ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    The Edge of Deity

    ลำดับตอนที่ #1 : บทนำ

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 11
      0
      15 ธ.ค. 46

       ตอนที่1

    บทนำ






      เซคาลอส   ดาวเคราะห์ดวงใหม่ถือกำเนิดขึ้นจากธาตุพื้นฐานทั้งสิบสอง พร้อมด้วยเหล่าบริวารผู้รับใช้  อันได้แก่

         เลอโซเลย     ดวงอาทิตย์เพียงหนึ่งเดียว อันเป็นตัวแทนของเซคาลอส

         ลาลูแนร์     ดวงจันทร์สีทอง  อันเป็นตัวแทนของเหล่าเทพ

         รูจทารย์     ดวงจันทร์สีแดง  อันเป็นตัวแทนของสิ่งที่มีตัวตน

         โชนทริส     ดวงจันทร์สีฟ้า  อันเป็นตัวแทนของสิ่งที่ไร้ตัวตน



        ทุกสิ่งที่กำเนิดขึ้นมานั้นล้วนแล้วแต่ต้องการความสมดุลด้วยกันทั้งสิ้น  ดั้งนั้นดวงจันทร์ทั้งสามและดวงอาทิตย์ จึงกำเนิดขึ้นเพื่อความสมดุลของกันและกัน   ซึ่งเซคาลอสก็ต้องการความสมดุลนั้น  ด้วยเหตุนี้เหล่าเทพผู้ทรงอิทธิฤทธิ์จึงถือกำเนิดขึ้นมา เพื่อรับหน้าที่ควบคุมธาตุทั้งสิบสองอันเป็นศูนย์รวมพลังหรือจุดกำเนิดของเซคาลอสให้อยู่ในความสมดุล  และป้องกันไม่ให้เกิดความบิดผันจากการรวมตัวของธาตุต่างๆอันเป็นอันตรายแก่บรรดาสิ่งมีชีวิต ซึ่งอาจรุนแรงจนกระทั่งเซคาลอสต้องดับสูญก็เป็นได้



        เทพประจำธาตุทั้งสิบสององค์ต่างมีชีวิตและร่างกายที่เป็นอมตะ  สำหรับรูปลักษณ์ องค์ประกอบต่างๆและจิตใจนั้นล้วนขึ้นอยู่กับธาตุที่ได้ประจำอยู่  เนื่องด้วยเทพแต่ละองค์นั้นต่างถือกำเนิดจากธาตุที่ประจำอยู่อย่างบริสุทธิ์

               มหาเทพเรย์เซน     เทพประจำธาตุแสง ผู้ดำรงตำแหน่งเป็นหัวหน้าของเหล่าเทพซึ่งทำหน้าที่ประจำธาตุพื้นฐานของธาตุแสง  อันได้แก่

        เทพวารีนเน่    เทพประจำธาตุน้ำ      เทพฟาเซจ    เทพประจำธาตุลมเทพ      เทพโอไซริส    เทพประจำธาตุไฟ

    และ เทพริสดราซิส    เทพประจำธาตุสูญญากาศ

               มหาเทพดาร์คซายร์     เทพประจำธาตุความมืด ผู้ดำรงตำแหน่งเป็นหัวหน้าของเหล่าเทพซึ่งทำหน้าที่ประจำธาตุพื้นฐานของธาตุความมืด  อันได้แก่

        เทพเซลซิอุส    เทพประจำธาตุน้ำแข็ง      เทพเรอาร์ด    เทพประจำธาตุดิน      เทพโอริชิน    เทพประจำธาตุสายฟ้า

    และ เทพกราซินแคลร์    เทพประจำธาตุแรงดึงดูด

               เทพอาสก้า    เทพประจำธาตุดวงดาว    และเทพองค์สุดท้ายผู้ประจำธาตุกาลเวลา    เทพโครนอส



        เมื่อมีทั้งเหล่าเทพผู้คอยดูแลและสัตว์ป่าพืชพรรณธรรมชาติ อันเป็นองค์ประกอบโดยพื้นฐานจนครบถ้วน ขาดแต่เพียงผู้อยู่อาศัยเท่านั้น ดั้งนั้นเซคาลอสจึงทำการสร้างชีวิตใหม่ แบ่งได้ออกเป็นสี่เผ่าพันธุ์ อันได้แก่  มนุษย์ ปีศาจ ทูตสวรรค์และเอลฟ์



