ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    หรือ...ฟ้าส่งรัก

    ลำดับตอนที่ #1 : แรกพบ

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 25
      0
      7 พ.ย. 46

    ประตูบานหนึ่งถูกเปิดแง้มออกมาเบาๆ ชายหนุ่มในชุดเสื้อยืดสีดำกับกางเกงยีนส์  สวมหวกแก๊ปและแว่นตาดำเยี่ยมหน้าโผล่ออกมา  หันซ้าย  หันขวา เพื่อสำรวจระเบียงทางเดินหน้าประตูบานนั้นด้วยความระแวดระวัง  เมื่อเห็นว่าปลอดคนเขาก็รีบผลุนผลันออกมา ก้าวเดินฉับๆสาวเท้าให้ยาวที่สุดเพื่อหวังพาตัวเองให้พ้นจากบริเวณนี้เร็วที่สุด  แต่แล้วชายหนุ่มก็หยุดชะงักทันที  เขาจับบัตรแขวนคอที่มีอักษรภาษาอังกฤษเขียนว่า  ‘STAFF’ ให้หันออกนอกตัวพร้อมกับดึงปีกหมวกให้ลงมาปิดใบหน้ามากขึ้นเมื่อเห็นชายสองคนในชุดเสื้อยืดสีดำแแบเดียวกับเขา



    “มาทำอะไรแถวนี้” หนึ่งในนั้นตะโกนถามชายหนุ่ม “ที่ห้องส่งเค้าวุ่นกันใหญ่แล้วรู้ไหม?  รีบเข้าไปหน่อยนะ”เขาสั่ง

    “ครับๆ” ชายหนุ่มรับคำด้วยเสียงทุ้มต่ำ ในขณะที่เบี่ยงตัวหลบให้ชายสองคนนั้นผ่านไปเขาได้ยินชายอีกคนบ่นด้วยอาการหัวเสีย…

    “แม่ง ยุ่งฉิบเป๋งพวกดาราดังๆเนี่ยะ”

    ชายหนุ่มสะดุ้งน้อยๆแต่เมื่อชายทั้งสองคนผ่านไปแล้ว  เขาก็หันหน้าเดินไปตามทางที่มีป้ายติดเอาไว้ว่า ‘ ทางหนีไฟ ’ ดูเหมือนเขาจะไม่สนใจกลับไปที่ห้องส่งตามที่ได้ถูกกำชับ  แต่กลับเดินตรงไปเรื่อยๆสู่ประตูทางหนีไฟด้วยความระมัดระวังและต้องหยุดชะงักทุกครั้งที่เห็นกลุ่มคนที่ทำหน้าตาตื่น  เดินไปเดินมากันให้ขวักไขว่  เสียงคนพวกนั้นบ่นกันให้แซ่ดว่าตอนนี้  อาร์ต  วัชระ   สัตยากร  ดารานักร้องหนุ่มชื่อดังของเมืองไทย ได้หายไปจากห้องแต่งตัวเมื่อประมาณ  15  นาทีที่แล้ว   ดังนั้นทุกคนในสตูดิโอจึงวิ่งวุ่นตามหาตัวเขากันให้ทั่วไปหมด



    ชายหนุ่มสวมแว่นดำคนนี้รับรู้ปัญหาที่เกิดขึ้นดี  ชนิดที่เรียกว่า ‘รู้ดีที่สุด’ เลยด้วย  แต่เขาไม่มีทางจะวิ่งวุ่นเพื่อตามหาตัวดารานักร้องหนุ่มคนดังคนนั้นหรอก….  

    ฮึ!  ก็แล้วมันเรื่องอะไรด้วยเล่าที่เขาจะต้องช่วยคนพวกนั้นตามหาตัวเอง!



