได้พบกันอีกครั้ง...จากวันนี้...ข้ากับโคโทฮารุขอลาไปก่อน...”
“ลาก่อน...ชิยูมิ...” สิ้นเสียงของอาซาโอะ ร่างของชิยูมิก็ค่อยๆ เลือนหายไปเช่นเดียวกับร่างของเด็กชายวัยหกขวบผู้ซึ่งเป็นทายาทเพียงผู้เดียวของเทพแห่งไฟ ซึ่งนอนหลับอยู่ในเตียงข้างๆ ร่างของชิยูมิ หลังจากนั้นเพียงสองวินาที...ช่องว่างระหว่างมิติก็เปิดออก...
ทางเชื่อมระหว่างภพที่สองกับโลกมนุษย์อันเป็นภพที่สามได้เปิดออกแล้ว...
ชิยูมิและอาซาโอะ...เพื่อนรักเพื่อนสนิทของกันและกัน สบตากันเป็นครั้งสุดท้าย เพื่อจะจดจำกันและกันเอาไว้ ก่อนจะต้องจากกันชั่วนิรันดร์...
เพียงห้าวินาทีหลังจากนั้น ร่างของชิยูมิและบุตรชายแห่งเทพอัคคีก็หายลับลงไปทางช่องว่างระหว่างมิตินั้น...
อาซาโอะหันเหความสนใจกลับไปที่นอกหน้าต่างอีกครั้ง บัดนี้...ศัตรูอันดับหนึ่งของเขามายืนอยู่ข้างหน้าต่างเรียบร้อยแล้ว...
“ไง...ยูคิมุระซามะ (**ซามะ...แปลว่าท่าน ใช้กับการยกย่องคนคนหนึ่ง)...สบายดีรึเปล่า?”
“ข้าคงไม่สบายเท่าไหร่นัก แต่คนที่จะไม่สบายมากไปกว่าข้าก็คือ...”
“...?”
“เจ้านั่นแหละ อิชิโอกะ โซเซกิ!!~” จบคำ อาซาโอะก็โหนทะยานออกไปนอกหน้าต่างทันที อิชิโอกะหัวเราะเบาๆ ในลำคอก่อนจะพุ่งตามลงไปยังสมรภูมิแห่งไฟด้านล่าง และนั่น...คือจุดเริ่มต้นแห่งสงครามที่ไม่มีวันสิ้นสุด...
สงครามที่ตัดสินความเป็นอยู่ระหว่างฝ่ายเทพเจ้าแห่งสวรรค์ และฝ่ายซาตานแห่งนรก...
=======================================================
To Be Continue
ขอขอบคุณทุกคนที่เข้ามาอ่านนิยายแฟนตาซีโรแมนติกเรื่องนี้กันนะคะ ^^ หวังว่าคงจะสนุกค่ะ ยังไงก็จะพยายามมาอัพให้เร็วที่สุดค่ะ ช่วยเป็นกำลังใจให้เทพธิดาแห่งสายลมด้วยนะคะ ^O^
ขอบคุณจากใจจริงอีกครั้งค่ะ
Angel Of WindS
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น