    เผ่ามนุษย์     ชนเผ่าซึ่งมีจำนวนประชากรมากมายมหาศาล ฉะนั้นจึงเป็นการยากหากต้องปกครองดูแลความเป็นอยู่ของคนทั่วทั้งเผ่า  ดังนั้นจึงทำการแต่งตั้งผู้ปกครองอย่างเด็ดขาด โดยยกให้ราชวงศ์  ซานโดร เทลฟาเรีย  ขึ้นเป็นราชาปกครองตน จนถือได้ว่าเป็นชนชั้นปกครอง ซึ่งรวมถึงเหล่าอัศวินและเหล่าขุนนางโดยทั่วไป



    มนุษย์นั้นมีความสามารถในการใช้เวทมนต์อันซึ่งเป็นธาตุพื้นฐานของธาตุความมืดมาโดยแต่กำเนิด  หากพัฒนาฝึกฝนให้ดีแล้ว การใช้เวทมนต์จากธาตุความมืด ดวงดาว  และกาลเวลา ซึ่งเป็นมนต์ระดับสูงนั้นก็ไม่ไกลเกินเอื้อมเลย  แต่กลับมีมนุษย์ที่สามารถใช้เวทมนต์ได้อยู่เพียงหยิบมือเท่านั้น บุคคลกลุ่มนี้จึงถูกเรียกกันว่า  จอมเวท    ต้นเหตุของปัญหาที่เกิดขึ้นอย่างแท้จริงนั้น เนื่องมาจาก ความไม่เข้าใจในศาสตร์อันละเอียดอ่อนของเวทมนต์ ประกอบกับจิตใจที่ไม่มั่นคง ความท้อถอยในการดึงพลังที่มีอยู่ และการฝึกฝนที่ย่อหย่อน  ด้วยเหตุผลนานานับประการเหล่านี้ จึงเป็นเหตุให้เหล่ามนุษย์จำนวนมากยอมละทิ้งในพลังเวทที่มีอยู่ แล้วหันมาฝึกปรือวิชาอาวุธ ในการต่อสู้ ด้วยเห็นว่ามีประโยชน์ในการดำรงชีพและเหมาะสมกับอุปนิสัยของชาวมนุษย์มากกว่า



    เผ่าปีศาจ     เนื่องด้วยจำนวนประชากรมากมายที่เป็นรองจากเผ่ามนุษย์ไม่มากนัก ฉะนั้นเผ่าปีศาจจึงมีระบบการปกครองที่คล้ายคลึงกับเผ่ามนุษย์  หากแต่แตกต่างเนื่องด้วยมีด้วยกันถึงสี่ชนชั้น อันได้แก่



    ชนชั้นปกครองซึ่งก็คือ  ลอฟทาย์ร   อดีตเผ่าทูตสวรรค์ ผู้หลงใหลในพลังของศาสตร์ด้านมืดที่เหล่าปีศาจครอบครอง จึงหันเหออกจากเผ่าเดิม ละทิ้งพลังที่มีมาแต่กำเนิดแล้วแปรเปลี่ยนต้นกำเนิดนั้นเป็นธาตุปรปักษ์หรือธาตุแห่งความมืดเข้าแทนที่  เนื่องด้วยพลังและความสามารถที่เหนือกว่า ประกอบกับความเที่ยงธรรม อ่อนน้อมที่มี ลอฟทาย์ร จึงได้รับการยอมรับและยกย่องจนถึงขั้นราชวงศ์   ออลอฟ  ซาโทเรียล   ได้รับการแต่งตั้งเป็นถึงผู้นำโดยเหล่าปีศาจด้วยความต้องการผู้ปกครองที่เข้มแข็งไม่แพ้เผ่าอื่น  