    บันไดหนีไฟที่วัชระใช้เป็นเส้นทางหลบหนีได้นำเขาออกมาสู่ด้านหลังของตัวอาคาร  ชายหนุ่มจัดการถอดบัตรแขวนคอที่ฉวยมาจากห้องแต่งตัวออก  แล้วหย่อนมันทิ้งไว้ข้างๆประตูทางออกนั่นเอง  จากนั้นเขาเดินลัดเข้าไปในตรอกเล็กข้างๆตึกนั้นด้วยอารมณ์ที่เบิกบาน



    “จะไปไหนหรือคะ คุณอาร์ต วัชระ?”  น้ำเสียงเล็กๆแต่มีแววหวานและกังวานใสเอ่ยถามขึ้นมา

      

    วัชระสะดุ้งจนสุดตัว  หัวใจตกวูบไปกองอยู่ที่ตาตุ่ม………เฮ่ย! อุตส่าห์หาทางหลบออกมาตั้งนาน มาถูกจับได้เสียแล้ว!



    ชายหนุ่มค่อยหันกลับมา  กะไว้ว่าคงจะพบบรรดาสตาฟที่กำลังดาหน้าเข้ามาหาเขาสักเจ็ดหรือแปดคน  

    แต่นั่นมันผิด…เขาเห็นแค่สาวน้อยคนหนึ่ง  ยืนพิงกำแพงตึกและกำลังส่งยิ้มหวานมาให้



    หล่อนคงไม่ใช่สตาฟเพราะไม่ได้สวมเสื้อฟร์อมสีดำแบบเดียวกับเขา   วัชระใจชื้นขึ้น  สาวน้อยคนนี้อาจจะเป็นหนึ่งในบรรดาแฟนคลับของเขาที่บังเอิญผ่านมาเห็นตอนนี้พอดี  คงไม่อยากนักหรอกหากจะหาทางหลบเจ้าหล่อนไป  เรื่องหลบหลีกน่ะวัชระชำนาญอยู่แล้ว

    “จะไปไหนหรือคะ?” สาวน้อยถามซ้ำ

    วัชระรีบยกนิ้วชี้ขึ้นแตะริมฝีปาก “จุ๊ๆ! เบาๆนะครับน้อง อย่าเสียงดัง”

    “ทำไมล่ะคะ?”

    “เดี๋ยวคนอื่นเขาจะแห่กันมานะสิครับ”

    “ถ้าคนอื่นแห่มาแล้วจะเป็นยังไงเหรอคะ?” หล่อนยังคงสงสัยต่อไป

    “เอ่อ..” วัชระอ้ำอึ้ง

    “ถ้าคนแห่มาเยอะๆคุณจะหนีไปไม่ได้ใช่ไหมล่ะ?”

    “เอ่อ..ก็ใช่”

    สาวน้อยหัวเราะเสียงกังวาน  วัชระปรี่เข้ามาห้ามด้วยความตกใจ

    “ได้โปรดเถอะครับน้อง  ช่วยพี่หน่อย แล้วพี่จะตอบแทนอย่างดีเลยนะ”

    “ด้วยอะไรคะ?”

    “ก็..รูปถ่ายพร้อมลายเซ็น บัตรคอนเสิร์ตหรือดินเนอร์มื้อพิเศษกับพี่”

    วัชระบอกข้อเสนอทั้งหมดที่คิดว่าคนเป็นแฟนคลับของเขาคงอยากจะได้

    “ฉันไม่อยากได้อะไรพวกนั้นหรอก”  

    ชายหนุ่มมองสาวน้อยตรงหน้างงๆ เขาอาจจะคิดผิด  เจ้าหล่อนคงไม่ใช่แฟนคลับของเขา

    “ฉันต้องการแค่ช่วยเหลือคุณ”

    “โอเคครับ งั้นน้องช่วยได้แน่ แค่เงียบๆไว้แล้วก็ลืมว่าเคยเจอพี่ตรงนี้ ตกลงไหมครับ?”

    สาวน้อยยิ้มหวาน  วัชระเลยเหมาเอาว่านั่นคือคำตอบตกลง

    “ขอบคุณครับ” เขาบอกพร้อมกับหันหลังให้สาวน้อย  เดินเร็วๆออกมาโดยไม่เหลียวหลังไปมองเจ้าหล่อนอีก  ชายหนุ่มยิ้มเบิกบานด้วยหัวใจลิงโลด  ทุกอย่างง่ายดายกว่าที่เขาคิด  เพราะสวรรค์เห็นใจเขาล่ะมั้ง….