    เนื่องด้วยเดิมทีนั้น  ลอฟทาย์ร มาจากเผ่าทูตสวรรค์ ฉะนั้นเลยจึงมีรูปลักษณ์ตามแต่สายเลือดเดิม ซึ่งมีลักษณะเหมือนกับมนุษย์ทุกประการ หากแต่มีความงดงามในดวงพักตร์ ดวงเนตร ที่โดดเด่นกว่า  โดยเฉพาะผู้ที่สืบเชื้อเครือของราชวงศ์  ราชวงศ์นี้มีความพิเศษอย่างประหลาดอยู่ที่ทายาทของราชวงศ์ล้วนแล้วเกิดเป็นชายทั้งสิ้น   จึงถือได้ว่าไม่แปลกเลยหากเชื้อสายของราชวงศ์จะเป็นที่พึงใจของสตรีทั่วทุกนาง จนในบางครั้งถึงกับถูกขอหมั่นหมายตั้งแต่ยังอยู่ในครรภ์เสียด้วยซ้ำ  แต่ก็มีเฉพาะลอฟทาย์รเท่านั้นที่สามารถกระทำเช่นนี้ได้  คงเป็นเพราะความสามารถในเรื่องของสายเลือดที่มีได้ขัดกับทัศนคติของคนส่วนใหญ่ที่ยังยึดติดกับสายเลือดเดิม จนปรารถนาให้ลูกหลานมีสายเลือดเช่นเดียวกันกับตน



    สิ่งที่ลอฟทาย์ร แตกต่างจากเผ่าเดิมนั้นคือสัญลักษณ์ประจำเผ่าที่แปรเปลี่ยนเป็นรอยสักสีดำ ซึ่งจะปรากฏตามบริเวณซอกคอหรือหน้าผาก และที่สำคัญยิ่งกว่านั้นคือ หากผู้ที่มีสายเลือดของลอฟทาย์ร อยู่กึ่งหนึ่ง มีอายุครบสิบแปดปีบริบูรณ์เมื่อใด สายเลือดภายในซึ่งแต่เดิมเป็นเลือดผสมจะทำการเปลี่ยนเป็นสายเลือดของลอฟทาย์ร อย่างบริสุทธิ์และจะสามารถใช้พลังเปลี่ยนร่างของตน เพื่อเพิ่มพลังในการต่อสู้ได้ในชั่วขณะดั่งเช่นลอฟทาย์รผู้มีเลือดบริสุทธิ์โดยแต่กำเนิด



    ปีศาจชั้นสูง ชนชั้นรองลงมาจากชนชั้นปกครอง  เนื่องด้วยความสามารถในด้านต่างๆที่เหนือกว่าอีกสองชนชั้นในเผ่าของตน ปีศาจชั้นสูงจึงได้รับมอบหมายในหน้าที่ที่สำคัญและตำแหน่งหน้าที่ไม่ด้อยไปกว่าลอฟทาย์ร สำหรับรูปลักษณ์ของเหล่าปีศาจชนชั้นนี้ก็มีความคล้ายคลึงเฉกเช่นเหล่ามนุษย์  หากแต่มีลักษณะของเล็บมือ เล็บเท้าที่ยาวแหลมกว่า  และนัยน์ตาที่แดงก่ำดุจดั่งสีเลือด ซึ่งถือว่าเป็นเอกลักษณ์โดยเฉพาะสำหรับชนชั้นนี้



    ชนชั้นที่สาม ปีศาจชั้นกลาง แม้ว่าจะมีลักษณะและรูปร่างไม่ได้อยู่บนพื้นฐานของความเป็นมนุษย์  แต่ก็สามารถแปลงร่างเสมือนดั่งมนุษย์ได้ ซึ่งระยะเวลาในการแปลงร่างนั้นจะขึ้นอยู่กับการฝึกฝน



    และชนชั้นสุดท้ายของเผ่าปีศาจนั่นคือ ปีศาจชั้นต่ำหรือมอสเตอร์  เป็นกลุ่มเพียงหนึ่งเดียวเท่านั้นที่แยกออกจากเผ่าของตนมาอยู่อาศัยตามสถานที่ต่างๆเสมือนดั่งสัตว์ป่า  ฉะนั้นจึงมีลักษณะอุปนิสัยเป็นนายของตนเอง ไม่ขึ้นแก่ใคร  และไม่ต้องการความช่วยเหลือหากต้องสูญเสียอิสรภาพที่มีอยู่ไป ถึงแม้ว่าจะต้องตายไปก็ตาม



    เผ่าทูตสวรรค์     ชนเผ่าผู้ใช้เวทแห่งการรักษาจากธาตุแสง  เดิมทีเผ่าพันธุ์นี้นั้นมีประชากรทั้งชายและหญิงดั่งเช่นเผ่าพันธุ์อื่น  แต่เมื่อลอฟทาย์รหรือเหล่าผู้ที่แยกจากไปเป็นฝ่ายชาย ซึ่งเป็นส่วนน้อยของเผ่าโดยทั้งหมด  จึงเหลือแต่เพียงฝ่ายหญิง ผู้ยังคงมีจิตใจที่มั่นคงไม่สั่นคลอน  จากเหตุการณ์ในครั้งนั้น  ฝ่ายหญิงจึงทำการปิดกั้น ตั้งกฎห้ามร่วมอยู่อาศัยกับเผ่าอื่นอย่างเด็ดขาด  ดั้งนั้นเหล่าเลือดผสมที่กำเนิดขึ้นจากผู้ฝ่าฝืนจึงถูกกีดกันออกจากเผ่า ไม่มีแม้แต่โอกาสที่จะได้พบกับผู้ที่ให้กำเนิดตนหรือสิทธิใดๆก็ตาม



    เนื่องจากประชากรที่เป็นหญิง และยังคงความต้องการให้สายเลือดบริสุทธิ์สืบเรื่อยไป  ฉะนั้นจึงสืบทายาทโดยการทำพิธีขอพรจากเซคาลอส ให้ดวงวิญญาณที่ยังคงล่องลอยลงมาจุติแก่หญิงสาวผู้มีความพร้อมอย่างสมบูรณ์แล้วถือกำเนิดเป็นหญิงดั่งที่ต้องการ  เหล่าสายเลือดบริสุทธิ์เหล่านี้เมื่อเติบโตย่างเข้าสู่วัยสาว สัญลักษณ์สีเงินซึ่งอยู่บริเวณแผ่นหลังจะแปรเปลี่ยนเป็นปีกขาวบางใส  สำหรับเลือดผสมนั้นจะมีเพียงสัญลักษณ์สีเงินและเวทมนต์ตามสายเลือดแต่เท่านั้น



    เผ่าเอลฟ์     ชนเผ่าผู้ใช้เวทย์มนต์อันเป็นธาตุพื้นฐานของธาตุแสง และเช่นเดียวกันหากพัฒนาฝึกฝนให้ดี ก็จะสามารถใช้เวทมนต์จากธาตุความมืด ดวงดาว  และกาลเวลา มนต์ระดับสูงได้  ซึ่งถือว่าเป็นเรื่องที่ไม่ยากเย็นนักสำหรับชาวเอลฟ์ผู้ฉลาดเฉลียวและฝักใฝ่ในศาสตร์แห่งเวทมนต์



    และอีกเช่นกันที่ชาวเอลฟ์นั้นมีรูปลักษณ์เช่นเดียวกับชาวมนุษย์  แต่ด้วยสายเลือดที่แตกต่าง จึงส่งผลให้ชาวเอลฟ์มีใบหูที่ยาวแหลมกว่า อีกทั้งนัยน์ตาสีเขียวเจือทอง รวมไปถึงความสูงซึ่งมีขีดจำกัดอยู่ที่ 155 เซนติเมตร  และช่วงอายุที่ยืนยาวกว่าหลายร้อยปี จนกระทั่งที่อยู่อาศัย ซึ่งตั้งอยู่ในป่าลึกบนเทือกเขาที่สูงเสียดฟ้ายากแก่การเข้าถึง



    ชนเผ่าเอลฟ์มีกฎที่เข้มงวดเป็นอย่างมาก และหนึ่งในนั้นมีกฎข้อหนึ่งที่ได้กำหนดไว้ว่าผู้ที่มีจิตผูกพันธ์กับคนภายในเผ่า และผู้สืบสายเลือดของเผ่าต้องอาศัยอยู่ร่วมกับเผ่าแต่เพียงเท่านั้น ห้ามมิให้ออกจากเผ่าอย่างเด็ดขาด  ถือได้ว่าเป็นการตัดปัญหาในเรื่องการผสมปนเปของสายเลือดที่ชาญฉลาดจนน่ายกย่อง อีกทั้งยังไม่เป็นการผิดศีลธรรมอันดีงาม  เหตุนี้เองชาวเอลฟ์จึงเป็นชนเผ่าที่น่าคบค้าสมาคมมากกว่าเผ่าใดๆเป็นที่สุด