    “คุณคิดว่าคุณจะไปรอดเหรอคุณอาร์ต?”  เสียงหวานๆแบบเดิมถามดังมาจากข้างๆตัวเขา  วัชระหันควับไปมองชนิดคอแทบเคล็ด  แม่สาวน้อยคนนั้นกำลังเดินเคียงข้างเขาอยู่   เจ้าหล่อนทำได้อย่างไร   ตัวเล็กกว่าเขา  ขาก็สั้นกว่าเขา  ทำไมเดินเร็วอย่างเหลือเชื่อ  แล้วเดินอย่างไรถึงขึ้นมาอยู่ข้างๆเขาโดยที่เขาก็ไม่รู้สึกตัว



    “คุณเป็นคนดังนะ  ฉันว่าพ้นตรอกนี้ไปก็มีคนจำคุณได้แล้ว”

    “ผมปลอมตัวแล้ว ขอบคุณนะ” วัชระบอก เขาเปลี่ยนสรรพนามจาก พี่ เป็นผมเมื่อแน่ใจว่าหล่อนไม่ใช่แฟนคลับของเขาแน่ๆ

    “แค่หมวกกับแว่นดำ นั่นใช้ไม่ได้หรอก ขนาดฉันยังจำคุณได้”

    “ผมไม่คิดอย่างนั้นหรอก”  เขาค้าน  ทีพวกสทาฟในสตูดิโอเขายังตบตามาได้

    “ฉันช่วยคุณได้นะ”  สาวน้อยเสนอตัว

    “ขอบคุณ  แต่ช่วยผมแค่ที่ผมบอกก็พอ” วัชระสาวเท้าให้ยาวขึ้นและถี่ขึ้นเพื่อทิ้งระยะห่างจากเจ้าหล่อนอีกเพราะเริ่มรู้สึกว่าสาวน้อยคนนี้ออกจะประหลาดๆอยู่

    “ก็ได้ ฉันจะให้คุณลองดู”  สาวน้อยบอก มองตามวัชระด้วยแววตานึกสนุก



    วัชระเดินดุ่มๆไม่เหลียวหลัง  อีกนิดเดียวเขาก็จะพ้นตรอกนี้แล้ว  และเขาก็จะต้องเดินไปได้โดยไม่มีใครสงสัยด้วย!!

    “กรี๊ดๆๆๆๆ!!!! “  เสียงวี๊ดว้ายกระตู้ฮู้ชนิดแสบแก้วหูดังขึ้นทันทีที่วัชระก้าวพ้นตรอกนั้นมาแค่เพียงสองก้าว

    “นั่น.. พี่อาร์ต  วัชระ!!!!!  ”  ชายหนุ่มสะดุ้งเฮือกสุดตัวเมื่อเห็นวัยรุ่นสาวนับสิบๆคนวิ่งกรี๊ดมาทางเขาด้วยสีหน้าดีใจสุดขีด!!

    “เหว๋อ!!” วัชระหันหลังวิ่งหนีกลับมาแทบไม่ทัน  เขาลนลานกลับเข้าไปในตรอกนั่น  แล้วก็พบสาวน้อยคนนั้นยืนหัวเราะคิกคักอยู่

    “เห็นไหม  ฉันบอกแล้ว”

    ชายหนุ่มหอบแฮ่ก  ไม่ได้เหนื่อยเพราะวิ่งเลย เหนื่อยเพราะตกใจมากกว่า  เขาถอดแว่นออก ใช้ลำแขนเช็ดเหงื่อตามใบหน้า พร้อมกับหันไปมองที่ปากตรอกอย่างหวาดๆ  น่าแปลกมาก..สาวๆพวกนั้นไม่ได้ตามเข้ามา  หายกันไปหมดเลย

    “โอเค  ไหนเมื่อกี้คุณบอกว่าช่วยผมได้ ทีนี้เป็นอย่างงี้จะช่วยยังไง?”

    “ไม่เห็นยาก”  เจ้าหล่อนพูดในขณะที่เดินมาหาวัชระ  ยกมือเรียวบางขึ้นมาตรงหน้าเขาแล้วดีดนิ้ว…ดังเป๊าะ

    “หืม?” วัชระผงะเล็กน้อย งงๆกับสิ่งที่แม่สาวน้อยทำ

    “นี่นะเหรอที่บอกว่าช่วยผมได้?”  ชายหนุ่มถามอย่างหงุดหงิด

    “ใช่”

    “แค่ดีดนิ้วเนี่ยะนะ?”