        ดินแดนบนเซคาลอส แบ่งออกเป็น 6  ทวีป  มีเพียง 2 ทวีปเท่านั้นที่ทั้งสี่เผ่าไม่สามารถยึดถือเป็นกรรมสิทธิ์ได้  อันได้แก่ ทวีปโอเรียท และทะเลทรายคอลรัน  ฉะนั้นจึงได้ถือว่าทุกเผ่ามีสิทธิอย่างเท่าเทียมในการอาศัยบนทวีปสองแห่งนี้  สำหรับดินแดนที่เผ่าพันธุ์ทั้งสี่ต่างได้กรรมสิทธิ์ในการครอบครองเผ่าละ 1 ทวีป  นั้นได้แก่  ทวีปเทลฟาเรีย  ทวีปซินโทเวียล  ทวีปซีนอร์ท  และเซาท์ออเดน เรียงการครอบครองโดยเผ่ามนุษย์ ปีศาจ ทูตสวรรค์ และเอลฟ์ ตามลำดับ



        จากที่ได้กล่าวมานั้นเป็นเพียงรายละเอียดเริ่มต้นที่ควรศึกษาเรียนรู้ที่หลายๆท่านอาจทราบดีกันอยู่  แต่อย่างไรก็ตามโปรดพึงระลึกไว้ว่า ตำนานแต่โบราณที่จะกล่าวถึงต่อไปนี้เป็นเรื่องที่ได้เกิดขึ้นจริง ซึ่งต้องใช้เวลารวบรวมนานนับชั่วชีวิตของผู้คนหลายยุคหลายสมัยนับจากอดีต  เนื่องจากไม่พบหลักฐานที่สมบูรณ์แน่ชัดนัก  เนื้อหาของเนื้อเรื่องในบางช่วงจึงเป็นสิ่งที่ผู้คนในยุคสมัยที่เหตุการณ์เกิดขึ้นได้สันนิฐานว่าตามหลักแห่งการทำนายทายทัก ศาสตร์โบราณเก่าแก่อันค่อนข้างจะมีความแม่นยำนัก  ต่อแต่นี้ไปสำหรับผู้ที่มีโอกาสได้อยู่ในช่วงยุคสมัยที่การตัดสินมาถึงจุดสิ้นสุด  โปรดพึงระวังตั้งสติไว้ในจิตสำนึกอยู่เสมอว่าอย่าได้ชักพาให้ประวัติศาสตร์อันโหดร้ายดั่งอดีตหวนคืนกลับสู่แผ่นดินอันสงบสุขให้เกิดขึ้นเป็นคราต่อไป...





                                                             พลิกผันตำนานเทพ



        ในขณะที่ทุกชีวิตอาศัยอยู่อย่างสงบสุขบนดวงดาวแห่งนี้  ไม่มีใครคาดคิดเลยว่าในอนาคตอันใกล้นี้จะมีเหตุการณ์ที่ไม่คาดฝันเกิดขึ้น  เมื่อสิ่งที่เหล่าเทพต่างหวาดหวั่นเกิดเป็นจริงขึ้นมาอย่างเงียบเชียบ  โดยที่เหล่าเทพไม่ล่วงรู้เลยแม้แต่น้อย...



    จนกระทั้งเวลาล่วงเลยมาถึงหนึ่งพันปีแรกที่เซคาลอสได้ถือกำเนิดขึ้น  ความบิดผันนั้นก่อตัวใหญ่ขึ้นมากกว่าเดิมพร้อมทั้งพลังอันมากมายมหาศาล  เมื่อเรื่องนี้ล่วงรู้ไปถึง สี่เผ่าพันธุ์ผู้เป็นใหญ่  ความโกลาหลวุ่นวายจึงตามมาอย่างรวดเร็วพร้อมทั้งความระส่ำระส่ายที่เกิดขึ้นไปทั่วทั้งแผ่นดิน  เป็นเหตุให้เหล่าเทพต้องจัดการเรื่องนี้โดยเร็ว เพื่อความปลอดภัย มั่นคงของทุกชีวิตและเซคาลอส



    การปะทะระหว่างเหล่าเทพกับความบิดผันได้เกิดขึ้นในไม่ช้า  เป็นการต่อสู้ที่รุนแรง ทรงพลังและยาวนานที่สุดเท่าที่เคยมีมา  และผลสุดท้ายของการต่อสู้ก็เป็นไปตามที่หวัง  ทันทีที่ความบิดผันนั้นดับสูญ  สี่เผ่าพันธุ์รวมถึงสรรพสัตว์ทุกสิ่งต่างร่วมยินดี  งานเลี้ยงเฉลิมฉลองอันยิ่งใหญ่ถูกจัดขึ้นไปทั่วทั้งผืนแผ่นดิน  โดยหารู้ไม่ว่าฝันร้ายที่แท้จริงเพิ่งจะเริ่มต้นเท่านั้น...



    เมื่อความบิดผันใช้พลังอันสุดหยั่งที่มีอยู่สาปมหาเทพทั้งสองก่อนที่จะสิ้นสูญไป  คำสาปนั้นได้รวมร่างของทั้งสองให้เป็นหนึ่งก่อกำเนิดเป็นคนใหม่  ผู้ซึ่งเป็นอมตะไม่สามารถดับสูญได้ดั่งที่ใจปรารถนา  มีนามว่า  อาร์คีน แล้วหลบซ่อนจิตที่ยังคงเหลืออยู่ไว้ภายในจิตเบื้องลึกของอาร์คีน  รอคอยแต่เวลาที่จะได้ครอบครองร่างอันทรงพลังไร้ผู้ต้านทานนี้อย่างสมบูรณ์ แต่แล้วแผนการนี้กลับไม่ราบรื่นดั่งที่คิด เมื่ออาร์คีนล่วงรู้ถึงความเป็นไปและได้ขัดขวางโดยขอความร่วมมือจากเหล่าเทพ  ทำการผนึกตนเองให้หลับใหลไปชั่วนิรันดร์ โดยที่ผนึกทั้งห้านั้นถูกเก็บรักษาไว้ยังสถานที่ปลอดภัย



    แต่ทว่าเรื่องทุกอย่างกลับไม่จบลงที่การผนึกในครั้งนั้น  เนื่องด้วยจุดมุ่งหมายของความบิดผันนั้นไม่ได้มีเพียงสิ่งเดียว  กระแสเชี่ยวกรากของความรู้สึก ความโศกเศร้า  หวาดกลัว  สิ้นหวัง โกรธ  เกลียด  คลั่งแค้น และความรู้สึกทางด้านลบทั้งหมดที่เก็บสั่งสมไว้ปะทุออกมาอย่างปราศจากการควบคุม  สาปสางให้ผู้ที่ถือกำเนิดในวันเวลาเช่นเดียวกับอาร์คีน มีชะตากรรมอันน่าสังเวชดั่งที่ความบิดผันนั้นต้องการ...



    เมื่อผู้ต้องสาปแต่ละคนล้วนแล้วได้รับผนึกของอาร์คีนดุจดั่งของประจำกาย เหล่านักทำนายจึงสามารถคาดการณ์ได้โดยทันทีว่าผู้ที่มีชะตากรรมเป็นผู้ต้องสาปมีอยู่เพียงห้าคนตามผนึกที่มีอยู่เท่านั้น  ซึ่งเป็นรายละเอียดของผู้ต้องสาปเพียงสิ่งเดียวที่สามารถไขออกมาได้จากปริศนาทั้งหมด ถึงแม้ว่าจะพยายามอย่างเต็มที่แล้วก็ตาม



    หลังจากเหตุการณ์ในครั้งนั้นอีกสามร้อยปีถัดมา  ผู้ต้องสาปคนที่สองและสามได้ถือกำเนิดขึ้นมาจากความว่างเปล่า  บ้างก็กล่าวว่าหมู่บ้านที่เป็นเมืองเกิดของฝาแฝดคู่นี้ได้ถูกทำลายลงจากภัยธรรมชาติครั้งใหญ่  ฝาแฝดทั้งสองเป็นเพียงทารกที่เหมือนกับทารกธรรมดาโดยทั่วไป แต่กลับถูกทอดทิ้ง  ไม่มีผู้ใดเหลียวแล  ต่างหลีกหนีเพียงเพราะหวาดกลัวในคำสาปและพลังอันมหาศาลที่ซุกซ่อนอยู่