    “ใช่แล้ว”  เจ้าหล่อนตอบอย่างมั่นใจ

    “โธ่เอ๊ย!” เขาอุทานออกมาพร้อมกับสีหน้าเจ็บปวด…  สู้อุตส่าห์หาทางหลบออกมาตั้งนานแต่ต้องมาเจอเรื่องเพี้ยนๆพรรค์นี้!

    “ทำเสียงแบบนี้แสดงว่าไม่เชื่อ?”

    วัชระหรี่ตามอง  โธ่แม่สาวน้อย! ถ้าใครเชื่อเธอก็ต้องบ้าไปแล้ว

    เหมือนสาวน้อยรู้ทันความคิดเขา  เจ้าหล่อนดึงมือเขา  ลากเขาเพื่อจะออกมาจากตรอกนั่น  วัชระขัดขืน  แต่สาวน้อยแรงเยอะอย่างไม่น่าเชื่อ  ชายหนุ่มจึงรีบใส่แว่นดำเข้าไปอย่างเดิม  วัชระนึกสลด  ในอีกไม่กี่นาทีข้างหน้านี้เขาคงต้องกลับไปนั่งอยู่หน้ากล้องในห้องส่งอย่างเลี่ยงไม่ได้อีกแล้ว  นี่แหล่ะ  การเป็นคนของประชาชน



    วัชระก้มหน้างุด  หวังเอาไว้ลึกๆว่าหากบรรดาสาวๆที่กรี๊ดเขาเมื่อกี้ไปกันหมดแล้ว  อาจจะมีคนน้อยคนลงที่จำเขาได้…

    แต่สาวๆพวกนั้นยังอยู่  ยืนออกันอยู่เต็มด้านหน้าของตึก  คงคิดว่าเมื่อเขาบันทึกเทปรายการเสร็จก็ต้องออกมาทางนั้น  ตอนนี้ยังไม่มีใครในพวกหล่อนสังเกตเห็นว่าเขาออกมาจากตรอกอีกครั้ง…  วัชระเหงื่อตกในขณะที่ถูกสาวน้อยดึงมือให้เดินออกมาเรื่อยๆ…

    สาวน้อยเหลือบมองวัชระ  หล่อนทำเสียงจิ๊จ๊ะเมื่อเห็นบางสิ่งที่ขัดตา  

    “จะใส่ทำไม  ถอดออก”  เจ้าหล่อนสั่ง พร้อมกับดึงหมวกออกไปจากหัวเขา

    “เฮ้ย!” วัชระอุทานเบาๆ  ไม่กล้าหือเพราะกลัวจะส่งเสียงดังจนทำให้แฟนคลับสาวๆนั้นหันมาเห็นเข้า

    สาวน้อยดึงเขาเดินเข้าไปใกล้กลุ่มแฟนคลับมากขึ้นๆ   ในอีกไม่กี่วินาทีก็คงจะถูกเห็นแล้ว  ชายหนุ่มใจเต้นโครมคราม… เขาหลับตาปี๋…กำลังจะผ่านแล้ว…เดี๋ยวต้องถูกเห็นแน่ๆ!..แย่แล้ว!!





    วัชระค่อยๆลืมตาขึ้นเมื่อเขารู้สึกได้ว่าสาวน้อยหยุดเดิน

    “เฮ้ย!” เขาอุทานอย่างตกใจเพราะเจ้าหล่อนดันพาเขาไปหยุดอยู่ระหว่างกลุ่มแฟนคลับสาวๆพอดี  

    แย่แน่แล้ว!!!!!!!    วัชระบอกตัวเอง



    แต่……ทุกอย่างสงบอย่างผิดปรกติ   สาวๆไม่ได้หันมากรี๊ดใส่  ไม่ได้รุมล้อมขอลายเซ็น  ไม่ได้กระชากยื้อยุดฉุดแขนจับมือหรือตวัดหน้าเขาไปหอม  ไม่มีอะไรเกิดขึ้นกับวัชระเลย

    “นี่ๆ”  สาวน้อยสะกิดเด็กสาวคนหนึ่งในบรรดาแฟนๆของวัชระที่ยืนออกันอยู่

    “ทำอะไรกันเหรอ?”  เจ้าหล่อนถาม

    “ก็รอดูพี่อาร์ตไง”

    “พี่อาร์ต?”