    เมื่อธาตุแห่งแสงสว่างและความมืดซึ่งไร้เทพควบคุมอยู่นั้นเกิดปฏิกิริยากับทารกทั้งสอง  เหล่าเทพทั้งสิบองค์จึงทำการทดสอบทารกทั้งสอง จนกระทั่งมั่นใจในความเหมาะสม  แต่เนื่องด้วยพลังที่ตรึงความสมดุลของทั้งสองธาตุใกล้จะหมดลง  จึงไม่เป็นการดีหากรอเวลาให้ทารกทั้งสองเติบโตตามธรรมชาติซึ่งอาจไม่ทันการณ์  เทพโครนอสจึงใช้เวทมนต์ข้ามกาลเวลาให้ทารกทั้งสองเติบใหญ่ในบัดดล แล้วเหล่าเทพจึงขนานนามทารกผู้พี่ผู้รับหน้าที่ควบคุมธาตุแสงว่า    ควาโทล   และทารกผู้น้องผู้ควบคุมธาตุความมืดนั้นว่า    คาซาท



    ต่อมาในยุคเทอร์บิท (เป็นเวลาหกพันปีที่เซคาลอสได้ถือกำเนิดขึ้น)

    ผู้ต้องคำสาปคนที่สี่เกิดมาในเผ่าปีศาจชนชั้นลอฟทาย์ร มีนามว่า   เกรกอเลียน   ประวัติและภูมิหลังไม่ชัดเจนนัก มีหลักฐานแต่เพียงว่า เขาเป็นต้นเหตุแห่งสงครามครั้งใหญ่ระหว่างเผ่ามนุษย์กับเผ่าปีศาจ  ในเวลาต่อมาอีกไม่นานฝ่ายมนุษย์ก็ได้รับการสนับสนุนจากเผ่าทูตสวรรค์  ในขณะที่เผ่าปีศาจได้เผ่าเอลฟ์เข้าช่วยเหลือ  



    ผลท้ายที่สุดของการประหัดประหารหันคมหอกคมดาบเข้าใส่กัน ก็คงเหลือแต่ความสูญเสีย  ความโศกเศร้า  ไม่มีฝ่ายใดเป็นผู้ชนะ  ทุกฝ่ายต่างก็เป็นผู้แพ้ด้วยกันทั้งสิ้น  และยังส่งผลให้เผ่ามนุษย์กับเผ่าปีศาจไม่สามารถรักษาสัมพันธ์อันดีที่เคยมีมากลับคืนดั่งเดิมได้ แม้กระทั่งใบหน้าก็ไม่สามารถเพ่งพิศได้อย่างสนิทใจอีกต่อไป  สำหรับเผ่าเอลฟ์และเผ่าทูตสวรรค์ต่างกลับสู่สังคมของตนโดยปฏิญาณว่าจะไม่ข้องเกี่ยวกับสงครามใดๆ  ในขณะที่บุคคลผู้มีนามว่าเกรกอเลียนนั้นได้หายสาบสูญไป ไม่มีใครพบเห็นเขาอีกเลย...



    อีกเพียงหกร้อยกว่าปีเท่านั้นจึงจะถึงยุคมืดของช่วงเวลา  เป็นเรื่องที่น่าเสียดายนักที่ไม่มีโอกาสอยู่ถึงช่วงเวลานั้นรวมไปถึงการตัดสินตามที่ตำนานแต่โบราณได้กล่าวไว้  เมื่อถึงเวลาที่ผู้ต้องสาปอีกสองคนสุดท้ายได้ตื่นมาแบกรับชะตากรรมที่มีอยู่  เวลานั้นดาวดวงนี้คงจะเข้าถึงสู่ความสงบสุขได้สักที  หวังว่าบทเรียนแห่งการรบราฆ่าฟันที่ผู้ต้องคำสาปคนที่สี่ได้ฝากไว้ คงเป็นอุทาหรณ์สอนใจแก่เผ่าพันธุ์ทั้งหลาย  และสุดท้ายนี้ก็หวังว่าในช่วงเวลาที่สำคัญนั้น เหล่าลูกหลานของผู้คนในยุคนี้คงมีจิตใจที่กล้าแข็งพร้อมที่จะร่วมเผชิญกับต้นตอแห่งความชั่วร้ายแต่อดีต มากกว่าที่อยู่เป็นเช่นในตอนนี้  



              จงเข้มแข็งในความดีงามที่มีอยู่  พวกเราจะเฝ้ามองพวกเจ้าจากฟากฟ้าสีครามอันเป็นนิจนิรันดร์



                                                                                                                                           Rune Chosept  

                                                                                                                                               1224 6TB 030






                                                                   ---------------------------------------------------

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×