    “ก็พี่อาร์ต วัชระ ไง ไม่รู้จักเหรอ ไปอยู่ที่ไหนมาอ่ะ เชยจัง”

    “แล้วทำไมต้องรออย่างนี้ด้วยล่ะ?”

    “ก็พี่อาร์ตเขามาบันทึกรายการที่นี่ เสร็จแล้วเดี๋ยวก็คงออกมาทางนี้  จะรอขอลายเซ็น เราน่ะปลื้มพี่เค้าสุดใจขาดดิ้นเลย”

    “อ่อ..เหรอ?..เออ แล้วเมื่อกี้กรี๊ดอะไรกันล่ะ?”  สาวน้อยถาม

    “ก็เมื่อกี้อ่ะ มีใครก็ไม่รู้สิ ตะโกนออกมาว่าเห็นพี่อาร์ต แตาพอวิ่งไปดูก็หายไปและ สงสัยจะเห็นคนที่คล้ายๆกันมั้ง”

    “อ้อ!”  สาวน้อยพยักหน้าเข้าใจ  แล้วก็หันกลับมายิ้มเผล่ให้วัชระ  



    วัชระถึงกับเอ๋อ  งง  ทำอะไรไม่ถูกเลย….ประหลาด..แปลกประหลาดที่สุด  ทั้งๆที่เขาก็ยืนอยู่ตรงนั้น  แต่เด็กสาวนั่นกลับทำเหมือนไม่มีเขาอยู่!

    สาวน้อยดึงแว่นตาดำของวัชระออก  เขาไม่ได้ขัดขืนเลยเพราะยังยืนแข็งแบบทำอะไรไม่ถูกอยู่

    “ไงล่ะ ก็ฉันบอกแล้วว่าช่วยได้”  

    แล้ววัชระก็ถูกสาวน้อยดึงให้เดินห่างออกมา  เขาเดินตามมา อ้าปากค้าง ตัวยังแข็งทื่อเหมือนกับหุ่นยนต์

    เจ้าหล่อนหัวเราะเสียงกังวานใส  “ช็อคไปเลยหรือไงคะท่าน  คงไม่ได้หัวใจวายตายไปแล้วหรอกนะ”

    “คุณทำยังไงน่ะ?”  วัชระถามหลังจากใช้เวลาตั้งสติอยู่นาน  แต่สาวน้อยไม่ตอบ  เอาแต่หัวเราะ

    วัชระเลยจับตัวเจ้าหล่อนหมุนไปสามรอบ

    “คุณต้องมาจากรายการอะไรสักอย่างแน่ๆใช่ไหม?  บอกมานะ  คุณซ่อนกล้องไว้ตรงไหน?”  

    “โอ๊ย!  พอแล้ว  เวียนหัว!”

    “งั้นก็บอกมาสิว่าเอากล้องไว้ตรงไหน?”

    “ไม่มี  ฉันไม่ใช่โพรดิวเซอร์รายการแกล้งกันเล่นนะ”

    “ไม่เชื่อ  นั่นพวกหน้าม้าของคุณใช่ไหม?”

    “บ้าสิ! นั่นก็แฟนคลับของคุณแท้ๆไม่ใช่เหรอ  หรือถ้าคุณคิดว่าเป็นหน้าม้าจริงน่ะนะ  ก็รู้เอาไว้ด้วยว่าฉันไม่มีปัญญาจ้างหรอกตั้งร่วมร้อยคนอย่างนั้นน่ะ”

    “แล้ว..ถ้า..งั้น..คุณทำได้ยังไง?”

    “แล้วทำไมจะไม่ได้ล่ะ  ก็ในเมื่อฉันเป็นแม่มด”

    ------------------------------------------------------------



    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×